View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/10/2021 1:20 pm Post subject:
คอลัมน์ มองรอบทิศ: ใครจะเสี่ยง? รถไฟสีส้ม!
Source - เดลินิวส์
Friday, October 15, 2021 07:59
พยัคฆ์น้อย
ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องจับเข่าคุยกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้รู้เรื่องเสียทีว่าอะไรกันเนี่ย! ตอนเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟรางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ถูกสังคมคลางแคลงใจ จนนายกฯต้องตั้งคณะกรรมการกลางมาตรวจสอบความโปร่งใสในผลของการประมูลงาน 5 สัญญา 5 ผู้รับเหมา คว้ากันไปคนละสัญญา
แต่โครงการที่ยัง "ยักแย่ยักยัน" กันมาพักใหญ่ ๆ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท ยังไม่ไปถึงไหน!
แม้นายศักดิ์สยามจะส่งสัญญาณยืนยันว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเดินหน้าจัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อไปได้ แต่ฝ่ายบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) ย้ำ! หัวตะปูว่าหาก รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหา ที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอสจะใช้สิทธิโต้แย้ง และอาจฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง
แว่ว ๆ ว่างานนี้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ พากันขวัญผวา ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม! เพราะเกรงว่าจะต้องเข้าปิ้ง! หมดอนาคต และอาจถึงขั้นติดคุกแทนฝ่ายการเมืองก็เป็น ไปได้!
เนื่องจากหากยึดหลักเกณฑ์ประมูลคัดเลือกตามกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 28 ม.ค.63 ที่กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินการคัดเลือกเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก โดยรัฐต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินดีที่สุด หรือมีการขอรับเงินสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐน้อยที่สุดนั้น รฟม.ต้องกลับไปใช้เกณฑ์คัดเลือกปกติ ซึ่งต้องชี้ขาดกันที่ข้อเสนอทางการเงินที่ให้ประโยชน์ต่อรัฐมากที่สุด ไม่ใช่ไปลากเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่มีปัญหากลับมาใช้
คงไม่มีกรรมการคัดเลือกชุดใหม่คนไหน เอาหน้าที่การงานไปเสี่ยงคุก เพราะมีตัวอย่างศาลอาญาคดีทุจริตฯรับฟ้องกรณี "บีทีเอส" ฟ้องผู้ว่าการ รฟม. และกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 รวม 7 คน คดีร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประมูล พ่วงด้วยคดีตามมาตรา 157 โดยศาลนัดพิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่าย ก่อนเดินหน้าไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 ต.ค.นี้
โดยมี "หนังตัวอย่าง" อดีตผู้ว่าการ รฟท. ต้องติดคุกเกี่ยวกับเรื่องราวคล้ายคลึงกัน ในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาในเอกสารประกวดราคาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชน ทำให้ รฟท.ได้รับความเสียหาย
แต่การประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน (พีพีพี) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งพยานหลักฐาน ต่าง ๆ ล้วนมีความหมิ่นเหม่! ทำให้กรรมการคัดเลือกส่วนใหญ่เห็นว่าควรรอให้มีความชัดเจนใน "คดีความ" เสียก่อน!
หรือถ้าจะให้สบายตัวที่สุด หากต้องการให้รถไฟฟ้าสายสีส้มเดินหน้าต่อไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ควรมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมและ รฟม. กลับไปใช้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกปกตินั่นแหละ เพราะหากศาลปกครองและศาลอาญาคดีทุจริตฯ ชี้มูลตามมา โดยรฟม.จัดประมูลไปตามเกณฑ์ปกติแล้ว ก็สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้
อย่าลืมว่ามติครม. เมื่อ 28 ม.ค.63 อนุมัติให้รฟม. ดำเนินการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระยะทาง 35.9 กม. วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวถือว่าล้มเหลว ล่าช้า!
เนื่องจากมีการฟ้องร้องเรื่องเปลี่ยนเกณฑ์การประมูล จนต้องล้มประมูลหนี! สร้างความเสียหายแก่รัฐ ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย แต่ยังหา "ไอ้โม่ง" ที่คอยกำกับบทอยู่เบื้องหลังมารับผิดชอบไม่ได้เลย!!.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 ต.ค. 2564 (กรอบบ่าย)
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 20/10/2021 8:44 am Post subject:
แฉเกมบีบบีทีเอสรามือรถไฟฟ้าสีส้มไร้ผล องค์กรต่อต้านทุจริตลังเลเข้าร่วมหวั่นถูกใช้ชื่อฟอกขาว
แนวหน้า วันพุธ ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุน (พีพีพี) ในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.427 แสนล้านบาทว่า หลังจากฝ่ายบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประกาศเดินหน้าจัดประกวดราคาใหม่โดยยืนยันว่า คดีฟ้องร้องที่มีอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการประมูล เพราะศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้องคดีต่างๆ ไปเกือบหมดแล้วนั้น ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการ รฟม. ที่ประชุมได้รับทราบรายงานของฝ่ายบริหารที่อ้างว่า ยังไม่สามารถเริ่มจัดประมูลใหม่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม และประสานไปยังองค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการพิจารณคัดเลือกตามมาตรา 36 ยังคงไม่เห็นชอบต่อร่างทีโออาร์การประมูล เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนด้านคดีความต่างๆที่รฟม.ถูกฟ้องอยู่ โดยเฉพาะคดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ล่าสุดหลังจากบีทีเอสได้แสดงจุดยืนอาจใช้สิทธิ์โต้แย้ง หาก รฟม.ยังคงนำเอาหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่มีปัญหากลับมาใช้อีกนั้น ได้ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ที่เข้ามายังคงไม่กล้าตัดสินใจให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลตามที่ฝ่ายบริหาร รฟม.นำเสนอ และส่วนใหญ่เห็นว่า ควรรอความชัดเจนด้านคดีความจากศาล โดยเฉพาะคดีที่รฟม.ถูกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เหตุที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) ยังไม่มีหนังสือตอบไปยัง รฟม.นั้นเพราะเกรงว่าการส่งคนเข้าร่วมสังเกตการณ์จะกลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้ รฟม.นำไปฟอกขาวโครงการนี้ เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รฟม.ได้กล่าวอ้างมาโดยตลอดว่า โครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม มีการลงนามในข้อตกลงคุณธรรมมาตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ปี 2561 โดยที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ไม่ได้รับทราบรายละเอียดหรือส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ผลจากการที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส (BTS) ออกมาแสดงจุดยืนว่า หากรฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอส คงจะใช้สิทธิ์โต้แย้ง และอาจถึงขั้นฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง รวมทั้งยังส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกด้วยนั้น และได้สร้างความไม่พอใจให้กับกระทรวงคมนาคม และพรรคการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอย่างหนัก โดยที่ผ่านมามีความพยายามที่จะเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มบีทีเอสลดบทบาทจากการประมูลโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มเพื่อแลกกับการที่ กทม.จะดำเนินการต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ให้กับกลุ่มบีทีเอส แต่ทางบีทีเอสยืนยันว่าทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และขอใช้สิทธิ์ในชั้นศาลเท่านั้น จึงทำให้เส้นทางการเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานระหว่าง กทม.กับ บมจ.บีทีเอส ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะได้ข้อยุติลงเมื่อใด
ฝ่ายบริหาร บีทีเอส แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และแม้ผลพวงจากความล่าช้าในการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว รวมทั้งการจ่ายหนี้ค้างกว่า 30,000-40,000 ล้านบาทของ กทม.จะล่าช้า แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าในที่สุดหนี้จำนวนดังกล่าวจะได้รับชดใช้อยู่ดีเพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐโดยตรง ไม่สามารถจะบิดพลิ้วได้ ขณะที่ความพยายามแก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้มนั้นเป็นคนละเรื่อง ไม่สามารถจะนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองกรณีดังกล่าวได้
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 23/10/2021 3:12 pm Post subject:
Update!การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
Oct 18, 2021
PR MRTA Official
อัพเดทความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
โดยมีความคืบหน้างานโยธา อยู่ที่ 86.26 % โดยวันนี้น้องทันใจจะพาไปชมความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีศรีบูรพาและอาคารจอดแล้วจร กันนะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=teTLM3dS4nc
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 25/10/2021 6:46 pm Post subject:
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดบีทีเอส-รฟม.ไต่สวนคดีสายสีส้ม 3 วัน
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 17:57 น.
"บีทีเอส" เผย ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดไต่สวน เคลียร์คดีรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 วัน เตรียมสอบพยาน พิจารณาเอกสารเพิ่มเติม คาดใช้เวลาไม่นานได้ข้อสรุป ซัดรฟม.เบรกให้ข่าว หวั่นคลาดเคลื่อนกระทบรูปคดี
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยว่า ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดไต่สวนเพื่อรับคำฟ้องกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น เบื้องต้นศาลฯได้พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งไม่ได้ขัดข้องในการยื่นเอกสารทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยโดยมีกำหนดเริ่มนัดไต่สวนพิจารณาคดีฯ จำนวน 3 วัน ได้แก่วันที่ 14,20,24 ธ.ค.2564 หลังจากนี้ จะเป็นการไต่สวนพยานและพิจารณาเอกสารที่ยื่นฟ้องต่อศาลฯเพื่อประกอบการพิจารณาว่ามีมูลฟ้องหรือไม่
"ที่ผ่านมาการประมูลโครงการฯ เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนส.ค.2563 ขณะเดียวกันสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการมาทั้งหมดเพื่อเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โปร่งใส เราฟ้องไม่ได้เพื่อให้เราชนะ แต่ต้องการให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อ และใช้ระยะเวลาไม่นาน คาดว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อนที่จะมีการเริ่มนัดไต่สวนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ส่วนการเปิดประมูลรอบใหม่นั้น หากรฟม.ยืนยันจะใช้เกณฑ์การประมูลโดยใช้เกณฑ์ด้านราคา 70 คะแนน และด้านเทคนิค 30 คะแนน ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูล แต่คงต้องพิจารณาหลักเกณฑ์การประมูลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร"
ทั้งนี้ในช่วงการไต่สวนวันนี้ฝ่ายจำเลยหรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)มีการขอร้องต่อศาลฯ พิจารณาไม่ให้สัมภาษณ์ข่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดีและข้อเท็จจริงมีความคลาดเคลื่อน แต่ทางบริษัทขอค้าน เพราะสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ได้กระทบต่อรูปคดีแต่อย่างใด เบื้องต้นทางศาลฯ พิจารณาเห็นด้วยกับบริษัทฯสามารถให้ข้อเท็จจริงได้ แต่ต้องระวังในการนำเสนอข่าวด้วย
ศาลอาญาคดีทุจริตรับฟ้อง!! บีทีเอสร้องรถไฟฟ้าสีส้ม
*นัดไต่สวนแล้ว 3 วันเดือด 14, 20, 24 ธ.ค.นี้
*ไม่ได้สู้เพื่อชัยชนะแต่เพื่อการแข่งขันยุติธรรม
*บิ๊กBTSลั่นประมูลรอบใหม่ถ้ากติกาไม่ตุกติก
*แฉรฟม.ขอศาลห้ามโจทก์ให้ข่าวสื่อมวลชน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3031000807121417
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 26/10/2021 5:56 am Post subject:
เปิดสาเหตุประมูลสายสีส้มรอบใหม่ไม่คืบ
หน้าเศรษฐกิจ Mega Project
เปิดสาเหตุประมูลสายสีส้มรอบใหม่ไม่คืบ
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เวลา 14:25 น.
บอร์ดม.36 ค้านประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบใหม่ หลังรฟม.ชงใช้เกณฑ์ประมูลด้านราคาควบเทคนิค แนะเคลียร์คดีในศาลให้จบ ซุ่มเจรจาบีทีเอสแลกต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กม.วงเงินลงทุนกว่า 1.427 แสนล้านบาทว่า หลังจากฝ่ายบริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ประกาศเดินหน้าเปิดประมูลใหม่และยืนยันว่าคดีฟ้องร้องที่มีอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการประมูล เนื่องจากศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกฟ้องคดีต่างๆ เกือบหมดแล้ว
ขณะเดียวกันการประชุมคณะกรรมการ รฟม.ล่าสุดที่ประชุมได้รับทราบรายงานของฝ่ายบริหารที่อ้างว่า ยังไม่สามารถเริ่มจัดประมูลใหม่ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม และประสานไปยังองค์การต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกตามมาตรา 36 ยังคงไม่เห็นชอบต่อร่างทีโออาร์การประมูล เนื่องจากต้องการรอความชัดเจนด้านคดีความต่าง ๆ ที่รฟม.ถูกฟ้องอยู่ โดยเฉพาะคดีในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
สำหรับสาเหตุที่องค์การต่อต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ยังไม่มีหนังสือตอบไปยัง รฟม.นั้นเพราะเกรงว่าการส่งคนเข้าร่วมสังเกตการณ์จะกลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้ รฟม.นำไปฟอกขาวโครงการนี้ เพราะก่อนหน้านี้เป็นที่น่าสังเกตว่า รฟม.อ้างมาโดยตลอดว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีการลงนามในข้อตกลงคุณธรรมมาตั้งแต่แรกแล้วตั้งแต่ปี 2561 โดยที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่ได้รับทรายรายละเอียดหรือส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมแต่อย่างใด
ทั้งนี้จากการที่ฝ่ายบริหาร บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส (BTS) ออกมาแสดงจุดยืนล่าสุด หาก รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอส คงจะใช้สิทธิ์โต้แย้ง และอาจถึงขั้นฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง รวมทั้งยังส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการคัดเลือกด้วยนั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับกระทรวงคมนาคม และพรรคการเมืองที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคมอย่างหนัก
ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มบีทีเอสยกเลิกจากการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพื่อแลกกับการที่ กทม.จะดำเนินการต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเชียว ให้กับกลุ่มทีบีเอส แต่ทางบีทีเอสยืนยันว่าทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และขอใช้สิทธิ์ในชั้นศาลเท่านั้น จึงทำให้เส้นทางการเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานระหว่าง กทม.กับ บมจ.บีทีเอส ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะได้ข้อยุติลงเมื่อใด
ฟากบีทีเอส แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ทุกอย่างเลยขั้นตอนการเจรจาไปหมดแล้ว และแม้มีผลมาจากความล่าช้าในการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมทั้งการจ่ายหนี้ค้างกว่า 30,000-40,000 ล้านบาทของ กทม.จะล่าช้า แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าในที่สุดหนี้จำนวนดังกล่าวจะได้รับชดใช้อยู่ดี เพราะเป็นหนี้ที่เกิดจากนโยบายรัฐโดยตรง ไม่สามารถตะบิดพลิ้วได้ ขณะที่ความพยายามแก้ไขหลักเกณฑ์การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น ไม่สามารถจะนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองกรณีดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตามความคืบหน้าในการเปิดประมูลใหม่นั้น หลังจากบีทีเอสได้แสดงจุดยืนอาจใช้สิทธิ์โต้แย้ง หากรฟม.ยังคงนำเอาหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหากลับมาใช้อีกนั้น ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ที่เข้ามาไม่กล้าตัดสินใจให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลตามที่ฝ่ายบริหาร รฟม.นำเสนอ เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นว่าควรรอความชัดเจนด้านคดีความจากศาล โดยเฉพาะคดีที่รฟม.ถูกฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/10/2021 8:17 am Post subject:
รถไฟฟ้าสีส้ม-สีเขียว 2ปียังวนอยู่ในอ่าง....ทำไม????? (1)
โลกการค้า
แนวหน้า วันพุธ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
กลายเป็นข่าวร้อนอีกครั้งกับเส้นทางการพิจารณาข้อเสนอต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) กับ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) ต้องถูกถอนออกจากวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่กระทรวงคมนาคมกระโดดออกมาขวางแนวทางดังกล่าวเต็มพิกัด ด้วยข้ออ้างเดิมไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว.
..โดยกระทรวงคมนาคมได้เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของครม.ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอต่อสัญญาสัมปทานบีทีเอส โดยระบุว่า ได้ทำความเห็นแย้งมาถึง 8 ครั้งแล้ว หากกระทรวงมหาดไทยและ กทม.จะเดินหน้าต่อสัญญาสัมปทานโครงการ ก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ตลอดจนหลักธรรมาภิบาล พร้อมยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้จัดประชุมเพื่อร่วมหาข้อยุติร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและ กทม.ตามที่นายกฯ มอบหมายแล้ว และได้สอบถามขอข้อมูลรายละเอียดไปยัง กทม. หลายครั้ง แต่ กทม.ไม่จัดส่งรายละเอียดให้ ทำให้ไม่สามารถจะพิจารณาได้
ฟากของผู้บริหาร ของ กทม. เองก็แปลกใจเมื่อพิจารณาข้อท้วงติงของกระทรวงคมนาคมแล้ว พบว่ามีข้อท้วงติงและข้อเสนอที่แตกต่างไปจากข้อท้วงติงเดิมที่กระทรวงคมนาคมเคยนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 จนทำให้เส้นทางการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินคงค้างที่ กทม. มีอยู่กับผู้รับสัมปทานเอกชนไม่สามารถหาข้อยุติได้
โดยแต่เดิม กระทรวงคมนาคมได้อ้าง ประเด็นในเรื่องความครบถ้วนในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนปี 2562 และการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่กำหนดไว้ 65 บาทตลอดสายโดยอ้างว่าเป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมเป็นธรรม พร้อมขอให้ กทม. และบีทีเอสแสดงต้นทุนที่มาที่ไปในการคำนวณอัตราค่าโดยสารดังกล่าว แต่ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เพิ่มเติมข้อท้วงติงใหม่ขึ้นมาอีกหลายข้อ ประกอบด้วย
1.หาก กทม. จะขยายสัญญาสัมปทานในช่วงที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย กทม. ควรชำระหนี้สินให้แก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้เรียบร้อยก่อนจะเริ่มกระบวนการจัดหาผู้ให้บริการในโครงข่ายสีเขียว ส่วนต่อขยาย
2.หาก กทม.ไม่มีความประสงค์จะให้บริการสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ก็ควรเสนอ ครม. เพื่อทบทวนมติ ครม. เมื่อ 26 พ.ย. 2561 และมอบหมายให้ รฟม.ดำเนินการ (โอนโครงการกลับคืน รฟม.)
3.หากจะมีการต่อขยายสัญญาสัมปทาน บริษัทต้องแจ้งความประสงค์ไปยัง กทม.ในเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และไม่มากกว่า 5 ปี ก่อนวันสิ้นสุดสัญญา เนื่องจากต้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแลพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการร่วมทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และดัชนีผู้บริโภค และต้องได้รับการอนุมัติจาก ครม.ก่อน และ
4.กรณี กทม. มีภาระหนี้จากการว่าจ้างเอกชนติดตั้งระบบเดินรถไฟฟ้าและว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายทั้ง 2 ส่วน ที่ได้ทำเมื่อปี 2559 ควรมีการตรวจสอบสัญญาว่า มีความชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ จะส่งผลต่อมูลหนี้ดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ต่อไป
นอกจากนี้ ในรายงานของกระทรวงคมนาคมยังระบุด้วยว่า จากการศึกษาข้อมูลยังพบว่า ผลประโยชน์ของภาครัฐที่จะได้รับตลอดระยะเวลาสัมปทานถึงปี 2602 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอต่อขยายอายุสัญญา 30 ปีนั้น กรณีที่รัฐดำเนินการเองจะมีผลประโยชน์สูงกว่ากรณีให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ โดยพบว่า กรณี กทม.ดำเนินการเองภาครัฐจะมีกระแสเงินสดสุทธิ (ปี 2602) 4.67 แสนล้านบาท แต่หาก กทม. ให้เอกชนดำเนินการ ภาครัฐจะมีกระแสเงินสดสุทธิในปี 2602 จำนวน 3.26 หมื่นล้านบาท ซึ่งหมายถึงหากรัฐดำเนินการเองจะมีกระแสเงินสดสุทธิมากกว่ากรณีให้เอกชนสูงถึง 4.35 แสนล้านบาท
เจอแบบนี้ รมว.มหาดไทย (มท.) และ กทม.ก็ไปไม่เป็น ได้แต่ถอนเรื่องออกไปจาก ครม. เพราะสิ่งที่กระทรวงคมนาคมมีการปรับเปลี่ยนข้อโต้แย้งและระบุข้อโต้แย้งใหม่ไปเรื่อย ทำให้คิดได้ว่า เพราะต้องการนำโครงการนี้มาเป็นข้อต่อรองทางการเมือง เพื่อแลกกับการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม และสีม่วงใต้ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) กำลังดำเนินการอยู่ และไม่ว่า กทม.จะชี้แจงอย่างไรก็เชื่อว่า เมื่อโครงการดังกล่าวเข้า ครม.ก็คงถูกกระทรวงคมนาคมตั้งแท่นขวางอยู่ดี
แหล่งข่าว ระดับสูงใน กทม.กล่าวอีกว่าหากทุกฝ่ายจะได้พิจารณาข้อโต้แย้งของกระทรวงคมนาคม ในประเด็นที่ว่าหากจะเจรจาต่อขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียวให้ครอบคลุมไปถึงโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ กทม. ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ ควรจ่ายหนี้ค้างให้ รฟม.ให้เรียบร้อยก่อนนั้น ประเด็นดังกล่าวล้วนถูกบรรจุไว้ในข้อสัญญาการต่อขยายสัมปทานใหม่ที่จะมีขึ้นอยู่แล้ว ที่บีทีเอส (BTS) จะต้องชำระหนี้ค้างทั้งหมดแทน กทม. จึงไม่ใช่ประเด็นปัญหา
ส่วนข้อ 2 ที่อ้างว่าหาก กทม.ไม่สามารถบริหารโครงข่ายรถไฟฟ้า สายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 สายได้เอง ควรโอนคืนให้กับรฟม.นั้น ปัญหาที่จะมีตามมาก็คือ จะทำให้เกิดปัญหาคอขวดและการเชื่อมต่อโครงข่ายเพราะหากสิ้นสุดสัมปทานสายหลักในปี 2572และกทม.ต้องเปิดประมูลหาเอกชนเข้ามาเดินรถ หากผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักคือกลุ่มบีทีเอสเดิม ในขณะที่ รฟม.นั้นไปว่าจ้างอีกกลุ่มเข้ามาเดินรถ ก็จะเกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ เพราะเป็นคนละระบบ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและอาจทำให้อัตราค่าโดยสารสูงมากและกลายเป็นความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้บริการทันที
3.หากจะมีการต่อขยายสัญญาสัมปทาน บริษัทต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกทม. ในเวลาไม่น้อยกว่า3 ปี และไม่มากกว่า 5 ปีก่อนวันสิ้นสุดสัญญา และต้องให้หน่วยงานที่กำกับพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการร่วมทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งอัตราเงินเฟ้อ และดัชนีผู้บริโภคข้อเสนอดังกล่าวเท่ากับ กระทรวงคมนาคมกำลังจะให้กรมขนส่งทางรางเข้ามากำกับดูแลโครงการและอาศัยเป็นเครื่องมือในการพิจารณาว่าจะให้ใครเป็นเจ้าของโครงการ และหากกรมขนส่งทางรางมีอำนาจขนาดนั้นจริง เหตุใด กรณีเปิดประมูลสัมปทาน รถไฟฟ้า สายสีส้ม ที่กำลังเปิดประมูลโดยรฟม.พยายามนำหลักเกณฑ์การคัดเลือกสุดพิสดารมาใช้ ทำไมกรมขนส่งทางรางจึงไม่สอดมือเข้าไปพิจารณาดูบ้างในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลรถไฟฟ้า
ส่วนข้ออ้างที่ 4 ที่ว่าควรมีการตรวจสอบสัญญาว่าจ้างการเดินรถระหว่าง กทม.และบีทีเอสตั้งแต่ต้นว่าถูกต้องชอบธรรมหรือไม่นั้น ประเด็นการตรวจสอบนั้นทาง กทม.ยืนยันว่าสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ได้มีการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม Integrity pack มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หากจะให้เหมาะสมควรตรวจสอบภาระหนี้ก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า 2 สายที่ รฟม.โยนโครมมาให้ กทม.แบกรับแทนจะเหมาะสมมากกว่า เหตุใด จึงไม่เรียกร้องเอากับ กทม. ทั้งที่เป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าที่รัฐจะต้องลงทุนอยู่แล้ว อีกทั้งในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม.เองจนป่านนี้ก็ยังไม่มีโครงการใดดำเนินการตามข้อตกลงคุณธรรมด้วยซ้ำ
!!พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับผม(ใน...โลกการค้า)
กระบองเพชร
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 28/10/2021 6:17 pm Post subject:
รฟม. สั่งลอกท่อระบายน้ำตลอดแนวสร้างรถไฟฟ้าสีส้ม ลดปัญหาน้ำท่วม
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
28 ตุลาคม 2564 เวลา 10:42 น.
รฟม. สั่งผู้รับจ้างขุดลอกท่อระบายน้ำ-ลำราง ตลอดแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทุก 3 เดือน พร้อมให้เฝ้าระวังตลอด เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนรามคำแหง
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า รฟม. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้ติดตาม และกำชับให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาทุกสัญญา เฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าตลอดแนวถนนรามคำแหง โดยให้ผู้รับจ้างฯ ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำ และลำรางสาธารณะตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับ สัญญาที่ 4 ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ ได้ดำเนินการขุดลอกลำรางสาธารณะบริเวณถนนรามคำแหงทั้งฝั่งขาเข้า และฝั่งขาออกในพื้นที่เขตสะพานสูง บริเวณซอยรามคำแหง 110-112 ซอยรามคำแหง 129/4 ซอยรามคำแหง 141 ซอยรามคำแหง 144 ซอยรามคำแหง 158 และซอยรามคำแหง 161/2 เพื่อป้องกันเศษวัสดุอุดตันในแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบนถนรามคำแหง
ทั้งนี้ รฟม. ได้เน้นย้ำให้ที่ปรึกษาโครงการ กำกับดูแลให้ผู้รับจ้างฯ ลอกท่อระบายน้ำตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน และเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ตามนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในการให้ความสำคัญแก่ประชาชนและชุมชนตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานก่อสร้างโครงการฯ..
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 03/11/2021 9:08 pm Post subject:
รฟม. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
สำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (สปอ.รฟม.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตลอดจนติดตามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ก่อสร้าง สถานี รฟม. สถานีรามคำแหง สถานีแยกลำสาลี สถานีสัมมากร สถานีมีนบุรี และอาคารจอดแล้วจร (Park&Ride) โดย สปอ.รฟม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงและพื้นที่อับอากาศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเอง คนรอบข้างรวมถึงผู้สัญจรโดยรอบเป็นสำคัญ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมและปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศ ปฏิญญาว่าด้วยความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน Zero Fatal Accident ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เว็บไซต์โครงการ www.mrta-orangelineeast.com และ Line Official : OrangeLine
https://www.facebook.com/MRTA.PR/posts/2907406352809413
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/11/2021 7:45 am Post subject:
รฟม.ลงพื้นที่ ติดตามด้านอาชีวอนามัย -ความปลอดภัยการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม
เผยแพร่: 3 พ.ย. 2564 23:18 ปรับปรุง: 3 พ.ย. 2564 23:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
สำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (สปอ.รฟม.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตลอดจนติดตามปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ก่อสร้าง สถานี รฟม. สถานีรามคำแหง สถานีแยกลำสาลี สถานีสัมมากร สถานีมีนบุรี และอาคารจอดแล้วจร (Park&Ride)
โดย สปอ.รฟม ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงและพื้นที่อับอากาศอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเอง คนรอบข้างรวมถึงผู้สัญจรโดยรอบเป็นสำคัญ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมและปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศ ปฏิญญาว่าด้วยความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน Zero Fatal Accident ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2561 สามารถ ติดตามข้อมูลข่าวสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เว็บไซต์โครงการ www.mrta-orangelineeast.com และ Line Official : OrangeLine
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
Posted: 08/11/2021 10:56 am Post subject:
🚧🚆 #อัปเดตความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 07:34 น.
มีความคืบหน้างานโยธา รวม 87.24 % นับว่าเร็วกว่าแผน 0.36%
ช่วงที่ 1: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ไป รามคำแหง 12 โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 92.67%
ช่วงที่ 2: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก รามคำแหง 12 ไปหัวหมาก โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 88.98%
ช่วงที่ 3: อุโมงค์ใต้ดิน และ สถานีใต้ดิน จาก หัวหมาก ไป คลองบ้านม้า และ ทางลาดขึ้นทางลอยฟ้าโดยอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ : 85.58%
ช่วงที่ 4: ทางลอยฟ้าและ สถานีลอยฟ้า จากคลองบ้านม้าไปสุวินทวงศ์ โดย ยูนิคเอนจิเนียร์: 79.49%
ช่วงที่ 5: งานศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร โดย CKST (ช. การช่าง - ซิโนไทย) : 86.83%
ช่วงที่ 6: งานก่อสร้างระบบราง โดย ยูนิคเอนจิเนียร์: 76.61%
https://www.facebook.com/MRTOrangeLineEast/posts/1223725331440149
Back to top