View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/05/2021 2:47 pm Post subject: |
|
|
ชิง 2.9 พันล้าน 2 ศูนย์ขนส่งสินค้า รับทางคู่เหนือ-อีสาน
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
กรมการขนส่งเตรียมเปิดประมูล PPP 2 ศูนย์ขนส่งสินค้าเชียงของเชียงราย-นครพนม ในปีนี้ มูลค่ากว่า 2.9 พันล้าน ดึงเอกชนร่วมทุน บูมคมนาคมขนส่งรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง เหนือ-อีสาน
นอกจากลงทุนโครงการรถไฟทางคู่แล้วการพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าของกระทรวงคมนาคมย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยเชื่อมโยงและกระจายให้ถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในและประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างทันท่วงทีเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันลดต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดย 2 พื้นที่ยุทธ ศาสตร์ได้แก่บริเวณด่านชายแดนอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายปลายทางทางคู่สายใหม่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และจังหวัดนครพนม เส้นทางรถไฟทางคู่สาย บ้านไผ่-มุกดาหาร -นครพนม
ขณะความคืบหน้า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ระบุ ว่าศูนย์เปลี่ยนถ่ายการขนส่งสินค้า 2 แห่ง จะเปิดประมูลรูปแบบ PPP หรือเอกชนร่วมในกิจการของรัฐ มูลค่ารวม 2.9 พันล้านบาท คาดว่าจะมีเอกชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากโดยศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เบื้องต้นกรมฯ จะเข้าบริหารศูนย์ดังกล่าวไม่เกินภายใน 1 ปีครึ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีการขนส่งสินค้าผลไม้ เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมฯได้ออกประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่สนใจเข้าใช้ภายในศูนย์ ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าศุลกากร 2 แห่ง พื้นที่สำนักงาน และชานชาลาขนถ่ายสินค้า (CFS) โดยให้บริการพื้นที่จอดรถบรรทุกและจุดชาร์จไฟตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็น (Reefer Plug) ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเดือนกรกฎาคมนี้
หลังจากนั้นจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนค่าเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน และงานระบบบริหารจัดการ ด้านโลจิสติกส์ และรับผิดชอบในส่วนของการบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) อายุสัญญาสัมปทาน 15 ปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost เฉพาะในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) ทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกันสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมลงทุนได้ภายในปีนี้ และเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภายในปี 2565 คาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างและลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนภายในกลางปี 2565
ส่วนการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ระยะที่ 2 เอกชนเข้ามาบริหารโครงการฯตามสัญญาสัมปทาน ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าขาเข้า-ออก อาคาร CFS หลังที่ 2 อาคารสำนักงานฝ่ายปฏิบัติการ ลานกองตู้คอนเทนเนอร์ โรงอาหารส่วนปฏิบัติงาน อาคารซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล อาคารเอกซเรย์และอาคาร CCA วงเงิน 660.43 ล้านบาท ซึ่งเป็นการก่อสร้างขยายในส่วนพื้นที่ปฏิบัติงาน เช่น อาคารเปลี่ยนถ่ายและบรรจุสินค้า และลานกองเก็บตู้สินค้า เป็นต้น
สำหรับพื้นที่ในโครงการฯ ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าศุลกากร อาคารหอพัก อาคารคลังสินค้าทัณฑ์บน อาคารบริหารส่วนกลาง ลานจอดรถและการเปลี่ยนหัวลาก-หางพ่วง โรงอาหารส่วนบริหารงานกลาง อาคารซ่อมบำรุง และชานชาลาขนถ่ายสินค้า (CFS) ขณะเดียวกันการออกแบบโครงการฯจะเป็นพื้นที่สำหรับการรวบรวมและกระจายสินค้า ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกแบบไม่เต็มคันและรถเที่ยวเปล่า
ทั้งนี้เป็นที่ทำการของหน่วยงานตรวจปล่อยสินค้า (CIQ) สามารถให้บริการตรวจปล่อยสินค้าแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ซึ่งรองรับการเปลี่ยนหัวลาก-หางพ่วงระหว่างรถบรรทุกไทยกับรถบรรทุกต่างประเทศ รวมทั้งรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าจากทางถนนสู่ทางราง ผ่านแนวรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงรายเชียงของ
ส่วนโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม ได้ตัวผู้รับจ้างและลงนามสัญญาปลายปีนี้หรือต้นปี 2565 โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนค่าก่อสร้างในส่วนองค์ประกอบอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้และเครื่องมืออุปกรณ์ พร้อมรับผิดชอบในส่วนบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปีนี้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี สามารถรองรับปริมาณสินค้าได้สูงสุด 164,431 TEU รวมทั้งรองรับการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งกับระบบราง (Shift Mode) ผ่านแนวโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่นครพนม
ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี รองรับปริมาณสินค้าสูงสุด 164,431 TEU |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 12/05/2021 3:46 pm Post subject: |
|
|
วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ประธาน สร.รฟท.นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายปิยะพันธ์ ชำนาญภักดีเลขานุการ และนายกชภูมิ
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10:21 น.
กรรมการ พร้อม กรรมการ สร.รฟท.สาขาชุมพร นลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการสร้างทางคูในเส้นทางสายใต้ระหว่างสถานี บ่อนอก ถึง ทุ่งมะเม่า โดยการเดิน เท้าตรวจ นั่งรถยนต์รางของนายตรวจทางกุยบุรี และขึ้นหัวรถจักรขบวน 704 เพื่อสำรวจทาง
เท่าที่ตรวจพบในทางเดิมที่ บริษัทเร่งคืนทางแต่มีความบกพร่องหลายจุด ที่ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข ทั้งเรื่องทาง ราง หมอน และทางใหม่ที่เกี่ยวข้องกับทางลอด การสไลด์ของดิน ของหิน สองข้างทาง สะพานที่มีผลกระทบจากการตอกเข็มทางใหม่ การปักป้ายที่จะส่งผลต่อการเดินรถ และทางสร้างใหม่ที่มีการโค้งในทางที่ควรจะตรงเพื่อในอนาคตรถสามารถทำความเร็วได้โดยไม่ต้องชะลอ
สำหรับรายละเอียดและบทสรุปจะส่งให้แก่การรถไฟฯเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ได้มาตรฐานต่อไป
การลงพื้นที่ และนำเสนอผ่านเพจของสหภาพ เพียงเพื่อสร้างความตระหนักรับรู้และร่วมกันแก้ไข และฝากผู้บริหารที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่กันบ้างอย่าให้หน้างานที้งพนักงานการรถไฟฯและบริษัทต้องแก้ปัญหา หรือเผชิญหน้ากัน ขอให้มองถึงประโยชน์ของการรถไฟฯ และประโยชน์ที่ประเทศชาติ ประชาชน ไปแล้วก็เห็นใจพนักงานที่อยู่หน้างาน หน้าดำ เกรียม เครียด ....
ประธาน สร.รฟท.กล่าวย้ำว่าหลังจากสรุปงานนำเสนอต่อการรถไฟสักระยะไม่นานจะกลับไปดูใหม่ พร้อมให้กำลังใจคนทำงานในพื้นที่ และต่างกล่าวขอบคุณ และซาบซึ้งที่ลงมาช่วยแก้ปัญหา
และอีกหลายจุดที่ได้รับการร้องเรียนก็จะได้ลงพื้นที่ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 13/05/2021 9:52 pm Post subject: |
|
|
MAA Consultants Co., Ltd.
วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.03 น. ·
วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 เวลา 9.00 น.
Breakthrough อุโมงค์ที่ 1 ช่วงหินลับ-ผาเสด็จ"
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ
- งานขุดเจาะอุโมงค์ที่ 1 ช่วงหินลับ-ผาเสด็จ อุโมงค์ฝั่งขาล่อง (Down Track) ขุดเจาะทะลุหากัน (Breakthrough) แล้วเสร็จ
- ความคืบหน้างานขุดเจาะอุโมงค์ที่ 1 ทั้งหมด จากมาบกะเบา-หินลับ แล้วเสร็จรวม 10,180 เมตร จากระยะทางอุโมงค์คู่ ทั้งหมด 10,420 เมตร คิดเป็น 98% คาดว่างานจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2564
MAA : ที่ปรึกษาควบคุมงาน
ITD : ผู้รับจ้างก่อสร้าง
Cr - ITD Railway Business Unit |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 14/05/2021 9:12 pm Post subject: |
|
|
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้า แต่ก็มีองค์กรนึงที่พยายามเดินสวนทางความเจริญมาตลอด
รูปแรก : สถานีเขาเต่า รถไฟทางคู่สายใต้
ที่กำลังถูกตั้งประเด็นว่าถูกลดสเปคอย่างเยอะแถมเปลี่ยนเป็นชานชาลาแบบต่ำ
รูปสอง : สถานีรถไฟทางคู่สายอีสานที่เป็นชานชาลาสูง (พื้นชานชลาเท่าประตูรถไฟเหมือน BTS/MRT)
นอกจากนี้ยังยืนกรานว่ารถไฟทางคู่สายใหม่ที่กำลังจะประมูลเร็วๆนี้ เช่นชัย - เชียงของ และ สายบ้านไผ่ - นครพนม ก็เป็นชานชาลาแบบต่ำ
https://www.facebook.com/groups/923310448202985/permalink/1019692561898106/ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/05/2021 9:02 am Post subject: |
|
|
ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบรฟท.ปรับชานชาลา
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
สถานีรถไฟทางคู่จากชานฯสูงเป็นต่ำ ปชช.รอคำตอบ'ศักดิ์สยาม'จบปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มี.ค.64 หลังจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และเพจเฟซบุ๊ก "ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์" ได้นำเสนอข่าวผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งปรับแบบการก่อสร้างชานชาลาของบางสถานีในโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส) ที่ 1 จากชานชาลาสูง 110 เซนติเมตร (ซม.) เป็นชานชาลาต่ำ 50 ซม. ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีคำสั่งที่เป็นเอกสารชัดเจนจากอดีต 3 ผู้ว่า รฟท., คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. และอดีต รมว.คมนาคมในสมัยนั้น ให้สร้างชานชาลาสูง 110 ซม. ซึ่งจะเท่ากับพื้นตู้โดยสารรถไฟ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร และผู้พิการสามารถเข้าออกตู้โดยสารรถไฟได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และช่วยลดระยะเวลาในการจอด ตามที่ประชาชนหลายรายได้จัดส่งข้อมูลเข้ามานั้น
จนถึงขณะนี้ประเด็นดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจจากผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนที่รักและชื่นชอบรถไฟ โดยมีการสอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้มายังหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และเพจเฟซบุ๊ก "ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์" จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ก็ยังมีการพูดถึง และวิพากษ์วิจารณ์ด้วยการนำข้อมูลต่าง ๆ และภาพประกอบเปรียบเทียบระหว่างชานชาลาสูง และต่ำ รวมถึงการสร้างชานชาลาสูงในสถานีรถไฟขนาดเล็กมาแชร์ข้อมูลกันด้วยเช่นกัน
ล่าสุดจากการสอบถาม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เพื่อติดตามความคืบหน้าในประเด็นนี้เนื่องจากนายศักดิ์สยาม ได้ สั่งการให้ รฟท.ศึกษา และรวบรวมข้อมูลการออกแบบก่อสร้างชานชาลาในต่างประเทศ และให้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบกันให้เห็นว่า การก่อสร้างชานชาลาที่ รฟท. ดำเนินการอยู่นั้น มีความถูกต้องตามหลักสากล และหลักวิศวกรรมหรือไม่ โดยให้สรุปและเสนอกระทรวงคมนาคมภายใน 1 เดือน หรือประมาณปลายเดือน เม.ย.64 เพื่อให้การพิจารณาสร้างชานชาลาของสถานีรถไฟต่าง ๆ เป็นไปตามหลักสากล มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์กับผู้ใช้บริการมากที่สุด โดยนายศักดิ์สยามตอบสั้น ๆ ว่า ขณะนี้ยังรอการรายงานจาก รฟท. จะเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ขอสัมภาษณ์นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. ซึ่งเคยออกมาชี้แจงเรื่องการปรับแบบชานชาลาสถานีรถไฟทางคู่ แต่ทัวร์ลงทันที โดยถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุผลในการปรับแบบที่ออกมาชี้แจงนั้นฟังไม่ขึ้น โดยเมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งว่าโทรฯ จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ นายสุรณเดชตัดสายทิ้งทันที
อย่างไรก็ตามจากการติดตามผลในส่วนที่ประชาชนได้นำประเด็นเรื่องการปรับแบบฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้นั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด แจ้งการรับเรื่องร้องเรียนแล้ว โดยในหนังสือมีใจความระบุว่า ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาแล้ว เป็นเรื่องร้องเรียนเลขดำที่ 564/2564 อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ได้มีหนังสือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน พร้อมให้จัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และกรณีมีความจำเป็น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินอาจแสวงหาข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งจะได้ดำเนินการโดยเร็ว ทั้งนี้เมื่อได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริง หรือความเห็นครบถ้วนแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้นำมาประกอบการพิจารณาจัดทำคำวินิจฉัยต่อไป ลงนามในหนังสือโดย นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการ ปฏิบัติการแทน เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 17/05/2021 1:10 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบรฟท.ปรับชานชาลา
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
|
ลิงก์มาแล้วครับ
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลุยสอบ รฟท. ปรับแบบชานชาลา
*สถานีรถไฟทางคู่จากชานฯสูงเป็นชานฯต่ำ
*ประชาชนรอคำตอบศักดิ์สยามจบปัญหา
*วิศวกรใหญ่เมินตอบสื่อ/ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2905983142956518
รอดูว่าจะมีเจ้าทุกข์ มาฟ้อง ปปช. หรือเปล่า ถ้ามีและปปช. และศาลอาญาและศาลปกครองประทับรับฟ้อง รับรองว่า คณะกรรมการรถไฟ และ สหภาพรถไฟ ตกที่นั่งลำบากแน่ๆ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 19/05/2021 7:51 pm Post subject: |
|
|
สรุปความคืบหน้า การพัฒนาระบบราง ขนาด 1 เมตรทั่วประเทศ ทางคู่เฟส 1, เฟส2 และทางรถไฟสายใหม่
โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure
วันนี้ขอเอาความคืบหน้าของโครงการพัฒนาระบบรางของทั้งประเทศภายในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงระดับภูมิภาคของประเทศ
มาติดตามความคืบหน้าและสถานะ ของโครงการทั้งหมดกันครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
โดยในโครงการของการรถไฟแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ
- การพัฒนาทางรถไฟเดิม จากทางเดี่ยวเป็นทางคู่
- การก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่
- การก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง
ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย
วันนี้ขอพูดแต่ในส่วนของทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร (รถไฟไทย) ก่อนนะครับ เพราะมันเยอะไป
การพัฒนาทางรถไฟเดิมจากทางเดี่ยวเป็นทางคู่
ซึ่งเป็นการยกระดับการให้บริการ ทั้งด้านปริมาณ และด้านคุณภาพ รวมถึงความปลอดภัย
- ด้านปริมาณ คือการเพิ่มปริมาณการเดินรถ จากเดิมซึ่งเป็นทางเดี่ยวเป็นทางคู่ ได้มากถึง 4 เท่าตัว
เพราะมีการยกระดับมาตรฐานระบบอาณัติสัญญาณ จากแบบ Manual และ แบบไฟฟ้าธรรมดา
ยกระดับมาเป็น ระบบดิจิตอล มาตรฐานยุโรป (ETCS LEVEL 1) ซึ่งจะทำการติดตั้ง ETCS Way side ตลอดเส้นทาง พร้อมกับศูนย์ควบคุมส่วนกลาง ทำให้สามารถทราบตำแหน่งรถไฟชัดเจน และร่นระยะห่างระหว่างขบวน เพื่อเพิ่มความถี่ได้อีกด้วย
- ด้านคุณภาพ คือการปรับปรุงตัวทางรถไฟให้เรียบ และขยายขนาดตัวรางให้เป็นไปมาตรฐาน UIC 54 ซึ่งจะทำให้ ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่อาจจะให้บริการที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง (เทียบเท่ากับ ETS ของมาเลเซีย)
รายละเอียด ETCS Level 1 ตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/855791254859355/?d=n
อีกด้านคือการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟทั้งหมด 100% เพื่อป้องกันปัญหารถไฟชนกับรถยนต์อย่างเด็ดขาด ซึ่งจะมีการทำ สะพานข้าม ทาชลอด และถนนเลียบทางรถไฟ ตามเส้นทางที่จำเป็น
โดยในรถไฟทางคู่ทุกสายได้ออกแบบให้รองรับการติดสายส่งไฟฟ้า (OCS) เพื่อเปลี่ยนแหล่งพลังงานของรถไฟ จากดีเซลเป็นไฟฟ้าไว้หมดแล้ว
รายละเอียดเรื่องการติดตั้งระบบไฟฟ้า ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/768898753548606/?d=n
ซึ่งโครงการทางคู่แบ่งเป็น 2 เฟส
~ เฟส 1 ระยะทางรวม 993 กิโลเมตร มีทั้งหมด 7 โครงการ
เสร็จแล้ว 2 โครงการ คือ
- ฉะเชิงเทรา-คลอง 19-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร มูลค่า 9825.81 + 407.05 ล้านบาท (ส่วนอุโมงค์สำเร็จ กรกฎาคม 2562 ที่เหลือ สำเร็จ กันยายน 2562)
- ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร มูลค่า 24326 ล้านบาท ( สำเร็จ สิงหาคม 2562)
อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5 โครงการคือ
- มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 สัญญา
1. มาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กิโลเมตร มูลค่า 7560 ล้านบาท คืบหน้า 87.14% ช้ากว่าแผน 4.15%
มีส่วนของทางยกระดับข้ามหุบเขามวกเหล็กอยู่ในสัญญานี้ด้วย รายละเอียดตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1149896548782156/?d=n
2. คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กิโลเมตร มูลค่า 7060.58 ล้านบาท ยังไม่เริ่มสร้าง ติดปัญหาสะพานข้ามทางรถไฟหน้าสีมาธานี ปรับแบบแล้วเสร็จ กำลังเสนอคมนาคม
3. งานอุโมงค์ ระยะทาง 5 กิโลเมตร มูลค่า 9290 ล้านบาท คืบหน้า 73.15% ช้ากว่าแผน 11.33%
รายละเอียดตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/964190120686134/?d=n
*** คาดว่าจะเปิด ให้บริการถึงคลองขนานจิตรเดือนกันยายน 2565 (ไม่รวมสัญญาที่ 2)
- ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 146 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 สัญญา
1. บ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กิโลเมตร มูลค่า 10050 ล้านบาท ความคืบหน้า 51.83% เร็วกว่าแผน 20.29%
มีส่วนของทางยกระดับเลี่ยงเมืองลพบุรีอยู่ในช่วงนี้ รายละเอียดตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/962559214182558/?d=n
2. ท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร มูลค่า 8649 ล้านบาท ความคืบหน้า 65.59% ช้ากว่าแผน 1.90%
*** คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนกรกฎาคม 2565
- นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 สัญญา
1. นครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กิโลเมตร มูลค่า 8198 ล้านบาท ความคืบหน้า 84.89% เร็วกว่าแผน 1.22%
2. หนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กิโลเมตร มูลค่า 7520 ล้านบาท ความคืบหน้า 83.81% เร็วกว่าแผน 0.37%
ในสัญญานี้มีส่วนที่ผมไปสำรวจสถานีเขาย้อยมา รายละเอียดตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1146371139134697/?d=n
*** คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนกันยายน 2565
- หัวหิน-ประจวบ ระยะทาง 84 กิโลเมตร มูลค่า 5807 ล้านบาท มีสัญญาเดียว ความคืบหน้า 85.26% ช้ากว่าแผน 13.59%
*** คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนมิถุนายน 2564
- ประจวบ-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร มีทั้งหมด 2 สัญญา
1. ประจวบ-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กิโลเมตร มูลค่า 6465 ล้านบาท ความคืบหน้า 76.85% เร็วกว่าแผน 0.72%
2. บางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 79 กิโลเมตร มูลค่า 5992 ล้านบาท ความคืบหน้า 69.03% ช้ากว่าแผน 2.04%
รายละเอียดโครงการช่วงประจวบ-ชุมพร
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/620268438411639/?d=n
*** คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือนเมษายน 2565
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/photos/pcb.931725960937682/931725567604388/
ซึ่งสายใต้ช่วง นครปฐม-ชุมพร มีปัญหาเรื่องความสูงชานชาลา ซึ่งยังเถียงกันไม่จบไม่สิ้นว่า สายใต้ จะเป็นชานชาลาสูงเท่าไหร่ดี ซึ่งจากใน TOR ยืนยันว่าเป็น #ชานชาลาสูง เท่ากับสายอื่น ถ้าสายใต้หลุดมาเป็น #ชานชาลาต่ำ ที่เดียว ก็ได้มีฟ้องกันแน่นอน มีคนจองกฐินกันเยอะแล้ว เพราะขัดมาตรฐานการออกแบบ อารยสถาปัตย์ (Universal Design) สุดลิ่ม!!!
ใครอยากรู้เรื่อง ชานชาลาสูง VS ต่ำ ดูได้จากลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1162539157517895/?d=n
~ เฟส 2 ระยะทาง 1,483 กิโลเมตร มีทั้งหมด 7 โครงการ (รออนุมัติโครงการ) ซึ่งการก่อสร้างจะทะยอยสร้างตามความจำเป็น และปริมาณจราจรในแต่ละเส้นทาง
ซึ่งลำดับการก่อสร้าง ที่ผมพอมีข้อมูลล่าสุดตามนี้ครับ
1. ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 26,663 ล้านบาท
ซึ่งสายนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในโครงการทางคู่ เนื่องจากจะเป็นตัวเชื่อมต่อกับทางรถไฟ ลาว-จีน ที่จะรอเชื่อมกับไทยเรา ซึ่งจะเปลี่ยนถ่ายสินค้าจากรถไฟลาว-จีน เข้าสูงรถไฟไทย ที่จุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transhipment Port) นาทา
รายละเอียดจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Port) นาทา ซึ่งบางส่วนจะร่วมกับรถไฟความเร็วสูงสายอีสานช่วงที่ 2 ด้วย ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1061909740914171/?d=n
ซึ่งโครงการนี้จะสร้างควบคู่ไปกับสะพานมิตรภาพ(รถไฟ) แห่งใหม่ ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/647886825649800/?d=n
แล้วจะไปสอดคล้องกับโครงการ PPP ติดตั้งสายส่งไฟฟ้า (OCS) เพื่อเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากน้ำมันเป็นไฟฟ้า เส้นทาง หนองคาย-แก่งคอย-แหลมฉบัง เพื่อเชื่อมโยง จีน-ลาว-ไทย ออกท่าเรือแหลมฉบัง ในอนาคตอีก!!!! รายละเอียดตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/871744723264008/?d=n
การก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 สาย คือ
- เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร
- บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร
~ รายละเอียดโครงการเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ
กลุ่ม ITD-NWR [บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด(มหาชน) ] ได้งานช่วงเด่นชัย - งาว ในราคา 26,568 ล้านบาท จากราคากลาง 26,599 ล้านบาท
กลุ่ม CKST [บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)] ได้งานช่วงงาว - เชียงราย - เชียงของ ดั่งนี้
งาว - เชียงราย: 26,900 ล้านบาท จากราคากลาง 26,913 ล้าน
เชียงราย - เชียงของ: 19,390 ล้านบาท จากราคากลาง 19,406 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/920004821771331/?d=n
จุดประสงค์หลักของโครงการนี้ คือการขนส่งสินค้า จากไทยไปจีน ผ่านช่องทางหลัก 2 ช่องทาง คือ
- ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน
- สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ)
รายละเอียดเส้นทาง
- ระยะทางรวม 323 กิโลเมตร
- เป็นทางรถไฟขนาด 1 เมตร
- ใช้รางมาตรฐาน UIC 60 E1
- รองรับน้ำหนักกดเพลาสูงสุด 20 ตัน รองรับรถไฟใหญ่สุดของการรถไฟ (รถจักร CSR)
- รองรับความเร็วสูงสุด 160 กม/ชม
- ใช้อาณัติสัญญาณ ETCS Level 1 ตามมาตรฐานทางคู่ใหม่
ในโครงการมีอุโมงค์ทั้งหมด 4 แห่งคือ
- อุโมงค์ที่ 1 กม. 606+200-607+325 ระยะทาง 1.1 กิโลเมตร
- อุโมงค์ที่ 2 กม. 609+050-615+425 ระยะทาง 6.4 กิโลเมตร
- อุโมงค์ที่ 3 กม. 663+400-666+200 ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร
- อุโมงค์ที่ 4 กม. 816+600-820+000 ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร
ระยะทางรวมอุโมงค์ของโครงการ 13.4 กิโลเมตร
มีสถานี 3 รูปแบบ คือ
- สถานีขนาดใหญ่ จะเป็นสถานีระดับจังหวัด
- สถานีขนาดเล็ก
- ป้ายหยุดรถไฟ
~ รายละเอียดโครงการ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม
ความคืบหน้าล่าสุด เตรียมเปิดซองประมูล ในวันที่ 25 พฤษภาคม 64 นี้!!!!
ภาพรวมรายละเอียดโครงการ ตามลิ้งค์นี้
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1159245367847274/?d=n
- ระยะทางโครงการทั้งหมด 354 กิโลเมตร
- มีสถานีรถไฟและป้ายหยุดรถไฟทั้งหมด 31 สถานี
- ความเร็วรถไฟสูงสุดในการออกแบบในทางประธาน 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- เป็นทางรถไฟขนาด 1 เมตร เท่ากับรถไฟทางคู่ของการรถไฟ
- ความสูงชานชลา เป็นชานชลาสูง (เหมือนทางคู่ ขอนแก่น) สูง 1.1 เมตร (ไม่รู้ตอนนี้มีมือมืดจากไหนไปเปลี่ยนรึเปล่า!!!)
- มาตรฐาน โครงสร้างทางรถไฟ
รางรถไฟเป็นมาตรฐาน UIC 60
เป็นแบบหินโรยทาง บนทางระดับดิน
เป็นแบบไม่ใช้หินโรยทาง เป็นหมอนเหล็ก บนทางยกระดับหรือสะพาน
- ออกแบบรองรับรถไฟน้ำหนักสูงสุด 20 ตัน/เพลา (รับรถจักร CSR ซึ่งใหญ่สุดของการรถไฟได้)
- ใช้อาณัติสัญญาณ แบบ ETCS Level 1 ซึ่งเป็นระบบเดียวกับ รถไฟฟ้าสายสีแดง. และรถไฟทางคู่สายใหม่ทั้งหมดทุกสายทาง
หวังว่าจะไม่มีไครมารื้ออะไรกับโครงการรถไฟที่มีแผนและเตรียมเดินหน้าไปหมดแล้วนะครับ !!
เดี๋ยวรอบหน้ามาสรุปรายละเอียดความคืบหน้าของรถไฟความเร็วสูงต่อครับ
. |
|
Back to top |
|
|
|