View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tongchit
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1164
Location: ทับยาว เขต.ลาดกระบัง
|
Posted: 07/10/2006 1:42 pm Post subject: |
|
|
เห็นแล้วคิดถึงตอนเด็กๆเคยไปเป็นเด็กวัดอยู่ที่ชุมพร อ.ปากตะโก ปี23-24 ตอนเช้าประมาณ7โมงกว่าๆรถชุมพร-หาดใหญ่มา ต้องวิ่งออกไปดูทุกทีสมัยนั้นใช้รถกรุ๊ปปทำขบวนสภาพยังแจ๋วอยู่เลย แหะๆขอติดไปด้วยคนนะครับคุณตุ้ย |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 07/10/2006 3:13 pm Post subject: |
|
|
ใช่แล้วครับคุณ tuie ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ว่า Tokyu คันนำนั้นหมายเลข DXX อะไรพอมองเห็นไหมครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 07/10/2006 8:13 pm Post subject: |
|
|
tongchit wrote: | เห็นแล้วคิดถึงตอนเด็กๆเคยไปเป็นเด็กวัดอยู่ที่ชุมพร อ.ปากตะโก ปี23-24 ตอนเช้าประมาณ7โมงกว่าๆรถชุมพร-หาดใหญ่มา ต้องวิ่งออกไปดูทุกทีสมัยนั้นใช้รถกรุ๊ปปทำขบวนสภาพยังแจ๋วอยู่เลย แหะๆขอติดไปด้วยคนนะครับคุณตุ้ย |
ขอบคุณพี่นุชิตที่ติดตามชม และช่วยกันรำลึกถึงความหลังกันครับ เห็นพี่กล่าวถึงรถธรรมดาที่ ๑๑๙/๑๒๐ ชุมพร-หาดใหญ่ เลยขอนำข้อมูลกำหนดเวลาเดินรถขบวนนี้ในปี ๒๕๒๓ มาฝากนะครับ
ขบวน ๑๑๙ ออกจากชุมพร ๐๖.๔๕ น. ออกจากสวี ๐๗.๒๔ น. ออกจากหลังสวน ๐๘.๐๓ น. คงผ่านปากตะโก ๗ โมงกว่าๆอย่างที่พี่บอกเลยละครับ รถถึงหาดใหญ่ ๑๘.๑๕ น. ใช้เวลาเดินทางมากกว่าปัจจุบันประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง ส่วนขบวน ๑๒๐ ออกจากหาดใหญ่ ๐๖.๐๐ น. ถึงชุมพร ๑๗.๑๕ น. ครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 07/10/2006 8:16 pm Post subject: |
|
|
anusorn wrote: | ใช่แล้วครับคุณ tuie ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ว่า Tokyu คันนำนั้นหมายเลข DXX อะไรพอมองเห็นไหมครับ |
ลองเพ่งดูในต้นฉบับกำหนดเวลาเดินรถฉบับนี้แล้ว เห็นแค่อักษร D เท่านั้นเองครับ ส่วนตัวเลขต่อจาก D เลือนมากจนอ่านไม่ออกว่าเป็นหมายเลขใดเลยครับ จะเดาก็กลัวจะผิด(แน่) 8) |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 08/10/2006 1:59 pm Post subject: |
|
|
ยังจำขบวน รวม 61/62 (เพชรบุรี - ชุมพร) ที่โดนกองทัพสัมพันธมิตรถล่มประจำได้หรือเปล่า |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 08/10/2006 5:18 pm Post subject: |
|
|
AtomosBao wrote: | อาตุ้ยครับ เลข2 เลข3 ใต้สถานีต้นทาง-ปลายทาง นั้นคือชั้นโบกี้ ที่รถขบวนนั้นๆ พ่วงหรออครับ |
กลายเป็น "อา" ซะแล้วเรา จะเรียกว่า "พี่" ก็ยังไหวนะครับคุณหลานAtomosBao 8)
ใช่แล้วครับ หมายเลขที่ถามคือโบกี้ชั้นที่มีบริการในแต่ละขบวนรถ ซึ่งกำหนดเวลาเดินรถแบบเมนูร้านอาหารตามสั่งยุคปัจจุบันไม่พิมพ์ข้อมูลดังกล่าวแล้ว
ไหนๆพูดถึงเรื่องนี้ เลยขอเล่าเพิ่มเติมนะครับ
ตามข้อมูลที่ปรากฏในกำหนดเวลาเดินรถปี ๒๕๒๓ มีข้อน่าสังเกตว่า มีการระบุชั้นที่ให้บริการบนขบวนรถต่างๆไว้ด้วย ซึ่งขบวนรถธรรมดาในยุคนี้มักจะมีโบกี้ชั้นสอง(พ่วงเพียงคันเดียว หรือครึ่งคัน)และชั้นสามพ่วงอยู่หลายขบวน เช่น ขบวน ๑๑๙/๑๒๐ ชุมพร-หาดใหญ่(ขบวน ๔๔๕/๔๔๖ ในปัจจุบัน) ขบวน ๑๒๓/๑๒๔ สุราษฎร์-ยะลา(ปัจจุบันคือขบวน ๔๔๗/๔๔๘ ขยายปลายทางไปถึงสุไหงโกลก) ขบวน ๑๓๑/๑๓๒ นครศรีธรรมราช-สุไหงโกลก (ขบวน ๔๕๑/๔๕๒ ในปัจจุบัน) แต่เท่าที่เห็นรถชั้นสองของขบวนรถธรรมดาจะเป็นโบกี้รุ่นเก่าแบบหน้าต่างเล็ก(ทำนองเดียวกับหน้าต่างรถ บชท.น่ะครับ) มีที่นั่งชั้นสองเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งเป็นชั้นสาม นานๆทีจะเห็นโบกี้ชั้นสองล้วนมาพ่วงกับขบวนรถธรรมดาแต่จะเป็นขบวนที่ต้นทางออกจากกรุงเทพนะครับ เช่น ขบวน ๙๑/๙๒ กรุงเทพ-พิษณุโลก
เห็นว่าขบวนรถธรรมดามีชั้นสองแล้วอย่าเพิ่งไปนึกฝันถึงเก้าอี้ปรับเอนอิสระได้หลายระดับแยกพนักกันระหว่างผู้โดยสารที่นั่งคู่กันอย่างรถ บชท. ในปัจจุบันนะครับ เพราะรถนั่งชั้นสองรุ่นดั้งเดิมที่นำมาพ่วงกับขบวนรถธรรมดานี้ พนักพิงเป็นแผ่นเดียวสำหรับผู้โดยสารที่นั่งคู่กันเอนได้ระดับเดียวตายตัว เวลาพ่วงในขบวนเที่ยวกลับก็ไม่ต้องหมุนเก้าอี้กลับทิศให้วุ่นวาย เนื่องจากเก้าอี้รุ่นเก่านี้สามารถยกพนักพิงจากที่เอนด้านเดิม ผลักข้ามเบาะนั่งไปเอนอีกด้านหนึ่งให้ผู้โดยสารนั่งแล้วหันหน้าไปทางทิศหัวขบวนรถเที่ยวกลับได้เลย ผู้โดยสารเสียค่าโดยสารชั้นสองแล้วสามารถเลือกนั่งตามที่ว่างได้ตามสบาย ไม่มีการสำรองที่กำหนดหมายเลขที่นั่งให้นั่งแบบรถ บชท. ของขบวนรถด่วน รถเร็ว ครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 08/10/2006 8:21 pm Post subject: เล่าต่อนะครับ |
|
|
มีข้อสังเกตว่ากำหนดเวลาเดินรถสายใต้ในยุคนี้ แบ่งออกเป็นตารางหลักแสดงกำหนดเวลาเดินรถทางสายหลักจากกรุงเทพ/ธนบุรี-หาดใหญ่-บัตเตอร์เวอร์ธ(ปีนัง) กับตารางสายย่อยที่แยกออกจากทางสายหลัก เช่น จากหาดใหญ่-ยะลา-สุไหงโกลก เป็นตารางนี้ครับ
ท่านที่เดินทางกับขบวนรถด่วนกรุงเทพ-สุไหงโกลก กรุงเทพ-ยะลา รถเร็วธนบุรี-สุไหงโกลก รวมทั้งขบวนอื่นๆที่ปลายทางพ้นสถานีชุมทางหาดใหญ่เป็นต้นไป หากจะดูกำหนดเวลาเดินรถก็จะต้องพลิกดูสองตาราง ได้แก่ตารางทางสายหลัก และตารางสายย่อยควบคู่กันไป ซึ่งแตกต่างไปจากกำหนดเวลาเดินรถ(แบบเมนูร้านอาหารตามสั่ง)ในปัจจุบัน ที่นำรายละเอียดของขบวนรถโดยสารในทางสายใต้ทุกปลายทางมารวมไว้ในตารางหลักเพียงเที่ยวละตารางเดียว นับว่าสะดวกดีพอจะลดความไม่น่าพึงพอใจจากความไม่สวยของกำหนดเวลาเดินรถในยุคปัจจุบันลงได้มาก 8)
ขบวนรถเร็วที่มีเดินถึงยุคปัจจุบันแต่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างอีกขบวนหนึ่ง คือ ขบวนรถเร็วที่ ๔๓/๔๔ กรุงเทพ-หาดใหญ่ ออกจากกรุงเทพเวลา ๑๒.๑๐ น. (ปัจจุบันคือขบวน ๑๖๙/๑๗๐ ขยายปลายทางเป็นกรุงเทพ-ยะลา) ผมเคยนั่งขบวนนี้ชมวิวตอนกลางวันนับแต่ออกจากกรุงเทพได้ครึ่งวัน ทันเห็นชายทะเลอันเงียบสงบงดงามใกล้ๆทางรถไฟช่วงสถานีบ่อนอก-ทุ่งมะเม่า-คั่นกระได ช่วงยามเย็นได้ ก่อนที่จะมืดหลังจากที่ขบวนรถถึงประจวบฯเวลา ๑๘.๑๐ น. พอเห็นทางรถไฟริมทะเลช่วงดังกล่าวแล้วผมยังคิดฝัน(ขณะนั่งดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นบนขบวน ๔๓) ตั้งแต่เด็กๆ เลยว่า อยากมีบ้านเล็กริมทะเลที่ติดทางรถไฟแถมด้านตะวันตกยังมีภูเขาเป็นฉากหลังอย่างแถวๆชายหาดช่วงสถานีบ่อนอก-ทุ่งมะเม่า-คั่นกระไดสักหลังจริงๆ เพราะจะได้ใกล้ชิดกับสิ่งที่รักทั้งรถไฟ ทะเล ภูเขา และความสงบ นอนฟังเสียงคลื่น หันไปอีกทางก็เห็นทางรถไฟ และขบวนรถวิ่งผ่านทั้งกลางวันกลางคืน ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแค่ความฝันอยู่เลยครับ ถ้าในอนาคตเว็บเรามีโครงการสร้างบ้านพักตากอากาศ หรือหมู่บ้านคนรัก(บ้า)รถไฟเมื่อใด ผมขอเสนอสถานที่ดังกล่าวเป็นอันดับแรกนะครับ พอออกจากประจวบแล้วขบวน ๔๓ แล่นฝ่าความมืดมองเห็นทิวมะพร้าวแถวๆทับสะแกเป็นเงาๆ ถึงชุมพรเวลา ๒๑.๓๒ น. ยังลุกจากที่นอนมาสั่งข้าวต้มร้อนๆมารับประทานสักชามได้สบายๆ นอนหลับฟังเสียงล้อกระทบราง ผ่านประแจไปเรื่อยๆ เวลาจอดรอหลีกก็เปิดมู่ลี่(ก่อนปี ๒๕๒๕ ยังไม่มีรถ บนท.ป.ให้บริการ) ดูรถสวนเพลินๆ แล้วนอนหลับต่อตื่นมา ๐๗.๐๐ น. ก็ถึงหาดใหญ่ด้วยความสุขสดชื่นแล้ว |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 08/10/2006 8:32 pm Post subject: |
|
|
ขบวนรถที่ออกจะแปลกสักหน่อยถ้าเทียบกับยุคปัจจุบันที่ไม่มีขบวนรถด่วนสลับกันเดินวันเว้นวันแล้ว คือ ขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒ ๑๕/๑๖ กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ/สุไหงโกลก(ปัจจุบันคือขบวน ๓๕/๓๖ กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ มีเดินทุกวัน) ถ้าเดินทางช่วงกรุงเทพ-หาดใหญ่จะไม่มีปัญหา สามารถใช้บริการรถด่วนขบวนนี้ได้ทุกวันตามกำหนดเวลาเดียวกัน แต่ถ้าจะไปบัตเตอร์เวอร์ธหรือไปสุไหงโกลกกับขบวนนี้ต้องดูวันเดินทางให้ดี มิฉะนั้นจะต้องหารถเดินทางต่อที่หาดใหญ่ ขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒ ปลายทางบัตเตอร์เวอร์ธออกจากกรุงเทพเวลา ๑๖.๑๐ น. เฉพาะวันจันทร์ พุธ เสาร์ ถ้าเป็นขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒ ๑๕/๑๖ มีสองหมายเลขในขบวนเดียวกันเพราะช่วงกรุงเทพ-หาดใหญ่ เป็นขบวน ๑๑/๑๒ ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโกลก เป็นขบวน ๑๕/๑๖ ออกจากกรุงเทพเวลาเดียวกันเฉพาะวันอาทิตย์ อังคาร พฤหัส ศุกร์
รถด่วนขบวนนี้เมื่อถึงปลายทางไม่ว่าจะเป็นบัตเตอร์เวอร์ธ หรือสุไหงโกลก ก็จะจอดค้างคืนหนึ่งคืนแล้วทำขบวนกลับช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ขบวนรถเที่ยวกลับจากบัตเตอร์เวอร์ธ/สุไหงโกลก จึงมีสลับวันกันสัมพันธ์กับเที่ยวไป กล่าวคือ ขบวนรถเที่ยวกลับจากบัตเตอร์เวอร์ธ-กรุงเทพ ออกจากต้นทางเวลา ๐๗.๕๕ น. มีเฉพาะวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เที่ยวกลับจากสุไหงโกลก-กรุงเทพ ออกจากต้นทางเวลา ๐๘.๒๐ น. มีเฉพาะวันอาทิตย์ อังคาร พฤหัส เสาร์ จะเห็นได้ว่าการจัดตารางเดินรถแบบนี้ต้องเสียโบกี้ไปจอดค้างคืนเปล่าๆที่ปลายทาง แต่เท่าที่ผมเห็นก็ไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ โบกี้โดยสารที่ไปสุดปลายทางบัตเตอร์เวอร์ธ/สุไหงโกลกมีแค่รถ บนอ.ป. บนอ.(พัดลม) บชท. อย่างละ ๑ คัน รถบนท.ประมาณ ๓-๔ คัน เท่านั้นเองครับ โบกี้ส่วนมากจะตัดในตอนที่ขบวนรถถึงหาดใหญ่เวลา ๑๐.๒๘ น. แล้วต่อเข้าขบวน ๑๒ ออกจากหาดใหญ่เวลา ๑๒.๔๐ น. กลับเข้ากรุงเทพโดยไม่ต้องจอดค้างคืนที่หาดใหญ่เป็นไปทำนองเดียวกับโบกี้ที่ตัดหาดใหญ่ของขบวน ๓๕/๓๖ ในปัจจุบันน่ะครับ
นอกจากรถด่วนขบวนนี้มีการตัดโบกี้ที่ชุมทางหาดใหญ่แล้ว ในยุคก่อนยังมีการตัดโบกี้ที่สถานีชุมทางทุ่งสง เป็นรถ บนท. อีกประมาณ ๑-๒ โบกี้ เที่ยวไปจากกรุงเทพพ่วงเป็นคันที่ ๑๔-๑๕ ติดป้ายข้างรถว่า กรุงเทพ-ทุ่งสง ส่วนคันที่ ๑๖ เป็นรถ บนอ.(พัดลม) คันที่ ๑๗ เป็นรถ บนอ.ป. สองคันท้ายนี้ไปถึงปลายทางบัตเตอร์เวอร์ธ/สุไหงโกลก ผมจำได้ว่าเวลาขึ้นรถ บนอ.ป. รถด่วนขบวนนี้ไปหาดใหญ่ทีไร ไม่ต้องกลัวนอนเพลินจนไม่ได้ลุกขึ้นมาชมวิวภูเขาช่วงสถานีช่องเขา-ร่อนพิบูลย์ เพราะพอรถจอดสถานีชุมทางทุ่งสงสัก ๑-๒ นาที คุณป้า(เดี๋ยวนี้คงต้องเรียกว่าคุณย่า)ดาเวนปอร์ตจะมาปลุกให้ตื่นด้วยการกระแทกท้ายรถ บนอ.ป. คันที่ ๑๗ ดังโครม ต่อขอพ่วงเสร็จก็ลากเอาคันที่ ๑๔-๑๕ กรุงเทพ-ทุ่งสง ไปจอดพักไว้รางสาม แล้วก็ลากรถนอนเอกทั้งสองคันกลับมาต่อเข้าขบวนเดิมที่รางหนึ่งกระแทกอีกหนึ่งโครม ถ้ายังไม่ตื่นนอนก็แสดงว่าเป็นคนนอนขี้เซาเต็มทีแล้วครับ หากโดยสารโบกี้อื่นๆต้นขบวนจะไม่ได้รับเกียรติด้วยการปลุกโดยคุณป้าดาเวนปอร์ตแบบผู้โดยสารรถนอนเอกสองคันท้ายดังกล่าวนะครับ 8)
นอกจากขบวนรถด่วนที่ ๑๑/๑๒, ๑๕/๑๖ ซึ่งเป็นขบวนรถด่วนเก่าแก่คู่กับทางสายใต้มานานมากแล้ว ยังมีขบวนรถด่วนซึ่งเปิดเดินใหม่อีกขบวนหนึ่ง คือ ขบวนรถด่วนที่ ๑๙/๒๐ กรุงเทพ-ยะลา ออกจากกรุงเทพ ๑๔.๓๐ น. ถึงหาดใหญ่ ๐๘.๑๙ น. ถึงปลายทางยะลา ๑๐.๔๕ น. แล้วทำขบวนกลับกรุงเทพในตอนบ่ายเวลา ๑๔.๓๕ น. ถึงกรุงเทพ ๑๐.๕๐ น. มีเดินทุกวันไม่ต้องคอยนับวันที่มีรถเดินถึงยะลา-สุไหงโกลกเหมือนอย่างขบวน ๑๑/๑๒, ๑๕/๑๖ ถ้าดูตามกำหนดเวลาเดินรถแล้วรถด่วนขบวนนี้เป็นรถโดยสารที่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพ-หาดใหญ่ น้อยที่สุดเลยซึ่งตามความเป็นจริงสมัยนั้นก็ไม่ค่อยจะเสียเวลาด้วยนะครับ ผมจำได้ว่าเวลาเดินทางเที่ยวไปจากกรุงเทพ(ขบวน ๑๙) พอสักประมาณ ๑๘ น.ตั้งโต๊ะรับประทานอาหารมื้อเย็นบนรถ บนท. มองไปนอกหน้าต่างด้านทิศตะวันตก จะเห็นบรรยากาศยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินแถวๆชะอำ ซึ่งทางช่วงระหว่างสถานีหนองศาลา-บ้านชะอำ หากมองไปทางทิศดังกล่าวจะเห็นภูเขาใหญ่ทอดตัวเป็นแนวยาวหลังทุ่งนา/ทุ่งหญ้าริมทางรถไฟ ดูคล้ายคน(นางยักษ์)นอนเหยียดยาว กล่าวคือ ภูเขาส่วนทางด้านสถานีหนองศาลา(ทิศเหนือ)จะดูคล้ายๆเท้าของนางยักษ์ ภูเขาตอนกลางเป็นช่วงลำตัว ส่วนภูเขาทางด้านสถานีบ้านชะอำ(ทิศใต้) ซึ่งส่วนหัวภูเขาติดถนนเพชรเกษมเป็นโรงปูนซิเมนต์ยี่ห้อหนึ่ง คือส่วนศีรษะนางยักษ์ ภูเขาดังกล่าวมีชื่อเป็นทางการว่า เขาใหญ่ แต่เห็นเรียกกันว่า ภูเขานางพันธุรัตน์ หรือ ภูเขานางนอน ก็มีนะครับ ท่านที่นั่งรถไฟผ่านช่วงดังกล่าวลองสังเกตนะครับก่อนที่นางยักษ์จะหัวขาดเพราะถูกระเบิดภูเขาส่วนนี้ไปทำปูนเสียหมด แต่ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ทางถนนเพชรเกษมจะมองเห็นเป็นนางยักษ์นอนไม่ชัดเจนเหมือนมองจากด้านทางรถไฟ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 08/10/2006 8:36 pm Post subject: |
|
|
เล่าถึงขบวนรถด่วน รถเร็วมาพอสมควรแล้ว ขอกล่าวถึงขบวนรถดีเซลรางซึ่งในปี ๒๕๒๓ มีเดินอยู่สาบใต้หลายขบวนบ้างนะครับ ได้แก่ ขบวน ๑๖๙/๑๗๐ ธนบุรี-ชุมพร ขบวน ๑๗๑/๑๗๒ และ ๑๙๗/๑๙๘ ธนบุรี-น้ำตก ขบวน ๒๓๓/๒๓๔ กรุงเทพ-หัวหิน ขบวน ๑๑๗/๑๑๘ กรุงเทพ-ปราณบุรี ขบวน ๑๗๓/๑๗๔ ธนบุรี-ราชบุรี รถดีเซลรางที่ใช้ทำขบวนแทบทั้งหมดเป็นรถ RHN ในสภาพและสีสันดั้งเดิมคือ น้ำเงิน-ขาว ยังไม่ทำด้านหน้าเป็นสีเหลือง พอดีผมค้นภาพถ่ายรถดีเซลรางรุ่นนี้ในสภาพเดิมที่คุณพ่อผมท่านถ่ายไว้เมื่อปี ๒๕๒๐ ระหว่างทำขบวนรถนำเที่ยวน้ำตกซึ่งผมไปเที่ยวกับครอบครัว ขณะจอดเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ให้ผู้โดยสารลงไปเดินเที่ยวชมสะพาน เลยสำเนามาให้ชมสักภาพนะครับ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นป้ายข้างรถเป็นป้ายสีขาวซึ่งใช้กับขบวนรถนำเที่ยวด้วยครับ
รถดีเซลรางรุ่นดังกล่าวหนึ่งชุดมีสองคัน คันแรกที่หันหน้าไปทางทิศสถานีสามเสนจะไม่มีเครื่องยนต์ ส่วนคันที่สองซึ่งหันหน้าไปทางทิศสถานีกรุงเทพ มีเครื่องยนต์ติดตั้งอยู่ เวลาโดยสารแต่ละคันก็ได้บรรยากาศต่างกัน กล่าวคือ ถ้านั่งคันที่ไม่มีเครื่องจะรู้สึกว่าไม่ร้อนเพราะไม่มีไอร้อนจากเครื่องยนต์ขึ้นมาในห้องโดยสาร แต่พอไม่มีเครื่องยนต์รถคันนี้ก็ออกจะเบาๆเวลาวิ่งเร็วๆยิ่งทางสภาพไม่ค่อยจะดีแล้ว รถจะกระโดดโยกส่ายมันส์มากสำหรับเด็กๆ(แบบผม) แต่ถ้านั่งคันที่มีเครื่องยนต์ ตัวรถหนักกว่าคันที่ไม่มีเครื่อง อาการรถกระโดดโยกส่ายจะน้อยกว่า ตอนรถแล่นเร็วๆไม่รู้สึกร้อนหรอกครับ แต่พอรถจอดจะมีไอร้อนจากเครื่องยนต์เข้ามาพอเหงื่อซึม ระหว่างรถดีเซลรางคันที่มีเครื่องกับไม่มี ผมชอบคันที่มีเครื่องมากกว่าครับ เพราะชอบเสียงคำรามของเครื่องยนต์แบบดั้งเดิมซึ่งเสียงดังกว่ารถดีเซลรางรุ่นหลังๆมาก ยิ่งเวลาเร่งเครื่องออกจากสถานีนี่ฟังแล้วรู้สึกเร้าใจมากเลยครับ(ตามความรู้สึกของเด็กๆ) อดชะโงกไปดูควันพวยพุ่งจากบริเวณปล่องหลังคาไม่ได้ เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้บันทึกเสียงคำรามแบบเดิมๆของ RHN ในยุคดังกล่าวเอาไว้ เวลาเห็นรถรุ่นนี้ทีไรคิดถึงเสียงเครื่องยนต์แบบเดิม สีสันดั้งเดิมจริงๆครับ 8)
ยังมีต่อนะครับ |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 09/10/2006 1:22 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณคุณตุ้ยมากครับที่นำของหายากมาให้ชม รอติดตามอยู่ครับ tuie wrote: | ระหว่างรถดีเซลรางคันที่มีเครื่องกับไม่มี ผมชอบคันที่มีเครื่องมากกว่าครับ |
แหะๆ ตรงข้ามกับผมครับ ขึ้นรถท้องถิ่นRHNข.426/ข.419 ทีไรเป็นต้องจับจองเจ้าพซข.ทุกทีครับ รถกซข.ทุกวันนี้ไม่ไหวครับ ร้อนตับแลบเนื่องจากไอเครื่องยนต์...แถมควันรั่วเข้ามาในรถอีกต่างหาก(จากขาประจำRHNครับ) _________________
|
|
Back to top |
|
|
|