RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13272593
ทั้งหมด:13583889
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 49, 50, 51 ... 278, 279, 280  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 13/02/2012 12:40 am    Post subject: Reply with quote

'จารุพงศ์'ลั่นเดินหน้ารถไฟฟ้า 10 สายในปีงบฯ 56
ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ
โดย ณัฐญา เนตรหิน
วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 13:53 น.

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมเตรียมการจัดทำงบประมาณประจำปี 2556 ของกระทรวงคมนาคม ว่า โครงการของกระทรวงคมนาคมในปีงบประมาณ 2556 จะเน้นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา อาทิ โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย รถไฟรางคู่ โดยจะมอบหมายให้นายชัชชาติ สุทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้าและปัญหา อุปสรรค ของโครงการ

ส่วนแนวทางการใช้งบประมาณปี 2556 ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดูแนวทางการใช้งบประมาณของปี 2555 และปีที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่องกันกับนโยบาย

รมว.คมนาคม กล่าวว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ขอจัดสรรงบประมาณจัดทำสรุปสาระสำคัญในภาพรวมของกรอบวงเงินเบื้องต้น ที่คาดว่าจะขอรับจัดสรร และส่งให้กระทรวงคมนาคมในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2012 1:23 pm    Post subject: Reply with quote

"สุขุมพันธุ์"จี้รัฐให้ความสำคัญขนส่งระบบราง
เนชั่นทันข่าว
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 09:10 น.

เมื่อเวลา 10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกทม. ได้ศึกษาดูงานระบบรถไฟใต้ดินของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่บริษัท เซี่ยงไฮ้ เฉียงตง เมโทร กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จากนั้นได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ คอนทรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือซีอาร์ซี

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า การขยายระบบรถไฟใต้ดินของเซี่ยงไฮ้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ เริ่มมีขึ้นก่อนกรุงเทพฯ เพียง 5 ปี แต่ขณะนี้เซี่ยงไฮ้มีระบบขนส่งมวลชนแบบรางระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร แสดงให้เห็นว่าในระยะเวลาเพียง 20 ปี เซี่ยงไฮ้ได้มีการพัฒนาระบบรางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่กรุงเทพฯ มีระยะทาง 70 กิโลเมตรเท่านั้น ดังนั้นมีหลายสิ่งที่กรุงเทพฯ ต้องเรียนรู้ ทั้งเรื่องของระบบและการบริหารระบบ ตนมั่นใจว่าความตกลงของทั้ง 2 บริษัทจะสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองฉางชุนในอนาคต ร่วมทั้งบริษัท บีทีเอสซี และบริษัท ซีอาร์ซี

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับบริษัทซีอาร์ซีฯเป็นบริษัทที่ผลิตรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจีน แม้ความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับกทม. โดยตรง แต่ก็มีความสำคัญในระยะยาว ทั้งนี้กทม. คงไม่สามารถนำระบบขนส่งมวลแบบรางของเซี่ยงไฮ้มาปรับใช้ได้ทั้งหมด เนื่องจากมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ทั้งการบริหารและการปกครอง ฝ่ายการเมืองของไทยควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อลดการใช้พาหนะส่วนบุคคล

"เรื่องความคืบหน้าของโมโนเรลสายสยาม ขณะนี้กทม. รอแค่ลายเซ็น ขอความเห็นชอบจากกระทรวงมหาดไทยในการขอใช้เส้นทาง หากอนุมัติก็สามารถเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งฯ ได้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เกิดความล่าช้ามาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว แม้จะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเดียวกันก็ตาม ดังนั้นรัฐบาลต้องสนับสนุนให้ท้องถิ่นดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เอง จึงอยากขอให้รัฐบาลชุดนี้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะตามมา โดยขอเพียงลายเซ็นจากรัฐ ท้องถิ่นจะดำเนินการเองได้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ด้านนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ เป็นการสร้างความมั่นใจระหว่างกันของ 2 บริษัท และหาก กทม. มีโครงการด้านการขนส่ง ตนก็พร้อมร่วมมือเพื่อให้เกิดการพัฒนา เป็นประโยชน์แก่ประชาชนในอนาคต เนื่องจากการขนส่งแบบระบบรางช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัดได้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อย่างไรก็ตามระบบรางต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ตนเป็นเพียงเอกชนที่มีความพร้อมอยู่แล้วทั้งประสบการณ์และการเงิน แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน จึงจะสามารถเดินหน้าได้ เหมือนอย่างที่เซี่ยงไฮ้ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ประชาชนจึงใช้บริการในการเดินทางกว่าร้อยละ 35

"ไทยสามารถพัฒนาได้ไม่ด้อยกว่าจีนแน่นอนเรื่องระบบเราก็พร้อม แต่เพียงแค่เราช้ากว่าเขาเท่านั้นเอง หากเราทำได้ การจราจรในกรุงเทพฯ จะดีขึ้น" นายคีรี กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2012 1:15 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้โดยสารหาวรอ ปี58ได้ใช้ตั๋วร่วมขนส่งมวลชน
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยรัฐ 18 กุมภาพันธ์ 2555 - 16:30

งานนี้ทบทวนโครงการอีกแล้วครับท่าน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 22/02/2012 12:43 pm    Post subject: Reply with quote

จับชีพจรรถไฟฟ้า10 สาย รัฐบาล ‘ปู’ 6 เดือนแล้วยังไม่ขยับ
หน้า คมนาคม/ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1277 ประจำวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2555

โครงการรถไฟฟ้า 10 สายใน ยุครัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หลายคนอาจจะมองว่า นำรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้เข้ามาบรรจุไว้ในแผนหาเสียงเป็นการย้อมสีรถไฟฟ้ามาเป็นผลงานของตัวเอง เป็นข้อกล่าวหาที่ต้องตรวจสอบผลงานกันหน่อย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าลงนามสัญญา ก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลอีก 10 สายทางภายใน 3 ปี ระยะทางรวม 420 กม. ประกอบด้วย
1.สีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
2.สีแดงอ่อน จากศาลายา-หัวหมาก
3.แอร์พอร์ตลิงค์ เชื่อมท่าอากาศยานดอนเมือง-สุวรรณภูมิ
4.สีเขียวเข้มจากลำลูกกา-บางปู
5.สีเขียวอ่อน จากยศเส-บางหว้า
6.สีน้ำเงิน บางซื่อ-หัวลำโพง-ท่าพระ-พุทธมณฑล สาย 4
7.สายสีม่วง จากบางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ
8.สีส้ม จากจรัญสนิทวงศ์-มีนบุรี
9.สีชมพู จากแคราย-มีนบุรี และ
10.สีเหลือง จากลาดพร้าว-สำโรง

วงเงินรวม 8 แสนล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบทั้ง 10 โครงการนี้ผ่านมา 6 เดือนยังไม่ขยับเลย แน่นอนว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า เป็นหนึ่งในอภิมหาโปรเจกต์ ที่ต้องใช้เวลา ดำเนินการก่อสร้างยาวนาน ซึ่งผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว แต่ยังล่าช้ากว่าแผนมาก...ส่งผลให้ประชาชนเหลืออดเหลือทนกับการรอคอยรถไฟฟ้าว่าเมื่อไหร่จะผ่านหน้าบ้านตนเสียที จนหลายคนเลิกรอและซื้อรถส่วนตัวมาขับแล้ว ที่สำคัญการที่รัฐบาลประกาศนโยบายรถคันแรก ซึ่งทำให้หลายคนมองว่ารัฐบาลนี้ไม่สนับสนุนการลงทุนรถไฟฟ้าแล้วหรือ แต่ความจริงแล้วรัฐบาลยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และยิ่งต้องทำให้เร็วด้วย เพราะเชื่อว่าหลังจากที่คนแห่ซื้อรถตามโครงการรถคันแรกแล้ว รถจะติดบนท้องถนนอีกหนักหนาสาหัสแน่!

“สยามธุรกิจ” ได้รวบรวมโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ และที่กำลังรอเซ็นสัญญามานำเสนอ ซึ่งถือว่าเริ่มมีความคืบหน้าให้เห็นบ้าง เริ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง อ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. งานโยธาคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2558

โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 กม. งานโยธาคืบหน้า 35% ส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและเดินรถอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนตามขั้นตอนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 คาดว่า เปิดให้บริการในปี 2558

โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 13 กม. และช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กม. งานโยธาคืบหน้า 5% ส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและเดินรถอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ คาดว่าจะเปิดให้บริการใน ปี 2559

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เพิ่งได้ บริษัท ช.การช่างไปก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 1 เมื่อเดือนธ.ค.2554 โดยคาดว่าเปิดให้บริการปี 2559

โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบาง-ซื่อรังสิต การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างการประกวดราคางานโยธา คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2558

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างลงนามสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมา แบ่งเป็นปี ดังนี้ ปี 2555 เตรียมประมูลและเซ็นสัญญา 6 สายทาง คือ สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ระยะทาง 26 กม. วงเงินกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท, สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 36 กม., สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) ระยะทาง 11.4 กม. สายสีแดง (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน และบางซื่อ-หัวลำโพง) ระยะทาง 25.5 กม. สายสีม่วง (บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) ระยะทาง 19.8 กม. และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี) ระยะทาง 20 กม.

ปี 2556 เตรียมเซ็นสัญญา 6 สาย คือ สายสีแดง (ศิริราช-ตลิ่งชัน), สายสีแดง (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ระยะทาง 6 กม. สายสีแดง (รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์) ระยะทาง 10 กม. สายสีเขียว (สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 7 กม. สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กม. และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ (ดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท) ระยะทาง 21.8 กม.

โครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดนี้นอกเหนือจาก 10 สายทางใหม่ ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 7.62 แสนล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.กม. ว่ากันว่า จะสามารถ รองรับผู้โดยสารได้กว่า 3.3 ล้านคน หากรัฐบาลชุดนี้ทำได้ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด คาดว่าไม่เกินปี 2562 คนไทยคงได้ใช้บริการรถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสายอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ ต้องยอมรับว่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และจับตามองความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด โดยเฉพาะบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หวังว่าผุดโครงการใหม่ๆ ตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อผู้ที่จะมาอยู่อาศัย ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/02/2012 9:32 pm    Post subject: Reply with quote

คค.เร่งรฟม.-สนข.ทำแผนลดภาระดอกเบี้ย
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 20:36น.

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เร่ง รฟม. - สนข. จัดทำแผน ลดภาระดอกเบี้ย ให้แล้วเสร็จ 28 ก.พ. นี้ ทั้ง 2 สาย รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน - สีเขียว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค และช่วงบางซื่อ - ท่าพระ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง -สมุทรปราการ ว่า ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2555 เห็นชอบตามความเห็นกระทรวงการคลัง ให้การรถไฟฟ้าขนส่วนมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จัดทำแผนงานดำเนินการก่อสร้าง แผนการกู้เงิน แผนงานเบิกจ่ายเงินกู้ และการบริหารจัดการแผนดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามแผนการใช้จ่ายจริง ในวันนี้ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ รฟม. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อจัดทำแผนดังกล่าวให้ชัดเจน ไม่ให้เกิดภาระในด้านดอกเบี้ย ซึ่งแผนดังกล่าวจะต้องแล้วเสร็จในวันอังคารที่ 28 ก.พ. 2555 และจากโครงการดังกล่าว ได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย จึงให้ รฟม. นำความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขึ้นเว็ปไซต์ของกระทรวงคมนาคม อีกทั้งยังให้นโยบายแนวทางการเร่งรัดความปลอดภัยของโครงการรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง ทั้งด้านการจราจร การติดตั้งไฟให้ความสว่าง จุดกลับรถเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 29/02/2012 1:27 am    Post subject: Reply with quote

ดีเดย์ตั๋วร่วมรถไฟฟ้าพ.ค.นี้
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
29 กุมภาพันธ์ 2555 - 00:00

ประเดิม พ.ค.นี้ “บีเอ็มซีแอล” จับมือ ”บีทีเอส” เปิดใช้ตั๋วร่วม 2 รายแรก ด้าน “บีอีซีแอล” คาดปี 55 รายได้โต 3% ลุ้นสัมปทานทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก มูลค่าโครงการ 2 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจาก บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่า บีเอ็มซีแอลผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน จะเริ่มตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ภายในเดือน พ.ค.2555 นี้ หลังจากที่ได้ลงนามในหนังสือสัญญาความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 บริษัทอยู่ระหว่างการทดสอบอุปกรณ์และอบรมพนักงาน

“ทั้งบีทีเอสและบีเอ็มซีแอลอยู่ระหว่างการอบรมให้ความรู้พนักงานในการใช้ตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ ”บัตรแรบบิท (Rabbit)” ซึ่งบัตรดังกล่าวสามารถนำไปชำระสินค้าที่เข้าร่วมรายการ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บีทีเอสและบีเอ็มซีแอลได้ลงนามใน (MOU) เพื่อพัฒนาระบบตั๋วโดยสารร่วมระหว่างกัน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดทำตั๋วโดยสารร่วม และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และนำไปสู่การจัดทำระบบจัดเก็บค่าโดยสาร และใช้ตั๋วโดยสารร่วมกันได้ “แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ตามแผนแล้วการจัดทำตั๋วร่วมดังกล่าวได้ร่วมกับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบีทีเอส เพื่อลงทุนมูลค่า 800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบและผลิตตั๋วโดยสารในระยะแรกที่อยู่ระหว่างการทดลองใช้ 4 เดือน โดยจะผลิตตั๋วร่วมจำนวน 3,500 ใบ เพื่อแจกให้กับอาสาสมัครทดสอบใช้ หากไม่พบปัญหาก็จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.-ต.ค.2555 นี้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะขยายการใช้ตั๋วร่วมไปในกลุ่มโดยสารประเภทอื่น เช่น รถบีอาร์ทีของกรุงเทพฯ

นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (บีอีซีแอล) เปิดเผยว่า รายได้รวมในปี 2555 จะเติบโตราว 3% จากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 7,652 พันล้านบาท ภายใต้คาดการณ์ปริมาณการจราจรในปีนี้เติบโต 4% และในปีนี้บริษัทมีแผนจะออกและเสนอขายหุ้นกู้อย่างน้อย 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้งวดแรกราว 1,000-2,000 ล้านบาท ในเดือน มี.ค.2555 นอกจากคาดว่าจะสรุปผลการเจรจาสัมปทานทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก มูลค่าโครงการ 2 หมื่นล้านบาทได้ ภายในเดือน พ.ค.2555 นี้ พร้อมกันนั้นจะมีการเจรจากับภาครัฐเพื่อขอปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา เพื่อให้มีผลในวันที่ 1 ก.ย.2556.
Back to top
View user's profile Send private message
siriwadhna
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/10/2009
Posts: 126

PostPosted: 01/03/2012 9:51 pm    Post subject: Reply with quote

มาแล้วครับกับการเริ่มทดสอบ "ระบบตั๋วร่วม" กับกลุ่มพนักงานของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
(เลื่อนลงมา อยู่ล่างๆครับ)

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/03/2012 3:16 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าได้ฤกษ์สร้างต่อ ผู้รับเหมาชี้ไม่หวั่นขึ้นค่าแรง-พร้อมลุยหากรัฐไฟเขียว!
wwwthaicontractor.wordpress.com Posted on March 8, 2012

ดีเดย์ไปแล้วสำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว(ส่วนต่อขยายสถานีแบ ริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งงานนี้บริษัท ช.การช่าง จะเริ่มลงพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2555 นี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2560 ทั้งนี้คาดว่าจากความชัดเจนของการเริ่มต้นโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อชานเมือง จะยิ่งทำให้ความคึกคักของโครงการอสังหาฯย่านบางนา-ตราดได้รับความสนใจจากนัก พัฒนาโครงการมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้นที่จะได้รับความนิยม เพราะฝั่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆก็พลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย เนื่องจากทำเลย่านสมุทรปราการเป็นหนึ่งในไม่กี่พื้นที่โซนสีแดงที่รอดพ้น วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งฝั่งนิคมอุตสาหกรรมบางปูและนิคมฯลาดกระบัง

หลังจากเงียบหายไปนานสำหรับข่าวความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจ็คอย่าง โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งในปีที่ผ่านมาโดนทั้งพิษน้ำท่วมและการเมือง ทำให้การดำเนินงานไม่ราบรื่นวิ่งฉิวสักเท่าไหร่ แต่หลังจากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณได้ลงตัว โครงการเมกะโปรเจ็คจึงได้ฤกษ์เดินหน้า โดยกลุ่มที่สตาร์ทก่อนใครเพื่อนคือ บมจ. “ช.การช่าง” ที่กวาดงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ามาหลายขบวนทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง ,สีน้ำเงิน ,สีเขียว รวมถึงได้สัมปทานเดินรถสายสีม่วง และทางด่วนใหม่ (ศรีรัช-วงแหวนฯ) กวาดเงินเข้ากระเป๋าไปกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท

ด้าน บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น ที่ปีที่แล้วกวาดส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าได้ไม่แพ้กัน โดยชิงสัญญามาได้ทั้งหมด 3 คือ สายสีม่วง ,สีน้ำเงิน และสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) แถมท้ายด้วยงานปรับปรุงทางรถไฟ ระยะที่ 6 ทำให้ยอดงานในมือปีนี้สูงถึง 6.6 หมื่นล้านบาท

โดยฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า แม้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสีน้ำเงินชะลอตัวจากเหตุน้ำท่วมเมื่อ ปลายปี 2554 แต่ซิโน-ไทยฯ มีงานในมือ(Backlog) ที่แข็งแกร่งมาก อีกทั้งมีแนวโน้มได้งานใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ ทำให้แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ยังคงสดใสไปจนถึงปี 2557

“เราปัจจุบันซิโน-ไทยฯจะมี Backlog ในมือประมาณ 49,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับงานประมูลรถไฟฟ้าสายสีแดงสัญญาที่ 1 อีก 20,600 ล้านบาท ทำให้ยอดสะสมงานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้เราคาดว่าซิโน-ไทยฯ มีแนวโน้มได้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานของ STPI ซึ่งเป็นงานทำโมดูลให้กับโรงแยกก๊าซในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะช่วยต่อยอดประมาณการรายได้ของปี 2556 ให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง” เติมพร ตันติวิวัฒน์ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ กิมเอ็งฯ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากแผนโครงการเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ส่งผลให้อุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มสดใสต่างจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการจัดสรรงบประมาณทั้งโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมและโครงการเมกะโป รเจ็กต์ ที่จะมีการประมูลงานเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 2 สาย คือ สายสีเขียวและสีชมพู และอาจจะมีโครงการบิ๊กโปรเจ็คอย่างโครงการรถไฟรางคู่ หรือโครงการรถไฟความเร็วสูงอีกด้วย โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทยได้งบประมาณมาปรับปรุงทางรถไฟช่วงสถานี พิษณุโลก-เชียงใหม่ มูลค่ากว่า 2,853 ล้าน ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน ซึ่งผู้รับเหมาที่ประมูลได้งานไปคือ บมจ.อิตาเลียน-ไทย

“ปีนี้อิตาเลียน-ไทยฯจะหันมารับงานในประเทศมากขึ้น หลัง 2-3 ปีที่ผ่านมาออกรับงานต่างประเทศเป็นส่วนมาก ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีงานใหม่อีก 3 แสนล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือ 1.7 แสนล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ได้งานโครงการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน สัญญาที่ 12.6 หมื่นล้านบาท และโครงการปรับปรุงทางรถไฟช่วงสถานีพิษณุโลก-เชียงใหม่อีก 2.8 พันล้านบาท” นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล ลอปเมนต์ กล่าว

ส่วน ความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตร ล่าสุดทางผู้รับเหมาทั้ง 3 สัญญาได้ปรับแผนงานก่อสร้างให้เร็วขึ้น จากเดิมติดปัญหาวิกฤตน้ำท่วม ทำให้งานก่อสร้างล่าช้าไปจากแผนอยู่กว่า 10% แต่ปัจจุบันได้มีการเริ่มงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วประมาณ 40-50%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มจะติดปีกกับเขาบ้างแล้ว แต่ก็อย่าลืมระวังปัจจัยลบจากต้นทุนทั้งด้านขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้าง ที่ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากมีการปรับขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ก็อาจจะส่งผลกระทบในระยะสั้นๆได้ ยกเว้นว่าจะมีการเจรจาตกลงซื้อขาดกันไว้ตั้งแต่ก่อนสินค้าจะทันได้ปรับตัว

แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้รับเหมาต้องระวังมากกว่าต้นทุนด้านราคาสินค้า ก็คือ ปัจจัยเรื่องการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากปีนี้มีงานก่อสร้างเยอะชนิดคิวงานยาวข้ามปี ทั้งโครงการเมกะโปรเจ็ค โครงการอสังหาริมทรัพย์ และโครงการฟื้นฟู-ป้องกันน้ำท่วม เห็นงานชุกอย่างนี้แล้วไม่แน่ว่ากลุ่มอาชีพที่จะได้ค่าแรงเกิน 300 บาทก่อนใครเพื่อนอาจจะเป็นกลุ่มแรงงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างก็เป็นได้..
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 09/03/2012 10:48 am    Post subject: Reply with quote

เปิดโครงการเมกะโปรเจคแสนล้าน'คมนาคม'ปี55
กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 มีนาคม 2555 09:29

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรได้สรุปรายงานการชี้แจงแผนการดำเนินงานโครงการในปี พ.ศ. 2555 ของกระทรวงคมนาคม ระบุว่าในปี 2555 กระทรวงคมนาคมมีแผนการดำเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญด้านการขนส่งทางบก การขนส่งทางน้ำ การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางราง ดังนี้

1. ด้านการขนส่งทางบก จะดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสาร NGV จำนวน 3,183คัน ใช้วงเงินประมาณ 13,162 ล้านบาท คาดว่าหลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการแล้ว จะสามารถส่งมอบครั้งแรกได้ 1,000 คันภายในปี 2555 ส่วนรถประจำทางที่มีอยู่อีก 323 คัน จะนำมาปรับปรุงเครื่องยนต์

2. ด้านการขนส่งทางน้ำ จะดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราจังหวัดสตูล ระยะที่ 1 วงเงินลงทุนประมาณ 12,434 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติโครงการ

ส่วนโครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับน้ำในแม่น้าเจ้าพระยาและแม่น้ำน่าน 2 แห่ง ที่อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ และอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ใช้วงเงินประมาณ 14,442 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอครม.ให้ความเห็นชอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559

3. ด้านการขนส่งทางอากาศ จะพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 62,503 ล้านบาท

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 12.5 ล้านคน/ปีใช้งบประมาณในการดำเนินการ 5,791 ล้านบาท

4. ด้านการขนส่งทางราง จะพัฒนารถไฟฟ้า 10 สายทาง โดยจัดให้มีการประกวดราคาให้แล้วเสร็จทุกโครงการในปี 2557 เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สายสีแดง (บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน/บางซื่อ-หัวลำโพง) , (รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) สายสีม่วง(บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-บางกะปิ-มีนบุรี)

โครงการระบบรถไฟความเร็วสูงอยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณเพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ 4 เส้นทาง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2560 ได้แก่ สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ , สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา , สายกรุงเทพฯ-ระยอง ,สายกรุงเทพฯ-หัวหิน

โครงการรถไฟฟ้าสายใหม่เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ดำเนินการศึกษา 2โครงการ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2556 คือ โครงการศึกษาและออกแบบเพื่อเตรียมการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย และโครงการศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบัวใหญ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม

โครงการระบบรถไฟทางคู่ระยะทาง 873 กิโลเมตร จำนวน 6 เส้นทาง อยู่ระหว่างเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA)1 โครงการ คือ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย โครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและออกแบบ 2 โครงการ ระยะทาง 352 กิโลเมตรช่วงชุมทางจิระขอนแก่น และช่วงประจวบคีรีขันธ์- ชุมพร ในปี 2555 จะได้งบประมาณเพื่อศึกษารายละเอียด 3โครงการระยะทาง 415 กิโลเมตร เส้นทางช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42746
Location: NECTEC

PostPosted: 23/03/2012 9:26 am    Post subject: Reply with quote

ต้องรอรถไฟฟ้าเปิดครบ10เส้นทาง “จารุพงศ์”แบะท่าค่ารถ 20บาทตลอดสาย
ขั่วทั่วไทย เดลินิวส์
วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2555 เวลา 08:02 น.

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการทำงาน โดยมีนายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการ รฟม. นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ รองผู้ว่าการ รฟม. ฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้าง ต้อนรับ โดยนายจารุพงศ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย พร้อมจัดเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสาย ตนจึงต้องมาเร่งรัดการดำเนินการ ได้มอบหมายให้ รฟม.ไปดำเนินการประกวดราคาให้สามารถลงนามสัญญากับผู้รับเหมาเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 10 เส้นทาง ให้ได้ภายใน 4 ปีนี้ ซึ่งอยู่ในวาระของรัฐบาล ส่วนเรื่องค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะทำได้ก็ต่อเมื่อเปิดให้บริการครบทั้ง 10 เส้นทาง

ดังนั้นหากสายสีม่วงเปิดให้บริการในปี 2558 จะยังไม่สามารถใช้อัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายได้ในทันที แต่ได้สั่งการให้ รฟม.ไปศึกษาหาทางเก็บค่าโดยสาร 20 บาท ให้ได้ตั้งแต่สายแรก เพราะเกรงว่าประชาชนไม่เข้าใจว่าหาเสียงไว้แล้วแต่ทำไมทำไม่ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วในตอนหาเสียงระบุไว้แล้วว่าต้องเปิดบริการครบ 10 เส้นทางก่อน อย่างไรก็ตามถ้าหาทางออกไม่ได้ รฟม. ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้ตำหนิรัฐบาล

นายจารุพงศ์ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ รฟม.ไปแต่งตั้งคณะทำงานเป็นกลุ่มภารกิจและให้แต่ละกลุ่มดูแลบริหารการทำงานของรถไฟฟ้าแต่ละสายแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน การออกแบบก่อสร้าง การเซ็นสัญญา การควบคุมการก่อสร้าง การเดินรถ และการจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาท เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เสร็จทันภายในวาระของรัฐบาลชุดนี้ สำหรับรถไฟฟ้าสายต่อไปที่จะเปิดประมูลได้คือ

1. สายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รอเสนอ ครม.อนุมัติหลักการ และ
2. สายสีชมพู ช่วงปากเกร็ด-มีนบุรี รอผลการศึกษาว่าจะก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) หรือรถไฟฟ้าขนาดหนัก (เฮฟวี่เรล)

หากผลการศึกษาเป็นโมโนเรล จะเปิดประมูลได้ต้นปี 2556 อย่างไรก็ตาม ตนสั่งการให้ รฟม.ทำแผนการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็นภาพรวมให้ตนในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางเร่งรัดดำเนินการต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 49, 50, 51 ... 278, 279, 280  Next
Page 50 of 280

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©