View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 04/05/2021 6:12 pm Post subject: |
|
|
"โควิด"ฉุดผู้โดยสารรถไฟฟ้า-ขนส่งมวลชนทั้งระบบลดวูบ
หน้า อสังหาริมทรัพย์
จันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 เวลา 18:19 น.
เมื่อเกิดการระบาดไวรัสโควิดแต่ละระลอก นอกจากธุรกิจอื่นแล้ว ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ระบบขนส่งทางรางรถไฟฟ้าทั้งลอยฟ้า ใต้ดิน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ต่างได้รับ ผลกระทบไม่แพ้กันเพราะคนเกรงกลัวจะติดเชื้อโควิดนำรถยนต์ส่วนตัวออกใช้ ขณะเดียวกันเมื่อยอดติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นบริษัทเอกชนตลอดจนหน่วยงานราชการต่างทำงานที่บ้านลดเดินทางตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข สำหรับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ได้ปรับลดจำนวนเที่ยวลง เพื่อให้สอดรับกับจำนวนผู้โดยสาร รายงานข่าวจากขสมก.ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการขสมก.ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.2564 ดังนี้ วันที่ 1 พ.ค.มีจำนวนผู้โดยสาร 276,808 คนต่อวัน วันที่ 2 พ.ค. จำนวน 283,136 คนต่อวัน วันที่ 3 พ.ค. มีจำนวนผู้โดยสาร 381,976 คนต่อวัน เมื่อเทียบจากช่วงปกติไม่เกิดสถานการณ์โควิดมีผู้โดยสาร8แสนคนต่อวันขณะช่วงโควิดรอบแรกผู้โดยสารลดลง40% รายงานข่าวจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ แจ้งว่า จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ในช่วงระหว่างวันที่ 27 เมษายน-3 พฤษภาคม 2564 ดังนี้ วันที่ 27 เม.ย. มีจำนวนผู้โดยสาร 17,474 คนต่อวัน วันที่ 28 เม.ย.มีจำนวนผู้โดยสาร 17,578 คนต่อวัน วันที่ 29 เม.ย.มีจำนวนผู้โดยสาร 17,594 คนต่อวัน วันที่ 30 เม.ย.มีจำนวนผู้โดยสาร 18,737 คนต่อวัน วันที่ 1 พ.ค.มีจำนวนผู้โดยสาร 8,920 คนต่อวัน วันที่ 2 พ.ค.มีจำนวนผู้โดยสาร 7,786 คนต่อวัน และวันที่ 3 พ.ค.มีจำนวนผู้โดยสาร 10,092 คนต่อวัน เมื่อเทียบช่วงโควิดรอบแรก ผู้โดยสาร 40,000 เที่ยวคน/วัน ขณะก่อนโควิดระบาด มีผู้โดยสาร80,000-90,000 เที่ยวคน/วัน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSCผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ยอมรับว่ารถไฟฟ้า บีทีเอสได้รับผลกระทบผู้โดยสารลดลงค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับช่วงปกติ ผู้ใช้บริการ 800,000เที่ยวคน/วันรายได้20ล้านบาท/วันแต่ในทางกลับกันเพื่อความปลอดภัยผู้ใช้บริการ บริษัทได้เพิ่มความถี่เดินรถ ตามมาตราการรัฐบาลและรักษาระยะห่างฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในขบวนรถและบริเวณตัวสถานีตลอดจนผ่อนคลายความเดือนร้อนขยายเวลาบัตรโดยสาร หมดอายุออกไป นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) แจ้งว่า ขณะนี้ บีทีเอส และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ได้เร่งดำเนินการร่วมกันปรึกษาหารือ เพื่อช่วยบรรเทา และลดความเดือดร้อนให้กับประชาชนเรื่องผลกระทบภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้โดยสาร ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ระลอกที่ 3 มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง และพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) (ฉบับที่ 20 , ฉบับที่ 22 ) ขอความร่วมมือให้หน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน พิจารณาให้เจ้าหน้าที่ และพนักงานปฏิบัติงานนอกสถานที่สำนักงาน หรือปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ออกมาตรการดูแลผู้โดยสารเป็นครั้งที่ 3 ด้วยการขยายเวลาของบัตรโดยสาร ที่มีเที่ยวเดินทางในบัตรหมดอายุในช่วงตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน จนถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้โดยสารสามารถทยอยนำบัตรโดยสาร มาติดต่อขอรับสิทธิขยายเวลาเที่ยวเดินทาง ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2564 (และเที่ยวเดินทางนี้จะมีอายุ 30 วัน นับตั้งแต่การใช้ครั้งแรก)นายคีรี กล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำขบวนรถไฟฟ้าออกวิ่งให้บริการมากที่สุดทั้ง 98 ขบวน ด้วยความถี่สูงสุดเป็น 2 นาที 25 วินาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อช่วยส่งเสริมมาตรการ Social Distancing ยังคงรักษามาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ อย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ถึงแม้ในขณะนี้การเดินทางของผู้โดยสารจะลดลง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 07/05/2021 12:14 am Post subject: |
|
|
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
6 พฤษภาคม 2564 เวลา 13:52
ผลการศึกษาโครงการศึกษา วิเคราะห์ ประเภทและคุณลักษณะของรถขนส่งทางรางให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางราง เพื่อกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ ตลอดจนจัดทำร่างกฎหมายลำดับรอง เพื่อการจดทะเบียนและร่างมาตรฐานแนะนำคุณลักษณะ อุปกรณ์และส่วนควบคุม เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแล และพัฒนาเทคโนยีนวัตกรรมต่อไป
https://www.facebook.com/watch/?v=466595541338642 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 14/05/2021 7:01 pm Post subject: |
|
|
กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) จัดเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ Thailand Railway Modernization Virtual Roundtable เพื่อหารือโอกาสและแนวทางความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกาในด้านการพัฒนาระบบราง
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
12 พฤษภาคม 2564 เวลา 21:33 น.
วันนี้ (12 พ.ค. 2564) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ขร. เข้าร่วมเสวนาออนไลน์ "Thailand Railway Modernization Virtual Roundtable" โดยมีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) พร้อมด้วยผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้แทนฝั่งไทย) และ Ms. Enoh Ebong รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Trade and Development Agency: USTDA) (ผู้แทนฝั่งสหรัฐอเมริกา) เข้าร่วมการเสวนา ซึ่งดร.พิเชฐฯ ได้มีการร่วมบรรยายในหัวข้อ "Thailands Rail Transport Infrastructure Development plans"
สำหรับงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งฝ่ายไทยมีเป้าหมายในการพัฒนาระบบราง ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูง และโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้จะมีการหารือร่วมกันในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 14/05/2021 8:01 pm Post subject: |
|
|
"กรมฯราง"ลุยให้ความรู้สมุนไพรป้องกันโควิดบนรถไฟฟ้าบีทีเอส
ศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.30 น.
กรมฯราง ลุยเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิ รพ.อภัยภูเบศร บนรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมความรู้ให้คนไทยใช้สมุนไพรป้องกันโควิดผ่านสื่อภายในขบวนรถ คาดเริ่มต้น มิ.ย.นี้
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังการประชุม เพื่อหารือแนวทางการจำหน่ายหรือประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรภายในสถานี และขบวนรถไฟฟ้า BTS ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันในการดำเนินการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่าง กรมการขนส่งทางราง (ขร.), รถไฟฟ้า BTS, มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาภูเบศร และบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภายในขบวนรถไฟฟ้า BTS เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลอภัยภูเบศร และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยอย่างถูกวิธี เพื่อดูแลป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการออกสื่อประชาสัมพันธ์ภายในขบวนรถได้ภายในต้นเดือน มิ.ย.64
นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อว่า บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ยินดีสนับสนุนการดำเนินการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิฯ ผ่านสื่อภายในขบวนรถไฟฟ้า BTS โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน และยังคงสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เชิง CSR ภายในขบวนรถ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในการใช้สมุนไพรอย่างถูกวิธีและการดูแลป้องกัน COVID-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมทั้งคิดอัตราเช่าพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิฯ ในอัตราพิเศษ เพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายของ รมว.คมนาคม ในการสนับสนุนให้มีการจำหน่ายสินค้า OTOP ภายในสถานีรถไฟ/รถไฟฟ้าด้วย. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 16/05/2021 10:23 pm Post subject: |
|
|
ปริมาณผู้โดยสารระบบรางหลังเทศกาลสงกรานต์ 2564 เป็นรายสัปดาห์ (18 เม.ย.-15 พ.ค.64) พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการน้อยกว่าสัปดาห์นี้ (เนื่องจากมีวันหยุดพิเศษ2วัน คือชดเชยสันอรงงานและวันฉัตรมงคล)แต่ภาพรวมมีแนวโน้มใช้บริการระบบรางลดลง เนื่องจาก 3 กรณี
1.ทำงาน wfh ที่บ้านตามนโยบายรัฐบาล
2.เปลี่ยนไปใช้การเดินทางแบบรูปอื่น เพื่อนประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น รถโดยสารประจำทางแทน
3.เปลี่ยนวิถีกลับไปใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยต่อการเสี่ยงติดเชื้อ covid-19
ทั้งนี้หวังว่าเดือนหน้าในเขต กทม.ฉีดวัคซีนกันมากขึ้น ผู้โดยสารจะกลับขึ้นมาครับ
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4068040503242864 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 16/05/2021 10:27 pm Post subject: |
|
|
กมธ.อุตสาหกรรมระบบรางดัน ไทยทีม พัฒนาระบบรอง
Thaimotnews
15 พฤษภาคม 2564 เวลา 15:57 น.
กมธ.อุตสาหกรรมระบบราง ส.ส. ดัน ไทยทีม รับสิทธิ์พัฒนาฟีดเดอร์ ระบบรองเชื่อมโยงสายเมนหลัก จ่อชงปรับแก้ไขทีโออาร์เปิดทางให้ผู้ประกอบการไทยผลิตรถไฟฟ้าแบรนด์ Thai TEAM ป้อนตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอุตสาหกรรมของไทย
นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ประธานอนุกรรมาธิการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนส่งระบบราง สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)เปิดเผยว่าเมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฏร ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนส่งระบบรางเพื่อศึกษาเรื่องระบบส่งเสริมซัพพลายเชน (ระบบโลจิสติกส์) ภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องระบบราง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศไทย เพิ่มรายได้ให้กับภาคผู้ประกอบการ
โดยศึกษาจำนวน 4 เรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกอบไปด้วย
1.จุดอ่อนที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการลงทุนด้วยการลดภาษีให้ผู้ประกอบที่เกี่ยวข้องกับระบบราง โดยให้สิทธิพิเศษในการส่งเสริมการลงทุนของ บีโอไอในโซนจังหวัดขอนแก่นกับนครราชสีมา จึงเสนอให้รัฐบาลเปิดขยายโซนรับสิทธิพิเศษครอบคลุมจังหวัดต่างๆมากขึ้น
2.รัฐบาลควรสนับสนุนเรื่องเงินลงทุนรูปแบบ ซอล์ฟโลนต่างๆให้กับผู้ประกอบการโดยได้ร่วมหารือกับสถาบันการเงินหลายแห่งถึงช่องทางในการระดมทุนดังกล่าว พร้อมกับร่วมหารือกับกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม เป็นต้น
3 เช่นเดียวกับร่างเอกสารประกวดราคา หรือ ทีโออาร์ ของโครงการที่เกี่ยวกับระบบรางทั้งหมด ส่วนที่เกี่ยวกับการผลิตโบกี้ ตัวรถ หรือส่วนที่อยู่เหนือรางทั้งหมดควรจะเป็นสิทธิ์ของผู้ประกอบการไทยรับไปดำเนินการได้บ้างไม่ใช่เอาแต่นำเข้ามาทั้งหมด ดังนั้นควรระบุไว้ใน ทีโออาร์ให้ชัดเจนและ
4.กล่าวถึงเรื่องการพัฒนาบุคลากร เทคโนโลยี อาทิ ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบประตูอัตโนมัติ ระบบไฟฟ้า เครื่องกลต่างๆ เร่งพัฒนาองค์ความรู้ให้บุคลากรของไทย ผ่านสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนด้านระบบรางทั้งในและต่างประเทศให้เกิดการร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
เล็งนำร่องสายหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี
เบื้องต้นพบว่า จีน เกาหลี และญี่ปุ่น มีการร่วมมือกับหลายสถาบันการศึกษาของไทยด้วยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันไปบ้างแล้ว ตลอดจนให้ทุนไปดูงาน และศึกษาในแต่ละประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์ของกมธ.อุตสาหกรรมระบบราง จะมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเนื่องเกี่ยวกับระบบราง จึงศึกษาดูงานในหลายประเทศกับผู้ประกอบการรายใหญ่ๆพบว่ากลุ่มโชคนำชัยมีศักยภาพในเรื่องดังกล่าว สามารถประกอบ ตัวถังรถเมล์โดยสาร โบกี้รถไฟ และระบบต่างๆ จึงได้หารือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เพื่อพัฒนาสายหนองปลาดุกเชื่อมถึงสุพรรณบุรีให้เป็นเส้นทางนำร่องของการพัฒนาความร่วมมือดังกล่าวในนามกลุ่มไทยทีม(Thai TEAM) ที่ประกอบไปด้วย สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) ที่มีผู้ประกอบการภาคเอกชนประมาณ 500 ราย ตลอดจนบริษัท โชคนำชัย ไฮ-เทค เพรสซิ่ง จำกัด หรือกลุ่มสกุลฎ์ซี บริษัทเอเอ็ม อาร์ เอเซีย จำกัด และบริษัท เอเซียเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์เซอร์วิส (ไทยแลนด์)จำกัด
ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ภาคปฏิบัติทางจังหวัดสุพรรณบุรีต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณราว 200 ล้านบาท และผู้ประกอบการจะลงขันอีกราว 200 ล้านบาท รวมเป็น 400 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการสนับสนุนโครงการ ดังนั้นหากรัฐยังล่าช้าจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาระบบรางของประเทศไทยทั้งในวันนี้และในอนาคต
เรื่องการจัดประชุมสัมมนาในการระดมความเห็นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั้งประเทศให้รับรู้ว่าจะมีการตลาดการจ้างงานขนาดใหญ่ด้านระบบขนส่งมวลชนเกิดขึ้นจะต้องขึ้นทะเบียนว่าผู้ประกอบการรายใดมีศักยภาพบ้าง แต่เนื่องจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการจัดไปหลายรอบแล้ว จึงไม่ควรจัดขึ้นอีก ควรไปเร่งสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้เกิดขึ้นในเรื่องนี้โดยเร็วจะชัดเจนกว่า
เล็งเชื่อม สายสีแดง-ฟิวเจอร์พาร์คฯ
นายประทวนกล่าวต่อว่า นอกจากกลุ่มไทยทีมจะเสนอให้จัดระบบเชื่อมโยงด้วยระบบรองเป็นฟีดเดอร์ เส้นทางนำร่องจากสถานีหนองปลาดุกไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกันนี้ยังเสนอจัดทำเส้นทางจากสถานีรังสิตของรถไฟฟ้าสายสีแดงเชื่อมไปยังฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ระยะทางประมาณ 2 กม.ก่อนที่จะขยายไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(มทร.ธัญบุรี) ในอนาคตต่อไป
เห็นว่าควรใช้ระบบรถโดยสารขนาดเล็กที่เหมาะสมกับแต่ละเส้นทาง อาทิ ใช้รูปแบบเช่นรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นต้น ระบบนี้ไร้คนขับ ปัจจุบันประเทศไทยผลิตรถเองได้แล้ว ส่วนการบริหารจัดการรัฐก็ควรเปิดทางให้แต่ละท้องถิ่นเข้าไปบริหารจัดการเอง เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) หรือเทศบาลเมือง เริ่มจากในตัวเมืองขยายออกไปยังเขตนอกเมือง ก่อนที่จะเปลี่ยนถ่ายสู่รถสองแถวหรือระบบรองอื่นๆรับช่วงต่อไป จะทำให้สภาพการจราจรในเมืองมีความคล่องตัวมากขึ้น ลดมลพิษในเมืองได้อย่างดีอีกด้วย
นอกจากนั้น กมธ.ชุดนี้ยังเตรียมเชิญกรมการขนส่งทางราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาขนส่งระบบรางของประเทศไทย มาระดมแนวทางเรื่องการส่งเสริมขนส่งระบบรองกัน ในการเป็นต้นแบบของโครงการฯ ซึ่งปัจจุบันพบว่าในจังหวัดขอนแก่น ได้มีการพัฒนาระบบขึ้นมาทดสอบได้แล้ว ดังนั้นหากทำได้สำเร็จก็ควรส่งเสริมไปสู่จังหวัดอื่นๆอย่างจริงจังต่อไป
เป้าหมายจริงๆ ถ้าขนส่งสายรอง ทำได้ดีในอนาคต ควรสนับสนุนให้ผลิตรถไปให้บริการในสายเมนหลักต่อไป ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย เห็นได้ชัดจากรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟทางคู่ และรถไฟเชื่อม อีอีซี ซึ่งเป็นระบบหลัก แต่ยังไม่มีระบบรองเข้าไปเชื่อมโยง หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ไทยจะไม่เสียโอกาสทางธุรกิจอีก ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42745
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2021 6:59 pm Post subject: |
|
|
การประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการรถไฟระหว่างเมือง ครั้งที่ 1/2564
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
พุธที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลา 19:09 น.
วันนี้ (19 พ.ค. 64) นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการรถไฟระหว่างเมือง ครั้งที่ 1/2564 พร้อมด้วย ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการชนส่งทางราง กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมการขนส่งทางรางและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยเป็นประชุมทางไกลผ่านระบบ Zoom
ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาใน 2 ประเด็น ได้แก่
1) ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ ซึ่งได้มีการติดตามความคืบหน้า ปัญหาและอุปสรรคโครงการ ความคืบหน้าการดำเนินการตามผลการประชุมติดตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องโครงการรถไฟทางคู่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 และเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 การนำแนวคิดเรื่อง MR-MAP มาพิจารณาร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และทางสายใหม่ การจัดทำแผนการดำเนินงานในรายละเอียด รูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟช่วงที่ผ่านตัวเมือง จุดตัดทางรถไฟที่ต้องกำหนดรูปแบบมาตรฐาน และการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟกับสถานีขนส่งสินค้า รวมทั้งติดตามความคืบหน้าการทบทวนกรอบวงเงินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร ชุมทางถนนจิระ
2) ความคืบหน้าการเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น หนองคาย ซึ่งต้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณ ให้ครบถ้วนก่อนนำเสนอกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่และทางสายใหม่ และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย นำเสนอการดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการประชุมติดตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องโครงการรถไฟทางคู่ในครั้งต่อไป และให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งเสนอขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น หนองคาย ต่อกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว
ภาพข้อมูล : การรถไฟแห่งประเทศไทย |
|
Back to top |
|
|
|