Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179366
ทั้งหมด:13490598
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 267, 268, 269 ... 388, 389, 390  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2020 11:04 am    Post subject: Reply with quote

น้ำท่วม อุโมงค์ลอดใต้รางรถไฟ
ที่ว่าการอำเภอพล

วันที่ 2 สิงหาคม 2563
เวลา 13.30 น. นายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอพล พร้อมด้วยนายอังคาร มุ่งเกิด ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองมะเขือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลหนองมะเขือ ลงพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหนองมะเขือ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น

ตามที่ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่ามีน้ำท่วมขังอุโมงค์ลอดใต้รางรถไฟทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้จากการตรวจสอบพบว่า ฟิวล์ของหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้จ่ายไฟเข้าสู่ระบบระบายน้ำขาด จึงได้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาพล มาดำเนินการแก้ไข และประสาน นายตรวจทางรถไฟจุดดังกล่าวเพื่อเข้ามาดำเนินการ แก้ไขระบบระบายน้ำซึ่งสามารถดำเนินการได้เมื่อเวลา 14:10น. ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมงสามารถระบายน้ำในอุโมงค์ได้หมดจากนั้นได้ร่วมกันทำความสะอาดดินโคลนในอุโมงค์แล้วเปิดให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ

เวลา 17.20 น. นาเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอพล พร้อมด้วย นายสุนันท์ รักษาชัฏผจก.กปภ.สาขาเมืองพล และนายอังคาร มุ่งเกิด ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันตรวจเช็คปริมาณน้ำในอ่าง เก็บน้ำบึงละเลิงหวายและพบว่าผลของพายุโชนร้อน ชินลากู ส่งผลให้ มีฝนตกสะสมทำให้มีปริมาณน้ำเข้าอ่างละเลิงหวายประมาณ 200,000 ลบ.ม.และมีปริมาณน้ำที่อยู่ในอ่างฯประมาณ300,000 ลบ.ม.รวมปริมาณน้ำที่อยู่ในอ่าง 500,000 ลบ.ม.และยังมีน้ำด้านนอกไหลเข้าอ่างฯอย่างต่อเนื่องอีกและ กปภ.สาขาเมืองพลได้มีการขุดสระพักน้ำดิบอีก100ไร่ที่ต.ท่านางแนว อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ได้ดำเนินการขุดเสร็จเรียบร้อยแล้วคาดว่าวันที่ 3 สค 2563จะดำเนินการสูบน้ำเข้ามากักเก็บไว้ในสระ100ไร่ชี่งมีความจุ 1,000,000 ลบ.ม.เพื่อกักเก็บไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งปี.2564เพื่อจ่ายน้ำให้กับประชาชน อ.พล และ อ.แวงน้อย ไม่ขาดแคลนน้ำต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/08/2020 9:56 am    Post subject: Reply with quote

'สภาพัฒน์'ซักยิบรถไฟทางคู่เฟส2คุ้มมั้ย!
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563

7เส้น1,483กม.2.67แสนล้าน ชงออกพรฎ.เวนคืนสายใหม่ส.ค.

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 รวม 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้างรวมกว่า 2.67 แสนล้านบาท ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ใน ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าของโครงการ และอาจต้องจัดอันดับความสำคัญของ 7 เส้นทาง ว่าจะเริ่มก่อสร้างเส้นทางใดก่อน โดยต้องสอดคล้องกับโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 1 ด้วย เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ขณะนี้โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 1 แล้วเสร็จ 2 เส้นทาง ได้แก่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เปิดให้บริการแล้ว และ ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย รวมระยะทาง 293 กม. ทำให้โครงข่ายรถไฟทางคู่ในไทยมีเพิ่มขึ้นจากเดิม 250 กิโลเมตร (กม.) เป็น 543 กม. หรือประมาณ 13.43% ทั้งนี้ รฟท. แจ้งว่าเส้นทาง ชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้าแก่งคอย จะเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ ส่วนที่เหลืออีก 5 เส้นทาง การก่อสร้างยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ หากก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 66 จะทำให้มีทางคู่เพิ่มขึ้นจาก 543 กม. เป็น 1,256 กม.

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขณะนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณากำหนดสัญญาก่อสร้างจาก 7 สัญญา เป็น 3 สัญญา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน เพราะหากปล่อยให้เป็น 7 สัญญาตามมติ ครม.เดิม เมื่อการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ ก็จะเกิดปัญหาต้องรอการส่งมอบพื้นที่เพื่อติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ทำให้การก่อสร้างภาพรวมอาจล่าช้าได้ ส่วนเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม นั้น ผ่านความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อเวนคืนที่ดิน และจัดทำเอกสารประกวดราคาต่อไป ทั้งนี้คาดว่าเดือน ส.ค.นี้ จะสามารถเสนอ ครม. เพื่อออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินทั้ง 2 เส้นทางได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ประกอบด้วย 1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.93 หมื่นล้านบาท, 2.ช่วงชุมทางถนนจิระอุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงินก่อสร้าง 3.66 หมื่นล้านบาท, 3.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.58 หมื่นล้านบาท, 4.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงินก่อสร้าง 2.3 หมื่นล้านบาท, 5.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.61 หมื่นล้านบาท, 6.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงินก่อสร้าง 5.79 หมื่นล้านบาท และ 7.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงินก่อสร้าง 7.86 พันล้านบาท.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2020 5:55 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'สภาพัฒน์'ซักยิบรถไฟทางคู่เฟส2คุ้มมั้ย!
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563


ลิงก์อยู่นี่ครับ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2670384863183015
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 06/08/2020 3:20 pm    Post subject: Reply with quote


เหตุผลที่ต้องปิดทางช่วงทำทางคู่ลพบุรี ไป ปากน้ำโพ
https://www.youtube.com/watch?v=9vnyfRZh5cQ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/08/2020 10:32 am    Post subject: Reply with quote

'ศักดิ์สยาม' ลั่นปีนี้คิกออฟแน่ซิ่ง 120 กม./ชม. ไฟเขียวแกร็บถูกกฎหมาย
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เข้าสู่ปีที่ 2 ของ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ"เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้นั่งเก้าอี้ใหญ่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กุมเม็ดเงินงบประมาณ ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท และโครงการใหญ่ในแผนงานที่เข้าคิวรอกดปุ่มอยู่หลายโปรเจ็กต์

จากเม็ดเงินและโครงการทำให้ "คมนาคม" เป็นที่คาดหวังจะนำเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็ยังไม่เป็นตามเป้าหมาย ด้วยปัจจัยแวดล้อม ยิ่งมีการระบาดของโควิด-19 มาซ้ำเติม ยิ่งทำให้เม็ดเงินที่เตรียมใส่ในโครงการต่าง ๆ ต้องโยกไปช่วยประเทศเยียวยาโควิด

เร่งประมูลสีส้ม-ม่วงใต้ให้จบปีนี้

ขณะที่การขับเคลื่อนการลงทุนของคมนาคมถึงสิ้นปี 2563 "ศักดิ์สยาม" ย้ำว่า จะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ให้ได้ตามเป้า และประมูลโครงการใหม่นับจากนี้ถึงเดือน ธ.ค. เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) จะได้เอกชนลงทุน PPP ในสิ้นปีนี้ สายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) จัดหารถเมล์ใหม่ ของ ขสมก. ด้านรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง อยู่ระหว่างการพิจารณา ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการลำดับความสำคัญและความคุ้มค่าของโครงการ คาดว่าส.ค.นี้จะเสนอทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง ให้ ครม.อนุมัติ ได้แก่ บ้านไผ่-นครพนม และเด่นชัยเชียงราย-เชียงของ ส่วนรถไฟไทย-จีน ต.ค.นี้จะเซ็นสัญญาก่อสร้าง 9 สัญญา

ทางคู่เฟส 2 ลุยต่อปีหน้า

"โครงการไหนยังผลักดันไม่สำเร็จปีนี้ จะผลักดันต่อในปี 2564 อาจจะช้าบ้าง เพราะเป็นการลงทุนโครงการใหญ่ ใช้เงินมาก ต้องหาช่องทางอื่น เช่น ดึงเอกชนร่วม PPP อย่างสายสีแดงที่กำลังสรุปแนวทางให้เอกชนลงทุนสร้างส่วนต่อขยายใหม่ 4 เส้นทาง วงเงิน 70,000 ล้านบาท รับภาระค่าก่อสร้างเดิม พัฒนาสถานีและรับสัมปทานเดินรถ ยังมีมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ"

นอกจากจะผลักดันนโยบายรูทีน "ศักดิ์สยาม" ยังออกแรงเข็นไอเดียใหม่ และนโยบายพรรคที่โปรโมตตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อกลางปีที่แล้ว

ปีนี้ได้ซิ่ง 120-แกร็บถูกกฎหมาย

ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า แม้จะนำร่องสายสีน้ำเงินและสีม่วง แอร์พอร์ตลิงก์ไปแล้ว ยังคงเดินหน้าเจรจาต่อในส่วนของสายสีเขียว รวมถึง ลดค่าผ่านทาง 5-10 บาท ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และโทลล์เวย์ หลังปรับปรุงด่านเก็บเงินเป็นระบบฟรีโฟลว์ หรือ ไร้ไม้กั้น จะนำร่องวงแหวนรอบนอกตะวันออกปลายปีนี้ เรียกว่า M-flow ก่อนขยายผลไปยังทางด่วน

การกำหนดอัตราความเร็ว 120 กม./ชม. บนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป ในเดือน พ.ย.นี้นำร่องถนนสายเอเชีย ช่วงอยุธยา-อ่างทอง 45.9 กม. รอประกาศกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะ

ส่วน "แกร็บถูกกฎหมาย" ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ให้แจ้งเกิดได้เร็วขึ้น จะกำหนดในกฎกระทรวงให้เป็นรถยนต์รับจ้างประเภทใหม่ "รถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่น" และกำหนดอัตราค่าโดยสารตามขนาดรถ รอเสนอ ครม.อนุมัติในปีนี้ ล่าสุดนโยบายการใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตจากยางพารา เป็นแบริเออร์ โดยนำแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีตและเสาหลักนำทาง ของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี 2563-2565 วงเงิน 85,623 ล้านบาท

ประเดิมถนนจันทบุรีแห่งแรก

ตามแผนปี 2563 ของ "กรมทางหลวง" จะดำเนินการ 13 จังหวัด 23 สายทาง รวม 150 กม. อาทิ เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ ส่วน "กรมทางหลวงชนบท" มี 15 จังหวัด 16 สายทาง รวม 100 กม. อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สระบุรี ลพบุรี จันทบุรี จะ คิกออฟแบริเออร์ยางพารา วันที่ 24 ก.ค.นี้ ที่ จ.จันทบุรี บริเวณ อ.เขาคิชฌกูฎ มี "บิ๊กตู่-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่ม ระหว่างทริป ครม.สัญจรที่ จ.ระยอง วันที่ 24-25 ส.ค.นี้

โปรเจ็กต์นี้ "ศักดิ์สยาม" แจกแจงช่วยเพิ่มดีมานด์และราคายางพาราในประเทศ และเงินจะถึงมือชาวสวนยาง โดยตรง ใน 3 ปีจะใช้ยางพารากว่า 1 ล้านตัน เป็นเงิน 30,108 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 10/08/2020 6:40 pm    Post subject: Reply with quote

'เกียรติธนา'จับมือรฟท.ลุยธุรกิจขนส่งสินค้าทางรางเต็มสูบ

10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 11:34 น.



10 ส.ค.63 นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย โดยล่าสุด บริษัทประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต

ที่สำคัญ สถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนน จิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศความร่วมมือดังกล่าว บริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และนำร่องดึง บริษัท วินีไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช – มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมวางแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรถไฟในเส้นทางอื่นๆ ตามจุดขนส่งสำคัญๆทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดตัว บริษัท เคที เทรน จำกัด (บริษัทย่อย) โดยถือเป็นบริการใหม่ล่าสุด และคาดหวังว่า

จะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าการขนส่งทางรถไฟเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC - Eastern Economic Corridor ) ทั้งมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของราคาที่ต่ำกว่าและปริมาณการขนส่งที่มากกว่าการขนส่งทางรถบรรทุก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ จะถือเป็นผู้ให้บริการการขนส่งอย่างครบวงจรเป็นรายแรกอีกด้วย

ทั้งนี้ เคยมีการประมาณการณ์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก(ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) มีมูลค่าสูงถึง 145,100 -147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบพบว่า การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่างๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟหรือระบบราง ซึ่งมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว คือ รฟท. ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก ที่เหลือเป็นการขนส่งทางท่อ 8.7% การขนส่งทางน้ำ 8.5% และการขนส่งทางอากาศ 0.01%

“การจับมือกับ รฟท.ถือเป็นการรุกเซกเมนต์บริการขนส่งใหม่อย่างจริงจังและมีโอกาสเติบโตสูงมาก เนื่องจาก รฟท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่หลายสาย จะสามารถสร้างเครือข่ายการขนส่งให้กว้างขวางขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า บริการการขนส่งทางรางจะกลายเป็นแหล่งรายได้มูลค่ามหาศาล โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดต่อเข้ามามากขึ้น เพื่อเปลี่ยนโหมดมาใช้บริการทางรถไฟ เป็นสัญญาณที่ดีมาก โดยงานนี้คาดจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี”

ขณะที่บริการขนส่งทั่วไปด้วยรถบรรทุกของบริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าหลักและกำลังเจรจาสัญญาใหม่กับลูกค้าอีกหลายราย
นางสาวมินตรา กล่าวว่า บริษัทไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ต่างๆ โดยประเมินจากแนวโน้มธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และวัตถุอันตรายครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ครึ่งปีแรกประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 แต่ธุรกิจการขนส่งทั่วไปและขนส่งเคมีภัณฑ์ยังเติบโต ประกอบกับเคมีภัณฑ์บางชนิดเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การขนส่งยังดำเนินการปกติและมีคอนแท็กต์ว่าจ้างการขนส่งระยะยาว 3-10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งขยายฐานการขนส่งเคมีภัณฑ์อันตรายไปต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ซึ่งมีโรงงานและโรงกลั่นเคมีภัณฑ์เกิดขึ้นจำนวนมาก

บริษัทมั่นใจว่า หากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมา (ปี 2562) มีรายได้รวม 955.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.10 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2563 มีรายได้แล้วถึง 247.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.96 ล้านบาท (ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์)
ด้านนายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการสินค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างสถานีหนองแมวกับสถานีบ้านเกาะ จะถูกยกระดับสถานีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์

ขนส่งสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,968 ล้านบาท เปิดให้บริการในปี 2565 จะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว

ตามแผน รฟท.ตั้งเป้าหมายเร่งพัฒนาสร้างทางคู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า ในพื้นที่ชนบท เมืองและระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (underpass) รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย

อนึ่ง บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด(มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่อเนื่องและครบวงจร (end-to-end) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เกี่ยวกับคลังสินค้า พิธีการศุลกากรและเอกสาร รวมถึงบริการการจัดการขนส่ง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และกากอุตสาหกรรม เป็นเจ้าของรถกว่า 700 คันที่สร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกสินค้าในแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เน้น หัวใจหลัก คือ นโยบายมุ่งพัฒนาระบบการบริหารงานขนส่งและสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

“เกียรติธนาขนส่ง” ผนึกการรถไฟฯ รุกธุรกิจเต็มสูบหลังวิกฤตโควิด เปิดจุดยุทธศาสตร์ขนส่งภาคอีสาน
8 สิงหาคม พ.ศ. 2563


“เกียรติธนา”ลุยธุรกิจเชิงรุกเต็บสูบหลังวิกฤติโควิด เปิดความร่วมมือกับการรถไฟฯ เข้าใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่สถานีบ้านกระโดน ทุ่มทุนกว่า 100 ล้าน รับแผนยุทธศาสตร์ขนส่งสินค้าทางราง โครงการรถไฟรางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมขนส่งภาคอีสานและเส้นทางระหว่างประเทศ นำร่องดึง “วีนิไทย” เปลี่ยนโหมดสู่ระบบราง ขนส่งวัตถุดิบเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง เล็งปีนี้รายได้รวมโตทะลุเป้า 15% หลังไตรมาสแรกลุยปั๊มแล้ว 247 ล้าน เร่งขยายเส้นทางใหม่ ลูกค้าแห่ติดต่อใช้บริการ

นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย โดยล่าสุด บริษัทประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต

ที่สำคัญ สถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศ

ความร่วมมือดังกล่าว บริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และนำร่องดึง บริษัท วินีไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช – มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมวางแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรถไฟในเส้นทางอื่นๆ ตามจุดขนส่งสำคัญๆทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดตัว บริษัท เคที เทรน จำกัด (บริษัทย่อย) โดยถือเป็นบริการใหม่ล่าสุด และคาดหวังว่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าการขนส่งทางรถไฟเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC - Eastern Economic Corridor ) ทั้งมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของราคาที่ต่ำกว่าและปริมาณการขนส่งที่มากกว่าการขนส่งทางรถบรรทุก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ จะถือเป็นผู้ให้บริการการขนส่งอย่างครบวงจรเป็นรายแรกอีกด้วย

ทั้งนี้ เคยมีการประมาณการณ์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางบก(ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) มีมูลค่าสูงถึง 145,100 -147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบพบว่า การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่างๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟหรือระบบราง ซึ่งมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว คือ รฟท. ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก ที่เหลือเป็นการขนส่งทางท่อ 8.7% การขนส่งทางน้ำ 8.5% และการขนส่งทางอากาศ 0.01%

“การจับมือกับ รฟท.ถือเป็นการรุกเซกเมนต์บริการขนส่งใหม่อย่างจริงจังและมีโอกาสเติบโตสูงมาก เนื่องจาก รฟท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่หลายสาย จะสามารถสร้างเครือข่ายการขนส่งให้กว้างขวางขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า บริการการขนส่งทางรางจะกลายเป็นแหล่งรายได้มูลค่ามหาศาล โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดต่อเข้ามามากขึ้น เพื่อเปลี่ยนโหมดมาใช้บริการทางรถไฟ เป็นสัญญาณที่ดีมาก โดยงานนี้คาดจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี”

ขณะที่บริการขนส่งทั่วไปด้วยรถบรรทุกของบริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าหลักและกำลังเจรจาสัญญาใหม่กับลูกค้าอีกหลายราย

นางสาวมินตรา ย้ำว่า บริษัทไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ต่างๆ โดยประเมินจากแนวโน้มธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และวัตถุอันตรายครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ครึ่งปีแรกประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 แต่ธุรกิจการขนส่งทั่วไปและขนส่งเคมีภัณฑ์ยังเติบโต ประกอบกับเคมีภัณฑ์บางชนิดเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การขนส่งยังดำเนินการปกติและมีคอนแท็กต์ว่าจ้างการขนส่งระยะยาว 3-10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งขยายฐานการขนส่งเคมีภัณฑ์อันตรายไปต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ซึ่งมีโรงงานและโรงกลั่นเคมีภัณฑ์เกิดขึ้นจำนวนมาก

บริษัทมั่นใจว่า หากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมา (ปี 2562) มีรายได้รวม 955.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.10 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2563 มีรายได้แล้วถึง 247.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.96 ล้านบาท (ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์)

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ระหว่างสถานีหนองแมวกับสถานีบ้านเกาะ จะถูกยกระดับสถานีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้าที่สำคัญของภาคอีสาน เมื่อโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 29,968 ล้านบาท เปิดให้บริการในปี 2565 จะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว
ตามแผน รฟท.ตั้งเป้าหมายเร่งพัฒนาสร้างทางคู่อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า ในพื้นที่ชนบท เมืองและระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ และแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (underpass) รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อีกด้วย

อนึ่ง บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด(มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ต่อเนื่องและครบวงจร (end-to-end) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริการที่เกี่ยวกับคลังสินค้า พิธีการศุลกากรและเอกสาร รวมถึงบริการการจัดการขนส่ง มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะด้านในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายในกลุ่มปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์ ก๊าซอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และกากอุตสาหกรรม เป็นเจ้าของรถกว่า 700 คันที่สร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกสินค้าในแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เน้น หัวใจหลัก คือ นโยบายมุ่งพัฒนาระบบการบริหารงานขนส่งและสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวความร่วมมือระหว่าง “เกียรติธนาขนส่ง” และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พัฒนาพื้นที่สถานีบ้านกระโดนจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ขนส่งวัตถุดิบเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง ในวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 น. ณ สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา



https://www.youtube.com/watch?v=H9J0pxkp-8Y
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3278176012229321&set=a.3033691060011152&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 11/08/2020 1:54 am    Post subject: Reply with quote

'เกียรติธนา' จับมือ รฟท. รุกขนส่งสินค้าทางราง ประเดิมเส้นทางโคราช-มาบตาพุด
หน้าโลกธุรกิจ
วันจันทร์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 16.22 น.

มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าทางบริษัทฯเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุก หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มผ่อนคลาย โดยล่าสุด บริษัทประกาศความพร้อมเปิดความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สำหรับเป็นลานคอนเทนเนอร์และจุดขนถ่ายรองรับการขนส่งสินค้าทางรางในอนาคต โดยสถานีรถไฟบ้านกระโดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งรองรับโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้าในพื้นที่ชนบทกับเมืองและเส้นทางระหว่างประเทศ

ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว ทางบริษัทฯ ใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และนำร่องดึง บริษัท วินีไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นคู่ค้ากับบริษัทมายาวนานกว่า 20 ปี เปลี่ยนโหมดการขนส่งจากรถบรรทุกมาเป็นราง เส้นทางบ้านกระโดน/โคราช – มาบตาพุด/ระยอง เพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดโดยตรง

ทั้งนี้บริษัทฯยังเตรียมวางแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรถไฟในเส้นทางอื่นๆ ตามจุดขนส่งสำคัญๆทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังเปิดตัว บริษัท เคที เทรน จำกัด (บริษัทย่อย) โดยถือเป็นบริการใหม่ล่าสุด และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่าการขนส่งทางรถไฟเป็นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC - Eastern Economic Corridor ) ทั้งมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องของราคาที่ต่ำกว่าและปริมาณการขนส่งที่มากกว่าการขนส่งทางรถบรรทุก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

และยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ จะถือเป็นผู้ให้บริการการขนส่งอย่างครบวงจรเป็นรายแรกอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มีการประมาณการณ์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางบกว่ามีมูลค่าสูงถึง 145,100 -147,300 ล้านบาท อัตราเติบโต 5-7% โดยเปรียบเทียบสัดส่วนการขนส่งสินค้าทั้งระบบ พบว่า การขนส่งทางถนนโดยรถบรรทุกประเภทต่างๆ ยังมีสัดส่วนมากสุดประมาณ 81% ส่วนการขนส่งทางรถไฟหรือระบบราง โดยมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียวคือ รฟท. ยังมีสัดส่วนเพียง 1.9% จึงมีช่องว่างการสร้างรายได้อีกจำนวนมาก ที่เหลือเป็นการขนส่งทางท่อ 8.7% การขนส่งทางน้ำ 8.5% และการขนส่งทางอากาศ 0.01% ขณะที่บริการขนส่งทั่วไปด้วยรถบรรทุกของบริษัทยังมีกลุ่มลูกค้าหลักและกำลังเจรจาสัญญาใหม่กับลูกค้าอีกหลายราย

​“การจับมือกับ รฟท.ถือเป็นการรุกเซกเมนต์บริการขนส่งใหม่อย่างจริงจังและมีโอกาสเติบโตสูงมาก เนื่องจาก รฟท.มีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่หลายสาย จะสามารถสร้างเครือข่ายการขนส่งให้กว้างขวางขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า บริการการขนส่งทางรางจะกลายเป็นแหล่งรายได้มูลค่ามหาศาล โดยดูจากจำนวนลูกค้าที่สนใจติดต่อเข้ามามากขึ้น เพื่อเปลี่ยนโหมดมาใช้บริการทางรถไฟ เป็นสัญญาณที่ดีมาก โดยงานนี้คาดจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี”

นอกจากนี้ เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆทางบริษัทฯไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ต่างๆ โดยประเมินจากแนวโน้มธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และวัตถุอันตรายครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ครึ่งปีแรกประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 แต่ธุรกิจการขนส่งทั่วไปและขนส่งเคมีภัณฑ์ยังเติบโต ประกอบกับเคมีภัณฑ์บางชนิดเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ ทำให้การขนส่งยังดำเนินการปกติและมีคอนแท็กต์ว่าจ้างการขนส่งระยะยาว 3-10 ปี นอกจากนี้ ยังเร่งขยายฐานการขนส่งเคมีภัณฑ์อันตรายไปต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว ซึ่งมีโรงงานและโรงกลั่นเคมีภัณฑ์เกิดขึ้นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าหากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 15% จากปีก่อน ซึ่งในปีที่ผ่านมา (ปี 2562) มีรายได้รวม 955.19 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 110.10 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ผ่านมาของปี 2563 มีรายได้แล้วถึง 247.24 ล้านบาท กำไรสุทธิ 56.96 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44316
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/08/2020 9:23 am    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
13 ส.ค. 63·
วิดีทัศน์สรุปความก้าวหน้างาน สัญญาที่ 2 เดือน มิถุนายน 2563

Arrow https://www.facebook.com/lopburipaknampho/videos/216243443149283/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 13/08/2020 10:17 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
13 ส.ค. 63·
วิดีทัศน์สรุปความก้าวหน้างาน สัญญาที่ 2 เดือน มิถุนายน 2563

Arrow https://www.facebook.com/lopburipaknampho/videos/216243443149283/


อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนกรกฎาคม 2563
12 สิงหาคม 2563

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 30.635 %
แผนงานสะสม = 18.990 %
เร็วกว่าแผน = +11.645 %

สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ

ความก้าวหน้าสะสม = 59.99 %
แผนงานสะสม = 65.59 %
ช้ากว่าแผนงาน = -5.60 %
*มีการปรับแผนงานการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการดำเนินงานก่อสร้างจริง
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/601617380550688
https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/601615383884221
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42620
Location: NECTEC

PostPosted: 13/08/2020 10:22 am    Post subject: Reply with quote

ความก้าวหน้างานก่อสร้าง
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
11 สิงหาคม 2563

สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
ผลงานถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2563
แผนงานสะสม = 66.620 %
ผลงานสะสม = 67.427 %
เร็วกว่าแผน = 0.807 %

สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2563
แผนงานสะสม = 67.103 %
ผลงานสะสม = 70.029 %
เร็วกว่าแผน = 2.926 %

สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
ผลงานถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2563
แผนงานสะสม = 72.03 %
ผลงานสะสม = 72.28 %
เร็วกว่าแผน = 0.25 %

สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
ผลงานถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2563
แผนงานสะสม = 90.645 %
ผลงานสะสม = 64.525 %
ช้ากว่าแผน = - 26.120 %

สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
ผลงานถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2563
แผนงานสะสม = 64.008 %
ผลงานสะสม = 53.629 %
ช้ากว่าแผน = -10.379 %
https://www.facebook.com/southtwintrain/posts/2695105980744141

ความก้าวหน้างานก่อสร้างประจำเดือนกรกฎาคม 2563
13 สิงหาคม 2563
สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

สามารถติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง เพจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร😊🙏
https://www.facebook.com/southtwintrain/videos/4495928553765696/
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 267, 268, 269 ... 388, 389, 390  Next
Page 268 of 390

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©