View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 27/09/2021 12:27 am Post subject:
พม.เร่งแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยชาวบ้านรับผลกระทบโครงการรถไฟรางคู่
หน้าข่าวทั่วไป
วันที่ 26 กันยายน 2564 เวลา 15:00 น.
พม. ประชุม ทีม One Home จ.พิษณุโลก เร่งแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานการขับเคลื่อนตามภารกิจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 2/2564 ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวง พม. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก และหัวหน้าหน่วยงาน ทีม One Home พม. จังหวัดพิษณุโลก ว่า ที่ประชุมมีการรายงานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ตามแผนการพัฒนาระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแนวเขตที่ดินการรถไฟจังหวัดพิษณุโลกทั้งสองฝั่งของทางรถไฟรวม 11 สถานี ได้รับผลกระทบ จำนวน 11 ชุมชน รวม 1,907 หลังคาเรือน
ขณะนี้ กระทรวง พม. โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ได้ดำเนินกระบวนการสำรวจพบผู้เดือดร้อน จำนวน 261 หลังคาเรือน และใช้กระบวนการขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วมกับผู้เดือดร้อน เพื่อแก้ไขปัญาหาที่อยู่อาศัยดังกล่าว
ทั้งนี้ มีการเตรียมแผนรองรับไว้ช่วยเหลือแล้ว โดยใช้รูปแบบของโครงการบ้านมั่นคงของ พอช. และโครงการบ้านเคหะสุขประชาของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งแบ่งออกเป็น 1) ทำสัญญาเช่าบนที่ดินเดิมกับการรถไฟฯ ระยะยาว 30 ปี และ 2) ย้ายไปยังที่ดินใหม่ ไม่ไกลจากที่ดินเดิมภายในระยะทาง 5 กิโลเมตร ทั้งนี้ ได้กำชับให้ พอช. เร่งสำรวจผู้เดือดร้อนเพิ่มเติม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการและผลกระทบที่เกิดขึ้น และหาแนวทางข้อเสนอการปรับปรุงที่อยู่อาศัยร่วมกับชุมชน
เรื่องการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างมีประสิทธิภาพ จะใช้ข้อมูลจากสมุดพกครอบครัวที่มีข้อมูลในมิติต่างๆ ของกลุ่มเปราะบาง อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง แม่เลี้ยงเดี่ยว และคนด้อยโอกาสทำให้ทราบปัญหาและความต้องการ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่างๆ อย่างเร่งด่วน โดยคาดว่าจะสามารถเก็บข้อมูลทั้งจังหวัดพิษณุโลกภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 สำหรับกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวจะให้การส่งเสริมอาชีพทักษะพิเศษที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้ อาทิ Hair Specialist ที่เป็นมากกว่าช่างทำผม แต่มีความสามารถทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมจากพืชสมุนไพรเพื่อมูลค่าเพิ่ม โดยจะส่งเสริมให้กลุ่มเปราะบางในนิคมสร้างตนเองปลูกพืชสมุนไพรเป็นวัตถุดิบ จากนั้น จะส่งให้ พอช. นำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แล้วจะส่งขายไปยังตลาดของ กคช. ที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนหลายแสนครอบครัวในโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ จะสนับสนุนอาชีพ เชฟ (Chef) ทำอาหาร โดยจะเปิดสอนหลักสูตร Master Chef จำนวน 2 รุ่น ภายในปี 2564 และอีก 5 รุ่น ในปี 2565 รวมทั้งเปิดสอนหลักสูตรบาร์เทนดี้
เรื่องการช่วยเหลือเด็ก โดยเฉพาะเด็กชาติพันธุ์จะสนับสนุนให้มีโอกาสได้เข้าเรียนในกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการเกษตรสมัยใหม่ และช่างสมัยใหม่ สำหรับเด็กออทิสติก จะให้ อปท. ทุกแห่ง ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลครอบครัวเด็กออทิสติก เพื่อทำแผนที่ทางสังคมสำหรับให้ความช่วยเหลือต่างๆ ต่อไป อีกทั้งสำรวจจำนวนครูที่มีความพร้อม เป็นครูจิตวิทยาที่สามารถดูแลเด็กออทิสติกได้ ในโรงเรียนร่วมทั้ง 461 แห่ง นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้ทุกตำบลมีห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ โดยดึงสภาเด็กและเยาวชนเข้ามาช่วยด้วย
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44878
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44878
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/09/2021 7:32 am Post subject:
รฟท.แจงน้ำท่วมอุโมงค์ลอดทางรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ - ขอนแก่น
กรุงเทพธุรกิจ 28 ก.ย. 2564 เวลา 15:43 น.
การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้เแจงกรณีน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ - ขอนแก่น ช่วงบ้านโนนมะเกลือ จังหวัดนครราชสีมา แนะใช้สะพานข้ามทางรถไฟไปก่อน
ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวกรณีชาวบ้านในพื้นที่บ้านโนนมะเกลือ ตำบลดอนยาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านบริเวณอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟได้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนักน้ำไหลเข้าท่วมอุโมงค์
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า รฟท. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว โดยพบสาเหตุมาจากประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงมรสุม และได้รับอิทธิพลของพายุ เตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ไหลเข้าสะสมจนท่วมอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟฯ ช่วงระหว่างสถานีเมืองคง-บ้านดอนใหญ่ อีกทั้งยังท่วมเครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้าของเครื่องสูบน้ำจนทำให้กระแสไฟฟ้าดับ เครื่องสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำออกจากอุโมงค์ได้
อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่และบริเวณอุโมงค์ทางลอดอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำเริ่มลดลงจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธาของ รฟท. เร่งดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่ทันที เพื่อกลับมาเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
โดยในขณะนี้ รฟท. มีความจำเป็นต้องปิดอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ ระหว่างสถานีเมืองคง-บ้านดอนใหญ่ ในช่วงที่มีน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว เนื่องจากในอุโมงค์ดังกล่าวเป็นแบบ 2 ช่องจราจร สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในช่วงน้ำท่วมได้ และขอให้เลี่ยงไปใช้สะพานข้ามทางรถไฟของถนนสายหลักบริเวณใกล้เคียง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านเหนือของสถานีเมืองคง ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ทดแทนไปก่อน
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 29/09/2021 3:24 pm Post subject:
รฟท.แจงน้ำท่วมอุโมงค์ลอด ทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น เครื่องสูบน้ำยังใช้ไม่ได้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 28 กันยายน 2564 เวลา 17:22 น.
ปรับปรุง: วันที่ 28 กันยายน 2564 เวลา 17:22 น.
น้ำทะลักท่วมอุโมงค์ทางลอดรถไฟชุมทางจิระ-ขอนแก่นช่วงบ้านโนนมะเกลือ นครราชสีมา และระบบไฟฟ้าคุมเครื่องสูบน้ำยังใช้ไม่ได้ ต้องปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าวกรณีชาวบ้านในพื้นที่บ้านโนนมะเกลือ ตำบลดอนยาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรผ่านบริเวณอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่นได้ เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก น้ำไหลเข้าท่วมอุโมงค์นั้น
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชี้แจงว่า การรถไฟฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว โดยพบสาเหตุมาจากประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงมรสุม และได้รับอิทธิพลของพายุ เตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่และฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ไหลเข้าสะสมจนท่วมอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟฯ ช่วงระหว่างสถานีเมืองคง-บ้านดอนใหญ่ อีกทั้งยังท่วมเครื่องควบคุมกระแสไฟฟ้าของเครื่องสูบน้ำจนทำให้กระแสไฟฟ้าดับ เครื่องสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำออกจากอุโมงค์ได้
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่และบริเวณอุโมงค์ทางลอดอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำเริ่มลดลงจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธาของการรถไฟฯ เร่งดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่ทันที เพื่อกลับมาเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยในขณะนี้ การรถไฟฯ มีความจำเป็นต้องปิดอุโมงค์ทางลอดใต้ทางรถไฟ ระหว่างสถานีเมืองคง-บ้านดอนใหญ่ ในช่วงที่มีน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว เนื่องจากในอุโมงค์ดังกล่าวเป็นแบบ 2 ช่องจราจร สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก รถจักรยานยนต์ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในช่วงน้ำท่วมได้ และขอให้เลี่ยงไปใช้สะพานข้ามทางรถไฟของถนนสายหลักบริเวณใกล้เคียง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านเหนือของสถานีเมืองคง ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ทดแทนไปก่อน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44878
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 02/10/2021 9:30 am Post subject:
สนข.ปลุกแผน TOD ไฮสปีด-ทางคู่ บูมเมืองต้นแบบ 3 โซน
ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 3 - 6 ต.ค. 2564
Saturday, October 02, 2021 07:23
สนข.ลุย TOD ไฮสปีดฯ-ทางคู่ ชูเมืองต้นแบบ 3 แห่ง ชงครม.ไฟเขียวปีนี้ ดึงกรมรางตั้งคณะกรรมการฯ ดันโครงการฯ ต่อเนื่อง เร่งคลอดกฎหมายรองรับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีแผนศึกษาพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) นำร่องเมืองต้นแบบ 3 แห่ง ดึงคนเข้าพื้นที่ เชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทาง
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสนข. เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ปัจจุบันสนข.ได้ศึกษาแผน TOD แล้วเสร็จ เบื้องต้นกรมการขนส่งทางราง (ขร) อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) โดยมีนายศักดิ์สยามชิดชอบ เป็นประธานและนายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นเลขาธิการ และผู้แทนจากหน่วยงานกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมด้วย โดยการตั้งคณะกรรมการในครั้งนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ซึ่งไม่สามารถดำเนินการโครงการเพียงกระทรวงเดียวได้ รวมทั้งกรมการขนส่งทางราง (ขร.) มีอำนาจในเรื่องของกฎหมายต่างๆ ทำให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบของสถานีรถไฟ หลังจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบได้เร็วๆ นี้
ขณะเดียวกันสนข.เร่งผลักดันหลักการโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในปีนี้ รวมทั้งสนข.อยู่ระหว่างจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) TOD เพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ที่จะดำเนินการและสามารถพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีได้ โดยให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) พิจารณาด้วย เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังไม่มีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง หากดำเนินการจัดทำร่างพ.ร.บ.TOD แล้วเสร็จ จะนำเสนอต่อคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) และเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา หลังจากนั้นจะมอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร) เป็นผู้ดำเนินการต่อไป
นายปัญญา กล่าวต่อว่า ร่างพ.ร.บ. TOD จะระบุถึงรายละเอียดอำนาจหน้าที่และหลักการ วิธีการต่างๆ ในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนใหญ่หากโครงการฯไม่มีกฎหมายบังคับใช้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถดำเนินการโครงการฯต่อได้ คาดว่าการจัดทำร่างพ.ร.บ.TOD แล้วเสร็จภายในปีนี้
"ด้านผลการศึกษาโครงการฯนี้ มีการวางแผนและการวางรูปแบบแล้ว เบื้องต้นได้มีการนำร่องเมืองต้นแบบTOD เช่น สถานีขอนแก่น, สถานีชลบุรี (พัทยา), สถานีอยุธยา หากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯแล้วเสร็จ สนข.จะส่งรายละเอียดแผนการศึกษาโครงการฯต่อกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อไปดำเนินการต่อ ทั้งนี้รูปแบบของสถานี TOD มีลักษณะพื้นที่ที่รถไม่สามารถเข้ามาได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางบริเวณโดยรอบสถานีได้สะดวก รวมทั้งมีแหล่งการค้าขายสินค้า แหล่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ"
นายปัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากแผนศึกษา TOD ทั้ง 3 แห่งแล้ว สนข.จะศึกษาพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่นั้น เบื้องต้นบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างการรวบรวมที่ดินของรฟท.เพื่อศึกษารายละเอียดว่าพื้นที่ใดมีศักยภาพสามารถดำเนินการได้ โดยการศึกษาในครั้งนี้จะร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า)
สำหรับแผนศึกษา TOD ทั้ง 3 แห่ง ดังนี้ 1.สถานีรถไฟขอนแก่น เป็น TOD ศูนย์ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีให้เป็นศูนย์กลางเมืองขอนแก่นแห่งใหม่ ที่มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างผสมผสานมีการเชื่อมโยงกันระหว่างพื้นที่ชุมชนเดิมและชุมชนใหม่ เพิ่มพื้นที่สำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เชื่อมกับสถานีรถไฟความเร็วสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.สถานีรถไฟอยุธยา เป็น TOD ศูนย์กลางเมืองภาคกลาง ตัวแทนกลุ่มแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือ โดยมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีให้สอดคล้องกลมกลืนกัน ระหว่างความเป็นเมืองเก่ากับความทันสมัย เน้นการเชื่อมต่อพื้นที่สถานีความเร็วสูงที่จะเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่เข้ากับพื้นที่ชุมชนเมืองเดิมด้วยสะพานทางเดินข้ามแม่น้ำ ท่าเรือข้ามฟาก และระบบขนส่งมวลชนรอง (Feeder) เพิ่มพื้นที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมพื้นที่สาธารณะภายในเมืองด้วยโครงข่ายพื้นที่สีเขียว ทางจักรยาน ทางเท้า และทางยกระดับ รักษาสมดุลของการอนุรักษ์และพัฒนาและ
3. สถานีรถไฟพัทยาเป็น TOD ศูนย์ภูมิภาคตะวันออกและพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟพัทยาให้เป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ของพัทยา โดยเชื่อมโยงพื้นที่กับชายทะเลพัทยา ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเจริญเดิม เพิ่มพื้นที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ที่เชื่อมกับสถานีรถไฟความเร็วสูงโดยมีการปรับขนาดของ TOD ลง เพื่อให้เข้ากับสภาพมรดกท้องถิ่น
"คาดว่าการจัดทำร่างพ.ร.บ.TOD แล้วเสร็จภายในปีนี้"
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 04/10/2021 12:19 am Post subject:
เผยภาพทางลงชานชาลาของสถานีรถไฟแห่งหนึ่งไม่มีทางสำหรับผู้พิการ ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.34 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 15.34 น.
สมาชิกในกลุ่ม "Reporter Journey Club" เผยภาพที่อ้างว่าเป็นชานชาลาของสถานีรถไฟสายใต้แห่งหนึ่ง ที่มีการก่อสร้างเสร็จสิ้นแต่ไม่มีทางลงสำหรับผู้พิการ จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Somchai Saesue" ได้เข้ามาโพสต์ภาพชานชาลาของสถานีรถไฟแห่งหนึ่งลงในกลุ่ม "Reporter Journey Club" ซึ่งผู้โพสต์ได้ระบุว่าอยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ โดยภาพที่ผู้โพสต์ได้นำมาเปิดเผยให้เห็นนั้น คือชานชาลาดังกล่าวกลับมีบันไดเพื่อให้ผู้โดยสารเดินลงจากชานชาลาเพื่อไปขึ้นรถไฟ ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้มีการสร้างทางลงสำหรับผู้พิการแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"สภาพพพพพพพ โครงการรถไฟทางคู่ทั่วประเทศแสนล้าน สายใต้ (ย้ำ) สัญญาเดียวที่สร้างชานต่ำ ในขณะที่ผู้รับเหมารายอื่นยังชะลอก่อสร้าง ใครขึ้นรถไฟสายใต้ช่วงนี้ลองสังเกตดู สังคมตัดสินกันเอาเอง"
อย่างไรก็ตาม ได้มีสมาชิกในกลุ่มเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/4480667325313511
https://www.facebook.com/groups/923310448202985/posts/1108214859712542/
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 04/10/2021 10:30 am Post subject:
พาชมการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำราชบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรางคู่สายใต้ โดยสร้างเป็นสะพานขึง(หลบระเบิด) เพราะในแม่น้ำยังมีระเบิดสมัยสงครามโลกฝังอยู่หลายลูกการกู้จะทำให้เสียเวลา รฟท จึงตัดสินใจสร้างเป็นสะพานขึงเพราะไม่ต้องมีเสาในแม่น้ำเพื่อหลบระเบิด สะพานนี้จึงเป็นสะพานรถไฟแบบขึงแห่งแรกในประเทศไทย การก่อสร้างเพิ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว จะพยายามไป updated ให้ชมกันเรื่อยๆครับ บอกเลยว่าสวยครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=112957057814710&id=101218238988592
https://www.youtube.com/watch?v=Yh7u0cIfYVk Last edited by Wisarut on 04/10/2021 6:55 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 04/10/2021 7:07 pm Post subject:
เช็กสถานะ!รถไฟทางคู่ 14สาย พลิกโฉมเดินทางยังยาวไกล
คอลัมน์ มุมคนเมือง
โดย ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง.
4 ตุลาคม 2564 เวลา 08:00 น.
สัปดาห์นี้พาไปเช็กสถานะโครงการรถไฟทางคู่ 14 เส้นทาง ระยะทาง 2,476 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนเกือบ 4 แสนล้านบาทของกระทรวงคมนาคม ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ก่อกำเนิดในรัฐบาลยุคคสช.
กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่ระยะ(เฟส)ที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,483 กม. วงเงินลงทุนรวม 2.71 แสนล้านบาท โดยเฉพาะช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. วงเงินลงทุน 2.66 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความพร้อม และมีโครงข่ายเชื่อมต่อการขนส่งจากจีน สปป.ลาว และไทย รวมทั้งยังเชื่อมต่อกับเส้นทางภายในประเทศ มาสิ้นสุดที่ท่าเรือแหลมฉบัง และเป็นเส้นทางที่รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้วตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.61
.หากไม่รีบดำเนินการอีไอเอจะหมดอายุในปี 65 และต้องกลับมาทำอีไอเอกันใหม่
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างปรับปรุงรายละเอียดโครงการช่วงขอนแก่น-หนองคาย โดยมอบให้ที่ปรึกษาพิจารณาดำเนินการดังนี้
1.จัดทำมูลค่าโครงการ โดยปรับค่าก่อสร้างใหม่ให้เป็นปัจจุบัน
2.พิจารณารายละเอียดงานสะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) และถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู (Overpass U-Turn) ไม่ให้ซ้ำซ้อนกับงานโครงการรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีด) เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย
3.ตรวจสอบงานรื้อย้ายเครื่องกั้น และแผ่นปูทางเสมอระดับ,
4.ออกแบบถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟโดยใช้ท่อเหลี่ยม (Underpass Box) ไม่ให้มีขนาดเล็กเกินไป และเกิดน้ำท่วมขัง,
5.ปรับปรุงค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินให้เป็นปัจจุบัน โดยคำนึงถึงราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นในอนาคต และ
6.วิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) ใหม่
นอกจากนี้ยังจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ ที่เห็นว่า รฟท. ควรเสนอแผนการจัดหารถจักร และล้อเลื่อนที่ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รฟท. กำลังเร่งจัดทำข้อมูลเมื่อแล้วเสร็จจะเสนอขออนุมัติคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. และคาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการได้ประมาณเดือน ธ.ค.64 พร้อมกับช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 3.75 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายงานอีไอเอผ่านความเห็นชอบจาก กก.วล. แล้ว เมื่อวันที่ 20 ก.ค.63
ส่วนอีก 5 เส้นทาง รวม 1,008 กม. วงเงินลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท มีแผนเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติโครงการได้ภายในปี 65 ประกอบด้วย
1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 6.28 หมื่นล้านบาท, 2.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 2.42 หมื่นล้านบาท, 3.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 5.73 หมื่นล้านบาท
และ 4.ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 5.68 หมื่นล้านบาท โดยทั้ง 4 เส้นทางอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อขออนุมัติโครงการ และพิจารณาอีไอเอ ส่วน
5.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6.66 พันล้านบาท กก.วล.เห็นชอบรายงานอีไอเอแล้ว เมื่อวันที่ 1 ส.ค.61 อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเพื่อขออนุมัติโครงการ.
สำหรับเฟสแรก 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 993 กม. วงเงิน 113,660 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 โครงการ ได้แก่
1.ช่วงฉะเชิงเทรา แก่งคอย และ 2. ช่วงชุมทางถนนจิระ ขอนแก่น เปิดบริการแล้วตั้งแต่ปี 62
ที่เหลือ 5 เส้นทางกำลังก่อสร้างประกอบด้วย
1.สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
สัญญา 1 (บ้านกลับ-โคกกระเทียม) คืบหน้า 51.83%,
สัญญา 2 (ท่าแค-ปากน้ำโพ) 65.59%
2.สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
สัญญา 1 (มาบกะเบา-คลองขนานจิตร) 87.14%,
สัญญา 3 (อุโมงค์รถไฟ) 73.15%
3.สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน
สัญญา 1 (นครปฐม-หนองปลาไหล) 84.89%,
สัญญา 2 (หนองปลาไหล-หัวหิน) 83.81%
4.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ 85.26% และ
5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
สัญญา 1 (ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย) 76.85%,
สัญญา 2 (บางสะพานน้อย-ชุมพร) 69.03%
ทั้ง5เส้นทางนี้รฟท.ขยายเวลาไปเรื่อยๆ จากปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยขยับแผนก่อสร้างล่าสุดจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 66
การพลิกโฉมเดินทางจากทางบกมาเป็นทางรางยังอีกยาวไกล
Back to top