Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13274545
ทั้งหมด:13585841
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 389, 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/03/2024 10:49 am    Post subject: Reply with quote

จ่อโดนปรับ! วันละ18 ล้าน ก่อสร้างรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ
Nimda Variety
Mar 23, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=exUkhI7MUVU
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/03/2024 6:36 pm    Post subject: Reply with quote

พ.ค.นี้ เปิดประมูล “รถไฟทางคู่” เฟส 2 “ขอนแก่น-หนองคาย” 2.9 หมื่นล้าน | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Saturday, March 23, 2024 15:30

พ.ค.นี้ ใช้เวลาก่อสร้างสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จปี 70 ลุยดันต่ออีก 6 เส้นทางต้องให้จบปีนี้ ลั่นขอเวลา 3 เดือน หลัง ครม. ไฟเขียว พร้อมเดินหน้าประมูลได้เลย

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท. อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการจัดทำร่างรายละเอียดเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) โครงการรถไฟทางคู่ ระยะ(เฟส)ที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 29,748 ล้านบาท โดยเส้นทางนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว คาดว่าจะจัดทำร่าง TOR แล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.67 จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเปิดประกวดราคา(ประมูล) ต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดจำหน่ายเอกสารการประกวดราคาได้ภายใน 2 เดือนนับจากนี้ หรือประมาณภายในเดือน พ.ค.67

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รฟท. ยังได้เสนออีก 3 เส้นทางที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ได้แก่ 1.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท และ 3.ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท ไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาแล้ว ซึ่งหาก ครม. เห็นชอบ คาดว่าภายใน 3 เดือนหลังจากนั้น รฟท. จะเริ่มขั้นตอนการเปิดประมูลได้

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ส่วนอีก 3 เส้นทางที่เหลือ ได้แก่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,294 ล้านบาท, ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 67,459 ล้านบาท และช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. วงเงิน 56,837 ล้านบาท รฟท. จะทยอยเร่งรัดผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด รฟท. กระทรวงคมนาคม และครม. ภายในปี 67 ซึ่งจะทำให้โครงข่ายทางรางของประเทศมีความสมบูรณ์ อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน และสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างไทย และประเทศต่างๆ ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มีระยะทาง 167 กม. ต่อจากรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น ประกอบด้วย ทางรถไฟระดับดิน 153 กม. และทางรถไฟยกระดับ 2 แห่ง 14 กม. มี 14 สถานี เป็นสถานีใหม่ 6 สถานี และปรับปรุงสถานีรถไฟเดิม 8 สถานี มีที่หยุดรถ 4 แห่ง โดยเป็นชานชาลาสูงทั้งหมด มีย่านกองเก็บตู้สินค้า(CY) 3 แห่ง ได้แก่ สถานีโนนสะอาด พื้นที่ขนาด 10,500 ตารางเมตร(ตร.ม.), สถานีหนองตะไก้ 21,750 ตร.ม. และสถานีนาทา 19,000 ตร.ม.

โครงการฯ มีพื้นที่ที่ต้องเวนคืนที่ดิน 184 ไร่ โดยจะยกเลิกจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับในปัจจุบันทั้งหมด และจะก่อสร้างถนนข้ามทางรถไฟ(Overpass) 31 แห่ง ถนนลอดใต้ทางรถไฟ(Underpass) 53 แห่ง และก่อสร้างรั้วตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ทั้งนี้ช่วงขอนแก่น-หนองคาย จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี แล้วเสร็จประมาณปี 70 โดยปีแรกของการเปิดให้บริการ คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 3,500 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 5,800 คนต่อวันในปีที่ 30 ส่วนปริมาณการขนส่งสินค้าอยู่ที่3.5 ล้านตันในปีแรก และเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 ล้านตันในปีที่ 30 หรือเพิ่มขึ้น 0.67% ต่อปี.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 26/03/2024 2:07 pm    Post subject: Reply with quote

อัพเดท รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ท่าแค-ปากน้ำโพ


นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
22 มี.ค. 2024

https://www.youtube.com/watch?v=6pQ0_Xg3lZU
Mongwin wrote:
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
20 มี.ค. 67 10:45 น.

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 91.30%
แผนงานสะสม = 98.32%
ช้ากว่าแผน = -7.02%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/793598722685530


อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
ความก้าวหน้าสะสม = 82.68 %
แผนงานสะสม = 96.40 %
ช้ากว่าแผนงาน = -13.72 %

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/793600072685395


อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 39.04%
แผนงานสะสม = 100.00%
ช้ากว่าแผนงาน = -60.96%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/793601116018624
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/03/2024 9:18 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
28 มี.ค. 67 14:05 น.

ความก้าวหน้าประจำเดือนมีนาคม 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล
บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นยิเนี่ยริ่ง จำกัด (1964)

https://fb.watch/r5dmWhWPMg/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/03/2024 9:23 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่ระยะที่2 มาแล้ว พร้อมประมูลรถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย บอกลาชานชาลาต่ำได้เลย
Nimda Variety
Mar 28, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=BjpBKKaJMyI
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/03/2024 8:28 am    Post subject: Reply with quote

ITD ส่งงบปี 66 ขาดทุนลดเหลือ 1,072 ล้าน เหตุกำไรจากขายทรัพย์สิน 2,249 ล้าน
ฐานเศรษฐกิจ
29 มี.ค. 2567 | 07:33 น.

ผิดคาด! อิตาเลียนไทย (ITD) งบการเงินปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 1,072.36 ล้าน ลดลงกว่า 77% จากปี 2565 ที่ขาดทุน 4,758.85 ล้าน เหตุมีกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน 2,249 ล้าน แม้รายได้บริการรับเหมาก่อสร้างจะลดลง 2,719 ล้านบาท ด้าน “ผู้สอบบัญชี” งดแสดงความคิดเห็น

นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการรองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD แจ้งผลดำเนินงานของบริษัทงบการเงินประจำปี 2566 ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 1,072.36 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้นอยู่ที่ 0.2031 บาท จากปี 2565 ที่ขาดทุนสุทธิ 4,758.85 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.9013 บาท และเมื่อเทียบปี 2565 ขาดทุนลดลดจำนวน 3,686.49 ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 77.46%

บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้างในปี 2566 จำนวน 56,936 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 2,719 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการก่อสร้างของโครงการที่ใกล้แล้วเสร็จ อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญา 3 งานอุโมงค์รถไฟ โครงการอาคารโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

รวมถึงการปรับปรุงรายได้จากการให้บริการก่อสร้างเนื่องจากต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้างบางรายการ ยังไม่ส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้า ทำให้ยังไม่สามารถรับรู้เป็นรายได้จากการให้บริการก่อสร้าง และปรับปรุงต้นทุนดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ต้นทุนการทำงานให้เสร็จสิ้นตามสัญญา (อาทิค่าโครงสร้างชั่วคราว ค่าโครงสร้างงานรากฐาน ค่าบริหารสาธารณูปโภค-สิ่งแวดล้อม ค่าใช้จ่ายช่วงเตรียมงาน เป็นต้น)

รายได้จากการขายและให้บริการ ในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ จำนวน 6,806 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 986 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของรายได้จากการให้บริการโครงการเหมืองแร่

ต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง ในปี 2566 บริษัทฯ มีต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 52,903 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 5,052 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้างของโครงการที่ใกล้จะแล้วเสร็จ รวมถึงการปรับปรุงต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้างบางรายการเป็นสินทรัพย์ต้นทุนการทำงานให้เสร็จสิ้นตามสัญญา

ต้นทุนในการขายและให้บริการในปี 2566 บริษัทฯ มีต้นทุนในการขายและให้บริการ จำนวน 6,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 57 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทย่อยบางแห่งมีการขายสินค้าและให้บริการเพิ่มขึ้นจึงมีต้นทุนเพิ่มขึ้น

ขณะที่กำไรขั้นต้นในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 3,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรขั้นต้น จำนวน 2,699 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 เท่ากับร้อยละ 6.26 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับร้อยละ 4.00 เนื่องจากการกำไรเพิ่มขึ้นของบริษัทย่อยบางแห่ง รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนจากการให้บริการก่อสร้างในต่างประเทศ

ด้านเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า ในปี 2566 บริษัทฯ มีเงินปันผลรับและส่วนแบ่งกำไรในกิจการร่วมค้า จำนวน 3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 3 ล้านบาท

ดอกเบี้ยรับในปี 2566 บริษัทฯ มีดอกเบี้ยรับ จำนวน 224 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 78 ล้านบาท ที่ส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยรับของบริษัทย่อย และสาขาในต่างประเทศ


กำไรจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในปี 2566 บริษัทฯ ไม่มีกำไรจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ลดลดจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวน 184 ล้านบาท

กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ 2,249 ล้านบาท

กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ ในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน จำนวน 2,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 2,249 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำไรจากการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช้ในการดำเนินงาน

กำไรจากการป้องกันความเสี่ยง ในปี 2566 บริษัทฯ ไม่มีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง ลดจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการป้องกัน ความเสี่ยงเป็นจำนวน 28 ล้านบาท

รายได้อื่นในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้อื่น จำนวน 561 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 91 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าที่ปรึกษา ค่าบริหารโครงการ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นในกิจการร่วมค้า และบริษัทย่อยบางแห่ง

ค่าใช้จ่ายในการขาย ในปี 2566 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 5 ล้านบาท ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการขายของบริษัทย่อย

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ในปี 2566 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 3,124 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 252 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากการลดลงของการขาดทุนทางบัญชีจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งานในปีก่อนหน้า

ค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่า ในปี 2566 บริษัทฯ มีค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่า จำนวน 117 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 49 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งในต่างประเทศ

ขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน ในปี 2566 บริษัทฯ ไม่มีการขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน ขาดทุนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 1 ล้านบาท

ขาดทุนจากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในปี 2566 บริษัทฯ ขาดทุนจากการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 65 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 65 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งานของบริษัทย่อย

ขาดทุนจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ในปี 2566 บริษัทฯ ขาดทุนจากการตีราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 53 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 53 ล้านบาท เนื่องจากผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนลดลง

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ในปี 2566 บริษัทฯ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 103 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 80 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องจากการขาดทุนจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทในสินทรัพย์ของบริษัท

ขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ ในปี 2566 บริษัทฯ ขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ จำนวน 0.05 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 12 ล้านบาท

ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทที่ควบคุมร่วมกัน และกิจการร่วมค้า ในปี 2566 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทที่ควบคุมร่วมกัน และกิจการร่วมค้า จำนวน 270 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 858 ล้านบาท การขาดทุนในงวดนี้ส่วนใหญ่เนื่องจากการขาดทุนของบริษัทที่ควบคุมร่วมกันแห่งหนึ่งซึ่งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ

ต้นทุนทางการเงิน ในปี 2566 บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงิน จำนวน 2,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 484 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการมีเงินกู้ยืมระยะยาวเพิ่มขึ้น

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ในปี 2566 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จำนวน 684 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 14 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากภาษีเงินได้ของสาขาและกิจการร่วมค้าบางแห่งในต่างประเทศลดลง

จากที่กล่าวข้างต้น ในปี 2566 บริษัทฯ มีการแบ่งปันขาดทุนสำหรับปี ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 1,072 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 3,686 ล้านบาท

ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบปี 2566

อย่างไรก็ตาม สำหรับงบการเงินที่ ITD ส่งมาล่าสุดของปี 2566 ปรากฏว่า ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบงบการเงิน แต่ไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว ด้วยเหตุที่ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฯ และบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

ตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 1.2 ระบุว่า สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 กลุ่มบริษัทและบริษัทฯ มีขาดทุนหลังภาษีจำนวน 421.54 ล้านบาท และ 194.87 ล้านบาท ตามลำดับ และมีขาดทุนสะสมจำนวน 6,426.67 ล้านบาท และ 5,390.66 ล้านบาท ตามลำดับ (2565: 4,475.58 ล้านบาท และ 3,622.58 ล้านบาท ตามลำดับ)

อีกทั้งมีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 26,711.54 ล้านบาท และจำนวน 29,977.68 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งหนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่

ประกอบด้วยเงินกู้ยืมระยะสั้นจากตั๋วสัญญาใช้เงิน และทรัสต์รีซีต/เลตเตอร์ออฟเครดิต และเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถูกจัดประเภทเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น หุ้นกู้และหุ้นกู้ที่ถูกจัดประเภทเป็นหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี

โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ ไม่สามารถปฎิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาเงินกู้ในเรื่องการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งคำนวณจากงบการเงินรวมที่ถูกกำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินบางแห่ง

จากการผิดเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ดังกล่าวข้างต้น สถาบันการเงินมีสิทธิเรียกชำระคืนเงินกู้ยืม ทั้งนี้ ธนาคารไม่ได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับหนังสือจากสถาบันการเงินให้ความยินยอมและผ่อนผันเงื่อนไขในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567และ วันที่ 18 มีนาคม 2567

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ากลุ่มบริษัทและบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานธุรกิจและกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่ากลุ่มบริษัทและบริษัทฯ จะมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอและมีความสามารถในการชำระหนี้เมื่อครบกำหนดและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

แต่ปัจจัยในด้านสภาพคล่องของกลุ่มบริษัทและบริษัทฯ ขึ้นอยู่กับการเรียกใช้สิทธิในการเรียกให้ชำระคืนเงินกู้ยืมของธนาคารและหุ้นกู้ ความสำเร็จในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว การจัดหาแหล่งเงินทุนอื่นเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการดำเนินงาน การปรับปรุงแผนธุรกิจและการดำเนินงานในอนาคต และความสามารถในการจ่ายชำระเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ได้ตามวันครบกำหนดใหม่

รวมถึงการสนับสนุนของวงเงินสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และการเจราจาเรียกเก็บเงินค่าก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการลงทุนในหลายโครงการ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวข้างต้นแสดงถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญหลายประการซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กันและมีความเป็นไปได้ที่จะมีผลกระทบต่องบการเงินเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทและบริษัทฯ

บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า การที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการของกลุ่มบริษัทและบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2566 ไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร หรือผิดมาตรฐานการบัญชีไทย แต่เกิดจากผลกระทบต่อความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญตามสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนการธุรกิจและกลยุทธ์ทางการเงินเพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่ากลุ่มบริษัทและบริษัทฯ จะมีสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และมีความสามารถในการชำระหนี้เมื่อครบกำหนดและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ ITD242A, ITD24DA, ITD254A, ITD266A และ ITD24DB ซึ่งมียอดเงินต้นค้างชำระรวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,445 ล้านบาท

โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละรุ่นออกไปอีก 2 ปีนับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิม รวมถึงเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมข้อ 49.1

ทั้งนี้ เมื่อมีการขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้แต่ละรุ่นออกไปอีก 2 ปีนับจากวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมแล้ว หนี้สินหมุนเวียนของบริษัทฯ ที่ถึงกำหนดชำระใน 1 ปี ในไตรมาสหนึ่งของปี 2567จะลดลง

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 5 รุ่นได้มีมติอนุมัติผ่อนผันการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ โดยให้มีผลตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี 2566จนถึงวันสิ้นสุดรอบปีบัญชี 2568และ ผ่อนผันให้ผู้ออกหุ้นกู้ดำเนินการเจรจาหรือเข้าทำสัญญาใด ๆ กับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ

2. บริษัทฯ ได้ขอผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำรงสัดส่วนทางการเงินกับสถาบันการเงินบางแห่งและได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวจากธนาคารแล้ว

โดยบริษัทฯ ได้รับหนังสือแจ้งอนุโลมการปฏิบัติเงื่อนไขดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 และ 18 มีนาคม 2567 ตามที่ได้กล่าวถึงในหมายเหตุประกอบงบการเงินรวมข้อ 49.2 ซึ่งจากการไม่สามารถดำรงสัดส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าว สถาบันการเงินสถาบันการเงินมีสิทธิเรียกชำระคืนเงินกู้ยืม แต่สถาบันการเงินไม่ได้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว

ดังนั้น การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเรื่องการดำรงสัดส่วนทางการเงินดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุให้บริษัทฯปฏิบัติผิดเงื่อนไขในสัญญากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน อนึ่ง บริษัทฯ มีแนวทางการจัดการปัญหาการขาดสภาพคล่อง

โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ธนาคารหลักเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านสินเชื่อทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว เพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ ทยอยได้รับสินเชื่อมาบางส่วนแล้ว และคาดว่าบริษัทฯ และกลุ่มเจ้าหนี้ธนาคารหลักจะตกลงเรื่องสัญญาการให้สินเชื่อจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

3. บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนระบบการท างานและระบบควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันและมีกำไรจากผลการดำเนินงานโดยมีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน และมีการรายงานผลประจำทุกเดือน และมีแผนการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ในการดำเนินงานเพื่อลดภาระหนี้ของบริษัทฯ

4. บริษัทฯ เชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสที่จะได้รับงานโครงการก่อสร้างขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ที่ทางภาครัฐและเอกชนอยู่ระหว่างการประกาศจัดซื้อจัดจ้าง เป็นจำนวนมาก ได้แก่ งานสร้างถนน ทางด่วน รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การขยายสนามบิน

ทั้งในปริมณฑลกรุงเทพและต่างจังหวัดหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น เนื่องจากบริษัทฯ มีประสบการณ์และผลงานในอดีตที่สามารถแข่งขันได้ทุกประเภท

ดังนั้น บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าหากบริษัทฯ ได้รับงานโครงการก่อสร้างจากภาครัฐและภาคเอกชนดังกล่าว บริษัทฯ ก็จะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/03/2024 12:28 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิดประชาพิจารณ์ TOR ทางคู่ขอนแก่น 2.8 หมื่นล้าน หวังก.ย. 67 เริ่มสร้าง
วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม 2567 เวลา 11:37 น. isranews

'รถไฟ' เปิดประชาพิจารณ์ TOR รถไฟทางคู่ขอนแก่น - หนองคาย วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาทแล้ว วางกรอบไทม์ไลน์ขายซอง พ.ค.-ก.ค. 67 ยื่นข้อเสนอ ส.ค. 67 ได้ตัวผู้รับจ้าง-ก่อสร้าง ก.ย. นี้ไปเสร็จปี 70

https://www.isranews.org/article/isranews-news/127424-transport-18.html
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/04/2024 7:05 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิด TOR รถไฟทางคู่”ขอนแก่น-หนองคาย”167 กม.รวบตึงสัญญาเดียว ราคากลาง 2.87 หมื่นล้านบาท
ผู้จัดการออนไลน์ 5 เม.ย. 2567 14:13

รฟท.ประกาศรับฟังคำวิจารณ์ ร่างTOR จ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ราคากลาง 28,720 ล้านบาท คาดขายซองประมูล เริ่มก่อสร้าง ก.ย. 67 เสร็จในปี 70

รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เผยแพร่ประชาพิจารณ์ร่างขอบเขตของงาน ( Terms of Reference :TOR) ประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ราคากลาง 28,720 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยเปิดรับฟังคำวิจารณ์ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. 2567 สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย. 2567

โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม และปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคมตลอดสายทาง กำหนดระยะเวลาส่งมอบ 1,080 วัน นับถัดจากวันที่ รฟท.แจ้งให้เริ่มงาน

กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,313,850,000 บาท และต้องเป็นงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท.เชื่อถือ

กรณีเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้จดทะเบียนเกินกว่า 1 ปีกำหนดให้มีมูลค่าสุทธิของกิจการจากผลต่างระหว่างสินทรัพย์สุทธิหักด้วยหนี้สินสุทธิที่ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงิน ซึ่งต้องมีค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนยื่นข้อเสนอ กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งยังไม่มีการรายงานงบแสดงฐานะการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้พิจารณาการกำหนดมูลค่าของทุนจดทะเบียน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระมูลค่าหุ้นแล้ว ณ วันที่ยื่นข้อเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้น
กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 4,313,850,000 บาท (สี่พันสามร้อยสิบสามล้านแปดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า

โดยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า4,313,850,000 (สี่พันสามร้อยสิบสามล้านแปดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่น ๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ข) ผลงานก่อสร้างงานโยธา(ข) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว เป็นต้น

สำหรับหลักเกณฑ์ที่จะพิจารณาโครงการ คือ จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณา 6 หัวข้อ คะแนนรวม 100 คะแนน ผู้ที่จะผ่านการพิจารณาจะต้องได้คะแนนในแต่ละหัวข้อไม่ต่ำกว่า 75% ของคะแนนเต็ม จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือกข้อเสนอ

@คาดขายซองประมูล เริ่มก่อสร้าง ก.ย. 67 เสร็จในปี 70

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า หลังจากประชาพิจารณ์ TOR จบลงในวันที่ 1 เม.ย. คณะกรรมการกำกับการร่าง TOR จะนำความเห็นที่ได้มาประมวลและปรับแก้ TOR อีกครั้ง หลังจากนั้นคาดว่าจะเริ่มขายซองประมูล และยื่นข้อเสนอในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. 2567 โดยคาดว่าจะได้ตัวผู้รับจ้างในเดือน ส.ค. 2567 และคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในเดือน ก.ย. 2567 ใช้เวลา 36 เดือน ไปแล้วเสร็จในปี 2570

สำหรับโครงการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ “ช่วงขอนแก่น-หนองคาย” ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเมื่อ วันที่ 16 ต.ค. 2566 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางราง ทั้งสินค้าและผู้โดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/04/2024 8:27 am    Post subject: Reply with quote

ลุยดันโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 9 เม.ย. 2567 06:30 น.

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง วงเงิน 21,760.25 ล้านบาทว่า ได้เสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว อยู่ระหว่างรอบรรจุวาระคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่า จะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในเดือน เม.ย.นี้ ก่อนเริ่มประกวดราคาในปีนี้ และก่อสร้างภายในปลายปี 67 หรือต้นปี 68 คาดจะเปิดให้บริการช่วงต้นปี 71 สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทางดังกล่าว ประกอบด้วย
1.ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 10,670.27 ล้านบาท ระยะทางรวม 14.8 กิโลเมตร (กม.) มี 6 สถานีคือสถานีพระราม 6, บางกรวย-กฟผ., บ้านฉิมพลี, กาญจนาภิเษก, ศาลาธรรมสพน์ และศาลายา คาดว่า จะเปิดประกวดราคาเดือน มิ.ย.67-ม.ค.68 ก่อสร้างเดือน ก.พ.68-ม.ค.71 เปิดให้บริการเดือน ก.พ.71

ส่วนเส้นทางที่ 2 ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. มี 4 สถานี ได้แก่ สถานีคลองหนึ่ง, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, เชียงราก และมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต วงเงิน 6,473.98 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 6,468.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.29 ล้านบาท เพราะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จาก 5% เป็น 7% คาดว่า จะเปิดประกวดราคาเดือน พ.ค.-ธ.ค.67 ก่อสร้าง เดือน ม.ค.68-ธ.ค.70 เปิดให้บริการเดือน ม.ค.71 และเส้นทางที่ 3 ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีตลาดน้ำตลิ่งชัน, จรัญสนิทวงศ์ และธนบุรี-ศิริราช คาดจะเปิดประกวดราคาเดือน พ.ค.-ธ.ค.67 ก่อสร้างเดือน ม.ค.68-ธ.ค.70 ปิดให้บริการเดือน ม.ค.71

นายสุรพงษ์กล่าวต่อถึงโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 (เฟส 2) ว่า คาดจะเสนอ ครม. ภายในปี 67 โดยเฉพาะ 3 เส้นทางที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแล้ว วงเงิน 133,146 ล้านบาท คือ
1.รถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท
2.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ราชธานี 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท และ
รถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท

ขณะที่อีก 2 เส้นทาง วงเงิน 91,753 ล้านบาท คือ รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 168 กม. วงเงิน 24,294 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา 321 กม. วงเงิน 67,459 ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ คาดว่า จะเสนอต่อบอร์ดการรถไฟวันที่ 18 เม.ย.67.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/04/2024 3:35 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
10 เม.ย. 67 14:16 น.

ความก้าวหน้าประจำเดือนมีนาคม 2567
ณ วันที่ 25 มีนาคม 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล
บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอ็นยิเนี่ยริ่ง จำกัด (1964)

https://fb.watch/rm2clxCAuE/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 389, 390, 391, 392  Next
Page 390 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©