Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311376
ทั่วไป:13304400
ทั้งหมด:13615776
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 64, 65, 66
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/04/2024 6:46 pm    Post subject: Reply with quote

“กรมราง” ประสานจัด 6 ขบวนรถไฟเสริม 16-17 เม.ย.นี้ รองรับผู้โดยสารกลับกรุงเทพฯ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Monday, April 15, 2024 15:28

“กรมราง” ประสาน รฟท. จัดขบวนรถเสริมพิเศษ 16-17 เม.ย.นี้ 6 ขบวน รองรับประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมเน้นย้ำผู้ประกอบการรถไฟฟ้า เพิ่มความถี่ในการให้บริการ ควบคุมปริมาณผู้โดยสาร สถานีสยาม-ชิดลม-พระราม 9-มักกะสัน ภาพรวมเดินทางระบบราง 4 วัน 4.7 ล้านคน

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15-16 เม.ย.67 คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่างๆ สู่กรุงเทพฯ โดยขร. ได้ประสานไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 16 และ17 เม.ย.67 รวม 6 ขบวน รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสาร เพื่อให้เพียงพอ และรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ส่วนทางด้านรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา นอกจากนี้ยังประสานเพิ่มความถี่ในการให้บริการรถไฟฟ้า เพื่อรองรับช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความนิยม รวมทั้งกำชับเรื่องการควบคุมปริมาณผู้โดยสารในสถานีรถไฟฟ้าและในขบวนรถไฟฟ้าให้อยู่ในระดับปริมาณที่เหมาะสม(crowd control) อาทิ สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีพระราม 9 สถานีมักกะสัน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการระบบรางอีกด้วย

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.67 ซึ่งเป็นวันครอบครัวนับเป็นวันที่สี่ของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 67 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวม 1,070,251 คน-เที่ยว ซึ่งสูงกว่าประมาณการ 71,582 คน-เที่ยวหรือสูงกว่าประมาณการ 7.17% (ประมาณการ 998,669 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. 76,429 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) 993,822 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 3 คน) มีรายละเอียด ดังนี้ รถไฟระหว่างเมือง ให้บริการรวม 209 ขบวน(รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 1 ขบวน คือ ขบวน 5 กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ มีผู้ใช้บริการ 396 คน-เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 76,429 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 12,827 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น20.17% (วันที่ 14 เม.ย.66 ผู้ใช้บริการรถไฟ 63,602 คน-เที่ยว) แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 12,349 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการ 13.91% (ประมาณการ 88,778 คน-เที่ยว)

แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,581 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 43,848 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออก37,568 คน-เที่ยว และขาเข้า 38,861 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,443 คน-เที่ยว (ขาออก 13,263 คน-เที่ยว ขาเข้า 14,180 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 18,504 คน-เที่ยว (ขาออก 8,964 คน-เที่ยว ขาเข้า 9,540 คน-เที่ยว) สายเหนือ 12,689 คน-เที่ยว (ขาออก 6,643 คน-เที่ยวขาเข้า 6,046 คน-เที่ยว) สายมหาชัยและแม่กลอง 9,648 คน-เที่ยว (ขาออก 4,695 คน-เที่ยว ขาเข้า 4,953 คน-เที่ยว) และสายตะวันออก 8,145 คน-เที่ยว (ขาออก 4,003 คน-เที่ยว ขาเข้า 4,142 คน-เที่ยว)

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ส่วนระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,368 เที่ยว (รวมเสริม 24 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวม 993,822 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 250,051 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น33.62% (วันที่ 14 เม.ย.66 ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า 743,771 คน-เที่ยว) แต่ยังน้อยกว่าประมาณการ 12,349 คน-เที่ยวหรือต่ำกว่าประมาณการ 13.91% (ประมาณการ 88,778 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 173 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 54,632 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน 12,651 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 30.14%)

รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 18,965 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 3 คน-เที่ยว) (เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน 6,973 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 58.15%), รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 220 เที่ยว (รวมเที่ยวเสริม 2 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการ 31,889 คน-เที่ยว(เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน 15,892 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 99.34%), รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 272 เที่ยว (รวมรถเสริม 22 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการ 263,503 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน87,048 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 49.33%)

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 760 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 553,548 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน 67,568 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 13.90%), รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 11,546 คน- เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 14 เม.ย.66 จำนวน 180 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 1.58%), รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 26,206 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 33,533 คน-เที่ยว ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 2 ครั้ง และเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้า 1 ครั้ง

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเดินทางสะสม 4 วันที่ผ่านมา มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้น4,720,371 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 4 วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 830,981 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 21.37% (11-14 เม.ย.66 จำนวน 3,889,390 คน-เที่ยว) และสูงกว่าประมาณการ 23,934 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการ0.51% (ประมาณการ 4,696,437 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมือง 324,424 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา40,582 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 14.30%) และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) 4,395,947 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 50 คน) (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา790,399 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 21.92%).
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/04/2024 7:03 am    Post subject: Reply with quote

จัด 6 ขบวนรถไฟเสริม ขนคนกลับ กทม. 16-17 เม.ย.นี้
ฐานเศรษฐกิจ
15 เม.ย. 2567 | 16:50 น.

กรมราง ประสาน รฟท. จัดขบวนรถเสริมพิเศษ 6 ขบวน ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ รองรับประชาชนเดินทางกลับกทม. พร้อมจัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าว

เทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัดจำนวนไม่น้อย ล่าสุด นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 15-16 เม.ย. 67 คาดการณ์ว่า จะมีประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่าง ๆ สู่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางราง ได้ประสานไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 16 และ 17 เม.ย. 67 รวม 6 ขบวน รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสารเพื่อให้เพียงพอ และรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน ทั้งยังเน้นย้ำเรื่องขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน ให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว

ส่วนทางด้านรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบความสมบูรณ์ พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆ ภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา

นอกจากนี้ได้ประสานเพิ่มความถี่ในการให้บริการรถไฟฟ้า เพื่อรองรับช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความนิยม รวมทั้งกำชับเรื่องการควบคุมปริมาณผู้โดยสารในสถานีรถไฟฟ้าและในขบวนรถไฟฟ้า ให้อยู่ในระดับปริมาณที่เหมาะสม (crowd control) อาทิ สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีพระราม 9 สถานีมักกะสัน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการระบบรางอีกด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/04/2024 4:41 pm    Post subject: Reply with quote

“สงกรานต์ 5 วัน” ประชาชนนั่งรถไฟ-รถไฟฟ้า 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.65%
เดลินิวส์16 เมษายน 2567 15:57 น.
นวัตกรรมขนส่ง

หยุดสงกรานต์ 5 วัน ประชาชนใช้บริการนั่งรถไฟ-รถไฟฟ้า 5.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.65% ประสาน รฟท. จัดขบวนรถเสริมพิเศษ 6 ขบวน พร้อมย้ำผู้ประกอบการรถไฟฟ้า เพิ่มความถี่ในการให้บริการ รองรับประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นายพิเชฐ คุณธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 16-17 เม.ย. 67 มีประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่างๆ สู่กรุงเทพฯ จำนวนมาก ขร. ได้ประสานไปยัง รฟท. ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 16-17 เม.ย. 67 รวม 6 ขบวน รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสาร เพื่อให้เพียงพอ และรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน ให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟ หรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว ส่วนด้านรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เน้นย้ำผู้ให้บริการตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานี และในขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆ ภายในสถานี และเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ประสานเพิ่มความถี่การให้บริการรถไฟฟ้า รวมทั้งกำชับเรื่องการควบคุมปริมาณผู้โดยสารในสถานีรถไฟฟ้า และในขบวนรถไฟฟ้าให้อยู่ในระดับปริมาณที่เหมาะสม (crowd control) และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร อย่างไรก็ตามในวันที่ 16-17 เม.ย. 67 บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายเวลาเปิดให้บริการจากเวลา 05.00 น. เป็นเวลา 04.00 น. ถึง 24.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน จากทั้งรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่จอดรับส่งที่ประตู 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินที่ท่าอากาศยานเมือง ซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างไร้รอยต่อตามนโยบายกระทรวงคมนาคม

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 67 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,043,292 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการ 14.01% (ประมาณการ 915,116 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 78,369 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) 964,923 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 5 คน) มีรายละเอียด ดังนี้ รถไฟระหว่างเมือง ให้บริการรวม 206 ขบวน มีผู้ใช้บริการ 78,369 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 8,317 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการ 9.59% (ประมาณการ 86,686 คน-เที่ยว)

แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 33,535 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 44,834 คน-เที่ยว มีผู้โดยสารขาออก 34,970 คน-เที่ยว และขาเข้า 43,399 คน-เที่ยว โดยสายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 28,517 คน-เที่ยว (ขาออก 12,925 คน-เที่ยว ขาเข้า 15,592 คน-เที่ยว) รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ใช้บริการ 19,857 คน-เที่ยว (ขาออก 8,377 คน-เที่ยว ขาเข้า 11,480 คน-เที่ยว) สายเหนือ 13,161 คน-เที่ยว (ขาออก 5,797 คน-เที่ยว ขาเข้า 7,364 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 8,075 คน-เที่ยว (ขาออก 3,586 คน-เที่ยว ขาเข้า 4,489 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 8,759 คน-เที่ยว (ขาออก 4,285 คน-เที่ยว ขาเข้า 4,474 คน-เที่ยว)

และระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,480 เที่ยว (รวมเสริม 9 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวม 964,923 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 177,955 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 32.57% (วันที่ 15 เม.ย. 66 ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า 786,968 คน-เที่ยว) และสูงกว่าประมาณการ 136,493 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการ 16.48% (ประมาณการ 828,430 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 52,516 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 8,336 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 18.87%)

รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 19,657 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 5 คน-เที่ยว) (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 7,295 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 58.97%), รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 220 เที่ยว (รวมเที่ยวเสริม 2 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการ 31,146 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 13,951 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 81.13%), รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 257 เที่ยว (รวมรถเสริม 7 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการ 249,733 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 65,067 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 35.23%)

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 760 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 537,607 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 19,580 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 3.78%) รถไฟฟ้าสายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 15,458 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เม.ย. 66 จำนวน 4,920 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 46.69%) รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 25,057 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 33,749 คน-เที่ยว เมื่อวาน (15 เมษายน 2567) ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 1 ครั้ง และเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้า 1 ครั้ง

นายพิเชฐ กล่าวด้วย สำหรับภาพรวมการเดินทางในระบบรางสะสม 5 วันที่ผ่านมา (11-15 เม.ย. 66) มีผู้ใช้บริการระบบรางรวม 5,763,663 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 5 วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1,025,714 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 21.65% แต่น้อยกว่าประมาณการ 152,110 คน-เที่ยว หรือน้อยกว่าประมาณการ 2.71% (ประมาณการ 5,611,553 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมือง 402,793 คน-เที่ยว (สะสม 5 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 57,102 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 16.52%) และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) 5,360,870 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 55 คน) (สะสม 5 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 968,612 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 22.05%)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/04/2024 8:34 pm    Post subject: Reply with quote

ขร.เผย (15 เม.ย 67) ผู้ใช้บริการระบบรางรวม1.04 ล้านคน-เที่ยว สะสม 5 วัน กว่า 5.76 ล้านคน-เที่ยว เตรียมพร้อมดูแลประชาชนกลับเข้ากรุงฯ
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Tuesday, April 16, 2024 16:36

วันนี้ (16 เมษายน 2567) ดร. พิเชฐ คุณธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวาน (15 เมษายน 2567) นับเป็นวันที่ 5 ของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,043,292 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 14.01 (ประมาณการ 915,116 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 78,369 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 964,923 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 5 คน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 206 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 78,369 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 8,317 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 9.59 (ประมาณการ 86,686 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 33,535 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 44,834 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 34,970 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 43,399 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 28,517 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 12,925 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,592 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 19,857 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 8,377 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 11,480 คน-เที่ยว) สายเหนือ 13,161 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,797 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 7,364 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 8,075 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,586 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,489 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 8,759 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 4,285 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,474 คน-เที่ยว)

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,480 เที่ยว (รวมเสริม 9 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 964,923 คน-เที่ยว เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 177,955 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.57 (วันที่ 15 เมษายน 2566 ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจำนวน 786,968 คน-เที่ยว) และสูงกว่าประมาณการ 136,493 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 16.48 (ประมาณการ 828,430 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย

2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 52,516 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 8,336 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.87)

2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 19,657 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 5 คน-เที่ยว) (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 7,295 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 58.97)

2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 220 เที่ยว (รวมเที่ยวเสริม 2 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 31,146 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 13,951 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 81.13)

2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 257 เที่ยว (รวมรถเสริม 7 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 249,733 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 65,067 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.23)

2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 760 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 537,607 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 19,580 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.78)

2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 15,458 คน- เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 15 เมษายน 2566 จำนวน 4,920 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.69)

2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 25,057 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 66)

2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 33,749 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่ วันที่ 21 พ.ย.66)

"สะสม 5 วันที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 5,763,663 คน-เที่ยว เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 5 วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 1,025,714 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.65 (11-15 เมษายน 2566 จำนวน 4,737,949 คน-เที่ยว) แต่น้อยกว่าประมาณการ 152,110 คน-เที่ยว หรือน้อยกว่าประมาณการร้อยละ 2.71 (ประมาณการ 5,611,553 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 402,793 คน-เที่ยว (สะสม 5 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 57,102 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.52) และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 5,360,870 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 55 คน) (สะสม 5 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 968,612 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.05)"

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวาน (15 เมษายน 2567) ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 1 ครั้ง และเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้า 1 ครั้ง โดยมีรายละเอียด คือ เมื่อเวลา 07.20 น. ขบวนรถด่วนที่ 72 (อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) ชนโค ระหว่างสถานีสำโรงทาบ - สถานีบ้านกะลัน ที่หลักกิโลเมตร 461/6 ไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตราย ขบวนรถล่าช้า 8 นาที ส่วนด้านรถไฟฟ้า เมื่อเวลา 14.07 น. รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง เกิดเหตุจุดสับรางขัดข้องระหว่างสถานีกรุงธนบุรี กับสถานีเจริญนคร ฝั่งมุ่งหน้าสถานีปลายทางคลองสาน เจ้าหน้าที่ทำการแก้ไขตามขั้นตอน ส่งผลให้เกิดความล่าช้าเป็นเวลา 7 นาที

สำหรับวันนี้ (16 เมษายน 2567) และวันพรุ่งนี้ (17 เมษายน 2567) ของวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่าง ๆ สู่กรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก กรมการขนส่งทางราง ได้ประสานไปยัง รฟท. ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 16 และ 17 เมษายน 2567 รวม 6 ขบวน รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสารเพื่อให้เพียงพอและรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว ส่วนทางด้านรถไฟฟ้า ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้าและเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆ ภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา

นอกจากนี้ ในวันที่ 16 และ 17 เมษายน 2567 บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายเวลาเปิดให้บริการจากเวลา 05.00 น. เป็นเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 24.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนจากทั้งรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่จอดรับส่งที่ประตู 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และรองรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินที่ท่าอากาศยานเมืองซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างไร้รอยต่อตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 17/04/2024 11:33 am    Post subject: Reply with quote

กรมรางเผย 3 วันหยุดยาว มีผู้ใช้บริการเกินกว่า 3 ล้านคน-เที่ยว พบเหตุสลด
ในประเทศ
วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 16:45 น.


กรมการขนส่งทางรางเผย 3 วันหยุดยาวต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวม  3.65 ล้านคน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 1.29 ไม่มีผู้ใช้บริการระบบรางตกค้าง แต่มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 3 ครั้ง 

วันที่ 14 เมษายน 2567 ดร. พิเชฐ คุณธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (13 เมษายน 2567) เป็นวันที่สามของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,092,918 คน-เที่ยว สูงกว่าวันเดียวกันของปีผ่านมาจำนวน 307,847 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.21 (วันที่ 13 เมษายน 2566 จำนวน 785,071 คน-เที่ยว) และสูงกว่าประมาณการ 116,703 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 11.95 (ประมาณการ 976,215 คน-เที่ยว)

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
ADVERTISEMENT


แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 75,499 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 1,017,419 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 5 คน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 208 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 1 ขบวน คือขบวน 6 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ มีผู้โดยสาร 178 คน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 75,499 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 18,235 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 19.45 (ประมาณการ 93,734 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,322 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 43,177 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 41,784 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 33,715 คน-เที่ยว

โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,437 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,056 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 13,381 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 18,223 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,774 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 7,449 คน-เที่ยว) สายเหนือ 13,180 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,693 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,487 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 9,291 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,522 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,769 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 7,368 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,739 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,629 คน-เที่ยว)

2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,488 เที่ยว (รวมเสริม 17 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,017,419 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 53,993 คน-เที่ยว
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 20,477 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 5 คน)
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 220 เที่ยว (รวมเสริม 2 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 32,956 คน-เที่ยว
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 265 เที่ยว (รวมรถเสริม 15 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการจำนวน 276,092 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 26,920 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้าสายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 33,636 คน-เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) ให้บริการรวม 977 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 573,345 คน-เที่ยว (สายสีเขียว 562,384 คน-เที่ยว และสายสีทอง 10,961 คน-เที่ยว)




ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า รวม 3 วันที่ผ่านมา (11-13 เมษายน 2567) มีผู้ใช้บริการระบบรางสะสมรวม 3,650,120 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 47,648 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 1.29 (ประมาณการ 3,697,768 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 247,995 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 3,402,125 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 47 คน)

ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวาน (13 เมษายน 2567) ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 3 ครั้ง

โดยเมื่อเวลา 10.50 น. เกิดเหตุรถจักรสับเปลี่ยน (ดีเซล 4050) ชนกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว บริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนภายในศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟทางไกล (LD Deport) ผู้ขับขี่รถยนต์เป็นชาย อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 15.41 น. ขบวนรถที่ 276 (ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก-กรุงเทพ) ขณะทำขบวนถึงหลักกิโลเมตรที่ 218/4 ระหว่างวัฒนานคร-สระแก้ว ขบวนรถได้ชนคน เป็นหญิง อายุ 52 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ (พบจดหมายลาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ) ส่งผลให้ขบวนรถ 276 ล่าช้าเพิ่มเติม 26 นาที

และต่อมาเวลา 23.28 น. ขบวนรถเร็วที่ 70 (ยะลา-กรุงเทพอภิวัฒน์) เกิดเหตุขบวนรถชนโค บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 600/16 ระหว่างท่าฉาง-ไชยา จังหวัดสุราษฏร์ธานี ผู้โดยสารไม่ได้รับอันตรายแต่ประการใด ขบวนรถล่าช้า 10 นาที ด้านโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าไม่มีเหตุขัดข้อง

ดร. พิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า ในวันนี้และพรุ่งนี้ มีประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีหลายสถานที่ใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าได้มีการจัดกิจกรรมงานสงกรานต์ เช่น สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง สถานีรถไฟฟ้าสีลม สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ กรมการขนส่งการขนส่งทาง (ขร.) ได้ประสานผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเพิ่มจุดจำหน่ายบัตร/เหรียญโดยสาร

พร้อมทั้งเน้นย้ำการดำเนินงานตามมาตรการรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่น ประชาสัมพันธ์ 3 ข้อปฏิบัติในการใช้บริการรถไฟฟ้าช่วงสงกรานต์ ได้แก่
1) เทน้ำ เทแป้ง ออกก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า เนื่องจากไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเล่นน้ำสงกรานต์ในระบบรถไฟฟ้า
2) ตัวไม่เปียกก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้า หากตัวเปียกโชก เจ้าหน้าที่อาจขอให้ผู้โดยสารยืนรอสักครู่ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และ
3) เช็ดตั๋ว เช็ดน้ำ และแป้งบนบัตรโดยสาร ออกให้หมดก่อนนำไปใช้งาน เพราะอาจทำให้อุปกรณ์ระบบตั๋วมีปัญหาได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้ระบบรถไฟฟ้า...
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 17/04/2024 1:58 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางรางเผยวานนี้ (16 เม.ย.67) เป็นวันที่หกของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมกว่า 0.79 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 18.24 ทั้งนี้ สะสม 6 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางสะสมรวมกว่า 6.55 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเกือบ 1.15 ล้านคน-เที่ยวหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.22 พร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (17 เมษายน 2567) ดร. พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (16 เมษายน 2567) นับเป็นวันที่หกของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 793,018 คน-เที่ยว น้อยกว่าประมาณการ 93, 508 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 10.55 (ประมาณการ 886,526 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 82,530 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 710,488 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 6 คน) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 211 ขบวน (รวมขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเที่ยวล่อง (เข้ากรุงเทพฯ) 4 ขบวน จำนวน 2,877 คน-เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 82,530 คน-เที่ยว มากกว่าสงกรานต์ปี 66 จำนวน 15,566 คน-เที่ยวหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.25 (16 เมษายน 2566 จำนวน 66,964 คน-เที่ยว) แต่น้อยกว่าประมาณการ 14,010 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 14.51 (ประมาณการ 96,540 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 37,960 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 44,570 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 34,472 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 48,058 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 28,629 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,259 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,370 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 23,683 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 8,725 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 14,958 คน-เที่ยว) สายเหนือ 15,904 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,290 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 9,614 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 8,617 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,322 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,295 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 5,697 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 2,876 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,821 คน-เที่ยว)
2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,359 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 710,488 คน-เที่ยว เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 106,770 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.69 (วันที่ 16 เมษายน 2566 ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าจำนวน 603,718 คน-เที่ยว) แต่น้อยกว่าประมาณการ 79,498 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 10.06 (ประมาณการ 789,986 คน-เที่ยว) ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 42,037 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 5,760 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.88)
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 308 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 18,267 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 6 คน-เที่ยว) (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 6,818 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.55)
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 218 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 27,806 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 11,284 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.30)
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 250 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 189,893 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 31,987 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.26)
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 760 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 379,749 คน-เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 4,515 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.20)
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 9,661 คน- เที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 16 เมษายน 2566 จำนวน 3,331 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.62)
2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 17,863 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 66)
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 25,212 คน-เที่ยว (เริ่มเปิดทดลองให้บริการตั้งแต่ วันที่ 21 พ.ย.66)
ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดสะสม 6 วันที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 6,556,681 คน-เที่ยว เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 6 วันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 1,147,786 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.22 (11-16 เมษายน 2566 จำนวน 5,408,895 คน-เที่ยว) และมากกว่าประมาณการ 58,602 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 0.9 (ประมาณการ 6,498,079 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 485,323 คน-เที่ยว (สะสม 6 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 72,668 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.61) และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 6,071,358 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 61 คน) (สะสม 6 วันเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,075,118 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.52)
ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวาน (16 เมษายน 2567) ในด้านความปลอดภัยในการให้บริการระบบขนส่งทางราง มีอุบัติเหตุทางรถไฟ 2 ครั้ง โดยเมื่อเวลา 08.50 น. ผู้โดยสารเสียหลักหกล้มขณะขึ้นขบวนรถด่วนพิเศษที่ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) ที่สถานีสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลพุนพิน ขบวนรถไม่ได้รับผลกระทบล่าช้า และเวลา22.15 น. ขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารที่ 934 (อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) ชนกระบือ 2 ตัวบริเวณกิโลเมตรที่ 403/6 ระหว่างสถานีหนองเต็ง-สถานีกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตรายแต่ส่งผลกระทบขบวนรถล่าช้าที่เกิดเหตุ 2 นาที ส่วนโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าให้บริการตามปกติ โดยไม่มีเหตุขัดข้อง
ดร.พิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับวันนี้ (17 เมษายน 2567) เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ และเป็นวันทำงานราชการตามปกติ คาดการณ์ว่า ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่าง ๆ สู่กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางราง ได้ประสานไปยัง รฟท. ในการจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 17 เมษายน 2567 จำนวน 2 ขบวนในเส้นทางอุบลราชธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ และอุดรธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ รวมทั้งการเพิ่มตู้โดยสารเพื่อให้เพียงพอและรองรับต่อการเดินทางกลับของประชาชน และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายเวลาเปิดให้บริการจากเวลา 05.00 น. เป็นเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 24.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนจากทั้งรถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่จอดรับส่งที่ประตู 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และรองรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินที่ท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดดังกล่าว ส่วนทางด้านรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า เพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น พร้อมทั้งตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานต่อกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้าและเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่างๆ ภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างไร้รอยต่อตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/731977832460015
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 29/04/2024 3:23 am    Post subject: Reply with quote

“กรมราง” สั่ง “กทม.” เสนอแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดผู้โดยสารติดลิฟต์ “บีทีเอส” ซ้ำรอย
นวัตกรรมขนส่ง
วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 22:01 น.

“กรมราง” สั่ง “กทม.” เสนอแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุผู้โดยสารติดลิฟต์รถไฟฟ้าบีทีเอสซ้ำรอย หลังพบติดนานกว่า 1 ชั่วโมง กำชับ “บีทีเอสซี” ฝึกอบรมฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่ประจำสถานี พร้อมให้บริษัทที่ดูแลเพิ่มช่างกระจายตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยเหลือได้รวดเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสว่า เมื่อเวลา 17.21 น. นายสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง (E14) สายสุขุมวิท แจ้งมีผู้โดยสาร 3 ราย ติดอยู่ภายในลิฟต์ (หมายเลข 2) ตรงกลางระหว่างชั้นถนน และชั้นจำหน่ายตั๋วฝั่งทิศทางมุ่งปลายทางสถานีเคหะ ไม่สามารถเปิดประตูลิฟต์ได้ จึงประสานช่าง บริษัท Kone เพื่อเข้าช่วยเหลือ และต่อมาเวลา 18.19 น. ช่าง บริษัท Kone ได้ทำการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดภายในลิฟต์ได้ที่ชั้นถนน และจากการตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พบติดนาน 1 ชั่วโมง 2 นาที เบื้องต้นมีหน่วยพยาบาลเข้าพื้นที่ดำเนินการปฐมพยาบาล เนื่องจากผู้โดยสารมีอาการอ่อนเพลีย และนายสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งดำเนินการปิดใช้งานลิฟต์ตัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบและแก้ไข ก่อนเปิดให้บริการตามปกติต่อไป


นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับรายงานได้ประสาน BTSC และตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เหตุเกิดวันที่ 27 เม.ย. เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. มีผู้โดยสาร 3 ราย ประกอบด้วย ชาย 1 ราย และหญิง 2 ราย ติดอยู่ภายในลิฟต์ระหว่างชั้นจำหน่ายตั๋วกับชั้นถนน ฝั่งทิศทางมุ่งหน้าปลายทางสถานีเคหะ ซึ่งผู้โดยสารได้มีการโทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือด้วย โดยเมื่อนายสถานีรถไฟฟ้าได้รับแจ้งจากสัญญาณแจ้งเหตุลิฟต์ จึงได้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ไม่สำเร็จ จึงได้ประสานช่างบริษัท Kone ซึ่งเดินทางมาจากสถานีสยามเข้าดำเนินการแก้ไข และนำลิฟต์เลื่อนลงมายังชั้นพื้นถนน ก่อนเปิดประตูลิฟต์ช่วยเหลือออกมาได้ ทั้งนี้ BTSC ได้ว่าจ้างบริษัท Kone ในการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งลิฟต์ตัวดังกล่าวได้มีการซ่อมบำรุงตามรอบวาระ

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้รับทราบเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้น และได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้สั่งการให้ ขร. ดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป พร้อมทั้งให้บริษัทฯ ดำเนินการชดเชย และเยียวยาผู้โดยสารทั้ง 3 รายตามระเบียบต่อไป อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขร. ได้กำชับกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะเจ้าของโครงการ และ BTSC ดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้า

พร้อมทั้งฝึกซ้อมการปฏิบัติอยู่เป็นประจำ เพื่อให้สามารถดำเนินการตอบสนองได้อย่างทันต่อเหตุการณ์ และประสานช่างคู่ขนานในระหว่างที่ดำเนินการด้วย รวมทั้งประสานบริษัท Kone เพิ่มจุดเจ้าหน้าที่ในการเตรียมพร้อม (standby) กระจายตามจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานีต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นต่อไป รวมทั้งให้ BTSC เยียวยา และชดเชยให้แก่ผู้โดยสารทั้งสามรายตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และให้ กทม.เสนอแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก....

วันนี้ (27 เมษายน 2567) ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) (BTSC) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (สายสุขุมวิทและสายสีลม) เมื่อเวลา 17.21 น. นายสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง (E14) สายสุขุมวิท แจ้งมีผู้โดยสาร 3 ราย ติดอยู่ภายในลิฟต์ (หมายเลข 2) ตรงกลางระหว่างชั้นถนน และชั้นจำหน่ายตั๋วฝั่งทิศทางมุ่งปลายทางสถานีเคหะ ไม่สามารถเปิดประตูลิฟต์ได้ จึงประสานช่าง บริษัท Kone เพื่อเข้าช่วยเหลือ และต่อมาเวลา 18.19 น. ช่าง บริษัท Kone ได้ทำการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดภายในลิฟต์ได้ที่ชั้นถนน และจากการตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พบติดนาน 1 ชั่วโมง 2 นาที เบื้องต้นมีหน่วยพยาบาลเข้าพื้นที่ดำเนินการปฐมพยาบาลเนื่องจากผู้โดยสารมีอาการอ่อนเพลีย และนายสถานีรถไฟฟ้าแบริ่งดำเนินการปิดใช้งานลิฟต์ตัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบและแก้ไข ก่อนเปิดให้บริการตามปกติต่อไป
หลังจากได้รับรายงานได้ประสาน BTSC และตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เหตุเกิดวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. มีผู้โดยสาร 3 ราย ประกอบด้วย ชาย 1 รายและหญิง 2 ราย ติดอยู่ภายในลิฟต์ระหว่างชั้นจำหน่ายตั๋วกับชั้นถนน ฝั่งทิศทางมุ่งหน้าปลายทางสถานีเคหะ ซึ่งผู้โดยสารได้มีการโทรแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือด้วย โดยเมื่อนายสถานีรถไฟฟ้าได้รับแจ้งจากสัญญาณแจ้งเหตุลิฟต์ จึงได้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ไม่สำเร็จจึงได้ประสานช่างบริษัท Kone ซึ่งเดินทางมาจากสถานีสยามเข้าดำเนินการแก้ไขและนำลิฟต์เลื่อนลงมายังชั้นพื้นถนน ก่อนเปิดประตูลิฟต์ช่วยเหลือออกมาได้ ทั้งนี้ BTSC ได้ว่าจ้างบริษัท Kone ในการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งลิฟต์ตัวดังกล่าวได้มีการซ่อมบำรุงตามรอบวาระ
ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่าภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ) ได้รับทราบเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นและได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางรางดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป พร้อมทั้งให้บริษัทฯ ดำเนินการชดเชยและเยียวยาผู้โดยสารทั้งสามรายตามระเบียบต่อไป
ดร. พิเชฐ กล่าวปิดท้ายว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว การขนส่งทางราง (ขร.) ได้กำชับกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าของโครงการและ BTSC ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟฟ้าพร้อมทั้งฝึกซ้อมการปฏิบัติอยู่เป็นประจำ เพื่อให้สามารถดำเนินการตอบสนองได้อย่างทันต่อเหตุการณ์และประสานช่างคู่ขนานในระหว่างที่ดำเนินการด้วย รวมทั้งประสานบริษัท Kone เพิ่มจุดเจ้าหน้าที่ในการเตรียมพร้อม (standby) กระจายตามจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานีต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นต่อไป รวมทั้งให้ BTSC เยียวยาและชดเชยให้แก่ผู้โดยสารทั้งสามรายตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ ให้กรุงเทพมหานครเสนอแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/738068518517613
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/05/2024 1:47 pm    Post subject: Reply with quote

the Department of Rail Transport in Thailand [กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม].
the number of passengers who used various train systems in Bangkok and surrounding areas in April 2024 [เมษายน 2567].

Total Ridership: 39,843,035 passengers [รวมทั้งหมด 39,843,035 คน-เที่ยว]
Bangkok and vicinity [รถไฟฟ้าในเขต กรุงเทพและปริมณฑล]: 37,627,361 passengers [คน-เที่ยว]
Intercity trains [รถไฟระหว่างเมือง]: 2,215,674 passengers [คน-เที่ยว]
Green Line [สายสีเขียว]: 19,470,004 passengers [คน-เที่ยว]
Blue Line [สายสีน้ำเงิน]: 11,383,170 passengers [คน-เที่ยว]
SRT [รฟท.]: 2,215.674 passengers [คน-เที่ยว]
Airport Rail Link 1,838,399 passengers [คน-เที่ยว]
Purple Line [สายสีม่วง]: 1,725,620 passengers [คน-เที่ยว]
Pink Line [สายสีชมพู]: 1,334,942 passengers [คน-เที่ยว]
Yellow Line [สายสีเหลือง]: 841,601 passengers [คน-เที่ยว]
Red Line [สายสีแดง]: 811,450 passengers [คน-เที่ยว]
Gold Line [สายสีทอง]: 222,175 passengers [คน-เที่ยว]

https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/740948401562958

2 พ.ค. 67 12:03 น.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 15/05/2024 7:36 am    Post subject: Reply with quote

กรมราง อัปเดท “สถานีเพชรบุรี”รถไฟทางคู่สายใต้ ลิฟต์ สะพานลอย ชานชลามีหลังคา สิ่งอำนวยความสะดวกครบ รองรับได้ 5,000 คน/วัน
ผู้จัดการออนไลน์ 14 พ.ค. 2567 21:58

กรมราง อัปเดททางคู่สายใต้“สถานีเพชรบุรี”ทยอยเปิดใช้ตัวสถานีใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ชานชาลามีหลังคาคลุม สะพานลอย และลิฟต์ รองรับผู้โดยสารได้ถึง 5,000 คน/วัน เตรียมปรับปรุงสถานีเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์และร้าน OTOP สร้างรายได้ให้ชุมชน ขณะที่ขบ.เตรียมพัฒนาเส้นทางรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว-ชุมชน

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างสถานีรถไฟเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ปัจจุบัน การก่อสร้างมีความคืบหน้า 98.372%

โดยในส่วนของสถานีเพชรบุรี (กม.150+500) ดำเนินการก่อสร้างคืบหน้า 90.20% โดยสถานีเพชรบุรีใหม่ อยู่ด้านใต้ติดกับอาคารสถานีเพชรบุรีหลังเก่า ปัจจุบันเปิดใช้งานขายตั๋วรถไฟแล้ว เป็นสถานีขนาดใหญ่รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 5,000 คนต่อวัน มีพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารประมาณ 1,759.22 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องควบคุมระบบต่างๆ ห้องสุขาสำหรับพนักงาน ห้องนายสถานี ห้องประชุม และห้องรับรอง มีห้องสุขาสาธารณะขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 90 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ห้องสุขาชาย ห้องสุขาหญิง และห้องสุขาเสมอภาค

มีชานชาลาสำหรับผู้โดยสารมีหลังคาคลุมจำนวน 3 ชานชาลา ประกอบด้วย ชานชาลาที่ 1(font) พื้นที่ใช้สอยรวม 2,377.14 ตารางเมตร ชานชาลาที่ 2 (middle) พื้นที่ใช้สอยรวม1,875.34 ตารางเมตร และชานชาลาที่ 3 (siding) พื้นที่ใช้สอยรวม 1,347.50 ตารางเมตร โดยมีสะพานลอยระหว่างชานชาลา มีบันไดขึ้น-ลง 3 ทางพร้อมทั้งลิฟต์ 3 ตัว อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกคน

นอกจากนี้ มีบ้านพักพนักงานรถไฟ เป็นอาคารสองชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 6 คูหา มีพื้นที่ถนนของโครงการ 630 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่สำหรับจอดรถ 467 ตารางเมตร รองรับรถยนต์ได้ 21 คัน และพื้นที่สำหรับจอดรถผู้พิการ 1 คัน และงานปรับปรุงภูมิทัศน์รอบสถานี 2,085 ตารางเมตร

นายพิเชฐ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ พบว่า บริเวณย่านสถานีรถไฟเพชรบุรี รฟท.ได้ก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาพยาบาลของวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งได้รับคำขอบคุณจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพยาบาล และเนื่องจากปัจจุบัน รฟท.ได้ใช้งานสถานีใหม่ ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานีเก่า ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สำหรับเป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารจำหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึก เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดจอดรถโดยสารรถประจำทาง สามารถพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นลานจอดรถขนส่งสาธารณะได้เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างล้อและราง ตามนโยบายนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรีมีแผนที่จะพัฒนาเส้นทางรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟเพชรบุรี กับสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อประหยัดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกลง

สำหรับ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 33,982 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้เปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงบ้านคูบัว-สะพลี ระยะทาง 347.4 กิโลเมตร แล้ว ส่วนที่เหลือช่วงสถานีโพรงมะเดื่อ-สถานีบ้านคูบัว ระยะทาง 50 กม. และ ช่วงสถานีสะพลี-สถานีชุมพรและย่านสถานีชุมพร รวม 15.6 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในส่วนของงานโยธาได้ดำเนินการใกล้เสร็จครบทั้งหมด งานด้านระบบอาณัติสัญญาณ มีความคืบหน้าแล้ว 58.489% และตามแผนจะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน 2567

คงเหลือช่วงสถานีนครปฐม-สถานีโพรงมะเดื่อ ระยะทาง 8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดใช้งานทางคู่ได้ในเดือนสิงหาคม 2567 โดยใช้ระบบทางสะดวก (E-Token)ในการเดินรถ ในระหว่างที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (สัญญา 6) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่เต็มรูปแบบช่วงกลางปี 2568

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน -ชุมพร แบ่งออกเป็น 5 สัญญา ได้แก่
1. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 98.319% ล่าช้ากว่าแผน 1.681%

2. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล - หัวหิน) ระยะทาง 76 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.313% ล่าช้ากว่าแผน 0.687%

3. ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ

4. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์ - บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.245% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.755 %

5. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย - ชุมพร) ระยะทาง 79 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.425% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.575 %

Department of Railways updates "Phetchaburi Station" as part of the southern double-track railway project, including elevators, overpasses, and platforms with roofs. The station now has complete facilities and can accommodate 5,000 people per day.

Manager Online , 14 May 2024, 21:58

The Department of Rail updates the Southern Line "Phetchaburi Station," gradually opening the new station with complete amenities. The platform has a covered roof, footbridge, and elevator, and can accommodate up to 5,000 passengers per day. Preparations are underway to renovate the old station into a museum and OTOP shop, generating income for the community. Meanwhile, the government is developing public bus routes connecting tourist attractions and communities.

Mr. Pichet Kunathamrak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), revealed that Mr. Suraphong Piyachote, Deputy Minister of Transport, inspected the construction of Phetchaburi Railway Station. It is one of the large stations of the double-track railway construction project for the Nakhon Pathom-Hua Hin section, Contract 2, Nong Pla Lai-Hua Hin section. Currently, construction is progressing at 98.372%.

As for Phetchaburi Station (km. 150+500), construction progress is 90.20%. The new Phetchaburi Station, located on the south side next to the old Phetchaburi Station building, is currently open for selling train tickets. It is a large station that can accommodate more than 5,000 passengers per day. The building has a usable area of approximately 1,759.22 square meters, consisting of a ticket office, various system control rooms, staff restrooms, a station master's room, a conference room, and a reception room. There is a large public restroom area of approximately 90 square meters, divided into sections for men, women, and an accessible restroom.

There are three covered platforms for passengers: Platform 1 (front) with a usable area of 2,377.14 square meters, Platform 2 (middle) with a usable area of 1,875.34 square meters, and Platform 3 (siding) with a usable area of 1,347.50 square meters. A floating bridge between platforms includes three stairways and three elevators, providing convenience to all users.

Additionally, there is a two-story residence for railway employees with six units. The project's road area covers 630 square meters, with a parking space of 467 square meters accommodating 21 cars, including one handicapped spot, and 2,085 square meters of landscape improvement work around the station.

Mr. Pichet mentioned that an additional pedestrian bridge has been built to facilitate and increase safety for nursing students at King Mongkut's College of Nursing, Phetchaburi Province, who expressed their gratitude. Since the new station is operational, there are plans to develop and renovate the old station building, which has beautiful architecture, into a museum and OTOP shop to generate income for the local community. The area opposite Phetchaburi train station, currently a bus stop, can be developed into a public transport parking lot to support wheel and rail travel connections, following Mr. Suraphong Piyachote's policy.

The Phetchaburi Provincial Transport Office plans to develop a public bus route connecting Phetchaburi Railway Station with tourist attractions and travel hubs for local residents, aiming to increase the convenience of seamless travel, promote the use of public transportation, save on fuel consumption, reduce traffic congestion, and lower carbon and greenhouse gas emissions.

For the double-track railway project, Nakhon Pathom-Chumphon section, covering a distance of 421 kilometers with a construction budget of 33,982 million baht, the Ban Khu Bua-Saphli section (347.4 kilometers) was opened on December 15, 2023. The remaining sections, including Phrong Maduea Station-Ban Khu Bua Station (50 km) and Saphli Station-Chumphon Station (15.6 km), are in progress. Civil works are nearing completion, with signaling system work at 58.489%. The double track is expected to be fully operational by June 2024.

The Nakhon Pathom-Hua Hin-Chumphon section is divided into five contracts:
1. Nakhon Pathom - Hua Hin section, Contract 1 (Nakhon Pathom - Nong Pla Lai), 93 kilometers, 8,198 million baht, progress 98.319%, 1.681% behind schedule.
2. Nakhon Pathom - Hua Hin section, Contract 2 (Nong Pla Lai - Hua Hin), 76 kilometers, 7,520 million baht, progress 99.313%, 0.687% behind schedule.
3. Hua Hin - Prachuap Khiri Khan section, 84 kilometers, 5,807 million baht, currently completed.
4. Prachuap Khiri Khan - Chumphon section, Contract 1 (Prachuap Khiri Khan - Bang Saphan Noi), 88 kilometers, 6,465 million baht, progress 99.245%, 0.755% behind schedule.
5. Prachuap Khiri Khan - Chumphon section, Contract 2 (Bang Saphan Noi - Chumphon), 79 kilometers, 5,992 million baht, progress 99.425%, 0.575% behind schedule.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 64, 65, 66
Page 66 of 66

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©