View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 13/06/2020 12:20 am Post subject: |
|
|
🚂#ปัญหาซ้ำซาก! ชาวจอหอโคราชโอด น้ำท่วม #อุโมงค์ทางลอดรถไฟรางคู่ งบสร้างหลายล้านแต่อายุการใช้งานต่ำ
Korat Way
12 มิถุนายน 2563
🚂(12 มิ.ย.63) ชาวบ้านในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร้องเรียนถึงปัญหาการระบายน้ำบริเวณทางลอดใต้ทางรถไฟ ในโครงการรถไฟทางคู่ จิระ-ขอนแก่น ที่ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องร้องเรียนถึงปัญหาในการใช้งานแทบจะทุกจุดตลอดทั้งโครงการ แต่การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังคงไม่มีมาตรการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ดันทุรังก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เปิดให้ประชาชนใช้สัญจรมาแล้วเป็นเวลากว่าปีเศษ
.
🚂ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟบ้านหนองกระดังงา ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าภายในอุโมงค์มีปริมาณน้ำท่วมขังอยู่ความสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร เนื่องจากเครื่องสูบน้ำอัจฉริยะไม่ทำงาน น้ำไม่สามารถระบายออกได้ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านทางลอดดังกล่าวได้
.
🚂จากการสอบถามชาวบ้าน ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว เปิดเผยว่า อุโมงค์ทางลอดดังกล่าวจะประสบปัญหาน้ำท่วมขังแทบจะทุกครั้งที่ฝนตก ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมขังชาวบ้านในพื้นที่จะไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้เลย เนื่องจากอุโมงค์ทางลอดแห่งนี้เป็นเส้นทางสัญจรเดียวที่ข้ามไปมา ซึ่งถ้าเป็นจักรยานยนต์หรือคนเดินเท้า ก็เลือกที่จะพังรั้วของการรถไฟ แล้วเดินข้ามทางรถไฟ โดยไม่มีแผงกั้นความปลอดภัย เพราะไม่มีทางเลือกอื่นในการเดินทาง
.
🚂ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลงขับลงไป โดยไม่รู้ว่าน้ำท่วม จนทำให้รถพังเสียหายมาแล้วหลายคัน ซึ่งเวลาเกิดปัญหาน้ำท่วมขังทางองค์การบริหารส่วนตำบล ก็จะนำเครื่องสูบน้ำมาช่วยเหลือบรรเทาให้ แต่เนื่องจากไม่ใช่ส่วนรับผิดชอบโดยตรงปัญหาเหล่านี้ จึงตกอยู่กับชาวบ้านตาดำๆ ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว วอนการรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลรับผิดชอบ เพราะงบก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแต่ละแห่ง พร้อมด้วยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย แต่อายุการใช้งานถึงได้สั้นเพียงเท่านี้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44770
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/06/2020 8:43 am Post subject: |
|
|
'รฟท.'ลุยรถไฟทางคู่เฟส2 ชงบอร์ดสศช.เคาะมิ.ย.นี้
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ดันโปรเจคแรกขอนแก่น-หนองคาย
กรุงเทพธุรกิจ"ร.ฟ.ท." ลุยรถไฟทางคู่เฟส 2 เตรียมชงเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาไม่เกิน ก.ย.นี้ หลังแจงข้อมูล สศช.ด้านความคุ้มค่าการ ลงทุนหนุนธุรกิจ คาดไฟเขียวลงทุนโปรเจคแรกช่วงขอนแก่น-หนองคาย 2.5 หมื่นล้าน เหตุเป็นรอยต่อขนส่งสินค้าเชื่อมอีอีซี
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 (เฟส 2) โดยระบุว่าขณะนี้ ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ในทุกเส้นทาง ยกเว้นช่วงขอนแก่นหนองคาย กับช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เนื่องจากผ่านอีไอเอแล้ว รวมถึงจัดทำข้อมูลชี้แจงเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอให้ คณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาได้ในเดือน มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ดี ร.ฟ.ท.คาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดดังกล่าว พร้อมตอบทุกข้อคำถามของ สศช. เพื่อรายงานแผนลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ไม่เกินเดือน ก.ย.นี้
"ในช่วงที่ผ่านมาทางสภาพัฒน์ยังมีบางคำถามเกี่ยวกับแผนลงทุนรถไฟทางคู่ เพราะต้องการให้การรถไฟตอบให้ชัดว่าโครงการเมื่อลงทุนแล้วจะเกิดความคุ้มค่า เกิดประโยชน์ และสนับสนุนธุรกิจของการรถไฟอย่างไร ซึ่งเราก็ยืนยันว่าการพัฒนารถไฟทางคู่เป็นประโยชน์แก่การเดินทางและการขนส่ง ที่ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น เพราะไม่ต้องสับหลีกทาง"
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบัน ร.ฟ.ท.คาดว่ารัฐบาลอาจใช้แนวทางเลือกในการพิจารณาลงทุนรถไฟทางคู่ที่สนับสนุนการขนส่งและการเดินทางมีความต้องการมากที่สุด หรือเรียกว่าเป็นการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน เพื่อพัฒนาให้สอดรับกับความต้องการ ซึ่งเป็นการปรับแผนลงทุนที่จากเดิมกำหนดว่าจะมีการ ลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 เหลือจำนวน 7 เส้นทาง
รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า เบื้องต้น คาดว่ารัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนรถไฟทางคู่เฟส 2 ในส่วนของช่วงขอนแก่น-หนองคายเป็นอันดับแรก เนื่องจากช่วงดังกล่าวปัจจุบันเป็นช่องว่างของการพัฒนาระบบรถไฟ ทางคู่ เพราะมีการพัฒนาช่วงฉะเชิงเทราคลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงจิระ- ขอนแก่นไปแล้วก่อนหน้านี้ หากมีการลงทุนช่วงขอนแก่น-หนองคาย ก็จะสนับสนุนการขนส่งเชื่อมโยงจากหนองคาย-แหลมฉบังสะดวกมากขึ้น ด้วยรถไฟทางคู่ตลอดแนวเส้นทาง
"การรถไฟก็หวังว่าจะมีการพัฒนารถไฟทางคู่เฟส 2 ครบทุกเส้นทางตามแผน เพราะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเดินทางและการขนส่ง เพิ่มศักยภาพให้การรถไฟมากขึ้น แต่ก็เข้าใจดีว่าปัจจุบันรัฐบาลต้องพิจารณาการจัดสรรใช้งบประมาณ และการนำงบประมาณไปช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด"
รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.แจ้งต่อว่า โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ประกอบด้วย
1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 5.93 หมื่นล้านบาท
2.ช่วงชุมทางถนนจิระอุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 3.66 หมื่นล้านบาท
3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 2.58 หมื่นล้านบาท
4.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 2.3 หมื่นล้านบาท 5.ช่วงสุราษฎร์ธานี- ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 5.61 หมื่นล้านบาท
6.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 5.79 หมื่นล้านบาท และ
7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 7,860 ล้านบาท
สำหรับรถไฟทางคู่เฟส 1 มีจำนวน 7 โครงการ วงเงินรวม 111,451 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ชุมทาง ถนนจิระ-ขอนแก่น กำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 สายลพบุรีปากน้ำโพ กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จใน ปี 2565 และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, มาบกะเบา-ชุมทางจิระ, นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนด ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 15/06/2020 10:30 am Post subject: |
|
|
"พ.อ.วินัย สมพงษ์"ต้นฉบับถนน4เลน- รถไฟทางคู่
โดย...วงศ์สุภัทร คงสวัสดิ์
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 14:28 น.
หลายต่อหลายคนเริ่มสับสนถึงที่มาที่ไปในการพัฒนาโครงการถนน 4 เลนทั่วประเทศและโครงการรถไฟทางคู่ ว่า เกิดในยุคใด สมัยใคร มีแนวคิดและวิธีการดำเนินงานอย่างไร จึงได้ย้อนกลับไปสืบค้นและสอบถามคนคิดเรื่องนี้หรือต้นฉบับพิมพ์เขียวโดยตรง นั่นคือ พ.อ.วินัย สมพงษ์ อดีตรมว.คมนาคม สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี (ชวน1) ระหว่างปี 2535-2537
พ.อ.วินัย เล่าว่า ช่วงนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นรมว.คมนาคม จากสัดส่วนของพรรคพลังธรรม ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจำนวน 47 ที่นั่ง พร้อมกับได้รับคำสั่งให้ทำการบ้านเกี่ยวกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งพ.อ.วินัยขอย้อนเล่าถึงความเจ็บปวดสมัยเด็ก เป็นเด็กบ้านนอกเกิดที่อุบลราชธานี แต่มาเติบโตเรียนหนังสือที่นครราชสีมา และช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดสงครามโลก การเดินทางลำบาก ยังใช้เกวียน ถนนมีแค่ 2 เลนแคบๆ
เมื่อโตขึ้นได้ทุนไปร่ำเรียนถึงอเมริกาได้เห็นถนน 4 เลน รถไฟสี่รางทางคู่ ดังนั้น จึงคิดนโยบายสร้างถนน 4 เลนทั่วประเทศ โดยระยะที่ 1 เริ่มจาก ขยายไปใน 4 ทิศทาง ได้แก่ กรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-หนองคาย กรุงเทพ-ตราด และกรุงเทพ-นราธิวาส วงเงินลงทุนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท
จากนั้น จึงสานต่อโครงการถนน 4 เลนระยะที่ 2 เป็นลักษณะตารางหมากรุก โดยสร้างทางเชื่อมด้านตะวันตก-ตะวันออก หรือที่เรียกว่า อีสต์-เวสต์ คอริดอร์ เช่น เส้นทางตาก-พิษณุโลก ขอนแก่น-มุกดาหาร เป็นต้น วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท
คมนาคมเซ็นMOUเกษตรฯดันใช้ยางพาราในโครงการรัฐช่วยชาวสวนยาง
เล็งใช้งบพ.ร.บ.เงินกู้ เยียวยาภาคขนส่งจมพิษโควิด 7 หน่วยงาน ขอแล้ว 7พันล้าน
หลังจากที่คิดทำโครงการ 4 เลนแล้ว จึงหันมาเริ่มคิดทำโครงการ 4 รางทางคู่ หรือโครงการรถไฟทางคู่ที่เรียกกันในปัจจุบัน เพราะคิดว่า เมื่อการพัฒนาก่อสร้างและขยายถนนเรียบร้อยแล้ว และเห็นว่า ตัวเมืองโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร(กทม.) เจริญเติบโตมากขึ้น ดังนั้น ระบบต่อไปที่จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งคน-สินค้าได้มากที่สุดก็คือระบบราง
ก่อนหน้าผม คนที่ทำถนน 4 เลน ก็มีจอมพล ป.พิบูลสงครามทำถนนราชดำเนิน มีรมต.บางคนทำถนน 4 เลนเข้าบ้านตัวเอง แต่เมื่อผมเป็นรมต.เห็นการเดินทางในไทยลำบาก จึงคิดทำโครงการแฝด ถนน 4 เลน รถไฟสี่รางทางคู่ ซึ่งถ้ารัฐบาลชุดต่อๆ มาเข้ามาสานต่อโครงการก็คงเสร็จไปตั้งแต่ปี 2547 แล้ว ไม่ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
รัฐบาลชุดต่อๆ มาไม่ได้สานต่อโครงการถนน 4 เลน และรถไฟทางคู่ ทำให้พ.อ.วินัย เห็นว่า ส่วนตัวต้องการให้นักการเมืองเหมือนช่างมุงหลังคา โดยให้คนมาสานต่องานต่อๆ กันไป วันนึง เมื่อฝนตกจะได้ไม่มีน้ำฝนร่วงใส่หัว ไม่ใช่ใครคิด คนนั้นทำ แต่สามารถทำงานต่อกันได้โดยไม่คิดว่าเป็นผลงานใคร เพราะสิ่งที่ทำคือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน
พร้อมกับยกตัวอย่าง โครงการมอเตอร์เวย์ สาย กรุงเทพ-ชลบุรี ซึ่งต่อมามีโครงการต่อเนื่อง เช่น มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-บ้านโป่ง แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล กลับไม่ทำ โดยขณะนั้นมีแผนทำโครงการแหลมผักเบี้ยแทน จนในที่สุดก็ไม่มีการสร้าง และสุดท้ายนำมาปัดฝุ่นใส่พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี
อย่างไรก็ตาม พล.อ.วินัย กล่าวว่า รู้สึกขอบใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะเข้ามาสานต่อโครงการต่างๆ ที่ได้คิดได้วางแผนไว้นานแล้ว เพราะคิดว่าคสช.คงไม่เหมือนนักการเมืองที่ไม่เข้าท่า ที่ขโมยความคิดคนอื่น แต่ใครคิดเราก็ให้เกียรติ และคนที่นำโครงการต่างๆ มาทำ ล้วนสร้างกุศลให้คนไทยทั้งสิ้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 18/06/2020 8:13 am Post subject: |
|
|
17 มิ.ย.63 หลังเสร็จจากสำนักโครงการฯ ก็มาลงพื้นที่ แม้มีฝนตก แต่ก็ไม่ยกเลิกภารกิจ ...อุโมงค์ที่1 ฝั่งหินลับ ระยะทาง 5.2 กม. ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
ป.ล.ฝั่งซ้ายภาพ เจาะได้ 1,123 เมตร จาก 2,464 เมตร (จากฝั่งหินลับเข้าไป และอีกครึ่งทางเจาะจากทางมาบกะเบาเข้ามา) ส่วนฝั่งขวาได้ 925 เมตร จาก 2,464 เมตร ช้ากว่าเนื่องจากมีเรื่องธรณีวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3130952003618390&set=a.2789611361085791&type=3 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 18/06/2020 5:36 pm Post subject: |
|
|
กรมรางฯ บุกพื้นที่โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบาชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 และ 3 พร้อมย้ำผู้รับจ้างเน้นความปลอดภัย-จัดสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้พิการ-ผู้สูงอายุ
18 มิถุนายน 2563
...รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ระบุว่า วานนี้ (17 มิถุนายน 2563) นายทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางราง ได้ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี ศึกษางานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบาชุมทางถนนจิระ โดยมีนายโอภาส อาภรณ์ชยานนท์ รองผู้จัดการโครงการด้านวิศวกรรมโยธาและระบบรางกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา AMWW และนายดำรงศักดิ์ ปิ่นรัตน์ พนักงานเทคนิค 8 ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยพนักงานบริษัทที่ปรึกษาและบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างให้การต้อนรับ
สำหรับความคืบหน้าในปัจจุบันนั้น
ช่วงสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบาคลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้าง 7,560 ล้านบาท ปัจจุบันมีความคืบหน้า 70.29% เร็วกว่าแผน 2.78% กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 31 ม.ค. 2565 และ
สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟลอดผ่านภูเขา จำนวน 3 อุโมงค์ ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้าง 9,290 ล้านบาท ปัจจุบันมีความคืบหน้า 42.22% เร็วกว่าแผน 0.32% กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 30 ธ.ค. 2564
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้เน้นย้ำให้บริษัทที่ปรึกษาฯ และผู้รับจ้าง ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการก่อสร้าง รวมถึงการขุดเจาะและการระเบิดเพื่อการก่อสร้างอุโมงค์ และมาตรการการอพยพออกจากอุโมงค์ และทางยกระดับ กรณีเกิดเหตุขัดข้อง/อุบัติเหตุ/เหตุฉุกเฉิน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นชอบแล้ว ตลอดจนพิจารณาจัดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่จะมาใช้บริการเมื่อเปิดใช้งานด้วย
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/705271973583083?__tn__=-y.g |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|