Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181545
ทั้งหมด:13492783
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 41, 42, 43 ... 89, 90, 91  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2020 4:55 pm    Post subject: Reply with quote

เลื่อนไม่มีกำหนด!!ชิงรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.2 แสนล้าน
*รฟม.ขอฟังคำตัดสินศาลปกครองสูงสุดก่อน
*มั่นใจใช้เวลาไม่นานไม่กระทบเปิดให้บริการ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2769554203266080
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/11/2020 7:31 am    Post subject: Reply with quote

เลื่อนเปิดซองแสนล้านสายสีส้ม
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
รฟม.รอศาลปกครองสูงสุด
ยังมั่นใจไม่กระทบแผนงาน

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Document : RFP) เป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า ศาลปกครองสูงสุดได้นัดไต่สวนกรณีที่ รฟม. ยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลปกครองกลางที่ให้ทุเลาการประกาศใช้เอกสารหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเอกชนฯ ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ที่กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอเอกชนจากคะแนนเทคนิค 30 คะแนน และราคา 70 คะแนนแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอฟังคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด และชะลอกระบวนการคัดเลือกฯ ไปก่อน โดยจะยังไม่มีการเปิดซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติ ซึ่งเดิมกำหนดว่าจะเปิดซองในวันที่ 23 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลื่อนพิจารณาข้อเสนอของเอกชนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จะส่งผลกระทบต่อการเปิดให้บริการในอนาคตหรือไม่ นายภคพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ไม่สามารถก้าวล่วงต่อกระบวนการศาลในการพิจารณาคดีได้ แต่เชื่อมั่นว่าเนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นโครงการสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงคาดว่าจะได้รับการพิจารณาในเวลาไม่นาน และหากทุกอย่างสามารถดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดก็จะไม่กระทบต่อภาพรวมโครงการ

นายภคพงศ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ รฟม. มีกำหนดจะเปิดพิจารณาซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ ในวันที่ 23 พ.ย.63 ก่อนจะเปิดซอง 2 และซอง 3 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประเมินผลราว 1 - 2 เดือน และเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุด โดยคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 64 และลงนามสัญญาในต้นเดือน มี.ค. 64

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบาง ขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รฟม.ได้เปิดให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างช่วงตะวันตก ติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) ระยะเวลา 30 ปี วงเงินรวมประมาณ 1.2 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กม. รวม 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานี ยกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) 13.4 กม. 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย) ทั้งนี้ตามแผนมีกำหนดเปิดให้บริการ 2 ส่วน โดยส่วนตะวันออก เดือน มี.ค. 67 และส่วนตะวันตก เดือน ก.ย. 69.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/11/2020 9:33 am    Post subject: Reply with quote

ครม.วุ่นแผนรถไฟฟ้า'ป่วน'
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
'คลัง - คมนาคม' ตีกลับสายสีเขียว - เลื่อนเปิดซองสีส้ม
ยื้อต่อสัญญา "บีทีเอส" ขอความเห็น "กฤษฎีกา" เพิ่ม

Click on the image for full size

กรุงเทพธุรกิจ ครม.ตีกลับต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีกรอบ หลังมหาดไทยชงวาระเข้าพิจารณา "กฤษฎีกา" ห่วง ขัด พ.ร.บ.ร่วมทุน "กรมราง" ระบุค่าโดยสารต่ำกว่า 65 บาทได้ รฟม.เลื่อนเปิดซองรถไฟฟ้าสายสีส้ม ลุ้นศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาดเกณฑ์ให้คะแนน "บีทีเอส" ยัน ไม่กระทบแผนธุรกิจ

การต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ยืดเยื้อมากว่า 1 ปี หลังจากคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.) เห็นชอบเมื่อเดือน พ.ย.2562 และมีการเสนอ ครม.พิจารณาหลายครั้งแต่ถูกตีกลับ รวมถึงการประชุมล่าสุดวานนี้ (17 พ.ย.) ที่ ครม.ตีกลับอีกครั้ง

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุม ครม.วานนี้ (17 พ.ย.) นายอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสนอร่างสัญญา ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ ครม.พิจารณาเป็นวาระจร

ร่างสัญญาดังกล่าวกรุงเทพมหานครจะขยายสัมปทานให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ "บีทีเอส"ในฐานะผู้บริการรายเดิมต่ออีก 30 ปี จากเดิมที่สิ้นสุดปี 2572 เป็นสิ้นสุดปี 2602 และให้คิดอัตราค่าโดยสารไว้ที่ 65 บาทตลอดสาย

"เมื่อถึงการนำเสนอเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานได้แสดงความเห็นหลากหลายทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยหน่วยงานส่วนใหญ่ที่คัดค้านการนำวาระนี้เข้ามาสู่การพิจารณาระบุว่ายังไม่ได้ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.อย่างครบถ้วนทำให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีขอนำวาระนี้ออกก่อนแล้วจะขอความเห็นให้ครบถ้วนก่อนจะบรรจุเข้าสู่การประชุม ครม.อีกครั้ง" แหล่งข่าว กล่าว

"กฤษฎีกา"ห่วงขัด พรบ.ร่วมทุน

สำหรับการถกเถียงส่วนใหญ่เป็น ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.การร่วมลงทุน ระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าการต่อสัญญาสัมปทานออกไปอาจขัดข้อกฎหมาย ขณะที่กระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าเรื่องนี้ได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความแล้ว 4 รอบ ถ้าต้องส่งไปอีกจะเป็นครั้งที่ 5 ไม่รู้จะได้ข้อสรุปหรือไม่

นอกจากนี้กรมการขนส่งทางรางได้พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วแล้วจึงขอเสนอความเห็นเพิ่มเติมประกอบการพิจารณาว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้ยกเว้นการหลักการ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน แต่ไม่ได้ให้ยกเว้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับวินัยการเงินการคลัง

ตั้งคำถามที่มาค่าโดยสาร

ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบีทีเอสไม่สามารถหาที่มาของการจัดเก็บค่าโดยสารที่ 65 บาทตลอดสาย เพื่อแลกสัญญาสัมปทานได้ว่ามีที่มาจัดเก็บค่าโดยสารอย่างไร และมีการวิเคราะห์โครงการในเชิงผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจ (ERR) และอัตราผลตอบแทน ทางด้านการเงิน (FRR) รวมทั้งแหล่งที่มาของเงินทุน ปริมาณผู้โดยสาร และราคาค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชนอย่างไร

ส่วนประเด็นอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ ปรากฏว่าร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีระยะทาง 15 กิโลเมตร กำหนดให้มีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ซึ่งเมื่อมีการ เปรียบเทียบกับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบันมีราคาค่าโดยสารที่สูง กว่า ขณะที่มีระยะทางให้บริการถึง 50 กิโลเมตร แต่เก็บค่าโดยสารเพียง 42 บาท

ดังนั้นกระทรวงคมนาคมเห็นว่าการคิดอัตราค่าโดยสารควรที่จะมีความเหมาะสมและเป็นธรรมแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ และจากการศึกษาพบว่าปัจจุบันผู้มีรายได้น้อยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางรถไฟฟ้า 130 บาทต่อวัน ซึ่งคิดเป็น 35% ของค่าแรงขั้นต่ำ ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบราคาค่าโดยสารระหว่างสายสีน้ำเงินในปัจจุบันกับสายสีเขียว ที่จะหมดสัญญาสัมปทานระหว่าง บีทีเอส กับภาครัฐจะหมดลงในอีก 9-10 ปีข้างหน้า จึงไม่มีความจำเป็นที่จะขยายสัญญาสัมปทานให้เอกชนอีก 30 ปี

ชี้ค่าโดยสารต่ำกว่า65บาทได้

ทั้งนี้ จากเงื่อนไขร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ควบคุมอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย โดยกระทรวงมหาดไทยใช้ข้อมูลปี 2562 เป็นฐานในการเปรียบเทียบและคำนวณ ซึ่งกรมขนส่งทางรางเห็นว่าในอนาคตเมื่อปริมาณ ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประกอบกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นเส้นทางหลักของเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น ย่อมส่งผลให้ลดค่าโดยสารลงได้มากกว่า 65 บาท

ดังนั้น การควบคุมอัตรค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย จึงถือเป็นการดำเนินการที่ สมควรวิเคราะห์ต้นทุนที่แท้จริงเป็นหลักและลดหรืองดกรณีการเชื่อมต่อค่าแรกเข้า กำหนดเป็นเงื่อนไขเมื่อมีการเดินทางเปลี่ยนสายทางเพื่อลดภาระให้แก่ประชาชนด้วย

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางระบุว่า จากการพิจารณาอัตราค่าโดยสารเมื่อเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้าสายอื่น พบว่า ปัจจุบันสายสีเขียว เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ซึ่งผ่านจุดคุ้มทุนแล้ว มีผู้โดยสาร 800,000-1,00,000 คนต่อวัน (สถิติประมาณการก่อนวิกฤติโควิด) และมีอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทตลอดสาย ขณะที่สายสีน้ำเงินมีผู้โดยสาร 300,000 คนต่อวัน และมีค่าโดยสารไม่เกิน 42 บาทตลอดสาย แต่ยังดำเนินกิจการได้จึงเห็นว่ารถสายสีเขียวกำหนดราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมและถูกลงกว่า 65 บาทได้

ศาลไต่สวน รฟม.-บีทีเอส

ศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวนคำร้องที่ 388/2563 ระหว่างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ผู้ฟ้องคดีกับคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างรัฐ และเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทั้งนี้ ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การพิจารณาคะแนนที่เปลี่ยนจากการประเมินซองการเงิน มาเป็นการประเมินซองเทคนิค 30% และซองการเงิน 70% ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลได้นัดไต่สวนครั้งแรกวานนี้ (17 พ.ย.) โดยนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาให้ปากคำในฐานะ ผู้ถูกฟ้อง ส่วนบีทีเอสในฐานะผู้ฟ้องส่งทนายความมาให้ปากคำ

ยืนยันขั้นตอนประมูลถูกต้อง

นายภคพงษ์ เปิดเผยภายหลังการไต่สวนว่า คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งทุเลาการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินโครงการของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 จากเดิมมีเกณฑ์กำหนดพิจารณาซองที่ 3 ด้านการเงิน 100 คะแนน ปรับเป็นข้อเสนอที่ 2 ด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านการเงิน 70 คะแนน

"ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนตามที่ รฟม.ได้ยื่นอุทธรณ์ไป ซึ่งการให้ข้อมูลในครั้งนี้ เรายืนยันตามเดิมว่าการที่เราดำเนินการปรับแก้หลักเกณฑ์พิจารณาข้อเสนอเอกชนนั้น ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว โดยศาลได้รับฟังและยังไม่มีการนัดไต่สวนเพิ่มเติม" นายภคพงษ์ กล่าว

รฟม.เลื่อนเปิดซองสายสีส้ม

นายภคพงษ์ กล่าวว่า จากการยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาในครั้งนี้จึงมีผลให้ รฟม.พิจารณาแล้วว่า กระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต้องชะลอไว้ก่อน โดย รฟม.ยังไม่ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอของเอกชนที่ได้ยื่นข้อเสนอมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2563 เนื่องจากต้องการรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเพื่อกำหนดขั้นตอนดำเนินการต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ รฟม.มีกำหนดเปิดซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ก่อนจะเปิดซอง 2 และซอง 3 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประเมินผล 1-2 เดือน และเข้าสู่ขั้นตอน การเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุดโดยคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการ รฟม. และ ครม.ช่วงต้นปี 2564 และลงนามสัญญาต้นเดือน มี.ค.2564

"ตอนนี้ รฟม.จำเป็นต้องเลื่อนเปิดซองออกไปก่อน ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ จะไม่มีการเปิดซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติ เพราะตามขั้นตอนในขณะนี้จะต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด"

ส่วนกรณีที่การเลื่อนเปิดซองข้อเสนอออกไป ก็ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเงื่อนไขประมูล เพราะใน RFP กำหนดยืนราคาไว้ที่ 270 วัน

ลุ้นคำสั่งศาลปกครอง

สำหรับกรณีการเลื่อนพิจารณาข้อเสนอของเอกชนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จะเป็นผลกระทบต่อโครงการ และการเปิดให้บริการในอนาคตหรือไม่นั้น ขณะนี้ รฟม.ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะไม่สามารถก้าวล่วงต่อกระบวนการศาลในการพิจารณาคดีได้ แต่เชื่อมั่นว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นโครงการสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงคาดว่าจะได้รับการพิจารณาในเวลาไม่นาน และหากทุกอย่างดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดจะไม่กระทบต่อภาพรวมโครงการ

นายภคพงศ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีหลักที่บีทีเอสซีฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม.ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินของเอกสารคัดเลือกเอกชน ปัจจุบัน รฟม.อยู่ระหว่าง เตรียมคำให้การต่อศาล โดยที่ผ่านมาศาลยังไม่ได้เพิกถอนมติ เพียงแต่ให้ทุเลา ดังนั้น รฟม.ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล และสามารถขอยื่นอุทธรณ์ได้ตามสิทธิ

"บีทีเอส"ชี้ไม่กระทบแผนธุรกิจ

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเลื่อนเปิดซองพิจารณาข้อเสนออย่างไม่มีกำหนดว่า ในฐานะเอกชนที่เข้ายื่นข้อเสนอประมูลโครงการ เล็งเห็นถึงโอกาสของการเชื่อมต่อโครงข่าย หากโครงการนี้เปิดให้บริการจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่อย่างไรก็ดี การเลื่อนกำหนดเปิดซองข้อเสนอของ รฟม.ก็สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเอกสารยื่นข้อเสนอ (RFP) ได้กำหนดกรอบเวลายืนราคาไว้ที่ 270 วัน จึงถือว่ายังพอมีเวลาที่จะไม่ทำให้กระทบโครงการมากนัก

"บีทีเอสในฐานะเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอ เราก็มองว่าโครงการเป็นโอกาส เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นได้หลายเส้นทาง แต่หาก รฟม.จะเลื่อนเปิดข้อเสนอออกไป ก็ไม่ได้เป็นผลกระทบต่อแผนธุรกิจ เพราะบีทีเอสยังเดินหน้าลงทุนในทุกๆ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2020 11:14 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เลื่อนเปิดซองแสนล้านสายสีส้ม
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
รฟม.รอศาลปกครองสูงสุด
ยังมั่นใจไม่กระทบแผนงาน


Wisarut wrote:
เลื่อนไม่มีกำหนด!!ชิงรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1.2 แสนล้าน
*รฟม.ขอฟังคำตัดสินศาลปกครองสูงสุดก่อน
*มั่นใจใช้เวลาไม่นานไม่กระทบเปิดให้บริการ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2769554203266080


เลื่อนยาว!! รฟม.เบรกเปิดซองประมูล "สายสีส้ม"
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 15:52:57 น.

รฟม.เดินหน้ายื่นคำให้การฯ คดีแก้ทีโออาร์โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หลังศาลปกครองฯ นัดไต่สวนผลอุทธรณ์ ไม่คืบ จ่อเลื่อนเปิดซองประมูลไม่มีกำหนด"

รฟม.เลื่อนเปิดซองสีส้ม แจงศาลตามนัด ด้านบีทีเอสเบี้ยวไต่สวน ลุ้นยื่นคำแถลงใน 23 พ.ย.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 18:01 น.


รฟม.ชี้แจงศาลปกครองสูงสุดตามนัด ปรับเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม ด้านบีทีเอสเบี้ยวส่งทนายขอเลื่อนไต่สวน ศาลขีดเส้นยื่นคำแถลง 23 พ.ย. “ผู้ว่าฯ รฟม.” ยันรวมคะแนนเทคนิค-ราคา เป็นอำนาจ กก.มาตรา 36 ไม่ทำให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ พร้อมเลื่อนเปิดซองคุณสมบัติออกไปก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (17 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ศาลปกครองสูงสุดได้นัดไต่สวน บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) กรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกมาตรา 36 ยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาของศาลปกครองกลาง ที่ออกมาเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 กรณีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินโครงการของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ที่รวมข้อเสนอที่ 2 (เทคนิค) กับข้อเสนอที่ 3 (การเงิน) พิจารณารวมกัน ในสัดส่วน คะแนนเทคนิค 30% และคะแนนการเงิน 70%

โดยฝ่ายผู้ถูกฟ้อง (รฟม. และคณะ กก.มาตรา 36) ได้เดินทางมาตามที่นัดไต่สวน ขณะที่ บีทีเอส ไม่มีผู้บริหารเดินทางไป มีเพียงทนายที่ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งในช่วงแรกศาลได้มีการพิจารณาคำร้องของบีทีเอสก่อน จากนั้นจึงได้เริ่มไต่สวน แต่เนื่องจากบีทีเอสมอบอำนาจให้ทนายยื่นคำร้องเท่านั้น ไม่ได้มอบอำนาจในเรื่องไต่สวน ทำให้มีการไต่สวนผู้ถูกฟ้อง (รฟม.และคณะ กก.มาตรา 36) ฝ่ายเดียว ทั้งนี้ ศาลได้ให้ บีทีเอสยื่นคำแถลงชี้แจงต่อศาลภายในวันที่ 23 พ.ย.

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงต่อศาลปกครองสูงสุดว่า รฟม.ได้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางตามสิทธิ ซึ่งศาลด้าสอบถามประเด็นความถูกต้องตามกฎหมาย กรณีที่ รฟม.และคณะกรรมการมาตรา 36 ได้ดำเนินการ และข้อดี-ข้อเสียระหว่างเกณฑ์การพิจารณาแบบเดิม และเกณฑ์การพิจารณาแบบใหม่ ซึ่ง รฟม.และคณะกรรมการมาตรา 36 ได้ชี้แจงข้อมูลตามที่ได้เคยชี้แจงต่อศาลชั้นต้น พร้อมกันนี้ได้เพิ่มเติมขยายข้อความเพื่อให้มีความเข้าใจง่ายขึ้น

โดยยืนยันในเรื่องการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ทำได้ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการมาตรา 36 ส่วนเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด ซึ่งในการยื่นเอกสารประกวดราคาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2563 ทางกลุ่มบีทีเอสได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ทำข้อเสนอที่ดีที่สุดมายื่นประมูล ไม่ว่าจะเกณฑ์พิจารณาแบบเก่าหรือใหม่

นายภคพงศ์กล่าวว่า ส่วนกำหนดเปิดซองเอกสาร 1 (ด้านคุณสมบัติ) นั้นล่าสุด คณะกรรมการมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนฯ ปี 2562) ได้มีมติให้ชะลอการเปิดซองที่ 1 ออกไปก่อน จากทีก่ำหนดจะเปิดซองในวันที่ 23 พ.ย.นี้ (หลังจากรับซอง ประมาณ 2 สัปดาห์) จนกว่าจะมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดออกมา ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้ โดยกำหนดให้เอกชน ยืนราคาข้อเสนอ 270 วัน นับจากวันรับซองเอกสาร (9 พ.ย.)

สำหรับคดีหลักที่ผู้ร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอน มติคณะกรรมการมาตรา 36 ที่เห็นชอบปรับปรุงวิธีการประเมินและขยายเวลา และเพิกถอนเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติม (RFP Addendum) ที่ปรับปรุงวิธีการประเมินนั้น รฟม.อยู่ระหว่างเตรียมคำให้การซึ่งยังรอศาลนัดไต่สวน

อย่างไรก็ตาม หากศาลมีคำสั่งอย่างใด รฟม.พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยขณะนี้ไม่ได้มีคำสั่งในเรื่องหยุดการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่ง รฟม.ได้ให้เอกชนร่วมลงทุน PPP net cost ระยะเวลา 30 ปี วงเงิน 1.28 แสนล้านบาท และรับซองประมูลไปเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี 2 บริษัทยื่นซอง ได้แก่
1. บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และ
2. กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น

รฟม.เลื่อนเปิดซองรถไฟฟ้าสายสีส้มจาก 23 พ.ย.รอคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด
ข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:37 น.

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวน คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง กรณีมีคำสั่งทุเลาการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินโครงการของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 จากเดิมมีเกณฑ์กำหนดพิจารณาซองที่ 3 ด้านการเงิน 100 คะแนน ปรับเป็นข้อเสนอที่ 2 ด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านการเงิน 70 คะแนน

นายภคพงศ์ กล่าวว่า จากการยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาในครั้งนี้ จึงมีผลให้ รฟม.พิจารณาแล้วว่า กระบวนการคัดเลือกเอกชนร่วมทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะต้องชะลอไว้ก่อน โดย รฟม.จะยังไม่ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอของเอกชน ที่ได้ยื่นข้อเสนอมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.63 เนื่องจากต้องการรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเพื่อกำหนดขั้นตอนดำเนินการต่อไป



"ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนตามที่ รฟม.ได้ยื่นอุทธณ์ไป ซึ่งการให้ข้อมูลในวันนี้ เรายืนยันตามเดิมว่าการที่เราดำเนินการปรับแก้หลักเกณฑ์พิจารณาข้อเสนอเอกชนนั้น ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว โดยศาลได้รับฟังและยังไม่มีการนัดไต่สวนเพิ่มเติม"
ทั้งนี้ รฟม.มีกำหนดจะเปิดพิจารณาซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ก่อนจะเปิดซอง 2 และซอง 3 ที่คาดว่าจะใช้เวลาประเมินผลราว 1-2 เดือน และเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาต่อรองผู้ผ่านการประเมินสูงสุดโดยคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการรฟม. และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นปี 64 และลงนามสัญญาในต้นเดือน มี.ค. 64

"ตอนนี้ รฟม.ก็จำเป็นต้องเลื่อนเปิดซองออกไปก่อน ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ ก็จะไม่มีการเปิดซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติ เพราะตามขั้นตอนในขณะนี้ก็จะต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ส่วนกรณีที่การเลื่อนเปิดซองข้อเสนอออกไป ก็ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเงื่อนไขประมูล เพราะใน RFP กำหนดยืนราคาไว้ที่ 270 วัน" ผู้ว่าการ รฟม. กล่าว
สำหรับกรณีการเลื่อนพิจารณาข้อเสนอของเอกชนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จะเป็นผลกระทบต่อโครงการ และการเปิดให้บริการในอนาคตหรือไม่นั้น ขณะนี้ รฟม.ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะไม่สามารถก้าวล่วงต่อกระบวนการศาลในการพิจารณาคดีได้ แต่อย่างไรก็ดี เชื่อมั่นว่า เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นโครงการสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงคาดว่าจะได้รับการพิจารณาในเวลาไม่นาน และหากทุกอย่างสามารถดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดก็จะไม่กระทบต่อภาพรวมโครงการ

นายภคพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าของคดีหลักที่ทาง บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับ คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และ รฟม.ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีมติแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินของเอกสารคัดเลือกเอกชน ปัจจุบัน รฟม.อยู่ระหว่างเตรียมคำให้การต่อศาล โดยที่ผ่านมาศาลยังไม่ได้เพิกถอนมติ เพียงแต่ให้ทุเลา ดังนั้น รฟม.ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล และสามารถขอยื่นอุธรณ์ได้ตามสิทธิ


Last edited by Wisarut on 22/11/2020 3:09 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2020 12:48 pm    Post subject: Reply with quote

ความก้าวหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 3
ITD Italian-Thai Development Public Company Limited
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 7:18 น.
บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหมาก ถึง คลองบ้านม้าได้เทคอนกรีตพื้นชั้นล่างสุด (Base Slab) ของสถานีแยกลำสาลี (OR20) จำนวน 1,080 ลูกบาศก์เมตร แล้วเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ปัจจุบันการก่อสร้างพื้นชั้น Base Slab ของสถานีในสัญญาที่ 3 จำนวน 3 สถานี ได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ครบทั้งหมด 100% ในทุกสถานี
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจที่ ปัจจุบันงานใน สัญญาที่ 3 ได้คืบหน้าไปแล้ว 70.28% โดยเร็วกว่าแผนอยู่ 2.94% (16 พฤศจิกายน 2563)
https://www.facebook.com/itdho/posts/3172110992894406

ความก้าวหน้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 3 ส่วนอุโมงค์
ITD Italian-Thai Development Public Company Limited
วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 7:41 น. ·

บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) สัญญาที่ 3 และบริษัทที่ปรึกษา PMCSC2 ได้ร่วมกันเดินตรวจสอบความคืบหน้าและความเรียบร้อย ของงานก่อสร้างฯ
1. สถานีแยกลำสาลี (การเตรียมงานก่อสร้างพื้นชั้น Base Slab แผงสุดท้าย และการเตรียมงานเพื่อรองรับหัวเจาะอุโมงค์ที่จะมาถึงในปลายเดือน พฤศจิกายน 63 นี้)
2. สถานีคลองบ้านม้า (Mock Up งานสถาปัตยกรรม บริเวณชั้นจำหน่ายตั๋ว)
3. อุโมงค์ Westbound (จุดเริ่มการติดตั้งงานระบบ)
(13 พฤศจิกายน 2563)
https://www.facebook.com/itdho/posts/3164109673694538
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2020 1:15 pm    Post subject: Reply with quote

‘สายสีส้ม’จุดเปลี่ยนธุรกิจรถไฟฟ้า วัด 2 ทุนใหญ่ชิงสิทธิเดินรถ
โดย รมย์รัมภา เริ่มรู้
18 พฤศจิกายน 2563

การเดินหน้าเลือกผู้ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นตะวันตก (บางขุนนนท์- มีนบุรี) มูลค่า 1.42 แสนล้านบาท มาถึงจุดที่ต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด

ว่าจะต้องรับคำร้องอุทธรณ์ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและทุเลาหลักเกณฑ์ ที่เปลี่ยนไปจากเอกสารประกวดราคาหรือไม่

คำตัดสินจะมีผลต่อ 2 กลุ่มใหญ่ที่เข้าร่วมประมูลโครงการนี้ ทั้งกลุ่ม บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ร่วมกับบริษัทลูก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM อีกกลุ่มที่ผนึกกันในนาม BSR มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ส่วนบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ยังรอร่วมทุนหลังมีคำตัดสินจากศาลให้ชัดเจน

ประเด็นดังกล่าวมีผลต่อ 2 กลุ่มธุรกิจก่อสร้างและเดินรถไฟฟ้าว่าใครจะชิงสายสีส้มทั้งหมดในส่วนนี้ไป เพราะในสัญญาฉบับนี้จะได้สิทธิการบริหารเดินรถไฟฟ้าทั้งเส้น จากตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์) มีทั้งหมด 17 สถานี จำนวน 22.5 กิโลเมตร ได้มีการก่อสร้างไปแล้ว จะมาเชื่อมต่อกับเส้นตะวันตก ที่มีทั้งหมด 11 สถานี จำนวน 13.4 กิโลเมตร

ความสำคัญเมื่อรวมสายสีส้มแล้วมีทั้งหมด 28 สถานี จำนวนถึง 35.9 กิโลเมตร ซึ่งมีผลต่อการเชื่อมต่อสายอื่นที่ทั้ง 2 กลุ่มได้รับบริหารเดินรถไฟฟ้าไปก่อนหน้านี้ และที่สำคัญยังทำให้เกิดผลชี้ขาดในการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในอนาคตได้อีกด้วย


ก่อนหน้านี้กลุ่ม บีทีเอส ได้ร้องเรียนต่อศาลปกครองกลางและศาลได้ให้คุ้มครองประมูลชั่วคราวภายใต้หลักเกณฑ์เดิม คือ พิจารณาข้อเสนอโดยให้คะแนนด้านราคา 100 คะแนน จากที่มีการเปลี่ยนเป็นใช้คะแนนด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านราคา 70 คะแนน

ประเด็นดังกล่าวทำให้ระยะเวลาการประมูลรถไฟฟ้าสายนี้ต้องล่าช้าออกไป หากเมื่อเทียบกันแล้วประเด็นการเปลี่ยนแปลงการให้น้ำหนักคะแนนสายสีส้มมีสถานีลอดใต้ดิน 10 สถานี บนดิน 7 สถานี ทำให้ต้องการผู้ก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ซึ่งในบรรดาผู้รับงานก่อสร้างขนาดใหญ่และเชี่ยวชาญงานอุโมงค์ในไทยต้องยกให้กลุ่ม ช.การช่าง

อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่างานประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ผ่านมามีทั้งบนดินและลอดใต้ดิน ซึ่งให้หลักเกณฑ์ คุณสมบัติต้องผ่าน ด้านเทคนิคก่อสร้างต้องผ่าน และไปตัดสินขั้นสุดท้ายกันที่ซองเงินลงทุนและผลประโยชน์ที่ภาครัฐจะออกน้อยที่สุด จึงกลายเป็นเหตุความวุ่นวายการประมูลสายสีส้มถึงไม่ราบรื่นอย่างที่ผ่านมา

ฟากของ บีทีเอส ซึ่งถือว่าเป็นทุนใหญ่ ร่วมกับ กลุ่ม “ปราสาททองโอสถ” ที่พึ่งผ่านการชนะประมูลโครงการใหญ่สนามบินอู่ตะเภาเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท เอาชนะกลุ่มซีพี และกลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เดียม

เม็ดเงินลงทุนเฉพาะในส่วนของบีทีเอส ตามสัดส่วนถือหุ้นในโครงการดังกล่าว 40% ทำให้ต้องเตรียมเม็ดเงินรองรับไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจากธุรกิจบริหารเดินรถไฟฟ้า ธุรกิจสื่อ สามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ไม่ต่ำกว่าปีละหมื่นกว่าล้านบาท จนสามารถนำมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

งวดไตรมาส 2 ปี 2563-2564 มีรายได้รวม 8,910 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งบริษัทยังได้รับผลกระทบจากการลดลงของรายได้เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลไปยังธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริการ และยังมีการบันทึกรายได้จากการให้บริการติดตั้งงานระบบและการจัดหารถไฟฟ้าขบวนใหม่สําหรับโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือที่ลดลงเพราะอยู่ในช่วงท้ายงานก่อสร้าง แต่ในส่วนของกำไรขั้นต้นถือว่ายังทำได้ดีโดยรวมอยู่ที่ 17% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 16%

นอกจากนี้ที่ผ่านมา BTS เริ่มบริหารจัดการพอร์ตลงทุนรวมไปถึงการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท ด้วยการทำรายการบิ๊กล็อตหุ้น บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI จำนวน 1,300 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 6.55 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,799 ล้านบาท

ถัดมา บีทีเอส มีการเข้าซื้อหุ้นบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สัดส่วน 7.5% ที่ราคาหุ้นละ 1.33 บาท มูลค่า 332 ล้านบาท และอาจจะได้เห็นการซื้อหุ้นเพื่อลงทุนเพิ่มเติมได้อีก ซึ่งการขยับพอร์ตในรอบนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นตัวสร้างการเติบโตในอนาคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 22/11/2020 2:17 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้า สายสีสีส้ม ตะวันออก สร้าง คืบ71.38% วิ่งรถได้ปี67
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:11:30 น.

รถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีส้มตะวันออก ก่อสร้างคืบหน้า71.38% ส่วนส้มตะวันตก -ระบบเดินรถ ศาลปกครองสูงสุดยังไม่ชี้ขาด เลื่อนเปิดซองยาวไม่มีกำหนด


รฟม.เผยขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีส้มคืบหน้า คาดถึงสถานีหัวหมาก มีค.64
ข่าวหุ้น-การเงิน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 17:20 น.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหมาก - คลองบ้านม้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม แจ้งความคืบหน้างานขุดเจาะอุโมงค์ตัวที่ 4 ที่เริ่มเดินเครื่องหัวเจาะจากสถานีคลองบ้านม้า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 โดยปัจจุบันได้ขุดเจาะอุโมงค์ทะลุเข้าสู่สถานีลำสาลี อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหัวเจาะอุโมงค์ตัวที่ 4 จะมีแผนดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ไปยังสถานีหัวหมาก โดยคาดว่าจะดำเนินการขุดเจาะทะลุในเดือนมีนาคม 2564

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ? มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้าก่อสร้างงานโยธาในภาพรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 คิดเป็นร้อยละ 71.38 และมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567


ความคืบหน้าขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีส้ม
ITD Italian-Thai Development Public Company Limited
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 16:28 น.
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 16:38 น.

บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก สัญญาที่3 ได้ขุดเจาะอุโมงค์ (ตะวันออก) มาถึงสถานีแยกลำสาลีและได้เจาะอุโมงค์ทะลุเข้าสู่สถานีฯ เป็นที่เรียบร้อย

ITD ได้เริ่มงานขุดเจาะอุโมงค์ (ตะวันออก) โดยใช้หัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน (TMB) จากสถานีคลองบ้านม้า (ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2563) ได้ขุดเจาะอุโมงค์มาตามถนนรามคำแหงขาออกเมือง รวมเป็นระยะทาง 2,156 เมตร จากความยาวอุโมงค์ (ตะวันออก) ทั้งหมด 2,886 เมตร หรือคิดเป็นความคืบหน้า 74.78% โดยเร็วกว่าแผนประมาณ 3 เดือน (21 พฤศจิกายน 2563)

https://www.facebook.com/itdho/posts/3183465915092247

หัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าสีส้มตะวันออกทะลุ!!สถานีลำสาลี
*อิตาเลียนไทยฯมั่นใจมี.ค.64ปิดจ็อบที่หัวหมาก
*เฮ้อ!สร้างลิ่วแล้วต้องหยุดรอศึกชิงเค้กแสนล้าน
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 15:31 น.
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2772923952929105
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2020 2:44 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีส้ม สร้างคืบ 71.38% ITD โชว์ผลงานขุดอุโมงค์ใต้ดิน
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 - 11:33 น.

รฟม. เผยความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ”ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี” รุดหน้า 71.38% พร้อมเปิดปี’67 อิตาเลียนไทยเจาะอุโมงค์ใต้ดินมาถึงลำสาลีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งความคืบหน้างานขุดเจาะอุโมงค์ที่ 2 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ในสัญญาที่ 3 ช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า ที่ได้เดินเครื่องหัวเจาะ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 จากสถานีคลองบ้านม้า ได้เจาะทะลุ Breakthrough เข้าสถานีลำสาลี อย่างเป็นทางการ

โดยสัญญานี้มี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน จะมีแผนดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ไปยังสถานีหัวหมาก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสิ้นของสัญญาที่ 3 คาดว่าจะดำเนินการขุดเจาะทะลุในเดือนมีนาคม 2564



ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีความก้าวหน้าก่อสร้างงานโยธาในภาพรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 คิดเป็น 71.38% โดยงานก่อสร้างจะเสร็จปลายปี 2565 และเปิดบริการในปี 2567

สำหรับงานขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า มีระยะทาง รวมประมาณ 4.07 กิโลเมตร โดยเครื่องหัวเจาะอุโมงค์ที่นำมาใช้นี้ มีขนาดความยาว 11 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.39 เมตร น้ำหนัก 320 ตัน สามารถขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายใน 5.70 เมตร ในระดับความลึก 20-30 เมตร ด้วยสมรรถภาพการขุดเจาะเฉลี่ยวันละ 10-15 เมตร หรือเดือนละ 350 เมตร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 23/11/2020 6:44 pm    Post subject: Reply with quote

“บีทีเอสโวยประมูลสายสีส้ม-ปมผลประโยชน์นักการเมือง“
*”ศักดิ์สยาม”ปฎิเสธคำถามสื่อไม่ใช่เหตุที่โดดขวาง
*ครม.ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวยาวถึง 30 ปี
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2774647089423458
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42630
Location: NECTEC

PostPosted: 26/11/2020 8:57 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีส้ม คานทางวิ่งช่วงสุดท้ายใกล้เชื่อมกันแล้ว #รถไฟฟ้า #สายสีส้ม
สมพาน สัตยาวัน
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563

พามาชมการวางคานทางวิ่งช่วงสุดท้ายสำหรับการเบี่ยงเข้าถนนรามคำแหงเกาะกลางมาบรรจบกันที่นี่เมื่อวางครบเสร็จเรียบร้อยถือว่าทางวิ่งเสร็จสมบูรณ์อย่าลืมกดติดตามด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=s5MWhkWcrCM
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 41, 42, 43 ... 89, 90, 91  Next
Page 42 of 91

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©