RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311308
ทั่วไป:13279298
ทั้งหมด:13590606
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 390, 391, 392  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/04/2024 3:36 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
10 เม.ย. 67 15:10 น.

ภาพถ่ายมุมสูงประจำเดือน มีนาคม 2567
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร

https://fb.watch/rm2hVGf7c5/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/04/2024 8:04 am    Post subject: Reply with quote

ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
17 เม.ย. 67 08:03 น.

18 เม.ย.ทางคู่“ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา”เข้าบอร์ด
*คิวต่อไปรถไฟทางคู่“เด่นชัย-เชียงใหม่” 189 กม.
*เปลี่ยนปธ.บอร์ดรฟม.อ้างอธิบดีทล.ใกล้เกษียณ
*พร้อมโละบอร์ดใหม่ยกชุดก่อนสรรหาผู้ว่าฯรฟม.
*ไม่ต่อวาระผู้ว่ารถไฟอยากนั่งต่อต้องผ่านสรรหา

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/972420677668500
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/04/2024 8:39 am    Post subject: Reply with quote

“สุรพงษ์’เตรียมเปลี่ยนบอร์ดรฟม.คาดพ.ค.นี้ชงครม. ภารกิจแรกสรรหาผู้ว่าฯคนใหม่สานงานต่อ
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Wednesday, April 17, 2024 06:47

“สุรพงษ์”พูดชัด พ.ค.นี้เปลี่ยนบอร์ดรฟม. ยันเป็นธรรมเนียมหลังเปลี่ยนรัฐบาล และเพื่อความเหมาะสมวางภารกิจแรก เร่งสรรหาผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่ คาด”ประธานบอร์ดรฟม.”ยื่นลาออกเปิดทางฝ่ายการเมือง ส่วนการรถไฟฯ ตั้งสรรหาผู้ว่าฯคนใหม่แล้ว สั่งเร่งทางคู่เฟส2เชื่อมถึงชายแดนใต้

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณา เพื่อเตรียมปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติได้ในเดือนพ.ค. 2567 โดยการปรับเปลี่ยนกรรมการบอร์ดรฟม.นั้นจะพิจารณา เป็นรายบุคคล หากคุณสมบัติตรง เป็นประโยชน์กับระบบ ก็ยังคงให้ทำหน้าที่ต่อ ซึ่งบอร์ดรฟม. มีทั้งเป็นตำแหน่งผู้แทนหน่วยงาน ซึ่งจะดูว่าตำแหน่งที่มา ครบวาระ หรือเกษียณอายุหรือไม่ ประกอบด้วย และยังมีกรรมการมาจากผู้ทรงคุณวุฒิบางส่วน ที่สามารถพิจารณาปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน

“การปรับเปลี่ยนบอร์ด หน่วยงานรัฐวิสาหกิจถือเป็นธรรมเนียมทั่วๆไป เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็ปรับได้ เพื่อคัดสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสม ให้มาทำงานขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนบอร์ดหน่วยงานรัฐวิสาหกิจไปหลายหน่วยแล้ว ยังเหลือรฟม. ที่ยังไม่ปรับ ก็จะปรับหลังสงกรานต์นี้ โดยประธานบอร์ด คาดว่าจะเป็นข้าราชการในกระทรวงคมนาคม”นายสุรพงษ์กล่าว

สำหรับความคืบหน้า การสรรหาผู้ว่าการฯรฟม.คนใหม่ แทนนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ที่ครบวาระในวันที่ 20 มีนาคม 2567 นายสุรพงษ์กล่าวว่า ทราบว่า มีวาระในการประชุมบอร์ดรฟม.เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯผู้ว่าฯรฟม. ดังนั้น หลังจาก แต่งตั้งบอร์ดรฟม.ชุดใหม่เรียบร้อย ภารกิจแรก จะเป็นการแต่งตั้งคณะกรรมการ สรรหาเป็นผู้ว่าฯ รฟม.โดยเร็ว ส่วนปัจจุบัน ให้รองผู้ว่าฯรฟม.ทำหน้าที่รักษาการฯ ผู้ว่าฯรฟม.ไปก่อน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบฯ

@จับตา”สราวุธ”ยื่นลาออกเปิดทางการเมืองตั้งชุดใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันบอร์ดรฟม.มี จำนวน 14 คน (รวมผู้ว่าฯรฟม.หรือรักษาการผู้ว่าฯ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ) มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เป็นประธานบอร์ด ซึ่งบอร์ดรฟม.มีวาระคราวละ 3 ปี ปัจจุบันประธานบอร์ดยังไม่ครบวาระ เนื่องจากได้แต่งตั้งดำรงตำแนห่งสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2565 ซึ่งวิธีปฎิบัติที่ผ่านมา กรณีเปลี่ยนรัฐบาลและต้องการปรับเปลี่ยนบอร์ด ขณะที่ยังไม่ครบวาระ ก็มักจะส่งสัญญาณให้บอร์ดลาออก เพื่อเปิดทางให้รัฐมนตรี แต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ที่เป็นคนของตนเอง

@เดินหน้าสรรหาผู้ว่าการฯรฟท.คนใหม่ เร่ง ทางคู่เฟส2 ถึงชายแดนใต้

สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งเป็นอีกหน่วยงานที่ นายสุรพงษ์ รมช.คมนาคมกำกับดูแล ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการฯ รฟท. ได้ครบวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 23 เม.ย. 2567 และบอร์ดรฟท.ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่แล้ว นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า เมื่อ บอร์ด รฟท. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯผู้ว่าฯคนใหม่แล้ว ก็น่าจะเลยขั้นตอนการเจรจาต่อวาระกับผู้ว่าฯคนเดิมแล้ว

ทั้งนี้ การรถไฟฯ มีงานค้างอยู่ค่อนข้างมาก และต้องเร่งรัดให้เสร็จตามแผน ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะแรก และโครงการ รถไฟทางคู่ระยะที่2 ต้องเดินหน้าให้ไปตามแผนงาน ซึ่งตนจะเร่งรัดเส้นทางสายใต้ก่อน ซึ่งมี 3 เส้นทางเพื่อให้ต่อเนื่องกับเฟสแรกที่ไปถึงชุมพร คือ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 24,29.36 ล้านบาท , ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท คาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมบอร์ดรฟท. วันที่ 18 เม.ย. 2567 เพราะเป็นเส้นทางที่จะช่วยเรื่องขนส่งสินค้าภาคใต้และประเทศมาเลเซีย ส่วน ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 6,661.37 ล้านบาทบอร์ดรฟท.เห็นชอบไปแล้วก่อนหน้านี้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/04/2024 12:00 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
18 เม.ย. 67 11:46 น.

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกะเทียม
(ทางรถไฟยกระดับ)
ความก้าวหน้าสะสม = 91.80%
แผนงานสะสม = 98.59%
ช้ากว่าแผน = -6.79%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810325871012815


อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ
ความก้าวหน้าสะสม = 83.93 %
แผนงานสะสม = 97.08 %
ช้ากว่าแผนงาน = -13.15 %

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810327964345939

อัพเดตความก้าวหน้าโครงการ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2567
สัญญาที่ 3 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (ST8)
ความก้าวหน้าสะสม = 40.70%
แผนงานสะสม = 100.00%
ช้ากว่าแผนงาน = -59.30%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810329994345736


Double track railway construction project Lopburi - Pak Nam Pho section
18 April 2024 11:46 a.m.

Update on project progress March 2024
Contract 1 Ban Klap - Khok Ka Thiam section
(elevated railway)
Cumulative progress = 91.80%
Cumulative plan = 98.59%
Slower than planned = -6.79%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810325871012815


Update on project progress March 2024
Contract 2, Tha Khae - Pak Nam Pho section
Cumulative progress = 83.93 %
Cumulative plan = 97.08 %
Slower than planned = -13.15 %

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810327964345939

Update on project progress March 2024
Contract 3 Signaling and telecommunications system work (ST8)
Cumulative progress = 40.70%
Cumulative plan = 100.00%
Slower than planned = -59.30%

https://www.facebook.com/lopburipaknampho/posts/810329994345736
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42777
Location: NECTEC

PostPosted: 18/04/2024 2:15 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
“สุรพงษ์’เตรียมเปลี่ยนบอร์ดรฟม.คาดพ.ค.นี้ชงครม. ภารกิจแรกสรรหาผู้ว่าฯคนใหม่สานงานต่อ
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Wednesday, April 17, 2024 06:47

ใช้ลิงก์นี้ครับ
https://mgronline.com/business/detail/9670000033112
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/04/2024 3:23 pm    Post subject: Reply with quote

อ้าว ใส่ลิงก์ผิด ขอบคุณครับคุณวิศรุต Embarassed

เร่งรถไฟทางคู่เฟส2ประเดิมขอนแก่น-หนองคาย
Source - มติชน
Friday, April 19, 2024 05:16

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ที่อยู่ในแผนงานของกระทรวงคมนาคม ในระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง เปิดบริการแล้ว 3 โครงการ คือ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้าแก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร (กม.) ช่วงจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม. และหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. ขณะที่อีก 4 โครงการอยู่ระหว่างสร้าง โดยช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. คืบหน้า 96% คาดเปิดช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตรในปี 2568 ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. คืบหน้า 87% เปิดบริการปี 2568 ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. คืบหน้า 98% จะเปิดครบตลอดเส้นทางในปี 2567

นายพิเชฐกล่าวว่า ส่วนรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง วงเงิน 275,303 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว 1 โครงการ คือ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. อยู่ระหว่างทำทีโออาร์เปิดประมูล คาดเริ่มก่อสร้างปี 2567 และอยู่ระหว่างเสนอ ครม. 3 โครงการ ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดัง เบซาร์ ระยะทาง 45 กม. และช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. โดยคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีมติอนุมัติดำเนินโครงการแล้ว ซึ่ง รฟท.กำหนดเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.ได้ในปี 2567 ระยะถัดไปมีอีก 3 โครงการ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติ ได้แก่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. ช่วงสุราษฎร์ธานีชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. และช่วงเด่นชัยเชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. โดยได้ศึกษาความเหมาะสม ออกแบบรายละเอียด รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้ว ยกเว้นช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ อยู่ระหว่างทำ ข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) โดยกระทรวงคมนาคมได้เร่งดำเนินการแล้ว

นายพิเชฐกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางสายใหม่ 2 โครงการ ในช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 322 กม. คืบหน้า 7.88% ปัจจุบันขุดอุโมงค์ ขาขึ้น ฝั่งใต้ได้ 353 เมตร ฝั่งเหนือได้ 385 เมตร ส่วนอุโมงค์ขาลง ฝั่งใต้ได้ 334 เมตร ฝั่งเหนือได้ 405 เมตร รวมขุดอุโมงค์ได้แล้ว 1,479 เมตร คิดเป็นภาพรวมความคืบหน้างานอุโมงค์ 10.729% มีกำหนดเปิดปี 2571 ส่วนบ้านไผ่มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 322 กม. คืบหน้าแล้ว 2.36% มีกำหนดเปิดปี 2570

ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 20 เม.ย. 2567 (กรอบบ่าย)

Thailand Accelerates Phase 2 of Double-Track Railway Project, Khon Kaen - Nong Khai Section Prioritized
Matichon
Friday, April 19, 2024

Mr. Pichet Kunathamrak, Director-General of the Department of Rail Transport, outlined the progress of Thailand's double-track railway expansion. In Phase 1, seven routes have begun service or are under construction. Four of these projects are expected to be completed by 2025.

Phase 2 of the project, comprising an additional seven routes, has a budget of 275,303 million baht. The Khon Kaen - Nong Khai section (167 km) has received Cabinet approval and is scheduled to begin construction in 2024. Three more projects await Cabinet approval: Pak Nam Pho - Den Chai (281 km), Hat Yai - Padang Besar Junction (45 km), and Jira - Ubon Ratchathani Road Junction (308 km). The remaining three projects (Chumphon-Surat Thani, Surat Thani Junction Hat Yai-Songkhla, and Den Chai-Chiang Mai) are undergoing feasibility studies and environmental impact assessments.

Construction is also progressing on two new railway projects: Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong (322 km), scheduled for completion in 2028, and Ban Phai Mukdahan-Nakhon Phanom (322 km), scheduled for completion in 2027.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/04/2024 8:09 am    Post subject: Reply with quote

แบงก์อุ้ม “อิตาเลียนไทย” รอดตาย คุมเข้มให้กู้ “เอสเอ็มอี” ปล่อยเจ๊งระนาว
ผู้จัดการออนไลน์ 20 เม.ย. 2567 05:32 น.

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ไม่เพียงแต่ประชาชนคนรากหญ้าเท่านั้นที่ทำมาหากินลำบาก ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก หรือ “เอสเอ็มอี” ที่เป็นเศรษฐกิจฐานรากก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน เพราะไม่แค่มีปัญหาแบงก์คุมเข้มการปล่อยกู้ ไหนจะแบกต้นทุนธุรกิจสูง ทั้งภาระดอกเบี้ย วัตถุดิบ ค่าพลังงาน ที่ขึ้นเอา ๆ ถึงวันนี้จงอย่าแปลกใจที่ตัวเลขหนี้เสียกลุ่มเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นและแจ้งเลิกกิจการระนาว

อาการฝีแตกจนเก็บทรงไม่อยู่ของกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่เดือดร้อนอย่างสาหัส มีคำพรั่งพรูจากปากของ แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย คล้อยหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเสียงข้างมาก (5:2) คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% เช่นเดิม เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยบอกเล่าผ่านสื่อว่า เวลานี้เอสเอ็มอีกว่า 2.7 ล้านราย วิสาหกิจชุมชนนับแสนราย และเกษตรกรกว่า 7 ล้านครอบครัวต่างประสบปัญหาอย่างหนักจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ ราคาปัจจัยการผลิต ค่าครองชีพ อัตราดอกเบี้ยที่สูงมานานนับปี สะท้อนจากหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 91 ของจีดีพี และกระทบต่อคุณภาพหนี้ หนี้ค้างชำระ หนี้เสีย หนี้นอกระบบที่สูงขึ้น ข้อมูลของแบงก์ชาติบ่งบอกสินเชื่อธุรกิจชะลอลง เติบโตติดลบ -1.1% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยสินเชื่อเอสเอ็มอีวงเงินต่ำกว่า 500 ล้านบาท ติดลบถึง -5.1% นั่นหมายถึงการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีลดลง

ส่วนดัชนีความเชื่อมมั่นเอสเอ็มอีของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่าความเชื่อมั่นลดลงจากรอบก่อนหน้าทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เท่าเดิม และความเชื่อมั่นลดลงในทุกภาคธุรกิจ คือ การผลิต การค้า และบริการ ซึ่งสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างชัดเจน โดยผลสำรวจของ สสว. ยังพบว่า เอสเอ็มอีร้อยละ 35.3 ต้องการให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ และร้อยละ 28.2 ต้องการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน

ล่าสุด ภายใต้ข้อเสนอขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อรัฐบาลเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้เสีย หนี้นอกระบบ เพราะกลไกแก้หนี้ทั้งระบบที่เป็นวาระแห่งชาติยังไม่เห็นผล การเข้าถึงแหล่งการเงินต้นทุนต่ำยังทำไม่ได้ รัฐบาลต้องส่งเสริมเพิ่มจำนวนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้มากขึ้น

ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ แสดงความกังวลถึงกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่พบว่าสินเชื่อหดตัว การเข้าถึงแหล่งเงินทุนมีข้อจำกัด มีความเสี่ยงที่ไม่ค่อยมีหลักประกัน ทำให้แบงก์พาณิชย์งดปล่อยสินเชื่อ ซึ่ง ธปท.จะเข้าไปช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น รวมถึงเรื่องการค้ำประกัน เพื่อลดความเสี่ยง หนุนให้มีเงินลงทุนและเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

แม้แบงก์ชาติ และรัฐบาลจะลั่นนโยบายช่วยอุ้มเอสเอ็มีที่ซวนเซหนักมาตั้งแต่โควิด-19 ระบาดจนถึงบัดนี้ แต่ความที่ กนง.ยังตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้สูง ความสามารถในการชำระหนี้ของเอสเอ็มอีลดน้อยถอยลง หนี้เสียจึงเบ่งบาน เพราะธุรกิจยังไม่ฟื้นตัวและอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง ทำให้บรรดาแบงก์พาณิชย์ต่างคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อเพราะมีความเสี่ยง สวนทางกับการสร้างภาพแบงก์จะไม่ชักร่มกลับเมื่อเวลาฝนตก

ศิริเดช เอื้องอุดมสิน รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวผ่านสื่อว่า ในปี 2567 นี้ ทุกธนาคารยังคงให้ความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี โดยจะเน้นประคองลูกค้ามากกว่าจะเร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อการเติบโต ปีนี้จะยังเห็นการเติบโตติดลบหรือทรงตัวสะท้อนตามทิศทางเศรษฐกิจ หากจะปล่อยสินเชื่อก็จะโฟกัสกลุ่มที่ฟื้นตัวและเติบโตต่อได้ เช่น กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว

ทางด้าน ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้โต 2-3% ซึ่งจะส่งผลให้สินเชื่อคงค้างสิ้นปี 2567 มาอยู่ที่ 350,000 ล้านบาท ส่วนหนี้เสีย ธนาคารตั้งเป้าคุมไม่ให้เกิน 2.5%

อมรเทพ จาวะลา

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สะท้อนภาพในทำนองเดียวกันว่า หนี้ของภาคธุรกิจขนาดใหญ่ไม่น่าห่วงแม้ภาพรวมสินเชื่อจะชะลอตัวลงจากความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น แต่สินเชื่อเอสเอ็มอีติดลบต่อเนื่อง ภาพรวมสินเชื่อที่หดตัวบวกหนี้เสียสะท้อนปัญหาที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะระดับรากหญ้า ที่น่าเป็นห่วงคือหนี้ครัวเรือนที่มีปัญหาค่อนข้างมากและฉุดรั้งการบริโภคในระยะข้างหน้า อีกดัชนีชี้วัดว่าเอสเอ็มอีไทยไปไม่รอดเพิ่มสูงขึ้น ดูจากการแจ้งเลิกกิจการ ตามที่ อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตัวเลขขอจดทะเบียนเลิกกิจการในช่วง 11 เดือนของปี 2566 ว่ามีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 17,858 ราย มูลค่า 107,728.90 ล้านบาท แม้สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะคลี่คลาย แต่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีเงินทุนน้อยที่ยังไม่สามารถกลับมาฟื้นกิจการได้ตามปกติ บวกกับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้บริการออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยธุรกิจแจ้งยกเลิกสูงสุด 3 อันดับ คือ ก่อสร้าง -ร้านอาหาร-อสังหาฯ

ขณะที่แบงก์พาณิชย์ทั้งระบบใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย เพราะไม่อยากตั้งสำรองหนี้เสีย แต่สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขาดสภาพคล่องกลับโดยได้รับการโอบอุ้มจากแบงก์อย่างเต็มที่ อย่างกรณีของ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด หรือ ITD ที่ขาดสภาพคล่องมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ถึงตอนนี้มีรายงานข่าวว่าได้รับการเติมเงินจากแบงก์พาณิชย์เจ้าหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับ ITD หลัก ๆ มี 4 แห่ง วงเงินรวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ธนาคารกรุงเทพ 8,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท 2.กสิกรไทย 6,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท 3.ไทยพาณิชย์ 6,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท และ 4.ธนาคารกรุงไทย 4,000 ล้านบาท เป็นเงินกู้ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท

ชาติศิริ โสภณพนิช

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมาว่า กรณี ITD เป็นลูกค้าของธนาคารมาหลายปี มั่นใจว่า ITD สามารถจะดำเนินธุรกิจได้ต่อในอนาคต เพราะมีขีดความสามารถสูง ขณะนี้ธนาคารได้มีการเข้าช่วยเหลือ ITD ในเรื่องของสภาพคล่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ และได้ตั้งสำรองกรณี ITD เรียบร้อยแล้วในระดับที่เหมาะสม

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 เช่นกันว่า ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้รายใหญ่ กรณีของ ITD เป็นที่เรียบร้อยแล้วตามการจัดชั้นของลูกหนี้ดังกล่าว ส่วนระยะถัดไปจะติดตามการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นด้านงบการเงิน หรือข้อมูลอื่น ๆ รวมถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่มีอยู่กับธนาคารประกอบกัน และไม่เพียงแต่รายนี้ ธนาคารยังติดตามดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่โดยรวมด้วยเช่นกัน

หลังจากได้รับการเติมเงิน วรวุฒิ หิรัญยไพศาลสกุล เลขานุการ ITD เชื่อมั่นว่าบริษัทมีศักยภาพและโอกาสที่จะได้รับงานโครงการก่อสร้างพื้นฐานต่างจากภาครัฐและเอกชนที่อยู่ระหว่างการประมูลจำนวนมาก ทั้งถนน ทางด่วน รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การขยายสนามบิน ฯลฯ ส่วนการขอวงเงินสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องกำลังเจรจากับกลุ่มธนาคารแล้วมีความคืบหน้าที่ดี คาดจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ และยืนยันว่าปัญหาสภาพคล่องในเวลานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการประมูลงานของภาครัฐในอนาคต สถาบันการเงินยังออกหนังสือค้ำประกันการประมูลงานตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นงานภาครัฐและเอกชน

เป็นความต่างและแต้มต่อของธุรกิจขนาดใหญ่ ผิดกันกับธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่มีโอกาสเข้าถึง “แหล่งเงินทุน” ได้ยากยิ่งกว่า


Banks Maintain Support for "Italian-Thai", While Tightening SME Lending

Small and medium-sized enterprises (SMEs) struggle with high business costs, including interest, raw materials, and energy. Tightened bank lending controls exacerbate their situation, leading to an increase in bad debts and business closures, according to Saengchai Teerakulwanit, president of the Thai SME Confederation.

Data from the Bank of Thailand (BoT) confirms a decline in business loans, with SME loans under 500 million baht showing the steepest decrease. The SME Confidence Index shows decreased confidence across all business sectors.

The Thai SME Confederation has urged the government to address household debt and informal debt issues, as well as to increase SME access to low-cost funding and government procurement opportunities.

While the BoT has expressed concern over SME access to funding, rising interest rates limit SMEs' ability to repay debt, leading to increased bad debts and tighter lending restrictions from commercial banks.

Bangkok Bank and Bank of Ayudhya executives state that they will focus on cautious SME lending in 2024, prioritizing sectors with potential recovery, such as tourism.

Dissolution of businesses has increased, with construction, restaurants, and real estate most affected. This reflects changing consumer behavior and ongoing struggles for businesses with limited capital.

In contrast, large businesses like Italian-Thai Development Company Limited (ITD) receive strong support from commercial banks. In ITD's case, Bangkok Bank, Kasikorn Bank, Siam Commercial Bank, and Krungthai Bank provided a combined credit line of 24,000 million baht, even as the company faced liquidity issues. Bank executives express confidence in ITD's ability to continue operations and have set up appropriate reserves.

This stark contrast highlights the challenges faced by SMEs in accessing funding compared to larger corporations.

Manager Online 20 Apr. 2024 5:32 a.m.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/04/2024 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

เสร็จแล้ว! ขยายถนนสาย ลบ.1036 "ลพบุรี" เชื่อมถนน-รถไฟทางคู่สะดวก | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Tuesday, April 23, 2024 15:04

เสร็จสมบูรณ์ “กรมทางหลวงชนบท” ขยายถนนสาย ลบ.1036 จ.ลพบุรี ระยะทางกว่า 2.7 กม. วงเงิน 150 ล้านบาท เชื่อมโยงถนน-รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพในอนาคต สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย บรรเทาการจราจรติดขัดในพื้นที่

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายถนนทางหลวงชนบทสาย ลบ.1036 แยก ทล.1-บ้านป่าหวาย อ.เมือง จ.ลพบุรี ระยะทาง 2.752 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณ 150 ล้านบาท แล้วเสร็จและเปิดให้ประชาชนสัญจรเรียบร้อย

จุดเริ่มต้นบริเวณ กม.ที่ 0+000 จากวงเวียนพระนารายณ์มหาราช ไปสิ้นสุดที่บริเวณ กม.ที่ 2+752 วงเวียนพลร่มป่าหวาย ซึ่งได้ทำการก่อสร้างเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรเท่าถนนเดิม แต่ได้มีการขยายความกว้างช่องจราจร ไหล่ทางเพิ่มเติม ผิวจราจรก่อสร้างเป็นแบบแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ขนาดกว้างช่องละ 3.50 เมตร มีไหล่ทางกว้าง 2.50-3.50 เมตร พร้อมก่อสร้างทางเท้า ระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่าง สัญญาณไฟจราจร เครื่องหมายจราจร และสิ่งอำนวยความปลอดภัยทางถนน

นายอภิรัฐ กล่าวต่อว่า สำหรับถนนทางหลวงชนบทสาย ลบ.1036 หรือ ถนนพระปิยะ เป็นถนนที่อยู่ในย่านบริเวณชุมชนมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ประกอบกับมีสถานที่ตั้งของหน่วยงานราชการในสายทางหลายแห่ง อาทิ ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี สำนักงานสรรพากรพื้นที่ลพบุรี

โครงการแล้วเสร็จจะเป็นการยกระดับการคมนาคม รองรับการขยายตัวของเมือง แก้ปัญหาการจราจรที่หนาแน่นบริเวณสายทาง ช่วยส่งเสริมการขนส่งระบบโลจิสติกส์ให้สมบูรณ์ตามยุทธศาสตร์ด้านคมนาคม รวมทั้งสามารถใช้เป็นเส้นทางลัด (Shortcut) ไปยังแหล่งเศรษฐกิจ ชุมชนเมืองของจังหวัดลพบุรี เลี่ยงการจราจรที่ติดขัด ลดระยะเวลา เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น

นายอภิรัฐ กล่าวอีกว่า พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้เส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพในอนาคต เชื่อมโยงการคมนาคมจากถนนสู่ระบบรางอย่างไร้รอยต่อ ตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ในการพัฒนาโครงข่ายถนนสายรองให้ครอบคลุมปริมาณความต้องการของประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด

Completed: The Department of Rural Roads has expanded road LB.1036 in Lopburi Province by 2.7 km, with a value of 150 million baht, connecting it to the double-track railway. The Lopburi - Pak Nam Pho section will be convenient, fast, safe, and will alleviate traffic congestion in the area.

Mr. Apirat Chaiwongnoi, Director-General of the Department of Rural Roads, revealed that a construction project was undertaken to widen rural highway LB.1036 at the intersection with Highway 1-Ban Pa Wai, Mueang District, Lopburi Province, covering a distance of 2.752 kilometers. The project, with a budget of 150 million baht, has been completed and is now open for public travel.

The starting point is at km 0+000 from Phra Narai Maharat Roundabout, ending at km 2+752, Phon Rom Pa Wai Circle. The road has been expanded to four traffic lanes, maintaining the same size as the original road but with widened traffic lanes and additional shoulder space. The road surface is constructed of asphalt concrete, with each lane being 3.50 meters wide and the shoulder width ranging from 2.50 to 3.50 meters. Sidewalks, drainage systems, electrical lighting, traffic lights, traffic signs, and road safety facilities have also been constructed.

Mr. Apirat further stated that rural highway LB.1036, or Phra Piya Road, experiences heavy traffic as it passes through a community area and is home to many government agencies, such as the Mueang Lopburi District Office, Muang Lopburi Police Station, and Lopburi Area Revenue Office.

Upon completion of the project, transportation infrastructure will be improved, supporting urban expansion and alleviating traffic congestion. The logistics system will be enhanced, in line with transportation strategies, and the road will serve as a shortcut route to economic sources for urban communities in Lopburi Province. This will help avoid traffic congestion, reduce travel time, and enhance convenience and safety for travelers.

Mr. Apirat added that the project supports the future use of the double-track railway route in the Lopburi - Pak Nam Pho section, seamlessly connecting road and rail transportation systems. This aligns with the policy of "Transportation for the Happiness of the People," aimed at developing the secondary road network to meet the needs of the people and facilitate access to community areas and tourist attractions in the province.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42777
Location: NECTEC

PostPosted: 24/04/2024 11:30 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์-Dailynews
17 เม.ย. 67 08:03 น.

18 เม.ย.ทางคู่“ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา”เข้าบอร์ด
*คิวต่อไปรถไฟทางคู่“เด่นชัย-เชียงใหม่” 189 กม.
*เปลี่ยนปธ.บอร์ดรฟม.อ้างอธิบดีทล.ใกล้เกษียณ
*พร้อมโละบอร์ดใหม่ยกชุดก่อนสรรหาผู้ว่าฯรฟม.
*ไม่ต่อวาระผู้ว่ารถไฟอยากนั่งต่อต้องผ่านสรรหา

https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/972420677668500

EIA of Chumporn - Surat Thani double tracking

Chumporn station at km 486+534

Starting Point at km. 470 +000 (Southern end of Chumporn)

Saeng Daet at km 472 + 548.90 => Building the new station building at km 472 + 526.318

Thung Kha at km 480 + 912.36 => Building the new station building at km 480 + 861.800

Wisai at km 489 + 978.35 => Building the new station building at km 489 + 731.163

Ban Khron Halt at km 495 + 750 => Building the new halt building at km 495 + 503.339

Sawi at km 500 + 769.40 => Building the new station building at km 500 + 541.399

Khao Suan Thurian at km 508 + 517.625=> Building the new station building at km 508 + 621.530

Khao Pip Halt at km 512 + 020 => Building the new halt building and renamed as Thung Tako Halt at km 511 + 061.573

Pak Tako at km 516 + 811.70 => Building the new station building at km 516 + 558.522

Tha Thong Halt at km 522 + 350 => Building the new halt building at km 522 + 040.00

Khuan Hin Mui at km 526 + 088.69 => Building the new station building at km 525 + 821.477

Lang Suan at km 533 +300.00 => Building the new station building at km 533 + 450.00

Khlong Khanan at km 541 + 032.22 => Building the new station building at km 540 + 745.379

Hua Mat Halt at km 546 + 530 => Building the new halt building at km 546 + 231.969

Lamae at km 553 + 700.00 => Building the new station building at km 553 + 361.520

Ban Duat at km 560 + 149.60 => Building the new station building at km 559 + 819.292

Khanthuli at km 566 + 374.62 => Building the new station building at km 566 + 062.704

Don Thup at km 570 + 057.07 => Building the new station building at km 569 + 726.192

Tha Chana at km 577 + 789.68 => Building the new station building at km 577 + 452.115

Ban Ko Muk Halt at km 584 + 060 => Building the new halt building at km 583 + 737.915

Khao Phanom Baek at km 588 + 401.90 => Building the new station building at km 588 + 078.375

Chaiya at km 597 + 719.88 => Building the new elevated station building at km 597 + 380.615

Tha Chang at km 610 + 538.40 => the only station building to be and moved at km 610 + 193.956

Khlong Khut Halt at km 614 + 000 => Building the new halt building at km 616 + 645.217

Khlong Sye at km 618 + 877.85 => Building the new elevated station building at km 618 + 520.625

Maluan at km 623 + 929.00 => Building the new station building at km 623 + 571.230

Ban Thung Pho Junction at km 631 + 000=> Building the new station building at km 630 + 632.106

Surat Thani at km 635 + 106.46 => Building the new elevated station building at km 634 + 640.620 while the old station building dated 1954 will be renovated to be used for other purposes.

EOL at km 637 + 500 (Southern end of Surat Thani station yard)

https://eia.onep.go.th/eia/detail?id=12926
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44726
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/04/2024 3:41 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
ได้ข่าวว่าจะเข้าบอร์ด 18 เม.ย. 67 ยังไม่เข้าเลยครับ รอกันต่อไป

รัฐบาลติดหนี้ธ.ก.ส. 8 แสนล้าน ‘ธปท.’หวั่นแจกเงินดิจิทัล ฉุดเชื่อมั่นผู้ฝากเงิน
เดลินิวส์ 24 เมษายน 2567 15:21 น.
เศรษฐกิจ

เปิดความเห็น "แบงก์ชาติ" ส่งตรงถึงมือ ครม. อยากให้แจกเงินดิจิทัลเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อย คุ้มค่างบประมาณ หวั่นสภาพคล่อง ธ.ก.ส. เกิดความเสี่ยง กระทบเชื่อมั่นผู้ฝากเงิน ทั้งที่ยังติดหนี้ 8 แสนล้านบาท

โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีความเห็นจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เม.ย. 67 เพื่อเสนอเป็นความเห็นประกอบการพิจารณาใน ครม.

โดยมีเนื้อหาความเห็นบางส่วน ว่า ธปท. มีความต้องการให้ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิผล คุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง

ทั้งนี้ ควรแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที และใช้งบ 1.5 แสนล้านบาท เนื่องจากคนกลุ่มรายได้น้อย มีสัดส่วนการใช้จ่ายเพื่อบริโภคสูงกว่ากลุ่มรายได้อื่น และมักซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศมากกว่าสินค้านำเข้า และควรพิจารณาดำเนินโครงการแบบแบ่งเป็นระยะ เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลังด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าของการนำงบประมาณ 5 แสนล้านบาท ไปใช้ลงทุนในโครงการที่จะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ตัวอย่างการใช้งบประมาณที่ผ่านมา เช่น โครงการพัฒนาบุคลากรการแพทย์ ใช้วงเงิน เฉลี่ย 3.8 ล้านบาทต่อตำแหน่ง จะสามารถสร้างบุคลากรการแพทย์ได้กว่า 1.3 แสนตำแหน่ง, โครงการ เรียนฟรี 15 ปี สำหรับนักเรียนทั่วประเทศ 83,000 ล้านบาทต่อปี จะสามารถสนับสนุนได้นานถึง 6 ปี, โครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร 40,000 ล้านบาทต่อสาย จะพัฒนาได้กว่า 10 สาย หรือโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 1.9 แสนล้านบาทต่อสาย จะพัฒนาได้กว่า 2 สาย

ธปท. มีข้อกังวลว่า “การที่รัฐบาลจะมอบหมายให้ ธ.ก.ส. สนับสนุนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยยังมีภาระหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส. ถึง 8 แสนล้านบาท อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและความเสี่ยงต่อฐานะการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินการตามพันธกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน จึงควรมีแนวทางชดเชยค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียรายได้ให้แก่ ธ.ก.ส. พร้อมทั้งรับฟังความเห็นของคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ก่อนด้วย”

The government is in debt to the BAAC, with 800 billion baht, and the Bank of Thailand (BoT) is hesitant to introduce digital money, fearing potential risks to the liquidity of the BAAC and its impact on depositor confidence.

In an article published by the Daily News on April 24, 2024, at 3:21 p.m., it's stated that there is an open opinion from the Bank of Thailand directly sent to the cabinet, advocating for the distribution of digital money exclusively to low-income groups. The BoT is concerned about the BAAC's liquidity and its potential impact on depositor confidence, despite the existing debt of 800 billion baht.

The Cabinet approved a 10,000 baht digital wallet top-up project on April 23. In a letter dated April 22, 2024, Governor Setthaput Suthiwat Narueput of the BoT offered opinions to the Cabinet regarding the project.

The BoT suggests allocating the digital wallets' funds solely to target groups in need, aiming to alleviate living expenses and stimulate the economy efficiently with a reduced budget. Specifically, the focus should be on vulnerable groups whose incomes have not fully recovered, such as low-income individuals or the 15 million state welfare cardholders.

Moreover, the government is advised to consider investing the 500 billion baht budget in projects addressing structural issues and enhancing the country's long-term economic potential. Examples include the Medical Personnel Development Project, free education for 15 years nationwide, the double-track railway project, and the Blue Line MRT project.

However, the BoT expresses concerns about assigning the BAAC to support the 10,000 baht digital wallet top-up project while it still holds an outstanding debt of 800 billion baht. This could pose liquidity risks and affect depositor confidence. The BoT suggests finding a way to compensate for expenses or loss of income to the BAAC and consulting the BAAC committee's opinions before proceeding.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 390, 391, 392  Next
Page 391 of 392

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©