Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273744
ทั้งหมด:13585040
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวเกี่ยวกับรถไฟฟ้า BTS
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 133, 134, 135 ... 155, 156, 157  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2021 12:48 am    Post subject: Reply with quote

เมื่อวันเสาร์ ที่ 11 ธันวาคม 2564 เวลา 00.30-03.00 น. รถไฟฟ้าบีทีเอส นำเจ้าหน้าที่สถานี และผู้เกี่ยวข้อง จัดฝึกซ้อมและสังเกตการณ์ การฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี ครั้งที่ 1/2564 กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้สถานีกรุงธนบุรี (G1) และโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีทอง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติเกิด ความรู้ ทักษะ ความเข้าใจในขั้นตอนสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ การฝึกซ้อมได้ปฏิบัติเป็นไปตามประกาศราชการ ตามมาตราการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน
https://www.facebook.com/BTSSkyTrain/posts/4759088207470090
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44648
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/01/2022 4:51 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าบีทีเอส-สายสีทอง-บีอาร์ที ขึ้นฟรีวันเด็กแห่งชาติ
เผยแพร่: 4 ม.ค. 2565 16:27 ปรับปรุง: 4 ม.ค. 2565 16:27 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า วันเสาร์ที่ 2 เดือนมกราคมของทุกปี กำหนดให้เป็นวันเด็กแห่งชาติ โดยปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 บริษัทฯ เปิดโอกาสให้เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร หรืออายุไม่เกิน 14 ปี ที่เดินทางมากับผู้ปกครอง และขึ้น – ลงสถานีเดียวกัน เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสฟรีตลอดสาย ทั้งในส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท และสายสีลม รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีทอง และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที ตั้งแต่เวลา 06.00 -24.00 น.

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 02 -617- 6000 Line official : @btsskytrain หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่ Application ‘BTS SkyTrain’ และ Facebook Page : รถไฟฟ้าบีทีเอส
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44648
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/01/2022 7:14 am    Post subject: Reply with quote

ทวงหนี้3.7หมื่นล.
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, January 05, 2022 05:20
บีทีเอสฟ้องกทม.จ่ายค่าเดินรถ-วางระบบ

4ปีหนี้พุ่ง5,000ล้าน

รถไฟฟ้าสายสีเขียวอลเวง กทม.อ่วม หนี้พุ่ง บีทีเอสฟ้องศาลปกครอง ทวงหนี้ 3.7 หมื่นล้าน 2 คดีรวด ย้ำปี 2565 เตรียมเอกสาร ฟ้องต่อเนื่อง ค่าซื้อระบบเดินรถอีก 2 หมื่นล้าน หลังฟ้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ 1.2 หมื่นล้าน พ่วง 4 ปี หนี้งอกอีก 5 พันล้าน ขณะ "อัศวิน" ผู้ว่ากทม. ยันเป็นสิทธิ์เอกชน-พร้อมแนะทางออกรัฐบาล

ปมขยายสัมปทานสายสีเขียวทั้งระบบ ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี แลกหนี้ 100,700 ล้านบาท ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของกระทรวงมหาดไทย อาจกลายเป็นเส้นขนาน เพราะกระทรวงคมนาคม และสภาองค์กรของผู้บริโภคจับมือคัดค้าน ไม่เห็นด้วย กับข้ออ้างที่ว่า อาจเป็นการเอื้อให้กับภาคเอกชนทั้งที่อายุสัมปทานยังเหลืออีกมาก ครั้นเมื่อ กทม. จะเรียกเก็บค่าโดยสาร ตลอดสาย 65 บาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับบีทีเอสซี กลับถูกคัดค้านว่าเป็นราคาที่สูงเกินจริงเมื่อเทียบกับMRTสายสีน้ำเงิน

บีทีเอสแบกหนี้ไม่ไหว

ท่ามกลางสงครามทางการเมืองที่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน ได้สร้างความเดือดอย่างหนักให้กับ เอกชนผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างบีทีเอส ต้องแบกภาระหนี้แทน กทม. ที่เกิดจากค่าจ้างเดินรถ ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน และค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) รวมดอกเบี้ยที่พอกพูนกว่า 3.7 หมื่นล้านบาท จนถึงขั้น บีทีเอสซี ประกาศหยุดเดินรถ และในที่สุด นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของประเทศไทย ได้ออกมาประกาศยืนยันจะให้บริการเดินรถต่อไป พร้อมกับหาทางทวงหนี้ กทม. ในทุกช่องทางจนในที่สุดได้ ยืนฟ้องศาลปกครองในที่สุด

ฟ้องทวงหนี้3.7หมื่นล้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน สิงหาคม 2564 บีทีเอสซีได้ยื่นฟ้อง กทม.ต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถพร้อมดอกเบี้ย วงเงิน 12,000 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ผ่อนปรน กทม. เป็นระยะเวลา 2 เดือนเพื่อหาเอกสารหลักฐานนำมาชี้แจงต่อศาล นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด เบื้องต้นอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร เนื่อง จากมีรายการค่อนข้างเยอะ เช่น ค่างาน VO รวมทั้งสัญญาที่ต้องดำเนินการ หลังจากที่ผ่านมาบริษัทฯได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ 12,000 ล้านบาท คาดว่าจะฟ้องร้องเพิ่มเติมต่อศาลปกครองได้เร็วๆ นี้

"กรณีที่บริษัทฟ้องร้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ จำนวน 12,000 ล้านบาท กับกทม.และบ.กรุงเทพธนาคมนั้น เบื้องต้นศาลปกครองกำหนดให้ กทม. และ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ทำคำชี้แจงต่อศาลปกครองเพื่อนำข้อมูลมาประกอบ ซึ่งได้รับรายงานว่าทางกทม.บ.กรุงเทพธนาคม ขอเลื่อนการทำคำชี้แจงดังกล่าวออกไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขอเลื่อนเวลาทำคำชี้แจงไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ทราบว่าศาลปกครองฯให้เลื่อนนัดหรือไม่ ซึ่งปัจจุบัน กทม. ยังไม่มีการนัดเจรจากับบริษัทแต่อย่างใด ส่วนค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับกทม.เป็นผู้พิจารณา"
4 ปีหนี้พุ่ง 5,000 ล้าน

สำหรับภาระหนี้สะสมที่ภาครัฐมีต่อบีทีเอสตั้งแต่เดือนเมษายน 2560-ปัจจุบัน มีหนี้ค่าจ้างเดินรถ

และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) เพิ่มขึ้นจำนวน 5,000 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังคงให้บริการเดินรถฟรีแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมหนี้สะสม จำนวน 37,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลหนี้อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ค่าจ้างเดินรถ จำนวน 12,000 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) จำนวน 20,000 ล้านบาท

"อัศวิน" ยึดขั้นตอนศาล

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีบีทีเอสซี ฟ้องร้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ต่อศาลปกครองนั้น ทาง กทม. ต้องดำเนินการทำคำชี้แจงตามที่ศาลปกครองให้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันทางศาลปกครองยังไม่ได้เรียกให้ทำคำชี้แจง เบื้องต้นทางกทม. ได้ทำหนังสือถึงภาครัฐเพื่อหาแนวทางแก้ไขภาระหนี้สินที่มีต่อบีทีเอส และของบประมาณมาชำระหนี้กว่า 30,000 ล้านบาท ให้กับบีทีเอสที่ฟ้องร้อง จำนวน 2 ครั้งแล้ว

"เรามองว่าเป็นเรื่องปกติที่บีทีเอสจะฟ้องร้องเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา ที่ผ่านมาเราก็ไม่มีงบประมาณมาชำระหนี้ให้กับเขาเช่นกัน ส่วนการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ปัจจุบัน กทม. อยู่ระหว่างการจัดทำตารางเปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดว่าจะได้ข้อสรุปการจัดเก็บค่าโดยสารภายในเดือนมกราคมนี้ หลังจากได้ข้อสรุปดังกล่าวแล้ว เราจะเร่งดำเนินการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารกับประชาชนที่ใช้บริการต่อไป"

กทม.เสนอทางออก

ด้านทางออก กทม. ได้เสนอ ต่อรัฐบาลดังนี้ 1.โอนคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปบริหารตามเดิม 2.ภาครัฐให้งบประมาณ กว่า 30,000 ล้านบาท แก่กทม.เพื่อชำระหนี้ให้บีทีเอส 3.ต่ออายุสัญญาสัมปทานสายสีเขียวให้กับบีทีเอส 30 ปี จนถึงปี 2602

นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคข้อทักท้วง 4 ประเด็นของกระทรวงคมนาคม
1.ความครบถ้วนตามหลักการของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562
2.การคิดคำนวณอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการต่ำกว่า 65 บาท
3. การใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาให้เกิดความชัดเจนถึงการใช้สินทรัพย์ว่ารัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานอย่างไรจนกว่าจะครบอายุสัญญา
4. ข้อพิพาททางกฎหมาย เนื่องจาก กทม. ได้ทำสัญญาจ้างเอกชนปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นจึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน

ขยายสัมปทานอลเวง

แหล่งข่าววงการก่อสร้าง เปิดเผยว่า กรณีการแก้ปัญหาหนี้ท่วมของกทม.ที่ค้างจ่ายค่าจ้างเดินรถสายสีเขียวและค่าก่อสร้างระบบ รวมมูลหนี้กว่า 120,000 ล้านบาท ที่ยังคงหาข้อยุติไม่ได้ จนถูกบริษัทเอกชนคู่สัญญา ฟ้องแม้กระทรวงมหาดไทยจะตั้งคณะกรรมการเจรจาปัญหาหนี้ดังกล่าวตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 ลงวันที่ 11 เม.ย.2562 จนได้ข้อยุติ ที่จะให้ต่อขยายสัมปทาน 30 ปี ให้บีทีเอส แต่การเสนอเข้าครม.แต่ละครั้งได้ถูกกระทรวงคมนาคมคัดค้าน.

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 6 - 8 ม.ค. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/01/2022 8:55 pm    Post subject: เริ่มต้นก็สร้างศัตรูแล้ว Reply with quote

วิโรจน์ พรรคก้าวไกล ชิงผู้ว่ากทม. ประกาศรื้อสัญญารถไฟฟ้า เปิดโปงส่วยใต้ดิน
การเมือง
วันอาทิตย์ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 19:33 น.

'วิโรจน์'โชว์วิสัยทัศน์ ลั่น!หมดเวลาผู้ว่าฯยอมจำนน ปล่อย ปชช.รับกรรม
วันอาทิตย์ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.36 น.

อดิศรประกาศลงสมัครผู้ว่ากทม.ในนามพรรคก้าวไกล

ก้าวไกล เข็น วิโรจน์ ชิงผู้ว่า กทม.ประกาศชนทุกปัญหา ทั้งนายทุน ตำรวจ ถึงรัฐมนตรี แก้ปัญหารถไฟฟ้าแพง เปิดโปงสัญญาสายสีเขียว หมดเวลากระสอบทรายรายปี ให้ทุกคนขึ้นรถไฟฟ้าได้

วันที่ 23 มกราคม 2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ รามคำแหง 42 พรรคก้าวไกล จัดงานเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของพรรค ทั้งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้ว่า กทม.ที่เชื่อได้สนิทใจ คือผู้ว่าที่ไม่คลอนแคลนไปไหนเมื่อเจอปัญหา พร้อมประสานงานกับทุกภาคส่วน ถ้าประสานงานไม่ได้ เขาก็พร้อมชนเพื่อประชาชน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ใช้เวลา 1 ปีเต็มในการพูดคุยกับคนที่มีศักยภาพ มีชื่อเสียง หาคนที่มาเป็นผู้ว่า กทม.ของพรรคก้าวไกล แต่ในที่สุดแล้วเมื่อได้คุยกับคนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ไม่มีคนไหนมีดีเอ็นเอก้าวไกลชัดที่สุด เอาผลประโยชน์ของคนกรุงเทพเป็นที่ตั้ง วันนี้ตัดสินใจครั้งสำคัญ เอาเสาหลักในสภามาปักลงกลาง กทม.ทำงานเพื่อประชาชน คือนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตนจะเสียดายมากกว่าถ้าไม่เอาเพื่อนคนนี้มาเป็นผู้สมัคร ผู้ว่า กทม.

ปราบส่วย
จากนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนต้องพูดถึงประโยคหนึ่ง ที่บอกว่าหมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพ มีการถามว่าทำไมเรื่องส่วยใน กทม. จะให้ประสานอย่างไร ตนบอกว่าต้องชนและกำจัดอย่างเดียว ทุกคนรู้ดีว่าส่วยใน กทม. มีอยู่จริง ทุกคนรู้ดีว่าเป็นปรสิต กัดกินบ่อน ทำลายอนาคต กทม. และทุกคนรู้แก่ใจว่ากำจัดส่วยไปได้ หลายมิติจะดีขึ้นเอง ผู้ประกอบการเล็ก ๆ ถูกกัดกิน ผู้ประกอบการอสังหารู้ดี ใบประกอบ 48 รายการ ต้องจ่ายหลักหมื่น หลักแสน ไม่ใช่น้อย ๆ

ส่วยใต้ดินมีขั้นต่ำสุด 5 พันล้าน สูงสุด 1.5 หมื่นล้าน งบ กทม.ปีหนึ่ง 1 แสนล้าน ส่วยของ กทม.จึงมีมากถึง 15% ทุกวันนี้ การใช้ชีวิต กทม.ค่าครองชีพก็แพงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าคุ้มครองชีพให้กับผู้ใดอีก นี่คือเรื่องที่เราต้องชน และไม่ต้องห่วง ว่าตนจะทำงานกับข้ารชาการไม่ได้ เพราะข้าราชการที่ดีมีมากกว่า 90% เขาต้องการทำงานกับผู้ว่า ตรงไปตรงมา

“ผู้ว่า กทม.ต้องกล้าประกาศให้ชัดว่าต้องไม่มีการรีดไถใน กทม.อีกต่อไป กรุงเทพต้องหยุดไถทันที และถ้าใครมีหลักฐานให้ส่งมา ผมจะลากคอมันมาลงโทษให้ดู”

พร้อมชน สธ.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องที่ 2 ระบบราชการส่วนกลาง และระบบที่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เช่น โควิด-19 ทำให้รู้ว่า กทม.ไม่ได้ขาดแคลนหมอที่เก่ง ไม่ได้ขาดแคลนโรงเรียนแพทย์ แต่ขาดแคลนระบบที่ดี ทุกคนจำโครงการจองคิวฉีดวัคซีนของ กทม.ได้หรือไม่ ไทยร่วมใจ เป็นโครงการที่ดี มีการประสานกับร้านสะดวกซื้อ สุดท้ายวัคซีนไม่มาตามแผน คน กทม.เสียโอกาสในการปกป้องชีวิตตนเอง คนที่เรารัก ผู้ว่า กทม. ยอมรับได้หรือ ถ้าผู้ว่ายอมรับได้ทำให้คน กทม.ลำบากตามยถากรรม เสียชีวิตอย่างไม่ควรจะตาย ผู้ว่า กทม.ยอมรับระบบส่วนกลางที่เละตุ้มเป๊ะอย่างนั้นหรือ

ถ้าผู้ว่าชื่อวิโรจน์ ผู้ว่าคนนี้ต้องพร้อมชนกับ รมว.สาธารณสุข จะเรียกว่าพร้อมชนไม่ถูก เพราะผมชนมาแล้ว ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ไม่ได้ชนส่วนตัว แต่ปกป้องชีวิตของประชาชน นี่คือพื้นฐานที่สุดของการเป็นผู้ว่า กทม. ถ้าปกป้องชีวิตคนกรุงเทพไม่ได้จะเป็นผู้ว่าทำไม

แก้ปัญหาน้ำท่วม
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทางเท้า ตนเห็นหลายคนพูดเรื่องการออกแบบ การก่อสร้างให้คงทนถาวร แท้ที่จริงคน กทม. เจอปัญหากับนักขุดที่มาจากหลายหน่วยงาน ถ้าแก้ปัญหานักขุดไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกขุดจนเละตุ้มเปะเหมือนเดิม เช่น ขุดท่อประปา เอาสายไฟลงดิน ทำนู่น ทำนี่

การขุดเพื่อสาธารณูปโภคเพื่อคน กทม.ทำได้ แต่ต้องคืนในสภาพที่ดี ถ้าทำไม่ได้ผู้ว่า ต้องกล้าปรับ ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้ว่ารับสภาพได้ เท่ากับบอกว่าคน กทม.อยู่ร่วมกับมันให้ได้ ซึ่งไม่ใช่ตน สายไฟระโยงรยางค์ก็เหมือนกัน ต้องจัดเก็บให้ดี ถ้าทำไม่ได้ต้องปรับ


น้ำท่วมของชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีปัญหามาจากน้ำทะเลหนุนสูง น้ำท่วม ท่วมที่เดิมทุกปี กทม.ก็ขยันเอากระสอบทรายมาเรียงให้ทุกปี คำถาม อำนาจไม่ได้อยู่ที่กทม. แต่อำนาจอยู่ที่กรมเจ้าท่า แต่ผู้ว่า ไม่พร้อมคุยกับหน่วยงานอื่นหรือ พอกันทีกับการแก้ปัญหากระสอบทรายรายปีแบบนี้

ลุยอาชญากรรม-อุบัติเหตุ
ปัญหาอาชญากรรม ต้องคุยกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล การอยู่ใน กทม.ทุกวันนี้ อยู่ในคอนโดยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยเลย รวม ๆ แล้วทุก ๆ หนึ่งชั่วโมง กทม.เมืองฟ้าอมร จะมีคดีอาญาเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 คดี สะพานลอยเป็นจุดเสี่ยงของการก่ออาชญากรรม ป้ายรถเมล์ ที่มักไปส่งเพื่อน ป้ายรถเมล์ก็เป็นจุดเสี่ยง ไม่ใช่เรื่องปกติที่เราจะคอยบอกเพื่อนว่า ถ้าถึงบ้านแล้วให้ไลน์มาบอกด้วย

อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนน ปีหนึ่งเกิด 800 คดี ที่น่าหดหู่ใจที่สุดมีคนถูกรถชนบนทางม้าลายจนเสียชีวิต สิ่งที่ผู้ว่า กทม. ทำได้ทันที ปรับปรุงทางข้าม 4 พันแห่งทั่ว กทม. ติดสัญญาณไฟคนข้าม ติดกล้อง CCTV ติดกล้องจับความเร็ว และไปคุยกับกองบังคับการตำรวจจราจร คนขับรถต้องให้สิทธิคนข้ามทางม้าลายก่อน คนขับรถมีหน้าที่ชะลอ จะบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ไม่ได้ ปล่อยคนตายบนทางม้าลายใน กทม.ไม่ได้

ถ้าบอกว่าไม่ใช่อำนาจ แล้วไม่ทำอะไร นี่ไม่ใช่ผู้ว่า กทม.ของพรรคก้าวไกล ถ้าประสานแล้วไม่คืบหน้า เราต้องตาม ตามไม่ได้ก็ต้องจี้ ถ้าทำไม่ดี ก็ต้องตามให้เขากลับมาทำใหม่ ทุกครั้งที่ผู้ว่ายอม เท่ากับลอยแพคนกรุงเทพ ผู้ว่า วิโรจน์ไม่ได้ทำแบบนั้น


ชนกับนายทุน
เรื่องที่สาม คือชนกับนายทุน ผู้ว่า กทม.ต้องพร้อมเป็นกันชนเพื่อปกป้องผลประโยชน์คนกรุงเทพ ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกสูบเลือด สูบเนื้อจากนายทุน เช่น ค่ารถไฟฟ้าแพง ทุกคนรู้ดีว่าแพงกว่าสิงคโปร์ ฮ่องกง เพราะอยากได้การเดินทางที่ดี ทุกคนก็รู้ว่าที่แพงเพราะเกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานมากกว่า 10 ฉบับ และรถไฟฟ้าที่อยู่ในมือของผู้ว่า มีเพียงเส้นเดียวคือสายสีเขียว และต้องว่าจ้างเดินรถ เป็นหนี้ 3.7 หมื่นล้าน

แล้วคน กทม.ขึ้นรถไฟฟ้าได้อย่างเท่าเทียมกันก็ว่าไปอย่าง แต่คน กทม.ขึ้นรถไฟฟ้าทุกคนไม่ได้ มีประโยชน์อะไร ที่ กทม.จะติดอันดับโลกว่ามีระบบรางยาวเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ตาสีตาสาขึ้นไม่ได้ คนกรุงเทพ ไม่ต้องการผู้ว่า ที่สร้างรถไฟฟ้า แต่ต้องการผู้ว่า ที่ทำให้ทุกคนขึ้นรถไฟฟ้าได้ต่างหาก

รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเป็นสัญญาลึกลับดำมืดที่ไม่มีใครรู้ แต่ผู้ว่าวิโรจน์เปิดเผยทันที ตราบใดที่สัญญาไม่ถูกเปิด ไปเจรจาอะไรกันไว้ ปัญหาเหล่านี้แก้ไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ผู้ว่า ต้องกล้าทำ หลังจากนั้น ผู้ว่า ต้องพร้อมเป็นหัวหอกในการผลักดันให้เกิดตั๋วร่วม จะสำเร็จหรือเปล่า เจอตอ ติดอะไรที่ไหน ไม่รู้ แต่ต้องไม่ติดที่ผู้ว่า ใส่เกียร์ว่าง มองไม่เห็นปัญหาเพราะนายทุนเอาเงินมาปิดปาก



แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยแพง
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่พักอาศัย ต้องตั้งคำถามว่า คน กทม.ทุกวันนี้ มีมากน้อยแค่ไหนที่ผ่อนบ้าน คอนโด ใน กทม.ได้ เรากำลังถูกราคาที่พักอาศัยแพงลิบลิ่วไล่ ออกจาก กทม.โดยไม่รู้ตัว แล้วจะมีนายทุนไปกว้านซื้อที่ดินใจกลาง กทม.มาทำห้าง ทำคอนโดขายให้คนต่างชาติ ถ้าผู้ว่าชื่อวิโรจน์กลไกผังเมืองทั้งหมดจะถูกใช้ เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยในราคาที่คน กทม.จ่ายไหว ควบคู่กับการพัฒนาเมืองด้วย

ผู้ว่าต้องส่งข้อจำกัดนั้นให้อำนาจนิติบัญญัติ เพิ่มอำนาจให้ผู้ว่า ให้ดูแลคุณภาพชีวิตคน กทม.ได้ดีกว่านี้ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ ผู้ว่า กทม.ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมี ส.ส.ที่กล้าหาญอย่างพรรคก้าวไกลในสภา ทำงานสอดประสานกัน ทำงานเป็นทีม นี่คือ 3 สิ่งที่ต้องชน


นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการศึกษา ในประเทศมีโรงเรียนนานาชาติถึง 118 แห่ง ครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ แต่ถ้าไม่มีเงินก็ต้องกัดฟันจ่าย อย่างน้อยต้องเรียนโรงเรียนเอกชน หรือไปโรงเรียนที่ไกล ๆ เรื่องนี้เลี่ยงไม่ได้ แต่ผลจากการประเมินนานาชาติ โรงเรียน กทม.ทักษะการอ่านต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อแม่จึงจำเป็นต้องจ่าย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 27/01/2022 4:35 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าดันราคาที่ดินเปล่าพุ่ง แนวเส้นทางBTSสายสุขุมวิทนำโด่ง
วันพุธ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 06.00 น.



ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 339.0 จุด เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)แสดงให้เห็นว่าราคายังเพิ่มต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเป็นไตรมาสที่ 6 แล้ว นับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2563


หากดูค่าเฉลี่ยอัตราขยายตัวย้อนหลังไป 5 ปี( 2558- 2562) ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ดัชนีราคาที่ดินเปล่าแต่ละไตรมาสเพิ่มขึ้นประมาณ 14.8 %เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้นประมาณ 4.1 %เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แสดงว่าแม้ราคาที่ดินเปล่าฯ จะเพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงน่าจะเป็นผลจากปัจจัยสำคัญหนึ่งคือ ความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่ใกล้จะแล้วเสร็จในปี 2565



นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธอส.และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มีข้อสังเกตว่าถึงแม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ราคาที่ดินเปล่าฯ ก็ยังเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลจากปัจจัยสำคัญหนึ่งคือ ความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่

สังเกตได้ว่าในไตรมาส 4 ปี 2564 ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกที่ราคาสูงขึ้นเพราะรถไฟฟ้าหลายสายก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) คืบหน้า 89.5% รถไฟฟ้าสายสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)คืบหน้า 88.7% รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) คืบหน้า 82.0% จะเปิดให้บริการกลางปี 2565 แบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงที่ 1 สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ-สถานีมีนบุรี ช่วงที่ 2 สถานีชลประทาน-สถานีแจ้งวัฒนะ 14 – สถานีนพรัตนราชธานี และช่วงที่ 3 สถานีแคราย-สถานีศูนย์ราชการ จ.นนทบุรี อีกหนึ่งปัจจัยเป็นเพราะอุปทานที่ดินที่มีศักยภาพสำหรับการพัฒนามีจำกัด

ราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในทำเลที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านในไตรมาสนี้ พบว่า 5 อันดับแรกที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด คืออันดับ 1 ได้แก่ BTS สายสุขุมวิท มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 15.0% พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตจตุจักร บางนา พญาไท และพระโขนง เป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก หากเปรียบเทียบย้อนหลัง10 ปี พบว่า ราคาที่ดินในบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เพิ่มขึ้น 305.8% หรือเฉลี่ยปีละ 30.6%



อันดับ 2 ได้แก่ สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี)มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 14.6% พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตบางกะปิ มีนบุรี และสะพานสูง เป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก หากเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ราคาที่ดินในบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เพิ่มถึง 325.6% หรือเฉลี่ยปีละ 32.6%

อันดับ 3 ได้แก่ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 12.7% พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตบางพลี ประเวศ และเมืองสมุทรปราการ เป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก หากเปรียบเทียบย้อนหลังมาประมาณ 10 ปี พบว่า ราคาที่ดินในบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เพิ่มขึ้น 273.7% หรือเฉลี่ยปีละ 27.4%

อันดับ 4 ได้แก่ Airport Link มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.8 % พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตดินแดง วังทองหลาง สวนหลวง และห้วยขวาง เป็นบริเวณที่ราคาเพิ่มขึ้นมาก หากเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ราคาที่ดินในบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 290.2% หรือเฉลี่ยปีละ 29.0%

อันดับ 5 ได้แก่ MRT ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว และ สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) เป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต ทั้ง 2 โครงการ มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.7% พบว่า ราคาที่ดินที่รถไฟฟ้าผ่านในเขตบางซื่อเพิ่มต่อเนื่อง หากเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ราคาที่ดินบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้า MRT เพิ่มถึง 343.9 %หรือเฉลี่ยปีละ34.4 %ส่วน สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) หากเปรียบเทียบย้อนหลัง 10 ปี พบว่า ราคาที่ดินในบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้เพิ่มถึง 337.0% หรือเฉลี่ยปีละ 33.7 %
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 09/02/2022 4:54 pm    Post subject: Reply with quote

เฟซบุ๊ก สภาองค์กรของผู้บริโภค โพสต์คัดค้านการคิดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว 65 บาทตลอดสาย ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยระบุว่า
จับตา มหาดไทยชง ครม. ลักไก่ ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ตอกย้ำความลำบาก ซ้ำเติมความทุกข์ประชาชน
สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้รับข้อมูลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะมีการเสนอ ครม. ครั้งที่ 9 พิจารณาให้ความเห็นชอบต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี และยืนยันอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ 65 บาทตลอดสายนั้น
ค้านค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีเขียว 65 บาท แพงไป
สอบ. ย้ำความเห็นว่า ราคาดังกล่าวเป็นราคาที่สูงเกินไป ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงบริการรถไฟฟ้าสาธารณะในชีวิตประจำวันได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลต้องคำนึงถึงภาระค่าครองชีพ และภาระหนี้สินของประชาชนที่อาจเกิดขึ้นจากการแบกรับค่าโดยสารสูงสุดที่ 65 บาท
ประเด็นสำคัญคือ จนถึงปัจจุบัน กทม. ก็ยังไม่สามารถชี้แจงการคิดคำนวณหรือสะท้อนข้อเท็จจริงต้นทุนของราคาดังกล่าวว่ามาจากหลักการใด ซึ่งหากราคานี้ถูกพิจารณาผ่านและถูกนำมาใช้ จะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคจะต้องผูกมัดจ่ายค่าโดยสารในราคานี้ไปอีก 38 ปี จนกว่าจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2602
ในขณะที่ข้อเสนอของ กระทรวงคมนาคม ให้ใช้ราคาค่ารถไฟฟ้า 49.83 บาท ซึ่งจะทำให้มีกำไรส่งรัฐในปี 2602 ถึง 380,200 ล้านบาท
ดังนั้น สอบ.จึงขอคัดค้าน ครม.ที่จะต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้าดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้างวิกฤตใหม่ซ้ำเติมประชาชน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปอีกอย่างน้อย 30 ปี (ปี 2573 – 2602)
พร้อมทั้งเสนอให้ ครม.ลดปัญหาค่าครองชีพและลดค่าบริการขนส่งมวลชนของประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาระบบรถไฟฟ้า คงอัตราค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวไว้ที่ 44 บาทตลอดสายไปจนสิ้นสุดสัมปทานในปี 2572
โดยให้จัดเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาท และหลังสิ้นสุดสัมปทานแล้วให้รัฐบาลเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 25 บาทตลอดสาย https://www.thebangkokinsight.com/news/business/802342/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 11/02/2022 2:29 pm    Post subject: Reply with quote

ไม่พูดเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว
ย้อนกลับไปสมัยผู้ว่าจำลองทศวรรษ253x
กทม.แก้ปัญหาจราจร.ด้วยการสร้างสะพานลอยข้ามแยก
ตามอำนาจกทม.เท่าที่จะทำได้
แต่โซลูชั่นของปัญหารถติดคือขนส่งมวลชนขนาดใหญ่
กทม.คิดการใหญ่ทำรถไฟฟ้าเอง ไม่รอรัฐบาลล่ะ
เพ-ลานั้น รัฐบาลกลางอ่อนแอมาก
ลาวาลินล้มไปแล้ว โฮปเวลล์คือความฝันล้มๆแล้งๆ
คุณจำลองให้คุณคีรีแห่งธนายงทำรถไฟฟ้า
สายสีลม สนามกีฬา-สะพานตากสิน และสายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช
กทม.หาที่ทางให้ ไม่ต้องใช้เงินหลวงสักบาท
ธนายงออกเงินสร้าง
ซึ่งคือBTSในปัจจุบัน
เริ่มวิ่ง พ.ศ.2542 สัญญาสัมปทาน30ปี
แปลว่า พ.ศ.2572 หรืออีก7ปีข้างหน้า
รถไฟฟ้าสายหัวใจของคนกรุงเทพ
สายสีลม สนามกีฬา-สะพานตากสิน และสายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช
จะกลับมาเป็นของกทม.....
..................................................................................
ต่อมา กทม.สร้างส่วนขยายเอง
จากสะพานตากสินถึงบางหว้า และ อ่อนนุชถึงแบริ่ง
ส่วนขยายมีกทม.เป็นเจ้าของ แต่จ้าง BTSเดินรถ
ช่วงแรกเป็นปีต่อปี
ต่อมา เป็นสัญญาเดินรถ 30ปี พ.ศ.2555-2585
เพื่อให้BTSวางแผนระยะยาวได้ ........
.....................................................................................
ต่อมาๆ
รฟม.ตัวละครใหม่มาแล้ว
รฟม. ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายแบริ่ง-สมุทรปราการ และ หมอชิต-คูคต
ที่เป็นรฟม.เพราะเริ่มออกนอกเขตกทม.
เรื่องใหม่ ใหญ่กว่ามาแล้ว
เพื่อให้การเดินทางไร้รอยต่อ
ครม.ปีไหน จำไม่ได้ แต่ยุคลุงตู่นี้แหละ
ให้รฟม.โอนรถไฟฟ้าสายแบริ่ง-สมุทรปราการ และ หมอชิต-คูคต
ทั้งทรัพย์สินและหนี้สินให้กทม.
ทรัพย์สินคือรถไฟฟ้าสายแบริ่ง-สมุทรปราการ และ หมอชิต-คูคต
ส่วนหนี้สินของกทม.รับมาประมาณ6.9หมื่นล้าน..........
..............................................................................
พ.ศ.2561เปิดใช้งานสายแบริ่ง-สมุทรปราการ
และ พ.ศ.2563 หมอชิต-คูคต
ปชช.ใช้ฟรีถึงวันนี้
แต่ของฟรีไม่มีในโลก
ความจริงคือ หนี้อีกก้อนหนึ่งของกทม.ประมาณ9,000ล้าน
โดยมีเจ้าหนี้คือ BTS ผู้เดินรถ.............................
.........................................................
สรุปหนี้กทม. ประมาณ 1แสนล้าน
1.หนี้งานโยธาและดอกเบี้ยถึงปี 2572 ที่กทม.ต้องรับมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เป็นเงินต้น 55,704 ล้านบาท ดอกเบี้ย 13,401 ล้านบาท รวม 69,105 ล้านบาท
2.หนี้ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล 20,248 ล้านบาท ที่กทม.ต้องจ่ายให้บีทีเอส และมีกำหนดจ่ายภายในเดือนมีนาคม 2564 นี้
3.หนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 9,377 ล้านบาท โดยเป็นค่าจ้างเดินรถเฉลี่ยประมาณเดือนละ 600 ล้านบาท..........
........................................................................
BTS เสนอ รับหนี้กทม.1แสนล้าน
แลกกับขยายสัมปทาน ทั้งหมด ไปจบปี 2602
แถมใจดีคิดค่ารถทั้งสายไม่เกิน 65บาทในระยะแรก
และส่วนแบ่งจาการเดินรถจำรายละเอียดไม่ได้
เหมือนจะดี
แต่หัวใจของเรื่องนี้อยู่ที่ พ.ศ.2572
รถไฟฟ้าสายศูนย์กลางอันเป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนกรุงเทพ
สายสีลม สนามกีฬา-สะพานตากสิน และสายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช
กำลังกลับมาเป็นของกทม ในอีก8ปีข้างหน้า
จะถูกขยายสัมปทานไปถึงพ.ศ.2602 ด้วย
หาก BTSได้ บางหว้า-คูคต-สมทรปราการ
เมื่อรวมกับสายสีเหลือง สีชมพู ทีฺ่BTSได้ไปแล้ว
และกำลังชิงส้มตะวันตกและม่วงใต้ในอนาคต
BTS จะผูกขาดรถไฟฟ้ากรุงเทพและปริมณฑล ทิ้งอันดับ2ไกลสุดกู่
แอดโพสไว้เมื่อ1ปีที่แล้วครับ
ตัวเลขของมกราคม พ.ศ.2564
ยังไม่ได้ไปไหน
เมื่อวานเข้าครม.อีกรอบ
สรุป
1.ต่อสัมปทาน สายสีเขียวทั้งระบบ
สายสีลม สนามกีฬา-สะพานตากสิน
สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุช
ส่วนต่อขยาย อ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ
ส่วนต่อขยาย สะพานตากสิน-บางหว้า
ส่วนต่อขยาย หมอชิด-คูคต
ให้BTSถึงปี พ.ศ.2602 แลกกับหนี้1แสนล้าน
2. รัฐบาลจ่ายหนี้1แสนล้าน แทนกทม.
รัฐบาลจะเอาข้อ1
แต่พรรคภูมิใจไทยแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วย ลาประชุมครม.ยกพรรค
โปรดติดตามตอนต่อไป
ผิดพลาด ขออภัย
แอดปวดคอ ปวดหลังมาก กินยาก่อนนะ
ภาพประกอบ
สถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน จุดเริ่มต้นแรกของส่วนขยายสายสีเขียว
https://www.facebook.com/Bangkokpulse/posts/507609430722720
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 05/03/2022 1:04 am    Post subject: Reply with quote



23 กุมภาพันธ์ 2543 ครบรอบสมเด็จพระเทพเสด็จ มายังสถานีสยามเพื่อทำพิธีเปิดรถไฟฟ้าบีทีเอส
สายแรกของประเทศไทย
https://www.youtube.com/watch?v=WqjG-SH_QZ4
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44648
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/03/2022 7:26 am    Post subject: Reply with quote

BTSเล็งลงทุนรถไฟฟ้ามาเลเซีย ลุยศึกษาโครงการคาดได้ข้อสรุปใน 4 เดือน
Source - ข่าวหุ้น
Thursday, March 24, 2022 05:45

BTS ผนึก 4 พันธมิตรศึกษาลงทุนรถไฟฟ้ารางเบามาเลเซีย หลังทำความรู้จักผ่าน VGI ประเมินเบื้องต้นเป็นสายทางที่ผู้โดยสารหนาแน่น เพราะเชื่อมจากชายแดนเข้าสู่กลางเมือง มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำหมื่นล้านบาท คาดอีก 3-4 เดือนจากนี้ได้ข้อสรุป

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยกับ “ข่าวหู้นธุรกิจ” ถึงกรณีที่ BTS ได้เข้าทำข้อตกลงเบื้องต้น (Heads of Agreement) ร่วมกับพันธมิตจากประเทศมาเลเซีย 4 ราย คือ Sinar Bina Infra Sdn Bhd, Ancom Berhad, Nylex (Malaysia) Berhad และ LBS Bina Group Berhad เพื่อศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการร่วมลงทุนโครงการระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transport System) ที่จะเชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟใต้ดิน (RTS Link) ข้ามพรมแดนจากประเทศสิงคโปร์มายังเมือง Johor Bahru ประเทศมาเลเซียว่า BTS เห็นว่าโครงการดังกล่าวมีความน่าสนใจและน่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากแน่นอน

ทั้งนี้เนื่องจาก RTS Link เป็นรถไฟลอดใต้ทะเลที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในแผนแม่บทด้านการขนส่งของมาเลเซียและขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 ปี จะแล้วเสร็จ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนถนน แต่ RTS Link จะเดินทางมาได้แค่ชายแดนของมาเลเซีย ไม่สามารถวิ่งต่อเข้ากลางเมืองได้ เพราะต้องมีกระบวนการในเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองต่าง ๆ ทางรัฐบาลมาเลเซียจึงมีแผนสร้างรถไฟฟ้ารางเบาดังกล่าวพร้อมการพัฒนาพื้นที่ตามแนวสายทาง (TOD) ที่เมือง Johor Bahru ดังนั้นจึงมั่นใจในด้านปริมาณผู้โดยสารและความต้องการเดินทาง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า พันธมิตรทั้ง 4 รายของ BTS เป็นเอกชนมาเลเซีย ซึ่งรู้จักผ่านบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ที่มีการลงทุนในประเทศมาเลเซียอยู่ก่อนแล้ว โดยพันธมิตรทั้งหมดสนใจที่จะลงทุนในโครงการดังกล่าว และเห็นว่า BTS มีประสบการณ์ด้านรถไฟฟ้าในประเทศไทยมายาวนานกว่า 20 ปี ทั้งการวางระบบ เดินรถ และก่อสร้าง จึงชักชวน BTS ไปร่วมทำการศึกษา ซึ่งขณะนี้การศึกษาโครงการมีความก้าวหน้าไปพอสมควรแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายจึงตัดสินใจที่จะทำข้อตกลงเบื้องต้น เพื่อให้การร่วมมือมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม BTS ยังไม่สามารถระบุมูลค่าโครงการ และสัดส่วนการลงทุนร่วมกับพันธมิตรทั้ง 4 รายได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด และยังมิได้มีการหารือเรื่องสัดส่วนการลงทุนที่ชัดเจน แต่เบื้องต้น BTS ให้ความสนใจลงทุนรถไฟฟ้ารางเบา ขณะที่พันธมิตรจะลงทุนด้าน TOD ซึ่งเฉพาะโครงการรถไฟฟ้ารางเบานั้นจะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านแน่นอน และหากได้รับงานก็จะต้องเสนอให้รัฐบาลมาเลเซียช่วยอุดหนุนด้วย โดยการศึกษาจะได้ข้อสรุปในอีก 3-4 เดือนจากนี้ และจะแจ้งความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต่อไป

ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 24 มี.ค. 2565
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2022 1:31 pm    Post subject: Reply with quote

บีทีเอสชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอาทิตย์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12:42 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12:42 น.

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ร่วมกิจกรรมรณรงค์ “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อร่วมรณรงค์ลดการใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยการปิดไฟ และลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสได้ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ทุกคนทั้งพนักงานในองค์กร และผู้โดยสารรถไฟฟ้าหันมาประหยัดพลังงานลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นเพื่อช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ณ บริเวณสกายวอล์ก ช่องนนทรี
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 133, 134, 135 ... 155, 156, 157  Next
Page 134 of 157

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©