View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
patty_pan
3rd Class Pass
Joined: 09/01/2007 Posts: 3
|
Posted: 02/04/2007 3:54 pm Post subject: การวัดประสิทธิภาพการเดินรถ |
|
|
อยากทราบจังเลยครับว่า ถ้าเราจะบอกว่ารถไฟที่เราวิ่งทำการอยู่นี่ มีประสิทธิภาพการดำเนินงานเท่าไหร่ เราจะใช้ตัวชี้วัดใดๆ มาเป็นเกณฑ์ในการบ่งบอกอ่ะครับ เช่นพวก อัตราความเร็วเฉลี่ย ความสามารถในการจุหรือบรรทุกสินค้า (Capacity) หรือเปล่า
เเล้วถ้าเราต้องการที่จะพัฒนา หรือปรับปรุงให้การขนส่งทางรางมีความสามารถที่จะลากตู้สินค้าในปริมาณที่มากขึ้น หรือลากสินค้าไปส่งให้เกิดความล่าช้าน้อยที่สุด เเบบนี้พอจะมีทางเป็นไปได้ไหมครับ เราควรจะพิจารณาในปัจจัยไหนก่อนเป็นอันดับเเรก Operation การเดินรถ หรือกระบวนการอื่นๆ รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ มือใหม่จริงๆ
อยากจะทำ Project จบในด้านของการพัฒนาความจุเเละยกระดับประสิทธิภาพของการขนส่งทางรางน่ะครับ เเต่ไม่มีข้อมูลจริงๆ ยังไงช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม |
|
Back to top |
|
|
PaLm
3rd Class Pass
Joined: 18/07/2006 Posts: 143
Location: ทางรถไฟสายเก่า
|
Posted: 02/04/2007 6:16 pm Post subject: |
|
|
ผมว่ารางคู่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในด้านการขนส่งครับ เพราะจะได้ไม่เสียเวลาในการรอหลีกในกรณีที่เป็นทางเดี่ยว มีรางขึ้น รางล่อง แยกไปเลยทำให้รถไม่ต้องจอดบ่อยๆ ไม่ต้องเร่งความเร็วจาก 0 บ่อยๆ ช่วยในการประหยัดน้ำมันไปในตัวครับ |
|
Back to top |
|
|
RAPID140
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 430
Location: สถานีท่าช้าง นครราชสีมา
|
Posted: 27/04/2007 10:31 pm Post subject: |
|
|
ลำพังรถขนส่งสินค้าไม่ค่อยมีปัญหาที่เกิดจากตัวมันเองเท่าไรหรอกครับ ปัญหามันเกิดมาจากขบวนรถโดยสารที่ร่วมเส้นทางกันอยู่ต่างหาก เพราะไม่มีการออกก่อนเวลาแน่ มีแค่ตามเวลา หรือไม่ก็ช้า 2 อย่างนี้แหละ สาเหตุการช้าของรถโดยสารมักเกิดจาก
1.ผู้โดยสารแต่ละสถานีมากน้อยต่างกัน ผู้โดยสารขึ้นไม่หมด รถออกไม่ได้
2.คอยกัน มักเกิดตามชุมทาง ถึงแม้จะได้เวลาออกแล้วก็ตาม เช่น 431 คอย 234, 429 คอย 233 เป็นต้น อาจล่าช้าเป็นครึ่งชั่วโมง หรือเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว
3.เหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เกิดอุบัติเหตุ เครื่องยนต์เสีย หรือติดทางลาดชัน อะไรพวกนี้
ดังนั้นถ้าจะไม่ให้รถสินค้าล่าช้า มันต้องแก้เจ้า 3 ข้อข้างบนด้วย ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเท่าไหร่นะ การสร้างรางคู่แบบที่คุณปาล์มว่ามาก็เป็นทางแก้ที่น่าจะเห็นผลได้ดีมาก และน่าจะดีที่สุดเสียด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
heerchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 28/04/2007 9:37 pm Post subject: |
|
|
ขอให้มีรางคู่มากกว่านี้ สงสารนายสถานีทำงานช่วงกลางคืนมาก คอยประสานงานระหว่าง
สถานนีใกล้เคียงตลอด ในการรับส่งขบวนรถขาขึ้น ขาล่อง |
|
Back to top |
|
|
don153t
3rd Class Pass
Joined: 09/07/2007 Posts: 32
|
Posted: 11/03/2008 9:20 am Post subject: |
|
|
อยากรู้ต่อว่า เวลา นายตรวจทำการตรวจสภาพความพร้อมของทางมีขั้นตอนอย่างไร ตรวจอะไร บ้าง เห็นขับรถต๊อก แล้ว ก็สรุปออกมาเป็น การจำกัดความเร็ว เบาทาง |
|
Back to top |
|
|
Compressor
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/12/2007 Posts: 1775
Location: ตลอดปลายทางอุบลราชธานี
|
Posted: 11/03/2008 8:25 pm Post subject: |
|
|
มันมีปัจจัยหลายอย่างในตัวขับเคลื่อน เป็นปัจจัยที่ทำให้รถไฟตรงตามเวลา ถึงแม้ว่าจะเป็นทางเดี่ยวก็ตาม
รถจักร รถดีเซลราง และรถพ่วงที่จะทำการต้องมีมภาพการใช้งานพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหากสามอย่างนี้สมบูรณ์แล้ว การทำเวลาเดินรถ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้รถเดินตามเวลา แต่ปัจจุบัน สาเหตุที่รถล่าช้า ก็เป็นเพราะว่า รถสภาพไม่สมบูรณ์ ปัจจุบัน มีรถจักรใช้การได้เพียง 65 เปอร์เซ็นต์ และกว่า 40-50 เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นรถจักรที่มีมอเตอร์ขับเคลื่อน (TM) เพียง 5 ตัวทั้งนั้นครับ ทำให้รถออกตัวช้า ไม่มีกำลัง รถก็จะเสียเวลา
สภาพทาง นี่ก็เป็นสาเหตุนึงครับ หากรถจักร รถพ่วงสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทางไม่สมบูรณ์ มีเบาทาง 50 40 30 อยู่ตลอด ก็ไม่ไหวล่ะครับ
นอกนั้น เป็นปัจจัยเสริมมั้ง ผมว่านะ... |
|
Back to top |
|
|
|