View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 09/09/2020 5:26 pm Post subject: |
|
|
9 ก.ย.63 ช่วงบ่ายพอมีเวลา ก็ขอแวะมาดูจุดเกิดเหตุที่ประชาชนชาวปากช่องร้องเรียนว่า โครงกานก่อสร้างรถไฟทางคู่ทำให้น้ำท่วมบ้านประชาชนในเขตเทศบาลเมืองปากช่อง เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา
....จากการลงพื้นที่รับทราบข้อเท็จจริงว่า บริเวณดังกล่าวเป็นทางน้ำเดิม มีการก่อสร้าง box culvert ขนาด กว้าง2 ม. สูง2 ม. จำนวน 3 ช่อง และต่อมามีการถมถนนเลียบทางรถไฟ โดยโครงการฯได้ใส่ท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1 ม. จำนวน 2 ท่อ ทำให้การระบายน้ำไม่ทัน ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นทางลาดที่มีระดับต่ำสุด ทำให้น้ำไม่ไหลมาที่ประตูระบายน้ำได้ โดยวันที่เกิดเหตุมีปริมาณน้ำมากจนระบายลอดใต้ถนนไม่ทันทำให้ท่วมฝั่งซ้ายทางรถไฟ และต่อมาได้มีการเปิดประตูระบายน้ำ(ที่โครงการรถไฟทางคู่ก่อสร้างให้เทศบาลปากช่อง) อย่างไม่เหมาะสม ทำให้ปริมาณน้ำที่ผ่านประตูระบายน้ำมีปริมาณมากไหลไปท่วมบ้านเรือนประชาชนฝั่งขวาทางเพิ่มเติม
ป.ล. การแก้ไขรอช่วงหน้าแล้ง ผู้รับจ้างจะปิดท่อลอดใต้ถนนถมและดาดคอนกรีตพร้อมปรับทางลาดจากฝั่งที่น้ำไหลมาจากเขาลงสู่ทางประตูระบายน้ำ เพื่อบังคับทิศทางน้ำและทำให้อัตราการไหลของน้ำรวดเร็วขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังต่อไป ปัจจุบัน รฟท. ได้ส่งมอบประตูระบายน้ำ ขนาดกว้าง 2 ม. สูง2 ม. จำนวน 3 ช่องให้แก่เทศบาลเมืองปากช่องเป็นผู้ดูแลแล้ว
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3368721719841416 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 09/09/2020 6:16 pm Post subject: |
|
|
กรมฯราง กำชับเข้มต้องมีผู้คุมงานทุกขั้นตอน
*ย้ำชัดๆ ห้ามนำนั่งร้านที่พังมาใช้งานอีก
*ล้อมคอกหลังคาอุโมงค์รถไฟทางคู่ถล่ม
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2704115909809910
9 ก.ย.63. ช่วงสาย ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีนั่งร้านที่กำลังเทคอนกรีตในส่วนของหลังคา(Deck Slab) ของอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟทรุดตัวแล้วถล่มลงมาบริเวณกม. 169+750 ใกล้สถานีบันไดม้า
ป.ล. มาช้าแต่มานะ...เพราะจะต้องทำขั้นตอนการขออนุมัติเดินทางและขออนุญาตเข้าพื้นที่....ไม่อยากมีปัญหาตามมาภายหลัง
https://www.facebook.com/photo?fbid=3368121173234804&set=a.2789611361085791
กรมการขนส่งทางรางลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุนั่งร้านที่กำลังเทคอนกรีตในส่วนหลังคา (Deck Slab) ของอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันนี้ (9 กันยายน 2563) เวลา 10.30 น. นายทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง(ขร.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ขร. ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุนั่งร้านที่กำลังเทคอนกรีตในส่วนหลังคา (Deck Slab) ของอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) บริเวณกิโลเมตรที่ 169+750 ใกล้เคียงสถานีบันไดม้า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ (สัญญา 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร) เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2563 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10 คน โดยมีนายกฤษดา มัชฌิมาภิโร วิศวกรกำกับการกองก่อสร้างเขต 2 ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา AMWW และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ร่วมในการตรวจสอบ พบว่า เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากนั่งร้านไม่สามารถรับน้ำหนักจากการเทคอนกรีตในอัตราที่เร็ว จนทำให้เกิดการกองของมวลคอนกรีต (overload) ทั้งนี้ ขร.ได้มีข้อเสนอแนะให้ รฟท. และผู้รับจ้าง พิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. จัดให้มีผู้ควบคุมงานเพื่อกำกับการทำงานในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง และจัดให้มีคนงานเพียงพอในช่วงสับเปลี่ยนกะการทำงาน พร้อมทั้งควบคุมอัตราในการเทคอนกรีตให้เหมาะสมตามการออกแบบ
2. ตรวจสอบนั่งร้านให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง อุปกรณ์ครบถ้วน พร้อมใช้งานก่อนการเทคอนกรีตทุกครั้ง และห้ามนำนั่งร้านที่พังเสียหายกลับมาใช้งาน
3. ให้ดำเนินการตามคู่มือการปฏิบัติงาน (Method Statement) อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ขร. จะได้รายงานผลการตรวจสอบในรายละเอียดเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อมอบหมายให้ รฟท. รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/764156097694670
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3368894399824148
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3368965116483743
กรมราง -ITD ตรวจสอบ อุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟถล่ม
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
09 กันยายน 2563 เวลา 18:40 น.
กรมการขนส่งทางราง พร้อมผู้รับเหมา ITD ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุนั่งร้านที่กำลังเทคอนกรีตในส่วนหลังคา (Deck Slab) ของอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ช่วง ค่ำของวันที่ 4 กันยายน เกิดอุบัติเหตุ หลังคาอุโมงค์ ทางลอดใต้ทางรถไฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถล่ม มีคนงานได้รับบาดเจ็บนับ10ราย โดยมี บริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน )หรือ ITD ในฐานนะผู้รับจ้าง นั้น วันนี้ (9 กันยายน 2563) เวลา 10.30 น. นายทยากร จันทรางศุ ผู้อำนวยการกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง(ขร.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ขร. ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอุบัติเหตุนั่งร้านที่กำลังเทคอนกรีตในส่วนหลังคา (Deck Slab) ของอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) บริเวณกิโลเมตรที่ 169+750 ใกล้เคียงสถานีบันไดม้า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ (สัญญา 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร) เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2563 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10 คน โดยมีนายกฤษดา มัชฌิมาภิโร วิศวกรกำกับการกองก่อสร้างเขต 2 ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา AMWW และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) ร่วมในการตรวจสอบ พบว่า
เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากนั่งร้านไม่สามารถรับน้ำหนักจากการเทคอนกรีตในอัตราที่เร็ว จนทำให้เกิดการกองของมวลคอนกรีต (overload) ทั้งนี้ ขร.ได้มีข้อเสนอแนะให้ รฟท. และผู้รับจ้าง พิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. จัดให้มีผู้ควบคุมงานเพื่อกำกับการทำงานในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง และจัดให้มีคนงานเพียงพอในช่วงสับเปลี่ยนกะการทำงาน พร้อมทั้งควบคุมอัตราในการเทคอนกรีตให้เหมาะสมตามการออกแบบ
2. ตรวจสอบนั่งร้านให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง อุปกรณ์ครบถ้วน พร้อมใช้งานก่อนการเทคอนกรีตทุกครั้ง และห้ามนำนั่งร้านที่พังเสียหายกลับมาใช้งาน
3. ให้ดำเนินการตามคู่มือการปฏิบัติงาน (Method Statement) อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ขร. จะได้รายงานผลการตรวจสอบในรายละเอียดเสนอต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อมอบหมายให้ รฟท. รับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/09/2020 8:20 am Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่สายอีสานเกินครึ่ง
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563
ต.ค.นี้ยกระดับสูงที่สุดเชื่อมครบ5กม. มาบกะเบา-คลองขนานจิตรได้นั่งต้น65
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออก เฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท ดำเนินงาน โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ทีว่า ภาพ รวมมีความคืบหน้า 63.09% ช้ากว่าแผน 2.51% โดยสัญญาที่ 1 งานโยธาและระบบราง ช่วงมาบกะเบาคลองขนานจิตร 58 กม. คืบหน้า 77.45% แม้จะเร็วกว่าแผน 1.3% แต่ยังติดปัญหาการเวนคืนที่ดินบริเวณ ช่วงหินลับ, มอหลักหิน, ปากช่อง และกลางดง จ.นครราชสีมา ต้องใช้งบประมาณเวนคืนสูงกว่าที่ตั้งไว้ เพราะเมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง พบตึก อาคาร บ้านเรือนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมตลอดทั้งเส้น ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ตั้งไว้ 50 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งอีกว่า ส่วนการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับสูงที่สุดในไทย บริเวณมาบกะเบา-กลางดง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ระยะทาง 5 กม. ของสัญญาที่ 1 ซึ่งมีบางจุดสูงถึง 50 เมตร นั้น งานโครงสร้างคืบหน้ากว่า 90% คาดว่าจะเชื่อมต่อโครงสร้างทั้ง 5 กม. แล้วเสร็จเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะเป็นงานวางหมอน และวางราง คาดว่าต้นปี 64 งานทางรถไฟยกระดับจะแล้วเสร็จทั้งหมด ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ 68 กม. อยู่ระหว่างขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รวมถึงขออนุมัติงบประมาณค่าก่อสร้างเพิ่มเติมจากการเปลี่ยนแปลงงานที่ อ.สีคิ้ว และตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 3-4 พันล้านบาทจาก ครม. คาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือน ก.ค. 64
รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งต่อว่า สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ 6 กม. คืบหน้า 48.73% ล่าช้า กว่าแผน 6.27% โดยขณะนี้อุโมงค์ที่ 2 และ 3 ต่อ เชื่อมกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเทคอนกรีตเสริม เหล็กผนังอุโมงค์ ส่วนอุโมงค์ที่ 1 ล่าช้าจากแผนเล็กน้อย เนื่องจากเจอดินปนหินเสี่ยงต่อการพังง่าย จึง ต้องใช้ความละเอียดในการเสริมโครงสร้างและสัญญา ที่ 4 งานจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม คืบหน้า 0.65% เร็วกว่าแผน 0.19% อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีอุปสรรคเล็กน้อย แต่คาดว่าสัญญาที่ 1 และ 3 จะไม่กระทบกับแผน จะสามารถเปิดให้บริการ ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ได้ต้นปี 65 ตามแผน ขณะที่คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ จะเปิดบริการได้ต้นปี 68 ล่าช้ากว่าแผนที่จะเปิดต้นปี 65. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/09/2020 11:52 pm Post subject: |
|
|
ชาวบ้านกว่า 200 คน เดือดร้อนหนัก โครงการรถไฟรางคู่ทำรั้วกันกลายเป็นที่ดินตาบอด
เผยแพร่: 17 ก.ย. 2563 16:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เพชรบุรี - ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านกว่า 60 ครอบครัว เดือนร้อนหนักเข้าออกบ้านไม่ได้ หลังโครงการรถไฟรางคู่ทำแนวรัวกันรางรถไฟกลายเป็นที่ดินตาบอด ไม่สามารถเข้าออกบ้านของตนเองได้
วันนี้ (17 ก.ย.) เวลา 12.00 น. ที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านสถานีรถไฟ ม.6 ต.หนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายธเนศ นาเมือง ปลัดอำเภอชะอำ นายเปื่อน พุ่มเงิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา พร้อมด้วยนายดุสิต สัมมาทิฏฐิ ผู้ช่วยสารวัตรรถจักรธนบุรี คณะกรรมการท้องถิ่นตรวจร่วมในโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ตัวแทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัทรับเหมาชิโนไทย ผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ผู้นำชุมชน และชาวบ้านกว่า 30 คน ได้เดินทางมาร่วมตัวกันร่วมพูดคุยหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาการรถไฟฯ ทำแผงเหล็กกัั้นระยะทาง กว่า 3 กิโลเมตร ส่งผลให้ชาวบ้านหมู่บ้านสถานี ต.หนองศาล ทั้งหมู่บ้านไม่สามารถเข้าออกบ้านของตนเอง และภายในหมู่บ้านได้
หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากโครงการรถไฟรางคู่เข้ามาดำเนินการทำแผงเหล็กกั้นพื้นที่ของการรถไฟฯ ซึ่งติดกับถนนและประตูเข้าบ้านของชาวบ้าน อักทั้งยังปิดกั้นทางเข้าออกหมู่บ้านจนชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไม่สามารถเข้าออกได้ ทำให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ติดกับพื้นที่การรถไฟฯ จำนวน 60 หลังคาเรือน กว่า 200 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถเข้าออกบ้านได้ และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดกับการรถไฟฯ ไม่สามารถเข้าไปทำการเกษตรได้ตามปกติ และมีการปิดกั้นทางน้ำไม่มีท่อระบายน้ำ หรือรางน้ำ ทำให้เกษตรกรไม่มีน้ำทำำการเกษตร และอาจส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในช่วงหน้าฝน ทำให้ที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมู่บ้าน
ด้าน นายเปื่อน พุ่มเงิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้าน ต.หนองศาลา ได้รับความเดือดร้อนจากการรถไฟฯ ที่ทำแผงเหล็กกั้นขอบเขตรถไฟ ทำให้ชาวบ้านไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้าน และไม่มีทางเข้าออกของพืชผลทางการเกษตร โดยชาวบ้านได้ให้ตนไปประสานงานกับผู้รับเหมาที่เข้ามาดำเนินการทำโครงการรถไฟรางคู่
เบื้องต้น จากการพูดคุยกัน การรถไฟฯ และผู้รับเหมาโครงการมีแนวทางที่ดีโดยให้ข้อสรุปว่า ให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา ทำแนวเขตหรือถนนทางเข้าหมู่บ้าน ยื่นเรื่องไปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หลังจากนั้น ให้ทางการรถไฟฯ พิจารณาและทำสัญญาเช่า ทำถนนให้แก่ชาวบ้านได้ใช้เข้าออกในหมู่บ้านเป็นรายปี หรือ 5 ปี โดยทางชาวบ้านเห็นพ้องต้องกัน ให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านพึงพอใจในระดับหนึ่ง
นายดุสิต สัมมาทิฏฐิ คณะกรรมการท้องถิ่นตรวจร่วมในโครงการ ตัวแทนการรถไฟฯ กล่าวว่า การพูดคุยในวันนี้ได้รับทราบว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริง เรื่องทางเข้าออกหมู่บ้าน และทางน้ำในการทำการเกษตรปลูกข้าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 18/09/2020 2:57 pm Post subject: |
|
|
ใกล้ความจริง!!รถไฟทางคู่สายใต้คืบหน้าเกือบ 70%
*อดใจรอยลโฉมสะพานขึงรถไฟแห่งแรกในไทย
*มั่นใจก่อสร้างเสร็จปลายปี64/เปิดบริการปี 65
รถไฟทางคู่สายใต้ใกล้70% อดใจรอวิ่งฉิว6ชม.ถึงชุมพร
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 22 กันยายน 2563 เวลา 08:00 น.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ไล่เรียงสาเหตุที่ทำให้ภาพรวมโครงการล่าช้ามาจากบางพื้นที่ต้องปรับแบบการก่อสร้าง เช่น ที่ จ.ราชบุรี พบระเบิดอยู่ในแม่น้ำแม่กลอง หากจะกู้ระเบิดต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร วงเงิน 3.39 หมื่นล้านบาทว่า ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 67.05% ล่าช้ากว่าแผน 7.89% มีรายละเอียดดังนี้
สัญญาที่ 1 นครปฐม-หนองปลาไหล 93 กิโลเมตร
บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 68.93% เร็วกว่าแผน 0.21%
สัญญาที่ 2 หนองปลาไหล-หัวหิน 76 กิโลเมตร
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 72.05% เร็วกว่าแผน 2.70%,
สัญญาที่ 3 หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กิโลเมตร
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 74.39% เร็วกว่าแผน 0.25%
สัญญาที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย 88 กิโลเมตร
กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 65.13% ล่าช้ากว่าแผน 30.59%
สัญญาที่ 5 บางสะพานน้อย-ชุมพร 80 กิโลเมตร
กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 55.72% ล่าช้ากว่าแผน 15.66% อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการก่อสร้างจะยังคงเป็นตามแผนที่วางไว้ โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2564 และพร้อมเปิดให้บริการปี 2565
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ภาพรวมการก่อสร้างโครงการดังกล่าวล่าช้านั้น เนื่องมาจากบางพื้นที่ต้องมีการปรับแบบการก่อสร้าง เช่น ที่ จังหวัดราชบุรี มีการพบระเบิดอยู่ในแม่น้ำแม่กลอง หากจะกู้ระเบิดต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี และเป็นสิ่งที่เรารอไม่ได้ จึงต้องออกแบบใหม่
ขณะเดียวกันบางพื้นที่ก็ติดปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่ โดยเป็นปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องการแก้ปัญหา 10 จุดตัดสำคัญใน จังหวัดเพชรบุรี
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2712608208960680
https://www.thebangkokinsight.com/437012/
Last edited by Wisarut on 29/09/2020 10:44 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/09/2020 11:42 am Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.ลงทุนเพิ่ม 3.47 หมื่นล้าน รับรถไฟทางคู่ ปั้นรายได้เพิ่มจากการขนส่งสินค้า
กรุงเทพธุรกิจ 19 กันยายน 2563
"ร.ฟ.ท." ทุ่ม 3.47 หมื่นล้านลุยจัดซื้อ รถโดยสาร - แคร่ขนสินค้า รองรับทางคู่ 7 เส้นเฟส1 แล้วเสร็จปี 65 หวังปั้นรายได้ขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ เผยทางคู่สายใต้ นครปฐม - ชุมพร คืบหน้ากว่า 67%
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยระหว่างการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม - ชุมพร โดยระบุว่า นโยบายในการขับเคลื่อนองค์กรที่ตนตั้งเป้าไว้ มี 3 ส่วนหลัก คือ 1.ปรับกระบวนการการทำงาน โดย ร.ฟ.ท.จะต้องหารายได้และกำไรให้มากขึ้น เพื่อให้การบริการประชาชนควบคู่ไปกับความคาดหวังสร้างรายได้ดูแลองค์กรโดยไม่เป็นภาระของรัฐบาลอย่างที่ประชาชนคาดหวัง
2.วางแพลตฟอร์มใหม่ให้กับ ร.ฟ.ท. โดยเฉพาะเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร ที่จะต้องปรับตัวให้เท่าทันต่อการแข่งขัน ส่วนกรณีที่ในอนาคตจะมีการเปิดให้เอกชนเข้ามามีสิทธิร่วมเดินรถ ใช้ระบบรางนั้น ก็ถือเป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้คน ร.ฟ.ท.ต้องเริ่มปรับตัว
และ 3.ร.ฟ.ท.จะต้องเร่งหารายได้ให้มากขึ้น โดยกระจายธุรกิจไปยังการขนส่งสินค้าและพัสดุ เนื่องจากมีรายได้ดีกว่าการขนส่งผู้โดยสาร อีกทั้งปัจจุบันยังมีโอกาสในธุรกิจกลุ่มนี้อีกมาก
อย่างไรก็ดี จากเป้าหมายของการเพิ่มรายได้ขนส่งสินค้าและพัสดุ ร.ฟ.ท.จึงมีแผนจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) หรือแคร่ จำนวน 965 คัน เพื่อนำมาให้บริการขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อขยายตลาดการขนส่งสินค้าเพิ่มเติม โดยล่าสุด ร.ฟ.ท.ยังได้หารือกับผู้ประกอบการเกลือ เพื่อทดลองขนส่งเกลือจากจังหวัดนครราชสีมา มายังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งในปีแรกของการขนส่งนี้ คาดว่าจะขนางได้ในปริมาณราว 4 แสนตัน
ออเดอร์จากการขนส่งเกลือนี้ ถือเป็นการเปิดศักราชให้กับการรถไฟฯ ในธุรกิจขนส่งสินค้า ซึ่งเกลือเป็นสินค้าที่มีการขนส่งในประเทศสูงมาก ปีละเป็นล้านตัน โดยปริมาณการขนส่งผ่านรถไฟ เราก็คาดว่าจะขยายขึ้นต่อเนื่อง ไปพร้อมกับการขยายรถไฟทางคู่ เพราะวันนี้เราก็ต้องยอมรับด้วยว่า เรายังมีเครื่องมีไม่พร้อม เราจึงเร่งพยายามหาแคร่เข้ามาเพิ่มรองรับขนส่งสินค้าเหล่านี้
นายนิรุฒ ยังกล่าวด้วยว่า ร.ฟ.ท.ยังเตรียมลงนามความร่วมมือ (MOU) ด้านการขนส่งพัสดุกับไปรษณีย์ไทยในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้การขนส่งประเภทนี้มีอัตรากำไรเบื้องต้น (Margin) มากกว่าการขนส่งสินค้า และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากรายได้การเดินทางของผู้โดยสาร และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบ เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่น ที่สามารถช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเช็คสถานะรถไฟ หรือลูกค้าขนส่ง สามารถเช็คพัสดุจากแคร่ได้ทันที
นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่า ร.ฟ.ท เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาแคร่สินค้าจำนวน 965 คัน โดยระบุด้วยว่า ร.ฟ.ท.มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการจัดหาแคร่ เพื่อให้ทันกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 7 เส้นทางที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2565 เนื่องจากเมื่อทางคู่แล้วเสร็จ จะมีสถานีเก็บและกระจายตู้สินค้า (CY) เพิ่มจำนวนมากตามแนวเส้นทางรถไฟ เพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์
อย่างไรก็ดี โครงการจัดหาแคร่ เบื้องต้น ร.ฟ.ท. ประเมินว่า อาจใช้เงินลงทุนราว 2 - 2.2 พันล้านบาท โดยขณะนี้ได้นำเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาเห็นชอบแล้ว หากผ่านการพิจารณาเห็นชอบก็จะเสนอขอความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในปีนี้ เพื่อดำเนินการเปิดประมูลภายในปี 2564 และเริ่มทยอยรับมอบแคร่ล็อตแรกในปี 2565
สำหรับปัจจุบันผู้ประกอบการเอกชนแสดงความสนใจใช้บริการขนส่งสินค้าทางคอนเทนเนอร์เป็นจำนวนมาก อาทิ บริษัท ทีพีไอโพลีน มีความต้องการจะขนส่งปูนซีเมนต์ มากกว่าปีละ 2 ล้านตัน
นายสุจิตต์ ยังเผยด้วยว่า ร.ฟ.ท.เตรียมที่จะผลักดันการจัดหาโครงการสำคัญอีก 2 โครงการ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนา ร.ฟ.ท ในช่วงปี 2564 - 2568 ได้แก่ โครงการจัดหารถดีเซลรางเชิงสังคม จำนวน 216 คันวงเงิน 1.62 หมื่นล้าน และโครงการจัดหารถดีเซลรางโดยสารแบบชุดจำนวน 273 ตู้ วงเงิน 9.5 พันล้าน - 1.63 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนของรถดีเซลรางโดยสารแบบชุด ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเสนอให้คณะกรรการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท พิจารณาอนุมัติ
ทั้งนี้ 3 โครงการข้างต้น คือ การจัดหาแคร่ 965 คัน การจัดหารถดีเซลรางเชิงสังคม 216 คัน และจัดหารถดีเซลรางโดยสารแบบชุด 273 ตู้ ร.ฟ.ท. จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มรายได้ ซึ่งงบประมาณโดยรวมที่ต้องจัดใช้อยู่ที่ประมาณ 3.47 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3.39 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 67.05% ล่าช้ากว่าแผน 7.89% โดยสัญญาที่ 1 นครปฐม-หนองปลาไหล 93 กม. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 68.93% เร็วกว่าแผน 0.21%, สัญญาที่ 2 หนองปลาไหล-หัวหิน 76 กม. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 72.05% เร็วกว่าแผน 2.70%
สัญญาที่ 3 หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 74.39% เร็วกว่าแผน 0.25%, สัญญาที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย 88 กม. กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 65.13% ล่าช้ากว่าแผน 30.59% และสัญญาที่ 5 บางสะพานน้อย-ชุมพร 80 กม. กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 55.72% ล่าช้ากว่าแผน 15.66% อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการก่อสร้างจะยังคงเป็นตามแผนที่วางไว้ โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2564 และพร้อมเปิดให้บริการปี 2565
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 3.39 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้า 67.05% ล่าช้ากว่าแผน 7.89% โดยสัญญาที่ 1 นครปฐม-หนองปลาไหล 93 กม. บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 68.93% เร็วกว่าแผน 0.21%, สัญญาที่ 2 หนองปลาไหล-หัวหิน 76 กม. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 72.05% เร็วกว่าแผน 2.70%
สัญญาที่ 3 หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 84 กม. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 74.39% เร็วกว่าแผน 0.25%, สัญญาที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย 88 กม. กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 65.13% ล่าช้ากว่าแผน 30.59% และสัญญาที่ 5 บางสะพานน้อย-ชุมพร 80 กม. กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้า 55.72% ล่าช้ากว่าแผน 15.66% อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการก่อสร้างจะยังคงเป็นตามแผนที่วางไว้ โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2564 และพร้อมเปิดให้บริการปี 2565 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 20/09/2020 12:29 am Post subject: |
|
|
สารพัดปัญหาฉุดทางคู่สายใต้ นครปฐม-ชุมพร เสร็จช้า 1 ปีพร้อมเปิดต.ค. 66
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 18 กันยายน 2563 - 20:28 น.
รถไฟทางคู่สายใต้นครปฐม-ชุมพรผู้รับเหมาพร้อมใจขอขยายสัญญาทุกตอน 1 ปี ติดหล่มสารพัดปัญหา ปรับแบบสะพานขึงเลี่ยงระเบิด-ผู้บุกรุก-ชาวบ้านค้านแบบก่อสร้าง คาดเปิดใช้ต.ค.ปี66
นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม ชุมพร ระยะทาง 421 กม. วงเงิน 33,982 ล้านบาท ณ วันที่ 3 ก.ย.2563 มีความคืบหน้ารวม 67.938% ล่าช้าจากแผนไป 8.196% โดยโครงการแบ่งเป็น 5 สัญญา แต่ละสัญญามีความคืบหน้าดังนี้
สัญญาที่ 1 งานโยธาช่วงนครปฐม หนองปลาไหล ระยะทาง 92 กม. วงเงิน 8,200 ล้านบาท มีบจ. เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง (1964)เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้ารวม 69% ล่าช้าจากแผน 0.448% เนื่องจากติดปัญหาการจัดการผู้บุกรุกบริเวณหลังสถานีนครปฐม และการสำรวจระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตกค้างในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งระเบิดแต่ละอันมีอานุภาพทำลายล้าง 2 กม. ต้องใช้ความระมัดระวังในการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ในสัญญาดังกล่าว จะรวมถึงการก่อสร้างสะพานทางรถไฟแบบขึงขนานกับสะพานข้ามรถไฟจุฬาลงกรณ์ จ.ราชบุรี ความยาว 160 เมตร วงเงิน 450 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าในการก่อสร้าง 25%
โดยเป็นการเปลี่ยนแบบจากสะพานเหล็กที่กรมศิลปากรกำหนดให้สร้าง เป็นสะพานขึง เนื่องจากสะพานเหล็กแบบเดิมจะส่งผลกระทบกับทุ่นระเบิดที่อยู่ใต้แม่น้ำแม่กลองได้ และจะต้องทำหนังสือแจ้งสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อทราบถึงการปรับแบบดังกล่าว ซึ่งยังไม่จำเป็นปรับแก้รายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่อย่างใด
สัญญาที่ 2 งานโยธาช่วงหนองปลาไหล หัวหิน ระยะทาง 76 กม. วงเงิน 7,500 ล้านบาท มีบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้ารวม 72.111% เร็วกว่าแผน 2.493%
สัญญาที่ 3 งานโยธาช่วงหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 5,800 ล้านบาท มีบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้า 74.750% เร็วกว่าแผน 0.250% สำหรับสัญญานี้เพิ่งได้รับการอนุมัติขยายสัญญาออกไปอีก 11 เดือน เท่ากับจะไปสิ้นสุดสัญญาในเดือนมิ.ย. 2564
สัญญาที่ 4 งานโยธาช่วงประจวบคีรีขันธ์ บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. วงเงิน 6,500 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี (บจ.เคเอสร่วมค้า และ China Railway 11th Bureu Group Corporation Ltd) เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้า 66.951% ช้ากว่าแผน 29.478
และสัญญาที่ 5 งานโยธาช่วงบางสะพานน้อย ชุมพร ระยะทาง 80 กม. วงเงิน 6,000 ล้านบาท มีกิจการร่วมค้า เอสทีทีพี (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ. บจ.ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม) เป็นผู้รับจ้าง มีความคืบหน้า 56.131% ช้ากว่าแผน 17.436%
สัญญา 4 และ 5 ติดปัญหาการเปลี่ยนก่อสร้างจุดตัดผ่านทางรถไฟจำนวน 4 จุด เช่น การเปลี่ยนจุดกลับรถจากแบบยกระดับเป็นแบบเกือกม้า และการเปลี่ยนจากยกระดับเป็นแบบขนานพื้นดิน ซึ่งจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นประชาชนในพื้นที่เพิ่มเติม
ทั้งนี้ งานก่อสร้างทั้ง 5 สัญญาจะมีการขอขยายเวลาสัญญาเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้จบ โดยเฉลี่ยรวมแล้วจะขอเพิ่มประมาณ 1 ปี ซึ่งจะไม่กระทบกับเปิดให้บริการในเดือน ต.ค. 2566 เนื่องจากยังมีงานสัญญาที่ 6 งานจัดหาและติดตั้งระบบเดินรถ วงเงิน 6,200 ล้านบาท ที่มีบริษัท China Railway Signaliing (CRSC) เป็นผู้รับจ้าง ที่จะไปเสร็จภายในปี 2566 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 20/09/2020 11:44 pm Post subject: |
|
|
น้ำท่วม รพ.สต. ชาวบ้านโวยรถไฟทางคู่ต้นเหตุทำน้ำท่วม 2 ปีติด
...โนอึลถล่มโนนสูง น้ำทะลักท่วม รพ.สต. ระดมชาวบ้านขนสิ่งของหนี โวยรถไฟทางคู่ปิดกั้นทางน้ำ ทำน้ำท่วม 2 ปีติด ไร้การแก้ไข
อิทธิพลพายุโนอึล ทำให้เกิดฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง โดยที่อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา มีน้ำฝนไหลเข้าท่วมถนนบริเวณข้างทางรถไฟ และมวลน้ำส่วนหนึ่งไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพลสงคราม ตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง ทำให้เครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ และเอกสารทางราชการต่างๆ ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องระดมกำลังกันช่วยขนสิ่งของหนีน้ำที่ไหลทะลักเข้ามาตลอดเวลา ขึ้นไปไว้บนชั้น 2 ของอาคาร และต้องงดบริการทางด้านสาธารณสุขเป็นการชั่วคราว
โดยชาวบ้านบอกว่า สาเหตุที่ให้น้ำท่วมขังเกิดจากการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ที่มีการวางท่อระบายน้ำขนาดเล็กและอยู่สูงมากกว่า รพ.สต. ทำให้น้ำระบายไม่ทัน จึงไหลย้อนกลับเข้าท่วมถนนและ รพ.สต. พลสงคราม ซึ่งหลังจากก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่แล้วเสร็จ ทำให้น้ำท่วมติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว ที่ผ่านมา เคยแจ้งไปยังการรถไฟฯ ซึ่งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ แต่แล้วเรื่องก็เงียบหาย ถ้าไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ก็จะมีปัญหาน้ำท่วมเช่นนี้ทุกๆปี
https://www.sanook.com/news/8256474/
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/3403706273009627
น้ำท่วมอุโมงค์ลอดรถไฟ ฝนตกทีไรก็แบบนี้ ชาวบ้านพ้อ หรือต้องใช้เรือดำน้ำ ?
...วันที่ 20 กันยายน 2563 ข่าวช่องวัน รายงานผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนอึล ทำให้ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบว่าอุโมงค์ลอดทางรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในเขตพื้นที่บ้านหัวบึง ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง มีน้ำท่วมสูงมิดอุโมงค์ เนื่องจากมีน้ำไหลลงอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง และมีน้ำขังอยู่ภายในอุโมงค์นานกว่า 2-3 วันแล้ว
สอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เวลาฝนตกจะมีน้ำท่วมขังอุโมงค์แห่งนี้อยู่เป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านต่างวิจารณ์ไปถึงการก่อสร้างที่ไม่คำนึงถึงการระบายน้ำ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนสัญจรผ่านไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนแบบนี้ เคยร้องเรียนไปแล้วก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ แก้ไข และรีบมาระบายน้ำออก พร้อมตัดพ้อว่า คงต้องขอเรือดำน้ำมาสัญจรแทน ถึงจะมองเห็นปัญหาความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน
https://hilight.kapook.com/view/206533
20 ก.ย.63 น้ำไม่ท่วมทางรถไฟ แต่ไปท่วมบ้านพักพนักงานรฟท. ที่สถานีพลสงคราม ในโครงการรถไฟทางคู่...รถจมน้ำต้องซ่อม
https://www.facebook.com/photo?fbid=3403619659684955&set=a.3033691060011152
Last edited by Wisarut on 21/09/2020 2:12 pm; edited 3 times in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 20/09/2020 11:49 pm Post subject: |
|
|
ทางลอดรถไฟทางคู่น้ำมท่วมซ้ำร้องเรียนไม่เป็นผล
20 กันยายน 2563 - 16:27
พายุโอนึลไปแล้วทางลอดรถไฟทางคู่น้ำยังเต็ม ชาวบ้านวอนขอเรือดำน้ำมาสัญจรแทน หลังร้องเรียนการรถไฟฯ ไม่เป็นผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อนโนอึลที่พัดผ่านประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีฝนตกหนักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หล่นพื้นที่ต้อประสบปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะอุโมงค์ลอดทางรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในเขตพื้นที่บ้านหัวบึง ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากมีน้ำไหลลงอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง และมีน้ำขังอยู่ภายในอุโมงค์นานกว่า 2-3 วันแล้วตั้งแต่เริ่มมีพายุทำให้ฝนตกลงมาในพื้นที่จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เวลาฝนตกจะมีน้ำท่วมขังอุโมงค์แห่งนี้อยู่เป็นประจำ ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ ทำให้ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาถึงเรื่องของการทำอุโมงค์ที่ไม่มีการบริหารจัดการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรผ่านเส้นดังกล่าวไม่ได้ อีกทั้งในช่วงนี้ เป็นช่วงของฤดูฝนและมีพายุมรสุมพาดผ่าน ชาวบ้านต้องทนทุกข์แบบนี้เป็นประจำ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาตรวจสอบดูแลบ้าง และนำเครื่องจักรมาดูดน้ำที่ท่วมขังในอุโมงค์ออกโดยด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งที่ผ่านมา เคยร้องเรียนไปถึงการรถไฟแห่งประเทศไทยหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล คงต้องขอเรือดำน้ำมาสัญจรแทน ถึงจะมองเห็นปัญหาความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน
ทางลอดรถไฟทางคู่น้ำท่วม ชาวบ้านร้องหลายครั้งไร้ผล
วันที่ 20 กันยายน 2563
อิทธิพลของพายุโซนร้อนโนอึลที่พัดผ่านประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 18กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีฝนตกหนักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน พื้นที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะอุโมงค์ลอดทางรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในเขตพื้นที่บ้านหัวบึง ตำบลมะค่า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากมีน้ำไหลลงอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง และมีน้ำขังอยู่ภายในอุโมงค์นานกว่า 2-3 วันแล้วตั้งแต่เริ่มมีพายุทำให้ฝนตกลงมาในพื้นที่
จากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า เวลาฝนตกจะมีน้ำท่วมขังอุโมงค์แห่งนี้อยู่เป็นประจำ ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ ทำให้ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานาถึงเรื่องของการทำอุโมงค์ที่ไม่มีการบริหารจัดการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรผ่านเส้นดังกล่าวไม่ได้ อีกทั้งในช่วงนี้ เป็นช่วงของฤดูฝนและมีพายุมรสุมพาดผ่าน ชาวบ้านต้องทนทุกข์แบบนี้เป็นประจำ
วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาตรวจสอบดูแลบ้าง และนำเครื่องจักรมาดูดน้ำที่ท่วมขังในอุโมงค์ออกโดยด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปถึงการรถไฟแห่งประเทศไทยหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล คงต้องขอเรือดำน้ำมาสัญจรแทน ถึงจะมองเห็นปัญหาความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 21/09/2020 12:53 am Post subject: |
|
|
ความก้าวหน้างานก่อสร้างประจำเดือนสิงหาคม 2563
สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
สามารถติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง เพจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร😊
https://www.facebook.com/southtwintrain/posts/2728371887417550 |
|
Back to top |
|
|
|