Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180269
ทั้งหมด:13491503
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 244, 245, 246 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 31/08/2019 8:43 pm    Post subject: Reply with quote

พายุโพดุลถล่มโคราชทางลอดรถไฟทางคู่กลายเป็นคลองรถวิ่งผ่านไม่ได้
โพสต์ทูเดย์ วันที่ 30 ส.ค. 2562 เวลา 20:00 น.

Click on the image for full size

นครราชสีมา-ทางลอดรถไฟทางคู่กลายเป็นคลองเจอพายุโพดุลถล่มชาวบ้านชี้การก่อสร้างขวางทางน้ำรถผ่านไปไม่ได้พังแล้วหลายคันเพราะระดับการแจ้งเตือนก็ไม่ตรงกับระดับน้ำจริง

อิทธิพายุโซนร้อนโพดุล ส่งผลให้ฝนตกหนักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ที่อุโมงค์ทางลอดใต้รางรถไฟทางคู่ บ้านโนนมะเกลือ ตำบลดอนใหญ่ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้เพราะมีปริมาณน้ำไหลลงอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง และมีน้ำขังอยู่ภายในอุโมงค์เครื่องสูบน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทันกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้า

นายศักดิ์ชัย ด้วงไพร ชาวบ้านโนนมะเกลือเปิดเผยว่า เดิมชาวบ้านไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมขังมาก่อนในพื้นที่ แต่หลังจากสร้างทางลอดแล้วเสร็จปรากฏว่าทางลอดได้ไปขวางทางน้ำเดิมทำให้น้ำเปลี่ยนเส้นทางเข้าท่วมหมู่บ้าน ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปหลายครั้งแต่ปรากฏว่าเรื่องก็เงียบหาย ซึ่งไม่เพียงแต่พายุทำให้ฝนตกหนักในครั้งนี้เท่านั้นที่ก่อให้เกิดเหตุน้ำท่วมหมู่บ้าน แม้ฝนตกในระดับปกติก็ท่วมเช่นกันเนื่องจากน้ำไม่มีเส้นทางในการระบาย

ส่วนปัญหาน้ำท่วมขังในทางลอดนั้นแม้เครื่องสูบน้ำจะทำงานแต่ก็ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากทางลอดอยู่ในระดับต่ำจึงทำให้น้ำไหลลาดลงไปได้โดยง่ายกว่าเครื่องสูบน้ำจะสามารถสูบออกได้หมดก็ใช้เวลาจนค่อนวันหรือถ้าตกหนักก็ใช้เวลาตลอดทั้งวันจนชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ส่วนระดับการแจ้งเตือนก็ไม่ตรงกับระดับน้ำจริงที่ผ่านมามีรถลงไปจอดเสียในทางลอดแล้วหลายสิบคันเนื่องจากเชื่อป้ายเตือนว่าถ้าระดับน้ำไม่ถึงขีดแดงสามารถใช้งานทางลอดได้แต่ปรากฏว่าเมื่อลงไปใช้งานจริงๆระดับน้ำกลับสูงเกินกว่าระดับแจ้งเตือน.

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 02/09/2019 1:45 pm    Post subject: Reply with quote

ความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1
Italian-Thai Development Public Company Limited "ITD"Like Page
30 สิงหาคม 2562 เวลา 4:32 PM ·
ความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร ในส่วนของงานก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ (Elevated Railway) ที่ก่อสร้างข้ามผ่าน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ระยะทางประมาณ 4.8 กิโลเมตร
ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการในส่วนของโครงสร้างส่วนบน
1. งานยกติดตั้งชิ้นส่วน Segmental Box Girder แล้วเสร็จสะสมจำนวน 31/95 Span
2. งานก่อสร้างด้วยวิธี Balanced cantilever method แล้วเสร็จสะสม 2/31 Span


การก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา (สระบุรี) - ชุมทางถนนจิระ (นครราชสีมา) ในช่วง "มวกเหล็ก" มีความจำเป็นต้องสร้างทางยกระดับสูง เนื่องจาก ที่ตั้งมวกเหล็กนั้นอยู่ใน "หุบเขาแอ่งกะทะ" จึงต้องสร้างและตัดเส้นทางใหม่ รวมถึงสร้างสถานีแห่งใหม่ เป็นแบบลอยฟ้า โดยที่ตั้งสถานีรถไฟมวกเหล็ก จะอยู่บริเวณใกล้ที่ตั้ง "โรงเรียนนายเรืออากาศ" แห่งใหม่ ที่จะเปิดในอีกราว 1-2 ปีข้างหน้า และสถานีแห่งใหม่ จะเป็นที่รองรับ การขนส่งทางราง ในการเดินทางที่สะดวกสบาย ของ นักเรียน ข้าราชการ และครอบครัว กว่า 2000 คน ที่จะไปอยู่เป็น สมาชิก ชาวอำเภอมวกเหล็ก
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 02/09/2019 3:22 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดทางประธานขึ้นช่วงย่านสถานีบ้านแฮด จ.ขอนแก่น ให้ใช้ทางล่องร่วมกันไปพลางก่อน ระหว่างนำหินเสริมทางดินที่ทรุดคาดเสร็จ5โมงเย็นวันนี้

31ส.ค.62 เวลา 11.30 น. พื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีฝนตกกระจายเป็นบางสถานี เจ้าหน้าที่ของฝ่ายการช่างโยธาเขตพื้นที่บ้านไผ่ พบทางประธานขึ้น ในย่านสถานีรถไฟบ้านแฮด หลักกิโลเมตรที่ 424/2-3 ด้านเหนือของสถานีทางทรุด ปิดทางประธานขี้น ในย่านสถานีรถไฟบ้านแฮดตั้งแต่เวลา10.35น. ให้ขบวนรถขึ้นเดินในทางประธานล่อง ในย่านสถานีรถไฟบ้านแฮด การแก้ไขดินทรุด ใช้รถแบ็คโฮ นำหินเสริมทาง ระยะเวลาดำเนินแก้ไขแล้วเสร็จโดยประมาณ 17.00 น. ของวันนี้ครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2491439784236285&set=a.1782760508437553&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/09/2019 3:54 pm    Post subject: Reply with quote

“คมนาคม” เร่งศึกษาลดใช้พลังงานรถไฟทางคู่ นำร่อง “จิระ-ขอนแก่น” และ “ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย”
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 3 September 2019 - 11:36 น.

Click on the image for full size

นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สนข.ได้เล็งเห็นศักยภาพในการลดใช้พลังงานจากโครงการรถไฟทางคู่ เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายในการลดใช้พลังงานภาคขนส่งภายในปี 2579 ลง 30%

ทั้งนี้การขนส่งด้วยระบบรางช่วยลดการก่อมลพิษจากรถบรรทุกถึง 70% ต่อตันกิโลเมตร จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการติดตามประเมิน (Tracking) การใช้พลังงานที่ลดได้จากการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

Click on the image for full size

เพื่อวิเคราะห์แนวทางและจัดทำแนวทางการติดตามประเมิน Tracking การใช้พลังงานที่ลดได้จากโครงการรถไฟทางคู่ จัดทำข้อมูลฐาน (Baseline Data) ในการคำนวณปริมาณการลดการใช้พลังงานของโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ทั้ง 7 เส้นทาง และจัดทำระบบฐานข้อมูลในการติดตามประเมินการลดการใช้พลังงานจากการใช้รถไฟทางคู่

รวมถึงการสร้างตัวชี้วัดประกอบการประเมินมาตรการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558-2579 (EEP2015) ที่มีค่าเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งเท่ากับ 30,213 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (Ktoe) ในปี2579

โดย สนข.ได้คัดเลือกโครงการรถไฟทางคู่ที่มีการก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ คือ ช่วงจิระ-ขอนแก่น และช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นโครงการนำร่อง เพื่อประเมินการใช้พลังงานก่อนและหลังเปิดให้บริการและดำเนินการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification: MRV) การลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจก ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 16 เดือน ระหว่างเดือนกรกฏาคม 2562-ตุลาคม 2563

Click on the image for full size

เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินนโยบายตามมาตรการด้านการส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืน และมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ภาคขนส่งตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 (EEP2015) ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ตามแผนปฏิบัติการลดก๊าชเรือนกระจกของประเทศ ปี 2564-2573 สาขาคมนาคมขนส่ง รวมทั้งสามารถตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (MRV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันมาตรการกีดกันทางการค้า

สำหรับผลการศึกษาเมื่อจัดทำสำเร็จแล้วจะเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้ภาครัฐนำไปกำหนดนโยบายภาคการขนส่งทางรางในระยะยาว คาดว่าหากมีการดำเนินโครงการตามแผนคาดว่าจะมีศักยภาพในการลดการใช้พลังงานประมาณ 4,922 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ ในปี 2579
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2019 3:26 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“คมนาคม” เร่งศึกษาลดใช้พลังงานรถไฟทางคู่ นำร่อง “จิระ-ขอนแก่น” และ “ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย”
ประชาชาติธุรกิจ วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 11:36 น.


สนข.ดันแผนขนส่งใช้รถไฟทางคู่ เซฟพลังงานลง 30% ในปี 79
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 12:25
ปรับปรุง: วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 12:51




สนข.ศึกษาการลดใช้พลังงานจากรถไฟทางคู่ในการขนส่ง ตั้งเป้า 30% ภายในปี 2579 เล็งทำแผนเสนอภาครัฐนำไปกำหนดนโยบายภาคการขนส่งทางรางในระยะยาว

นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ( สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่โครงการ ครั้งที่ 1 “โครงการศึกษาแนวทางการติดตามประเมิน (Tracking) การใช้พลังงานที่ลดได้จากการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่” เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในการลดใช้พลังงานจากโคงการรถไฟทางคู่เพื่อตอบสนองต่อค่าเป้าหมายในการลดใช้พลังงานภาคขนส่งภายในปี 2579 ลง 30%

ทั้งนี้ การขนส่งด้วยระบบรางช่วยลดการก่อมลพิษจากรถบรรทุกถึง 70% ต่อตันกิโลเมตร จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาแนวทางการติดตามประเมิน (Tracking) การใช้พลังงานที่ลดได้จากการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

เพื่อวิเคราะห์และจัดทำแนวทางการติดตามประเมินTracking การใช้พลังงานที่ลดได้จากโครงการรถไฟทางคู่ จัดทำข้อมูลฐาน (Baseline Data) ในการคำนวณปริมาณการลดการใช้พลังงานของโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ทั้ง 7 เส้นทาง และจัดทำระบบฐานข้อมูลในการติดตามประเมินการลดการใช้พลังงานจากการใช้รถไฟทางคู่

รวมถึงสร้างตัวชี้วัดประกอบการประเมินมาตรการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 (EEP2015) ที่มีค่าเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งเท่ากับ 30,213 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (Ktoe) ในปี พ.ศ. 2579

สนข.ได้คัดเลือกโครงการรถไฟทางคู่ที่มีการก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ คือ ช่วงจิระ-ขอนแก่น และช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เป็นโครงการนำร่อง เพื่อประเมินการใช้พลังงานก่อนและหลังเปิดให้บริการและดำเนินการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting

and Verification : MRV) การลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจก

ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 16 เดือน ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2562-ตุลาคม 2563 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินนโยบายตามมาตรการด้านการส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืน และมาตรการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งตามแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 (EEP2015) ได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ตามแผนปฏิบัติการลดก๊าชเรือนกระจกของประเทศปี 2564-2573 สาขาคมนาคมขนส่ง รวมทั้งสามารถตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (MRV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันมาตรการกีดกันทางการค้า

สำหรับผลการศึกษาเมื่อจัดทำสำเร็จแล้วจะเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้ภาครัฐนำไปกำหนดนโยบายภาคการขนส่งทางรางในระยะยาว คาดว่าหากมีการดำเนินโครงการตามแผนคาดว่าจะมีศักยภาพในการลดการใช้พลังงานประมาณ 4,922 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือ Ktoe ในปี 2579
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/09/2019 11:17 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
“คมนาคม” เร่งศึกษาลดใช้พลังงานรถไฟทางคู่ นำร่อง “จิระ-ขอนแก่น” และ “ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย”
ประชาชาติธุรกิจ วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 11:36 น.


สนข.ดันแผนขนส่งใช้รถไฟทางคู่ เซฟพลังงานลง 30% ในปี 79
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 12:25
ปรับปรุง: วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 12:51


สนข. คิกออฟแผนลดพลังงานรถไฟทางคู่
ข่าวเศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 16.02 น.
รถไฟทางคู่7สายลดใช้พลังงาน4,922 พัน
ข่าวเศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 17.33 น.


สนข. ฟังเสียงประชาชนครั้งแรกติดตามประเมิน การใช้พลังงานที่ลดได้จากรถไฟทางคู่ระยะแรก 7 สาย 993 กม. คาดช่วยลดพลังงาน 4,922 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ ในปี 79



เมื่อวันที่ 3 ก.ย.62 ที่โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาเพื่อเผยแพร่โครงการครั้งที่ 1 โครงการศึกษาแนวทางการติดตามประเมิน (Tracking) การใช้พลังงานที่ลดได้จากการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่

นายอธิภู เปิดเผยว่า สนข. ได้ดำเนินโครงการศึกษาดังกล่าว เนื่องจากได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน งบประมาณ 20 ล้านบาท ศึกษา 16 เดือน เริ่ม ก.ค.62-ต.ค.63 เพื่อวิเคราะห์แนวทางติดตามประเมิน จัดทำข้อมูลฐานคำนวณปริมาณการลดการใช้พลังงานของโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ทั้ง 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กม. ได้แก่ ช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น, ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ, ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ, ช่วงนครปฐม-หัวหิน, ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โดยเปิดให้บริการครบทั้งหมดปี 65 รวมทั้งจัดทำระบบฐานข้อมูลติดตามประเมินการลดการใช้พลังงานการใช้รถไฟทางคู่ สร้างตัวชี้วัดประกอบการประเมินมาตรการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่งตามแผนอนุรักษ์พลังงาน ปี 58-79 (EEP2015) ที่มีค่าเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่งเท่ากับ 30,213 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (Ktoe) ในปี 79



นายอธิภู กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้คัดเลือกโครงการรถไฟทางคู่ที่ก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ในปี 62 จำนวน 2 สาย 293 กม. คือ ช่วงจิระ-ขอนแก่น 187 กม. และช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. เป็นโครงการนำร่อง เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูลจำนวนการใช้บริการของผู้โดยสาร และขนส่งสินค้า รวมทั้งปรับเปลี่ยนรถบรรทุกมาขนส่งทางราง เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง จากนั้นนำมาประเมินการใช้พลังงานก่อนและหลังเปิดให้บริการ ดำเนินการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (Measurement, Reporting and Verification: MRV) การลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจก ทั้งนี้หากดำเนินโครงการตามแผนคาดว่ามีศักยภาพลดการใช้พลังงาน โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ทั้ง 7 เส้นทาง ประมาณ 4,922 ktoe ในปี 79

นายอธิภู กล่าวอีกว่า อนาคตจะนำฐานขอข้อมูลติดตามประเมินผลลดการใช้พลังงานขยายผลไปปรับใช้กับโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 2 อีก 7 สาย ระยะทาง 1,483 กม. อาทิ ช่วงเด่นชัย-ปากน้ำโพ และ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ที่เปิดบริการครบทั้งหมดปี 70 และรถไฟสายใหม่ ระยะแรก 2 สาย 681 กม. เช่น ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และ รถไฟสายใหม่ระยะถัดไป 12 สาย 2,419 กม. อาทิ ช่วงนครสวรรค์-บ้านไผ่ และช่วงชุมพร-ระนอง ต่อไป



ด้านผู้เข้าร่วมสัมมนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับในอนาคตต้องการให้ศึกษาเปลี่ยนหัวรถจักรระบบดีเซลมาเป็นหัวรถจักรระบบไฟฟ้ามาประกอบผลการศึกษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงาน รวมทั้งการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าจากรถบรรทุกมาเปลี่ยนใช้รถไฟ และนำผลการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือบกมาใช้ด้วย ตลอดจนผลการศึกษาจะมีผลช่วยปรับปรับพฤติกรรมประชาชนเดินทางด้วยรถไฟทางคู่มากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อลดปัญหาจราจร ทั้งนี้ต้องการให้คำนวณค่ามลพิษอื่นๆ ด้วย เช่น ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)

//--------------------------
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/09/2019 7:59 pm    Post subject: Reply with quote

บานปลายเห็นต่างรถไฟทางคู่โคราช พ่อเมืองลั่นต้องจบเร็วๆนี้ ชาวโคราชขึ้นป้ายทุบสะพานหัวทะเลฟื้นเศรษฐกิจ
สยามรัฐออนไลน์ 8 กันยายน 2562 17:39 ภูมิภาค

Click on the image for full size

ความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงเส้นทางผ่านเขตเมือง นครราชสีมา ซึ่งเป็นรูปแบบยกระดับตั้งแต่ลอดใต้สะพานต่างระดับปักธงชัยจนถึงสะพานหัวทะเลและช่วงจุดตัดทางข้ามเส้นทางหลักมีความสูงไม่ต่ำกว่า 5 เมตร เพื่อให้รถยนต์ขนาดใหญ่สามารถแล่นข้ามได้สะดวกและมีทางเชื่อมต่อทุกจุดเช่นเดิม เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการใช้รถใช้ถนนและทำให้การขยายตัวของเมืองมีความเจริญเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นผลดีในระยะยาวต่อการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ของชาวโคราช สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ระยะ 20 ปี

ล่าสุดยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีความเห็นต่างการรื้อถอนสะพานโรงแรมสีมาธานีและสะพานหัวทะเล ส่งผลให้การดำเนินโครงการ ฯ ล่าช้า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพูดคุยให้ได้ข้อสรุปเป็นแนวทางเดียวกัน แม้นต้องเพิ่มงบประมาณแต่ต้องมีความชัดเจนและเหตุผลความจำเป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งความเป็นไปได้ทางเทคนิคก่อสร้าง ล่าสุดนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา จัดประชุมพิจารณาเสนอรูปแบบการแก้ไขปัญหาจราจรและเชิญคู่เห็นต่างมาพูดคุย เพื่อแสวงหาจุดร่วมแต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 กันยายน ที่บริเวณอาคารพาณิชย์ใต้สะพานหัวทะเล เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา นายสุวกฤต รังสิโรจน์ พร้อมพวกได้จับกลุ่มพูดคุย เพื่อหารือการเคลื่อนไหวและรวบรวมรายชื่อเสนอต่อจังหวัดนครราชสีมา กรณีได้รับผลกระทบจากสะพานหัวทะเลจากนั้นได้นำป้ายไวนิลซึ่งมีจ้อความ “ พวกเราเดือดร้อนมานานแล้ว ” “ ทุบสะพานอย่างเดียว ฟื้นคืนเศรษฐกิจ ” ไปติดตั้งรอบสะพานดังกล่าว

นายสุวกฤต ฯ เปิดเผยว่า ปัญหาเรื้อรังนานกว่า 30 ปี สะพานหัวทะเลได้บดบังภูมิทัศน์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเดินทางเข้าเมือง หากรื้อถอนสะพานออกไปได้จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในละแวกนี้ให้กลับมาคึกคักอย่างแน่นอน นายเจษฎา พรพิมานแมน เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด (ห.จ.ก.) ธนาสติกเกอร์ กล่าวว่า เดิมบริเวณนี้เคยมีความเจริญรุ่งเรือง หลังสะพานเปิดใช้งานต้องประสบปัญหาทุกมิติ ส่งผลให้การค้าขาย ธุรกิจต่างๆทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง พวกเราต้องการถนนราชสีมา-โชคชัย ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1 เป็นถนนระดับพื้นราบเหมือนเดิมและรื้อถอนสะพานออกไป เพื่อยกระดับรถไฟทางคู่

นายเกษม ตังอนุสรณ์สุข เจ้าของโรงแรมเฮอร์มิเทจโคราช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กิจการโรงแรมที่พักคึกคักมาก แต่อยู่ได้เพียง 2 ปี มีการสร้างสะพานกีดขวางทางเข้าออกส่งผลให้การเดินทางไม่สะดวก การจัดกิจกรรมมีจำนวนลงลดเรื่อยๆ เพื่อความเจริญเติบโตของเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตนขอสนับสนุนให้รื้อถอนสะพาน หัวทะเลออกไป

ด้านนายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนจะเชิญกลุ่มที่เห็นต่างมาร่วมประชุมย่อย โดยมีวิศวกรการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มร.นม.) ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเอกชนและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ ส.ส ในพื้นที่มาเป็นคนกลาง โดยเป็นการชี้แจงข้อมูลความเหมาะสมด้านกายภาพ การใช้ประโยชน์ของพื้นที่สอดคล้องความต้องการของทุกภาคส่วน ปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างและความเป็นไปได้ในเชิงวิศวกรรม เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกมิติรวมทั้งเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและซักถามข้อสงสัย หากได้ข้อสรุปเป็นทางเดียวกัน ก็จะจัดประชุมใหญ่เชิญทุกภาคส่วนมารับฟังการชี้แจงข้อมูลผลการศึกษาคาดจะมีขึ้นในเร็วๆนี้

นครราชสีมา/เกษม ชนาธินาถ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 08/09/2019 11:58 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
บานปลายเห็นต่างรถไฟทางคู่โคราช พ่อเมืองลั่นต้องจบเร็วๆนี้ ชาวโคราชขึ้นป้ายทุบสะพานหัวทะเลฟื้นเศรษฐกิจ
สยามรัฐออนไลน์ 8 กันยายน 2562 17:39 ภูมิภาค


เอาอะไรกันกับบรรดาฐานเสียงที่ยอมลดตัวเป็นทาสนายกเล็ก จนสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว

//---------------------------

เถียงไม่จบ รถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองโคราช เห็นต่างประเด็นทุบสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล นายกเล็กเปิดเวทีย่อยชี้แจง ส่วนฝ่ายเห็นต่างยันจุดยืนเดิม
ข่าว ภูมิภาค - นครราชสีมา
โดย เกษม ชนาธินาถ
สยามรัฐออนไลน์ 5 กันยายน 2562 19:42


ความคืบหน้าความเห็นต่างการรื้อถอนสะพานข้ามทางรถไฟโรงแรมสีมาธานี ซึ่งเป็นเส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ช่วงผ่านเมือง นครราชสีมา ได้ยื้อเยื้อมานานร่วม 2 ปี ทำให้การดำเนินโครงการ ฯ ล่าช้า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพูดคุยให้ได้ข้อสรุปเป็นแนวทางเดียวกัน แม้นต้องเพิ่มงบประมาณแต่ต้องมีความชัดเจนและเหตุผลความจำเป็นและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งความเป็นไปได้ทางเทคนิคก่อสร้าง ล่าสุดนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา จัดประชุมพิจารณาเสนอรูปแบบการแก้ไขปัญหาจราจรและเชิญคู่เห็นต่างมาพูดคุย เพื่อแสวงหาจุดร่วมแต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้




เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 กันยายน ที่มูลนิธิหลักเสียงเซียงตึ้งโคราช ในวาระการประชุมงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2562 นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ได้ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวให้ตัวแทนองค์กรคนไทยเชื้อสายจีน คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ ฯ พร้อมนำโมเดลจำลองมาแสดงให้ดู ปรากฏได้รับความสนใจมีการซักถามข้อสงสัยนานร่วมชั่วโมง




นายสุรวุฒิ ฯ นายก ทน.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลายฝ่ายวิตกกังวลผลกระทบที่เกิดขึ้นหากรื้อถอนสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเลทั้งในระหว่างก่อสร้างและหลังเสร็จสิ้น ผลการศึกษาอย่างรอบด้านพบรูปแบบทางรถไฟยกระดับและรื้อถอนสะพานทั้ง 2 แห่ง สามารถเชื่อมระบบการจราจรได้ทั้งเมืองพร้อมตัดถนนซึ่งเป็นเส้นทางคู่ขนานทางรถไฟรวมทั้งวางระบบระบายน้ำจากทิศเหนือลงทิศใต้ได้สะดวกยิ่งขึ้น จะนำไปสู่การขยายความเจริญออกไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งมีข้อจำกัดด้านโครงสร้างหลายประการ

อย่างไรก็ตามเมื่อทราบข้อมูลแบก่อสร้างที่ชัดเจน จะช่วยให้ ทน. ฯ สามารถออกแบบผังเมืองมีถนนโครงข่ายเชื่อมต่อกันในลักษณะเส้นทางลัด ลดระยะเวลาเดินทางรองรับสภาพจราจรที่คับคั่ง รองรับปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการบริหารจัดการระหว่างรื้อถอนสะพาน ฯ ได้จัดการจราจรใช้เส้นทางถนนสืบสิริโดยเตรียมเพิ่มช่องทางจราจรจากเดิม 4 เลน เป็น 6 เลน ส่วนการเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ทางหลวงชนบทหรือถนน 1120 ผ่านหน้าโรงเรียนสุรนารี 2 กำลังขยายช่องทางจราจรจากเดิม 4 เลน เป็น 8 เลน เพื่อเข้าสู่เมืองโคราช



ด้านนายจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานกลุ่มโคราชเพื่อโคราชและแกนนำเห็นต่าง กล่าวว่า ยืนยันจุดยืนแบบก่อสร้างทางรถไฟต้องยกระดับผ่านสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเลแล้วค่อยลดระดับลงเท่านั้นและไม่ควรรื้อถอนสะพานทั้ง 2 แห่ง จะสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาจราจรและความขัดแย้งได้ดีที่สุด หากอ้างความจำเป็นต้องรื้อถอนสะพาน ฯ ผลการศึกษาระบุเกิดปัญหาวิกฤตจราจรในวันปกติ รถติดสะสมนาน 4 ชั่วโมง ช่วงเทศกาลสำคัญ 10 ชม. และใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี แม้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ใช้สะพานแบริ่งติดตั้งไว้ทั้งขาเข้าและออก เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรคับคั่ง ก็ สามารถจำลองสถานการณ์โดยปิดใช้สะพาน ฯ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อเตรียมเผชิญเหตุการณ์จริงและการใช้เส้นทางเลี่ยงแทน จากนั้นให้สอบถามผู้ใช้รถใช้ถนนรับผลกระทบได้หรือไม่




https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2501213596592237&set=a.1878620525518217&type=3
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 09/09/2019 4:29 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
บานปลายเห็นต่างรถไฟทางคู่โคราช พ่อเมืองลั่นต้องจบเร็วๆนี้ ชาวโคราชขึ้นป้ายทุบสะพานหัวทะเลฟื้นเศรษฐกิจ
สยามรัฐออนไลน์ 8 กันยายน 2562 17:39 ภูมิภาค


//---------------------------

เถียงไม่จบ รถไฟทางคู่ช่วงผ่านเมืองโคราช เห็นต่างประเด็นทุบสะพานสีมาธานีและสะพานหัวทะเล นายกเล็กเปิดเวทีย่อยชี้แจง ส่วนฝ่ายเห็นต่างยันจุดยืนเดิม
ข่าว ภูมิภาค - นครราชสีมา
โดย เกษม ชนาธินาถ
สยามรัฐออนไลน์ 5 กันยายน 2562 19:42



ชาวบ้าน ขอทุบสะพานหัวทะเล โคราช ชี้ ทำเศรษฐกิจซบเซา

ประจำวันที่ 09 กันยายน 2562


กรณีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงเขตตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งยังคงเป็นปัญหาความเห็นต่าง เรื่องการจะให้ทุบ หรือไม่ทุบสะพานสีมาธานี จนทำให้ยังไม่มีข้อยุติและส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ในเขตตัวเมืองนครราชสีมาถึงปัจจุบัน ล่าสุดวันนี้ได้มีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ติดป้ายขอให้มีการทุบสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล หน้าโรงแรมเฮมิเทจ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมาด้วย หลังจากที่ผู้อยู่อาศัยบริเวณ 2 ฝั่งข้างสะพาน ได้รับผลกระทบ ทำให้เศรษฐกิจซบเซา อาคารและบ้านเรือนร้างไปทั้ง 2 ฝั่งมานานกว่า 30 ปีแล้วตั้งแต่สร้างสะพานนี้ขึ้นมา

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน ในพื้นที่ 2 ฝั่งข้างสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเล พบว่า อาคาร บ้านเรือน ต่างๆ กว่า 20 คูหา ที่อยู่บริเวณดังกล่าว ได้รกร้าง ไม่มีผู้อยู่อาศัย บางอาคารเคยใช้เป็นอาคารพาณิชย์ ประกอบกิจการร้านค้าต่างๆ ช่วงที่เศรษฐกิจรุ่งเรืองก่อนสร้างสะพาน ปัจจุบันก็มีการปิดประตูล็อกกุญแจทิ้งไว้นานแล้ว ส่วนบางอาคารก็มีการเช้าเปิดเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ และร้านตัดสติ๊กเกอร์ เป็นต้น


นอกจากนี้ยังมีสถานีจอดรถเมล์หัวทะเล ที่อยู่บริเวณทางลงสะพานหัวทะเล ซึ่งในอดีตเคยมีรถเมล์หลายสาย มาจอดรับผู้โดยสารตลอดทั้งวัน แต่ปัจจุบันนี้ เหลือเพียงรถเมล์สาย นครราชสีมา-ครบุรี เพียงสายเดียวเท่านั้นที่มาใช้บริการประจำ ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในสถานีต้องปิดกิจการหนีไปหมด เหลือเพียงร้านของเจ๊เล็กเจ้าเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ ส่วนภายในอาคารนั่งพักผู้โดยสาร ก็มีการเก็บที่นั่งไม้ไปกองทิ้งไว้ริมอาคารจนผุพัง เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารมานั่งรอแออัดเหมือนในอดีตแล้ว

นางเพ็ญศรี ศรีตะวัน หรือเจ๊เล็ก อายุ 57 ปี ผู้ประกอบการร้านอาหารตามสั่งในสถานีจอดรถเมล์หัวทะเล กล่าวว่า ในอดีตช่วงก่อนสร้างสะพานข้ามทางรถไฟหัวทะเลนั้น สถานีจอดรถเมล์แห่งนี้ เป็นที่จอดรถเมล์หลายสาย ทั้งที่วิ่งอยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา และวิ่งออกไปต่างอำเภอ ซึ่งจะมีผู้โดยสารมารอขึ้นรถเมล์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น จะมีนักเรียน นักศึกษา มารอขึ้นรถเมล์อย่างเนืองแน่นทุกวัน ขณะนั้นจึงมีร้านอาหารมาจองแผงขายอาหารอยู่เต็มทุกแผง รวมจำนวน 7 แผง

แต่หลังจากที่สร้างสะพานหัวทะเลแล้ว ก็ทำให้บริเวณนี้เดินทางเข้าออกไม่สะดวก รถเมล์จึงไม่วิ่งเข้ามา เพราะต้องอ้อมไปกลับรถไกล ขณะเดียวกันผู้โดยสารก็เดินทางมาไม่สะดวกเช่นกัน ทำให้เริ่มกลายเป็นสถานีร้าง ไม่มีรถเมล์และผู้โดยสารเข้ามาอีกเลย ดังนั้นผู้ประกอบการร้านอาหารก็ขายของไม่ได้ พากันปิดร้านหนีกันหมด เหลือเพียงร้านตนร้านเดียวที่ยังอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็มีแผนว่าจะย้ายออกไปเร็วๆ นี้แน่นอน เพราะทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ได้ โดยมีทั้งค่าเช่าแผงเดือนละ 1,500 บาท ค่าน้ำ และค่าไฟด้วย จึงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตนเองจึงอยากให้มีการทุบสะพานหัวทะเลนี้ซะ แล้วทำให้รถวิ่งภาคพื้นดินเหมือนในอดีต ส่วนรถไฟทางคู่ก็ให้ยกขึ้นวิ่งด้านบนแทน เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจบริเวณนี้ฟื้นฟูกลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีตอีกครั้ง นางเพ็ญศรี กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของความขัดแย้งเรื่องทุบสะพานสีมาธานี และสะพานหัวทะเลนี้ ทางนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่าได้มีการกำชับจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ และให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อที่จะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ให้แล้วเสร็จ หลังจากที่ล่าช้ามานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งนายวิเชียร เตรียมที่จะเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย มาร่วมแสดงความคิดเห็นและหาข้อสรุปอีกครั้งภายในเดือนกันยายนนี้ต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 09/09/2019 4:45 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เปิด 3 โปรเจครถไฟทางคู่ หนุนอีอีซี/เชื่อม 10 อุตสาหกรรม
สื่อสาร - คมนาคม
03 ก.ค. 2562

ร.ฟ.ท.เปิด 3 โปรเจคสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ประเดิมช่วงระยอง-จันทบุรี-ตราด ลงทุน 5-6 หมื่นล้าน ประมูลปี 2564 หนุนการขนส่งอีอีซี เชื่อม 10 นิคมอุตสาหกรรม กระตุ้นท่องเที่ยวชายทะเล เร่งของบออกแบบทางคู่ชุมพร-ระนอง เสริมท่าเรือน้ำลึกเอสอีซี

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้นอกจากการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ 7 เส้นทาง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาเส้นทางรถไฟสายใหม่ สายชุมทางศรีราชา-ระยอง-จันทบุรี-ตราด-คลองใหญ่ เพื่อสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

“การศึกษาเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เพื่อผลักดันการขนส่งเข้าอีอีซีด้วย ดังนั้นมั่นใจว่าโครงการนี้จะถูกพัฒนาในเร็วๆ นี้ เพื่อทันต่อการพัฒนาในเขตอีอีซี คาดว่าปี 2563 จะเริ่มออกแบบก่อสร้าง และหลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ช่วงเปิดประมูลจัดหาเอกชนก่อสร้าง โดยเป้าหมายส่วนใหญ่เพื่อขนส่งสินค้าเชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง รวมไปถึงสนับสนุนการเดินทางเชื่อมต่อในพื้นที่ และการท่องเที่ยวภาคตะวันออกด้วย”

นอกจากการพัฒนาเส้นทางรถไฟสายดังกล่าว ร.ฟ.ท.ยังศึกษาความเหมาะสมพัฒนารถไฟทางคู่เชื่อมต่อศรีราชา-มาบตาพุด คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 เพื่อขออนุมัติงบออกแบบก่อสร้าง โดยเส้นทางสายนี้จะช่วยสนับสนุนการขนส่งสินค้าระหว่างเขตอุตสาหกรรมและท่าเรือ ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เปลี่ยนการขนส่งจากรถยนต์ทางถนน เป็นระบบราง ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมการขนส่งเข้าท่าเรือน้ำลึกระนองด้วย

ทั้งนี้ ยังรายงาข่าวจาก ร.ฟ.ท.เปิดเผยด้วยว่า เส้นทางรถไฟสายใหม่ ช่วงศรีราชา-ระยอง-จันทบุรี-ตราด-คลองใหญ่ เบื้องต้นจะมีระยะทางยาว 250 กิโลเมตร เป็นรถไฟทางคู่ ขนาดรางมาตรฐาน 1 เมตร ประเมินงบประมาณในการลงทุนอยู่ที่ 5-6 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันการศึกษาเส้นทางแล้วเสร็จไปราว 90% คาดว่าจะภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะเสร็จสมบูรณ์ ก่อนเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อของบประมาณปี 2563 ราว 120-150 ล้านบาท มาดำเนินการออกแบบรายละเอียดก่อสร้าง

โดยขณะนี้เป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่แนวเส้นทาง แต่ก็ยังไม่ได้บทสรุปว่าจะเลือกแนวเส้นทางไหน โดยมีทางเลือกอยู่ 3 เส้นทาง ซึ่งอาจจะต้องรอประเมินจากตัวเลขความคุ้มค่าแต่ละเส้นทางก่อน ซึ่งคาดว่าเดือนหน้าก็น่าจะเสร็จ

ทั้งนี้ หาก ร.ฟ.ท.ได้รับงบประมาณออกแบบรายละเอียด คาดว่าจะใช้เวลาออกแบบราว 1 ปี หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนประมูลหาผู้รับเหมา คาดว่าจะประมูลได้ช่วงกลางปี 2564 และจะสามารถเร่งรัดเริ่มงานก่อสร้างในช่วงปลายปีเดียวกัน โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปีแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในช่วงปี 2568-2569 โดย ร.ฟ.ท.มั่นใจว่ารถไฟสายใหม่นี้ จะเป็นเสมือนแขนขาของอีอีซี เชื่อมการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะผลไม้ในจ.จันทบุรีไปยังท่าเรือแหลมฉบังสะดวกขึ้น

สำหรับแนวเส้นทางรถไฟทางคู่เส้นทางศรีราชา-ตราดแบ่งเป็น 3 ช่วง คือช่วงที่ 1 ชุมทางศรีราชา-สถานีระยอง ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมนิคมอุตสาหกรรมสู่นิคมอุตสาหกรรม 10 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1-3 นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง นิคมอุตสาหกรรมโรจนะบ่อวิน นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด นิคมอุตสาหกรรมเหมราช นิคมอุตสาหกรรมเหมราชระยอง

ช่วงที่ 2 เป็นเส้นทางเชื่อมนิคมอุตสาหกรรมสู่เมืองระยอง โดยเริ่มจากสถานีมาบตาพุด และช่วงที่ 3 เป็นเส้นทางเชื่อมระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor)และเชื่อมการท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มจากสถานีระยองและมีจุดสิ้นสุดโครงการที่ด่านศุลกากร อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ที่สามรถเชื่อมการขนส่งสินค้าไปประเทศกัมพูชาได้

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.เตรียมเสนอของบประมาณปี 2563 ราว 90 ล้านบาท เพื่อเริ่มออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-ระนอง ระยะทาง 109 กิโลเมตร หลังจากที่ปัจจุบันได้ทำการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสร็จแล้ว โดยคาดว่าหลังจากได้รับจัดสรรงบประมาณนี้ จะใช้เวลาออกแบบรายละเอียด 1 ปี ก่อนเปิดประมูลจัดหาผู้รับเหมา และเริ่มงานก่อสร้างในปี 2564 มีกำหนดก่อสร้าง 3 ปีแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในปี 2567 ซึ่งอยู่ในแผนการเชื่อมเส้นทางขนส่งของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (เอสอีซี)

โดยช่วงชุมพร-ระนอง เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อน เพราะจะช่วยขนส่งทั้งคนและสินค้า เชื่อมต่อ 2 ฝั่งทะเลของไทย จะทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และที่สำคัญจะเชื่อมต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยก่อนหน้านี้ สนข.ศึกษาความเหมาะสมจะต้องก่อสร้างในปี 2565 แต่ขณะนี้ก็มีความเหมาะสมที่จะเร่งสร้าง

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท. ยังมีแผนพัฒนารถไฟเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจอีสต์-เวสต์ คอริดอร์ โดยจะเชื่อมต่อการเดินทางจากแม่สอด (ตาก)-นครสวรรค์-บ้านไผ่ (ขอนแก่น)-นครพนม เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งคนและสินค้าระหว่างภูมิภาค และประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ทำการศึกษาความเหมาะสมของโครงการในช่วงแม่สอด-นครสวรรค์เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างศึกษาช่วงนครสวรรค์-บ้านไผ่ โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลานาน เนื่องจากมีระยะทางค่อนข้างยาว อีกทั้งยังตัดผ่านภูเขาหลายแห่ง ดังนั้นรถไฟสายใหม่นี้ อาจยังไม่เกิดเร็วๆ นี้ แต่จะเป็นโครงการอนาคตที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการขนส่ง

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ความคืบหน้ารถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ร.ฟ.ท.ได้ส่งรายละเอียดเพื่อเตรียมเสนอคณะกรรมการ สศช. ซึ่งคาดว่าจะทยอยอนุมัติโครงการ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอาจไม่ได้เสนอเข้า ครม.ในครั้งเดียว แต่จะเลือกในเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อการขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด “คาดว่า สศช.จะอนุมัติช่วงขอนแก่น-หนองคาย ก่อนเพราะเป็นเส้นเชื่อมต่อโลจิสติกส์ให้สมบูรณ์จากชุมทางจิระ-ขอนแก่นอยู่แล้ว และเส้นทางนี้ยังเชื่อมต่อลงพื้นที่อีอีซีด้วย” นายวรวุฒิกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 244, 245, 246 ... 388, 389, 390  Next
Page 245 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©