Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13275593
ทั้งหมด:13586889
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - สงสัยเรื่อง พิพิธภัณฑ์รถไฟ ครับ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

สงสัยเรื่อง พิพิธภัณฑ์รถไฟ ครับ
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เรื่องทั่วไปและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44662
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/10/2012 7:29 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ยืนยันมีการปรับปรุงหอเกียรติภูมิรถไฟให้เป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ
สำนักข่าวไทย วันเสาร์ ที่ 20 ต.ค. 2555

กรุงเทพ 20 ต.ค.-นายสุรัตน์ ดับใหม่ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีที่นายจุลศิริ วิรยศิริ ลูกชายนายสรรพศิริ วิรยศิริ ผู้ดูแลหอเกียรติภูมิรถไฟ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมหอเกียรติภูมิรถไฟเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 ต.ค.นี้ จากนั้นจะเคลื่อนย้ายสิ่งของออกทันทีเนื่องจากเห็นว่า รฟท.ยังไม่มีการดำเนินการสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟหลังจากได้มอบให้ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่หากจะมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของตนต้องไปหารือกับนายจุลศิริอย่างแน่นอนเพราะการตกลงรับมอบอย่างเป็นทางการนั้นจะมีขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ช่วงที่ผ่านมา รฟท.ได้ดำเนินการปรับปรุงหอเกียรติภูมิรถไฟ เช่น ติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาและไฟฟ้ารวมถึงอยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องสุขา เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการรับมอบอย่างเป็นทางการและหลังจากการรับมอบก็จะนำหนังสือจากห้องสมุดรถไฟและส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลตั้งแต่ช่วงเวลา 07.30-17.30 น. เพื่อให้หอเกียรติภูมิเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟขนาดเล็กที่ประกอบด้วยหัวรถจักรและโบกี้เพียงบางส่วนก่อนการสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟขนาดใหญ่อีกแห่งที่หัวลำโพง.-สำนักข่าวไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 20/10/2012 8:50 pm    Post subject: Reply with quote

มีอยู่หลายสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องรถไฟฯ เช่น เครื่องบิน รถราง ฯลฯ สำนักข่าวน่าจะไต่ถามให้ชัดๆ ก่อนก่อนที่จะออกข่าวไปจริงๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44662
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/10/2012 2:21 pm    Post subject: Reply with quote

หอเกียรติภูมิรถไฟจะเปิดเป็นวันสุดท้าย 23 ต.ค.นี้
สำนักข่าวไทย วันจันทร์ ที่ 22 ต.ค. 2555

จตุจักร 22 ต.ค.-นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟ เดินทางมาที่หอเกียรติภูมิรถไฟ ถนนกำแพงเพชร 1 ในบริเวณสวนจตุจักร เพื่อจัดเตรียมสถานที่เตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าชมในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันปิยมหาราช พระราชบิดาแห่งการรถไฟไทย หลังปิดบริการไปกว่า 5 เดือน และจะเป็นวันสุดท้ายที่หอเกียรติภูมิรถไฟเปิดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอยู่ระหว่างที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอคืนอาคารเพื่อนำไปจัดสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟ โดยมีสิ่งจัดแสดงที่น่าสนใจ อาทิ หัวรถจักรไอน้ำ หัวรถจักรดีเซล และตู้รถไฟพยาบาลไม้สักทองทั้งหลังของไทย 2 ตู้สุดท้ายในโลก

นายจุลศิริกล่าวว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รฟท.ได้แจ้งขออาคารคืนเพื่อนำไปเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟ จึงมอบกุญแจให้ หอเกียรติภูมิรถไฟจึงปิดตายมาตั้งแต่เวลานั้น โดยไม่มีการดูแลทำความสะอาด ส่วนการกลับมาเปิดอีกครั้ง เพื่อทำบุญเลี้ยงพระในวันปิยมหาราชเป็นครั้งสุดท้าย ถือเป็นวันครบรอบ 23 ปีการเปิดหอ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2532 และจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เปิดทำการ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มีอำนาจของ รฟท.เข้ามาเจรจาและดูแลเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟอย่างจริงจัง ขณะที่ชมรมจะเริ่มทยอยนำสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของชมรมออกจากหอฯ ไปจัดแสดงที่อื่นต่อไป.-สำนักข่าวไทย


เผยแพร่เมื่อ 21 ต.ค. 2012 โดย yoware
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 22/10/2012 2:46 pm    Post subject: Reply with quote

แว๊บๆว่า ที่ปากช่องมีรถจักรไอน้ำคันนึง เหมือนเคยเห็นในรูปว่าเคยอยู่ที่หอเกียรติภูมิฯ แต่อย่างว่า รถจักรไอน้ำคันนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินของการรถไฟ และไม่เคยนำออกมาใช้งานด้วยครับ
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 22/10/2012 3:30 pm    Post subject: Reply with quote

อย่างไรเสีย วันพรุ่งนี้ก็ขอเรียนเชิญให้มาทำข่าวในเรื่องของการส่งมอบพื้นที่คืนให้กับการรถไฟ และเป็นวันสุดท้ายที่หอเกียรติภูมิแห่งนี้จะเปิดให้บริการนะครับ

จากนั้นก็จะส่งมอบพื้นที่ให้กับทางกรุงเทพมหานครได้ดูแลกันต่อไปนะครับ

เอเอาคืนได้เสียทีโดยเฉพาะกับรถพยาบาลไม้สัก ที่เอามาติดตั้งกัน ณ ที่นี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2542 นะครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44662
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/10/2012 9:58 am    Post subject: Reply with quote

หอเกียรติภูมิรถไฟไทย ตั้งอยู่ย่านจตุจักร จะปิดตัวลงเป็นการถาวรแล้ว สาเหตุหลักเป็นเพราะอะไร และทางชมรมเรารักรถไฟ ที่ร่วมกันก่อตั้งหอเกียรติภูมินี้ขึ้นมีแนวทางจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่ออย่างไร ตรวจสอบรายละเอียดกับ แกนนำชมรมเรารักรถไฟ จุลศิริ วิริยศิริ
by Nation Channel | 22.10.2012 เวลา 14:02 น.
http://www.nationchannel.com/main/news/social/20121022/27831610/



อวสานหอเกียรติภูมิรถไฟ ประวัติศาสตร์ที่อาจไม่ถึงมือลูกหลาน (คลิป)
Spring News 2012-10-23 14:36:56


เผยแพร่เมื่อ 23 ต.ค. 2012 โดย Springnews53


Last edited by Mongwin on 23/10/2012 4:30 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 23/10/2012 4:29 pm    Post subject: Reply with quote

ที่สุดก็ปิดเสียทีหละสินะ - ต่อไป จะจัดการกันอย่างไรดีหละหว่า นอกเหนือจากการขนย้ายของที่ไม่เกี่ยวกะรถไฟออกไป - หัวรถจักร สาย สูงเนินที่งมมาได้กะ รถราง ขอไว้ในหอนะครับ อย่าทิ้งเทียวนา - รแต่รถถังส่งให้ ม. พัน 3- ม. พัน 4 หรือไม่ก็ ศม. ที่สระบุรีเป็นเหมาะ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350977208&grpid=02&catid=19

http://news.springnewstv.tv/20371/%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B

ปิดฉาก"หอเกียรติภูมิรถไฟไทย" ร.ฟ.ท.ขอคืนอาคารสร้างพิพิธภัณฑ์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ตุลาคม 2555 13:06 น.




นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟไทย ร่วมกับเครือข่ายและประชาชน ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระในวันปิยมหาราช และเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้เข้าชมหอเกียรติคุณรถไฟไทย บริเวณสวนจตุจักร หลังจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะขอคืนอาคารเพื่อนำไปจัดสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟ
สำหรับหอเกียรติภูมิรถไฟไทย เปิดทำการมา 23 ปีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2533 และในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของชมรมออกไปก่อน จากนั้นจะเริ่มขนย้ายหัวรถจักรที่มีอยู่ 13 หัว ไปยัง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทะลุภูเขาเป็นอุโมงค์รถไฟลอด


Last edited by Wisarut on 23/10/2012 10:48 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44662
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/10/2012 4:38 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ ไม่มีบุคลากรที่มีความรู้-ความสามารถด้านงานพิพิธภัณฑ์-จดหมายเหตุเลยแม้แต่คนเดียวครับ และไม่ปรากฏว่ามีการของบประมาณแผ่นดินมาดำเนินการแต่อย่างใด

ที่เห็นผลงานอยู่บ้างอย่างที่กันตัง อันนั้นผู้ที่ทำทำด้วยใจรักมากกว่าครับ

เขียนรายงานประจำปี 2550-2554 ให้สำเร็จก่อน แล้วค่อยคิดทำพิพิธภัณฑ์ครับ Exclamation
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 23/10/2012 5:32 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดฉาก "หอเกียรติภูมิรถไฟไทย" หลังเปิดมานาน 23 ปี
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 14:45:22 น.

วันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลศิริ วิรยศิริ ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟไทย ร่วมกับเครือข่ายและประชาชน ได้ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในวันปิยมหาราช และเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้เข้าชมหอเกียรติคุณรถไฟไทย ซึ่งหลังจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะขอคืนอาคารเพื่อนำไปจัดสร้างพิพิธภัณฑ์รถไฟ


ทั้งนี้ หอเกียรติภูมิรถไฟไทย เป็นสถานที่รวบรวมและให้ความรู้เกี่ยวกับการรถไฟ มีการจัดแสดงรถจักรไอน้ำ รถจักรจำลอง ขบวนรถไฟเล็กขนาดต่างๆ ภาพถ่ายและภาพเขียนเกี่ยวกับเกียรติภูมิของการรถไฟโลกรวมทั้งสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ อีกมากมาย


อย่างไรก็ตาม หอเกียรติภูมิรถไฟไทย เปิดทำการมาแล้ว 23 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2533 โดยในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของชมรมออกไปก่อน จากนั้น จะเริ่มขนย้ายหัวรถจักรที่มีอยู่ 13 หัว ไปยังจ.นครราชสีมา

ที่มา: มติชน
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44662
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/10/2012 11:26 am    Post subject: Reply with quote

คอลัมน์: บทความพิเศษ: 116 ปี รถไฟไทย ยังไปไม่ถึงไหน อดีตไม่รักษา อนาคตย่อมมืดมน
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 24 ตุลาคม 2555 00:00:05 น.

รสนา โตสิตระกูล
สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่22 ตุลาคม 2555 ดิฉันได้ใช้เวลาที่ประธานวุฒิสภาให้โอกาสสมาชิกวุฒิสภาปรึกษาหารือเรื่องด่วนต่างๆไปถึงรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐได้คนละ 2 นาที ก่อนเข้าสู่วาระประชุมตามปกติ ดิฉันได้หารือโดยฝากความถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าฯ การรถไฟ เกี่ยวกับเรื่องที่การรถไฟสั่งให้ยุติ"พิพิธภัณฑ์รถไฟ" ที่สวนจตุจักร ในวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม 2555 ซึ่งเป็นวันของพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ผู้เป็นบิดาที่ให้กำเนิดรถไฟไทย เป็นเรื่องที่ดิฉันฝากความไปถึงรัฐมนตรีและผู้ว่าฯ การรถไฟให้พิจารณาทบทวน

การรถไฟเคยให้พื้นที่เปล่าในสวนจตุจักรกับชมรมเรารักรถไฟ ทำเป็น "หอเกียรติภูมิรถไฟ" หรือ "พิพิธภัณฑ์รถไฟ" มาตั้งแต่ปี 2533 ผู้ก่อตั้งชมรมเรารักรถไฟ และหอเกียรติภูมิรถไฟ คือ คุณสรรพสิริ วิรยศิริ อดีตผู้อำนวยการ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด หรือช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งปัจจุบันคือ อสมท คุณสรรพสิริเป็นบุตรชายคนเล็กของ พระยามหาอมาตยาธิบดี (เส็ง วิรยศิริ) อดีตราชเลขาธิการในพระองค์รัชกาลที่ 5 และเป็นปลัดทูลฉลอง กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันลุงตุ้ย หรือ "จุลสิริ วิรยศิริ" บุตรชายของคุณสรรพสิริ เป็นผู้รับช่วงดูแลหอเกียรติภูมิรถไฟ

หลังจากคุณพ่อป่วยเมื่อหลายปีก่อนลุงตุ้ยเล่าให้ฟังถึงคุณปู่ ว่าท่านเล่าถึงสิ่งที่พระพุทธเจ้าหลวงมีรับสั่งให้ปู่หาที่ดินที่มีพื้นที่กว้างขวางเพื่อเป็นสถานีต้นทางของรถไฟ ซึ่งปู่หาที่ได้ที่บางซื่อเพราะสถานีหัวลำโพงมีพื้นที่คับแคบ พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 มีพระประสงค์ให้ทำเป็นมิวเซียมเกี่ยวกับรถไฟ นี่เป็นสิ่งที่ปู่ของลุงตุ้ยได้เล่าต่อมาผ่านคุณพ่อสรรพสิริ นี่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสรรพสิริปรารถนาจะสืบสานเจตนารมณ์ในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์รถไฟและตกทอดมาถึงลูกชายคือคุณจุลสิริ

สิ่งที่ได้รับทราบจากลุงตุ้ย ว่าสาเหตุที่การรถไฟสั่งให้ออกภายในวันที่ 23 ตุลาคม 2555 ก็อ้างว่าเพราะลุงตุ้ยทำผิดสัญญาที่ไปใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ และการรถไฟอ้างว่าจะมาบริหารพิพิธภัณฑ์เอง ดิฉันทราบจากลุงตุ้ย เรื่องหารายได้นั้นก็มีเพียงการขายน้ำดื่มให้กับผู้มาชมหอเกียรติภูมิเท่านั้นการดูแลพิพิธภัณฑ์รถไฟนั้น ลุงตุ้ยได้เงินจากการรับบริจาค โดยเฉลี่ยวันละ 200 บาท จึงยากที่จะดูแลให้พิพิธภัณฑ์มีความสมบูรณ์ได้

ถ้าการให้ออกจากพื้นที่นั้นด้วยเหตุผลการหารายได้ด้วยการขายน้ำ น่าจะเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล ที่จริงแล้วการรถไฟควรมีงบประมาณสำหรับการดูแลพิพิธภัณฑ์รถไฟ และควรเก็บรวบรวมโบกี้เก่าแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คุณจุลสิริกล่าวว่า ก่อนที่เขาจะเข้ามาดูแลต่อจากพ่อ มีรถไฟเก่าแก่ที่จอดแสดง 30 คัน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 คัน แม้แต่รถไฟที่สมเด็จพระเทพฯ ทรงประทับเมื่อพระชนมายุ9 พรรษา ปัจจุบันก็อันตรธานหายไป สมเด็จพระเทพฯ ทรงเคยรับสั่งถามหา ก็ไม่มีใครตอบได้

การปล่อยให้พิพิธภัณฑ์รถไฟเป็นภาระกับเอกชนในการดูแล และเป็นไปอย่างอนาถา เป็นสิ่งสมควรแล้วหรือ นอกจากการรถไฟจะไม่สนับสนุนทุนแล้ว ยังไม่ให้หารายได้มาบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์อีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้บริหารไทยไม่เห็นความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยจึงไม่พัฒนา ผิดกับพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ คนไทยคิดว่าพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องอดีตที่จริงแล้วการรู้จักอดีตของตนเองอย่างหยั่งลึก จะทำให้เราก้าวไปสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง เปรียบเหมือนต้นไม้ใหญ่ รากยิ่งหยั่งลึกเท่าไหร่ กิ่งก้านสาขาจะยิ่งแผ่สูงและกว้างใหญ่เท่านั้น

พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกล พระองค์ท่านทรงนำวิทยาการรถไฟมาสู่ประเทศไทยจากตะวันตกเป็นประเทศแรกในภูมิภาคแถบนี้ ประเทศอื่นต้องมาดูงานรถไฟไทยแต่บัดนี้คนอื่นก้าวล้ำหน้าเราไปหมดแล้ว แม้แต่ญี่ปุ่นก็มีรถไฟหลังไทย แต่บัดนี้ญี่ปุ่นมีรถไฟความเร็วสูง แต่ประเทศไทย รถไฟไทยก็ยัง ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง...

การที่เราไปไม่ถึงไหน เพราะไม่รู้จักรากเหง้าของตนเอง การไม่ศึกษา ไม่รักษาอดีตตัวเอง ย่อมทำให้ปัจจุบันสับสน และอนาคตก็มืดมน

ทรัพย์สินรถไฟที่เป็นของมีคุณค่าในอดีต เวลานี้ถูกเอาไปขายเข้ากระเป๋าหมด รถไฟขบวนที่สมเด็จพระเทพฯ เคยประทับตอนพระชนมายุ 9 พรรษา เวลานี้ถูกขายไปที่ไหน หัวรถจักรเก่าตั้งแต่สมัยแรกล้วนมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รถไฟไอน้ำ สิ่งเหล่านี้ควรเก็บไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาต่อยอดทางวิทยาการ รถไฟไทยที่รางมีขนาดความกว้าง 1 เมตร ไม่สามารถพบได้ในที่อื่นอีกแล้ว เป็นสิ่งควรค่ากับการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา แต่คนการรถไฟก็ไม่ได้สนใจ ให้คุณค่า เราหมดเงินไปกับโครงการคอรัปชั่นต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการโฮปเวลล์ ที่ซากถูกปล่อยทิ้งอย่างโฮปเลส (hopeless) หมดเงินไปมหาศาลแค่ไหน แต่การจะมีงบประมาณเพื่อรักษาพิพิธภัณฑ์รถไฟไทยไว้ให้เยาวชนรุ่นนี้ และรุ่นอนาคต กลับไม่มีงบประมาณให้กับการนี้

หากการรถไฟทวงคืนพิพิธภัณฑ์รถไฟ เพื่อจะมาบริหารให้ก้าวหน้าก็จะอนุโมทนา เกรงแต่จะเอาพื้นที่นั้นไปเพื่อการพาณิชย์มากกว่าเพราะพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เป็นทำเลทองในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 แห่ง คือ สวนลุมพินี และสวนจตุจักร โดยที่สวนจตุจักร สวนสมเด็จ และสวนรถไฟ มีพื้นที่รวมกันแล้วถึง 726 ไร่ เป็นที่หมายตาของนักการเมือง ข้าราชการที่นิยมแปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปลงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว ย่อมมองพื้นที่แห่งนี้ว่าควรเอาไปทำกำไรมากกว่าปล่อยให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในรูปตัวเงิน

การรถไฟมีสินทรัพย์เป็นที่ดินถึงกว่า 200,000 ไร่ทั่วประเทศ และมีที่ดินที่เป็นทำเลทองกว่า 30,000 ไร่ เวลานี้มีแต่คิดแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้ที่ดินไปทำมาหากิน ที่ดินแถวจตุจักรเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เป็นที่หมายตาของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จ้องตาเป็นมันที่จะเอาพื้นที่นี้ไปลงทุนทำคอมเพล็กซ์หารายได้กัน

การรถไฟกำลังจะถูกแปรรูปแบบใหม่ เพราะการแปรรูปแบบเก่าอย่าง กฟผ. ปตท. ถูกคัดค้านอย่างหนัก การแปรรูปแบบใหม่ที่จะถูกนำมาใช้กับการรถไฟก็คือ การแบ่งกิจการและทรัพย์สินของการรถไฟเป็น 3 หน่วย

หน่วยที่ 1 จัดตั้งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพราะการรถไฟมีที่ดินทั่วประเทศมหาศาล หน่วยนี้เอกชนมาถือหุ้นได้

หน่วยที่ 2 จัดตั้งเป็นบริษัทบริหารระบบเดินรถ เอกชนก็เข้ามาถือหุ้นได้
หน่วยที่ 3 ปล่อยไว้เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อดูแลระบบราง ซึ่งเป็นหน่วยที่ต้องใช้เงิน คือมีแต่รายจ่ายก็ให้รัฐเป็นผู้ดูแลไป และเหลือชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ 100%

แปรรูปแบบใหม่ เขาจะเหลือโครงไว้หลอกตาประชาชนและให้รัฐดูแลด้วยภาษีของประชาชน ส่วนกำไรเนื้อๆ จากทรัพย์สินเขาล้วงไปกินหมดคนในการรถไฟตระหนักแค่ไหน หรือจะรอเข้าไปร่วมเป็นพวก ก็จะได้ส่วนแบ่งที่เป็นเนื้อติดกระดูกมาบ้าง

อนาคตรถไฟไทยจะเหลือเพียงอดีต รอวันจีนมาสัมปทานสร้างรถไฟความเร็วสูงให้ประเทศไทย ระบบรางที่ถูกแยกชิ้นเนื้อออกจนหมด รางขนาด 1 เมตร ก็จะถูกยกเลิกไป ทรัพย์สินเหล่านี้จะรอวันเอาขายทอดตลาด เอาไปแบ่งกัน อาจไม่เหมือนการขายทอดตลาดทรัพย์สินการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยในราคาตามมูลค่าบัญชี ที่ขายทั้งเนื้อ และโครง ส่วนการรถไฟ จะแยกเนื้อออกก่อน ให้เหลือแต่โครง แล้วโครงนั้นจะเลิกใช้ไปเอง เมื่อเปลี่ยนเทคโนโลยีเรารอวันให้จีนมาสัมปทาน และผูกขาดรถไฟความเร็วสูงต่อไปในอนาคต 99 ปี หรือมากกว่านั้น

ดิฉันนึกถึงเนื้อเพลงของรถไฟที่ว่า "รถไฟของชาติ รับใช้ประชา ราษฎร์ด้วยความภักดี" ต่อไปเราจะยังเหลือรถไฟของชาติให้ภูมิใจหรือไม่?.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> เรื่องทั่วไปและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
Page 2 of 4

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©