ข.37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลกชนรถตู้ที่ไอสะเตีย (02/07/66)

[Mongwin]

กู้ภัยเมตตาธรรมนราธิวาส
2 ก.ค. 66 15:06 น.
https://www.facebook.com/metthatham.rescue/posts/298180432775450

2 ก.ค.66 เวลา 12.57 น. เหตุรถไฟชนกับรถยนต์ตู้ บริเวณสถานีรถไฟไอสะเตีย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

กู้ชีพ-กู้ภัยเมตตาธรรมนราธิวาส ตรวจสอบรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 ชนกับรถยนต์ตู้ ทะเบียน นข-8279 สงขลา ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ ดังนี้
1. นายมะตอเฮ หะยีมะลี อายุ 51 ปี ผู้ขับขี่ บาดเจ็บบริเวณดวงตา และบริเวณใบหน้า รู้สึกตัว
2. นายมาหามะรอนิง ฮามะ อายุ 52 ปี มีอาการปวดบริเวณซี่โครง รถพยาบาล นำส่ง รพ.เจาะไอร้อง เรียบร้อย
☎️รับแจ้งจาก : เมตตาธรรม 081 นายวิชาญ หลีเหล็ม โทรแจ้ง. 073-511-515
📷 Cr ภาพ : เมตตาธรรม 01 นายจักรพงศ์ อุดมรัตน์ และเมตตาธรรม 6601 นางจุฬารัตน์ ชาติพันธ์
📄🔵FB Page https://www.facebook.com/metthatham.rescue
#สายตรงกู้ชีพเมตตาธรรม โทร.073-511-515
#สายด่วนกู้ชีพ-กู้ภัยนราธิวาส โทรฟรี. 1669

[Wisarut]

เกิดเหตุรถไฟชนรถตู้บริเวณสถานีรถไฟไอสะเตีย เบื้องต้นเจ็บ 2 ราย
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 18:12 น.
ปรับปรุง: 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 18:12 น.

นราธิวาส - เกิดเหตุรถไฟชนรถตู้บริเวณสถานีรถไฟไอสะเตีย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

วันนี้ (2 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.57 น. เกิดเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ตู้ บริเวณสถานีรถไฟไอสะเตีย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัยเมตตาธรรมนราธิวาสได้เข้าไปช่วยเหลือและตรวจสอบรถไฟขบวนดังกล่าว พบเป็นรถด่วนพิเศษที่ 37 ชนกับรถยนต์ตู้ ทะเบียน นข-8279 สงขลา

เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ คือ
1.นายมะตอเฮ หะยีมะลี อายุ 51 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์ บาดเจ็บบริเวณดวงตาและบริเวณใบหน้า ยังคงรู้สึกตัว และ
2. นายมาหามะรอนิง ฮามะ อายุ 52 ปี มีอาการปวดบริเวณซี่โครง โดยทั้ง 2 ราย รถพยาบาลได้นำตัวส่ง รพ.เจาะไอร้อง แล้ว


สลด รถไฟชนรถตู้ ดับ 1 เจ็บ 1 ที่เจาะไอร้อง
ภูมิภาค
02 กรกฎาคม 2566


เกิดอุบัติเหตุสลด รถไฟขบวนที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์ - สุไหงโกลก ชนกับรถตู้ ลากยาว 300 เมตร พบผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ที่เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

2 กรกฎาคม 2566 ร.ต.อ.กิติภูมิ หูเขียว รองสารวัตรสอบสวน สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุขบวนรถไฟที่ 37 วิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ชนกับรถยนต์ตู้ ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1,120 ซึ่งห่างจากที่หยุดขบวนรถไฟไอร์สะเตียประมาณ 500 เมตร จึงพร้อมด้วย นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง ร.อ.เดชา ทองขจร ผบ.ร้อย ทพ. 4814 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ถูกขบวนรถไฟชนด้านคนขับได้รับความเสียหาย และถูกขบวนรถไฟลากมากับรางห่างจากที่หยุดขบวนรถไฟไอร์สะเตีย ประมาณ 300 เมตร

โดยมีนายมะตอเฮ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาว จ.ปัตตานี เป็นคนขับและติดอยู่คาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันงัดรถและนำร่างส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเสร็จ แพทย์ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

นอกจากนี้ที่บริเวณไหล่เส้นทางรถไฟซึ่งเป็นป่ารกทึบ เจ้าหน้าที่พบร่างของนายมาหามะรอนิง (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาว จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนนั่งโดยสารคู่มากับคนขับ ได้กระเด็นตกจากรถตู้นอนหมดสติ เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง แต่มีอาการสาหัสได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนหัวจักรของขบวนรถไฟได้รับความเสียหายที่บริเวณกันชนหลุด

จากการสอบสวน นายพัฒนา (สงวนนามสกุล) พนักงานขับรถ ขบวนรถไฟที่ 37 เปิดเผยว่า ในขณะที่นำขบวนรถไฟวิ่งผ่านที่หยุดขบวนรถไฟไอร์สะเตีย ได้พบเห็นรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้าน 1 คัน จอดรออยู่ที่ถนนฟาดเส้นทางรถไฟ จึงได้เปิดหวูดส่งสัญญาณเตือน จู่ๆได้มีรถยนต์ตู้วิ่งผ่านถนนฟาดเส้นทางรถไฟ ตนไม่สามารถที่จะบังคับล้อได้กะทันหัน จึงได้ชนรถยนต์ตู้เข้าอย่างจัง และขบวนรถไฟได้ลากรถยนต์ตู้ไปตามร่างห่างจากที่หยุดขบวนรถไฟไอร์สะเตียไปประมาณ 300 เมตร จนกระทั่งสามารถห้ามล้อได้

และเมื่อขบวนรถไฟจอดสนิทตนและเพื่อนได้ลงไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยังนายสถานีรถไฟข้างเคียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุได้รับทราบ ก่อนที่จะช่วยกับนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งรักษาที่โรงพยาบาล

ด้าน ญาติของนายมะตอเฮ คนขับรถยนต์ตู้ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้น นายมะตอเฮ ได้ขับรถยนต์ตู้มากับผู้เสียชีวิต เพื่อเดินทางไปรับชาวบ้านซึ่งเป็นลูกค้า ได้ว่าจ้างให้มารับในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปส่งที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก หลังจากได้เดินทางข้ามมาจากมาเลเซีย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ เมื่อครบกำหนดก็จะเดินทางกลับข้ามเข้าไปทำงานไปในมาเลเซีย จนมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเสียก่อน


รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขบวนรถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่อง ไม่สามารถเดินทางรับส่งผู้โดยสารตามจุดหมายปลายทางได้ทุกขบวน จนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถคลี่พื้นที่จุดเกิดเหตุได้เสียก่อน ด้วยการขนย้านรถยนต์ตู้ออกจากราง รถไฟทุกขบวนจะสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ตามจุดหมายปลายทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง