View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 13/07/2020 3:10 pm Post subject:
เริ่มแล้ว!!รถไฟไฮสปีดโคราช-หนองคาย
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์
13 กรกฎาคม 2563
*รฟท.ระดมความคิดเห็น 4 จังหวัด *นั่งฟินจากกรุงเทพฯแค่ 3 ชม.!
ร.ฟ.ท.กางผังรถไฟ ไทย-จีน ระยะ 2 ช่วงโคราช-หนองคาย เปิดฟังความเห็นชาวอีสาน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 13 กรกฎาคม 2563 15:06
ปรับปรุง: 13 กรกฎาคม 2563 16:02
ร.ฟ.ท.กางผังออกแบบแนวเส้นทางรถไฟ ไทย-จีน ระยะ 2 นครราชสีมา-หนองคาย เปิดเวทีฟังเสียงประชาชน 4 จังหวัดอีสานครั้งที่ 1 ประเดิมชาวโคราช ก่อนเดินสาย 14-16 ก.ค.ที่ขอนแก่น-อุดรธานี-หนองคาย
วันนี้ (13 ก.ค.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดประชุมฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมฯ โดยมีการนำเสนอสาระสำคัญวัตถุประสงค์ ขอบเขตการดำเนินการ แผนการดำเนินโครงการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ที่เข้าร่วมประชุม
ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดงานโยธารถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทางประมาณ 356 กิโลเมตร แนวเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัดคือ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย
มีจำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย และมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่งบริเวณสถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่นาทา จ.หนองคาย พร้อมด้วยหน่วยซ่อมบำรุงทาง 4 แห่ง ที่สถานีบ้านมะค่า จ.นครราชสีมา สถานีหนองเม็ก จ.ขอนแก่น สถานีโนนสะอาด จ.อุดรธานี และสถานีนาทา จ.หนองคาย โดยออกแบบขนาดรางเป็น 1.435 เมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 241 แห่ง ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงหนองคาย 3 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งเป็นการพัฒนาเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และจีน อีกด้วย
ส่วนสถานีมีแนวคิดในการออกแบบให้ผสมผสานแสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นภาคอีสานและให้สอดคล้องกับสถานีรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา และสถานีรถไฟทางคู่ปัจจุบัน
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ยังจะต้องออกแบบให้สอดคล้องกับโครงการระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ซึ่งออกแบบตามมาตรฐานระบบรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอาจทำให้รายละเอียดของโครงการระยะที่ 2 เปลี่ยนแปลงไปจากที่นำเสนอไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดทำไว้ จึงจำเป็นต้องทบทวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันและแก้ไขสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดให้มีการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียตามกระบวนการมีส่วนร่วม
โดยได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นในทุกจังหวัดตามแนวเส้นทางโครงการ โดยวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 จะจัดการประชุมที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 จะจัดการประชุมที่ จ.อุดรธานี และวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 จะจัดการประชุมที่ จ.หนองคาย จากนั้นจะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีก 1 ครั้ง เพื่อนำเสนอผลการศึกษาโครงการฯ ในขั้นตอนต่อไปให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/973698893068590 Last edited by Wisarut on 13/07/2020 8:06 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 13/07/2020 6:22 pm Post subject:
เรื่องเล่าจากดำรง : สถานีรถไฟความเร็วสูงที่อยุธยา ต้องสร้างอย่างไม่ทำลายคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ข่าวข่าวภาคกลาง
Spring News
จันทร์ที่ 13 กรกฎาคม 2563 เวลา 14:49 น.
ดำรง พุฒตาล สื่อมวลชนอาวุโส อดีตสมาชิกวุฒิสภา เล่าถึงปัญหาในการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงที่อยุธยา หากไม่มีการปรับเปลี่ยนไปยังพื้นที่ที่เหมาะสม จะเป็นการทำลายคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของสถานีรถไฟอยุธยา รวมถึงจะส่งผลกระทบกับ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก
โดยดำรงได้ถ่ายทอดผ่านทางสปริงนิวส์ดังต่อไปนี้
เมื่อช่วงวันหยุดลองวีคเอนด์ ผมได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนคือ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านผมอยู่บริเวณเกาะเมืองอยุธยา ที่เคยเป็นราชธานี
ทุกเช้าผมจะไปออกกำลังกายในสวนสมเด็จย่า และได้พบปะเพื่อนฝูง คนรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาก็เล่าให้ฟังว่า จะมีการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง (ความเร็ว 250 กม./ชม.) โดยใช้งบประมาณ 1.47 แสนล้านบาท
ทางรถไฟเส้นนี้จะผ่านสถานีอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะเมืองอยุธยา แต่อย่าลืมว่า องค์การยูเนสโกประกาศให้ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นมรดกโลกซึ่งคำว่ามรดกโลกมีคุณค่าและมีความหมายเป็นอย่างมาก
จากการพูดคุยกันทำให้ผมทราบว่า เมื่อมีทางรถไฟความเร็วสูงผ่าน ก็จะต้องสร้างอาคารสูงคร่อมสถานีรถไฟเดิม (สถานีรถไฟอยุธยา) ซึ่งอาคารที่จะสร้างใหม่นี้ จะสูงประมาณ 45 เมตร หลังจากนั้นก็จะทำเป็นสกายวอล์ค เข้าไปถึงตลาดเจ้าพรหม และไปบริเวณเกาะเมืองอยุธยา หรือบริเวณมรดกโลก แล้วผมก็ได้ยินมาว่า จะมีการขยายถนนหน้าสถานีรถไฟเป็น 6 เลน
โดยที่ดินบนเกาะเมืองอยุธยา หรือบริเวณรอบๆ จะเต็มไปด้วยวัดร้าง ที่ดินราชพัสดุ ที่ดินของกรมธนารักษ์ ที่ดินของเอกชนและประชาชนทั่วไป
สิ่งที่น่ากังวลก็คือ เมื่อมีการขยายถนน ก็จะรุกล้ำเข้าไปในเขตวัดร้าง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก
และในส่วนของสถานีรถไฟอยุธยาเดิม ที่จะสร้างอาคารสูงคร่อมนั้น ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยสถานีดังกล่าวสร้างตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ก็ได้มีการปรับปรุง โดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนเป็นผู้ออกแบบ
จากการพูดคุยกันจึงมีข้อเสนอแนะว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเปลี่ยนไปสร้างอาคารสูงที่สถานีบ้านม้า หรือสถานีบ้านภาชี ซึ่งที่ดินบริเวณข้างเคียงเป็นท้องนา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟอยุธยา เกาะเมืองอยุธยา รวมถึงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ไปประมาณ 3 กิโลเมตรกว่า
โดยผมคิดว่า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อย่าง กระทรวงวัฒนธรรม , สำนักนายกรัฐมนตรี , กรมศิลปากร , จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องตื่นตัวกับเรื่องนี้ ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก
หรือในส่วนของหน่วยงานที่ดูแลโครงการ อย่าง กระทรวงคมนาคม ก็ต้องศึกษาว่า อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ก็เพราะมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เป็นแม่แบบของสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ พระเจ้าอู่ทองทรงเลือกบริเวณนี้เป็นพระนคร ก็เพราะมีชัยภูมิที่เหมาะสม มีแม่น้ำล้อมรอบ 3 สาย คือ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นราชธานีถึง 417 ปี จึงมีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก
ดังนั้นในการพัฒนาต่างๆ สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญควบคู่ไปด้วย ก็คือการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และในความเห็นของผมจากกรณีนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ก็คือหน่วยงานราชการ รวมถึงรัฐบาล ที่ต้องมีจิตสำนึก เข้าใจและเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของโบราณสถาน ไม่ใช่มุ่งแต่สร้างทาง สร้างถนน สร้างอาคาร แล้วทำลายของดีของเรา ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก
ก็ได้แต่แสดงความคิดเห็นของผมอย่างนี้แหละครับ เป็นเพียงความคิดเห็นของคนคนหนึ่ง โดยที่ผ่านมาผมได้พูดเสมอว่า แม้ผมเคยเป็นโฆษก เป็นพิธีกร เป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่เมื่อหมดหน้าที่ บทบาทก็จบไป แต่สิ่งหนึ่งที่ลบล้างออกไปไม่ได้ก็คือความจริงที่ว่า ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ และเป็นคนพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งในฐานะที่ผมได้มีโอกาสไปประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก และได้ทราบว่าโบราณสถานหลายแห่งที่ยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกแล้ว แต่ขาดการดูแล ปล่อยให้มีอาคารหรือสิ่งก่อสร้างขึ้นมาใกล้ๆ จึงถูกถอดถอนจากการเป็นมรดกโลก โดยผมเชื่อว่า ไม่มีใครต้องการให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในบ้านเรา
ดังนั้นเราต้องให้ความสำคัญกับดูแลโบราณสถาน นำประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้มาเป็นแบบอย่างในการศึกษา อาทิ เยอรมนี และ อียิปต์ เป็นต้น เพื่อให้การพัฒนาที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างถูกทิศถูกทาง และสามารถรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่อาจสร้างขึ้นมาได้อีก ให้ดำรงคงอยู่สืบไป
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 14/07/2020 1:58 pm Post subject:
พอรถไฟความไวสูงไทยจีนเริ่มประชาพิจารณ์เฟสสอง ญี่ปุ่นก็เลยออกโรงขอให้ฟื้นฟูโครงการรรถไฟความไวสูง ไทยญี่ปุ่น ไปพิษณุโลกก่อนไปเชียงใหม่
https://www.youtube.com/watch?v=21_pq5-oB20
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 14/07/2020 11:36 pm Post subject:
รฟท.ประชาพิจารณ์รถไฟความเร็วสูงช่วงโคราช-หนองคาย ครั้งที่ 1
เศรษฐกิจภูมิภาค
วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 - 14:24 น.
การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเวทีฟังเสียงประชาชน 4 จังหวัด ภาคอีสานศึกษาแนวเส้นทางโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคายระยะทางรวม 356 กิโลเมตร ประกอบด้วยสถานีรถไฟ 5 สถานี สถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่งในอนาคตเตรียมพัฒนาเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ เชื่อมต่อการค้าการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป. ลาว และจีน
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องสีมาแกรนด์บอลรูม โรงแรมสีมาธานีจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย) เพื่อนำเสนอสาระสำคัญวัตถุประสงค์ ขอบเขตการดำเนินการแผนการดำเนินโครงการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชนเข้าร่วมการประชุม
นายสุวัฒน์ กันภูมิ หัวหน้าแผนกบริหารงานทั่วไปการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. อยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษา และออกแบบรายละเอียดงานโยธารถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย มีเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่มีความรวดเร็วและความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเกิดการการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทางให้เป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค
นอกจากนั้น เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป. ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศในขณะดำเนินการก่อสร้างโครงการ ยังสนับสนุนการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่โครงการดังกล่าว มีระยะทางประมาณ 356 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟจำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุตรธานี สถานีหนองคาย และมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่นาทา จ.หนองคาย พร้อมตัวหน่วยซ่อมบำรุงทาง 4 แห่ง ที่สถานีบ้านมะค่า จ.นครราชสีมา สถานีหนองเม็ก จ.ขอนแก่น สถานีโนนสะอาด จ.อุดรธานี และสถานีนาทา จ.หนองคาย โดยออกแบบขนาดรางเป็น 1.435 เมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 241 แห่งระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ถึงหนองคาย 3 ชั่วโมง 15 นาที ค่าเดินทางประมาณเที่ยวละ 1,170 บาท ขนาด 8 ตู้ต่อขบวน ความจุ 600 คนต่อขบวน
ส่วนรูปแบบแนวคิดการออกแบบสถานีมีแผนการดำเนินงานออกแบบให้มีการผสมผสาน แสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นภาคอีสานและให้สอดคล้องกับสถานีรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา และสถานีรถไฟทางคู่ปัจจุบัน
ทั้งนี้การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย จะต้องออกแบบให้สอดคล้องกันโครงการระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ซึ่งออกแบบตามมาตรฐานระบบรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอาจทำให้รายละเอียดของโครงการระยะที่ 2 เปลี่ยนแปลงไปจากที่นำเสนอไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่สำนักงาน นโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร (สนข.) ได้จัดทำไว้จึงจำเป็นต้องทบทวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปพร้อมทบทวนมาตรการป้องกัน และแก้ไขสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดให้มีการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียตามกระบวนการมีส่วนร่วม
ทั้งนี้ รฟท.ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการการมีส่วนร่วม โดยได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นในทุกจังหวัดตามแนวเส้นทางโครงการโดยวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 จะจัดการประชุมที่ จ.ขอนแก่น วันที่ 15 กรกฎาคม 2553 จะจัดการประชุมที่ จ.อุดรธานี และวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 จะจัดการประชุมที่ จ.หนองคาย จากนั้นจะมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอีก 1 ครั้ง เพื่อนำเสนอผลการศึกษาโครงการฯ ในขั้นตอนต่อไปให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 15/07/2020 10:43 pm Post subject:
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นโครงการ รถไฟความเร็วสูง ช่วงที่ 2 โคราช-หนองคาย ส่วนอุดรธานี วันที่ 15 กรกฎาคม 63
จัดที่ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงนิทรรศการ จังหวัดอุดรธานี
ใครที่ยังไม่ทราบ เช้านี้รีบไปนะครับ มากระตุ้นอีกทีจากโพสต์หลัก
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/974861989618947
งานประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น โครงการรถไฟความเร็วสูง ตอนที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคาย พื้นที่จังหวัดหนองคาย วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 โรงแรมรอยัล นาคารา หนองคาย
มาฝากงานประชาสัมพันธ์โครงการอีกจังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายของรอบที่ 1 คือ จังหวัดหนองคาย วันพรุ่งนี้ ซึ่งจะจัดที่โรงแรมรอยัล นาคารา หนองคาย
เลยมาชวนให้เพื่อนๆในพื้นที่เข้าไปร่วมประชุมกับ และแสดงความคิดเห็นกับโครงการรถไฟความเร็วสูงซึ่งน่าจะได้ใช้ภายในปี 2570
มาดูรายละเอียดของโครงการรถไฟความเร็วสูง ภายในพื้นที่จังหวัดหนองคาย
ก่อนอื่นเรามาดูที่สถานีตัวสถานีรถไฟความเร็วสูงหนองคาย
- ตำแหน่งของสถานีจะอยู่บริเวณสถานีรถไฟหนองคายในปัจจุบัน เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟทางคู่และสถานีความเร็วสูงโดยตรง
- ตัวอาคารสถานีหนองคายมีการออกแบบใหม่ซึ่ง จากในรูปเป็นแบบร่างแบบแรก (ใจเย็นๆ อย่าพึ่งว่าเค้า ที่ปรึกษาแจ้งว่ามีการแก้แบบอีกรอบ)
ซึ่งพื้นที่ภายในสถานีรถไฟหนองคายค่อนข้างสวยเลยครับ อันนี้ต้องชม
แต่ข้างนอกอาจจะไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากเท่าไหร่ ซึ่งมีความแตกต่างของแต่ละจังหวัดแค่เพียงในรายละเอียดของสถานีแต่โครงสร้างสถานีเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน
อาคารสถานีรถไฟความเร็วสูงมี 3 ชั้นคือ
- ชั้น 1
เป็นทางเข้าหลักของสถานี้รถไฟความเร็วสูงหนองคายและเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟทางคู่ ซึ่งเท่ากับโครงการสามารถเข้าสถานีได้ทั้ง ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของสถานี
ที่สำคัญมากและแตกต่างจากสถานีอื่นๆในโครงการคือ ที่สถานีหนองคาย จะมีพื้นที่ ตม. ขาเข้า-ขาออก ระหว่างประเทศ อยู่บริเวณนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารระหว่าง ไทย-ลาว ก่อนจะมุ่งหน้าข้ามสะพานมิตรภาพแห่งใหม่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟลาว-จีน
- ชั้น 2
เป็นชั้นโถงรอคอยของผู้โดยสาร ซึ่งแยกระหว่างในประเทศและระหว่างประเท(ไทย-ลาว)
ซึ่งแยกทางขึ้น-ลง ชานชาลาออกจากกันตามมาตรฐาน ตม. ที่ต้องมีการตรวจคนเข้าเมืองก่อน ข้ามพื้นที่
พร้อมกับพื้นที่โถงรอคอยปรับอากาศ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
- ชั้น 3
ในสถานีหนองคายจะมีชานชาลาทั้งหมด 5 ชานชาลา คือ
- ในประเทศ 4 ชานชาลา
- ระหว่างประเทศ 1 ชานชาลา
- ทางแล่นผ่านของรถไฟสินค้าอีก 1 ทาง
รูปแบบทางวิ่งในพื้นที่จังหวัดหนองคาย
จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ
- ทางระดับดิน จากสถานีหนองตูม จังหวัดอุดรธานี ถึง ทางหลวง 211 จังหวัดหนองคาย
- ทางยกระดับ จากทางหลวง 211 ถึงสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งใหม่
ความพิเศษของสถานีรถไฟหนองคาย คือจะมีจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ ไทย-ลาว-จีน
เพื่อมาเปลี่ยนระหว่างรถไฟสินค้าขนาดราง 1.435 เมตร ของลาว มาเปลี่ยนถ่ายกับรถไฟสินค้าขนาดราง 1 เมตร ของไทย ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดของโครงการนี้
เพื่อสร้างมูลค่าการส่งออกระหว่าง ไทย-ลาว-จีน ตามแผนของเส้นทางสายไหมเส้นใหม่ (BRI)
ซึ่งจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้าจะอยู่ในพื้นที่สถานีรถไฟนาทาโดยจะมีเครื่องมือยกคอนเทนเนอร์แบบในโครงการ SRTO ของแหลมฉบัง บนย่านทางรถไฟ ขนาดราง 1 เมตร และ 1.435 เมตร
อีกส่วนที่สำคัญคือศูนย์ซ่อมบำรุงหนัก หนองคาย
ซึ่งเป็นจุดที่ 2 ที่มีในโครงการ อีกจุดคืออยู่ในโครงการส่วนที่ 1 ที่สถานีเชียงรากน้อย
จะอยู่บริเวณสถานีรถไฟนาทาเช่นกันกับจุดเปลี่ยนถ่ายรถไฟสินค้า
ซึ่งสถานีนาทานี้จะเป็นพื้นที่สนับสนุนของโครงการที่ใหญ่มาก
เดี๋ยวผมจะเอารายละเอียดมาสรุปให้ดูทั้งโครงการอีกทีครับ
สำหรับใครที่อยู่ในพื้นที่หนองคาย และมีผลกระทบจากโครงการ ก็อยากให้เข้าร่วมประชุมและรับฟังความคิดเห็นวันพรุ่งนี้ด้วยครับ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/975222949582851
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 16/07/2020 7:35 am Post subject:
รฟท.ลุยไฮสปีด 'อีสาน-อีอีซี' 3 แสนล.
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
รฟท. ลุย ไฮสปีด เฟส2 "อีสาน-ตะวันออก" 3แสนล้าน เปิดเวทีฟังเสียงชาวบ้าน-เอกชน โคราชมั่นใจบัวใหญ่เป็นจุดจอดหวั่นเกิดปัญหาซ้ำรอยรถไฟทางคู่ ต่อขยายไฮสปีดอีอีซี ลากถึงระยองก่อน
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและเอกชนในพื้นที่ หลังเดินหน้า เฟส 2 โครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง สายอีสานและตะวันออก เริ่มจากรถไฟไทย-จีนช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356กิโลเมตรมูลค่า กว่า2.2แสนล้านบาท และ ส่วนต่อขยาย รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ช่วง จังหวัดระยอง-จันทบุรีและตราด ระยะทางกว่า 200กิโลเมตรมูลค่า กว่า1แสนล้านบาท มุ่งเน้นยุทธศาสตร์กระจายความเจริญ เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เส้นทาง สายตะวันออก คาดว่าจะลากจากอู่ตะเภา ถึงจังหวัดระยอง จากนั้นจึงขยาย เส้นทางสู่ จันทบุรีและตราดตามลำดับ
ขณะเส้นทาง สายอีสาน เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63 ที่โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการออกแบบรายละเอียด โครงการการร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานครหนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมาหนองคาย โดยเป็นเวทีรับฟังเสียงประชาชน 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่เป็นแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และจ.หนองคาย มีระยะทางรวม 356 กิโลเมตร ซึ่งมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง อ.โนนสูง อ.คง อ.บัวลาย และ อ.บัวใหญ่ จำนวน 500 คนเข้าร่วมการปะชุมครั้งนี้
นายสุวัฒน์ กันภูมิ หัวหน้าแผนกบริหารงานทั่วไปรฟท. เปิดเผยว่า รฟท.อยู่ระหว่างศึกษาและออกแบบรายละเอียดงานโยธารถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางที่รวดเร็วและความปลอดภัยรวมทั้งการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทางให้เป็นศูนย์กลางความเจริญ ด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับลาว และจีน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและระหว่างประเทศ ในขณะดำเนินการก่อสร้างยังสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ มีระยะทางประมาณ 356 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟจำนวน 5 สถานี ได้แก่ อำเภอบัวใหญ่, บ้านไผ่, จ.ขอนแก่น, จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย และมีสถานีขนถ่ายสินค้า 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่นาทา จ.หนองคาย พร้อมหน่วยซ่อมบำรุงทาง 4 แห่ง ที่สถานีบ้านมะค่า จ.นครราชสีมา สถานีหนองเม็ก จ.ขอนแก่น สถานีโนนสะอาด จ.อุดรธานี และสถานีนาหา จ.หนองคาย ออกแบบขนาดรางเป็น 1.435 เมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 241 แห่ง ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึง จ.หนองคาย ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที และการออกแบบสถานีได้ผสมผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นภาคอีสานและสอดคล้องกับสถานีรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 และสถานีรถไฟทางคู่ รวมมูลค่าโครงการกว่า 2.2 แสนล้านบาท
ทั้งนี้การดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับโครงการระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานครนครราชสีมา ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระบบรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีน อาจทำให้รายละเอียดโครงการระยะที่ 2 เปลี่ยนแปลงจากที่นำเสนอ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จำเป็นต้องทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไปพร้อมจัดหาแนวทางป้องกันและแก้ไขสิ่งแวดล้อม และการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 คาดแล้วเสร็จประมาณปี 2569 ส่วนโครงการระยะที่ 2 ได้รับการยืนยันสถานีชุมทางบัวใหญ่ ได้กำหนดเป็นจุดจอดอย่างแน่นอน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 16/07/2020 3:09 pm Post subject:
รฟท. เดินหน้าศึกษาไฮสปิดเทรน ระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคาย พัฒนาเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุน
16 ก.ค. 2563
รฟท. เดินหน้าศึกษาไฮสปิดเทรน ระยะที่ 2 ช่วงโคราช-หนองคาย พัฒนาเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุน
วันนี้ (16 ก.ค. 63) ที่ห้อง Convention โรงแรมรอยัล นาคารา หนองคาย จังหวัดหนองคาย นายศุภกร มูลสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการประชุมฟังความคิดเห็นของ ประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการความร่มมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย) เพื่อนำเสนอสาระสำคัญ วัตถุประสงค์ ขอบเขตการดำเนินการ แผนการดำเนินโครงการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุม
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างดำเนินโครงการศึกษาและออกแบบรายละเอียดงานโยธารถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย มีเส้นทางครอบคลุม 4 จังหวัด คือจ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ.หนองคาย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางที่มีความรวดเร็วและความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเกิดการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทางให้เป็นศูนย์กลางความเจริญทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาค นอกจากนั้นเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทยกับ สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ในขณะดำเนินการก่อสร้างโครงการยังสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชุนในพื้นที่
โครงการดังกล่าวมีระยะทางประมาณ 356 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟจำนวน 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี สถานีหนองคาย และมีสถานีขนถ่ายสินค 1 แห่ง บริเวณสถานีรถไฟนาทา จ.หนองคาย มีศูนย์ซ่อมบำรุงที่เชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และศูนย์ซ่อมบำรุงเบาที่นาทา จ.หนองคาย พร้อมด้วยหน่วยซ่อมบำรุงทาง 4 แห่ง ที่สถานีบ้านมะค่า จ.นครราชสีมา สถานีหนองเม็ก จ.ขอนแก่น สถานีโนนสะอาด จ.อุดรธานี และสถานีนาทา จ.หนองคาย โดยออกแบบขนาดรางเป็น 1.435 เมตร มีจุดตัดทางรถไฟ 241 แห่ง ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงหนองคาย 3 ชั่วโมง 15 นาทีการรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 17/07/2020 8:06 am Post subject:
บอร์ดรถไฟเคาะ นภาก่อสร้าง ลุยไฮสปีดไทยจีนช่วง โคกกรวด-โคราช มูลค่า 7.7 พันล้าน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 - 22:58 น.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 16 ก.ค.2563 ที่ประชุมคณะกรรมการ ร.ฟ.ท. (บอร์ดรถไฟ) มีมติเห็นชอบงานโยธาในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพ นครราชสีมา สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ที่มีบริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 7,750 ล้านบาท หลังจากที่ประชุมมีข้อสงสัยถึงคุณสมบัติของผู้ได้รับการคัดเลือกและได้สอบถามข้อมูลไปที่กรมบัญชีกลางจนได้รับความกระจ่างแล้ว จึงได้เห็นชอบผลการประมูลสัญญานี้ในทีสุด
ทำให้ขณะนี้งานโยธาทั้ง 14 สัญญา เหลือเพียง 2 สัญญาที่อยู่ในกระบวนการ คือ งานสัญญาที่ 4-4 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงิน 7,664.629 ล้านบาท มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดอยู่ที่ 6,514.4 ล้านบาทต่ำกว่าราคากลางประมาณ 15% หรือลดลงไป 1,149.6 ล้านบาท
และสัญญาช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. วงเงินราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ระหว่างออกแบบแนวเส้นทางร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ด้านงานสัญญา 2.3 สัญญาวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท กำลังเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณา หลังจากนั้นก็จะกำหนดจัดพิธีลงนามในสัญญาในประเทศไทยในช่วงเดือน ต.ค.นี้ และจะเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีด้วย
ส่วนรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ช่วงบางซื่อ-ชุมทางบ้านภาชี ที่ยังไม่ผ่านการพิจารณา เบื้องต้น ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กรมศิลปากรแล้ว กำลังรอท่าทีของกรมศิลปากร
ขณะที่ช่วงชุมทางบ้านภาชี นครราชสีมาที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโครงสร้างพื้นฐานทางบกและอากาศ (คชก.) แล้วนั้น อยู่ระหว่างรอเสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คาดว่าจะทยอยลงนามในสัญญาก่อสร้างให้ได้ทั้งหมดภายในปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ปรับแก้แผนพัฒนาที่ดินย่านสถานีธนบุรีประมาณ 21 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟบางกอกน้อยและโรงพยาบาลศิริราช โดยให้คิดเพิ่มเติมจากที่จะพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพ (Health&Wellness Hub) เพียงอย่างเดียว เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่มากกว่านี้
เพราะร.ฟ.ท.ไม่ใช่ดีเวล็อปเปอร์ จึงต้องการที่จะเห็นรูปแบบโครงการที่มากกว่านี้ และให้เปรียบเทียบรูปแบบการลงทุน 3 แบบ ได้แก่ ร.ฟ.ท.ลงทุนเอง, เอกชนร่วมลงทุน (PPP) และเปิดให้เช่าโดยใช้ระเบียบของร.ฟ.ท.ว่าแบบไหนคุ้มค่าที่สุด ทั้งนี้ มีการรายงานว่า อุปสรรคด้านการก่อสร้างที่จะกระทบกับสถานีรถไฟบางกอกน้อย ซี่งเป็นโบราณสถาน พบว่าไม่มีแล้ว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42749
Location: NECTEC
Posted: 20/07/2020 8:05 pm Post subject:
Market sounding โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกส่วนต่อขยาย ระยอง-จันทบุรี-ตราด วันที่ 24 กรกฎาคม 63 ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
20 กรกฎาคม 2563
วันนี้เอาความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกส่วนต่อขยาย ช่วงระยอง-จันทบุรี-ตราด ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
ซึ่งเพื่อนๆหลายๆคนถามว่า ทำไมรถไฟความเร็วสูงไม่ไประยอง เพราะมันติดปัญหา EHIA ผ่านนิคมมาบตาพุด เลยต้องตัดมาในโครงการส่วนต่อขยายนี้ครับ
ซึ่งงาน Market Soundings คือการวัดความสนใจของเอกชนต่อโครงการ และข้อแลกเปลี่ยนของโครงการถ้าเอกชนเข้ามาประมูล
เช่นค่าจ้างบริหาร ในกรณี PPP Gross cost หรือส่วนที่รัฐจะอุดหนุนในกรณีที่เป็น PPP Netcost
ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับประชาชนทั่วไปอย่างเราเท่าไหร่ แต่จะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการอีกมาก รวมถึงความเป็นไปได้ของโครงการด้วย
สำหรับเอกชนเจ้าไหนที่สนใจก็ลงทะเบียนเข้างานกรอกเอกสารได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ : กำหนดการประชุม-แบบตอบรับ-Market Sounding
สำหรับในส่วนของชาว ระยอง จันทบุรี และ ตราด จะมีการประชุม ประชาสัมพันธ์โครงการครั้งที่ 2
ในวันที่ 4-6 สิงหาคม 63 นี้
วันที่ 4 สิงหาคม 63 สำหรับชาวตราด ที่โรงแรมเอวาดา
วันที่ 5 สิงหาคม 63 สำหรับชาวจันทบุรี ที่โรงแรมเคพีแกรนด์
วันที่ 6 สิงหาคม 63 สำหรับชาวระยอง ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้
แล้วเดี๋ยวผมจะมาประชาสัมพันธ์งานอีกครั้งนึงครับ
Back to top