View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 05/02/2024 1:23 pm Post subject:
อว.ได้งบ103ล้าน กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง เตรียมลุย 13โครงการ รวม รถไฟความเร็วสูงจีนลาวไทย
มติชนออนไลน์ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 - 13:13 น.
ศุภมาส แถลงความสำเร็จของกระทรวง อว.ภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง เผยปี 66 ได้รับอนุมัติ 13 โครงการ งบกว่า 103 ล้านบาท ทั้งรถไฟความเร็วสูงจีน ลาว ไทยตามยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม การใช้สมุนไพรในตำรับการแพทย์แผนไทยและแผนจีนเพื่อรักษาโรคมะเร็ง การบริหารจัดการน้ำ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิด การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการของ อว. ภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง พร้อมแถลงความสำเร็จและความก้าวหน้าของ อว. ในการดำเนินโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง โดยมีนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัด อว. และนาย อู๋ จื้ออู่ อัครราชทูต และรองหัวหน้าสำนักงานสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ประธานคณะทำงาน รมว.อว. และ น.ส.จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เข้าร่วม ที่ ณ ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า กรอบความร่วมมือแม่โขง -ล้านช้าง ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนามและจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจรวมทั้งลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขง โดยมีกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้างเป็นเครื่องมือและกลไกในการส่งเสริมความร่วมมือ
โดยในปี 2566 กระทรวง อว.ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง จำนวน 13 โครงการ ในวงเงินเกือบ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 103 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการการเชื่อมโยงและยกระดับขีดความสามารถด้านสมุนไพรในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงด้วยเทคโนโลยี สีเขียว 2.โครงการ MLC-MSME Recovery Network Post COVIT-19 3.โครงการโอกาสของโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในภูมิภาคแม่โขง-ล้านช้าง 4.โครงการการฟื้นฟูเส้นทางการท่องเที่ยวมรดกทางวัฒนธรรมจากยูนนานสู่พื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5.โครงการการพัฒนาและสาธิตระบบการรู้จำและตรวจจับข้อมูลสำหรับกระบวนการเลี้ยงโคเนื้อและการบริหารจัดการฟาร์มในภูมิภาคแม่โขงล้านช้าง
6.โครงการริเริ่มความร่วมมือเพื่อสำรวจและพัฒนาศักยภาพการใช้สมุนไพรในตำรับการแพทย์แผนไทยและแผนจีนเพื่อการรักษาทางเลือกของโรคมะเร็ง 7.โครงการความร่วมมือทางเทคนิคห่วงโซ่การผลิตที่ครอบคลุมการขยายพันธุ์ใหม่ไทย-จีน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 8.โครงการศึกษาผลกระทบของรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว-ไทยตามยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในมิติความร่วมมือทางสังคมและการดำรงชีพของประชาชน 9.โครงการการเพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านสุขภาพจิตเพื่อลดภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศกัมพูชา
10.โครงการการส่งเสริมการผลิตมันสำปะหลังที่ยั่งยืนโดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภูมิภาคแม่น้ำโขง 11.โครงการการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมในประเทศและการจัดเตรียมร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดของโครงการรถไฟความเร็วสูง 12.โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเห็ดบริโภคได้เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเกษตรที่ยั่งยืนระหว่างประเทศในภูมิภาคแม่น้ำโขง และ 13.โครงการการจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาที่ยั่งยืน
โครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง จะเป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยและสอดคล้องกับนโยบายและประเด็นเร่งด่วนที่ อว.ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะด้านการผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตรงความต้องการ และนำมาใช้งานให้เกิดผลได้อย่างแท้จริง รวมถึงการส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยและหน่วยงานของ อว. ต้องมีส่วนร่วมกับภาคชุมชนในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างทั่วถึง น.ส.ศุภมาส กล่าว
ด้านนายเพิ่มสุข กล่าวว่า ตนมั่นใจว่ากระทรวง อว.มีความพร้อมและศักยภาพทั้งในด้านกำลังคน องค์ความรู้ ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆ ที่สามารถสนับสนุนการวางรากฐานการพัฒนาร่วมกับประเทศสมาชิก ทั้งในสาขาความร่วมมือหลักและความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เพื่อการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนร่วมกันของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
สำหรับโครงการของกระทรวง อว.ได้รับการคัดเลือกและอนุมัติงบประมาณในการดำเนินงานจากกองทุนฯ มีทั้งสิ้น 34 โครงการ วงเงินรวม 322 ล้านบาท โดยในปี 2561 มีจำนวน 2 โครงการปี 2563 จำนวน 4 โครงการ ปี 2564 จำนวน 7 โครงการ ปี 2565 จำนวน 8 โครงการ และปี 2566 จำนวน 13 โครงการ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42791
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42791
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/02/2024 9:50 pm Post subject:
ผู้โดยสารรถไฟลาว-จีน เพลิดเพลินกับกิจกรรมฉลองตรุษจีน
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Thursday, February 08, 2024 16:10
ชาวลาวและนักท่องเที่ยวต่างประทับใจกับกิจกรรมฉลองตรุษจีนปีมังกร 2567 ที่จัดโดย China Media Group (CMG) สื่อหลักของจีน บนขบวนรถไฟเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศ
กิจกรรมฉลองตรุษจีนจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 บนขบวนรถไฟจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ไปยังเมืองคุนหมิง ประเทศจีน พนักงานต้อนรับบนรถไฟชาวลาวมอบผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและของที่ระลึกในเทศกาลตรุษจีนจาก CMG แก่ผู้โดยสาร พร้อมกับพวงมาลัยและคำอวยพรตรุษจีนแก่ผู้โดยสาร
ผู้สื่อข่าวจาก CMG และพนักงานบริการของรถไฟได้แนะนำเรื่องราวของเทศกาลตรุษจีนกับผู้โดยสารชาวลาว และมีการแสดงระบำจากคณะนาฎศิลป์แห่งชาติลาว ทำให้บรรยากาศในรถไฟมีชีวิตชีวามาก และในรถไฟก็เต็มไปด้วยเสียงร้องและเสียงหัวเราะแห่งความสุข
เส้นทางระหว่างประเทศของรถไฟลาว-จีนเปิดเดินรถอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนเมษายน ปีนี้ขบวนรถไฟจากนครหลวงเวียงจันทน์ ไปยังเมืองคุนหมิงของจีน ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และการไปหามาสู่ของผู้คน เป็นดั่งสะพานมิตรภาพระหว่าง 2 ประเทศ
ปี 2567 เป็นปีครบรอบ 63 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและลาว และครบรอบ 3 ปีของการเปิดให้บริการรถไฟจีน-ลาว โดยในปีนี้ China Media Group ได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดรายการพิเศษวันตรุษจีนไปทั่วโลก
นักแสดงนาฎศิลป์ชาวลาวที่เคยไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน เล่าว่า ในเทศกาลตรุษจีนพ่อแม่จะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับลูกหลาน
สมาชิกในครอบครัวกินอาหารร่วมกัน เธอประทับใจที่ได้มาทำการแสดงระบำพื้นบ้านของจีนที่ประเทศลาว และได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้โดยสารทั้งขบวนรถไฟ
นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว กล่าวชื่นชมกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดย CMG สื่อหลักของจีน ในประเทศลาว เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมระบุว่า กิจกรรมต่างๆ ในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ได้เพิ่มสีสันและความสุขให้กับเมืองต่างๆ ของลาว ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความคึกคักและมีชีวิตชีวามากขึ้น การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมดังกล่าวยังช่วยให้คนลาวเข้าใจวัฒนธรรมและศิลปะจีนได้ดีขึ้น.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42791
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 10/02/2024 8:29 pm Post subject:
ตั้ง 2 โครงการ ศึกษาผลกระทบรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว-ไทย | ข่าวเด็ด 7 สี
CH7HD News
Feb 10, 2024
ข่าวเด็ด 7 สี - หลังมีการเปิดเผยข้อมูล รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ช่วยส่งเสริมทางการค้า การส่งออกผ่านด่านหนองคาย เมื่อปีที่แล้ว มีมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าอีก 6 ปี จะมีมูลค่าส่งออกเพิ่มถึงกว่า 27,000 ล้านบาท กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งเกิดจาก 6 กลุ่มประเทศสมาชิก ได้อนุมัติงบประมาณเกือบ 103 ล้านบาทให้ กระทรวง อว. ศึกษาวิจัย 13 โครงการ โดยมี 2 โครงการ เป็นการศึกษาผลกระทบที่เกิดจากรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว-ไทย และการเพิ่มความสามารถด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพื่อผลักดันให้ยอดการส่งออกสินค้าเป็นไปตามเป้าหมาย
https://www.youtube.com/watch?v=nrP0GY-kDZ4
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/02/2024 12:26 pm Post subject:
ครั้งแรก!ขนส่ง"มาม่า"ทางราง จากไทยสู่เยอรมนี ผ่าน"รถไฟลาว-จีน-ยุโรป"
ฐานเศรษฐกิจ
08 กุมภาพันธ์ 2567
มช.ผนึกสภาอุตสาหกรรมฯ ทดลองส่ง "มาม่า"ใช้เส้นทางรถไฟ "ลาว-จีน-ยุโรป" จากไทยไปเยอรมันครั้งแรก ใช้เวลากว่า 2 เดือน ค่าขนส่ง 9,850 ดอลลาร์สหรัฐ
ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ รองคณบดี และหัวหน้าศูนย์ China Intelligence Center (CIC) วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาเปิดผลการทดลองขนส่งสินค้าทางรางจากไทยสู่เยอรมนีผ่านเส้นทางรถไฟ "ลาว-จีน-ยุโรป" เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
การทดลองการขนส่งสินค้าทางรางครั้งนี้ เป็นโครงการทดลองร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของคณะอนุกรรมการด้านโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน สายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ของ ส.อ.ท. ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก บริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์จำกัด (มหาชน) บริษัทเอสซีจีเจดับบลิวดี โลจิสติกส์ และศูนย์ China Intelligence Center วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย ส.อ.ท. เป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการขนส่งทางราง
ดร.ดนัยธัญ เปิดเผยว่า ผลการทดลองการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟลาว-จีน-ยุโรป ที่มีระยะทางขนส่งสินค้าจากไทยไปยุโรป ทั้งสิ้น 13,911 กิโลเมตร (รถไฟ 13,111 กิโลเมตร) ใช้ระยะเวลา 29 วัน ทดลองขนส่ง"มาม่า"จำนวนหนึ่งตู้คอนเทนเนอร์จากโรงงานผลิต มาม่า" ของบริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ที่ศรีราชา ไปขึ้นรถไฟจีนที่สถานีเวียงจันทน์ใต้ ประเทศลาวสู่นครเฉิงตูเพื่อขึ้นรถไฟจีน-ยุโรปสู่ปลายทางเมืองท่าฮัมบรูกส์ประเทศเยอรมนี โดยมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งรวม 9,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ถือเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางเลือกสำหรับประเทศไทย ภายใต้สถานการณ์ "วิกฤตทะเลแดง" ที่ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าจากไทย-ยุโรปทางเรือสูงเกินกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่าง CIC CAMT กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือการพัฒนากำลังคน CBEC และการวิจัยโลจิสติกส์ข้ามแดนระหว่างกันในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ต่อไป
ทั้งนี้ นโยบายหลักของสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วยผลักดันและส่งเสริมการค้าในรูปแบบ Cross Border Ecommerce (CBEC) โดยลงทุนจัดตั้ง Outbound Fulfillment Center เพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000 แห่งในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้สามารถนำเงินออกไปลงทุน สนับสนุนบริการธุรกรรมด้านภาษี การรับชำระเงินจากต่างแดน การเดินพิธีการศุลกากรผ่านระบบดิจิทัล
โดย E-commerce Free Trade Zone ช่วยเพิ่มศักยภาพการส่งออกสินค้าไทยสู่จีนผ่านท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิง ซึ่งในปัจจุบันได้ดำเนินการทดลองขนส่งทางอากาศ โดยได้ส่งออกผลไม้สดของไทย ได้แก่ มะม่วงและมะพร้าวควั่น ผ่านช่องทาง E-commerce และขายผ่านช่องทาง Live-Commerce
ในส่วนของการขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป โดยบริษัทขนส่ง China Railway Group มีขบวนรถไฟจีน-ยุโรปสะสมรวมทั้งสิ้น 81,000 ขบวน ดำเนินการไปถึงจุดหมายปลายทาง 217 แห่งใน 25 ประเทศในยุโรป อาทิ เยอรมนี คาซักสถาน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี อังกฤษ เชค ฮังการี เป็นต้น โดยเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป ช่วยลดการเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา และช่วยผลักดันให้ภูมิภาคตะวันตกของประเทศจีนมีช่องทางการส่งออกและนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
รวมไปถึงการส่งเสริมสินค้าส่งออกของประเทศไทยให้สามารถขนส่งสินค้า เช่น ผลไม้สดด้วยเส้นทางรถไฟสู่เมืองคุนหมิง และมุ่งสู่ปลายทางอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดค้าส่งเจียงหนาน (มณฑลกวางตุ้ง) ตลาดมณฑลสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และมณฑลเสฉวน ทั้งนี้การสร้างระบบใหม่สำหรับเศรษฐกิจแบบเสรี ผ่านการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นตัวดึงดูดการสร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน การบริหารจัดการ ที่ทำให้การนำเข้าและการส่งออกมีความคล่องตัวมากขึ้น
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 19/02/2024 11:16 am Post subject:
สังคมโลก : ความสงบที่หายไป | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Monday, February 19, 2024 07:02
เมื่อรุ่งสางมาเยือนเมืองหลวงพระบาง พระสงห์หลายรูปออกบิณฑบาตตามถนน แต่เสียงของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ดังระงม ได้ทำลายความสงบสุขของเมืองโบราณแห่งนี้ของลาว
เมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ต้อนรับนักท่องเที่ยวเกือบ 800,000 คน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว ซึ่งสื่อของรัฐรายงานว่า แขวงหลวงพระบางหวังว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เกือบ 3 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2567
แม้นักท่องเที่ยวอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่เศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงของลาว แต่มันกลับทำให้คนในพื้นที่ประสบปัญหา เนื่องจากกลุ่มทัวร์ต่างชาติเข้าครอบงำ และเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางวัฒนธรรมในเมืองที่เงียบสงบแห่งนี้
ตัวอย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทุกเช้า คือการที่พระสงฆ์ต้องเดินบิณฑบาตบนเก้าอี้พลาสติก ผ่านนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ซึ่งชาวเมืองต่างกล่าวว่า พิธีตักบาตรตอนเช้า กลายเป็นพิธีถ่ายภาพไปแล้ว
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก น่าลำบากใจ และกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับบรรดาพ่อค้าแม่ขาย เพราะพวกเขาทั้งต้องการ และไม่พอใจนักท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน
เมื่อมีการลงทุนจากต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงแห่งใหม่ของลาว ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากจีน เมืองหลวงพระบาง หรือเมืองหลวงเก่าของประเทศ จึงกำลังเปลี่ยนแปลง
บริเวณนอกเมือง การมาถึงของรถไฟจากชายแดนจีน ทำให้เกิดความคึกคักที่สถานีรถไฟขนาดใหญ่แห่งใหม่ ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว และมีป้ายแสดงข้อความภาษาจีนทั้งหมด บ่งบอกถึงตลาดเป้าหมายอย่างชัดเจน
อนึ่ง จีนมอบเงินสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 215,000 ล้านบาท) ซึ่งเชื่อมต่อเมืองคุนหมิงของจีน กับนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ทำให้ลาวติดหนี้รัฐบาลปักกิ่ง
แม้บรรดาผู้นำของลาวให้สัญญาว่า โครงการรถไฟดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่ชาวเมืองกล่าวว่า พวกเขาเห็นรายได้ตามคำมั่นรัฐบาลที่ให้ไว้ เพียงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้อยู่ในกลุ่มทัวร์จีน ซึ่งสมาชิกของกลุ่มพักผ่อนในโรงแรมที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของ และรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีชาวจีนดูแลกิจการ ตลอดจนเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
นอกจากนี้ กลุ่มทัวร์ยังผลักดันการเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินในแม่น้ำโขง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเงียบสงบ แต่ปัจจุบันกลับเต็มไปด้วยเสียงอื้ออึงของปาร์ตี้, เพลงป๊อป และลูกค้าที่ร้องคาราโอเกะในตอนกลางคืน
ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของเรือ 3 ลำ กล่าวว่า ตามทฤษฎีแล้ว พวกเขาอนุญาตให้เล่นดนตรีได้แค่ 1 ชั่วโมง แต่ลูกค้าเรียกร้องต้องการเวลามากกว่านี้ พวกเขาเปลี่ยนวิถีชีวิตของที่นี่ และมันทำลายความสงบสุข เขากล่าวทิ้งท้าย.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42791
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44880
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 28/02/2024 1:23 pm Post subject:
กรุงไทย ชี้รถไฟจีน-ลาว หนุนการลงทุนภาคอีสานกว่า 7.6 แสนล้าน
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 - 12:52 น.
ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS มองโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว หนุนการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมเม็ดเงิน 7.6 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า แนะพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็น ศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง คว้าโอกาสทางธุรกิจ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ได้ให้บริการขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าเต็มรูปแบบในเส้นทางคุนหมิง-เวียงจันทน์เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อการค้าการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่เป็นพื้นที่เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงเส้นทางดังกล่าว ขณะที่ภาครัฐของไทยได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับเศรษฐกิจในภูมิภาคที่คาดว่าจะคึกคักมากขึ้นในอนาคต
เม็ดเงินลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ราว 7.6 แสนล้านบาท เป็นอย่างน้อย โดยแบ่งเป็น
1.เม็ดเงินจากการลงทุนของภาครัฐ 6.4 แสนล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และสนามบิน รวมถึงการลงทุนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าชายแดน เมืองอัจฉริยะ นิคมอุตสาหกรรม และเขตเศรษฐกิจพิเศษ
และ 2.เม็ดเงินจากการลงทุนของภาคเอกชนที่คาดว่าจะตามมาอีกอย่างน้อยราว 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนเหล่านี้จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการทั้งในและนอกภูมิภาคตามมาอีกด้วย
ดร.สุปรีย์ ศรีสำราญ นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาและประเมินจังหวัดที่มีศักยภาพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด 20 จังหวัด พบว่า กลุ่มจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 6 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี มุกดาหาร ขอนแก่น หนองคาย นครพนม และบึงกาฬ เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพในการเติบโตจากการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและการค้าการลงทุนที่ขยายตัวมากขึ้นในระยะถัดไป
โดย 5 ธุรกิจเด่นที่เป็นโอกาสในแต่ละจังหวัดเหล่านี้ ได้แก่ 1. ก่อสร้าง 2. โลจิสติกส์ (Logistics) 3. ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (Auto Dealer) 4. น้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) และ 5.โรงพยาบาลและการดูแลสุขภาพ (Healthcare)
โดยธุรกิจเหล่านี้จะได้รับแรงขับเคลื่อนการพัฒนา 3 ด้านหลักที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า ได้แก่
1. ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ รถไฟทางคู่เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม และเส้นทางขอนแก่น-หนองคาย รถไฟความเร็วสูงเส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย สนามบินมุกดาหาร
2. ด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยเฉพาะในขอนแก่น ซึ่งมีสถานพยาบาลที่มีคุณภาพการให้บริการระดับสากล รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา โดยเฉพาะในอุดรธานีและบึงกาฬ
และ 3. ด้านการลงทุน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม เมืองอัจฉริยะขอนแก่น
ผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการและบุคลากร รวมทั้งควรเตรียมความพร้อมในมิติที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ยกตัวอย่างเช่น การลดฝุ่น PM 2.5 การศึกษาแนวทางโลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistics) เช่น การใช้รถบรรทุกไฟฟ้า การดักจับก๊าซเรือนกระจก และการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนจากโซลาร์ เป็นต้น ซึ่งการเตรียมความพร้อมเหล่านี้จะทำให้เกิดการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในอนาคต
ขณะที่ภาครัฐควรเร่งขับเคลื่อนแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เชื่อมโยงกับรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor: NeEC) ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการค้าการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น
Back to top