View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/04/2007 9:20 am Post subject: |
|
|
ที่นั่งริมหน้าต่างตัวแรกเป็นเก้าอี้นั่งเดี่ยว มีฉากพร้อมโต๊ะไม้เล็กๆกั้นด้านหน้าที่นั่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์บนขบวนรถ แบบนี้เท่ากับไม่เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารตรงที่นั่งนี้กับประชาสัมพันธ์(สาวสวย)นั่งมองหน้ากันระหว่างเดินทางสิครับ
เดินเข้าไปช่วงกลางคันรถแล้วมองย้อนกลับไปบ้าง ผมละชอบรูปแบบเพดานรถคันนี้จริงๆ ถ้ามืดสลัวกว่านี้และมีแสงดาวฉายบนเพดานสักหน่อย เป็นท้องฟ้าจำลองขนาดย่อมได้สบายๆ 8) ส่วนที่นั่งเดี่ยวตามภาพที่แล้วอยู่ทางด้านขวาของภาพนี้ โดยเห็นเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ซึ่งปิดอยู่ถัดออกไปในเงามืดครับ
มองไปทางด้านซ้ายของภาพมีรูปแขวนอยู่บนผนัง เข้าไปดูใกล้ๆปรากฏว่าเป็นภาพศิลป์เสียด้วย
เรากำลังอยู่ในอาร์ตแกลอรี่หรือขบวนรถไฟเจอาร์ด่วนพิเศษกันแน่ ผมชักจะสับสนปนประทับใจแล้วละครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/04/2007 1:35 pm Post subject: |
|
|
รถคันที่ ๔ มีประตูกลาง พอเปิดประตูนี้ออกไปเป็นที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากัน มีกรอบกระจกกั้นระหว่างที่นั่งกับทางเดิน แต่ไม่มีประตูเลื่อนปิดเป็นห้องนะครับ
ระหว่างที่นั่งทั้งสองด้านมีโต๊ะอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะมีรอยแยกออกเป็นสี่ส่วนซึ่งแต่ละส่วนแยกเป็นอิสระต่อกัน สามารถกางออกมาเพื่อเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยของโต๊ะกลางนี้ได้อีก บนโต๊ะมีโคมไฟปิดเปิดได้เฉพาะ อีกด้านหนึ่งของทางเดินก็เป็นที่นั่งแบบเดียวกันครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/04/2007 1:57 pm Post subject: |
|
|
ชั้นวางของอยู่ด้านบนที่นั่งเหนือศีรษะผู้โดยสารทั้งสองด้าน
เดินผ่านที่นั่งแบบดังกล่าวออกมาท้ายรถคันที่ ๔ ต่อกับรถคันที่ ๕ เห็นป้ายติดที่ประตูเข้า-ออกห้องโดยสารบอกว่าเป็นรถชั้น SEMI COMPARTMENT
มุมบนช่วงต่อกับเพดานท้ายรถคันที่ ๔ มีช่องเก็บไฟฉายเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินด้วยครับ ที่เก็บไฟฉายแบบพร้อมใช้งานกล่าวคือพอดึงออกมาจากช่องเก็บไฟก็จะเปิดทันทีแบบนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่น อย่างในห้องพักตามโรงแรมก็มีครับ เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น อยู่บ่อยๆ จึงต้องเตรียมอุปกรณ์ใหพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติ 8)
เนมเพลทของรถรุ่นนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับช่องเก็บไฟฉายครับ ยี่ห้อ ฮิตาชิ อีกเช่นเคย
Last edited by tuie on 20/05/2007 10:24 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 25/04/2007 10:17 pm Post subject: |
|
|
เดินไปถึงรถคันที่ ๕-๖ ปรากฎว่าเป็นที่นั่งแบบเดียวกันกับรถคันที่ ๓ ซึ่งผมนั่ง ส่วนรถคันที่ ๗ จัดไว้เป็นที่สูบบุหรี่เลยไม่อยากเดินเข้าไปรับสารก่อมะเร็งจากควันบุหรี่ กลับมาชมวิวที่หน้าต่างตรงที่นั่งของผมดีกว่าครับ ที่เห็นการก่อสร้างทางยกระดับเป็นช่วงๆในภาพนั้นเป็นทางรถไฟชิงกังเซนของเจอาร์คิวชูครับ
เห็นฟ้าใสๆแดงจ้าๆแบบนี้ยังหนาวมากๆอยู่นะครับ อุณหภูมิภายนอกรถแค่ประมาณ ๙-๑๐ องศาฯเท่านั้นเอง 8) ตามท้องไร่ท้องนาข้างทางจึงต้องทำเป็นกระโจมคล้ายๆเรือนกระจกป้องกันลมหนาวให้แก่พืชที่เพาะปลูกไว้
Limited Express Relay Tsubame ขบวน ๓ ถึงสถานีคุมาโมโต(๑๑๘.๔ ก.ม.จากฮาคาตะ) ตรงตามเวลา ๙.๓๐ น. รถขบวนนี้ออกจากฮาคาตะ ๘.๑๕ น. ใช้เวลาเดินรถ ๑ ชั่วโมง ๑๕ นาที ถึงคุมาโมโตแล้ว เท่ากับความเร็วเฉลี่ยของรถด่วนพิเศษขบวนนี้ประมาณ ๙๔.๗๒ ก.ม./ช.ม. วิ่งเร็วไม่เบาเลยนะครับ ระยะทางขนาดนี้ใกล้เคียงกับกรุงเทพ-ลพบุรี (ประมาณ ๑๓๓ ก.ม.) เป็นทางคู่เหมือนกัน ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางแดวูของเราใช้เวลาวิ่งประมาณ ๒ ชั่วโมงนะครับ
ออกจากคุมาโมโตเวลา ๙.๓๑ น. แล้วสถานีต่อไปที่ขบวน ๓ จะจอดเป็นสถานีชินยาสุฮิโร่ ปลายทางของรถขบวนนี้ ผู้โดยสารที่เดินทางต่อไปยังสถานีรายทางในเส้นทางคิวชูชิงกังเซนปลายทางคาโกชิม่าต้องลงสถานีนี้เพื่อต่อชิงกังเซน รุ่น 800 สึบาเมะ
พอรถออกจากคุมาโมโตนั่งชมวิวเพลินๆ ๑๐ นาทีเศษ ก็เข้าเขตสถานีชินยาสุฮิโร่แล้วครับ สถานีชินยาสุฮิโร่เป็นสถานีอยู่บนเส้นทางคิวชูชิงกังเซนซึ่งเป็นทางยกระดับ เลยต้องวางรางรถไฟเจอาร์ตีโค้งแยกจากเส้นทางเดิมขึ้นสู่ชานชาลาสถานีชินยาสุฮิโร่ ซึ่งเห็นอยู่กลางภาพข้างต้น
ขณะนี้ขบวน ๓ กำลังไต่ระดับขึ้นสู่สถานีชินยาสุฮิโร่ด้วยความเร็วประมาณ ๗๐-๘๐ ก.ม./ช.ม. ลองมองย้อนไปทางด้านท้ายขบวนจะเห็นเส้นทางรถไฟเจอาร์สายที่ขบวน ๓ แล่นมาจากคุมาโมโตอยู่ทางด้านขวาของภาพ ส่วนทางขึ้นสู่สถานีชินยาสุฮิโร่นั้น แยกจากทางรถไฟเจอาร์ออกมาทางขวาก่อนแล้วค่อยตีโค้งไปทางซ้ายเข้าสู่ชานชาลาสถานีชินยาสุฮิโร่พร้อมๆกับยกระดับให้สูงขึ้น
ความจริงแล้วเส้นทางรถไฟเจอาร์ที่อยู่ด้านล่างก็ไปถึงคาโกชิม่าโชะได้เช่นเดียวกับเส้นทางคิวชูชิงกังเซนนะครับ แต่อ้อมกว่ามาก ขบวนรถที่เดินในเส้นทางรถไฟเจอาร์ช่วงนี้ก็แล่นช้ากว่าชิงกังเซนสึบาเมะหลายเท่าตัว เพราะรถไฟเจอาร์ใช้เวลาเดินทางจากชินยาสุฮิโร่ถึงคาโกชิม่าโชะ ประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่าๆ ในขณะที่สึบาเมะใช้เวลาแค่ ๓๕-๔๐ นาที เท่านั้นเอง
Limited Express Relay Tsubame ขบวนที่ ๓ พาผมมาถึงสถานีชินยาสุฮิโร่ตรงตามกำหนดเวลา ๙.๕๐ น. (อีกแล้วครับ) พอลงจากรถคันที่สามมองไปข้างหน้าเห็นขบวนรถด่วนชิงกังเซน รุ่น 800 สึบาเมะ ขบวนที่ ๓ จอดเทียบชานชาลารออยู่แล้ว ไชโย! (ต้องรักษากิริยาไว้โดยแอบร้องไชโยอยู่ในใจครับ)ในที่สุดผมก็จะได้นั่งสึบาเมะจริงๆแล้วหลังจากที่ชมภาพจากเวบฯของเจอาร์มานาน รถคันที่ ๓ ของสึบาเมะที่ผมต้องย้ายไปนั่งต่อก็อยู่ตรงหน้าพอดีทำให้การเปลี่ยนขบวนรถเพื่อเดินทางต่อสะดวกรวดเร็วมากเลยครับ
สึบาเมะขบวน ๓ กำหนดออกจากชินยาสุฮิโร่เวลา ๙.๕๓ น. เท่ากับมีเวลาเปลี่ยนขบวนรถแค่ ๓ นาทีเท่านั้นเอง แต่เวลาแค่นี้สบายมากครับ เพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีครึ่งทุกคนก็ขึ้นไปนั่งบนสึบาเมะกันหมดแล้ว เวลาจำกัดอย่างนี้จะมัวโอ้เอ้ถ่ายรูปภายนอกของสึบาเมะคงไม่เหมาะ กลัวจะตกรถด้วยครับเลยเก็บภาพบรรยากาศที่สถานีชินยาสุฮิโร่มาเท่านี้ก่อนเดี๋ยวไปตามเก็บภาพเพิ่มเติมที่สถานีปลายทางก็ได้ครับ ผมมองเห็นรั้วกั้นระหว่างขบวนรถกับชานชาลาแล้วทำใจเลยครับว่าคงหามุมถ่ายเจ้าสึบาเมะให้สวยได้ยากแน่ๆ ขนาดชานชาลาโล่งๆไม่มีรั้วกั้นช่างภาพแบบผมยังผลิตผลงานได้แย่ขนาดนี้แล้วครั้งนี้จะไปเหลืออะไรล่ะครับ รีบบอกก่อนเพื่อท่านผู้ชมจะได้ทำใจไว้ล่วงหน้า หรือบางท่านอาจจะบอกว่าทำใจมานานแล้วตั้งแต่ต้นเรื่อง
โปรดสังเกตว่า หมายเลข 3 ที่พื้นชานชาลา ที่รั้วกั้นระหว่างชานชาลากับตัวรถ และที่ด้านข้างสึบาเมะนั้น หมายถึงรถคันที่ ๓ ครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 26/04/2007 12:38 pm Post subject: |
|
|
ตลอดระยะทาง ๑๓๗.๖ ก.ม. จากสถานีชินยาสุฮิโร่ถึงคาโกชิม่าโชะ มีสถานีทั้งหมดรวม ๕ สถานี เป็นรายทางแค่ ๓ สถานี ดังนี้ครับ
๑ ชินยาสุฮิโร่ (ก.ม. ๐)
๒ ชินมีนามาตะ (ก.ม. ๔๒.๘)
๓ อิซูมิ (ก.ม. ๕๘.๘)
๔ เซนได (ก.ม. ๙๑.๕)
๕ คาโกชิม่าโชะ (ก.ม.๑๓๗.๖)
ขบวนรถชิงกังเซนสุบาเมะ ขบวนที่ ๓ ซึ่งผมนั่งออกจากชินยาสุฮิโร่เวลา ๙.๕๓ น. จอดสถานีรายทางแค่สถานีเดียวคือเซนได ออกจากเซนไดเวลา ๑๐.๒๐ น. ถึงคาโกชิม่าโชะเวลา ๑๐.๓๓ น. ระยะทาง ๑๓๗.๖ ก.ม.(ใกล้เคียงกับระยะทางจากกรุงเทพถึงลพบุรี) ใช้เวลาวิ่งแค่ ๔๐ นาที คิดเป็นความเร็วเฉลี่ยประมาณ ๒๐๕ ก.ม./ช.ม. ครับ ชิงกังเซนรุ่นนี้มีความเร็วสูงสุด ๒๘๕ ก.ม./ช.ม. ความเร็วสูงสุดขณะให้บริการเป็นรถโดยสารอยู่ที่ ๒๖๐ ก.ม./ช.ม. ชิงกังเซนสายนี้มิได้แบ่งประเภทขบวนรถออกเป็นโนโซมิ ฮิคาริและโคดามะเหมือนอย่างขบวนรถในเส้นทางชิงกังเซนสายซันโยและสายอื่นๆ จึงมีแต่ขบวนรถชื่อสึบาเมะเพียงชื่อเดียว บางขบวนก็ไม่จอดสถานีรายทางเลย บางขบวนก็จอดเซนไดเพียงสถานีเดียว(เช่น ขบวน ๓ ที่ผมนั่ง) บางขบวนก็จอดทุกสถานีแบบเดียวกับโคดามะ
ขึ้นมาชมบรรยากาศภายในสึบาเมะด้วยกันดีกว่าครับ แค่พอประตูห้องโดยสารรถคันที่ ๓ เปิดออกผมก็ตะลึงแล้วละครับ
นี่เราต้องนั่งเก้าอี้ไม้แบบ บชส.รุ่นเก่าหรือเปล่านี่.... อันนี้แซวเล่นนะครับ ความจริงแล้วผมชอบเก้าอี้ลายไม้แบบนี้มากเลยครับ ดูราวกับนำต้นไม้ทั้งต้นมาเซาะออกแล้วบุผ้าและวัสดุรองนั่งได้อย่างกลมกลืน สวยงามและแปลกตาน่าชมยิ่งนัก ที่เห็นเป็นเหมือนกับเขาสัตว์งอกออกมาด้านบนสุดของพนักนั้นเป็นที่สำหรับแขวนสิ่งของครับ
ที่ผมว่าไม่ค่อยจะสวยคือพื้นรถเพราะวัสดุปูพื้นดูคล้ายกระเบื้องพื้นห้องส้วมในยุคก่อนมากไปหน่อย ประตูทางเข้าและผนังข้างประตูเป็นลายไม้ ด้านบนกรอบประตูมีอักษรวิ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นสลับกับภาษาอังกฤษแสดงข้อมูลตามมาตรฐานของรถด่วนชิงกังเซน โดยมีหมายเลขรถคันที่ ๓ กำกับไว้ ส่วนปุ่มแดงๆด้านขวาในภาพต่อไปนี้เป็นปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินครับ
ถึงที่นั่งของผมแล้วครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 26/04/2007 7:34 pm Post subject: |
|
|
เนื่องจากตอนนี้เหลือเวลาอยู่บนขบวนรถไม่ถึง ๔๐ นาทีแล้ว รีบสวมวิญญาณเด็กไฮเปอร์ออกเดินสำรวจขบวนรถกันดีกว่าครับ เริ่มจากบริเวณช่วงท้ายรถคันที่ ๓ ซึ่งอยู่ใกล้ตัวก่อน เอ๊ะ!..มีวัสดุคล้ายๆเส้นใยจากพืชถักเป็นเส้นแล้วนำมาแขวนไว้คล้ายจะเป็นม่านหรือบังตาด้วยครับ
เข้าไปแหวกดูปรากฏว่าข้างในห้องเป็นอ่างล้างหน้าครับ ขอบอ่างเป็นลายไม้กลมกลืนกับบรรยากาศภายในของสึบาเมะจริงๆ
ประตูห้องสุขาเป็นบานเลื่อนปิด-เปิด คันจับบานประตูและราวข้างทางเดินล้วนเป็นลายไม้โทนสีเดียวกับพนักเก้าอี้ในห้องโดยสาร และขอบอ่างล้างหน้าครับ
เข้าไปชมภายในห้องสุขากันครับ ออกจะผิดความคาดหมายไปนิดหน่อยที่ไม่พบวัสดุลายไม้ภายในห้องนี้เลย แต่ที่ขาดไม่ได้คืออักษรเบลตรงบานประตูห้องสุขา แม้ว่าจะมิใช่ห้องสุขาสำหรับคนพิการโดยเฉพาะก็ตาม
เป็นสุขาระบบปิดมีปุ่มกดให้ระบบดูดของเสียทำงานเมื่อใช้บริการเสร็จแบบบนรถ บนอ.ป. ๒๔ ที่(ฮุนได)ของบ้านเรา ฐานส้วมปูด้วยวัสดุลายเดียวกับพื้นห้องโดยสาร ซึ่งผมเห็นว่ามีรูปแบบและสีสันเข้ากันกับห้องสุขามากกว่าครับ
อ่างล้างมือในห้องสุขามีก๊อกน้ำระบบอัตโนมัติ ส่วนถึงขยะข้างๆยังเป็นระบบอัตโนมืออยู่ครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 27/04/2007 6:34 am Post subject: |
|
|
ถัดจากห้องสุขามีห้องซึ่งติดตั้งโถปัสสาวะชายไว้ต่างหากด้วยครับ
ทางเดินช่วงรอยต่อระหว่างคันรถปูพื้นด้วยวัสดุสีเข้มเหมือนกับวัสดุปูพื้นบริเวณนอกห้องโดยสาร
เดินข้ามไปยังรถคันต่อมาตรงประตูเข้า-ออกมีห้องติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะ มีม่านบังตาสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งมีลวดลายสัญลักษณ์ของสึบาเมะอยู่เต็มไปหมด
แหวกม่านบังตาเข้าไปดูอีดเช่นเคยครับท่านผู้ชม ข้างในมีเรียวโกะ เอ๊ย!....โทรศัพท์เครื่องเล็กๆหนึ่งเครื่องตั้งอยู่บนชั้นไม้
ปากประตูทางเข้าห้องโดยสารของรถคันที่ ๔ มีเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติ(ในราคาปกติของญี่ปุ่น)ติดตั้งอยู่อย่างกลมกลืนกับลวดลายวัสดุบุผนัง ดูแทบไม่เห็นลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยมนำมาตั้งโดดๆแบบดั้งเดิมของตู้ประเภทนี้ที่เห็นกันทั่วไปเลยละครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 27/04/2007 6:55 am Post subject: |
|
|
เดินดูนั่นดูนี่อยู่เพลินๆเห็นนายตรวจกำลังเดินมา ผมเลยกลับไปยังที่นั่งแล้วขอให้เขาช่วยถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหนึ่งภาพครับ ถ่ายเสร็จนายตรวจยังถามผมว่าจะถ่ายมุมไหนอีกไหม ช่างเอื้ออารีย์มีน้ำใจดีจริงๆ หรือจะเห็นว่าเด็กโค่งคนนี้มันเดินไปทั่วท่าทางจะตื่นเต้นและชอบสึบาเมะมาก เลยอย่างจะถ่ายให้อีกก็ไม่ทราบนะครับ
ที่เห็นด้านนอกรถมืดๆนั้นเนื่องจากกำลังลอดอุโมงค์อยู่ครับ เส้นทางชิงกังเซนสายนี้มีอุโมงค์เยอะมากผมกะว่าราวๆร้อยละ ๗๐-๗๕ ของเส้นทางเลยละครับ สิ่งที่น่าทึ่งตามความเห็นของผมคือมู่ลี่หน้าต่างทำด้วยวัสดุคล้ายไม้ไผ่นำมาเหลาแล้วถักเข้าด้วยกันเป็นแผ่น นับว่าเป็นของแปลกดีนะครับยานพาหนะล้ำสมัยแบบชิงกังเซนมีมู่ลี่ไม้คลาสสิคติดตั้งอยู่ ถ้ามู่ลี่แบบนี้ติดตั้งบนเกี้ยวเมื่อสักร้อยปีก่อนคงไม่แปลกอะไร ไล่นายแบบที่บังมู่ลี่นี้ออกไปให้พ้นทางแล้วดูกันชัดๆอีกภาพนะครับ
ชมมู่ลี่ไม้แล้วก็สำรวจอุปกรณ์ใกล้ตัวกันต่อนะครับ หาโต๊ะพับประจำที่นั่งของผมกันดีกว่า โต๊ะที่ว่านี้ซ่อนอยู่อย่างมิดชิดใต้ที่วางแขนตรงกลางระหว่างที่นั่งของผมกับที่นั่งผู้โดยสารคู่กับผม มีกระบวนการในการกางโต๊ะเป็นลำดับตามภาพต่อไปนี้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 27/04/2007 2:24 pm Post subject: |
|
|
เดินไปชมภายในรถคันที่ ๒ บ้างครับ พอประตูห้องโดยสารเปิดออกเห็นพนักเก้าอี้เป็นไม้สีเข้ม แตกต่างจากรถคันที่ ๓ ดูสวยไปอีกแบบหนึ่ง
ไม่ได้ต่างกันแค่สีพนักเก้าอี้นะครับ ผ้าหุ้มเบาะก็มีสีต่างกันไปด้วย เพียงแต่ลวดลายยังคล้ายกัน
เดินต่อไปยังรถคันที่ ๑ ที่นั่งใกล้ประตูทางเข้า-ออกห้องโดยสารและประตูทางเข้าออกขบวนรถเป็นที่นั่งเดี่ยว ผ้าหุ้มเบาะออกโทนสีเขียว
มีสัญลักษณ์ที่นั่งสำหรับคนพิการติดอยู่เหนือขอบหน้าต่างด้านบนครับ
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 27/04/2007 3:07 pm Post subject: |
|
|
เดินถ่ายรูปไม่ทันไรขบวนรถก็ชะลอความเร็วเข้าเทียบชานชาลาที่ ๑๒ สถานีคาโกชิม่าโชะแล้วครับ ตรงตามกำหนดเวลา ๑๐.๓๓ น. อีกเช่นเคย จะถ่ายรูปสึบาเมะขบวนนี้ต้องรีบทำเวลาครับ เพราะจอดที่สถานีนี้เพียง ๑๑ นาที ก็ทำขบวนกลับเป็นขบวนที่ ๖ สู่สถานีชินยาสุฮิโร่แล้วครับ
ผมกะว่าจะเดินไปถ่ายหัวขบวนซึ่งกำลังจะเป็นท้ายขบวนในตอนทำขบวนกลับ ระหว่างเดินก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ ชานชาลาสถานีคาโกชิม่าโชะมีรั้วกั้นระหว่างขบวนรถกับชานชาลาตามมาตรฐานของชานชาลาสถานีชิงกังเซนในเส้นทางสายนี้ซึ่งสร้างทีหลังเส้นทางชิงกังเซนสายอื่น ประตูรั้วชานชาลาจะเปิดต่อเมื่อถึงเวลาให้ผู้โดยสารขึ้นลงจากรถเท่านั้น แม้รั้วดังกล่าวจะมีกระจกใสสลับกับวัสดุทึบแต่ก็บดบังสึบาเมะไปได้มาก หามุมถ่ายภาพไม่ให้ติดรั้วได้ยากจริงๆครับ
กว่าจะฝ่าดงชาวญี่ปุ่นซึ่งรุมถ่ายรูปตนเองกับหัวขบวนสึบาเมะเข้าไปได้ก็ต้องรออยู่หลายนาทีครับ พอได้จังหวะเข้าไปก็รีบตะแคงกล้องถ่ายให้เห็นปลายจมูกของสึบาเมะแบบไม่ให้ติดรั้วก่อน
จากนั้นค่อยๆถอยออกมาเก็บภาพมุมด้านข้างบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าหลบรั้วไม่พ้นครับ หันไปดูอีกทียังมีชาวญี่ปุ่นทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ จะขาดก็แต่สตรีมีครรภ์กับวัยชราอีกหลายคนยืนรอให้ผมถ่ายให้เสร็จ และออกไปให้พ้นเพื่อเขาจะถ่ายภาพกับสึบาเมะบ้าง เลยต้องรีบเดินออกไปถ่ายมุมอื่นเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นบ้างครับ ทีตอนผมถ่ายภาพชิงกังเซนรุ่น ๑๐๐,๕๐๐,๗๐๐ และเรลสตาร์ ไม่เห็นต้องลำบากในการหาจังหวะถ่ายขนาดนี้เลย
ท่านผู้ชมสังเกตไหมครับว่าสัญลักษณ์นกนางนวลของสึบาเมะขบวนนี้บินไปคนละทิศกัน กล่าวคือ บริเวณหัวขบวนนกนางนวลบินไปทางทิศที่จะไปคาโกชิม่าโชะ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางที่ขบวนรถแล่นไปอยู่แล้ว แต่ด้านข้างขบวนนกนางนวลกลับบินไปทางทิศที่จะไปชินยาสุฮิโร่และฮาคาตะ ไม่ค่อยจะสามัคคีกันบินเลยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
|