Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311324
ทั่วไป:13288059
ทั้งหมด:13599383
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 475, 476, 477, 478  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/04/2024 8:48 am    Post subject: Reply with quote

127 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทย 'รถไฟไทยไม่เหมือนเดิม'
Source - ทรานสปอร์ต เจอร์นัล
Monday, April 22, 2024 08:32

เมื่อ 127 ปีที่แล้ว ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดาเนินไปประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวง สายแรกในพระราชอาณาจักรคือสายนครราชสีมา ซึ่งขณะนั้นสร้างเสร็จตอนหนึ่งระหว่างสถานีกรุงเทพ ถึงอยุธยา ถือได้ว่ากิจการรถไฟหลวงของไทยได้ถือกาเนิดตั้งแต่บัดนั้น และการรถไฟฯ ได้ถือเอาวันที่ 26 มีนาคมเป็นวันสถาปนากิจการรถไฟของไทย

ในปัจจุบัน "ระบบราง" ถือเป็นระบบการขนส่ง ที่สำคัญของไทย ทั้งในภาคการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ผลักดันให้การขนส่งทางรางให้เป็นการขนส่งหลักของประเทศ โดยมีเป้าหมายในการลดต้นทุนด้าน โลจิสติกส์ ซึ่งนับเป็นกระดูกสันหลังใหญ่ของภาคเศรษฐกิจที่มีทิศทางการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ "การรถไฟแห่งประเทศไทย" (รฟท.) ก็นับเป็นอีกหนึ่งองค์กร ที่สำคัญของไทย เป็นฟันเฟืองและหน่วยงานหลัก ในการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทย เห็นได้จาก "พันธกิจ" ที่ระบุไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเป็นองค์กรที่สร้างรายได้และการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาระบบการขนส่งให้มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการขนส่งของประเทศ ที่สำคัญคือ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรางของประเทศด้วยบริการที่มีคุณภาพ ครบวงจร ทันสมัย พร้อมทั้งเป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาล ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัย พัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน

ทั้งนี้ ภายใต้การบริหารงานของ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ในช่วงระยะ เวลา 4 ปีที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ดำเนินโครงการ ที่สำคัญมากมาย ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเดินทาง และการขนส่งสินค้า ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสังคม ล้วนสร้างประโยชน์อย่างมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแผนในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย

เริ่มต้นด้วยการเปิดให้บริการ "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์" ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคม และการขนส่งทางรางของประเทศ และเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกับมีการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ อีสาน ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ขณะเดียวกันยังคงอนุรักษ์สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และเปิดให้บริการควบคู่กันตามปกติ สำหรับให้บริการ ขบวนรถท้องถิ่น ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถท่องเที่ยว

ต่อด้วยการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมให้สำเร็จตามแผน ในส่วนเส้นทางรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ขณะนี้สามารถเปิดใช้งานทางคู่ในช่วงแรกได้แล้วหลายเส้นทาง ได้แก่ โครงการช่วงชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย โครงการช่วง ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ขณะที่เส้นทางรถไฟทางคู่สายใต้ ก็สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้เปิดให้บริการระหว่างสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ส่วนช่วงที่ 2 ของสายใต้ระหว่างสถานีสะพลี-ด้านเหนือสถานีชุมพร ตามแผนการจะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือน เมษายน 2567 จากนั้นจะทยอยเปิดใช้งานช่วงนครปฐม-บ้านคูบัว ประมาณเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2567 จะเปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงบันไดม้า-คลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 29.70 กิโลเมตร ที่การก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งปัจจุบันภาพรวมความก้าวหน้า ร้อยละ 6.695 และการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด- มุกดาหาร-นครพนม สัญญา 1 บ้านไผ่-หนองพอก ความก้าวหน้าโครงการ ร้อยละ 5.065 สัญญา 2 หนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ความก้าวหน้าโครงการ ร้อยละ 7.897 ไม่เพียงเท่านี้ การรถไฟฯ ยังเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 เพิ่มเติมอีก 7 สายทาง ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย, ช่วงขอนแก่น- หนองคาย, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี, ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่คณะกรรมการรถไฟฯ ได้อนุมัติและส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีต่อไป ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัยเชียงใหม่ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอ ขออนุมัติโครงการฯ

ส่วนการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ถึงสถานีปลายทางนครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง มีผลงานรวมอยู่ที่ ร้อยละ 32 ในส่วนของการก่อสร้างงานโยธามี 14 สัญญา ได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว 2 สัญญาอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 สัญญา และยังไม่ลงนาม 2 สัญญา นอกจากนี้ ยังมีสัญญางานระบบฯ 1 สัญญา อยู่ระหว่างการออกแบบและจัดหาวัสดุอุปกรณ์ตามสัญญา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571

รวมถึงการเสริมทัพของหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 50 คัน (Diesel Electric Locomotive) มาใช้งาน โดยถือเป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งนำมาใช้ทดแทนหัวรถจักรเดิมที่มีอายุการใช้งานมานาน สามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารและการขนส่ง สินค้าทั่วประเทศ ปัจจุบันได้เปิดให้บริการเดินขบวนรถทางไกลในเส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ ช่วยให้ การรถไฟฯ มีรถจักรเพียงพอต่อการให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าได้มากขึ้นสามารถเดินขบวนรถได้ตรงตามกำหนดเวลา รองรับโครงการรถไฟทางคู่ที่ทยอยเปิดใช้งาน

ริเริ่มพัฒนารถไฟระบบ EV on Train จนสามารถ ดำเนินการเริ่มทดสอบรถจักรพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นรถต้นแบบคันแรก เพื่อใช้ในระบบ สับเปลี่ยนขบวน (Shunting) เป็นไปตามนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยการนำเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) แทนที่ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของกระทรวงคมนาคม เพื่อส่งเสริมพลังงานสะอาด ลดมลพิษในด้านต่าง ๆ

นอกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางแล้ว การรถไฟฯ ยังได้เดินหน้าดำเนินการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม Quick Win "คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน" ของ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยการขับเคลื่อนภารกิจให้ขบวนรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน ปรับลดค่าโดยสารรถไฟชานเมืองสายสีแดงสูงสุด ไม่เกิน 20 บาท หรือ 20 บาทตลอดสาย และ ปรับลดค่าบริการจอดรถชั้นใต้ดินสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อลดรายจ่ายและค่าครองชีพ ให้แก่ประชาชน รวมถึงกระตุ้นให้มีผู้โดยสารหันมาใช้บริการมากขึ้น

ไม่หยุดเพียงเท่านี้ การรถไฟฯ ได้ขยายเวลาเปิดให้บริการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถด่วนพิเศษและขบวนรถด่วน จำนวน 32 ขบวน ให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถจองและซื้อตั๋วโดยสารได้จาก 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th ช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่านสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ และช่องทาง Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690

ขณะเดียวกันยังมีระบบ TTS (Train Tracking System) https://ttsview.railway.co.th ที่สามารถตรวจสอบเวลาและตำแหน่งขบวนรถ ทุกขบวน โดยระบบจะแสดงสถานะการเดินรถให้ทราบทันที ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารและผู้ที่มารอรับที่ปลายทาง สามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวก ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านความสะดวก และความปลอดภัย ช่วยสร้างความมั่นใจในการเดินทาง แก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

การรถไฟฯ ยังได้ร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) บูรณาการโครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยได้นำ รถบัสโดยสารเฉพาะของ บขส. (ไม่รวมรถร่วมบริการและรถตู้โดยสาร) เข้ามาจอดส่งผู้โดยสารขาเข้า บริเวณประตูที่ 3 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ช่วยเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่สะดวกอย่างไร้รอยต่อ ให้กับประชาชน

การดูแลทางด้านสังคม การรถไฟฯ ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ นำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีชื่อเสียงของประเทศไปทำการตรวจรักษา และดูแลพี่น้อง คนรถไฟและพี่น้องประชาชนบริเวณใกล้เคียง ด้วยการลงพื้นที่ และรักษาอย่างต่อเนื่องผ่านระบบ Tele Med หรือ VDO Conference

ในด้านของเยาวชน การรถไฟฯ ร่วมกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำน้อง ๆ ผู้พิการทางสายตาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ การจัดโครงการนำเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทัศนศึกษาทางรถไฟ การสนับสนุนโครงการ สานใจไทยสู่ใจใต้โดยสนับสนุนตู้โดยสารในการ เดินทางไปทำกิจกรรมต่าง ๆ และร่วมกับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ นำคณะนักเรียนผู้พิการและด้อยโอกาสนั่งรถไฟ ไปศึกษาประวัติศาสตร์ ผ่านแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ ในเส้นทางต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา ให้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ชาติไทย รวมถึงการจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนกับการรถไฟฯ ให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ตัวอย่างที่กล่าวมานี้จะเห็นว่า การรถไฟฯ มุ่งมั่นในการยกระดับพัฒนาการทำงาน และการให้บริการ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของบริบทแวดล้อมภายนอก ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพ ชีวิตให้กับผู้เกี่ยวข้อง หรือ Stakeholders ทั้งหมด ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร กล่าวโดยสรุป ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ภารกิจของการรถไฟฯ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตามแผนงานที่กำหนดไว้หลายด้าน จนทำให้องค์กรมีการพัฒนา ก้าวหน้าแบบต่อเนื่องอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม

ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การรถไฟฯ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ของโรคโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในหมู่ประชาชนบุคลากร ด่านหน้าในการให้บริการสาธารณสุข รวมถึงพนักงานการรถไฟฯ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน โดยการสนับสนุนพื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพ อภิวัฒน์ ตั้งเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 เป็นเวลาทั้งสิ้น 477 วันที่ให้บริการฉีดวัคซีน จำนวนกว่า 6 ล้านโดส ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข

การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยผลักดันให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในการเปิดมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวทางรถไฟ โดยใช้รถ KIHA 183 มาให้บริการท่องเที่ยวแบบ ครบวงจร ขณะที่การก้าวสู่ความทันสมัยก็เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยมุ่งมั่นในการ ยกระดับพัฒนาการทางาน และการให้บริการ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของบริบทแวดล้อมภายนอก ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้เกี่ยวข้อง ตามวิสัยทัศน์ขององค์กราเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อและการขนส่ง ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย

ที่มา: นสพ.ทรานสปอร์ต เจอร์นัล ฉบับวันที่ 1 - 15 เม.ย. 2567

127 Years of Thai Railways: Modernization Drives Thailand's Progress
Source: Transport Journal
Date: Monday, April 22, 2024 08:32

Celebrating a Rich Legacy

127 years ago, on March 26, 1896, His Majesty King Chulalongkorn inaugurated Thailand's first railway line between Bangkok and Ayutthaya. This historic event marked the birth of the State Railway of Thailand (SRT), an organization that continues to play a vital role in the nation's development.

Railways: Thailand's Economic Backbone

Today, Thailand's rail system is essential for both passenger and freight transport. In line with government policy, rail is becoming the country's primary mode of transportation, reducing logistics costs and boosting economic growth. The SRT is a key player in this transformation, with a clear mission to develop an efficient, modern, and comprehensive rail network that supports Thailand's economic ambitions.

Transforming Thai Railways

Under the leadership of Governor Nirut Maneepan, the SRT has undertaken numerous projects to modernize the country's rail infrastructure. Bangkok Apiwat Central Station, officially opened on January 19, 2023, is a testament to this progress. This transportation hub is now the largest train station in ASEAN, providing world-class facilities and services.

Expanding the Network

The SRT is dedicated to expanding its double-track railway lines. Many of these projects are now operational, including crucial sections in the northeast and south. New routes like the Den Chai-Chiang Rai-Chiang Khong line are also under construction, further extending Thailand's rail reach.

High-Speed Ambitions

The much-anticipated Thai-Chinese high-speed rail project, connecting Bangkok and Nakhon Ratchasima, is progressing steadily and is expected to launch in 2028. This high-speed line will revolutionize travel within Thailand. Additionally, the SRT has introduced 50 new diesel-electric locomotives to enhance its capacity and efficiency.

The Future of Thai Railways

The State Railway of Thailand is an organization driven by innovation and progress. With its commitment to continuous development, the SRT is poised to shape the future of transportation in Thailand, fostering economic growth, connectivity, and a better quality of life for all.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/04/2024 3:13 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.-คณะแพทย์ฯ สจล. จัดกิจกรรม Doctor Train “คนรถไฟสุขภาพดี ชีวิตมีสุข”
22/04/2567 14:23

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. –การรถไฟฯและคณะแพทยศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบังจัดกิจกรรม Doctor Train ครั้งที่ 6 ออกตรวจสุขภาพด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมเปิดตัวแอพใหม่ บันทึกประวัติสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Doctor Train “คนรถไฟสุขภาพดี ชีวิตมีสุข” K-MED and SRT : นวัตกรรมทางการแพทย์ สู่ชุมชนสุขภาวะ ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์ อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดี คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) นายแพทย์อนวัช เสริมสวรรค์รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะผู้บริหาร คณะแพทยศาสตร์ สจล. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในการเปิดให้บริการตรวจคัดกรองสุขภาพให้กับบุคลากรการรถไฟฯ ครอบครัว และประชาชน ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปี ขึ้นไป ระหว่างวันที่ 22 – 23 เมษายน 2567 เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงการรักษาและการให้บริการ สาธารณสุขรูปแบบใหม่อย่างเท่าเทียม

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟฯ เปิดเผยว่า การรถไฟฯ และคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรม Doctor Train คนรถไฟสุขภาพดี ชีวิตมีสุข โดยคณะอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศไทย รวมถึง คณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร มาให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจวินิจฉัยคัดกรองโรคต่าง ๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคปอด โรคภูมิแพ้ หอบหืด และโรคอายุรกรรมอื่น ๆ ที่สำคัญ ให้กับพนักงาน และลูกจ้างการรถไฟ ฯ ครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 500 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพต่าง ๆ หากมีการตรวจพบโรค ทีมแพทย์จะส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลที่ร่วมมือ ให้ทำการรักษาทันที

นายแพทย์อนวัช เสริมสวรรค์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวเสริมว่า คณะแพทยศาสตร์ สจล. เป็นคณะแพทยศาสตร์นานาชาติ ที่มุ่งเน้นการผลิตแพทย์ที่นอกจากจะมีสมรรถนะทางวิชาชีพแพทย์ที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติแล้วยังมีความสามารถด้านวิจัยและนวัตกรรม ในช่วงวิกฤตการณ์การระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์และคณะต่าง ๆ ของ สจล. ได้ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องควบคุมการให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง High Flowเป็นต้น และได้แจกจ่ายอุปกรณ์ดังกล่าวไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้ยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข โดยคณะแพทยศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ได้พัฒนาแอปพลิเคชันเมตาบอลิกซินโดรม ในระบบแอนดรอยด์ นำมาเป็นต้นแบบในการดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ให้กับประชาชน โดยแอพพลิเคชันนี้ ได้ถูกพัฒนาให้บันทึกประวัติสุขภาพ หรือ OPD การ์ด ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่ในการบันทึกสุขภาพประจำวัน เพื่อประเมินและวางแผนด้านสุขภาพ อีกทั้งยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่บันทึกไว้เพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพ อาทิ ประวัติยาที่แพ้ เป็นเสมือนสมุดสุขภาพประจำตัวของแต่ละบุคคล เมื่อเวลาต้องไปพบคุณหมอที่ดูแลรักษาตามนัด หรือต้องไปพบคุณหมอในต่างโรงพยาบาล หรือต่างพื้นที่ ก็สามารถใช้ประโยชน์ในด้านข้อมูลของประวัติการรักษา เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและลดภาวะเสี่ยงจากการใช้ยาที่ผู้ป่วยแพ้ รวมถึงข้อจำกัดด้านอื่น ๆ นอกจากนี้ภายในแอปพลิเคชัน ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่วมสนุก เพื่อสร้างแรงจูงใจให้หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายโดยจะเริ่มนำร่องในกลุ่มบุคลากรการรถไฟฯเป็นอันดับแรก และจะพัฒนาเพื่อใช้ในชุมชนอื่นต่อไป

นายเอกรัชฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรม Doctor Train นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการสร้างพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ ปรับปรุงลักษณะการดำเนินชีวิต รวมทั้ง กระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย โดยการรถไฟฯ มุ่งมั่นดำเนินกิจการความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิด “รถไฟคู่ชุมชน” ของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญ ในการสร้างโอกาสการเข้าถึงระบบการตรวจรักษาและดูแลสุขภาพให้กับทุกคน ทั้งคนรถไฟ ครอบครัว และพี่น้อง ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงในรอบปีที่ผ่านมา ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ การรถไฟฯ และ คณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ร่วมมือกันนำคณะแพทย์ลงพื้นที่ออกหน่วย แพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ ชุมพร ลำปาง นครราชสีมา แก่งคอย และอุตรดิตถ์ ซึ่งมีผู้เข้ารับบริการทั้งสิ้นกว่า 2,700 คน เป็นคนรถไฟ 1,890 คน และประชาชนทั่วไป 810 คน พร้อมทั้ง จะมีการให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสื่อสารโต้ตอบกับ Family Care ผ่านแอปพลิเคชัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ จะมีการดัดแปลงตู้รถไฟเป็นคลินิกรถไฟเคลื่อนที่ โดยจะพ่วงไปกับขบวนรถในเส้นทางต่าง ๆ ซึ่งภายในตู้รถไฟแบ่งออกเป็น ห้องตรวจ ห้องเอกซเรย์ ห้องคัดกรองและจ่ายยา ห้องประชุมแพทย์ ห้องสำหรับเก็บอาหาร และห้องน้ำ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567 เพื่อนำมาใช้สำหรับโครงการ Doctor Train.- สำนักข่าวไทย

SRT - Faculty of Medicine, KMITL organized the Doctor Train activity "Railroad workers have good health, happy lives."
22/04/2024, 14:23

Bangkok, 22 April – The State Railway of Thailand (SRT) and the Faculty of Medicine at King Mongkut's University of Technology Ladkrabang organized the 6th Doctor Train activity aimed at conducting health check-ups with a team of medical experts. They are ready to launch a new app, Health History Record, for a better quality of life.

Mr. Nirut Maneephan, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), presided over the opening ceremony of the Doctor Train activity "Good Health Train People, Happy Life" by K-MED and SRT: Medical Innovation. Towards a healthy community at Bangkok Station (Hua Lamphong) with Professor Dr. Anan Srikiatkhajorn, Dean of the Faculty of Medicine at King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang (KMITL), and Dr. Anawat Sermsawan, Deputy Dean of the Faculty of Medicine at King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang, as well as the executive teams of both institutions. This activity, a cooperation between the railways and King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang (KMITL), offers health screening services to railway personnel, their families, and citizens aged 20 years and over between 22 - 23 April 2024, encouraging everyone to access treatment and services, thus promoting equitable public health.

Mr. Ekarat Sriarayanphong, Head of the Office of the Governor of the State Railway of Thailand, revealed that the State Railway of Thailand and the Faculty of Medicine at King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang (KMITL) have joined forces to organize the Doctor Train activity, "Healthy Train People, Happy Lives," led by a team of leading medical experts in Thailand, including doctors and nurses from Burachat Chaiyakorn Hospital. They provide health check services, diagnose, and screen for various diseases such as heart disease, lung disease, allergies, asthma, and other important medical conditions for employees, railway workers, their families, and the general public, totaling more than 500 people, free of charge. Additionally, they offer advice on various health problems, and if a disease is detected, the medical team will refer patients for treatment at collaborating hospitals for immediate care.

Dr. Anawat Sermsawan, Deputy Dean of the Faculty of Medicine at King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang, added that KMITL's Faculty of Medicine is an international medical faculty that focuses on producing doctors with professional medical competencies of international standards, as well as research and innovation abilities. During the recent COVID-19 pandemic crisis, the Faculty of Medicine and various faculties of KMITL collaborated to develop medical equipment such as oxygen generators and High Flow Oxygen Controllers, distributing them to various agencies across all regions. In organizing this activity, they elevate the level of public health services. The Faculty of Medicine and the Faculty of Engineering at KMITL have developed the Metabolic Syndrome application for the Android system, used as a model for a new type of healthcare for the people. This application records health history or OPD cards, aiding in daily health assessment and planning. It includes other recorded information useful for maintaining health, such as drug allergies, functioning as an individual's personal health book. It proves useful for recording medical history and ensuring continuity, reducing the risk of using drugs that patients are allergic to, and addressing other limitations within the application. Moreover, it includes various engaging activities to motivate appropriate behavioral changes to reduce the risk of developing serious diseases. It will be piloted first among railway personnel and further developed for use in other communities.

Mr. Ekarat added that this Doctor Train activity is considered another community health system development activity aiming to promote healthy behaviors, improve lifestyles, and raise awareness about health. The Railway is committed to continuously carrying out social responsibility activities following the concept of "Train with Community" introduced by Mr. Nirut Maneepan, Governor. This initiative aims to create opportunities for everyone to access medical examinations and healthcare systems, including railway workers, their families, neighbors, and people in nearby areas. Over the past year, under the memorandum of understanding between the Railway and the Faculty of Medicine at King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang (KMITL), a medical team has been deployed to set up mobile specialist units, continuously providing health checks in various regions across the country, such as Chumphon, Lampang, Nakhon Ratchasima, Kaeng Khoi, and Uttaradit. More than 2,700 people, including 1,890 railway workers and 810 members of the general public, have received services, including counseling for health problems and continuous symptom monitoring, which can be communicated with Family Care through the application free of charge. Additionally, train cars will be converted into mobile train clinics, attached to trains on various routes, with facilities including examination rooms, x-ray rooms, screening rooms, medicine dispensing rooms, doctor meeting rooms, food storage rooms, and bathrooms, expected to be completed by 2024 for use in the Doctor Train project. - Thai News Agency
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/04/2024 8:42 pm    Post subject: Reply with quote

Live เปิดใจผู้ว่าการรถไฟฯ คนที่ 19 "นิรุฒ มณีพันธ์"

Live เปิดใจผู้ว่าการรถไฟฯ คนที่ 19 "นิรุฒ มณีพันธ์" 4 ปี กับการพลิกฟื้นรถไฟ ให้อยู่คู่คนไทยและสังคมไทยอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2567
เวลา 12.45-15.00 น.
ห้องปฏิบัติการ ชั้น 3 ตึกบัญชาการ


https://www.youtube.com/watch?v=HMfBgZh5jTk

Unveiling the legacy of the 19th Governor of the Railway, Nirut Maneepan, who dedicated four years to revitalizing the railway system, fostering sustainable coexistence with the Thai people and society.

Event details:
Date: Monday, April 22, 2024
Time: 12:45 - 15:00
Location: Operation Room, 3rd Floor, Command Building
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/04/2024 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

“นิรุฒ มณีพันธ์” อำลาเก้าอี้ผู้ว่าการ รฟท. 4 ปีทำงานเต็มที่ สร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้โอกาสคน-กังวลบริหารที่ดินหวั่นเดินผิดทาง
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Tuesday, April 23, 2024 11:37

“นิรุฒ มณีพันธ์” อำลาเก้าอี้ผู้ว่าฯ รฟท. ฝากผู้บริหาร-พนักงานสานภารกิจ "จัดหารถจักร ล้อเลื่อน" เครื่องมือทำมาหากิน ยอมรับห่วงที่ดินทำเลทอง "เอสอาร์ที แอสเสทฯ" ต้องแสดงความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ชี้ 4 ปีทำงานเต็มที่ สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้โอกาสคนทำงาน ฝากผู้ว่าฯ คนใหม่ต้องกล้าตัดสินใจ และทำงานเฉียบคม

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)​ เปิดเผยว่า ตนจะครบวาระสัญญาจ้าง 4 ปี ในวันที่ 23 เม.ย. 2567 ซึ่งจะทำงานเป็นวันสุดท้ายในฐานะ ผู้ว่าฯ รฟท. ที่เป็นคนนอกและครบวาระ คนแรก ซึ่งการทำงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานอย่างเต็มที่ และเดินหน้าไปหลายเรื่อง ที่ปรับปรุงสำเร็จและอยู่ระหว่างดำเนินการและมีอีกหลายเรื่องที่ยังทำไม่ได้เท่าที่ควร จึงอยากฝากให้ผู้บริหารและพนักงาน รฟท. รวมถึงผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ ช่วยผลักดันสานต่อให้สำเร็จ

ที่ผ่านมาได้มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่ไปมากแล้ว และกำลังจะแล้วเสร็จ แต่ที่ยังไม่ค่อยพูดถึงและตนพยายามผลักดันแต่ยังไม่สำเร็จ คือการจัดหาเครื่องมือทำมาหากิน รถจักร ล้อเลื่อน แคร่สินค้า ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือมักจะมีคำถามในเรื่องความคุ้มค่า หรือการใช้ประโยชน์ การทำกำไร ได้แค่ไหน ซึ่งผู้ที่มีส่วนในการตัดสินใจจะเอาต้นทุนค่างานโยธามารวมด้วย ทำให้ตัวเลขออกมาไม่ดี แต่ตราบใดที่ยังไม่มีรถจักร ล้อเลื่อนเข้ามาเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ตัวรางที่ลงทุนไปก็จะไม่เกิดประโยชน์​ เพราะรางไม่สามารถทำมาหากินให้บริการประชาชนด้วยตัวเองได้

การจัดหารถจักร ล้อเลื่อนนั้นมีหลายรูปแบบ หลายวิธีที่ทำได้ เดิมมักจะมองวิธีการซื้อ แต่มีวิธีอื่นที่เหมาะสม เช่น การเช่า หรือแม้แต่การให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในอนาคต โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ รฟท.และประชาชนด้วย หากใช้วิธีที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ที่สุด ตนมองว่าพนักงานรถไฟไม่น่าจะขัดข้องอะไร

ในส่วนของการทำงาน และระบบบริหารจัดการ รฟท.นั้น ตนได้ปรับปรุงและเห็นว่า วิธีการทำงานความร่วมมือต่างๆ ดีขึ้นมาก ได้มาตรฐานระดับหนึ่ง มีความรวดเร็ว แม่นยำ แต่ยังต้องการให้สร้างมาตรฐานให้ดีขึ้นต่อไปอีก และเมื่อมีระบบดี หากมีอุปสรรคการแก้ปัญหาจะทำได้ง่ายขึ้น เพราะรูปแบบการทำงานชัดเจนขึ้น

ห่วงเรื่องที่ยังไม่แล้วเสร็จ เช่น โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังเพื่อส่งเสริมการขนส่ง ไปท่าเรือแหลมฉบัง ที่ผ่านมายังไม่เรียบร้อย เพราะหากสำเร็จ ระบบสมบูรณ์ทั้งต้นทาง และปลายทาง จะมีผลต่อระบบการขนส่งสินค้าจากไอซีดีลาดกระบังไปยังท่าเรือแหลมฉบัง จะเกิดความคล่องตัวอย่างน้อย 2-3 เท่าตัว แต่ที่ผ่านมาทำไม่สำเร็จเพราะเรื่องนี้มีอุปสรรคมาก

@ห่วงที่ดินรถไฟ กังวล "เอสอาร์ที แอสเสทฯ" มืออาชีพ?

ส่วนที่กังวลทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศยังพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า นโยบายก่อนหน้านี้จัดตั้ง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เข้ามาทำหน้าที่บริหารที่ดินเพื่อเพิ่มมุมมองทางการตลาดแบบมืออาชีพ ตามปรัชญาที่ ครม.ได้เห็นชอบ ยังต้องขับเคลื่อนต่อ ยอมรับว่ามีความกังวลที่สุดคือ ประเด็นถูกครอบงำ เพราะที่ดินมีผลประโยชน์และความต้องการสูง โดยเฉพาะแปลงทำเลทอง จึงอยากให้ทำอะไรก็ตามควรสร้างประโยชน์สูงสุดให้ รฟท. ไม่ใช่ SRTA ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะต้องไม่ลืมว่า SRTA ถูกสร้างขึ้นเป็นเครื่องมือเพื่อทำให้ที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุดกับ รฟท. และที่ดินเป็นหนึ่งในเรื่องที่จะฟื้นฟู รฟท.เพราะเป็นรายได้หลักที่จะมาแก้ขาดทุน ส่วนรายได้เดินรถ ต้องมีการช่วยเหลือประชาชนถือเป็นบริการ ดังนั้นหากการพัฒนา หารายได้จากที่ดินไม่สำเร็จ รถไฟจะไม่เหลืออะไรเลย

หลักการที่ว่าสร้าง SRTA ขึ้นมาเพื่อทำให้ที่ดิน รฟท.ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ SRTA แล้วค่อยปันผลจากกำไรให้ รฟท. นั้นไม่ถูกต้อง ตนห่วงวิธีคิดเรื่องนี้ที่สุด เพราะการเปลี่ยนผู้ให้เช่าที่ดินจาก รฟท.เป็น SRTA อาจไม่ใช่สมมติฐานที่ถูกต้อง หาก SRTA ยังไม่มีผลงาน และไม่เคยแสดงความเก่ง อุปมาเหมือนพ่อแม่มีลูกเกิดมา แต่ลูกยังไม่เคยทำอะไรให้เห็นผลงาน แต่มาขอสมบัติพ่อแม่ไปจัดการเอง พ่อแม่จะยอมหรือไม่

@สร้างวัฒนธรรมองค์กร-เปลี่ยนมาตรฐานการทำงาน

“ก่อนหน้าที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ รฟท.ได้ยินว่าเป็นแดนสนธยาบ้าง องค์กรที่แตะต้องไม่ได้ แต่ยังมองแบบโลกสวย รถไฟอายุ 100 กว่าปีแล้ว ไม่ดีจะอยู่มาได้นานขนาดนี้อย่างไร แต่ไม่คิดว่าองค์กรจะมีปัญหามากขนาดนี้ ต้องเข้ามาปรับแนวคิด เปลี่ยนมาตรฐานการทำงาน แต่สิ่งหนึ่งที่คนรถไฟมีแล้วภายนอกไม่รู้ คือ คนรถไฟมีมาตรฐาน เพียงแต่ต้องหาวิธีให้คนรถไฟสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่แต่ละคนมี และควรจะเป็น จึงนำระบบคุณธรรมมาใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายให้เกิดความเหมาะสม ใช้เวลา 4 ปีในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างคน สร้างระเบียบวินัย ถือเป็น 4 ปีที่เป็นจุดเปลี่ยนองค์กรรถไฟ เพราะการทำงานให้สำเร็จ ผู้ปฏิบัติที่เกี่ยวข้องทุกส่วนมีความสำคัญ ทุกวันนี้มีความร่วมมือกัน ทำให้หลายเรื่องสำเร็จ แต่กว่าจะเป็นได้อย่างวันนี้ก็ต้องปรับมาหลายอย่าง และผู้นำถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของการรถไฟฯ”

นายนิรุฒกล่าวว่า ที่เหลือต่อจากนี้เป็นเรื่องการซ่อมเพิ่มเติมในเรื่องที่ได้ทำมาแล้ว คน การสร้างมาตรฐานต่างๆ ยังต้องทำต่อไป พัฒนายกระดับบริการ ดูแลสถานีต่างๆ ให้มีความทันสมัย ความสะอาด ต้องปรับเปลี่ยน ไม่ใช่รัฐลงทุนสร้างสถานีใหม่สวยงาม แต่ยังใช้งานกันแบบเดิมๆ จะเสียของ เรื่องนี้เป็นเครดิตองค์กร เหมือนคนเก่งแต่แต่งตัวโทรม ไม่น่าเชื่อถือ ขณะที่คนไม่เก่งแต่แต่งตัวดี พูดอะไรก็มีคนเชื่อ ดังนั้นอยากให้การรถไฟฯ มีเครดิต มีภาพลักษณ์องค์กรที่ดี อะไรไม่ดีต้องยอมรับและปรับปรุง มีการเพิ่มคุณภาพชีวิตพนักงาน ที่ผ่านมาเข้าไปจัดระเบียบบ้านพักพนักงาน แก้ปัญหายึดครองและให้ญาติที่ไม่เกี่ยวข้องมาอยู่อาศัยบ้าง ก็ค่อยๆ ดำเนินการแก้ไข จนทำให้พนักงานที่ไม่มีบ้านพักได้มีโอกาสมีบ้านพัก คือต้องไม่ปล่อยให้มีการเอาเปรียบองค์กรโดยไม่เหมาะสม

@ผู้ว่าฯ คนใหม่ต้องกล้าตัดสินใจ และทำงานแบบเฉียบคม

นายนิรุฒกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเห็นว่าผู้ว่าฯคนใหม่ควรเป็นบุคคลที่กล้าและคม คือ มีความกล้าที่จะตัดสินใจ และมีความคมในการใช้อำนาจตัวเอง ดังนั้น การตัดสินใจดีและถูกต้อง ต้องรู้จริงทั้งกฎหมาย ระเบียบ ประโยชน์องค์กร การดำเนินตามนโยบายต้องรู้และพิจารณาได้อย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะบริหารองค์กรที่มีภาระขาดทุนเป็นแสนล้านบาท ให้เดินหน้าต่อไปลำบาก และอาจทำให้องค์กรเสียหายได้


"Nirut Maneepan" bids farewell to the chair of SRT governor, urging executives and employees to continue the mission of "providing rolling stock locomotives" as tools for livelihoods. Expressing concerns about prime land management, "SRT Asset" is urged to exhibit more professionalism, emphasizing four years of dedicated service. Establishing an organizational culture that fosters opportunities for individuals, Mr. Maneepan entrusts the new governor with the responsibility of making bold decisions and fostering efficiency.

Mr. Nirut Maneephan, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), announced the conclusion of his four-year term on April 23, 2024, marking his final day in office. As the first external appointee to complete a term, he reflects on his tenure, acknowledging progress achieved while recognizing ongoing challenges. He calls upon SRT's staff and leadership, including the incoming governor, to continue driving success forward.

Over the past years, significant investments have been made in infrastructure development, notably double-track railways, nearing completion. However, challenges persist, particularly in procuring locomotives and essential equipment. Mr. Maneephan advocates exploring diverse procurement methods, including rentals and private sector partnerships, prioritizing maximum benefit for SRT and the public.

Efforts to enhance SRT's operational efficiency and management systems have shown promising results, yet Mr. Maneephan emphasizes the need for continuous improvement. He highlights unresolved initiatives such as the involvement of private investors in operating packaging and sorting stations to optimize transportation routes, stressing the importance of overcoming obstacles for success.

Regarding railway land management, concerns arise over the professional handling of assets by "SRT Asset." Emphasizing the importance of maximizing benefits for SRT, Mr. Maneephan underscores the need for strategic development to generate revenue essential for sustaining operations and serving the public effectively.

Addressing organizational culture, Mr. Maneephan emphasizes the transformation of SRT's work standards to enhance efficiency and accountability. Recognizing the institution's rich heritage, he advocates for aligning individual standards with organizational objectives, utilizing merit-based systems for appointments and transfers. He sees his four-year term as pivotal in shaping the railway's ethos and fostering collaboration among stakeholders.

Looking ahead, Mr. Maneephan emphasizes the ongoing need for refinement and innovation, particularly in modernizing infrastructure and improving services. He stresses the importance of enhancing SRT's corporate image, addressing shortcomings, and prioritizing the well-being of employees, including initiatives to improve staff housing and living conditions.

Overall, Mr. Maneephan's departure marks a transition period for SRT, with a continued focus on innovation, efficiency, and service excellence under new leadership.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/04/2024 3:09 pm    Post subject: Reply with quote

“นิรุฒ มณีพันธ์” ส่งไม้ต่อผู้ว่ารฟท.คนใหม่ ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ระบบราง
ฐานเศรษฐกิจ
24 เม.ย. 2567 | 14:50 น.


https://www.youtube.com/watch?v=PQn-LoyN39M

KEY POINTS

เปิดใจ “นิรุฒ มณีพันธ์” อดีตผู้ว่ารฟท.คนนอก ส่งไม้ต่อผู้บริหารคนใหม่ บูมบิ๊กโปรเจ็กต์ระบบราง
ห่วง “เอสอาร์ที แอสเสท” หารายได้ที่ดินรฟท.
ดันจัดซื้อแคร่ขนส่งสินค้า อัพเกรดระบบราง
แนะสางปัญหาโปรเจ็กต์ร่วมทุนไอซีดีลาดกระบัง

“การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท. 1 ในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้กระทรวงคมนาคม ที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนระบบขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพและการเดินหน้าสานต่อโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 รวม 7 เส้นทาง,โครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง 3 เส้นทาง,โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะที่ 2 (ไฮสปีดไทย-จีน) ฯลฯ รวมถึงการพัฒนาที่ดินต่างๆเพื่อหารายได้ช่วยเหลือองค์กรและสังคม ตลอดจนการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงการให้บริการรถไฟไทยในปัจจุบันให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ประชาชนในอนาคต

“นิรุฒ มณีพันธ์” อดีตผู้บริหารสายแบงก์ข้ามห้วยเข้ารับตำแหน่งผู้ว่ารฟท. ในปี 2563 กับภารกิจที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถจนปัจจุบันได้ผลักดันบิ๊กโปรเจ็กต์หลายโครงการสำเร็จจนถึงฝั่ง ถือเป็นผู้ว่ารฟท.คนนอกคนที่ 19 ที่อยู่ครบวาระ 4 ปี ตามกำหนด ปัจจุบันได้หมดวาระการดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่ารฟท.แล้ว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

เปิดใจ “นิรุฒ มณีพันธ์” ผู้ว่ารฟท.คนนอก

“นายนิรุฒ มณีพันธ์” อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้ว่ารฟท.ไม่เคยคิดว่าจะมีปัญหาเท่าที่เห็นมาก่อน แต่หลังจากได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่ารฟท.ทำให้รู้ว่าการเป็นผู้นำเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำมาสู่ความสำเร็จ ซึ่งเรามีความคิดที่จะผลักดันพนักงานในองค์กรสามารถเดินหน้าต่อได้ด้วยการใช้ระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันเราต้องทำงานให้หนักขึ้นโดยการนั่งเป็นศูนย์กลางในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อให้เขาสามารถทำงานร่วมกันได้

“หากจะหาผู้นำสักคนเข้ามาสำหรับองค์กรนี้ต้องหาคนที่กล้าและคม ซึ่งต้องกล้าในการตัดสินใจและคมในเรื่องการใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองพร้อมเรียนรู้ให้จริง หากไม่กล้าและไม่คมจะทำให้ตัดสินใจในแบบที่ผิด จะส่งผลกระทบต่อองค์กร ถ้าคิดที่จะทำตามเพียงนโยบายหรือคิดแค่ว่าทำตามสิ่งที่นำเสนอขึ้นมาโดยที่ไม่ได้อาศัยความแม่นยำจากภาครัฐทั้งด้านกฎหมายและระเบียบ ตลอดจนประโยชน์สูงสุดขององค์กร เชื่อว่าไม่ด้านใดด้านหนึ่งย่อมได้รับความเสียหาย”

ห่วง “เอสอาร์ที แอสเสท” หารายได้ที่ดินรฟท.

นายนิรุฒ เล่าว่า หากพูดถึงบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) หรือบริษัทลูกของรฟท.ที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ แต่ห่วงวิธีคิดการบริหารในการพัฒนาที่ดินของเอสอาร์ทีเอทั้งหมดมากกว่า เพราะที่ดินเป็นเรื่องที่มีความต้องการสูง โดยเอสอาร์ทีเอเป็นเพียงเครื่องมือในแผนฟื้นฟูกิจการของรฟท.ที่สร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาที่ดินให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อรฟท.ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของเอสอาร์ทีเอ

“ถ้ามีวิธีคิดที่เอสอาร์ทีเอต้องสร้างประโยชน์สูงสุดให้ตัวเอง ส่วนรฟท.ยังอยู่ในจุดเดิมก็ไม่รู้จะสร้างขึ้นมาทำไม แต่เราสร้างบริษัทลูกขึ้นมา เพราะเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะมีประสบการณ์และความรู้ที่เก่งกว่า ซึ่งการพัฒนาที่ดินในพื้นที่เชิงพาณิชย์ถือเป็นรายได้หลักของรฟท. เพราะรายได้จากการเดินรถส่วนหนึ่งเราจะไปช่วยเหลือประชาชนและดำเนินการด้านระบบสาธารณูปโภค หากไม่กำกับเอสอาร์ทีเอให้ดี สุดท้ายรฟท.จะไม่มีที่ดินและไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย”

ดันจัดซื้อแคร่ขนส่งสินค้า อัพเกรดระบบราง

ปัจจุบันเราไม่ห่วงเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของระบบราง เพราะเชื่อว่าภาครัฐได้มีการผลักดันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังไม่ค่อยได้พูดถึงและผลักดันจนประสบความสำเร็จกันมากนัก คือ การจัดหาแคร่รถขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากิน เพราะที่ผ่านมาพบว่าปัญหาการจัดซื้อแคร่รถนั้นได้มีการคำนวณต้นทุนรวมค่างานโยธา ส่งผลให้ความคุ้มค่าไม่สอดรับกับการเพิ่มกำไรให้กับองค์กร

“หากเราไม่มีรถทำมาหากิน เชื่อว่าระบบรางไม่สามารถหาเงินได้ด้วยตนเองและไม่สามารถนำไปให้บริการแก่ประชาชนได้ ซึ่งเราอยากให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น จากเดิมตามกระบวนการต้องจัดหาแคร่รถด้วยการซื้อหรือเช่าตามความเหมาะสม หรือการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมจากสิ่งที่เรามีอยู่ รวมทั้งคำนึงถึงการใช้โครงสร้างพื้นฐานให้มีประโยชน์สูงสุดต่อรฟท.และประชาชนด้วย”

แนะสางปัญหาโปรเจ็กต์ร่วมทุนไอซีดีลาดกระบัง

นายนิรุฒ เล่าต่อว่า ขณะที่ระบบบริหารจัดการของรฟท.ปัจจุบันดีขึ้นมาก แต่อยากฝากถึงผู้บริหาร รฟท.ให้สร้างมาตรฐานให้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงโปรเจ็กต์ที่ยังค้างท่อ โดยเฉพาะโครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ควรดำเนินการเพื่อหาข้อยุติให้ได้ เนื่องจากโครงการนี้มีความสำคัญต่อรฟท.และระบบการขนส่งสินค้าจากลาดกระบังไปยังท่าเรือแหลมฉบัง หากระบบมีความสมบูรณ์ทั้งต้นทางและปลายทาง จะทำให้การขนส่งสินค้าด้วยระบบรางมีความคล่องตัวมากขึ้น 2-3 เท่า เชื่อว่าอุปสรรคต่างๆจะสามารถแก้ไขได้ง่ายและเร็วขึ้นจากการมีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจน

หลังจากนี้คงต้องจับตาดูว่าผู้ว่ารฟท.คนใหม่จะสามารถสานต่อภารกิจบิ๊กโปรเจ็กต์ต่างๆที่ค้างท่อของรฟท.ได้สำเร็จตามแผนหรือไม่ ถือเป็นความท้าทายที่จะพิสูจน์ฝีมือยากที่จะหลีกเลี่ยงได้

Nirut Maneephan Hands Over SRT Leadership, Reflects on Successes and Challenges
Thansettakij April 24, 2024 | 2:50 p.m.

Key Points

Former SRT Governor Nirut Maneephan highlights leadership and development as priorities during his tenure.

Focus on asset management for SRT land (SRTA) to maximize returns.

Emphasis needed on freight transport capabilities and upgrades.

Resolution sought for the stalled ICD Ladkrabang joint venture project.

Bangkok, Thailand – The State Railway of Thailand (SRT) is a critical state enterprise within Thailand's Ministry of Transport. SRT oversees major rail projects such as double-track lines, the Red Line expansion, and the Thai-Chinese high-speed rail link. Former SRT Governor Nirut Maneephan recently concluded his four-year term, where he spearheaded numerous successful initiatives.

Mr. Maneephan, a banking industry veteran prior to his role at SRT, faced significant challenges upon assuming the governorship. However, he emphasized the importance of strong leadership, employee development, and corporate culture in driving positive change for the organization.

Key Concerns and Recommendations

The departing governor expressed the need for his successor to be decisive and informed to maintain SRT progress. He highlighted specific areas of attention:

SRT Asset Management: While SRT Asset Co., Ltd. (SRTA) is a necessary subsidiary for managing SRT land, Mr. Maneephan stressed ensuring SRTA's objectives prioritize maximizing returns for SRT.

Freight Transport: Prioritizing investment in freight transport upgrades and new rail carriages is seen as critical to enhance SRT's income generation and overall service.

ICD Ladkrabang: Resolving the stalled joint venture project for the Lat Krabang container facility is essential to optimize freight transit to Laem Chabang Port.

Mr. Nirut Maneephan leaves a legacy shaped by his emphasis on both infrastructure projects and organizational improvements. The incoming SRT Governor faces the challenge of carrying forward these key initiatives.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 26/04/2024 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เปิดรับสมัครนักเรียนประจำปีการศึกษา 2567 รอบที่ 2

ฐานเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 07:42 น.
โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เปิดรับสมัครนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ ประจำปีการศึกษา 2567 รอบที่ 2 ตรวจสอบสาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร
โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เปิดรับสมัครสอบ 67 วันนี้ 26 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ได้ประกาศ

เรื่อง เปิดรับสมัครนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ ประจำปีการศึกษา 2567 รอบที่ 2

สาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร
สาขาวิชาช่างเครื่องกล จำนวน 10 คน
สาขาวิชาช่างเทคนิคไฟฟ้ารถจักรและล้อเลื่อน จำนวน 19 คน
สาขาวิชาช่างอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จำนวน 11 คน
สาขาวิชาช่างโยธา จำนวน 23 คน


โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ค่าเทอมกี่บาท หลัง รฟท.รับสมัครทางออนไลน์ 180 อัตรา


กำหนดวันรับสมัคร

วันที่ 26 เมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.00 น. ที่เว็บไซต์ https://admission.schoolconnex.app/rts/year/2567 (รับสมัครทางเว็บไซต์เท่านั้น)

ดาวน์โหลดเอกสารประกาศรับสมัคร

https://bit.ly/3Uf5rMP


สอบถามเพิ่มเติม

LINE Official Account โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ

@witsawakamrotfai

https://lin.ee/zWleJ39

ที่มา:โรงเรียนวิศกรรมรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 29/04/2024 11:51 am    Post subject: Reply with quote

นายอู๊ด วัย 50 ปีเปิดใจกับผู้สื่อข่าว หลังรอกลับบ้านที่สถานีรถไฟ ซึ่งไม่แน่ใจว่าบางเขนหรือบางซื่อ เมื่อเผลอหลับกลับถูกล้วงกระเป๋าจนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว รวมทั้งตั๋วรถไฟ-บัตรประชาชนด้วย จึงเดินไปหาตร.แถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ ตร.ก็บอกว่า มีปัญญามาก็ต้องมีปัญญากลับบ้านได้ เมื่อเห็นตร.พูดแบบนั้นก็เลยเดินออกมา ตัดสินใจเอาไงเอากัน ขอเดินกลับบ้านที่เมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุงแล้วกัน เดินวันละประมาณ 60-70 กม.เหนื่อยก็พัก เมื่อมาถึง จ.สระบุรี เจอรปภ.ใจดีชาวชัยภูมิ บอกเป็นคนบ้านเดียวกันให้จักรยานฟรีมาใช้ปั่นกลับบ้าน ระยะทางเกือบ 700 กม. จนเมื่อผ่านถึง อ.หนองหาน ได้พบกับพลเมืองดีสงสารพาไปส่งถึงบ้าน
.
เจ้าตัวเล่าทั้งน้ำตา บอกปั่นจักรยานหลงในขอนแก่น ต้องถามทางชาวบ้าน ระหว่างก็แวะพัก แวะเที่ยวตามทาง ดีใจมากได้กลับบ้าน ได้เจอญาติต้อนรับอบอุ่น นึกว่าตายแล้วเกิดใหม่ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ก็ฝ่าฟันมาได้ ขอข้าววัด-ชาวบ้านกินตามทาง เดินไปเรื่อย ๆ มีจุดหมายเดียวคืออุดรธานีบ้านเกิด บอกขาเดินไม่ไหวแต่ใจสู้ ผมต้องกลับมาถึงบ้านให้ได้
https://www.facebook.com/MorningNewsTV3/posts/892587242911627
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/04/2024 7:17 am    Post subject: Reply with quote

ถกร.ฟ.ท.ล้อมคอกหมอลำ ลอบใช้ที่ว่างหมอชิต2แสดง
Source - เดลินิวส์
Tuesday, April 30, 2024 07:09

น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผอ.เขตจตุจักร เผยความคืบหน้ากรณีมีประชาชนร้องเรียน ได้รับผลกระทบทางเสียงรัศมีไกลหลายกิโลเมตร จากการจัดแสดงคอนเสิร์ตหมอลำในบริเวณพื้นที่โล่ง ข้างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบผู้จัดงานฝ่าฝืนจัดแสดงโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการแสดงดนตรีตามที่กฎหมายกำหนด และใช้เสียงดังเกินกฎหมายกำหนด

เบื้องต้นประสานผู้จัดปรับลดเสียงเพื่อลดผลกระทบ ขณะเดียวกันส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และข้อหาเดือดร้อนรำคาญ

นอกจากนี้ ในวันที่ 2 พ.ค. กทม.เตรียมหารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศ ไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะผู้ครอบครอง หรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแก้ปัญหาเดือดร้อนเกี่ยวกับการจัดแสดงดนตรีหมอลำในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ให้มีการลักลอบจัดแสดงอีก

ผอ.เขตจตุจักร เผยเพิ่มเติมถึงการป้องกันว่าจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นระยะ หากพบการเตรียมจัดแสดงจะเข้าไปแนะนำว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่อนุญาตให้ประกอบกิจการแสดงดนตรี เต้นรำ รำวง ดิสโก้เธค คาราโอเกะ หรือการแสดงอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน หากพบฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม กรณีที่ตรวจสอบในพื้นที่จัดแสดงมีการจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ลักษณะนำสุราแช่ที่เสียภาษีแล้วมาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อแบ่งขาย ได้มีการประสานกรมสรรพสามิตเข้าตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมด้วยแล้ว.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 พ.ค. 2567 (กรอบบ่าย)

Discussion about SRT Land Used for Unauthorized Mor Lam Concerts
Source - Daily News
Tuesday, April 30, 2024, 07:09

Ms. Phattakorn Sinsuk, Director of Chatuchak District, provided updates on the ongoing public disturbance caused by a Mor Lam concert staged without a permit on State Railway of Thailand (SRT) land near the Bangkok Bus Terminal (Chatuchak) or Mo Chit 2. The concert generated noise complaints from residents within a several-kilometer radius.

Upon inspection, authorities determined the organizers were operating without a music performance license and creating excessive noise. Initial steps included working with organizers to reduce noise and filing charges for operating without a permit and creating a public nuisance.

Bangkok will meet with the SRT and other relevant parties on May 2nd to discuss strategies for preventing future unauthorized Mor Lam concerts on this land.

Ms. Sinsuk stated that Chatuchak District will increase inspections in the area. Should preparations for a concert be discovered, officials will reiterate the prohibition of music performances on that site. Violators will face prosecution.

Furthermore, officials observed the illegal sale of repackaged liquor during past unauthorized concerts. In response, the Excise Department has been engaged for further investigation and legal action.

Source: Daily News newspaper, issue dated May 1, 2024 (afternoon frame)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/04/2024 9:46 am    Post subject: Reply with quote

รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประกาศ รฟท. วันที่โพส 29/04/2567

ประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย

ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังเอกสารแนบ หรือดาวน์โหลดรายละเอียดการรับสมัครได้ที่นี่
https://www.railway.co.th/download/pdf/2567/25670729-1.pdf
https://www.railway.co.th/download/pdf/2567/25670729-2.pdf

Recruiting Individuals for Selection as Governor of the State Railway of Thailand
SRT Announcement Posting Date: April 29, 2024

Notice from the Selection Committee for Governor of the State Railway of Thailand
Subject: Recruitment of Individuals for the Position of Governor, State Railway of Thailand

The State Railway of Thailand seeks qualified individuals to be considered for the esteemed position of Governor. Candidates must possess the qualifications and lack any prohibited characteristics as outlined in the Standard Qualifications Act for Directors and Employees of State Enterprises B.E. 2518 (and its amendments), as well as the State Railway of Thailand Act B.E. 2494 (and its amendments).

Details regarding the position and the application process can be found in the attached document or downloaded here:
https://www.railway.co.th/download/pdf/2567/25670729-1.pdf
https://www.railway.co.th/download/pdf/2567/25670729-2.pdf

รฟท.เปิดรับสมัครผู้ว่าการคนใหม่แล้ว ถึง 28 พ.ค. 67 วางสเปกเชี่ยวชาญงานขนส่ง พัฒนาสินทรัพย์-โครงสร้างองค์กรยุคใหม่
ผู้จัดการออนไลน์ 30 เม.ย. 2567 11:08

รฟท.ประกาศรับสมัครผู้ว่าการคนใหม่แล้ว ยื่นได้ตั้งแต่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 67 คุณสมบัติ ตำแหน่งระดับไม่ตํ่ากว่ารองผู้บริหารระดับสูงสุดเอกชนที่มีรายได้ไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี หรือรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี มีความรู้ด้านรถไฟ ขนส่ง มีแนวคิดพัฒนารถไฟ และบริหารสินทรัพย์ จัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้ปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 1/2567 เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 2567 มีรายละเอียดดังนี้

ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

โดยผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยมีอำนาจและหน้าที่บริหารกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และการควบคุมของรัฐบาล และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกตำแหน่ง นอกจากนี้ยังต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดการและดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้เป็นไปตามสัญญาจ้างผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยคุณสมบัติของผู้ว่าฯ มีดังนี้

คุณสมบัติทั่วไป

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร

3. สามารถทำงานให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เต็มเวลา

4. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟ้่นเฟือนไม่สมประกอบ

5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

6. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

7. ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะรํ่ารวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

8. ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

9. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง

10. ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่

11. ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย

12. ไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ประกอบกิจการอันมืสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ผู้อื่น หรือมีส่วนได้เสียในสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือในกิจการที่กระทำให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เว้นแต่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเช่นว่านั้นโดยสุจริต และได้แจ้งให้คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยทราบก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย

13. ไม่เป็นกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่เป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

1. มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง

2. เป็นผู้ที่มีความรอบรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ดังนี้

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายไดไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่เทียบเท่ารองอธิบดี

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี

3. มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการรถไฟ การขนส่ง วิศวกรรม พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ หรือการเงิน

4. มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนากิจการรถไฟ และการบริหารสินทรัพย์ให้เจริญก้าวหน้า มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการขนส่งระบบรางทั้งภายในและระหว่างประเทศเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ตรงต่อเวลา และปลอดภัย รวมถึงมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร

5. มีแนวคิดในการจัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประสิทธิผล มีคุณธรรม และจริยธรรมของนักบริหาร และมีประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่

6. มีบุคลิกภาพดี มีภาวะผู้นำ มีความรอบรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและมีความสามารถสูงในการตัดสินใจ สั่งการ และบริหารตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ มีมนุษยสัมพันธ์อันดี สามารถติดต่อประสานงานได้ดีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

สำหรับตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท. มีวาระการดำรงตำแหน่งตามสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปี และอยู่ในวาระได้ไม่เกินอายุ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน ระหว่างดำรงตำแหน่งจะมีการประเมินผลการทำงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง ทั้งนี้ ผลการประเมินการทำงานของผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกครั้งถือเป็นเด็ดขาด

ทั้งนี้ หากผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ รฟท.ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจ หรือผู้บริหารภาคเอกชน หรือเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐผู้นั้นต้องลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย มิฉะนั้นจะถือว่าผู้นั้นสละสิทธึ๋ในการทำสัญญาจ้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย

ผู้สมัครสามารถ Download แบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเองและหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคได้ที่ www.railway.co.th หรือติดต่อขอรับแบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเอง และหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคล หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการบุคคล ฝ่ายทรัพยากรบุคคล การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทร.สายตรง 08-9427-4764

ยื่นใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติ เอกสารหลักฐานอื่นๆ ในการสมัคร จำนวน 6 ชุด แบ่งเป็นด้นฉบับ 1 ชุด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 4 ชุด) และหนังสือให้ความยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคลพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประซาซน จำนวน 4 ชุด ใส่ในซองต้นฉบับ ให้ครบถ้วน โดยมาสมัครด้วยตนเองหรือจัดส่งเอกสารการสมัครทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS โดยใส่ซองปิดผนึกและลงซื่อกำกับด้วย ถึงประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 2567 ในวันและเวลาราชการระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.

SRT is now accepting applications for a new governor until May 28, 2024, with specified qualifications in transportation expertise. The ideal candidate should possess assets such as a modern organizational structure.

News reports indicate that on April 30, 2024, Mr. Apirat Chaiwongnoi, Director General of the Department of Rural Roads and Board of Directors of the State Railway of Thailand, signed the announcement of the Governor Selection Committee of the State Railway of Thailand No. 1/2024 regarding the recruitment process. The application period is from April 29 to May 28, 2024.

The State Railway of Thailand is seeking individuals for the position of Governor who meet the qualifications outlined in the Standard Qualifications Act for Directors and Employees of State Enterprises 1975, as well as the State Railway of Thailand Act 1951.

The Governor of the State Railway of Thailand will be responsible for managing the affairs of the organization in accordance with established policies, laws, and regulations, and will report to the State Railway of Thailand Board.

Qualifications for the Governor include:

General requirements:

1. Thai nationality
2. Age not exceeding 58 at the time of application
3. Full-time availability for the State Railway of Thailand
4. No history of mental illness or bankruptcy
5. No criminal record or involvement in unethical activities
6. Not affiliated with political positions or parties
7. No past dismissal due to dishonesty
8. No involvement in competing businesses or conflicts of interest with the State Railway of Thailand
9. Not currently serving on the Board of the State Railway of Thailand

Position-specific requirements:

1. Bachelor's degree or equivalent from a certified institution
2. Experience managing large organizations, with specific criteria depending on the sector (private, government, or state enterprise)
3. Expertise in railways, transportation, engineering, commerce, economics, or finance
4. Vision for railway development and asset management
5. Ability to design a modern organizational structure aligned with government policies
6. Leadership qualities, decision-making skills, and effective communication abilities

The term of office for the SRT Governor is not more than four years or until reaching 60 years of age, whichever comes first. Performance evaluations will be conducted annually.

Selected candidates holding positions in other sectors must resign within 14 days of notification from the State Railway of Thailand.

Application details are available at www.railway.co.th or through the Human Resources Department of the State Railway of Thailand.

Applications must be submitted in person or via express mail to the Chairman of the Selection Committee for Governor of the State Railway of Thailand between 8:30 a.m. and 4:30 p.m. on official days.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44842
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/04/2024 6:18 pm    Post subject: Reply with quote

กาญจนบุรี - การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมจับมือกลุ่มเครือข่ายร่วมลงทุนค้าไทย- เมียนมา ผลักดันโครงการคลังจุดขนถ่ายสินค้า ทางรางรถไฟ บ้านวังเย็นกาญจนบุรี
อปท นิวส์ 30 เม.ย. 2567

คณะผู้บริหาร บจก.เวสท์โคสท์ เอ็นจิเนียริ่ง และคณะผู้ลงทุนร่วมค้าประเทศเมียนมา คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร่วมสำรวจพื้นที่ก่อสร้างสถานีขนสินค้าระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบกกาญจนบุรี ในโครงการของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด คณะร่วมทุนลงดูพื้นที่จริง พร้อมผลักดันโครงการปลายปี 2567 เตรียมพร้อมลงเสาเอกหลังการรถไฟแห่งประเทศไทย ส่งเอกสารการอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องประชุม ภีมวนา Royal Riverkwai Resort and Spa นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ ผู้บริหารบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้เชิญคณะกลุ่มร่วมทุนฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายวันชัย พยัคฆ์เกษม นายพัฒชัย วงศ์งาม นายเศรษฐรัชต์ เลือดสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.ติณณ์ ถิรกุลโตมร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คุณขจร ศิวรังสรรค์ หัวหน้าหน่วยธุรกิจวิศกรรมเหล็กรางรถไฟฯ คุณสมยุทธิ์ เรือนงาม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนคณะร่วมทุนชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR. U y Pa, Capt.ye Myint Tun, U wai Phyo Sann, U Hla Kyaing และ A ung Myitta(Matthew) กลุ่มนักธุรกิจชาวเมียนมา ได้เดินทางลงดูพื้นที่ก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าระบบราง และสถานที่ก่อสร้างท่าเรือบกกาญจนบุรี บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

โอกาสนี้คณะทั้งหมดได้เดินทางไปยังอำเภอสังขละบุรี ดูพื้นที่เส้นทางเพื่อเตรียมในการพัฒนาใช้เส้นทางรางรถไฟจากกาญจนบุรี ออกไปยังประเทศเมียนมา จะช่วยในการขนส่งสินค้าต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศ สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อโครงการนี้สำเร็จ เนื่องจากปัจจุบันสินค้าภาคเกษตรของเมียนมา ผลผลิตกำลังออกมาก สินค้าต้องผ่านออกไปยังประเทศโซนเอเซีย และโซนยุโรป เช่นประเทศจีน เวียดนาม ฯลฯ. ระยะขนส่งทางยาว หากโครงการนี้สำเร็จจะย่นระยะทางการขนส่งได้มากกว่า และปัจจุบันนี้ขนส่งแบบโลจิสติกส์ ด้วยการขนส่งด้วยรถยนต์ขนาดใหญ่ กำลังเกิดปัญหาจากเส้นทางยังไม่สะดวก รถขนาดใหญ่ได้ก่อปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ และกระทบต่อการท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก

สำหรับบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ได้เตรียมจัดทำโครงการไว้ 3 อย่างคือ เส้นทางรถไฟ เส้นทางเรือบก และเส้นทางอากาศ โดยเตรียมสถานที่ไว้พร้อมหมดแล้วทุกด้าน แต่การดำเนินการต้องให้เวลา แต่จะเริ่มเส้นทางรางรถไฟก่อนเป็นอันดับแรกบริเวณสถานีบ้านวังเย็น เพื่อเป็นคลังสินค้า ก่อนนำเข้าและออกไปยังประเทศต่างๆ คือ เมียนมา - เวียดนาม - ลาว - จีน – มาเลย์ และประเทศสิงคโปร์ ซึ่งบริเวณสถานีบ้านวังเย็น จะมีครบทั้งด่านศุลกากร สามารถตรวจสอบสินค้าเข้า- ออก ได้ทันที

โอกาสนี้กลุ่มร่วมทุนชาวเมียนมา ได้ร่วมประชุมรับฟังการร่วมทุนของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์โปรดักส์ จำกัด ในครั้งนี้แล้วต่างก็พอใจ เตรียมจับมือเพื่อผลักดันโครงการคลังสินค้าบริเวรสถานีวังเย็น ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุด สามารถนำสินค้าส่งไปยังจีน ลาว เวียนนาม มาเลย์ และประเทศสิงคโปร์ ทุกช่องทางสามารถเชื่อต่อนำมาเปลี่ยนถ่ายได้สะดวกที่สุด ซึ่งปัจจุบันสินค้าเข้ามาจากเมียนมา เช่นยางพารา ผลผลิตกำลัง ออกมามากเข้ามาเป็นแท่ง ดังนั้นก่อนจะนำส่งออกไปยังประเทศใด เราสามารถนำมาแปรรูปก่อนหลายรูปแบบ โครงการแห่งนี้สำเร็จการส่งออกจะใช้เวลาที่เร็วมากกว่าถึง 3 เท่า ในการนำสินค้า ออกไปในแต่ละประเทศ / เส้นทางรถไฟเสร็จ ถนนมอเตอร์เวย์ ทุกเส้นทางมีครบหมดแล้วจะเปิดใช้งานปลายปี 2568 สินค้าสามารถส่งไปยังจุดใหญ่ๆ /เช่นที่จังหวัดอยุธยา ต่อไปแหลมฉบัง

หลังจากที่คณะร่วมลงทุนของเมียนมา และ คณะร่วมลงทุนของไทยได้เดินทางไปยังด่านบ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อดูพื้นที่ช่องทางเส้นทางรถไฟเดิม ในการเตรียมพัฒนาพื้นที่ช่องทางรถไฟ รวมถึงเตรียมจัดตั้งพื้นที่คัลงสินค้ารองรับในอนคต โดยคณะร่วมทุนของชาวเมียนมา ได้มีการพูดคุยปรึกษานอกรอบกันกับผู้ร่วมทุนว่า หากโครงการนี้สำเร็จแล้วอนาคตการส่งสินค้าภายในประเทศที่ได้ออกไปยังประเทศในโซนเอเซีย และยุโรป จะสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งที่เป็นอยู่ต้องผ่านออกไปใช้ระยะเวลานานมาก ทำให้สิ้นเปลืองทั้งเวลา และค่าสินไหมต่างๆ

โอกาสนี้ นายยงยุทธ คงสวัสดิ์ ผู้บริหารบริษัทเซี่ยงไฮ้ ไทยรับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด พร้อมคณะได้เยี่ยมชมบรรยากาศบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ วันนี้คึกคัก รถบรรทุกขนสิ่งสินค้าขนาดใหญ่ของพม่า ข้ามแดนเข้ามาขนถ่ายสินค้า บริเวณด้านข้างวัดพระเจดีย์สามองค์ โดยมีแรงงาชาวเมียนมาช่วยการขนถ่ายสินค้าจากรถบบรรทุกของผู้ประกอบการชาวไทย ขึ้นไปยังรถบรรทุกของผู้ประกอบการชาวเมียนมา โดยสินค้าที่ส่งออกมีทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค รวมทั้งสินค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ประมง และน้ำมัน โดยปลายทางสินค้าส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของเมียนมา เช่นเมืองมูโด่ง มะละแหม่ง และย่างกุ้ง

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวในประเทศเมียนมา มีความไม่สงบภายในประเทศ ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ตามจุดผ่านพรมแดนต่างๆได้ ทำให้จุดผ่อนปรนทางการค้าและท่องเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ ผู้ประกอบการหันมาขนส่งสินค้ากันเป็นจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะขอเจ้าหน้าที่มาช่วยงานผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อรองรับงานของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ในส่วนของไตรมาสแรกปี 2567 สินค้าที่นำส่งออกส่วนมากจะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง สุรา น้ำมันเชื้อเพลิง และของเบ็ดเตล็ดทั่วไป มูลค่า 3 เดือน 1,200 ล้านบาท เก็บภาษีเข้ารัฐได้ 40 ล้านบาทต่อปี


Kanchanaburi - The State Railway of Thailand is joining hands with the Thai-Myanmar joint investment network group to advance the warehouse project at the goods transfer point on the railway, Ban Wang Yen, Kanchanaburi.
OPT News 30 Apr. 2024

The management team of West Coast Co., Ltd. Engineering and Myanmar joint venture investors, along with the Dean of the Faculty of Railway and Transportation at Rajamangala University of Technology Isan, participated in surveying the construction area of the rail freight station and the construction site of the Kanchanaburi land port. In the project of Shanghai company Thai Rubber Products Co., Ltd., a joint venture team visited the actual area. They are ready to push the project towards completion by the end of 2024 and are preparing to install the main pillar behind the State Railway of Thailand. Documents for permission to use the area have been submitted.

Reporters stated that at the meeting room of Phimwana Royal Riverkwai Resort and Spa, Mr. Yongyut Kongsawat, executive of Shanghai company Thai Rubber Products Co., Ltd., invited the Thai joint venture group consisting of Mr. Wanchai Payakkasem, Mr. Patchai Wongngam, Mr. Settharat Luetsakul, Inspector General of the Ministry of Industry, Dr. Tin Thirakultomon from Rajamangala University of Technology Isan, Mr. Khajon Siwarangsan, Head of the Railway Steel Engineering Business Unit, and Mr. Somyut Ruean-ngam, Advisor to the Minister of Transport. As for the Burmese joint venture group, it consisted of Mr. U y Pa, Capt. Ye Myint Tun, U Wai Phyo Sann, U Hla Kyaing, and A ung Myitta (Matthew), a group of Burmese businessmen. They visited the construction site for the rail freight station and the construction site of the Kanchanaburi land port at Wang Yen Station construction site, Mueang District, Kanchanaburi Province.

On this occasion, the entire group traveled to Sangkhlaburi District to observe the route area in preparation for the development of using the railway route from Kanchanaburi to exit to Myanmar. It will aid in transporting various goods between the two countries, making it more convenient once this project is completed. Currently, Myanmar's agricultural productivity is abundant, but goods must pass through countries in the Asian and European zones such as China and Vietnam, resulting in long transportation distances. If this project succeeds, the transportation distance will be greatly reduced. Additionally, the current logistics transportation with large car transport is facing problems due to inconvenient routes, causing issues for people in the area and significantly affecting tourism.

Shanghai Company Thai Rubber Products Co., Ltd. has prepared three projects: a railway route, a land boat route, and air routes. The preparations have been made in every aspect, but the process requires time. However, the train route will commence first at Ban Wang Yen Station to serve as a warehouse before importing and exporting to various countries, namely Myanmar, Vietnam, Laos, China, Malaysia, and Singapore. There will be a complete customs checkpoint around Ban Wang Yen station to immediately check incoming and outgoing products.

On this occasion, the Myanmar joint venture group attended a meeting to hear the joint venture plans of Shanghai company Thai Rubber Products Co., Ltd., and they were all satisfied. They are prepared to collaborate to advance the warehouse project near Wang Yen Station, which is the ideal point for delivering products to China, Laos, Vietnam, Malaysia, and Singapore. All channels can be interconnected and exchanged in the most convenient way. Currently, products imported from Myanmar, such as rubber, are produced in large quantities. Therefore, before exporting to any country, they can be pre-processed into various formats. Once this project succeeds, exports will be three times faster, facilitating product distribution to each country. The railway route, motorway road, and all routes will be completed and opened by the end of 2025, allowing products to be sent to major points such as Ayutthaya Province and Laem Chabang.

After the Myanmar joint investment group and the Thai joint investment group visited the Ban Phra Chedi Sam Ong checkpoint to observe the original railway route area and prepare for the development of the railway channel area, discussions were held with the joint venture partners. If this project succeeds, delivering domestic products to countries in the Asian and European zones will be more convenient, eliminating the need for long and time-consuming routes and various compensation costs.

On this occasion, Mr. Yongyut Kongsawat, executive of Shanghai Thai Rubber Products Co., Ltd., along with his group, visited the atmosphere at the Three Pagodas Checkpoint, which was bustling with trucks transporting large Burmese goods across the border. The area beside Wat Phra Chedi Sam Ong had Myanmar workers assisting in unloading products from trucks belonging to Thai entrepreneurs, which were then loaded into trucks of Myanmar entrepreneurs. The exported products include consumer products used in the plastics, fishing, and oil industries, with most destined for important economic cities of Myanmar such as Mudong, Mawlamyine, and Yangon.

This event coincides with unrest in Myanmar, causing freight operators to face difficulties transporting goods at various border crossing points. This has led to increased trade and tourism at the Three Pagoda Checkpoint. Entrepreneurs are transporting goods in greater numbers than ever before, prompting Mr. Yongyut Kongsawat to report the situation to his superiors in order to request officials' assistance with customs procedures. In the first quarter of 2024, the majority of exported products will include energy drinks, spirits, fuel, and general miscellaneous items worth 1.2 billion baht, generating government tax revenue of 40 million baht per year.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 475, 476, 477, 478  Next
Page 476 of 478

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©