RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311239
ทั่วไป:13181805
ทั้งหมด:13493044
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 105, 106, 107 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 01/09/2020 7:49 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอส"จัดเจ้าหน้าที่เต็มกำลังรับหยุดยาว
อังคารที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 14.08 น.

ช่วงวันหยุดยาวนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวนมาก จึงมีบริการประชาสัมพันธ์จุดให้บริการเชื่อมต่อรถโดยสารสาธารณะ ขสมก. เรือ รถร่วมบริการต่าง ๆ



นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 4 – 7 ก.ย. นี้ บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อม ด้านการให้บริการ และความปลอดภัย นช่วงวันหยุดยาวนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นโดยบริการประชาสัมพันธ์จุดให้บริการเชื่อมต่อรถโดยสารสาธารณะ ขสมก. เรือ รถร่วมบริการต่าง ๆผู้โดยสารที่ประสงค์ จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด สามารถเดินทางลงที่ สถานีหมอชิต ออกประตูที่ 1 , 3เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) หรือ ลงสถานีเอกมัย ทางออกประตูที่ 2 เพื่อเดินทางต่อไปยัง สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) หรือจะเดินทางลงที่ สถานีบางหว้า ทางออกประตูที่ 5 ไปท่าเรือบางหว้า เพื่อต่อเรือโดยสารคลองภาษีเจริญ หรือลงที่สถานีสะพานตากสิน ทางออกประตูที่ 1 , 2 ไปท่าเรือสาทรเพื่อข้ามเรือไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

นอกจากนี้เพื่อลดปริมาณความหนาแน่นของผู้มาใช้บริการ บริษัทฯ ยังคงจัดขบวนรถไฟฟ้าออกให้บริการแก่ประชาชนทั้งหมด 98 ขบวน เพื่อเพิ่มความสะดวก และขอให้ผู้โดยสารทุกท่านโปรดเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้บริษัทฯ จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงยสุรพงษ์ อย่างไรก็ตามในแม้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ในประเทศไทยจะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่บริษัท ฯ ยังคงเข้มงวดในมาตรการป้องกันโดยการเน้นย้ำให้ผู้โดยสารทุกท่าน สวมหน้ากากอนามัย / หน้ากากผ้าทุกครั้ง ระหว่างการเดินทาง.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 09/09/2020 4:04 pm    Post subject: Reply with quote

“ยุทธพงศ์”ถล่มรัฐเอื้อเอกชนขยายสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว
หน้าPolitics
พุธที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 14:26 น.

“ยุทธพงศ์”ใช้เวทีสภาถล่มรัฐเอื้อเอกชนขยายสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว 40 ปี ต้นตอบีบ“ปรีดี”ไขก๊อก พร้อมคาใจจัดซื้อ”เรือดำน้ำ”จีทูจีเก๊ เรียกร้องให้นำเอกสารออกมาแสดง

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายใน 2 ประเด็น คือ

1.การไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง ไม่รักษาความสมดุล มีการก่อหนี้เพิ่ม โดยคาดว่าสิ้นปี 2564 จะมีการขาดดุลของงบสูงถึง 58% ซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแลวินัยการเงินการคลัง



และ 2.การดำเนินการของรัฐบาลยังเป็นการดำเนินการที่ไม่ได้อยู่บนหลักนิติธรรม เริ่มที่กรณีการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีการออกคำสั่งมาตรา44 เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนบริษัทหนึ่ง มีการยกเว้นพ.ร.บ.ร่วมทุน รวมถึงแก้ไขสัญญา ซึ่งถือว่าผิดหลักนิติธรรมเพราะสภาได้เคยมีมติแล้วว่าไม่ให้ขยายสัญญาออกไป 40 ปี แต่กลับมีความพยายามที่จะดำนินการดังกล่าว



ขณะเดียวกันกรณีนี้ ที่นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง ก่อนจะลาออกเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2563 ได้มีความเห็นท้วงติงในเรื่องดังกล่าว โดยขอให้เลื่อนการลงนามเพื่อตรวจสอบในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กลับลงนามสวนความเห็น นายอุตตม ส่งเรื่องให้ครม.เพื่อดำเนินการต่อสัญญาอีก 40 ปี



จากนั้นเมื่อนายปรีดี ดาวฉาย เข้ารับตำแหน่งรมว.คลัง ก็ได้มีความเห็นขอให้ถอนเรื่องดังกล่าวออกเพื่อพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่กลับมีผู้ที่พยายามดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมครม.จนกระทั่ง นายปรีดี ตัดสินใจลาออกในวันที่ 1 ก.ย.



จึงขอถามว่า นายสันติ ในฐานะรักษาการรมว.คลัง เหตุใดจึงไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องแต่กลับเซ็นขยายสัญญา ทั้งที่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ

เรื่องนี้ผมเคยมีคำถามไปยังกระทรวงการคลัง อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ทบทวนข้อเท็จจริงถึงผลประโยชน์ว่า



1จะทำให้รัฐเสียเปรียบ รัฐบาลจะยังเดินหน้าต่อในเรื่องนี้หรือไม่



2.ตนมีข้อซักถามไปถึงนายปรีดี รัฐบาลได้มีการตรวจสอบข้อซักถามเหล่านั้นหรือไม่



3.การใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ทั้งที่ยังมีพ.ร.บ.ร่วมทุนทำได้อย่างไร ได้คำนึงถึงหลักนิติธรรมหรือไม่



และ 4.การดำเนินการที่เป็นไปในลักษณะเอื้อเจ้าสัวได้ยึดหลักกนิติธรรมหรือไม่








ชาวกทมต้องร้องไห้หากรู้เรื่องนี้! ลูกชายไล่แม่ตัวเองออกจากบ้าน
Women'sbeauty



นายยุทธพงศ์ ยังอภิปรายต่อถึงประเด็นการจัดซื้อเรือดำน้ำ มีการดำเนินการไม่เป็นไปตามรูปแบบจีทูจี ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม นอกจากนี้ตนขอเรียกร้องไปยังนายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหมให้นำเอกสารจีทูจี (ฟูลพาวเวอร์) ทั้ง 2 ฝั่งมาแสดงเพื่อเป็นการยืนยันว่า มีการจัดซื้อรูปแบบดังกล่าวจริง



ขณะเดียวกันการจัดซื้อยังไม่มีการยึดข้อกฎหมาย เพราะทางฝ่ายจีนก็ไม่ได้มีการแสดงหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นจีทูจีเก๊ โดยเฉพาะการลงนามกับบริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co. Ltd กองทัพอ้างว่า ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน เหตุใดจึงปล่อยปะละเลยให้มีการลงนามกับบริษัทจีน แทนที่จะลงนามกับรัฐบาล


ยุทธพงศ์ ชี้สาเหตุ ปรีดี ลาออก ปมถูกบีบให้ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว
การเมือง

ยุทธพงศ์ ชี้สาเหตุ ปรีดี ลาออก ปมถูกบีบให้ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว
วันที่ 3 กันยายน 2563 เวลา 17:03 น.


วันที่ 3 ก.ย. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปยื่นหนังสือถึง นายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง

เรื่องขอให้ทบทวนพิจารณา มีความเห็นในทุกประเด็น เกี่ยวกับร่างสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ถูกต้อง ชัดเจนอย่างรัดกุมรอบคอบ และระมัดระวังในการดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม เลขรับที่ สร.กค.7676 ลงวันที่ 27 ส.ค. โดยมีประเด็นที่ส่อความไม่โปร่งใสและอาจจะผิดกฎหมายหลายเรื่อง

โดยประเด็นที่ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 13 ส.ค. คือ 1. คำสั่ง ม.44 นี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เอื้อประโยชน์เอกชนเพื่อขยายสัมปทานให้ทั้งที่ไม่จำเป็น หลบหลีกการประมูลในอนาคตโดยใช้ข้ออ้างการให้เอกชนแบกหนี้ค่าก่อสร้างแทน และปรับลดค่าโดยสารลงทั้งที่รัฐมีวิธีแก้มากมาย และสัมปทานก็เหลืออีกตั้ง 22 ปี (จบ 2585)

2. เป็นการหนี พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2562 อย่างชัดเจน หากกระทรวงมหาดไทยจะแก้ปัญหาก็ต้องทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ไปศึกษาและคัดเลือกตามขั้นตอน ไม่ใช่อ้างว่าไม่มีเอกชนรายใดสนใจในการทำ market sounding เลยใช้ ม.44 ให้เจรจากับเอกชนรายเดิม แล้วถือว่าเป็นการทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนโดยอนุโลม


นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า 3. เป็นการไม่เคารพต่อสภาฯ ที่มีรายงานการศึกษาแล้วว่าไม่เห็นด้วย แต่กระทรวงมหาดไทยไม่สามารถชี้แจงได้ หากรัฐบาลอนุมัติเท่ากับขัดแย้งกับความเห็นสภาฯ จะเป็นประเด็นที่นำมาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการร้องเรียน ฟ้องร้องในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ศาลปกครอง

ดังนั้นเชื่อว่าสาเหตุสำคัญหนึ่งที่ทำให้นายปรีดีลาออก เพราะท่านเป็นนักกฎหมาย และไม่อยากทำเรื่องผิดกฎหมาย คือการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี ทั้งๆที่เหลือเวลาในสัญญาเดิมอีก 10 ปี และใช้คำสั่ง ม.44 ในการอ้างต่อสัญญา

"ผมทราบมาว่ามีบิ๊กในรัฐบาลฯ มาบีบให้ท่าน รมต.ปรีดีเซ็นอนุมัติเห็นชอบให้มีการต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี เข้าสู่การพิจารณา ของ ครม.ในสัปดาห์หน้า"
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 10/09/2020 10:57 am    Post subject: Reply with quote

“สันติ”ยันยืดสัญญารถไฟฟ้าให้บีทีเอสถูกต้อง-ปัดเอื้อนายทุน
หน้าPolitics
พุธที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 15:39 น.

"สันติ"ยันกลางสภาฯขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียยให้บีทีเอส ดำเนินการถูกต้อง ปัดเอื้อนายทุน อัยการชี้ขาดแล้ว




นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ กรณีที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตถึงการขยายสัญญาสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า บริษัทบีทีเอสได้สัมปทานช่วงบางนาถึงสนามกีฬาแห่งชาติ หลังจากนั้นขยายมาถึงสมุทรปราการแถวบางปู และจากเซ็นทรัลลาดพร้อมถึงคูคต



โดยทั้งส่วนบีทีเอสและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อสร้างเสร็จแล้ว แบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ประชาชนท้วงติงว่าสร้างความลำบางให้ประชาชน จึงเกิดแนวคิดระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.และกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ในฐานะเจ้าของสัมปทาน จึงหารือกันเพื่อแก้ปัญหาหลายครั้ง ว่าจะร่วมทุนกันอย่างไร เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางตลอดสายตั้งแต่คูคตถึงบางนาในราคาถูกลง จากที่ประเมินว่าเกินกว่า 150 บาท เหลือ 65 บาท ถูกกว่าเกือบ 2 เท่า ส่วนราชการสร้างความสะดวกให้ประชาชน แต่ทาง กทม.ก็มีเงื่อนไขว่า ถ้า รฟม.ซึ่งจ่ายเงินค่าก่อสร้างกว่า 7 หมื่นล้านบาทแล้ว จึงตัดสินใจจ้างบีทีเอสต่อเพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยใช้บริษัทเดียว ซึ่งสำนักงานอัยการตรวจสอบหนังสือสัญญาเรียบร้อยแล้ว

ส่วนข้อคิดเห็นของนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง ซึ่งได้เสนอข้อคิดเห็นก่อนการลากออกเพียง 1 วันนั้น ขอเรียนว่า หลังจากวันที่ 15 ก.ค. ที่นายอุตตม ลาออก ปรากฏว่าในวันถัดมา นายอุตตม ได้ขอถอนความเห็นดังกล่าวออก เพื่อให้รัฐมนตรีใหม่มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น



“ผมในฐานะรักษาการรมว.คลังก็ได้นำข้อคิดเห็นของนายอุตตม ในส่วนที่เป็นประโยชน์มาประกอบการพิจารณา จากนั้นจึงลงนามส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)”



นายสันติ ยอมรับว่า การลงนามดังกล่าวเป็นช่วงเดียวกับที่ นายปรีดี ดาวฉาย ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรมว.คลังคนใหม่ และเมื่อ นายปรีดี เริ่มปฏิบัติหน้าที่วันแรกคือวันที่ 13 ส.ค. เรื่องดังกล่าวได้ถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. แต่ นายปรีดีเห็นว่า ยังไม่ได้ดูเรื่องดังกล่าวจึงขอนำกลับไปพิจารณาก็เท่านั้น ซึ่งจนถึงขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อความรอบคอบ


“สันติ” แจงปม ต่อสัมปทาน “รถไฟฟ้าสายสีเขียว”
การเมือง
วันที่ 9 กันยายน 2563 - 15:41 น.



สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ตอบข้อซักถาม การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปรับค่าโดยสาร เป็น 65 บาท ตลอดสาย จาก 150 บาท ลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง

วันที่ 9 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงายว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองโดยไม่มีการลงมติ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นตอบกรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า บริษัทบีทีเอสได้สัมปทานช่วงบางนาถึงสยาม จากนั้นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทน (รฟม.) มีโครงการส่วนต่อขยายจากบางนาไปสมุทรปราการไปบางปู และจากเซนทรัลไปคูคต

จากนั้นบริษัทบีทีเอสและ รฟม. เกิดข้อท้วงติงว่า เมื่อรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็น 3 ตอน สร้างความยากลำบากให้กับประชาน จึงมีแนวคิดของ รฟม.และ กทม.เจ้าของสัมปทาน เพื่อหารือถึงความยากลำบากของประชาชน



ขณะเดียวกันถ้าเป็น 3 ตอน ประชาชนต้องเสียค่าแรกเข้า 3 ครั้ง รวมเกิน 150 บาท ซึ่งแพงมหาโหด ด้วยเห็นความเด็ดร้อนประชาชน จึงได้หารือจะร่วมทุนกันได้อย่างไรเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากคูคตไปบางนาถูกลงตลอดสาย

“จึงตกลงร่วมทุนเดินรถและสรุปค่าโดยสายจาก 150 บาทตลอดสาย เป็น 65 บาทตลอดสาย ถูกกว่าเดิม 2 เท่า และที่สำคัญไม่ต้องขึ้นๆ ลงๆ ต่อรถ สร้างความสะดวกให้ประชาชน กทม.จึงมีเงื่อนไขเมื่อรวมกันแล้ว รฟม.จ่ายค่าก่อสร้าง 7 หมื่นกว่าล้าน ถ้าบริหารขัดข้องและค่าใช้จ่ายสูง ก็จะทำให้บริหารอย่างเป็นเอกเทศ ซึ่งกทม.เจรจากับบีทีเอส เพื่อบริหารต่อไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย”

นายสันติกล่าวว่า ปรากฏว่าได้ตกลงบริหารโดยบีทีเอสบริษัทเดียว มีการร่างสัญญา ตรวจโดยอัยการสูงสุดเรียบร้อย กทม.ได้ร่างสัญญาส่งให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ แต่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังขณะนั้น ก่อนลาออก 1 วัน ได้ตอบความเห็นของโครงการ ฯ ที่กทม.ได้ขออนุมัติและถามความเห็นที่กระทรวงการคลัง หลังจากตอบท่านอุตตมก็ลาออก ท่านอุตตมจึงมีหนังสือ เพื่อความถูกต้องจึงขอถอนความเห็นเพื่อให้รมว.คลังคนใหม่มีอิสระแสดงความเห็นเมื่อเข้าครม.

“เมื่อท่านอุตตมลาออกผมก็รักษาการโดยอัตโนมัติ ตรวจสอบแล้วเป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์ก็มาปรับปรุงนิดหน่อยและส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเข้าครม.ที่ผมเซ็นไปนั้น เป็นช่วงที่นายปรีดี ดาวฉาย ได้เป็นรมว.คลัง ดังนั้น หนังสือผมก็เดินทางไปครม. วันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถวายสัตย์ฯ ก็เป็นรมว.คลัง 100 เปอร์เซ็นต์ วันที่ 13 สิงหาคม 2563 มีการประชุมครม. รถไฟสายสีเขียวเข้าครม. ท่านปรีดีเห็นว่ายังไม่ได้ดูเรื่อง จึงขอไปดูหน่อย แค่นั้นเอง บัดนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ นายปรีดีดูแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) กำลังดูเพื่อความรอบคอบในร่างสัญญาและอัยการสูงสุดตรวจสอบสัญญาเรียบร้อย”

โยกงบ 64 โป๊ะท้องถิ่น 1 หมื่นล้าน
นายสันติยังตอบประเด็นผู้นำท้องถิ่นขอพบ 40 คน ได้มาร้องเรียนกับผมเหมือนกันเพราะโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจชะลอลงไปทั่วโลก เงินเก็บภาษีท้องถิ่นลดลง

“จากความจำเป็นของท้องถิ่น ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ส.ส.ผู้ทรงเกียรติได้พิจารณาได้ตัดงบประมาณออก 3.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นทางเทศบาลเดือดร้อนจากการเก็บภาษีท้องถิ่นที่ลดลง 1 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้ทางเทศบาลนำเอาไปบำรุงรักษาเทศบาล จำนวน 10,067 ล้านบาท และยังเอาไปให้กับผู้สูงอายุ 588 ล้านล้านและช่วยกระทรวงสาธารณสุขในส่วนของเจ้าหน้าที่หลายหมื่นคนที่ทำงานโควิด 4 หมื่นกว่าคน 5,000 กว่าล้าน เพื่อจ้างเจ้าหน้าที่ดูแลโควิด”

นายสันติยังได้กล่าวถึงหนี้ครัวเรือน ขณะนี้ กว่า 13.4 ล้านบาทนั้น คำว่าหนี้ครัวเรือน ต้องเข้าใจว่าเป็นหนี้ครัวเรือน ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย มีเพียง 30 % เท่านั้น แต่อีก 70 % เป็นหนี้ลงทุนของครัวเรือนเพื่อกู้ไปประกอบสัมมาอาชีพ เช่น อาชีพอิสระ ดาวน์รถปิคอัพไปทำรถพุ่มพวง ล้วนเป็นหนี้ครัวเรือนทั้งสิ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 11/09/2020 10:27 am    Post subject: Reply with quote

'สันติ' จ่อชงครม.ขยายสัมปทานสายสีเขียว
9 กันยายน 2563

“สันติ พร้อมพัฒน์” เมิน ”ยุทธพงศ์” ลั่นพร้อมเสนอขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ครม.อนุมัติ อ้างทุกฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้ว และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตถึงการขยายสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยยืนยันว่าการขยายสัมปทานดังกล่าว เป็นไปเพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างบีทีเอสและกทม. โดยมีการร่างสัญญาให้บีทีเอสเป็นผู้บริหารงานแต่เพียงผู้เดียวเพื่อความเป็นเอกเทศในการบริหาร


ทั้งนี้ผู้ดำเนินการเดินรถไฟฟ้าช่วงคูคดมาถึงแยกลาดพร้าว ลาดพร้าวถึงบางนา จากบางนาออกไปสมุทรปราการ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง จึงทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อประชาชนทั้งในด้านการเดินทางที่ต้องมีการเปลี่ยนรถถึง 3 ครั้งและมีค่าใช้จ่ายตลอดสายสูงถึง 150 บาท
จึงเป็นเหตุให้รัฐบาลในนาม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)โดยมีผู้ถือหุ้นคือ กทม. และบริษัทบีทีเอส ตกลงร่วมทุนเดินรถ ในการให้เกิดการเดินทางแบบ Pass Trough และมีค่าโดยสารลดลงจาก 150 บาท เหลือ 65 บาท การลดราคาดังกล่าวนอกจากการร่วมลงทุน แต่ยังเพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นเอกภาพในการทำงาน เลยได้มีการกำหนดให้บีทีเอสเป็นผู้รับสัมปทานการเดินรถต่อไปด้วยเลย ซึ่งการเป็นผู้รับสัมปทานดังกล่าวในการจัดทำสัญญาก็ได้ผ่านคณะกรรมการ และได้ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาในการตรวจทานความถูกต้อง


ขณะที่ในกระบวนการดังกล่าวจะต้องมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.). โดยในเวลานั้น ดร.อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือความเห็นกรณีดังกล่าวและยื่นคณะรัฐมนตรีก่อน 1 วันที่จะลาออก แต่เมื่อลาออกแล้ว จึงขอยกเลิกหนังสือความเห็นดังกล่าว ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้รัฐมนตรีท่านใหม่ได้มีอิสระในการพิจารณา

ต่อมาในช่วงเวลาก่อนนายปรีดี ดาวฉาย (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อจากดร.อุตตม) จะเข้ารับถวายสัตย์เพื่อรับตำแหน่ง ตนได้นำเรื่องมาพิจารณาโดยนำหนังสือความเห็นของ ดร.อุตตม มาเป็นเกณฑ์และทำความเห็นเพิ่มเติม แต่เมื่อนายปรีดี รับตำแหน่ง ทางคณะรัฐมนตรี จึงได้ส่งเรื่องไปให้นายปรีดี พิจารณาใหม่แต่ก็ยังไม่ได้มีความเห็นใดเพิ่มเติมมาจนกระทั่งนายปรีดี ยื่นหนังสือลาออก


ดังนั้นในปัจจุบันขั้นตอนการอนุมัติ กรณีขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว จึงมีความพร้อม ในการนำเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ทันที
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 11/09/2020 10:37 am    Post subject: Reply with quote

"อนุพงษ์" แจงสภา รัฐปลดหนี้แสนล้านแลกขยายสัมปทานสายสีเขียว
หน้า Politics
10 กันยายน 2563 เวลา 18:31 น.

ประชุมสภา "มท.1” ทวนความจำ “ยุทธพงษ์” ส.ส.เพื่อไทย ชี้ ต้นตอปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวเริ่มตั้งแต่ปี 51 ขณะที่ “คสช.” เข้ามาแก้ปัญหา ยัน คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นพิจารณา มีความโปร่งใส-ยึดประโยชน์ประชาชนสูงสุด-ไม่มีเอื้อเจ้าสัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาเพื่ออภิปรายทั่วไป พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงข้อกล่าวหาของ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กรณีรัฐบาลเตรียมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กลุ่มบีทีเอส เป็นการเอื้อประโยชน์แก่นายทุนว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีข้อกังขามาหลายครั้งว่า เอื้อนายทุนและมีผลประโยชน์ต่างๆ จึงอยากเรียนให้ทราบว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เริ่มตั้งแต่โครงสร้างทางกายภาพในส่วนแรก เรียกว่า สายสีเขียวหลัก หรือ สายสีเขียวเข้ม ซึ่งการดำเนินการในช่วงเริ่มต้นนั้นทางบีทีเอสก่อสร้างโดยใช้งบประมาณของตนเอง เป็นสายเดียวในประเทศไทยที่เอกชนลงทุนเอง รัฐไม่ได้ลงทุนให้ โดยผลประโยชน์ตอบแทนคือ ค่าโดยสารที่เก็บได้ในช่วงสัมปทาน 30 ปี ตั้งแต่ปี 2542-2572




ต่อมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ก่อสร้างเพิ่มเติม เรียกว่า “ส่วนต่อขยาย 1” โดยใช้งบประมาณของ กทม. และขยายสัมปทานให้บีทีเอสเดินรถ เมื่อหมดระยะเวลาสัมปทานในปี 2572 สายสีเขียวเข้มทั้งหมดจะตกเป็นของ กทม.


แต่ปัญหาเริ่มเกิดเมื่อรัฐบาลสมัยปี 2551 ได้ไปมอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปสร้างส่วนต่อขยายทางเหนือและทางใต้ หรือ “ส่วนต่อขยาย 2” เรียกว่า สายสีเขียวเหนือกับสีเขียวใต้ แต่ก็มีปัญหาขาดทุน ต้องจ้างเดินรถ และมีภาระหนี้กว่า 7 หมื่นล้านบาท รัฐบาลจึงโอนโครงสร้างทั้งหมดของ รฟม.ไปให้ กทม.ดำเนินการ ซึ่งก็ทำให้มีปัญหาตั้งแต่แรกเช่นกัน คือ ประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสารแพงถึง 158 บาท และต้องเสียค่าแรกเข้า หากเดินทางข้ามส่วนต่อขยายจะต้องเปลี่ยนรถหลายครั้ง ถ้าไม่เก็บค่าแรกเข้าจากประชาชน ก็ต้องผลักภาระไปให้ กทม. ประกอบกับ กทม.มีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบหลายหมื่นล้าน รวมทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ และการเดินรถ รวมๆ แล้วเป็นแสนล้าน นี่คือปัญหาที่เกิดกับ กทม. จึงมีแนวคิดจะแก้ปัญหาด้วยการร่วมทุน


หากรัฐบาลจะเข้าไปช่วย หนี้ก็ต้องกลายเป็นหนี้สาธารณะ กลายเป็นภาระของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของ กทม.ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพียงแห่งเดียวจาก 7,580 แห่งในประเทศไทย ส่วนการจะไปยกเลิกสัมปทานก็เป็นไปไม่ได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 16/09/2020 12:12 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้โดยสาร BTS เริ่มกระเตื้อง ส.ค. แตะ 13.2 ล้านเที่ยว
ข่าวหุ้น-การเงิน
วันที่ 15 กันยายน 2563 - 18:22 น.


ผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เริ่มกระเตื้อง เดือนสิงหาคม ยอดเที่ยวรถ แตะ 13.2 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้น 11.4% จากเดือนก่อน

วันที่ 15 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงรายงานจำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS ว่า ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เดือนเมษายน 2563 มีจำนวนผู้โดยสาร 3.5 ล้านเที่ยว -70.4% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน -81.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

เดือน พฤษภาคม 2563 มีจำนวนผู้โดยสาร 5.5 ล้านเที่ยว +59.5% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน -72.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน


เดือน มิถุนายน 2563 มีจำนวนผู้โดยสาร 9.5 ล้านเที่ยว +72.1% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน -53.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

เดือน กรกฎาคม 2563 มีจำนวนผู้โดยสาร 11.9 ล้านเที่ยว +25% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน -43.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

และเดือน สิงหาคม 2563 มีจำนวนผู้โดยสาร 13.2 ล้านเที่ยว +11.4% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน -39.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2020 11:58 am    Post subject: Reply with quote

BTS ลุ้น รมว.คลังคนใหม่เคาะขยายสัมปทานสายสีเขียว

17 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 08:32 น.

17 ก.ย. 2563 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายอายุสัปมทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว อีก 30 ปีว่า ตามที่ BTS จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 โดยแลกกับการรับภาระหนี้ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กว่า 70,000 ล้านบาท และจะต้องคิดเพดานค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาทนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบโครงการนี้แล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยนำเสนอนั้น

อย่างไรก็ตามขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายที่รอความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ให้ความเห็นก่อน ถ้าหากได้รับอนุมัติจาก ครม.และลงนามสัญญากัน จะเร่งดำเนินการเดินรถภายในใต้สัญญาสัมปทานใหม่ อาจจะดำเนินการเริ่มเก็บค่าโดยสารใหม่สูงสุดไม่เกิน 65 บาทต่อเที่ยวได้เร็วกว่าช่วง ธ.ค. 2563

นายสุรพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ที่คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ได้มีมติปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอการประมูล โดยให้นำคะแนนเทคนิคมาร่วมพิจารณาด้วย โดยให้น้ำหนักคะแนนด้านเทคนิค 70% และด้านราคา 30% นั้น BTS ได้ส่งหนังสือชี้แจงจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หลังจากที่บริษัทได้ยื่นร้องเรียนไปแล้ว และเห็นว่าการเปลี่ยนหลักเกณฑ์ภายหลังจากการขายซองและปิดการขายซองไปแล้ว ซึ่งทำให้ทราบว่า มีรายใดจะเข้าร่วมการประมูล ไม่เป็นธรรม และจะร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เนื่องจากเป็นผู้ดูแลเรื่องนโยบาย รวมถึงคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. โดยต้องการให้ยึดตามประกาศเดิม ส่วนการร้องต่อศาลปกครอง ยังอยู่ระหว่างพิจารณา แต่ยืนยันว่า ทุกอย่างจะดำเนินการไปตามขั้นตอน

“ขณะนี้คาดว่าจะยื่นซองประมูล แต่ต้องดูรายละเอียดก่อน เพราะอาจจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ คนซื้อซองหมดแล้วมันมีแค่ 10 คน เพราะฉะนั้นจะรู้ว่าใครมีความสามารถอะไร ข้อได้เปรียบเสียเปรียบอะไร ก็กังวลแหละครับถึงได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมให้เปลี่ยนกลับมาใช้หลักเกณฑ์เดิม เพราะหลักเกณฑ์เดิมใช้ทุกครั้งการประมูลโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น PPP ซึ่งตามปกติเปิดซองคุณสมบัติก่อน เมื่อผ่านเปิดซองเทคนิค ผ่านแล้วเปิดซองราคา เมื่อเปิดซองราคา ผู้ที่เสนอราคาที่ดีที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ อันนี้ตัดสินง่ายตรงไปตรงมา แต่ถ้าหากใช้คะแนนด้านเทคนิคมาคิดก็อาจเป็นเรื่องดุลยพินิจได้” นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรงอีกว่า คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2564 ซึ่งอาจจะไม่ได้เดินรถทั้งเส้นทาง ทั้งนี้ ขบวนรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองนั้น ขบวนแรกจะมาถึงไทยในช่วงปลายเดือน ก.ย. 2563 และทยอยเข้ามาจนครบในกลางปี 2564 โดยสายสีชมพูจะมี 42 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ และสายสีเหลืองจะมี 30 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมทั้งหมด 288 ตู้

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้น ขณะนี้ยังติดปัญหาส่งมอบพื้นที่ได้ไม่ครบ งานก่อสร้างล่าช้าอยู่ที่ 60% ขณะที่ส่วนต่อขยายสายสีชมพู เข้าโครงการเมืองทองธานีอีก 2 สถานี ขณะนี้รอที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ และจะใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปีครึ่ง คาดแล้วเสร็จในปี 2565 ด้านโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะได้รับการอนุมัติให้ทำส่วนต่อขยายรัชดาฯ-ลาดพร้าว-รัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร ล่าสุดได้ทำหนังสือยืนยันกับ รฟม.ว่า BTS จะลงทุนทั้งหมดค่าก่อสร้าง ค่าเวนคืนที่ดิน และหากมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตกลง ก็จะแบ่งค่าโดยสารให้ รฟม.

นายสุรพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจาก รฟม.ว่าจะต้องเจรจาหรือไม่ แต่บริษัทยืนยันไม่รับเงื่อนไขที่ยอมรับในสัญญาเปิดให้เจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้เดินรถไฟฟ้า MRT หากต้องมีการชดเชยรายได้ระหว่างกัน เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทมหาชนคงทำไม่ได้หากการเจรจาไม่ได้ข้อยุติ ส่วนประเด็นที่หากเจรจาไม่ได้ข้อสรุป และอาจจะไม่ได้สร้างส่วนต่อขยายนั้น นายสุรพงษ์ ระบุว่า ได้ส่งหนังสือให้ รฟม.แล้ว ยืนยันว่าจะทำตามโครงการเดิมซึ่งเป็นเส้นทางหลักเส้นทางเดียว แต่ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย ซึ่ง รฟม.อาจจะต้องชั่งน้ำหนักว่าได้อะไรเสียอะไรและคุ้มค่าไหม แต่แน่ๆ ที่ได้ คือ ประชาชน

สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีกรุงธนบุรี-เจริญนคร-คลองสาน 3 สถานี อาจจะไม่สามารถเปิดได้ตามกำหนดได้ หรือช่วง ต.ค. 2563 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบอยู่ แต่เนื่องจากความล่าช้าจากที่ขบวนรถเข้ามาล่าช้ากว่าแผน บุคคลากรที่ติดตั้งทดสอบระบบ เริ่มเข้ามาได้ 3 สัปดาห์ และเพิ่งเริ่มทำงาน โดยอาจจะต้องหารือกับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัดก่อน เพราะกังวลว่าอาจจะไม่พร้อมในการให้บริการ ซึ่งตามปกติการทดสอบระบบเช่นระบบอาณัติสัญญาณ ระบบราง และระบบอื่นๆ ต้องใช้เวลาทดสอบอย่างน้อย 1-2 เดือน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า จะพยายามให้เปิดบริการได้ทันภายในสิ้นปีนี้ แต่สถานีสุดท้าย คือ สถานีคลองสานยังมีปัญหาทางลงที่บริเวณโรงพยาบาลตากสิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้าง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 20/09/2020 3:11 am    Post subject: Reply with quote

กทม.จ๊าก!แบกหนี้พุ่ง รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ลุ้นเคาะต่อสัมปทาน 38 ปี

หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project

ออนไลน์เมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 09:23 น.
ตีพิมพ์ใน หน้า7
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ ที่ 3611

"บีทีเอส"ลุ้น ครม. เคาะ ต่อสัญญาสัมปทาน "รถไฟฟ้า"สายสีเขียว" กทม."ลั่นแบกหนี้แสนล้านไม่ไหว หลังเปิดเดินรถไม่เก็บค่าโดย สายสารกว่า 1 ปี หนี้พุ่ง 1.6 พันล้าน ขีดเส้นเงื่อนไขเจรจาบีทีเอสแลกค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย หวังลดภาระประชาชนในการเดินทาง

หลังกรุงเทพมหานคร ในฐานะคู่สัญญา ปิดดีลขยายสัญญาสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี 38 ปี โดยมีเงื่อนไขแลกหนี้ วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท กับค่าโดยสารที่ถูกลงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการ แต่กลับต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากยังขาด “ขุนคลัง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนใหม่ พิจารณาเห็นชอบ ก่อนเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบ คาดว่าภายในปีนี้ ได้เห็นสัญญาใหม่




สำหรับความคืบหน้าการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในหลักการแล้ว แต่อยู่ระหว่างขอความเห็นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าหาก ครม.อนุมัติ บีทีเอสจะเร่งกระบวนการปรับโครงสร้างราคาให้เป็นสูงสุดไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย โดยจะดำเนินการได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับการลงนามสัญญาสัมปทานให้แล้วเสร็จ



“หากได้รัฐมนตรีคลังคนใหม่เร็วก็มั่นใจว่าจะสามารถลงนามได้ก่อนเดือน ธ.ค.63 ทั้งนี้บีทีเอสดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ. PPP ทุกขั้นตอน ปัจจุบันสัมปทานเหลืออยู่กว่า 8 ปี ซึ่งหากครม.อนุมัติการต่อสัมปทานจะทำให้ระยะเวลาเดินรถของบีทีเอสเพิ่มเป็น 38 ปี ระยะทาง 66.4 กม. จากสัญญาสัมปทานเดิมมี 23.5 กม. แลกกับการเก็บค่าโดยสารรวมส่วนต่อขยายไม่เกิน 65 บาทต่อเที่ยว”


สำหรับการเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต เตรียมเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าไปถึงสถานีคูคตภายในเดือน ธ.ค.63 ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบเดินรถ จากปัจจุบันเปิดให้บริการเดินรถไปถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ซึ่งมีผู้โดยสารเข้ามาในระบบราว 100,000 เที่ยวคนต่อวัน ทั้งนี้คาดว่าเมื่อเปิดให้บริการถึงสถานีคูคต จะมีผู้โดยสารเข้าสู้ระบบราว 200,000 เที่ยวคนต่อวัน ซึ่งเป็นการคาดการณ์ก่อนเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ผ่านมาบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ได้รับสัมปทานช่วงสถานีแบริ่ง-สยาม ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีโครงการเดินหน้าส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่ง-สมุทรปราการ-บางปู และจากสถานีห้าแยกลาดพร้าว-คูคต ทำให้เกิดข้อทักท้วงของบีทีเอสและ รฟม.



โดยรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็น 3 ตอน สร้างความลำบากให้กับประชาน จึงมีแนวคิดให้ รฟม.และ กทม.ซึ่งเจ้าของสัมปทาน หารือร่วมทุน เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากสถานีคูคต-แบริ่ง ถูกลงตลอดสาย ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลการต่อสัมปทานฯ เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว หลังจากที่ให้อัยการสูงสุดตรวจสอบร่างสัญญาแล้วเสร็จเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยแลกกับเงื่อนไขในการกำหนดอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 65 บาทตลอดสาย จากเดิมประชาชนต้องจ่ายค่าโดยสารสูงถึง 159 บาท ซึ่งช่วยลดภาระประชาชนในการเดินทาง



“ที่ผ่านมาเราได้มีการเจรจากับบีทีเอส ซึ่งในช่วงแรกก็ไม่ยอม เพราะหากเดินทางจากสถานีสยาม-แบริ่ง ค่าโดยสารอยู่ที่ 59 บาทแล้ว เพิ่มอีก 6 บาท เขาอยู่ไม่ได้ ซึ่งทางเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะค่าโดยสารแพงจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน หากเจราจาตกลงแล้งควรยึดเงื่อนไขที่เรากำหนดไว้ ส่วนแนวโน้มที่จะขยายสัญญาสัมปทานต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบีทีเอส หารือกับรัฐบาลว่าจะต่อสัมปทานหรือไม่ หากไม่ต่อและไม่ยึดตามเงื่อนไขที่เราขอ ก็ยกเลิก เพราะเราคงแบกรับภาระหนี้แสนล้านบาทไม่ไหว”



สำหรับสาเหตุการต่ออายุสัมปทานฯ มาจากที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) รับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จากรฟม. ทำให้กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทาง ทำให้ต้องรับภาระหนี้กว่าแสนล้านบาท จากการโอนโครงการรวมถึงค่าบริหารจัดการเดินรถไปด้วย ทำให้กทม.มีการเจรจากับบีทีเอสด้วยการต่ออายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี แลกกับบีทีเอสรับภาระหนี้มูลค่าแสนล้านบาทแทนกทม. และเงื่อนไขค่าโดยสารตลอดเส้นทางไม่เกิน 65 บาท


ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้และค่าใช้จ่ายในการเดินรถนั้น คาดว่าหากครม.อนุมัติการต่อสัมปทานจะทำให้บีทีเอสเป็นผู้แบกรับภาระหนี้แสนล้านบาท และได้สัญญาสัมปทานเพิ่มออกไปถึงปี 2572 หลังจากนั้นบีทีเอสต้องทยอยชำระค่าเช่าให้กับกทม.ตลอดอายุสัญญาสัมปทานเป็นรายปี ซึ่งจะทำให้กทม.มีรายได้ราว 2 แสนล้านบาท



“หากบีทีเอสหารือกับรัฐบาลแต่ไม่ได้ข้อสรุป และให้กทม.กลับมาบริหารรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหมือนเดิมคงไม่ทำเนื่องจากปัจจุบันกทม.เปิดให้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงส่วนต่อขยายสถานีแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ และสถานีจตุจักร-วัดพระศรีฯ ซึ่งไม่ได้เก็บค่าโดยสารกว่า 1 ปีแล้ว ส่งผลให้กทม.มีหนี้ราว 1,600 ล้านบาท”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 22/09/2020 5:05 pm    Post subject: Reply with quote

22 กันยายน วัน CAR FREE DAY กทม.ย้ำ พกจักรยานพับได้ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี!
หน้าแรก / ข่าวทั่วไป /

22 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 15:33 น.


ผู้ว่าฯ อัศวิน เผย กทม. เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายเดินทาง รถ ราง เรือ รณรงค์คนกรุงใช้บริการขนส่งสาธารณะ ย้ำ 22 กันยายน วันคาร์ฟรีเดย์ พกจักรยานพับได้ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตลอดวัน

พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความ รณรงค์การใช้บริการขนส่งสาธารณะ เนื่องในวัน คาร์ฟรีเดย์ (22 กันยายน) โดยมีใจความดังนี้ ....

22 กันยายน วัน CAR FREE DAY
ฝนตกทั่วกรุงเทพฯ แต่เช้า การจราจรในกรุงเทพฯ เคลื่อนตัวช้า เพราะถนนลื่น ขับขี่ด้วยความระมัดระวังด้วยนะครับ
สำหรับวันนี้ 22 กันยายน วันคาร์ฟรีเดย์ (CAR FREE DAY) เป็นอีกหนึ่งวัน ที่กทม.และทุกภาคส่วนได้ร่วมกันรณรงค์และกระตุ้นเตือนให้ประชาชนทุกคน ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง แล้วหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะและรถจักรยานเพิ่มมากขึ้น หรือหากจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว ทางเดียวกันก็ไปรถคันเดียวกันครับ

ไม่จำเป็นต้องวันนี้วันเดียวนะครับ วันที่ท่านสะดวกและอยากจะลองใช้บริการขนส่งสาธารณะ แล้วค่อยๆ ปรับพฤติกรรมมาใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น เพื่อร่วมกันลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดปัญหาการจราจร ปัญหาฝุ่นควัน รวมถึงความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากมลพิษทางเสียงและอากาศ ตลอดจนปัญหาโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี

ปัจจุบัน กทม.ได้เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายการเดินทางแบบ ล้อ ราง เรือ ให้เชื่อมต่อถึงกันมากที่สุด เพื่อให้การเดินทางในชีวิตประจำวันและการท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ เป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย และให้ทุกวัน เป็นวัน CAR FREE DAY ต่อไป

วันนี้ (22 ก.ย.) กทม.ร่วมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้ร่วมสนับสนุนการเดินทางของคนกรุงเทพฯ โดยให้บริการรถไฟฟ้า “ฟรี” แก่ผู้โดยสารที่มาพร้อมรถจักรยานพับได้ ตลอดทั้งวันอีกด้วย ส่วนจักรยานที่พับไม่ได้ BTS ให้โดยสารได้ฟรี ในช่วงเวลา 06.00-06.30 น. และ 22.00 จนถึงเวลาปิดให้บริการครับ



MRT-BTS ร่วม “Car Free Day” แจกต้นไม้ 1 หมื่นต้น พกจักรยานมานั่งรถไฟฟ้าฟรี
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 22 กันยายน 2563 - 11:11 น.

MRT-BTS ร่วมจัดกิจกรรมลดโลกร้อน Car Free Day 2020 แจกต้นไม้ 1 หมื่นต้น พกจักรยานมานั่งรถไฟฟ้าฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 กันยายน 2563 ของทุกปีเป็นวัน ”Car Free Day“ ทางผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าจัดกิจกรรมร่วมรณรงค์ลดโลกร้อน

ในส่วนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมรณรงค์ลดโลกร้อน “22 กันยายน Car Free Day” เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจร รักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางเสียง ทางอากาศ และลดฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

ด้วยการยกเว้นค่าโดยสาร สำหรับผู้โดยสารที่นำรถจักรยานชนิดพับได้มาใช้บริการในรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ในวันที่ 22 กันยายน 2563 ตลอดระยะเวลาการให้บริการ สามารถติดต่อขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารของทั้ง 2 สาย



ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า เนื่องในวัน Car Free Day ซึ่งตรงกับวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี ทั่วโลกร่วมกัน รณรงค์หยุดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ

เพื่อร่วมกันลดโลกร้อน ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะที่มาจากท่อไอเสียรถยนต์ อาทิ คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ควัน ฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นต้น ช่วยกันยกระดับคุณภาพอากาศ ให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 22 กันยายน Car Free Day บริษัทฯ ขอเชิญชวนให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยจะยกเว้นค่าโดยสารให้แก่ ผู้ที่เดินทางด้วยจักรยานฟรีทุกสถานี รวมทั้งส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และส่วนต่อขยายสายสีลม เพื่อให้ทุกคนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะแทน

โดยจักรยานพับได้สามารถเข้าระบบฟรี ตลอดเวลาการให้บริการ ส่วนจักรยานพับไม่ได้เข้าระบบฟรี แบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่เวลา 06.00 – 06.30 น. และ ตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงปิดให้บริการ นอกจากนี้ สำหรับรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือบีอาร์ที สามารถนำจักรยาน เฉพาะพับได้เข้าระบบฟรีตลอดเวลาการให้บริการ ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับคูปองฟรีได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี

อนึ่ง ในวันดังกล่าว บริษัทฯ ได้เพิ่มเติมความพิเศษต่อเนื่อง จัดกิจกรรม “บีทีเอสดูแลโลก เราดูแลคุณ” แจกต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพ ในการจับฝุ่นละอองกว่า 10,000 ต้น ให้แก่ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรี ณ บริเวณทางเดินเชื่อมศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ตั้งแต่เวลา 10.00 น.โดยจะแจกจนกว่าต้นไม้จะหมด



พกจักรยานพับได้ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ทั้งบีทีเอส,เอ็มอาร์ที 22 ก.ย.นี้
หน้าข่าวเศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
จันทร์ที่ 21 กันยายน 2563 เวลา 14.01 น.

พกจักรยานพับได้ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ทั้งบีทีเอส เอ็มอาร์ที บีอาร์ทีตลอดวันที่22 ก.ย.นี้ ร่วมรณรงค์วันCar Free Day สนับสนุนประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ก่อนใช้ติดต่อขอรับคูปองก่อน



นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า ในวันที่ 22 ก.ย.63 ซึ่งเป็นวัน Car Free Day บริษัทฯ ขอเชิญชวน ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยจะยกเว้นค่าโดยสารให้แก่ผู้ที่เดินทางด้วยจักรยานฟรีทุกสถานี รวมทั้งส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และส่วนต่อขยายสายสีลม เพื่อให้ทุกคนหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะแทน โดยจักรยานพับได้สามารถเข้าระบบฟรีได้ตลอดเวลาการให้บริการ ส่วนจักรยานพับไม่ได้ สามารถเข้าระบบได้ฟรี แบ่งเป็น 2 ช่วง ตั้งแต่เวลา 06.00 – 06.30 น. และตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึงปิดให้บริการ ขณะที่รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือบีอาร์ที สามารถนำจักรยานเฉพาะพับได้เข้าระบบฟรีตลอดเวลาการให้บริการ ผู้โดยสารสามารถติดต่อขอรับคูปองฟรีได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี



 ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมรณรงค์ลดโลกร้อน “ 22  กันยายน Car Free Day ” เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจร รักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางเสียง ทางอากาศ และลดฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ด้วยการยกเว้นค่าโดยสาร สำหรับผู้ที่นำรถจักรยานชนิดพับได้มาเดินทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ในวันที่ 22 ก.ย. 63 ตลอดระยะเวลาการให้บริการ โดยสามารถติดต่อขอรับคูปองเดินทางฟรีได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารของทั้ง 2 สาย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 25/09/2020 1:08 pm    Post subject: Reply with quote

BTS ลุ้นเซ็นสัมปทานรถไฟฟ้า-มอเตอร์เวย์ ยันได้นั่งสายสีเขียวถึงคูคต ธ.ค.นี้
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 25 กันยายน 2563 - 10:50 น.

“BTS” อัพเดตโปรเจ็กต์ในมือ “สายสีเขียว” ยังรอ ครม. “สายสีทอง” เลื่อนเปิดไม่เกิน พ.ย. ยัน “ต่อขยายสีเหลือง” ส่วนลงนาม O&M มอเตอร์เวย์ 2 สายเซ็นแน่ พ.ย.นี้

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ( BTS) กล่าวว่า ความคืบหน้าของการเสนอสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยังอยู่ในขั้นตอนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา แต่คาดว่าทางหน่วยงานของรัฐน่าจะเสนอ ครม.ได้เร็วที่สุด เพราะหากยังล่าช้ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังต้องแบกภาระหนี้ซึ่งมีประมาณ 110,000 ล้านบาทไปเรื่อยๆ ซึ่งดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นทุกวัน

“ส่วนราคาค่าโดยสารสูงสุดที่ 65 บาท ก็ได้รับเงื่อนไขนี้แล้ว และขอยืนยันว่าสัมปทานสายสีเขียวครั้งนี้จะเริ่มต่อในปี 2572 มีระยะเวลาสัญญา 30 ปี ไม่ได้มีระยะเวลาสัญญายาวถึง 40 ปีแต่อย่างใด”


ขณะที่ความคืบหน้าการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือตั้งแต่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ-สถานีคูคต คาดว่าจะเปิดเดินรถได้ภายในกลางเดือน ธ.ค.นี้ โดยอยู่ระหว่างติดตั้งระบบเดินรถให้สมบูรณ์ แต่จะเปิดเก็บค่าโดยสารเลยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับสัญญาสัมปทานสายสีเขียวว่าที่ประชุม ครม.จะเห็นชอบได้เมื่อไหร่



ด้านการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองช่วงกรุงธนบุรี-คลองสาน ระยะทาง 1.8 กม อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ในฐานะผู้ว่าจ้างให้ BTS เป็นผู้เดินรถว่าจะสามารถเปิดเดินรถได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ โดยกำหนดเปิดให้บริการได้เลื่อนจากเดือน ต.ค. 2563 เป็นภายในปี 2563 สาเหตุที่เลื่อนเพราะผู้ชำนาญการจากต่างประเทศคือ บอมบาดิเอร์ ที่จะมาทดสอบระบบเดินรถเพิ่งเดินทางเข้ามาถึงประเทศไทยเมื่อต้นเดือน ก.ย.นี้

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการติดตั้งและบริหารระบบเก็บเงิน (Operation and Maintenance : O&M) มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) วงเงิน 39,138 ล้านบาท ที่บีทีเอสเข้าไปร่วมในนามกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ทางอัยการสูงสุดได้ตอบกลับมายังกรมทางหลวง (ทล.) แล้ว คาดว่าจะลงนามในสัญญาทั้ง 2 ระบบได้ภายในเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 105, 106, 107 ... 155, 156, 157  Next
Page 106 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©