Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13275787
ทั้งหมด:13587083
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - นำเข้ารถดีเซลราง KiHa 183 JR Hokkaido 17 คัน และ Hamanasu
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

นำเข้ารถดีเซลราง KiHa 183 JR Hokkaido 17 คัน และ Hamanasu
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 32, 33, 34
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/03/2024 4:25 am    Post subject: Reply with quote

เปิดโฉม!รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ดัดแปลงจากญี่ปุ่น พร้อมบริการกลางปีนี้
ผู้จัดการออนไลน์ 16 มี.ค. 2567 01:56

ผู้ว่าฯรฟท. โชว์รถไฟท่องเที่ยว
ขบวนใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ชุดแรก 5 คัน ดัดแปลงมาจากรถญี่ปุ่น Hamanasu ดีไซด์ สุดสวย สีแดงเชอรี่คาดทอง ตกแต่งด้วยไม้สนซีดาร์ กระจกกว้างพิเศษ ตั้งเป้าเปิดให้บริการกลางปี 67 เล็งเส้นทาง กาญจนบุรี,ฉะเชิงเทรา, หัวหิน

วันที่ 15 มี.ค.2567 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำคณะสื่อมวลชน ชมขบวนรถไฟท่องเที่ยว "SRT Royal Blossom" ซึ่งเป็นขบวนรถโดยสารที่ รฟท.ได้รับมอบจากประเทศญี่ปุ่น และนำมาดัดแปลงเป็นขบวนท่องเที่ยว แล้วเสร็จชุดแรกจำนวน 5 คัน และได้นำขบวนพ่วงทดสอบควา มสมบูรณ์

นายนิรุฒ เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้รับมอบรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu (ฮามานะสุ) จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10 คัน ประกอบด้วย รถรุ่น SUHAFU (มีเครื่องยนต์ปั่นไฟ) 5 คัน และรถรุ่น OHA (ไม่มีเครื่องยนต์ปั่นไฟ) 5 คัน ซึ่งเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯรฟท.เห็นขบวนรถตอดอยู่ที่ ศรีราชา และพบว่า โครงสร้างรถยังดี จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลดำเนินการปรับปรุงตู้โดยสารให้มีความพร้อมสำหรับใช้เป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยว เพื่อช่วยเสริมศักยภาพในการเดินทาง และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างงาน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

โดยการปรับปรุงรถเป็นฝีมือคนไทยทั้งหมด โดยแนวคิดต้องการให้เป็นรถเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีสันทนาการบนรถ ออกแบบบานกระจกกว้างเป็นพิเศษ เพื่อให้วิวสองข้างทางอย่างเต็มที่ มีมุมคาเฟ่บริการ สร้างความรู้สึกว่าได้ท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ล่าสุด ฝ่ายการช่างกล การรถไฟฯ ได้แจ้งถึงการปรับปรุงรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ชุดแรกใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 5 คัน ภายใต้ชื่อ “SRT Royal Blossom” โดยจะใช้สำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นดำเนินการต่อเนื่องหลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับการรถไฟฯ และ สร้างความประทับใจแก่ประชาชนนักท่องเที่ยว เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน ตู้ SRT Royal Blossom อยู่ระหว่างทดสอบความพร้อมแงะความปลอดภัยของระบบ และเมื่อทดสอบแล้วเสร็จ มีกำหนดเริ่มให้บริการท่องเที่ยวช่วงกลางปี 2567 ในเส้นทางระยะสั้น แบบวันเดย์ทริป/พักค้างคืน และให้บริการในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือให้บริการเช่าเหมาขบวน ตามความเหมาะสมต่อไป

"ช่วงแรกมองเส้นทางที่มีศักยภาพทางท่องเที่ยว เช่น กาญจนบุรี ฉะเขิงเทรา หัวหิน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ส่วนราคา ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ส่วนรถชุดที่ 2 อีก 5 คัน นั้น คาดว่าจะปรับปรุงเสร็จปลายปีนี้"

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ รฟท. ให้รายละเอียดการปรับปรุง ว่า
ภายนอกตู้ SRT Royal Blossom ถูกแต่งแต้มสีสันภายนอกด้วยสีแดงเชอรี่ คาดทอง ส่วนภายนอกตัวรถ ได้มีการทำสีใหม่ให้เป็นเฉดสีแดงคาดลายสีทอง ซึ่งเป็นสีของกลีบดอกไม้ ที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขบวนรถไฟท่องเที่ยวชุดนี้ ส่วนด้านหน้าและด้านข้างตัวรถจะมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้ “STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE – 2022 คู่กับดอกราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ถูกวางบนหน้าปัดนาฬิกา ตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข 13 เป็นการเปรียบเทียบถึงการเดินทางครั้งใหม่ของ Hamanasu จนเป็น SRT Royal Blossom ซึ่งจะสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขและความพิเศษที่จะเกิดขึ้นกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟในประเทศไทย

สำหรับการตกแต่งภายในตัวรถ ได้ทำการตกแต่งด้วยความพิถีพิถัน โดยทำเบาะหุ้มที่นั่งใหม่เป็นเบาะกำมะหยี่ เปลี่ยนผ้าม่านที่สามารถปรับระดับได้ เปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นหลอด LED รวมถึง ส่วนประกอบหลักของงานตกแต่งที่ทำจากไม้สนซีดาร์ เป็นเนื้อไม้ที่มีความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน การติดตั้งบันไดทางขึ้น-ลง ที่ใช้สำหรับรองรับชานชาลาสูงและต่ำ โดยใช้วัสดุจากไม้สักและคลิบด้วยทองเหลืองแท้ที่พับเก็บได้ ตลอดจนการออกแบบหน้าต่างพร้อมกรอบโลหะสีทอง ที่มีขนาดความกว้างพิเศษ สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างกว่ารถโดยสารทั่วไป และยังติดตั้งเครื่องฟอกอากาศทุกตู้

ขณะที่งานด้านเทคนิค มีการปรับปรุงระบบห้ามล้อ และปรับปรุงแคร่และความกว้างของเพลาล้อใหม่ จากเดิม 1.067 เมตร ให้เป็นขนาด 1 เมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟไทย การปรับปรุงระบบปรับอากาศ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยนต์จากรถ Power Car ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางเสียงและอากาศ เปลี่ยนปลั๊กไฟจาก 110 โวลต์ ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ให้เป็น 220 โวลต์ โดยได้ติดตั้งปลั๊กแบบมาตรฐาน และ USB Port เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเปลี่ยนห้องสุขาให้เป็นระบบสุญญากาศระบบเดียวกับเครื่องบิน เปลี่ยนถังเก็บน้ำให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม รวมถึงเปลี่ยนชุดหัวสูบถ่ายจากถังเก็บสิ่งปฏิกูลที่สามารถใช้ร่วมกับรถโดยสารอื่นได้

สำหรับตู้โดยสารทั้ง 5 คัน แบ่งออกเป็น

ตู้ที่ 1 Group Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่มส่วนตัว จำนวน 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องสามารถรองรับได้ 4-6 คน สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว่า 180 องศา ประตูเซนเซอร์ มีทางเดินที่กว้างขวาง สะดวกสบายรองรับรถวีลแชร์ นอกจากนี้ ยังมีมีลิฟต์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว และห้องน้ำสำหรับรองรับผู้พิการด้วย

2. รถโดยสาร Passenger Car จำนวน 3 คัน โดยดัดแปลงเป็นห้องโดยสารแบบรวม มีทั้งหมด 48 ที่นั่ง/คัน โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อนได้ พร้อมทั้งช่องเสียบสาย USB ทุกที่นั่ง ซึ่งแต่ละตู้จะมีเบาะที่นั่งที่มีสีสันต่างกัน สื่อถึงการเดินทางในแต่ละครั้ง ผู้โดยสารจะได้รับความประทับใจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เปรียบเหมือนการเบ่งบานของดอกไม้ในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 ที่นั่งที่แยกออกมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

3. รถโดยสาร Leisure Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นรถเสบียง สำหรับให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้โดยสารสามารถมาใช้บริการหรือซื้อกลับไปรับประทานที่ตู้โดยสารได้ ภายในออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ให้อยู่ตรงกลางทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินด้านข้างได้ทั้ง 2 ด้าน มีพื้นที่กว้างขวางสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ และกระจกมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ บริเวณด้านท้ายตู้มีพื้นที่โล่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถมายืดเส้นยืดสายพักผ่อนอริยาบถได้อีกด้วย

ส่วนขบวนรถที่เหลืออีก 5 คัน การรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการปรับปรุง คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2567

โดยตู้รถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ของประเทศญี่ปุ่น ผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1988 เคยให้บริการเป็นขบวนรถด่วนที่มีชื่อว่า Hamanasu เส้นทางเชื่อมระหว่างเกาะฮอกไกโดข้ามไปเกาะฮอนชู จากสถานีซับโปโรไปถึงสถานีอะโอโมริ และให้บริการเที่ยวสุดท้ายที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 โดยชื่อ Hamanasu หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ดอกกุหลาบญี่ปุ่น ถือเป็นดอกไม้ประจำเกาะฮอกไกโดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการขบวนรถไฟท่องเที่ยวใหม่ SRT Royal Blossom จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และสร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตลอดจนเป็นการเปิดประสบการณ์เดินทางใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เกิดความประทับใจ รงมถึงช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืนสืบไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/03/2024 10:19 am    Post subject: Reply with quote

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
16 มี.ค. 67 08:25 น.

ย้อนดูสภาพรถไฟญี่ปุ่นมือ2ก่อนเป็น royal blossom
*ออกแบบใหม่หมดคันละ 8 ล้านหรูหราใช้นำเที่ยว
*ใช้งบปรับปรุงสูงกว่า“รถคิฮะ183”ตกคันละ2แสน

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/954323576144877
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/03/2024 7:39 am    Post subject: Reply with quote

เปิดโฉมรถไฟท่องเที่ยวน้องใหม่ ‘SRT Royal Blossom’
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Sunday, March 17, 2024 06:09

เจาะลึกที่มาขบวนรถไฟท่องเที่ยวน้องใหม่ “SRT Royal Blossom” หลัง ร.ฟ.ท. ซุ่มปรับโฉมจากรถไฟมือสองญี่ปุ่น เตรียมเปิดให้บริการกลางปีนี้

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รับมอบขบวนรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu (ฮามานะสุ) จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10 คัน ในราวปี 2561 โดยมีเป้าหมายปรับปรุงเพื่อให้บริการด้านการท่องเที่ยว

สำหรับตู้รถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ของประเทศญี่ปุ่นนี้ ผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1988 เคยให้บริการเป็นขบวนรถด่วนที่มีชื่อว่า Hamanasu เส้นทางเชื่อมระหว่างเกาะฮอกไกโดข้ามไปเกาะฮอนชู จากสถานีซับโปโรไปถึงสถานีอะโอโมริ และให้บริการเที่ยวสุดท้ายที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2559 โดยชื่อ Hamanasu หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ดอกกุหลาบญี่ปุ่น ถือเป็นดอกไม้ประจำเกาะฮอกไกโดนั่นเอง

โดยล่าสุด 15 มี.ค.ที่ผ่านมา นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ​รถไฟ​แห่ง​ประเทศไทย​ (ร.ฟ.ท.) เปิดหวูดทดลองขบวนรถโดยสาร Hamanasu ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จจำนวน 5 คัน พร้อมเผยถึงที่มาและแนวคิดของการปรับปรุงขบวนรถดังกล่าวสู่รถไฟท่องเที่ยวน้องใหม่ “SRT Royal Blossom”

“เมื่อรับมอบรถโดยสารนี้มาจากญี่ปุ่น พบว่ารถยังมีสภาพดีมาก แต่เมื่อรับมอบเสร็จแล้วขบวนรถถูกจอดทิ้งไว้ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นเวลานาน และการรถไฟฯ ยังไม่มีแผนว่าจะทำอะไรกับรถขบวนนี้ รวมถึงติดอุปสรรคเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทำให้ขบวนรถถูกทิ้งไว้ จนกระทั่งปี 2563 เมื่อได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ พบว่ารถยังมีสภาพดี จึงมอบหมายให้ฝ่ายช่างกลของการรถไฟฯ ปรับปรุงรถโดยสาร”

สำหรับแนวคิดของการปรับปรุงรถโดยสาร Hamanasu ชุดแรกจำนวน 5 คัน โจทย์เพื่อพัฒนารถไฟท่องเที่ยวเฉพาะที่มีความสวยงาม จากปกติที่ ร.ฟ.ท. มีรถโดยสารขบวนท่องเที่ยวอยู่แล้ว ยังไม่มีรถที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยวแบบนี้ เป็นขบวนรถที่มีสันทนาการบนรถ เพื่อตอบโจทย์ให้คนบนรถมีความรู้สึกว่ากำลังท่องเที่ยวอยู่ตลอดการเดินทาง โดยมีดีไซน์ที่สวยงาม มีสันทนาการ มีห้องคาเฟ่ และสำคัญคือขบวนรถนี้ปรับปรุงโดยฝีมือคนไทยทำทั้งนั้น

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน SRT Royal Blossom อยู่ระหว่างทดสอบความพร้อมของระบบ และเมื่อทดสอบแล้วเสร็จ มีกำหนดเริ่มให้บริการท่องเที่ยวในกลางปีนี้ โดยช่วงแรกจะให้บริการในเส้นทางระยะสั้น แบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้าเย็นกลับในเส้นทางยอดนิยม เช่น กาญจนบุรี​ หัวหิน ฉะเชิงเทรา​ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงให้บริการในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือให้บริการเช่าเหมาขบวนเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ ขณะที่ราคาค่าโดยสารยืนยันว่าจะเป็นราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง

นายนิรุฒ ยังเผยด้วยว่า ที่มาของชื่อขบวนรถ “SRT Royal Blossom” เนื่องจากต้องการแสดงออกถึงดอกราชพฤกษ์ ที่เป็นดอกไม้ประจำรัชกาลที่ 10 และเป็นดอกไม้ที่สื่อให้เห็นถึง “ยุคเบ่งบานของการรถไฟ” โดย ร.ฟ.ท.ยังได้ออกแบบโลโก้ STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE – 2022 คู่กับดอกราชพฤกษ์ ถูกวางบนหน้าปัดนาฬิกา ตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข 13 เป็นการเปรียบเทียบถึงการเดินทางครั้งใหม่ของ Hamanasu จนเป็น SRT Royal Blossom

สำหรับรายละเอียดการปรับปรุงรถโดยสารครั้งนี้ ประกอบด้วย ภายนอกตู้ SRT Royal Blossom ถูกแต่งแต้มสีสันภายนอกด้วยสีแดงเชอรี่ คาดทอง ส่วนภายนอกตัวรถ ได้มีการทำสีใหม่ให้เป็นเฉดสีแดงคาดลายสีทอง ซึ่งเป็นสีของกลีบดอกไม้ ที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขบวนรถไฟท่องเที่ยวชุดนี้ ส่วนด้านหน้าและด้านข้างตัวรถจะมีสัญลักษณ์โลโก้ประจำรถ SRT Royal Blossom

สำหรับการตกแต่งภายในตัวรถ ทำเบาะหุ้มที่นั่งใหม่เป็นเบาะกำมะหยี่ เปลี่ยนผ้าม่านที่สามารถปรับระดับได้ เปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นหลอด LED รวมถึงส่วนประกอบหลักของงานตกแต่งที่ทำจากไม้สนซีดาร์ เป็นเนื้อไม้ที่มีความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน การติดตั้งบันไดทางขึ้น-ลง ที่ใช้สำหรับรองรับชานชาลาสูงและต่ำ โดยใช้วัสดุจากไม้สักและคลิบด้วยทองเหลืองแท้ที่พับเก็บได้ ตลอดจนการออกแบบหน้าต่างพร้อมกรอบโลหะสีทอง ที่มีขนาดความกว้างพิเศษ สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างกว่ารถโดยสารทั่วไป และยังติดตั้งเครื่องฟอกอากาศทุกตู้

ขณะที่งานด้านเทคนิค มีการปรับปรุงระบบห้ามล้อ และปรับปรุงแคร่และความกว้างของเพลาล้อใหม่ จากเดิม 1.067 เมตร ให้เป็นขนาด 1 เมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟไทย การปรับปรุงระบบปรับอากาศ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยนต์จากรถ Power Car ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางเสียงและอากาศ เปลี่ยนปลั๊กไฟจาก 110 โวลต์ ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ให้เป็น 220 โวลต์ โดยได้ติดตั้งปลั๊กแบบมาตรฐาน และ USB Port เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเปลี่ยนห้องสุขาให้เป็นระบบสุญญากาศระบบเดียวกับเครื่องบิน เปลี่ยนถังเก็บน้ำให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม รวมถึงเปลี่ยนชุดหัวสูบถ่ายจากถังเก็บสิ่งปฏิกูลที่สามารถใช้ร่วมกับรถโดยสารอื่นได้

สำหรับตู้โดยสารทั้ง 5 คัน แบ่งออกเป็น

ตู้ที่ 1 รถโดยสาร Group Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่มส่วนตัว จำนวน 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องสามารถรองรับได้ 4-6 คน สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว่า 180 องศา ประตูเซนเซอร์ มีทางเดินที่กว้างขวาง สะดวกสบายรองรับรถวีลแชร์ นอกจากนี้ ยังมีมีลิฟต์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว และห้องน้ำสำหรับรองรับผู้พิการด้วย

ตู้ที่ 2 รถโดยสาร Passenger Car จำนวน 3 คัน โดยดัดแปลงเป็นห้องโดยสารแบบรวม มีทั้งหมด 48 ที่นั่งต่อคัน โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อนได้ พร้อมทั้งช่องเสียบสาย USB ทุกที่นั่ง ซึ่งแต่ละตู้จะมีเบาะที่นั่งที่มีสีสันต่างกัน เพื่อสื่อถึงการเดินทางในแต่ละครั้ง ผู้โดยสารจะได้รับความประทับใจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 ที่นั่งที่แยกออกมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย

ตู้ที่ 3 รถโดยสาร Leisure Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นรถเสบียง สำหรับให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้โดยสารสามารถมาใช้บริการหรือซื้อกลับไปรับประทานที่ตู้โดยสารได้ ภายในออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ให้อยู่ตรงกลางทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินด้านข้างได้ทั้ง 2 ด้าน มีพื้นที่กว้างขวางสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ และกระจกมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ บริเวณด้านท้ายตู้มีพื้นที่โล่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถมายืดเส้นยืดสายพักผ่อนอริยาบถได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงขบวนรถ Hamanasu ที่เหลืออีก 5 คัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ โดย ร.ฟ.ท. ตั้งเป้าให้การเปิดให้บริการขบวนรถไฟท่องเที่ยวใหม่ SRT Royal Blossom เป็นส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และสร้างรายได้ให้แก่องค์กร ตามเป้าหมายของแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดยุทธศาสตร์ “พลิกฟื้นธุรกิจหลัก” ส่วนหนึ่งจากการพัฒนาขบวนท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้ขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/03/2024 7:23 am    Post subject: Reply with quote

รถไฟขบวนใหม่เบิกบานใจ
Source - เดลินิวส์
Monday, March 18, 2024 05:21

พักผ่อนเต็มที่กลางธรรมชาติ ให้บริการกลางปี'วันเดย์ทริป'

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า การ รถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดตัวรถขบวนรถไฟ SRT Royal Blossom ชุดแรก 5 คัน โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมทั้งภายในและภายนอก ขบวนรถ พร้อมร่วมทดสอบขบวนรถในเส้นทาง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-ลำปาง เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา นายนิรุฒ กล่าวว่า ขบวนรถไฟ SRT Royal Blossom เป็นขบวนรถ "ฮามานะสุ (Hamanasu)" ที่รับมอบมาจาก JR Hokkaido ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปลายปี 59 รวม 10 คัน แบ่งเป็น

รถ OHA ชนิด 48 ที่นั่ง และ 72 ที่นั่ง รวม 5 คัน และรถ SUHAFU ชนิด 64 ที่นั่ง 5 คัน รฟท. ได้ออกแบบปรับปรุงใหม่คันละประมาณ 8 ล้านบาท ชุดแรก 5 คัน ปรับปรุงแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างทดสอบ จะเปิดบริการได้ประมาณกลางปี 67 นำร่องให้บริการเส้นทางระยะใกล้แบบไปเช้าเย็นกลับ อาทิ ฉะเชิงเทรา, กาญจนบุรี, หัวหิน และเขื่อนป่าสัก จ.ลพบุรี เป็นต้น อัตราค่าโดยสารทุกคนเข้าถึงได้ขึ้นอยู่กับระยะทาง และจะเป็นรถขบวนท่องเที่ยวที่ประชาชนทุกคนใช้บริการ ในลักษณะเดียวกับรถไฟ KIHA 183 ไม่ใช่เฉพาะการเช่าเหมาขบวนเท่านั้น

"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า SRT Royal Blossom ถูกออกแบบด้วยธีมความเป็นธรรมชาติ เป็นขบวนรถที่ให้ผู้โดยสารได้นั่งชื่นชมกับวิวธรรมชาติ ป่า เขา ในระหว่างเดินทางได้อย่างแท้จริงโดยได้นำแบบที่ รฟท. ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ออกแบบมาปรับปรุง และต่อยอดใหม่ ซึ่งรถ "ฮามานะสุ" เดิมนั้นมีความหมายว่า กุหลาบป่า ในการออกแบบจึงมองหาดอกไม้ของไทยที่มีความเหมาะสมและมาสรุปกันที่ดอกชัยพฤกษ์ ซึ่งมีสีสัน 3-4 สีในดอกเดียวกัน และนำสีของดอกไม้นี้ มาเป็นโทนของการทำสีของขบวนรถไฟในส่วนต่าง ๆ โดยออกดอกครั้งแรกเป็นสีขาว เกสรสีเหลือง พอเริ่มบานจะเป็นสีชมพูจนเป็นสีแดงเข้ม ขณะที่กิ่งก้านใบไม้จะเป็นสีเขียว

เมื่อธีมของรถคือความเป็นธรรมชาติ และความสดใสของดอกไม้ การตกแต่งภายในตัวรถจุดเด่นจึงเน้นงานไม้ทั้งหมด และสีที่ใช้จะเน้นเป็นสีอบอุ่น ใช้สีที่สดใส และไม่เข้ม เพื่อให้รู้สึกสบายตา เป็นการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของผู้โดยสารที่แท้จริง วัสดุที่จะนำมาตกแต่งภายในตัวรถจึงไม่ได้เลือกใช้ไม้สักของไทยเพราะสีจะเข้มและเมื่อใช้งานไปสักระยะจะมีการหดตัวได้ จึงเลือกใช้ไม้สนซีดาร์ ซึ่งมีอยู่ในประเทศ อาทิ แคนาดา และนิวซีแลนด์เป็นต้น ซึ่งสีไม้มีความสว่าง สดใส ขณะที่พื้นรถ และผนังจะใช้ไม้เทียม ส่วนบันได้เทียบชานชาลาเป็นจุดเดียวที่ใช้ไม้สักแผ่นเดียว และขลิบด้วยทองเหลืองแท้ที่พับเก็บได้ เพราะอยู่นอกตัวรถ ต้องอาศัยความทนทาน ปลวกไม่กิน เป็นจุดที่ต้องเดินย่ำขึ้นย่ำลงค่อนข้างมาก

ครั้งแรกจะใช้คำว่า "Blossom" เพียงคำเดียว เป็นนิยามที่ต้องการสื่อว่าเป็นช่วงเวลาเบ่งบานของการเดินทางแบบธรรมชาติ และเข้าสู่ยุคการเบ่งบานของ รฟท. แต่เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าใช้คำเดียวสั้นเกินไป จึงได้เพิ่มคำว่า "Royal" ซึ่งสื่อถึงความหรูหราเพิ่มเติมเข้าไป สำหรับขบวนรถคันนี้ มี 5 คัน แบ่งเป็น 1. Group Car 1 คัน เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่ม ส่วนตัว 4 ห้อง, 2. Passenger Car 3 คัน เป็นห้องโดยสารแบบรวม และ 3. Leisure Car 1 คัน เป็นรถเสบียง ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รฟท. จะเร่งปรับปรุงรถที่เหลืออีก 5 คัน ให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 67.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 19 มี.ค. 2567 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 18/03/2024 10:59 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เปิดโฉมรถไฟท่องเที่ยวน้องใหม่ ‘SRT Royal Blossom’
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Sunday, March 17, 2024 06:09


เปิดโฉม! รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ดัดแปลงจากญี่ปุ่น พร้อมบริการกลางปีนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 01:56 น.
ปรับปรุง: วันอาทิตย์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09:44 น.

ผู้ว่าฯ รฟท.โชว์รถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ชุดแรก 5 คัน ดัดแปลงมาจากรถญี่ปุ่น Hamanasu ดีไซน์สุดสวยสีแดงเชอร์รีคาดทอง ตกแต่งด้วยไม้สนซีดาร์ กระจกกว้างพิเศษ ตั้งเป้าเปิดให้บริการกลางปี 67 เล็งเส้นทางกาญจนบุรี, ฉะเชิงเทรา, หัวหิน

วันที่ 15 มี.ค. 2567 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำคณะสื่อมวลชนชมขบวนรถไฟท่องเที่ยว "SRT Royal Blossom" ซึ่งเป็นขบวนรถโดยสารที่ รฟท.ได้รับมอบจากประเทศญี่ปุ่น และนำมาดัดแปลงเป็นขบวนท่องเที่ยว แล้วเสร็จชุดแรกจำนวน 5 คัน และได้นำขบวนพ่วงทดสอบความสมบูรณ์

นายนิรุฒเปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้รับมอบรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu (ฮามานะสุ) จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 10 คัน ประกอบด้วย รถรุ่น SUHAFU (มีเครื่องยนต์ปั่นไฟ) 5 คัน และรถรุ่น OHA (ไม่มีเครื่องยนต์ปั่นไฟ) 5 คัน ซึ่งเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท.เห็นขบวนรถจอดอยู่ที่ศรีราชา และพบว่าโครงสร้างรถยังดี จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายการช่างกลดำเนินการปรับปรุงตู้โดยสารให้มีความพร้อมสำหรับใช้เป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยว เพื่อช่วยเสริมศักยภาพในการเดินทาง และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างงาน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

การปรับปรุงรถเป็นฝีมือคนไทยทั้งหมด โดยแนวคิดต้องการให้เป็นรถเพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีสันทนาการบนรถ ออกแบบหน้าต่าง บานกระจกกว้างเป็นพิเศษ เพื่อให้สัมผัสบรรยากาศวิวสองข้างทางอย่างเต็มที่ มีมุมคาเฟ่บริการ สร้างความรู้สึกว่าได้ท่องเที่ยวอย่างเต็มที่



ล่าสุดฝ่ายการช่างกล การรถไฟฯ ได้แจ้งถึงการปรับปรุงรถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ชุดแรกใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 5 คัน ภายใต้ชื่อ “SRT Royal Blossom” โดยจะใช้สำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องหลังจากประสบความสำเร็จในการปรับปรุงขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 ที่สามารถสร้างรายได้ให้การรถไฟฯ และสร้างความประทับใจแก่ประชาชนนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

ปัจจุบันตู้ SRT Royal Blossom อยู่ระหว่างทดสอบความพร้อมและความปลอดภัยของระบบ และเมื่อทดสอบแล้วเสร็จมีกำหนดเริ่มให้บริการท่องเที่ยวช่วงกลางปี 2567 ในเส้นทางระยะสั้นแบบวันเดย์ทริป/พักค้างคืน และให้บริการในช่วงเทศกาลสำคัญ หรือให้บริการเช่าเหมาขบวน ตามความเหมาะสมต่อไป

"ช่วงแรกมองเส้นทางที่มีศักยภาพทางท่องเที่ยว เช่น กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา หัวหิน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ส่วนราคาประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ส่วนรถชุดที่ 2 อีก 5 คัน นั้นคาดว่าจะปรับปรุงเสร็จปลายปีนี้"



นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ รฟท.ให้รายละเอียดการปรับปรุงว่า ภายนอกตู้ SRT Royal Blossom ถูกแต่งแต้มสีสันภายนอกด้วยสีแดงเชอร์รีคาดทอง ส่วนภายนอกตัวรถ ได้มีการทำสีใหม่ให้เป็นเฉดสีแดงคาดลายสีทอง ซึ่งเป็นสีของกลีบดอกไม้ที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขบวนรถไฟท่องเที่ยวชุดนี้ ส่วนด้านหน้าและด้านข้างตัวรถจะมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้ “STATE RAILWAY OF THAILAND ROYAL BLOSSOM SINCE - 2022 คู่กับดอกราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำรัชกาลที่ ๑๐ ถูกวางบนหน้าปัดนาฬิกา ตัวเลขโรมัน และเข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข 13 เป็นการเปรียบเทียบถึงการเดินทางครั้งใหม่ของ Hamanasu จนเป็น SRT Royal Blossom ซึ่งจะสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขและความพิเศษที่จะเกิดขึ้นกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟในประเทศไทย

สำหรับการตกแต่งภายในตัวรถ ได้ทำการตกแต่งด้วยความพิถีพิถัน โดยทำเบาะหุ้มที่นั่งใหม่เป็นเบาะกำมะหยี่ เปลี่ยนผ้าม่านที่สามารถปรับระดับได้ เปลี่ยนหลอดไฟให้เป็นหลอด LED รวมถึงส่วนประกอบหลักของงานตกแต่งที่ทำจากไม้สนซีดาร์ เป็นเนื้อไม้ที่มีความสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน การติดตั้งบันไดทางขึ้น-ลง ที่ใช้สำหรับรองรับชานชาลาสูงและต่ำ โดยใช้วัสดุจากไม้สักและขลิบด้วยทองเหลืองแท้ที่พับเก็บได้ ตลอดจนการออกแบบหน้าต่างพร้อมกรอบโลหะสีทอง ที่มีขนาดความกว้างพิเศษ สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างกว่ารถโดยสารทั่วไป และยังติดตั้งเครื่องฟอกอากาศทุกตู้

ขณะที่งานด้านเทคนิค มีการปรับปรุงระบบห้ามล้อ และปรับปรุงแคร่และความกว้างของเพลาล้อใหม่ จากเดิม 1.067 เมตร ให้เป็นขนาด 1 เมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟไทย การปรับปรุงระบบปรับอากาศ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าโดยใช้เครื่องยนต์จากรถ Power Car ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางเสียงและอากาศ เปลี่ยนปลั๊กไฟจาก 110 โวลต์ ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ให้เป็น 220 โวลต์ โดยได้ติดตั้งปลั๊กแบบมาตรฐาน และ USB Port เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเปลี่ยนห้องสุขาให้เป็นระบบสุญญากาศระบบเดียวกับเครื่องบิน เปลี่ยนถังเก็บน้ำให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม รวมถึงเปลี่ยนชุดหัวสูบถ่ายจากถังเก็บสิ่งปฏิกูลที่สามารถใช้ร่วมกับรถโดยสารอื่นได้



สำหรับตู้โดยสารทั้ง 5 คัน แบ่งออกเป็น

ตู้ที่ 1 Group Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่มส่วนตัว จำนวน 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องสามารถรองรับได้ 4-6 คน สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว่า 180 องศา ประตูเซ็นเซอร์ มีทางเดินที่กว้างขวาง สะดวกสบายรองรับรถวีลแชร์ นอกจากนี้ ยังมีมีลิฟต์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว และห้องน้ำสำหรับรองรับผู้พิการด้วย

2. รถโดยสาร Passenger Car จำนวน 3 คัน โดยดัดแปลงเป็นห้องโดยสารแบบรวม มีทั้งหมด 48 ที่นั่ง/คัน โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อนได้ พร้อมทั้งช่องเสียบสาย USB ทุกที่นั่ง ซึ่งแต่ละตู้จะมีเบาะที่นั่งที่มีสีสันต่างกัน สื่อถึงการเดินทางในแต่ละครั้งผู้โดยสารจะได้รับความประทับใจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เปรียบเหมือนการเบ่งบานของดอกไม้ในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 ที่นั่งที่แยกออกมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว



3. รถโดยสาร Leisure Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นรถเสบียง สำหรับให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้โดยสารสามารถมาใช้บริการหรือซื้อกลับไปรับประทานที่ตู้โดยสารได้ ภายในออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ให้อยู่ตรงกลางทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินด้านข้างได้ทั้ง 2 ด้าน มีพื้นที่กว้างขวางสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ และกระจกมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ บริเวณด้านท้ายตู้มีพื้นที่โล่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถมายืดเส้นยืดสายพักผ่อนอิริยาบถได้อีกด้วย

ส่วนขบวนรถที่เหลืออีก 5 คัน การรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการปรับปรุง คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในช่วงกลางปี 2567



ทั้งนี้ ตู้รถโดยสารชนิดนั่งปรับอากาศ Hamanasu ของประเทศญี่ปุ่นผลิตเมื่อปี ค.ศ. 1988 เคยให้บริการเป็นขบวนรถด่วนที่มีชื่อว่า Hamanasu เส้นทางเชื่อมระหว่างเกาะฮอกไกโดข้ามไปเกาะฮอนชู จากสถานีซับโปโรไปถึงสถานีอะโอโมริ และให้บริการเที่ยวสุดท้ายที่เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 โดยชื่อ Hamanasu หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ดอกกุหลาบญี่ปุ่น ถือเป็นดอกไม้ประจำเกาะฮอกไกโดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการขบวนรถไฟท่องเที่ยวใหม่ SRT Royal Blossom จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และสร้างรายได้ให้แก่การรถไฟฯ ตลอดจนเป็นการเปิดประสบการณ์เดินทางใหม่ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เกิดความประทับใจ รวมถึงช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืนสืบไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 18/03/2024 11:02 am    Post subject: Reply with quote


คนญี่ปุ่นตะลึง! ช่างไทยฝีมือขั้นเทพ ชุบชีวิตซากรถไฟเก่า กลายเป็นรถไฟสุดหรู คอมเมนต์ชาวญี่ปุ่น
https://www.youtube.com/watch?v=M3Kvn5aH_YM
Back to top
View user's profile Send private message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 24/03/2024 3:47 pm    Post subject: Reply with quote

รีวิวรถไฟใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM สวยฉ่ำ ! | ลองแล้ว | EP.91

Spring News
Mar 24, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=AWqnjLBokAU
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/03/2024 8:23 am    Post subject: Reply with quote

แปดริ้วจัดงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว
Source - เดลินิวส์
Friday, March 29, 2024 04:31

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดฉะเชิงเทราหรือแปดริ้วที่ประชาชนทั่วประเทศรู้จักกันดีเพราะมีองค์หลวงพ่อพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแปดริ้วเป็นจังหวัดหนึ่งของภาคตะวันออก มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ตั้งของจังหวัดฉะเชิงเทราหรือว่าเมืองแปดริ้วอยู่สองฝั่งลำน้ำบางปะกง ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก โดยอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของดินและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่มอบให้แก่ลูกหลาน ภูมิประเทศของจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นที่ราบลุ่มและราบลูกฟูก บริเวณสองฝั่งแม่น้ำบางปะกงเกษตรกรจะใช้เพาะปลูก ข้าว ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ส่วนพื้นที่ราบลูกฟูกห่างจากสองฝั่งแม่น้ำบางปะกงก็จะปลูกพืชไร่ เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของจังหวัดฉะเชิงเทรานั้นมีคุณภาพดีที่สุด เป็นต้นกำเนิดของข้าวหอมมะลิ และถ้าเอ่ยถึงไม้ผลแล้วก็ต้องเป็นมะม่วงที่โด่งดังมาแต่อดีตมีรสชาติดีถูกใจผู้บริโภค เช่น เขียวเสวย น้ำดอกไม้ ฟ้าลั่น เจ้าคุณทิพย์ โชคอนันต์ แรด ทวายเดือนเก้า หงส์สา ขายตึก อกร่อง และน้ำดอกไม้สีทอง เป็นที่รู้จักของประชาชนคนไทยและต่างประเทศ สามารถทำรายได้ให้แก่จังหวัดเป็นมูลค่านับพันล้านบาท และเพื่อเป็นการส่งเสริมการจำหน่าย เผยแพร่ชื่อเสียงมะม่วงและของดีจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายแก่ประชาชนทั่วไป จึงได้จัดงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว ครั้งที่ 53 ปี 2567" ในระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-7 เมษายน 2567 ณ บริเวณสนามโรงเรียนวัดโสธรฯ อ.เมืองฉะเชิงเทรา

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา สหกรณ์ชมรมชาวสวนจังหวัดฉะเชิงเทรา จำกัด และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออกจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกัน จัดงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้วขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้จัดเป็นปีที่ 53 ซึ่งการจัดงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้วในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการตลาด เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพบผู้บริโภคโดยตรง และเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนมะม่วงของจังหวัดฉะเชิงเทราในการจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพ รวมถึงเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทราอีกทางหนึ่งโดยในปีที่ผ่านมาเกิดรายได้จากการจัดงานคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10.7 ล้านบาท ภายในงานจะได้พบกับศูนย์รวมความสุดยอดของจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ 1. สุดยอดมะม่วงและผลไม้เด่นของจังหวัดที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP อาหารปลอดภัย,GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ 2. สุดยอดกิ่งพันธุ์ คุณภาพมาตรฐาน ทั้งมะม่วงไม้ผลอื่น ๆ 3. สุดยอดขนมหวาน และผลิตภัณฑ์แปรรูปของดีเมืองแปดริ้ว 4. สุดยอดไข่ไก่คุณภาพ และปลากัดนักสู้สายพันธุ์ดี ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกันแบบเกษตรกรอยู่ได้ ผู้ซื้อถูกใจ ซื้อแล้วจะต้องมีการกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง

นายชลธียังกล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญภายในงานอีกอย่างคือ จุดเช็กอินจังหวัดฉะเชิงเทราได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการจัดทำจุดเช็กอินในยุค Smart City เพื่อให้ประชาชนผู้มาเที่ยวงานได้ร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สร้างความทรงจำที่ดีในการมาเที่ยวงาน ให้สอดคล้องกับการเป็นเมือง Smart City ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ผู้มาเที่ยวงานได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รับของรางวัลจากการร่วมสนุกภายในงาน กิจกรรมการลด แลก แจก แถม และนาทีทองซื้อมะม่วงราคาถูก ที่จะมีภายในงานทุกวัน และในปีนี้จังหวัดฉะเชิงเทราได้ประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดรถไฟขบวน KIHA 183 เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา เพื่อพานักท่องเที่ยวแบบ One Day Trip มาร่วมชิมข้าวเหนียวมูน และมะม่วง ในช่วงวันที่ 30-31 มีนาคม ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นการโปรโมตเส้นทางการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทราที่ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกัน เกษตรกรอยู่ได้ ผู้ซื้อถูกใจ ผู้ขายมีรายได้ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนขึ้นภายในจังหวัด นอกจากนี้ภายในงานได้จัดในรูปแบบภายใต้คอนเซปต์ "Smart Market No Alcohol No Foam" เน้นการใช้จ่าย ซื้อง่าย ขายคล่อง

นอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูปจากภูมิปัญญาที่ได้รับการคัดสรรเป็นสินค้า ผลิต สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ระดับห้าดาว เช่น มะม่วงแปรรูป กล้วยแปรรูป หัตถกรรมจักสาน เครื่องประดับจากเขาสัตว์และกระดูกสัตว์ พันธุ์ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ พันธุ์ไม้หายากจากทุกภูมิภาค กิ่งมะม่วงพันธุ์ดี เฟอร์นิเจอร์ผลิตภัณฑ์จากไม้ และอื่น ๆ นำสินค้าของตนเองที่เป็นของดีเมืองแปดริ้วมาจำหน่ายโดยตรง โดยงานเริ่มตั้งแต่ 09.00-21.00 น.ทุกวัน.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 มี.ค. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44663
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/04/2024 8:02 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เปิดโปรแกรมท่องเที่ยวขบวน KIHA 183 เดือน พ.ค.-มิ.ย. รวม 14 ทริป 9 เส้นทาง
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Saturday, April 20, 2024 19:47

การรถไฟฯ ชวนเที่ยวทริปสุดพิเศษกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ประจำเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน จำนวน 14 ทริป 9 เส้นทาง ทุกไลฟ์สไตล์”สายมู สายธรรมชาติ และสายชอป ชิม ชิว”เปิดจำหน่ายตั๋ว 22 เม.ย.นี้

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2567 การรถไฟฯ ขอเชิญชวนท่องเที่ยวทริปพิเศษ กับขบวนรถไฟ KIHA 183 ภายใต้คอนเซ็ปท่องไปตามสายลมในเดือนพฤษภาคม และฟ้าใส ป่าโปร่ง พฤกษานานาพรรณในเดือนมิถุนายน รวม 14 ทริป 9 เส้นทาง โดยพาทุกท่านร่วมเดินทางไปในเส้นทาสายต่างๆ หลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งสายมู สายธรรมชาติ และสายชอป ชิม ชิว ทั้งแบบไปเช้ากลับเย็น หรือแบบพักค้างคืน ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตลอด 2 เดือนเต็ม

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป จำกัดจำนวน 202 ที่นั่งต่อทริปเท่านั้น ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคารวมค่าโดยสารรถไฟ ค่ารถบัสปรับอากาศ ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ พร้อมอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็มตลอดการเดินทาง รวมทั้ง ค่าประกันอุบัติเหตุ โดยจองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ และช่องทางการจำหน่ายตั๋วระบบออนไลน์ D - Ticket ของการรถไฟฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับรายละเอียด ทริปท่องเที่ยวทางรถไฟ กับขบวนรถ KIHA 183 ประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน มีรายละเอียด ดังนี้

เดือนพฤษภาคม : ท่องไปตามสายลม

ทริปที่ 1 และ 2 แบบไปเช้าเย็นกลับ (วันที่ 4 และ 5 พฤษภาคม 67) โปรแกรม Unseen แห่งใหม่ สายลมพลังบวก จังหวัดสระบุรี พาเที่ยววัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตลาดสร้างสุข ชุมชนร่วมสร้าง สักการะพระพุทธบาทเขาน้อย หอนมสิการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม Unseen แห่งใหม่ของไทย คนละ 1,499 บาท
ทริปที่ 3 แบบค้างคืน (วันที่ 11 - 12 พฤษภาคม 67) โปรแกรม Night Run on the beach กับสายลมแห่งทะเล จังหวัดชลบุรี พาไปเล่นน้ำทะเล เกาะติดกิจกรรม Night Run On The Beach (Doraemon Run) พาเล่นน้ำทะเลให้ชุ่มฉ่ำใจ คนละ 3,999 บาท
ทริปที่ 4 และ 5 แบบไปเช้าเย็นกลับ (วันที่ 18 และ 19 พฤษภาคม 67) โปรแกรม ท่องนครล่องธารา ลมพัดพา เที่ยวเพลินใจ จังหวัดฉะเชิงเทรา พาล่องเรือชมวิถีชีวิตชุมชนสองฟากฝั่งแม่น้ำบางปะกง ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดวีระโชติธรรมาราม ชมพระอุโบสถแก้วกลางน้ำราชพรหมยานอนุสรณ์ คนละ 1,499 บาท
ทริปที่ 6 แบบค้างคืน (วันที่ 25 - 26 พฤษภาคม 67) โปรแกรม เสน่ห์เมืองเพชร กับสายลมแห่งรัก จังหวัดเพชรบุรี พาชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน สักการะองค์พ่อปู่พญาศรีเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช สนุกกับกิจกรรม “เสน่ห์ทะเลบ้านฉัน” ปั่นจักรยานสองแรงปั่น เล่นน้ำทะเล ฮาเฮกับบานาน่าโบ๊ท คนละ 3,999 บาท

เดือนมิถุนายน : ฟ้าใส ป่าโปร่ง พฤกษานานาพรรณ

ทริปที่ 7 และ 8 แบบไปเช้าเย็นกลับ (วันที่ 1 และวันที่ 2 มิถุนายน 67) โปรแกรม ท่องเมืองสองบุรี ยางนาป่าบางเลา จังหวัดลพบุรี ชวนปลูกต้นยางนา สร้างบ้านให้นกแก้วหัวแพร สัมผัสวิถีชุมชน “ลาวเวียง” และพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยแห่งเมืองสิงห์บุรี คนละ 1,499 บาท
ทริปที่ 9 แบบค้างคืน (วันที่ 8 - 9 มิถุนายน 67) โปรแกรม ขุนด่านปราการชล ป่าต้นน้ำ จังหวัดฉะเชิงเทรา - นครนายก พาเล่นน้ำตกนางรอง ล่องเรือยาง ขุนด่านปราการชล น้ำตกช่องลม ชมฝูงผีเสื้อสวยงาม พาเที่ยวถ้ำวงศ์รัตนมณีมหานครนาคราช คนละ 3,999 บาท
ทริปที่ 10 และ 11 แบบไปเช้าเย็นกลับ (วันที่ 15 และ 16 มิถุนายน 67) โปรแกรม เสน่ห์ตะวันออก ปลูกป่ากาสะลอง จังหวัดปราจีนบุรี พาเที่ยววัดแก้วพิจิตร พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วนอุทยานเขาอีโต้ ร่วมกิจกรรมปล่อยปลา ปลูกป่ากาสะลอง ชิม ชอป สินค้าชุมชนและผลิตผลทางการเกษตร คนละ 1,499 บาท
ทริปที่ 12 แบบค้างคืน (วันที่ 22 - 23 มิถุนายน 67) โปรแกรม หาดสวย ฟ้าใส สวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พาไปเล่นน้ำทะเลที่หาดสวนสนประดิพัทธ์ เที่ยวชมอุทยานราชภักดิ์ วัดห้วยมงคล อ่างเก็บน้ำเขาเต่า โครงการชลประทานตามรอยพระราชดำริแห่งแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 พาเที่ยวตลาดชิกกาด้า และเมืองหัวหิน คนละ 3,999 บาท
ทริปที่ 13 และ 14 แบบไปเช้าเย็นกลับ (วันที่ 29 และ 30 มิถุนายน 67) โปรแกรม ปลูกป่า ดำนา พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พาชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง “บ้านของพ่อ” ล่องเรือชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ชมวัดใหญ่ชัยมงคล ชวนกัน check-in ที่หมู่บ้านญี่ปุ่น คนละ 1,499 บาท

นายเอกรัช กล่าวว่า การจัดขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน ของจังหวัดต่าง ๆ ตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่ต้องการให้การรถไฟฯ เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังทำให้มีการใช้บริการทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ดาวน์โหลดโปรแกรม #ท่องไปตามสายลม และ #ฟ้าใส ป่าโปร่ง พฤกษานานาพรรณ แบบ 📚E - book ที่

https://online.fliphtml5.com/ctvfc/smrm/

แบบไฟล์ PDF #ท่องไปตามสายลม #ฟ้าใส ป่าโปร่ง พฤกษานานาพรรณ

https://drive.google.com/file/d/1N9sd3jnllD1QjjSzg2jGBoinlHSqTWKz/view?usp=sharing


SRT Announces KIHA 183 Train Excursions for May and June

April 20, 2024 – The State Railway of Thailand (SRT) invites passengers on a series of special excursions aboard the KIHA 183 train throughout May and June 2024. With 14 trips across nine routes, the program offers something for everyone – from cultural exploration to outdoor adventure and shopping.

"We're excited to showcase the beauty of Thailand's diverse landscapes with these unique train experiences," said Ekarat Sriarayanphong, Head of the Governor's Office at the State Railway of Thailand. "Passengers can expect comfortable journeys, stunning destinations, and activities tailored to suit their interests."

Ticket sales open on April 22nd. Seats are limited to 202 per trip and include train fare, air-conditioned bus transportation, entrance fees, food, drinks, and accident insurance. Reservations can be made at train stations across Thailand or via the railway's D-Ticket online sales channel. For more information, please contact the Customer Service Center at 1690.

KIHA 183 Excursion Details:

May: Traveling with the Wind

Trips 1 & 2 (May 4 & 5): Discover hidden gems in Saraburi Province, including Bodhisattva Cave Temple and Khao Noi's Buddha footprint [1,499 baht].

Trip 3 (May 11-12): Enjoy a beach getaway in Chonburi Province, complete with a "Night Run on the Beach" event [3,999 baht].

Trips 4 & 5 (May 18 & 19): Explore Chachoengsao Province with a boat trip on the Bang Pakong River and visits to sacred temples [1,499 baht].

Trip 6 (May 25-26): Experience the charm of Phetchaburi Province, including Maruekhathaiyawan Palace and seaside activities [3,999 baht].

June: Clear Skies, Lush Forests

Trips 7 & 8 (June 1 & 2): Visit Lopburi Province to plant 'Yang Na' trees, support a parrot conservation project, and explore a contemporary museum [1,499 baht].

Trip 9 (June 8-9): Discover waterfalls and stunning natural beauty in Chachoengsao and Nakhon Nayok Provinces [3,999 baht].

Trips 10 & 11 (June 15 & 16): Explore Prachinburi Province, visiting temples, planting trees, and shopping for local products [1,499 baht].

Trip 12 (June 22-23): Enjoy the beaches and cultural attractions of Prachuap Khiri Khan Province [3,999 baht]

Trips 13 & 14 (June 29 & 30): Learn about sustainable agriculture and explore historical sites in Phra Nakhon Si Ayutthaya Province [1,499 baht].
Important Notes:

- Prices are listed per person.
- Trips are offered on Saturdays and Sundays throughout May and June.
- Some trips are day trips, others are overnight.

About SRT

The State Railway of Thailand (SRT) is committed to providing safe and convenient rail travel while supporting domestic tourism and economic development.

Contact:
SRT Customer Service Center
1690
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถจักร, รถดีเซลราง และรถพ่วงต่างๆ ของไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 32, 33, 34
Page 34 of 34

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©