View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
Posted: 23/11/2018 1:12 pm Post subject: |
|
|
ประวัติของศรีราชา รวบรวมและเรียบเรียงจากหนังสือ 100 ปี ศรีราชา:
แต่เดิมบริษัทศรีมหาราชา ใช้ชื่อว่า บริษัทศรีมหาราชาทุนจำกัด โดยท่านจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีเป็นผู้ก่อตั้ง สถานที่ตั้งโรงเลื่อยครั้งแรกตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2443 โดยสร้างขึ้นที่บ้านเดิมของท่านเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ปัจจุบันเป็นที่ตั้งตลาดเทศบาล
เมื่อปี พ.ศ.2446 ได้ย้ายโรงเลื่อยมาสร้างใหม่ที่บริเวณตึกริมถนนเจิมจอมพล สุดรั้วบริเวณสำนักงานบริษัทศรีมหาราชา (ปัจจุบันคือบริเวณทางแยกตรงข้ามร้านตำโชว์ บก.) ด้านทิศใต้คือบริเวณต้นโพธิ์ใหญ่ๆ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพฯ สาขาถนนเจิมจอมพล
ในปี พ.ศ.2451 ได้ย้ายโรงเลื่อยจากที่เดิมขยับขึ้นไปทางด้านทิศตะวันออก ด้านตะวันออกติดถนนสุขุมวิท และทิศตะวันตกติดถนนเจิมจอมพล โดยอยู่ที่นี่มาจนกระทั่งกลายเป็นบริษัทศรีมหาราชาและปัจจุบันเป็นโครงการศรีราชานครไปในที่สุด
สำหรับประวัติการก่อตั้งนั้น จากหนังสือประวัติของท่านเจ้าพระยาสุรศักดิ์ (จากนี้จะเรียกท่านเจ้าคุณ) ได้ขายที่ดินที่ตำบลบางรัก เมื่อ พ.ศ. 2443 ได้ประมาณ 100 ไร่เศษ และที่ดินบริเวณถนนรองเมืองอีก 100 ไร่ เพื่อนำเงินมาลงทุนตั้งบริษัททำไม้กับหลวงอุดร นายห้างกิมเซ่งหลี
ในระหว่างออกปราบพวกเงี้ยว ท่านเจ้าคุณมอบหมายให้ห้างกิมเช่งหลีดูแลกิจการป่าไม้แทน เมื่อกลับมาจากทัพ ทางห้างได้ตั้งบัญชีว่าได้จ่ายเงินไป 750,000 บาท โดยไม่มีรายละเอียดการใช้จ่าย ท่านเจ้าคุณจึงได้ต่อว่าไป ทางห้างจึงยอมลดให้สองแสนบาท เหลือ 550,000 บาท ท่านเจ้าคุณจะฟ้องร้องเอาความก็เห็นแก่หลวงอุดร จึงยอมชดใช้เงินนั้นให้กับห้างกิมเช่งหลี จึงขอใช้ที่ดินที่ตำบลศาลาแดงชดใช้ให้แทนเงิน และได้ถวายที่ดิน 25 ไร่ พร้อมตึกบ้านพักพระประมวลและที่นาที่คลองรังสิตอีก 1,000 ไร่ ถวายใช้หนี้พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ด้วยสมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าประทับรักษาตัวอยู่ที่ศรีราชาในขณะที่ท่านเจ้าคุณลงมือทำป่าไม้ จึงมีพระเมตตาให้ท่านเจ้าคุณยืมเงิน 200,000 บาท และได้ถวายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ต่อมาเจ้าคุณได้ขอพระกรุณาโอนหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้พระคลังข้างที่ จึงได้ถวายที่ดินดังกล่าวใช้หนี้ไป
31 ธันวาคน พ.ศ.2451 บริษัทบอร์เนียวจำกัดสินใช้ ได้มาขอเข้าหุ้น โดยมาร่วมลงทุนทำการเป็นเงินหนึ่งล้านเจ็ดแสนบาท แต่ไม่ได้แบ่งผลประโยชน์ให้บริษัทศรีราชาฯ เลย ครั้นวันที่ 8 มกราคม พ.ศ.2456 ยังได้ทำการฟ้องบริษัทศรีราชาฯ ว่า เป็นหนี้อยู่อีก 500,000 บาทเศษ หากไม่สามารถชำระได้ภายใน 1 เดือน ขอให้ศาลบังคับให้ล้มละลาย
บริษัทศรีมหาราชาได้สู้คดีจนถึงศาลฎีกาและชนะคดี แล้วฟ้องกลับว่าบริษัทบอร์เนียวฯ ผิดสัญญาโดยเรียกค่าเสียหายจากทุนทรัพย์และประโยชน์ที่ควรจะได้เป็นเงินสองล้านเจ็ดแสนบาท บริษัทบอร์เนียวยอมคืนบริษัทศรีราชาให้ โดยขอให้บริษัทศรีราชาฯ ให้เงินบริษัทบอร์เนียวอีก 300,000 บาท จากนั้นจึงโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัทศรีราชาเป็นเจ้าของกิจการแต่เพียงผู้เดียว เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2456
กิจการทำไม้ของบริษัทศรีราชาทุนจำกัด เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่เดิมไม้ตะเคียน ไม้ขัน ไม้ชุมแพรก เป็นไม้ที่ไม่ได้รับความนิยม ยิ่งพวกไม้ยาง หรือไม้สะท้อนเขาเรียกกันว่าไม้สิงคโปร์ ราคาถูกมาก ขายได้พอค่าโสหุ้ย แต่นานวันชื่อเสียงของบริษัทศรีราชายิ่งโด่งดังจนคนที่เคยเรียกไม้สิงคโปร์หันมาเรียกไม้ศรีราชาแทน
ในสมัยพระบามสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ท่านเจ้าคุณได้โอนกิจการทั้งหมดเป็นของพระคลังข้างที่ ต่อมาในวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2475 ท่านเจ้าคุณก็ถึงแก่อสัญกรรม
ปี พ.ศ. 2476 เกิดอัคคีภัยเผาผลาญโรงเลื่อยของบริษัทศรีราชาพินาศลง กิจการของบริษัทได้สะดุดลงชั่วขณะหนึ่ง กระทั่งปี พ.ศ.2477 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระสวัสดิ์วัฒนวิศิษฐ์ เป็นองค์อำนวยการบริหารกิจการนี้แทนพระคลังข้างที่ ได้โปรดเกล้าให้พระยามไหสวรรย์มาริเริ่มสร้างโรงเลื่อยขึ้นใหม่ในที่เดิม
จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเลื่อยศรีราชาจึงตกอยู่ในความคุ้มครองของทางราชการทหารกระทั่งสิ้นสงคราม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ซื้อกิจการโรงเลื่อยศรีราชาทั้งหมดในปลายปี พ.ศ. 2489 และปรับปรุงสภาพในหลายด้าน โดยตั้งชื่อใหม่ว่า บริษัทศรีมหาราชา จำกัด และทำพิธีเปิดป้ายเมื่อ17 มีนาคม พ.ศ.2490
โรงเลื่อยแห่งนี้ทำการผลิตไม้แปรรูปได้เดือนละ 600-700 ต้น ในขณะนั้นค่าใช้จ่ายยังต่ำ ทำให้ยังคงได้กำไรในการขยายงาน และนอกจากจะขายดีในจังหวัดพระนคร และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ระยะนี้ (พ.ศ.2490-2495) จังหวัดไกลๆ เช่น สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ นิยมขอรับจำหน่ายไม้จากโรงเลื่อยศรีราชากันมาก การขนส่งโดยมากจะขนกันทางเรือ โดยบรรทุกรถไฟขนมาลงเรือที่สะพานเกาะลอย
นอกจากสะพานรถไฟเพื่อขนส่งไม้แปรรูปที่เกาะลอยแล้ว บริษัทยังสร้างทางรถไฟเข้าไปขนไม้ในป่าสัมปทาน เส้นทางผ่านไร่กล้วย หนองค้อ หุบบอน เขาคันทรง ระเวิง ไปจนถึงเขตอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง รวมความยาวประมาณ 51.775 กิโลเมตร โดยมีทั้งหมด 7 สถานี (หายไปเยอะเชียว)
จน 14 เมษายน พ.ศ.2501 ได้เริ่มเปิดบริษัทไม้อัดศรีราชาจำกัดขึ้นในบริเวณติดต่อกัน ผลิตไม้อัดเชฟวิ่งบอร์ด พินิชชิ่งไลน์ (ทีโกบอร์ด) และโรงงานในลักษณะบอร์ดต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก ต่อมาในปี พ.ศ.2507 คณะกรรมการได้กำหนดให้ 2 บริษัทใช้ทุนร่วมกัน และเพิ่มทุนจดทะเบียนนิติกรรมใหม่ รวมคณะกรรมการบริหารเป็นชุดเดียวกัน
สมัยที่กิจการรุ่งเรือง เมื่อถึงฤดูทำบุญทอดกฐิน บริษัทศรีมหาราชาได้จัดงานประเพณี มีมหรสพให้ชมเกือบทุกชนิด ส่วนสำคัญและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปคือ การแข่งขันกีฬาภายในของคนกองต่างๆ ของบริษัท และการแข่งขันกีฬาทางน้ำ มีเรือใบสมัยเก่ามาวิ่งแข่งกันที่หน้าเกาะลอย
ประมาณ ปี พ.ศ. 2510 เป็นต้นมา การบริหารงานภายในบริษัทศรีมหาราชาล้มเหลว ประสบภาวะขาดทุนโดยตลอด ในปี พ.ศ. 2527 บริษัทศรีมหาราชาจึงได้ปลดคนงานออกคราวเดียวถึง 592 คน โดยให้ทีมงานของบริษัทปูนซีเมนต์ไทยซึ่งเป็นบริษัทในเครือทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เข้ามาบริหารงานแทน โดยตั้งบริษัทขึ้นใหม่ชื่ บริษัทไทยนวภัณฑ์ จำกัด เว้นแต่โรงงานที่นอนสายรุ้งที่ยังขึ้นกับบริษัทศรีมหาราชาดังเดิม
จากนั้นระยะหนึ่ง หนี้สินสะสมของบริษัทศรีมหาราชาเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขได้ ที่สุดสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงจำเป็นต้องขายที่ดินของบริษัทศรีมหาราชาทั้งหมดประมาณ 140 ไร่ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้สะสมประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนที่ดินของบริษัทศรีมหาราชาได้ขายให้กับบริษัทศรีราชาคอมเพล็กซ์ จำกัด ด้วยราคาประมาณ 400 ล้านบาท และต่อมาบริษัทศรีราชาคอมเพร็กซ์ได้ขายต่อให้กับ 9 บริษัท ในเครือธนาคารศรีนคร และปรับปรุงที่ดินเป็นโครงการศรีราชานครจนกระทั่งทุกวันนี้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
Posted: 27/03/2020 10:27 am Post subject: |
|
|
"เส้นรถไฟสำหรับขนส่งชักลากไม้ซุง" สัปทานพื้นป่าภาคตะวันออก ของบริษัทศรีมหาราชา จำกัด โดยท่านจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ผู้ก่อตั้งโรงเลื่อยจักร์ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2443 เริ่มก่อสร้างเส้นทางรถไฟ ตั้งแต่สะพานท่าเทียบเรือเกาะลอย ศรีราชา ผ่านไปทางบ้านไร่กล้วย หนองค้อ หุบบอน เขาคันทรง ตลาดหัวกุญแจ บ้านบึง เฉลิมลาภ สุรศักดิ์ ระเวิง ปลวกแดง บ้านค่าย เขตจังหวัดระยอง รวมระยะทาง 51.775 กิโลเมตร โดยมีทั้งหมด 7 สถานี (Station) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านได้อาศัยในการเดินทางสัญจรในสมัยนั้น ปัจจุบันยังมีอนุสรณ์ที่หลงเหลืออยู่ไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาความเป็นมา หลังจากหมดสัญญาสัมปทานพื้นป่าภาคตะวันออก เป็นห้วรถจักร์ชักลากไม้ซุง โดยทางบริษัทฯ ได้มอบให้แก่วัดกุญฑีธาร (หัวกุญแจ) อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่ตั้งอยู่ตลาดหัวกุญแจ ถนนเส้นทางรถไฟสายเก่า ซึ่งปัจจุบันมีการรื้อรางรถไฟออก แล้วก่อสร้างเป็นถนนลาดยางมะตอยแอสฟัลส์ ตลอดเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์แห่งนี้ @ ขอบขอบคุณเครดิตเจ้าของภาพ ในการนำมาเผยเป็นความรู้ทางประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าชุมชน เมื่อครั้งอดีตด้วยครับ
https://www.facebook.com/groups/weloveoldphoto/permalink/2498352940494210/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
Posted: 05/06/2020 7:34 pm Post subject: |
|
|
เส้นทางรถไฟบริษัทศรีมหาราชา
ในปี พ.ศ.๒๔๕๑ ได้ทำการสร้างสะพานรถไฟจากโรงเลื่อยศรีราชา ไปยังเกาะลอยเพื่อใช้ขนส่งไม้ลงเรือ สะพานนี้ยาว ๓๕๐๐ ฟุต ถือเป็น สะพานรถไฟข้ามทะเลแห่งแรกของไทย สะพานไม้นี้ใช้งานมานานหลายปี มีการซ่อมแซมหลายครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายได้รับความเสียหายอย่างมากและพังทลายลงจากลมพายุในปี พ.ศ.๒๔๙๕ การขนไม้จึงใช้แค่ตรงปลายสะพานที่เหลือเท่านั้น ต่อมาบริษัทฯ ได้รื้อรางรถไฟออก ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๗ แล้วยกที่ดินเส้นทางรถไฟทั้งหมดให้เป็นทางสาธารณะ ตลอดเส้นทาง เส้นทางรถไฟที่ว่านี้คือถนนสายหนองยายบู่ในปัจจุบัน
สถานีรถไฟบริษัทศรีมหาราชา มี ๗ สถานี เรียงตามลำดับ จากตัวอำเภอศรีราชาออกไปดังนี้
๑ สถานีศรีราชา เป็นต้นทางตั้งอยู่ที่หลังโรงเลื่อย ห่างจากถนนสุขุมวิท ประมาณ ๕๐ เมตร
๒ เดิมชื่อ สถานีหนองยายบู่ ภายหลังเปลี่ยนเป็น สถานีเจิม
๓ เดิมชื่อ สถานีทับโคบุตร เปลี่ยนเป็น สถานีจอมพล
๔ เดิมชื่อ สถานี กม.๓๑ เปลี่ยนเป็น สถานีเจ้าพระยา
๕ เดิมชื่อ สถานีเจ๊กงัก เปลี่ยนเป็น สถานีสุรศักดิ์
๖ เดิมชื่อระเวิง เปลี่ยนเป็น สถานีมนตรี
๗ เดิมชื่อชุมนุมกลาง เปลี่ยนเป็น สถานีเฉลิมลาภ
ชื่อสถานีใหม่ เป็นการตั้งเพื่อเทิดกียรติท่านจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี นามเดิมว่า เจิม แสงชูโต ผู้ให้กำเนิดบริษัทนี้ ส่วนสถานีสุดท้าย สถานีที่ ๗ ชื่อเฉลิมลาภมีความหมายและความสำคัญเพื่อเทิดเกียรติบุคคลของบริษัทฯ พลตรีหม่อม ทวีวงศ์ ถวัลย์ศักดิ์ ประธานกรรมการของบริษัท ซึ่งมีนามเดิมว่าหม่อมราชวงศ์เฉลิมลาภ ทวีวงศ์
ชื่อเดิมของสถานีที่ ๒ ๓ ๖ และ ๗ ตั้งตามชื่อของหมู่บ้านที่สถานีไปสร้างขึ้น ส่วนสถานีที่ ๔ มีระยะทางห่างจากสถานีต้นทางคือศรีราชา ๓๑ กิโลเมตร (อยู่ใกล้หมู่บ้านพันเสด็จ) สำหรับสถานีที่ ๕ มีลำห้วยซึ่งแต่เดิมมีชาวจีนชื่อเจ๊กงัก ไปทำไร่เก็บของป่าอยู่จึงถือนำชื่อบุคคลมาเป็นชื่อสถานี
https://www.facebook.com/konruksriracha/posts/2072949322823076 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/12/2020 5:00 pm Post subject: |
|
|
^^^
หาดูยากมากครับ 2 ขบวนพร้อมกัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42722
Location: NECTEC
|
Posted: 03/12/2020 5:01 pm Post subject: |
|
|
^^^^
ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน
Last edited by Wisarut on 12/07/2021 6:12 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
|