Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312359
ทั่วไป:14086966
ทั้งหมด:14399325
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - พิษณุโลก อยากมีรถไฟฟ้ากะเขา
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

พิษณุโลก อยากมีรถไฟฟ้ากะเขา
Goto page Previous  1, 2
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45047
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2019 10:16 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ด รฟม. ไฟเขียวกฎหมายสร้างรถไฟฟ้าพิษณุโลก

...ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.62 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ รฟม มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลก พ.ศ. .... หลังจากนี้ รฟม. จะเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามลำดับ เพื่อให้ รฟม. มีอำนาจดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าในจ.พิษณุโลกอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

...สำหรับ จ.พิษณุโลก ได้มีการศึกษาว่า ควรดำเนินการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนประเภทรถรางล้อยาง (Auto Tram) ก่อน เริ่มต้นจากเส้นทางสายสีแดง ช่วงมหาวิทยาลียพิษณุโลก-หมู่บ้าน ระยะทาง 12.6 กม. มี 15สถานี วงเงินลงทุน 762.29 ล้านบาท

https://www.thebangkokinsight.com/98674/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45047
Location: NECTEC

PostPosted: 18/02/2020 7:41 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.ไฟเขียว​รฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในพิษณุโลกได้
อังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563

น.ส.ไตรศุลี​ ไตรสรณกุล​ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ แถลงผลการประชุม​ ครม.ว่า​ ที่ประชุม​ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ รฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลก

ครม.เห็นชอบ รฟม.สร้างรถไฟฟ้า”พิษณุโลก”เล็งเปิดPPP วงเงิน 3.6พันล.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 20:45



น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 18 ก.พ. มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลก

ทั้งนี้ตามนโยบายการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงกับเมืองหลักในภูมิภาคและแก้ไขปัญหาจราจรจากเมืองหลักในภูมิภาคสู่ปริมณฑล และกรุงเทพฯด้วยระบบขนส่งมวลชน ดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ใน6 เมือง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา นครราชสีมา ขอนแก่นและพิษณุโลก

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ได้ว่าจ้าง ม.นเรศวร ศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก โดยสรุปผลศึกษาระยะที่ 1 เส้นทางสายสีแดง(ม.พิษณุโลก-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก) เป็นเส้นทางที่ควรพัฒนาก่อน เป็นระบบขนส่งรูปแบบ “รถรางล้อยาง” หรือ Auto Tram ระยะทาง 12.6 กม.จำนวน 15 สถานี

โดยใช้การร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP- Net Cost โดยรัฐลงทุนค่าเวนคืน ค่าก่อสร้างงานโยธา และระบบรถไฟฟ้า ส่วนเอกชนลงทุนจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าและพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งมูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ 3,440 ล้านบาท โดยคาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุนได้ในเดือนก.ย. 2565 – ต.ค. 2566 และเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569 โดยคาดว่าปริมาณผู้โดยสารตามแผนระยะที่ 1 มีผู้โดยสารประมาณ 5,700 คน-เที่ยววัน ในปีที่เปิดให้บริการและเพิ่มเป็น 13,700 คน-เที่ยว/วัน ในปี 2574

ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ของโครงการ พบว่า กรณีมีรถไฟความเร็วสูง มูลค่าปัจจุบัน (NPV) เท่ากับ 399.55 ล้านบาท และอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) เท่ากับ 13.01%

ส่วนกรณีไม่มีรถไฟความเร็วสูง มูลค่าปัจจุบัน (NPV) เท่ากับ – 968.67 ล้านบาท และอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) เท่ากับ 8.56 %
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45047
Location: NECTEC

PostPosted: 19/02/2020 10:36 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ครม.ไฟเขียว​รฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในพิษณุโลกได้
อังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563
ครม.เห็นชอบ รฟม.สร้างรถไฟฟ้า”พิษณุโลก”เล็งเปิดPPP วงเงิน 3.6พันล.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 20:45


เมืองสองแควเฮ! ครม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้า ตอกเข็มปี’66 “ศักดิ์สยาม” ลัดฟ้าเกาหลี ‪MOC ทางด่วนใต้ดิน
‬อสังหาริมทรัพย์ : พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 - 21:15 น.

เมืองสองแควเฮ! ครม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้า ตอกเข็มปี’66 “ศักดิ์สยาม” ลัดฟ้าเกาหลี ‪MOC ทางด่วนใต้ดิน‬

ครม.เคาะรฟม.สร้าง “แทรมพิษณุโลก” วางไทม์ไลน์ เปิดประมูล ก.ย. 65 ตอกเข็ม ต.ค. 66 คาดผู้โดยสารปีแรก 5.7พันคน/วัน “ศักดิ์สยาม” เตรียมลัดฟ้าไปเกาหลีใต้ MOC ร่วมมือขนส่งทางถนน-ดูงานแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ก.พ.2563 เห็นชอบร่างพ.ร.ฎ.กำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่…) พ.ศ… เพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจ.พิษณุโลก โดยก่อนหน้านี้ครม.ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการในจ.นครราชสีมา เชียงใหม่ พังงา-ภูเก็ต ไปแล้ว


หลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดจ้างจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงาน PPP ซึ่งคาดว่าจะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ม.ค.2563 – ก.ย. 2564 ส่วนการขอขออนุมัติดำเนินการในช่วง พ.ค. 2564 – มี.ค. 2565 จะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ประมาณ ก.ย.2565 – ต.ค.2566 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ ต.ค.2566

โดย รฟม.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวรศึกษาความเหมาะสมของโครงการ จนได้ข้อสรุปว่าให้ดำเนินการโครงการในลักษณะ รถรางล้อยาง (Auto Tram) ในสายสีแดง ช่วงม.พิษณุโลก – เซ็นทรัลพิษณุโลก ระยะทาง 12.6 กม. 15 สถานี วงเงิน 3,340 ล้านบาท

มีรูปแบบการลงทุนคือ ให้เอกชนร่วมลงทุนด้านการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ส่วนรัฐลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและระบบรถไฟฟ้า มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 13.01% คาดการณ์ผู้โดยสารปีแรกที่เปิดให้บริการ 5,700 คน/เที่ยว/วัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 13,700 คน/เที่ยว/วัน ในปี 2574

“ไทม์ไลน์หลังจากนี้ คาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ในช่วงก.ย.2565 – ต.ค.2566 เริ่มก่อสร้างในปี 2566 และจะไปแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569”

น.ส.ไตรสุลี กล่าวต่อว่า ในวันท่ี ‪20 -23 ก.พ.นี้‬ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ เพื่อลงนามร่วมกับในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation: MOC) ด้านการขนส่งทางถนนกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งแห่งเกาหลีใต้

ในประเด็นการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ, ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ, ทางด่วนใต้ดิน, การพัฒนาจุดพักรถ และการพัฒนามอเตอร์เวย์ รูปแบบความร่วมมือเป็นไปในแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ การวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ เป็นต้น โดยในโอกาสนี้ จะไปเยี่ยมชมการทดสอบการรับแรงกระแทกของแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45047
Location: NECTEC

PostPosted: 25/06/2020 10:54 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้า"พิษณุโลก"มาแล้ว ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้ดำเนินการได้
หน้าอสังหาริมทรัพย์
พุธที่ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 10:49 น.
ราชกิจจาฯ ประกาศ พ.ร.ฎ.ให้ รฟม.สร้างรถไฟฟ้าใน "พิษณุโลก"
25 มิถุนายน 2563 เวลา 09:09

ประกาศพระราชกฤษฎีกา ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินกิจการรถไฟฟ้าที่จังหวัดพิษณุโลกได้แล้ว


เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัด ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 มีเนื้อหาว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้ๆ ให้ประกาศว่า



โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลกได้
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 7() แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าๆ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้



มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563"

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (5) ของมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า พ.ศ.2562

"(5) จังหวัดพิษณุโลก"



หมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 7() แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 บัญญัติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยมีวัตถุประสงค์ ในการดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดอื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา สมควรกำหนดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลกได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดง (ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก – เซ็นทรัลพลาซ่า) เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงเมืองหลักในภูมิภาค และแก้ไขปัญหาจราจรจากเมืองหลักในภูมิภาคสู่ปริมณฑลและกรุงเทพมหานคร ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก

เบื้องต้น ได้มีการเสนอโครงการเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ประกอบด้วย 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 80.5 กิโลเมตร ระยะที่ 2 ประกอบด้วยส่วนต่อขยายเส้นทางเดิม 3 เส้นทาง และเส้นทางใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 30.1 กิโลเมตร

ผลการศึกษาได้เสนอให้ดำเนินการตามแผนระยะที่ 1 เส้นทางสายสีแดง (มหาวิทยาลัยพิษณุโลก – ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก) มีระยะทาง 12.6 กม.จำนวน 15 สถานี เงินลงทุน 1,666.78 เป็นเส้นทางที่สมควรดำเนินการเป็นลำดับแรก โดยมีรายชื่อต่อไปนี้

1. มหาวิทยาลัยพิษณุโลก - Depot along with Park and ride
2. สถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 2
3. สี่แยกอินโดจีน
4. แมคโคร
5. หมู่บ้านชินลาภ
6. เทสโก้โลตัส
7. แยกเรือนแพ
8. สถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 1
9. เทคนิคพาณิชย์การพิษณุโลก
10. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร (วัดใหญ่)
11. ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
12. วัดคูหาสวรรค์
13 แยกบ้านคลอง
14. ราชภัฏพิษณุโลก (AKA ราชภัฏทะเลแก้ว)
15. ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก (AKA หมู่บ้านพิษณุโลกเมืองใหม่) - Park and ride

รูปแบบโครงสร้างเป็นระดับพื้นดิน ส่วนรถไฟฟ้าจะเป็นระบบออโต้แทรมหรือรถรางล้อยาง ตามแผนจะเสนอขออนุมัติรูปแบบการลงทุนในเดือน พ.ค.2564 คัดเลือกเอกชนในเดือน ก.ย.2565 ก่อสร้างเดือน ต.ค.2566 เปิดบริการเดือน ธ.ค.2569

แนวเส้นทางเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ผ่านสถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 2 แนวเส้นทางมุ่งไปทางทิศเหนือตามแนวทางหลวงหมายเลข 126 ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 12 ที่สี่แยกอินโดจีน จากนั้นแนวเส้นทางมุ่งไปยังทิศตะวันตกตามแนวทางหลวงหมายเลข 12 และสิ้นสุดแนวเส้นทางที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก

ผ่านสถานที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส หมู่บ้านชินลาภ สถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 1 เทคนิคพาณิชย์การพิษณุโลก ห้างสรรพสินค้าท้อปแลนด์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก วัดคูหาสวรรค์ หมู่บ้านพิษณุโลกเมืองใหม่ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีมติคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการโครงการต่อไป

นี่ครับ => พระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัด ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563
https://www.facebook.com/Thfutu/photos/a.105677750798573/294929341873412/?type=3&theater


พระราชกฤษฎีกา ประกาศแล้วให้ “รฟม.” สร้างรถไฟฟ้า จ.พิษณุโลก
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 24 มิถุนายน 2563 - 13:00 น.

Click on the image for full size
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2563 ราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกา กำหนดจังหวัดให้กับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563

โดยประกาศให้ รฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลกได้ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 7 (1) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543
00:53Ad
2

ก่อนหน้านี้นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ รฟม.เริ่มดำเนินโครงการทั้งศึกษา ออกแบบรายละเอียดและรูปแบบการลงทุน PPP รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดงช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก-เซ็นทรัลพิษณุโลก มีระยะทาง 12.6 กม.จำนวน 15 สถานี เงินลงทุน 1,666.78 ล้านบาท

รูปแบบโครงสร้างเป็นระดับพื้นดิน ส่วนรถไฟฟ้าจะเป็นระบบออโต้แทรมหรือรถรางล้อยาง ตามแผนจะเสนอขออนุมัติรูปแบบการลงทุนในเดือน พ.ค.2564 คัดเลือกเอกชนในเดือน ก.ย.2565 ก่อสร้างเดือน ต.ค.2566 เปิดบริการเดือน ธ.ค.2569

แนวเส้นทางเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ผ่านสถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 2 แนวเส้นทางมุ่งไปทางทิศเหนือตามแนวทางหลวงหมายเลข 126 ไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 12 ที่สี่แยกอินโดจีน จากนั้นแนวเส้นทางมุ่งไปยังทิศตะวันตกตามแนวทางหลวงหมายเลข 12 และสิ้นสุดแนวเส้นทางที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก

ผ่านสถานที่สำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส หมู่บ้านชินลาภ สถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งที่ 1 เทคนิคพาณิชย์การพิษณุโลก ห้างสรรพสินค้าท้อปแลนด์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก วัดคูหาสวรรค์ หมู่บ้านพิษณุโลกเมืองใหม่ เป็นต้น
https://www.isranews.org/isranews-news/85721-gov_85721.html
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48700
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/11/2022 7:52 am    Post subject: Reply with quote

รฟม.เปิด 4 โปรเจครางภูมิภาค ลุยตอกเสาเข็มปี 67 รับเมืองขยายตัว
กรุงเทพธุรกิจ 13 พ.ย. 2565 เวลา 6:09 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเตรียมทุ่มงบกว่า 5 หมื่นล้านบาท เดินหน้า 4 โครงการระบบขนส่งทางรางในภูมิภาครับการขยายตัวของเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ตั้งเป้าทยอยตอกเสาเข็มภายในปี 2567

ในปลายปีนี้พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีโครงข่ายระบบรางเชื่อมต่อการเดินทางเปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้ารางเบา (โมโนเรล) สายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ซึ่งจะส่งผลให้โครงข่ายระบบรางในหัวเมืองหลักอย่างกรุงเทพฯ สมบูรณ์แบบมากขึ้น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมเดินหน้าขยายโครงข่ายระบบรางไปยังหัวเมืองภูมิภาคต่างๆ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ผลักดันการขยายตัวของเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยตามเป้าหมายขณะนี้มี 4 โครงการลงทุนที่อยู่ระหว่างศึกษา ในวงเงินลงทุนรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต

ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง

วงเงินลงทุน 35,201 ล้านบาท

ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร 21 สถานี

สถานะปัจจุบัน : อยู่ระหว่างการศึกษา/ออกแบบระบบที่เหมาะสม

แผนดำเนินงาน เบื้องต้นจะมีการนำเสนอโครงการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ พ.ศ.2562 ภายในเดือน พ.ค.- เม.ย.2567 คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในเดือน พ.ค.2567-มิ.ย.2568 ก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้งระบบรถไฟฟ้าและงานเดินรถ ในเดือน ก.ค.2568-พ.ย.2570 และเปิดให้บริการภายในเดือน ธ.ค.2570 เพื่อให้ทันการจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ตอยู่ระหว่างการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ


โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา (สายสีเขียว)

ช่วงตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์

วงเงินลงทุน 2,300 ล้านบาท

ระยะทาง 11.15 กิโลเมตร 21 สถานี

สถานะปัจจุบัน : อยู่ระหว่างการศึกษา/ออกแบบระบบที่เหมาะสม

แผนดำเนินงาน เบื้องต้นคาดว่าโครงการจะเริ่มงานก่อสร้างในปี 2568 และเปิดให้บริการได้ในปี 2571 โดยจากการวิเคราะห์ด้านวิศวกรรมและจราจรด้านการลงทุนและผลตอบแทนและด้านสิ่งแวดล้อม และเปิดรับฟังข้อคิดเห็นจากชาวโคราช พบว่าระบบรถโดยสารไฟฟ้าประจำทางด่วนพิเศษ เป็นระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่เหมาะสมมากที่สุด

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ (สายสีแดง)

ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี

วงเงินลงทุน 10,024 ล้านบาท

ระยะทาง 15.8 กิโลเมตร 16 สถานี

สถานะปัจจุบัน : อยู่ระหว่างการศึกษา/ออกแบบระบบที่เหมาะสม

แผนดำเนินงาน เบื้องต้นคาดว่าการจัดทำรายงานศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น รายงานรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานศึกษารูปแบบการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (PPP) จะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2565 หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนพิจารณารูปแบบการลงทุนงานระบบรถไฟฟ้าและเดินรถ ก่อนเสนอโครงการไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในช่วงเดือน ม.ค.2567 และเริ่มคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในเดือน ส.ค.2567 โดยมีกำหนดเริ่มงานก่อสร้างในเดือน ก.ย.2568 แล้วเสร็จเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.2571

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก (สายสีแดง)

ช่วงมหาวิทยาลัยพิษณุโลก – ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก

วงเงินลงทุน 3,440 ล้านบาท

ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร 15 สถานี

สถานะปัจจุบัน : อยู่ระหว่างการศึกษา/ออกแบบระบบที่เหมาะสม

แผนดำเนินงาน เบื้องต้นคาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุนได้ในเดือน ก.ย. 2565-ต.ค. 2566 และเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2567 คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2569 โดยคาดว่าปริมาณผู้โดยสารตามแผนระยะที่ 1 มีผู้โดยสารประมาณ 5,700 คน-เที่ยววัน ในปีที่เปิดให้บริการ และเพิ่มเป็น 13,700 คน-เที่ยวต่อวันในปี 2574


รฟม.ทบทวนรถไฟฟ้าในภูมิภาค 4 จังหวัด
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Thursday, November 17, 2022 05:03

รื้อแบบ "ภูเก็ต" โละ "แทรม" ล้อเหล็กเซฟค่าลงทุน ชูโมเดล ART หรือ E-BRT ชง "คมนาคม" ชี้ชะตา

แผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองภูมิภาค โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Trams) ใน 4 จังหวัด ได้แก่ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลก ซึ่งเป็นหัวเมืองหลักที่มีจำนวนประชากรและนักท่องเที่ยว หนาแน่น ทำให้มีปัญหาจราจรติดขัด รถไฟฟ้าจึงเป็นขนส่งสาธารณะแห่งความหวังที่จะช่วยรองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้น เหมือนในกรุงเทพฯ แต่นับจากปี 2563 ที่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การศึกษา "รถไฟฟ้ารางเบาในภูมิภาค" ต้องหยุดชะงัก พร้อมกับด้านนโยบายมีแนวคิดปรับรูปแบบใหม่ เพื่อลดค่าลงทุนและหวังให้ค่าโดยสารต่ำที่สุด...

จุดเปลี่ยน! รื้อแบบแปลงร่าง "แทรม" ภูเก็ตจาก "ล้อเหล็ก" เป็น "ล้อยาง"

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ภาครัฐและเอกชนพยายามผลักดันโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit หรือ Tramway) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรมากว่า 10 ปีแล้ว "แทรมล้อเหล็ก" เป็นระบบขนส่งมวลชนที่คนภูเก็ตให้การสนับสนุน และหวังช่วย ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัด ซึ่งเดิมสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไว้ จากนั้นได้มอบหมายให้ รฟม.รับผิดชอบโครงการโดยดำเนินการ ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี โดยจะดำเนินการระยะที่ 1 ช่วง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม. เริ่มก่อสร้างปี 2563 และเปิดให้บริการในปี 2567

แต่!!!แผนต้องมาสะดุด และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโครงการเมื่อ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้ รฟม.ศึกษาปรับปรุงรูปแบบโครงการใหม่เพื่อลดต้นทุนค่าก่อสร้างลง ซึ่งกระทรวงคมนาคม รายงานว่า ยังมีเทคโนโลยีอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่าระบบแทรมล้อเหล็ก เช่น ระบบแทรมขับเคลื่อนด้วยล้อยาง (ART) หรือ ระบบรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT)โดยใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เป็นต้น

"ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนในพื้นที่ ที่ยังต้องการ แทรมป์ล้อเหล็ก และเกรงว่าโครงการจะยิ่งล่าช้าออกไป"
รฟม.ควักงบ 55 ล้านบาท จ้างรีวิว-ปรับแบบ ชี้ชะตา "ระบบขนส่งภูเก็ต" อีกรอบ

"ภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ" ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระบุว่า รฟม.ตั้งงบประมาณ 55.8 ล้านบาท เพื่อจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสม ปรับปรุงแบบ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง และส่วนต่อขยายไปท่าฉัตรไชย

โดยเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 รฟม.ได้ลงนามสัญญาจ้าง สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด เป็นที่ปรึกษาวงเงิน 55 ล้านบาท เพื่อศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการ (Feasibility Study Review) โดยเปรียบเทียบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่ เหมาะสม คาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร เทคนิค ราคา สิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและการเงิน แผนการเดินรถ ฯลฯใช้ระยะเวลาดำเนินงานศึกษา 6 เดือน

"ศักดิ์สยาม" ให้โจทย์เพิ่ม ศึกษารูปแบบ EV-BRT เปรียบเทียบต้นทุน

ล่าสุด "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ว่า รฟม.อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนโครงการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและปรับลดวงเงินการลงทุนให้ได้มากที่สุด และทำให้โครงการเกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจากการศึกษาเดิมจะก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้าล้อเหล็ก หรือ แทรม ต่อมาปรับเป็นระบบแทรมขับเคลื่อนด้วยล้อยาง (ART) ปัจจุบันตนได้มอบนโยบายให้ รฟม.ศึกษารูปแบบที่ 3 เพิ่มเติม คือระบบรถเมล์ใช้พลังงานไฟฟ้า หรือ EV-BRT เปรียบเทียบด้วย ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่

ทั้งนี้หากเป็นรถเมล์ไฟฟ้า รูปแบบการให้บริการจะเป็นการจัดช่องทางเดินรถเฉพาะ บนถนนของกรมทางหลวง (ทล.) โดยมีรั้วหรือแบริเออร์กั้นช่องจราจรจากรถยนต์อื่นๆ รวมถึงมีระบบเครื่องกั้นอัตโนมัติในการบริหารความปลอดภัย โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม และอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ร่วมพิจารณาความเป็นไปได้ของรูปแบบดังกล่าว

การลงทุน EV-BRT ไม่สูงมาก ดังนั้นจะส่งผลไปถึงการกำหนดอัตราค่าโดยสารจะไม่แพงไปด้วย อีกทั้งยังสามารถ ผลักดันเพื่อเริ่มให้บริการเฟสแรกได้เร็ว โดยเห็นว่าการลงทุน น่าจะเป็นรูปแบบเดียวกับ รถโดยสารใน กทม. ที่ให้เอกชนเข้ามาร่วมเดินรถกับกรมการขนส่งทางบก โดยเป็นรถโดยสารไฟฟ้า (EV Bus) โดยกรมการขนส่งทางบก ให้สัมปทานและกำกับดูแล ส่วนเอกชนจะลงทุนทั้งการจัดหารถการบริหารจัดการ รวมไปถึงควบคุมระบบเครื่องกั้นและสัญญาณจราจร

ขีดเส้น รฟม.สรุป ในพ.ย. เตรียมลง "ภูเก็ต"

ศักดิ์สยามระบุว่า "ขณะนี้รูปแบบยังไม่สรุป ดังนั้นยังเป็นไปได้ทั้งรถ EV-BRT หรือ ระบบ ART ซึ่ง ART ก็เป็นไปได้ทั้งแบบ วิ่งบนถนนโดยแบ่งช่องจราจร และมีการควบคุมจราจร หรือ เป็น ART เต็มรูปแบบ คือมีทางยกระดับหรืออุโมงค์ บริเวณจุดตัด/ทางแยก ตรงนี้ต้องมาดูค่าลงทุนและค่าโดยสารที่เหมาะสมในแต่ละรูปแบบ ซึ่งผมให้เวลาสรุปเรื่องนี้ภายในสิ้นเดือน พ.ย. นี้ เพราะผมต้องการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อผลักดันเป็นโครงการนำร่อง และจะทำให้ระบบขนส่งมวลชนในอีกหลายจังหวัดใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาได้"

แต่หากจะมีการพัฒนาเป็นระบบ ART เต็มรูปแบบ ซึ่งจะต้องก่อสร้างทางยกระดับหรืออุโมงค์ ในช่วงที่เส้นทางตัดกับถนน เห็นว่าควรให้การพัฒนาโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่- เกาะแก้ว-กระทู้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางเพราะในช่วงที่มีการก่อสร้างจะมีปัญหาจราจรอย่างแน่นอน

"ผลศึกษาระบบ ART แม้ค่าลงทุนจะลดลงจากแทรมล้อเหล็ก แต่ก็ยังมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งจะเก็บค่าโดยสาร 50 บาท เปรียบเทียบกับ EV Bus ในกทม. ค่าโดยสารเริ่มต้น 10 บาท และราคาเหมา 40 บาท นั่งได้ไม่จำกัดตลอดวัน ผมเห็นว่า ที่ภูเก็ตหากสามารถปรับเป็น EV Bus ได้ก็น่าจะเหมาะสม"
ตามผลศึกษา รฟม.ก่อนหน้านี้ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลองระยะทาง 42 กม. เปรียบเทียบกรอบวงเงินลงทุนของ 3 รูปแบบได้แก่

1. รถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ล้อเหล็ก วงเงินรวม 35,201 ล้านบาทประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่างานโยธา 24,774 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น2,921 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่า ที่ปรึกษา 1,065 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,428 ล้านบาท คาดจำนวนผู้โดยสารประมาณ 39,000 คนต่อวัน ทำให้ผลตอบแทนการลงทุน EIRR ต่ำมาก

2. รถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ล้อยาง วงเงินรวม 33,600 ล้านบาทประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,499 ล้านบาท ค่างานโยธา 22,339 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,514 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น 3,955 ล้านบาท (3 คัน/ขบวน มี 22 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 990 ล้านบาทค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 1,363 ล้านบาท

3. รถโดยสารประจำทางอัจฉริยะ (ART) วงเงินรวม 17,754 ล้านบาทประกอบด้วย ค่าเวนคืน 1,447 ล้านบาท ค่างานโยธา 10,861 ล้านบาท ค่าระบบรถไฟฟ้า 3,000 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถเริ่มต้น1,236 ล้านบาท (มี 44 ขบวน) ค่าที่ปรึกษา 518 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 692 ล้านบาท

เชียงใหม่ สายสีแดง ศึกษาใหม่ พบรถไฟฟ้าล้อยางวิ่งระดับดินคุ้มค่า

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 15.8 กม. และ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านนารีสวัสดิ์) ระยะทาง 11.15 กม. อยู่ระหว่างที่ปรึกษาศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการดำเนินงานและทางเลือกระบบเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่เหมาะสม โดยมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และอยู่ในขั้นตอนการสรุปผลการศึกษา รายงานผลต่อกระทรวงคมนาคมภายปลายปี 2565

สำหรับรถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง มีแนวเส้นทางรูปแบบผสมระหว่างใต้ดินและระดับดินนั้น มีมูลค่าการลงทุนสูง ส่งผลให้รายได้จากการเดินรถไม่เพียงพอต่อค่าเดินรถและบำรุงรักษาประกอบกับกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ รฟม. ศึกษาและพิจารณาแนวทางการใช้รถไฟฟ้าล้อยาง

การศึกษา 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. ระบบรถไฟฟ้าล้อเหล็ก (Steel Wheel Tram) แนวเส้นทางผสมใต้ดินและระดับดิน วิ่งบนรางในเขตทางเฉพาะตลอดสาย 2. ระบบรถไฟฟ้าล้อเหล็ก (Steel Wheel Tram) ระดับดินตลอดแนวเส้นทาง และ 3. ระบบรถไฟฟ้าล้อยาง (Tire Tram) ระดับดินตลอดแนวเส้นทาง

เปรียบเทียบด้านวิศวกรรมและจราจร (ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีความเหมาะสมทางกายภาพของระบบต่อสภาพพื้นที่ของเขตเมืองเชียงใหม่ ศักยภาพในการรองรับปริมาณ ผู้โดยสาร ระยะเวลาในการก่อสร้าง) ด้านการลงทุนและผลตอบแทน (ค่าลงทุน ค่าบำรุงรักษาและดำเนินการ ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รายได้ค่าโดยสารและรายได้อื่นของโครงการ) และด้านสิ่งแวดล้อม (ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระยะก่อสร้าง ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในระยะดำเนินการ)

พบว่ารูปแบบที่ 3 ระบบรถไฟฟ้าล้อยางที่มีรูปแบบทางวิ่งระดับดินตลอดแนวเส้นทาง มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากลดต้นทุนโครงการ ลดผลกระทบการเวนคืนที่ดิน และผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมในช่วงก่อสร้าง ใช้เวลาก่อสร้างไม่นาน

โคราช สายสีเขียวฯ เหมาะกับรูปแบบ E-BRT หรือ รถโดยสารไฟฟ้า

สำหรับจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียวฯ การศึกษาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า 3 ระบบ ได้แก่ 1. Steel Wheel Tram รถไฟฟ้ารางเบาหรือรถราง โดยใช้ระบบล้อเลื่อน (Rolling Stock) 2. Tire Tram รถรางชนิดใช้ล้อยาง ที่มีระบบติดตั้งอุปกรณ์รางประคอง (Guided Light Transit) หรือระบบรางเสมือน (Track Less) และ 3. E-BRT (Electric Bus Rapid Transit) รถโดยสารไฟฟ้าประจำทางด่วนพิเศษ ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ไม่มีราง

โดยเปรียบเทียบทั้ง 3 ระบบ ในมิติที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านวิศวกรรมและจราจร (ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี, ความ เหมาะสมทางกายภาพของระบบต่อสภาพพื้นที่ของเขตเมืองนครราชสีมา, ศักยภาพในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร, ระยะเวลาในการก่อสร้าง) ด้านการลงทุนและผลตอบแทน (ค่าลงทุน, ค่าบำรุงรักษาและดำเนินการ, ค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, รายได้ค่าโดยสารและรายได้อื่นของโครงการ) และด้านผล กระทบสิ่งแวดล้อมในระยะก่อสร้างและในระยะดำเนินการ พบว่าระบบ E-BRT เหมาะสมที่สุด รองลงมาคือระบบ Tire Tram และระบบ Steel Wheel Tram ตามลำดับ

ขณะที่อัตราค่าโดยสาร เริ่มต้น 10 บาท และคิดอัตราตามจำนวนสถานีแบบขั้นบันได สถานที่ 1-8 (14 บาท) สถานีที่ 9-16 (18 บาท ), มากกว่า 18 สถานี (22 บาท)

"พิษณุโลก" ครม.เห็นชอบเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ยังนิ่งสนิท

ส่วนระบบขนส่งสาธารณะ จังหวัดพิษณุโลก นั้นหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2563 มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดจังหวัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้ รฟม.ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ซึ่งตามผลศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบขนส่งสาธารณะเมืองพิษณุโลก ที่สนข.ทำไว้ ระยะที่ 1 สายสีแดง (ม.พิษณุโลก-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก) ระยะทาง 12.6 กม.จำนวน 15 สถานีโดยเป็นระบบขนส่งรูปแบบ "รถรางล้อยาง" หรือ Auto Tram

ลงทุนในรูปแบบ PPP-Net Cost โดยรัฐลงทุนค่าเวนคืน ค่าก่อสร้างงานโยธา และระบบรถไฟฟ้า ส่วนเอกชนลงทุนจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าและพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งมูลค่าการลงทุนโครงการประมาณ3,440 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) เท่ากับ 13.01%

แผนเดิม จะประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุนในเดือน ก.ย. 2565-ต.ค. 2566 และเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี2569 โดยคาดว่าปริมาณผู้โดยสารตามแผนระยะที่ 1 มีผู้โดยสารประมาณ 5,700 คน-เที่ยววัน ในปีที่เปิดให้บริการ และเพิ่มเป็น 13,700 คน-เที่ยว/วัน ในปี 2574

การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเมืองหลักในภูมิภาค เป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาจราจร สร้างงาน สร้างโอกาสด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว แต่เพราะรถไฟฟ้าลงทุนสูง มีผลตอบแทนต่ำ เอกชนอาจไม่สนใจลงทุน ท้ายสุดรัฐบาลต้องเข้าไปอุดหนุนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง รวมไปถึงต้องมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มทั้งผลตอบแทนการลงทุนและปริมาณ ผู้โดยสารได้อีกทาง...แต่โจทย์ใหญ่ของ รฟม.ตอนนี้ คือต้องหาโมเดลระบบเทคโนโลยีที่มีความคุ้มค่าและเหมาะสม ตามนโยบาย "รมว.คมนาคม" ให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นคงต้องเสียเวลา...รื้อ รีวิว ทบทวนการศึกษากันอีก!!!.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 17 พ.ย. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48700
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/07/2025 7:21 am    Post subject: Reply with quote

เช็กสถานะรถไฟฟ้าภูธร4จังหวัด
Source - เดลินิวส์
Thursday, July 03, 2025 04:43

8ปีรฟม.ศึกษาวนไปเรื่อยๆ รัฐบาล-คมนาคมยังไม่ดัน

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานสถานะโครงการระบบขนส่งมวลชน ในภูมิภาคใน 4 จังหวัด ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกอบด้วย จ.ภูเก็ต, เชียงใหม่, นครราชสีมา และจ.พิษณุโลก ที่ผลักดันมาตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ตั้งแต่ปี 2560 ผ่านการศึกษาเสร็จเรียบร้อย โดยมีแผนก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2563-2565 จนถึงปัจจุบันเลื่อนแผนก่อสร้างไปแล้วทั้งหมด หากจะก่อสร้างได้จริงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งยังไม่ได้ผลักดันจริงจัง แต่โครงการเดินหน้าด้วยการศึกษา ประกอบด้วย

1.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะ (เฟส) ที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 41.7 กม. รอให้การก่อสร้างโครงการขยายถนนทางหลวงหมายเลข 402 และ 4027 ของกรมทางหลวง (ทล.) แล้วเสร็จก่อน ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เพื่อใช้เป็นทางเลี่ยงในช่วงที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า เพราะหากสร้างพร้อมกันทั้งถนน และรถไฟฟ้า จะยิ่งทำให้ปัญหาการจราจรในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะ ทล.402 ติดขัดมากขึ้น กระทบการเดินทางของประชาชน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2571 รูปแบบเป็นรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ล้อเหล็ก จากแผนเดิมที่ รฟม.ประกาศแทรมภูเก็ตให้เป็นรถไฟฟ้าสายแรกในต่างจังหวัดจะเริ่มก่อสร้างปี 2563 แล้วเสร็จปี 2567

2.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดงช่วงโรงพยาบาล นครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทาง 15.7 กม. รฟม. อยู่ระหว่างจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) สำหรับจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดโครงการฯ (ศึกษาใหม่)ตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ครั้งล่าสุดที่ให้ รฟม.จัดทำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมต่อเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้ระยะทางเพิ่มขึ้น 5 กม. และสถานีเพิ่มขึ้น 3 สถานีจากเดิม 16 สถานี ก่อนเสนอขออนุมัติโครงการตามขั้นตอนต่อไป

3.โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทาง 11.15 กม. รฟม. อยู่ระหว่างจัดทำร่าง TOR สำหรับจัดจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม และออกแบบ รายละเอียดโครงการฯ (ศึกษาใหม่) ตามมติ คจร. โดยปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางจากสายสีเขียว เป็นสายสีส้ม ช่วงโรงพยาบาลเทพรัตน์-สถานีร่วมจอหอ ระยะทาง 18.9 กม. ตามข้อเสนอประชาชน เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ จ.นครราชสีมา เส้นทางนี้ผ่านเขตชุมชน สถานศึกษา โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า มีประชากรหนาแน่น และการจราจรติดขัด ช่วยลดปัญหาการจราจรในเขตเมืองได้ดีกว่า

ทั้ง 2 โครงการฯ จะศึกษาเสร็จ ปี 2569 สู่ขั้นตอนการขออนุมัติโครงการฯ และประกวดราคา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณปี 2570-2571 ใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี แต่เชียงใหม่จะใช้เวลาก่อสร้างนานกว่านี้ เนื่องจากมีบางช่วงเป็นใต้ดิน รูปแบบรถไฟฟ้าที่ใช้สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแทรมล้อเหล็ก จากแผนเดิม 2 โครงการนี้จะก่อสร้างปี 2565 เปิดบริการปี 2570 4. โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดง (มหาวิทยาลัยพิษณุโลก-เซ็นทรัลพลาซ่า) ระยะทาง 12.6 กม. รฟม. อยู่ระหว่างศึกษาความ เหมาะสมฯ แล้วเสร็จปี 2569 ควบคู่ไปกับการประสานติดตามข้อมูลโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) สายกรุงเทพฯเชียงใหม่ ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารขึ้นอยู่กับการเปิดใช้สถานีรถไฟไฮสปีดที่ จ.พิษณุโลกด้วย ทั้งนี้รูปแบบรถไฟฟ้าเป็นแทรม ล้อยาง ยังไม่มีแผนก่อสร้าง จากแผนเดิมจะก่อสร้างปี 2566 เปิดบริการปี 2569.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ก.ค. 2568 (กรอบบ่าย)


Status of Electric Train Projects in 4 Provinces

Source: Daily News (Dailynews Newspaper, July 4, 2025 afternoon edition)
Date: Thursday, July 3, 2025, 04:43 PM

Summary: For 8 years, the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA) has been continuously studying electric train projects in 4 provinces, but the government and Ministry of Transport have not pushed them forward.

"Daily News Transport Innovation News Team" reported on the status of mass transit projects in 4 provinces by the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA): Phuket, Chiang Mai, Nakhon Ratchasima, and Phitsanulok. These projects have been promoted since the National Council for Peace and Order (NCPO) era in 2017 and have completed their studies. Construction was planned from 2020-2022, but has been postponed multiple times. Actual construction depends on the policies of the government and the Ministry of Transport, which have not yet seriously pushed these projects. However, the projects are proceeding with studies, including:

1. Phuket Mass Transit Project, Phase 1 (Phuket Airport - Ha Yaek Chalong section), length 41.7 km.
* Construction is awaiting the completion of the Department of Highways' (DoH) expansion project for Highway No. 402 and 4027, as per the policy of Deputy Prime Minister and Minister of Transport, Mr. Suriya Jungrungreangkit. This is to provide an alternative route during the electric train construction, as simultaneous construction of both the road and the electric train would exacerbate traffic problems, especially on Highway 402, affecting public travel.
* Construction is expected to begin in 2028.
* The format will be a light rail (tram) with steel wheels.
* The original plan announced by MRTA for the Phuket tram, intended to be the first electric train line outside Bangkok, was to start construction in 2020 and be completed in 2024.

2. Chiang Mai Mass Transit Project, Red Line (Nakornping Hospital - Mae Hia Saman Samakkee Intersection section), length 15.7 km.
* MRTA is currently preparing the Terms of Reference (TOR) for hiring consultants to conduct a feasibility study and detailed design for the project (new study). This is in accordance with the latest resolution of the Land Traffic Management Commission (LTMC), which requested MRTA to provide additional detailed information to connect to important tourist attractions.
* This will increase the length by 5 km and add 3 stations (from the original 16 stations) before submitting the project for approval.
* Both the Chiang Mai and Nakhon Ratchasima projects (below) are expected to complete their studies in 2026, leading to project approval and bidding processes.
* Construction is anticipated to begin around 2027-2028 and take 2-3 years, but Chiang Mai will take longer due to some underground sections.
* The electric train format for Chiang Mai will be a steel-wheeled tram.
* The original plan for these two projects was to start construction in 2022 and open for service in 2027.

3. Nakhon Ratchasima Mass Transit Project, Green Line (Save One Market - Ban Naree Sawat Protection and Career Development Center section), length 11.15 km.
* MRTA is currently preparing the TOR for hiring consultants to conduct a feasibility study and detailed design for the project (new study), as per the LTMC resolution.
* The route has been changed from the Green Line to the Orange Line, running from Theprat Hospital to Jor Hor Joint Station, with a length of 18.9 km. This change is based on proposals from the public, private sector, and relevant agencies in Nakhon Ratchasima Province. This route passes through densely populated community areas, educational institutions, hospitals, and department stores with heavy traffic, which will better help reduce urban traffic problems.
* Both the Chiang Mai and Nakhon Ratchasima projects (above) are expected to complete their studies in 2026, leading to project approval and bidding processes.
* Construction is anticipated to begin around 2027-2028 and take 2-3 years.
* The original plan for these two projects was to start construction in 2022 and open for service in 2027.

4. Phitsanulok Mass Transit Project, Red Line (Phitsanulok University - Central Plaza section), length 12.6 km.
* MRTA is currently conducting a feasibility study, expected to be completed in 2026.
* This is being done in conjunction with monitoring information on the Bangkok-Chiang Mai High-Speed Rail Project, Phase 1 (Bangkok-Phitsanulok), as passenger volume depends on the opening of the high-speed rail station in Phitsanulok.
* The electric train format will be a rubber-wheeled tram.
* There are no current construction plans. The original plan was to start construction in 2023 and open for service in 2026.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45047
Location: NECTEC

PostPosted: 07/07/2025 12:01 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เช็กสถานะรถไฟฟ้าภูธร4จังหวัด
Source - เดลินิวส์
Thursday, July 03, 2025 04:43

8ปีรฟม.ศึกษาวนไปเรื่อยๆ รัฐบาล-คมนาคมยังไม่ดัน

ลิงก์มาแล้วครับ
8 ปีที่ก่อกำเนิดเช็กสถานะล่าสุดรถไฟฟ้าภูธร4จังหวัด
*ยังไม่สร้างสักสาย/ รฟม.จ้างศึกษาวนลูปไปเรื่อยๆ
*รัฐบาล+คมนาคมไม่เลิก-แต่ไม่ผลักดัน“ขายฝันต่อ”
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1267714744805757
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2
Page 2 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©