View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 08/06/2015 4:12 am Post subject:
ชมภาพการเดินทางจากกรุงปักกิ่ง ไปกรุงมอสโควตามทางรถไฟสาย สาย ทรานไซบีเรีย และ ทางสายทรานสมองโกเลียได้ที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/33694314
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 13/12/2016 8:19 pm Post subject:
หวังขยายทางรถไฟ สายทรานสไซบิเรียไปเกาะ ซักการิน ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อ ขนก๊าซ และ ถ่านหิน ไปขายญี่ปุ่น แทนการขนทางเรือในฤดูหนาวที่ หนาวจนทะเลเป็นน้ำแข็ง เอาเรือออกไม่ได้
ตอนนี้ทางรถไฟสาย JR Soya Line ยาว 259 กิโลเมตร จากสถานี Wakkanai ที่อยู่เหนือสุด และ สถานี Asahikawa Station กำลังโดนสั่งปิด เพราะ คนมาเที่ยวน้อยเหลือเกิน
http://www.asahi.com/ajw/articles/AJ201612120056.html
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 22/01/2021 11:06 am Post subject:
10 สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับการเดินทางรถไฟสายทรานไซบีเรีย
โดย hardcorebackpacker
19 มกราคม 2564 เวลา 22:00 น.
ข้อที่ 1.จุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด
ถ้าพูดถึงเส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรียแล้ว ส่วนมากเราก็จะนึกถึงการเริ่มต้นจากปักกิ่ง (Beijing) ไปถึงมอสโก (Moscow) แต่ในความจริงแล้วเส้นทางรถไฟจะเริ่มจากวลาดิวอสต็อก (Vladivostok) เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย (Russia) อยู่ใกล้กับเกาหลีเหนือ เมืองนี้คือเมืองแรกที่จะตรงไปจนถึงมอสโก (Moscow)
และเส้นทางต่อมาที่เป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือเส้นทางจากปักกิ่ง (Beijing) ไปถึงมอสโก (Moscow) และตรงจุดนี้เองเราจะเรียกว่า เส้นทางรถไฟสายมองโกเลีย (Trans-Mongolia) ก็คือจากปักกิ่งไป อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย และไปสิ้นสุดที่มอสโก (Moscow) ประเทศรัสเซีย
ข้อที่ 2.Time Zone
เรื่องนี้สำคัญอย่างมาก เนื่องจากประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่มาก มีเวลาเป็นสิบไทม์โซน จึงมีการจัดให้ใช้เวลาแค่ 1 ไทม์โซนเท่านั้น คือไทม์โซนของมอสโก ไม่ว่าเราจะอยู่เมืองไหนก็ตาม แต่เวลาการขึ้นรถไฟให้ใช้เวลาของมอสโกเป็นหลัก อย่าดูเวลาท้องถิ่นของแต่ละที่ของประเทศรัสเซีย แต่ถ้าหากเป็นเมืองจีน และมองโกเลีย ให้ใช้เวลาท้องถิ่น เรื่องนี้ขอย้ำอีกครั้งว่า ห้ามพลาดเด็ดขาด!! เพราะจะส่งผลให้เราตกรถไฟ หรือเสียเวลาไปนั่งรอรถไฟเป็นชั่วโมงได้เลย
ข้อที่ 3.บรรยากาศบนรถไฟ
ซึ่งบนรถไฟเนี่ย จะมีหลาย Class มากกกก ไม่ว่าจะเป็น 1 เตียง 2 เตียง 4 เตียง หรือ 6 เตียง ผู้คนบนรถไฟก็จะเป็นคนรัสเซียมีทั้งแบบเดินทางทำงาน และเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นรถไฟที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกและมีความยาวที่สุดในโลก ทำให้ผู้คนที่มาใช้รถไฟมีความหลากหลายมากต่อไปเป็นเรื่องของโทรศัพท์ เราสามารถใช้โทรศัพท์ได้ปกติบนรถไฟ แต่เมื่อออกนอกเมืองสัญญาณจะเบามาก แค่แบบพอใช้ได้
อีกเรื่องที่ต้องบอกคือ บนรถไฟน่าเบื่อมากกกกกก เบื่อแล้วเบื่ออีก!! ไม่มีความบันเทิงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีเสียงเพลง เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปเพื่อบันเทิงส่วนตัวของเราเอง แต่บนรถไฟเค้ามีปลั๊กให้ด้วยนะ (อันนี้ลืมบอกในคลิป)
ในส่วนของห้องน้ำมีแบบพรืดลงไปเลย และชักโครกดีๆ ก็มีหมด สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือทิชชู่ ถ้ามีทิชชู่ไปถือว่ารอดละ
ข้อที่ 4.ระยะเวลาบนรถไฟ
- Beijing - Ulaanbaatar ≈ 27 - 30 hours
- Ulaanbaatar - Irktusk ≈ 35 hours
- Irktusk - Kazan ≈ 69 hours
- Kazan - Moscow ≈ 6 - 8 hours
- Vladivostok - Moscow 6 - 7 days
*เดินทางตั้งแต่ต้นสาย ไปจนสุดสายทางรถไฟ
**เวลาดังกล่าว เป็นเวลาโดยประมาณ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และปัจจัยอื่นๆ
ข้อที่ 5.ควรมีเวลาเท่าไร
สำหรับตูนคิดว่าถ้าหากใครอยากจะแค่นั่งรถไฟเฉยๆ ตูนไม่แนะนำ เพราะว่ามันไม่มีอะไร และค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นเราควรจะแวะตามเมืองต่างๆ เล็กๆ น้อย และอาจจะได้เที่ยวมอสโกยาวๆ ซึ่งเวลาที่น้อยที่สุดควรจะเป็น 14 วันขึ้นไป ถึงจะได้เที่ยวด้วย
ข้อที่ 6.ฤดูไหนน่าเที่ยว
รถไฟสายทรานไซบีเรียจริงๆ แล้วเที่ยวได้หมดทุกฤดู แต่บรรยากาศจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาลต่างๆ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ จะคนเยอะทำให้จองตั๋วได้ยาก แต่ถ้าในช่วงที่ตูนไปจะเป็นฤดูหนาว คนจะน้อย ร้านค้าปิดค่อนข้างเยอะ แต่ข้อดีคือมันสวยแบบฤดูหนาวเลย รับรองว่าต้องชอบบบบ ความรู้สึกแบบวินเทอร์ มองออกไปเจอหิมะหนาๆ ป่าต้นสนซึ่งตูนประทับใจมาก แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองไปฤดูอื่นเหมือนกันนะ
ข้อที่ 7.เมืองที่ต้องแวะ
จริงๆ มีหลายเมืองมากที่น่าสนใจ มีเป็นสิบๆ เมืองเลยแหละ ตูนขอยกมาแค่ 4 เมืองที่คิดว่าควรจะไปมาให้ก่อนนะ แต่จากประสบการณ์คือตูนเคยไปมาแค่ 2 เมือง เนื่องจากเวลาไม่พอ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะแวะทุกเมืองเลย แล้วจะกลับมาเล่าให้ทุกคนฟัง
1.เมือง Irktusk ประเทศรัสเซีย เพราะเป็นจุดที่จะพาไปทะเลสาบน้ำแข็ง
2.เมือง Novosibirsk เป็นเมืองขนาดใหญ่ อยู่ในไซบีเรีย จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะให้เราไปเที่ยว เช่น โบสถ์สวยงามแบบรัสเซียและบ้านเมือง สวนอันสวยงาม
3.เมือง Yekaterinburg เป็นจุดแบ่งระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชีย มีหมุดปักอยู่ และเป็นเมืองที่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง และครอบครัว ได้สวรรคตลงที่นี่โดยการลอบสังหาร
4.เมือง Kazan เป็นเมืองที่สวยมากกกกก เป็นเมืองมุสลิมของรัสเซีย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ปั๊ว ปัง มีโบสถ์สีฟ้า มีคาซานเครมลิน บ้านเมืองเป็นสไตล์ยุโร๊ปยุโรปของรัสเซีย มีอะไรหลายๆ อย่างที่ควรจะไป เมืองนี้นับว่าไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ถ้าสนใจลองเสิร์ชรูปหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือจะทักมาถามก็ได้นะ แต่แนะนำจริงๆ ว่าไม่ควรพลาดสี่เมืองนี้
ข้อที่ 8.ธรรมชาติที่ต้องไป
ทะเลสาปน้ำแข็ง (Lake Baikal) ก็คือเดินทางออกจากเมืองอีร์คุตสค์(Irktusk) ช่วงที่ตูนไปทะเลสาปเป็นน้ำแข็งสวยมากกกก ต้องเดินฝ่าน้ำแข็งไป ต้องไปตกปลาในน้ำแข็งโอมุที่หนาเป็น 10 เมตร ตะลุยทุ่งน้ำแข็ง อันนี้น่าไปมาก แบบในชีวิตที่ไม่เคยเห็นทะเลสาปน้ำแข็งมาก่อนเป็นครั้งแรก ว้าวมากกกกก แล้วธรรมชาติคือดีมากกกกก สวยมากกกกก คือต้องไป It's a must. ที่ต้องไปแวะในไซบีเรียเลย แต่ถ้าเป็นฤดูร้อน เราอาจจะนั่งรถไฟเลียบไปกับทะเลสาป และมีโอกาสเห็นแมวน้ำ ที่เป็นแมวน้ำจืดที่เดียวในโลก และอยู่ในประเทศรัสเซีย อันนั้นก็น่าจะดีคนละแบบกัน
ข้อที่ 9.เสบียง
เนื่องจากตูนไปฤดูหนาวตู้เสบียงเลยปิดให้บริการ ดังนั้นเราจะต้องเตรียมเบียงไปให้เพียงพอ กับสิ่งที่เราต้องกิน ซื้อของขึ้นไปให้เพียงพอ แต่ว่ามันมีโอกาสที่จะซื้อได้เหมือนกันในระหว่างการเดินทาง ในขณะที่รถไฟจอดเค้าจะอนุญาตให้เราวิ่งลงไปซื้ออะไรนิดๆ หน่อยๆ ที่ตู้สะดวกซื้อที่อยู่ตามชานชาลา และบนรถไฟมีบริการน้ำร้อน ให้ตลอดเวลา ถ้าเรามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือของที่ต้องใช้น้ำร้อน ก็สามารถใช้ได้ มีบริการไมโครเวฟ และอาจจะมีขายของจิปาถะนิดหน่อย เป็นพวกขนมเล็กๆ น้อยๆ ก็มีอยู่บ้าง
ข้อที่ 10.ราคา
อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้
ค่าตั๋วจาก Beijing - Ulaanbaatar มองโกเลีย
280 USD ≈ 9,300 - 9,500 THB
ค่าตั๋วจาก Ulaanbaatar - Irktusk
2,900 THB
ค่าตั๋วจาก Irktusk - Kazan
10,426 RUB ≈ 4,300 - 4,500 THB
ค่าตั๋วจาก Kazan - Moscow
2,059.5 RUB ≈ 840 THB
อันนี้ แถมเนื่องจากอันนี้ไม่ได้อยู่ในรถไฟสายทรานไซบีเรียละ
ค่าตั๋วจาก Moscow - Saint Petersburg
1,999.7 RUB ≈ 800 THB
https://www.youtube.com/watch?v=MOLrWAFWprQ
Back to top