จากตะวันออก - ขึ้นเหนือ : 2,700 กม. กับ 12 จุดหมาย

[ExtendeD]

ไปเดินดูทางฝั่งซ้ายของทางประธานที่เป็นรางตันเอาไว้จอดรถสินค้ากันไปแล้ว ที่นี้กลับมาเดินดูย่านสถานีทางขวาของทางประธานกันบ้างครับ




ไม่รู้ว่าช่วงหลัง ๆ นี้เป็นอะไร ชอบทำหน้าที่เป็นพลซุ่มยิงแอบยิงภาพอยู่ไกล ๆ ตลอดเลยครับ มาที่ สถานีนครสวรรค์ ก็ได้เก็บภาพจากมุมไกล ๆ แบบนี้เอาไว้หลายรูปเหมือนกัน อย่างในรูปนี้มองไปทางชานชาลาและอาคารสถานี ก็จะเห็นโกดังสินค้าอยู่ที่ปลายสุดของชานชาลาทางด้านทิศใต้ด้วยครับ




เดินต่อไปอีกหน่อย คราวนี้จะเริ่มเห็นป้ายประเพณี ที่อยู่บนชานชาลาทางด้านทิศใต้ รวมถึงอาคารสถานีชัดเจนขึ้นครับ




มาหยุดยืนอยู่ที่รางที่ 2 ครับ เพราะเห็นว่ามีคราบน้ำมันเปื้อนเต็มไปหมด ไม่บอกก็คงรู้ว่าจุดนี้เป็นจุดเติมน้ำมันให้กับรถจักรครับ แต่คงไม่ใช่ขบวนรถสายเหนือทุกขบวนหรอกล่ะมั้งครับ




จากจุดเติมน้ำมัน เดินต่อไปก็จะมาถึงบริเวณชานชาลาที่อยู่ข้างหน้าอาคารสถานีแล้วล่ะครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[palm_gea]

[ExtendeD]

บรรยากาศของชานชาลาที่ 1 และ 2 ที่อยู่ด้านหน้าอาคารสถานีครับ ที่เห็นว่าค่อนข้างเงียบเหงาเป็นเพราะว่าเพิ่งมีขบวนรถไฟรับผู้โดยสารไปหมดแล้วครับ ส่วนจะเป็นรถขบวนไหน เอาไว้รอดูตอนส่งท้ายที่ สถานีนครสวรรค์ แล้วกันนะครับ




เดินผ่านมาจนถึงชานชาลาทางด้านทิศเหนือ จะเห็นป้ายประเพณีทางด้านทิศเหนือตั้งอยู่ริมรั้ว ด้านหลังนั้นเป็นบ้านพัก ครฟ. ใกล้ ๆ กันก็มีที่ทำการนายตรวจทางด้วยครับ




เดินถอยห่างออกมา ก็ได้รูปภาพจากมุมไกลอีก 1 รูป พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ถึงแม้ว่าแสงสุดท้ายที่ สถานีนครสวรรค์ จะไม่สวยเหมือนกับที่ สถานีหนองคาย แต่ว่าบรรยากาศดีกว่ากันเยอะเลยครับ เงียบสงบดีจริง ๆ




มาดูบรรยากาศบริเวณชานชาลาด้านหน้าอาคารสถานีตอนฟ้ามืดสนิทกันบ้างครับ รูปนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อเวลา 18.51 น. ช่วงนั้นยังไม่เห็นผู้โดยสารมานั่งรอขึ้นขบวนรถบริเวณชานชาลาด้านนอกกันมากนักครับ ส่วนใหญ่จะไปนั่งรออยู่ข้างในอาคารสถานีมากกว่า




มองออกไปที่ย่านสถานี ที่เห็นนั้นเป็น ขบวนรถธรรมดาที่ 208 ต้นทางสถานีนครสวรรค์ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่จอดรอทำขบวนกลับกรุงเทพตอนช่วงเช้ามืดของวันรุ่งขึ้นครับ



สำหรับบรรยากาศยามเย็นของสถานีนครสวรรค์ก็คงจะมีแต่เพียงเท่านี้ครับ แต่ผมมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้จดเอาไว้เมื่อตอนที่เดินเล่นอยู่ที่นี่อีกเล็กน้อย
- ตัวอักษรที่ผมเห็นอยู่ที่รางที่ 2 คือ " 1954 RSR 0B " ใช้หมอนคอนกรีต Double Block
- ตัวอักษรที่ผมเห็นอยู่ที่รางที่ 3 คือ " sH WENDEL 25 RSR " ใช้หมอนไม้ครับ
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[tongchit]

[ExtendeD]

[ExtendeD]

คืนวันที่ 19 ตุลาคม ผมกับพี่ ๆ น้อง ๆ สมาชิกกลุ่มหนึ่งได้ไปพักค้างคืนที่บ้านพี่เบียร์ ( ขอบคุณอีกครั้งครับพี่ ) เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมกิจกรรมเข้าเยี่ยมชม สรพ. ปากน้ำโพ ซึ่งภาพบรรยากาศของกิจกรรมในครั้งนั้น พี่ ๆ น้อง ๆ ก็คงจะได้ชมกันไปแล้ว แต่ถ้าอยากย้อนกลับไปรำลึกเหตุการณ์สนุกที่พวกเราได้ไปรวมตัวกันในวันนั้นก็เชิญ click ไปที่ link ด้านล่างเลยครับ ผมทำ link มาให้แล้ว
- " ตะลอน สรพ.ปากน้ำโพ กับ RFT.Com " ( เน้นบรรยากาศของ สถานีปากน้ำโพ และบริเวณโดยรอบ สรพ. ปากน้ำโพ
- " ขบวนการนั่งยาง...เมื่อฤดูน้ำหลาก...ที่ปากน้ำโพ " ( เน้นฮาอย่างเดียวเท่านั้น )
- " ประวัติ สรพ. ปากน้ำโพ " ( สาระดี ๆ อันเป็นประโยชน์จากพี่วิศรุต )

ต้องขอเล่าเอาไว้ตรงนี้สักนิดนะครับ ก่อนหน้าที่ผมจะได้ไปเจอกับพี่ ๆ น้อง ๆ ในวันนั้นก็ตะลอนกับเจ้าตี๋ติดต่อกันมาตั้งหลายวัน ไม่ได้รู้ข่าวคราวอะไรเลย เพราะไม่ได้แวะเข้าร้าน internet cafe' พอเสร็จจากกิจกรรมเยี่ยมชม สรพ. ปากน้ำโพ ก็ได้ยินพี่ ๆ น้อง ๆ คุยกันเรื่องเกี่ยวกับ Airport Link ดูท่าทางน่าสนใจมากเลยล่ะครับ แต่ตอนนั้นต้องควบคุมอารมณ์ เก็บอาการเอาไว้ ได้แต่วน ๆ เวียน ๆ ผ่านไปชำเลืองมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คของน้องธีอยู่บ่อย ๆ แบบนี้เขาเรียก " ตกข่าว " ใช่หรือเปล่าครับเนี่ย...

เรื่องราวเกี่ยวกับ Airport Link ที่ผมพูดถึงนั้น ก็เป็นไปอย่างที่ได้เห็นกระทู้ " Airport Link เพื่อนใหม่จากแดนไกล มาแล้วจ้า " และกระทู้ " เบื้องหลังข่าว : ไปรับรถไฟฟ้าที่แหลมฉบัง " ครับ


จนกระทั่งได้กลับมาที่ สถานีนครสวรรค์ อีกครั้ง หลังจากที่ส่งพี่ ๆ น้อง ๆ กลุ่มหนึ่งขึ้นขบวนที่ 12 กลับกรุงเทพ แล้วพี่เบียร์ก็กลับบ้านไป ก็เหลือเพียงแค่ผม กับเจ้าตี๋ที่ต้องรออยู่ที่ สถานีนครสวรรค์ ต่อไป ช่วงนั้นก็เป็นเวลาที่ผมกับเจ้าตี๋ไปเดินเก็บบรรยากาศของสถานีรถไฟแห่งนี้มาเพิ่มเติมจากที่ค้างเอาไว้เมื่อวันก่อนหน้านี้ ตามที่ได้เห็นกันไปแล้วครับ ก็เหลืออยู่เพียงแค่รูปของขบวนรถไฟที่ได้พบเห็น ตลอดช่วงที่เดินรอ นั่งรอ กินรออยู่ที่ สถานีนครสวรรค์ ครับ มาดูกันเลยดีกว่า...

ขบวนแรกเป็น ขบวนรถธรรมดาที่ 211 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีตะพานหิน ไม่ต้องดูเวลาก็คงรู้ครับ ว่าทำเวลาได้ดีกว่าเมื่อวาน มาถึงที่นี่ท้องฟ้ายังไม่มืดเลย




ขบวนที่ 211 ออกจาก สถานีนครสวรรค์ มุ่งหน้าตรงไปทาง สถานีปากน้ำโพ เมื่อเวลา 17.51 น. ครับ




จากนั้น ขบวนรถธรรมดาที่ 207 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีนครสวรรค์ ก็มาถึงสถานีปลายทางครับ แต่ไม่มีรูปนะครับ เพราะคิดว่าถ่ายยังไงก็ไม่ชัด นั่งอยู่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร ก็เกิดอาการคันไม้คันมือขึ้นมา จนกระทั่งเมื่อรถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom คันหนึ่งทำขบวนรถน้ำมันเข้าจอดอยู่ในรางที่ 2 มหกรรมลองของจึงได้เริ่มขึ้น รู้ครับว่ารูปที่ออกมาต้องไม่ชัดแน่ ๆ แต่ขอถ่ายสนองความต้องการ ผมดูในหน้าจอ LCD ยังเห็นว่าชัดกว่านี้ครับ ก็เลยไม่ได้ลบทิ้งไป เจ้าตี๋เห็นแบบนั้นก็เลยอยากลองของดูบ้าง แต่คราวนี้ได้ลองกับของจริง ขบวนรถเร็วที่ 109 ต้นทางสถานีกรุงเทพ - ปลายทางสถานีเชียงใหม่ ที่จะพาผมกับเจ้าตี๋ไปสู่จุดหมายต่อไปนั้น ได้ดับไฟ Headlight จอดรออยู่ที่หน้าเสาสัญญาณเข้าทางด้านทิศใต้แล้ว ผลออกมาจะเป็นอย่างไร ติดตามได้อีกสักครู่ครับ ขอพิมพ์ก่อน...


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[pak_nampho]

ถึงคุณเต้ย....
พวกเราชาวสี่แคว ( ผม Pak_nampho,ใหม่ mai_cnx_th , จั๊ม azizi_jum, ชิน Vetrial, ดิว Dew_GEA ) ขอบขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนโดยที่
พวกเรารู้เพียงกำหนดการวันที่ 20 ตุลาคม เท่านั้น จะได้เจอสมาชิก...เสียดายครับ .. เสียดายจริง..เสียดายจริง ...(ขอละเมิดลิขสิทธิ์ นสน.บ้านตุ้ย)
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

[umic2000]

เจิมหน้า 8 ด้วยพุทธสุภาษิตนี้ "สุโข ปญฺญา ปฏิลาโภ" ครับ

[ExtendeD]

[ExtendeD]