GEK. Travel#2 ตะลอนครึ่งเดือน --> รย.กท.ชั.แอ.พต.

[ExtendeD]

คุณพี่ช่างเครื่องกำลังต่อท่อลมห้ามล้อ หลังจากนี้ไม่นานขบวนที่ 283 ก็คงพร้อมที่จะออกเดินทางฝ่าเม็ดฝนปรอย ๆ มุ่งหน้าสู่ สถานีบ้านพลูตาหลวง จุดหมายสุดท้ายของทริปอันแสนจะยาวนานแล้วล่ะครับ



ชุดรถของขบวนที่ 283 ในวันนั้นก็คือ ADD. 4420 + 5 บชส. ( 1349 + 1244 + 1092 + 1235 + 1329 ) + บสส. 1002 ครับ


แล้วก็คงต้องทำตามธรรมเนียม มีน้องปู๊นเดินทางมาด้วย พวกเราก็เลยต้องมาปักหลักกันอยู่ใน บชส. 1349 ที่เป็นรถคันแรกของขบวน นั่งคันแรกยังไม่พอ ต้องเป็นที่นั่งหน้าสุดด้วย ( ติดห้องน้ำ ) ใกล้ชิดรถจักรแบบสุด ๆ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ในวันนั้นขบวนที่ 283 ออกจาก สถานีกรุงเทพ ที่เป็นสถานีต้นทางเวลาประมาณ 07.05 น. ช้ากว่ากำหนดเวลาประมาณ 10 นาทีครับ ตอนแรกผมเห็นรถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi วิ่งไปวิ่งมาอยู่ใกล้ ๆ กับโรงรถดีเซลรางก็แอบหวังไว้ในใจว่าวันนี้อาจจะโชคดีได้ Hitachi พาไปเที่ยวพลูตาหลวง แต่สุดท้ายก็ " แห้ว " Hitachi คันที่อยู่หน้าโรงรถดีเซลรางก็คือ HID. 4519 ครับ ส่วน HID. 4513 คันนี้คงจะกำลังรอลากชุดรถเปล่าเข้า สถานีชุมทางบางซื่อ




ที่เห็นอยู่ในรูปนี้คือ สะพานข้ามคลองมหานาค ซึ่งเพิ่งจะผ่านการทำสีเสร็จสิ้นมาสักพักแล้ว แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้แวะไปเก็บภาพอีกครั้งเลย ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้สงสัยคงต้องปล่อยไปก่อนล่ะครับ คิวยาว งานรัดตัว เหอะ เหอะ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ช่วงแรก ๆ ที่ออกจากหัวลำโพงมา เมฆหนา และลอยต่ำมากครับ แต่พอผ่าน ที่หยุดรถพญาไท มา ผมแหงนหน้ามองขึ้นไปบนยอดตึกใบหยก 2 ก็ยังมองเห็นยอดตึกได้ชัดเจนดี แต่ว่าถ้าจะให้หวังว่าฝนหยุด แล้วฟ้าเปิด ดูท่าจะต้องผิดหวังอีกตามเคยแน่นอนครับ




ในรางที่ 1 ของ สถานีมักกะสัน มี ขบวนรถชานเมืองที่ 384 ต้นทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4111 จอดรออยู่ล่วงหน้าก่อนแล้วครับ ขบวนที่ 283 ก็เลี้ยวเข้ารางหลีกอีกตามเคย . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ขบวนที่ 384 ออกจาก สถานีมักกะสัน ไปแล้ว แต่พนักงานที่สถานีก็ยังไม่เอาห่วงทางสะดวกมาให้คุณพี่พขร. สักที มองย้อนกลับไปทางตึกใบหยก 2 ไม่รู้เป็นอะไร มองกี่ครั้งใจห่อเหี่ยวทุกครั้งเลย ไม่มีวี่แววที่ฟ้าจะเปิดเลยครับ วันนี้เจอฝนตลอดทางแน่ ๆ . . .



สถานีมักกะสัน ในเส้นทางสายตะวันออก
เป็นสถานีระดับที่ 2 อักษรย่อ มส. รหัสสถานี 3001
ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 5.17 กิโลเมตร *

* อ้างอิงจาก file station_east.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com


ในวันนั้นขบวนที่ 283 จอดอยู่ที่ สถานีมักกะสัน นานมาก ( ตามความรู้สึกของผม ) จนผมคิดว่าต้องรอหลีกอีกขบวนแน่ ๆ เลย แต่คิดเรื่อยเปื่อยไปได้สักพักก็มีคุณพี่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถือห่วงทางสะดวกวิ่งผ่านไป แล้วขบวนที่ 283 ก็ได้ออกเดินทางต่อเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ในรางหลีกอีกฝั่งหนึ่งของ สถานีมักกะสัน ในวันนั้นก็มี เจ้ารถซ่อมบำรุงทาง 2 คันนี้จอดอยู่ ( เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วผมผ่านไปแถว ๆ นั้นอีกครั้ง ก็ยังเห็นรถซ่อมบำรุงทางทั้ง 2 คันยังคงจอดอยู่ที่เดิม วันนี้ก็คิดว่าจะไป แต่ไม่ได้ไปครับ )


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอมาถึง สถานีคลองตัน ขบวนที่ 283 ก็ต้องเลี้ยวเข้าไปจอดอยู่ในรางหลีกอีกครั้งหนึ่งครับ




นั่งอยู่บนรถนานแล้วเมื่อย ผมก็เลยกระโดดลงจากรถ คิดว่าจะลงมาเดินยืดเส้นยืดสายซะหน่อย แต่พอกระโดดลงถึงพื้นปุ๊บ แผละ . .. ใต้พื้นหญ้าที่อยู่ข้าง ๆ ประตู บชส. 1349 มีแต่โคลนเต็ม ๆ กว่าที่จะได้รูปนี้มาก็ต้องแลกกับโคลนเต็มรองเท้าครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หันขวาเห็นขบวนที่ 283 ถ้าหันไปทางซ้ายก็ต้องเห็น สถานีคลองตัน ครับ



สถานีคลองตัน ในเส้นทางสายตะวันออก
เป็นสถานีระดับที่ 3 อักษรย่อ คต. รหัสสถานี 3009
ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ระยะทางจาก สถานีกรุงเทพ 9.85 กิโลเมตร *

* อ้างอิงจาก file station_east.pdf ที่ download มาจาก http://portal.rotfaithai.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ส่วนขบวนรถที่วิ่งสวนมาในทางประธานก็คือ ขบวนรถชานเมืองที่ 372 ต้นทางสถานีปราจีนบุรี - ปลายทางสถานีกรุงเทพ ที่ได้รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4145 ทำขบวนมา รูปชัด ๆ ของรถขบวนนี้ก็รอดูจากกล้องของน้องปู๊นแล้วกันครับ




พอขบวนที่ 372 วิ่งผ่านไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ขบวนที่ 283 จะเข้าไปจอดรับผู้โดยสารที่ชานชาลาหน้าอาคารสถานีแล้วล่ะครับ ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการลงจากขบวนรถที่สถานีนี้ก็คงจะลงไปตั้งแต่ตอนที่จอดอยู่ในรางหลีกแล้วล่ะครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอมาถึงที่ สถานีหัวหมาก ก็เห็น ขบวนรถพิเศษชานเมืองที่ 388 ต้นทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา - ปลายทางสถานีกรุงเทพ จอดรอทางอยู่ครับ RHN. คันหน้าสุดก็เพื่อนเก่าของพวกเราชาว RFT.com นั่นเอง กซข. 1031 . . .




หลังจากผ่าน สถานีหัวหมาก ไปแล้ว ก็ไม่ต้องรอหลีกรถขบวนไหนอีกแล้วครับ ( จนกว่าจะผ่าน สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ไป ) รถที่วิ่งสวนกันก็เลยวิ่งผ่านไปด้วยความรวดเร็ว รถจักรดีเซลไฟฟ้า Alsthom ( ALS. ) หมายเลข 4108 คันนี้ ทำ ขบวนรถชานเมืองที่ 378 ต้นทางสถานีหัวตะเข้ - ปลายทางสถานีกรุงเทพ วิ่งสวนกับขบวนที่ 283 ไปที่ สถานีบ้านทับช้าง ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ก่อนจะไปถึงทางแยกเข้า ICD ลาดกระบัง แนวเส้นทาง Airport Link ก็จะเลี้ยวข้ามทางรถไฟสายตะวันออกไป




ฟ้าไม่เปิด แสงไม่มี ผมก็เลยไม่ค่อยจะได้เก็บภาพเพิ่มเติมแล้วครับ เวลาผ่านไปจนถึง 08.38 น. ขบวนที่ 283 ออกเดินทางมาได้ 90 - 100 นาทีแล้ว แต่ท้องฟ้าก็ยังขมุกขมัว ไปพลูตาหลวงคราวนี้คงจะทำได้แค่พาขาโจ๋สะพานยาวนั่งรถไฟฝ่าฝนเล่น ๆ ซะแล้วหรือนี่ แล้วโปรแกรมสำคัญที่วางแผนเอาไว้ล่ะ . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

พอพี่ ๆ น้อง ๆ เห็นรูปนี้แล้ว ก็คงไม่ต้องให้ผมบอกแล้วล่ะครับ ว่าตอนนี้ขบวนที่ 283 เดินทางไปถึงสถานีไหนแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมให้ข้อมูลเพิ่มเติมไปว่าขบวนที่ 283 ออกจากสถานีแห่งนี้เมื่อเวลา 08.44 น. ช้ากว่ากำหนดเวลา 10 นาที ก็แล้วกันครับ




จนมาถึงที่ สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ผู้โดยสารมากกว่าครึ่งก็ก้าวลงจากขบวนรถไป ส่วนท้องฟ้าก็ยังไม่เปิด ฝนยังคงโปรยปรายลงมาเบา ๆ อยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด แต่ไม่อยากให้เป็นล่ะครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.