View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42624
Location: NECTEC
|
Posted: 24/07/2009 3:39 pm Post subject: ผลสืบเนื่องจากการแพ้ความกรณีอุบัติเหตุ |
|
|
รถไฟกระทุ้งคมนาคมจัดงบเร่งด่วน แก้จุดตัดมรณะ 1 พันแห่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2552 11:59 น.
รฟท.เตรียมเสนอคมนาคม แก้ปัญหาจุดตัดรถไฟทั่วประเทศ 2,449 แห่ง ชี้จุดตัดถนนสี่แยกอันตรายกว่า 1,009 แห่ง ไม่มีเครื่องกั้น หวั่นงบ 2 พันล้าน ถูกลากยาว 5 ปี วอนรัฐจัดงบสนันสนุนเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาภายใน 2 ปี พร้อมเสนอแนวทางให้ อพท.เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดบุรีรัมย์พิพากษาให้ รฟท.รับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมเป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท จากเหตุการณ์รถไฟพุ่งชนรถรับ-ส่งนักเรียนบริเวณแยกหนองแสง เขตเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เท่าที่รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ รฟท.ยังไม่เคยได้รับหมายเรียกเข้าชี้แจงในคดีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายยุทธนา กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมา รฟท.จะมีการหารือฝ่ายกฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยยืนยันว่า รฟท.มีจุดยืนชัดเจน หากเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ก็พร้อมชดเชยค่าสินไหมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งกับผู้เสียหาย และ รฟท.เอง
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดระหว่างถนนและรางรถไฟ รฟท.จะเสนอเรื่องถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขจุดตัดทางแยก ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีจุดตัดทั่วประเทศ 2,449 แห่ง และในจำนวนดังกล่าวมีจุดตัดถนนกับรางรถไฟ 1,009 แห่ง ที่ไม่มีเครื่องกั้น หากจะมีการปรับปรุงให้มีเครื่องกั้นจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท
"เดิม รฟท.ได้ขอจัดสรรงบประมาณอยู่แล้ว แต่จะผูกพันอยู่ในงบประมาณ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งฝ่ายบริหารเห็นว่าจะล่าช้าเกินไป จึงจะเสนอขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวอย่างรวดเร็ว"
ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับการเดินรถ รฟท.จะทำประกันภัยอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัยที่จะครอบคลุมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนเขตทางรถไฟและขบวนรถ ซึ่งในส่วนนี้จะมีบริษัทประกันเข้ามารับผิดชอบค่าชดเชยและค่าสินไหมต่างๆ หาก รฟท.จะดำเนินการได้เคยมีการประเมินค่าเบี้ยประกันไว้ปีละ 60 ล้านบาท
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน รฟท.จะเสนอแนวทางขอให้รัฐบาลออกกฎหมาย เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้ามามีบทบาทในการดูแลเขตถนน เขตทางรถไฟ การดูแลเครื่องกั้นให้มีความสมบูรณ์ พร้อมใช้งานตลอดไป |
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 24/07/2009 5:56 pm Post subject: |
|
|
เนื่องจากประเด็นแห่งคดี คือ รฟท. ไม่สร้างเครื่องกั้น ทั้งที่ก็มองเห็นกันอยู่ว่าทางต่อสู้คดีก็มี
ผู้บริหารอาจจะคิดไม่ออกก็ได้นะครับ ว่าจะทำอย่างไร
หรือ
คิดออก ก็ได้ ว่าการไม่ไปสืบพยานต่อสู้คดี รวมถึงไม่อุทธรณ์จะเกิดอะไรขึ้น |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 24/07/2009 7:26 pm Post subject: |
|
|
ก็ยังเป็นแต่นามธรรมอยู่วันยังค่ำล่ะครับ กับวิธีแก้ปัญหา
ในเมื่อรู้ๆ อยู่ว่ากฎระเบียบการสร้างเครื่องกั้นเป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าภาพ
เบื่อข่าวประเภท วัวหายล้อมคอกเต็มทน(แต่ก็ต้องทน )ว่าจะสร้างที่โน่นกี่แห่ง ที่นั่นกี่แห่งแล้วครับ
อยากเจอข่าวประเภทที่ว่า ปีนี้ รฟท. ร่วมกับ อบต ทางหลวง ฯลฯ แบ่งตามความรับผิดชอบ เฟสแรกกี่แห่งและจะให้ครบจำนวน xxx แห่ง ในปี 25xx บ้างครับ
จะได้เป็นรูปธรรมเสียทีครับ จะ.... จะ..... จะ.... จะ...... มาจะครบ 10 ปีแล้วครับ
แล้วที่สำคัญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กล้าลงดาบกับหน่วยงานที่ต้องเป็นเจ้าภาพแล้วไม่ทำ เสียค่าปรับ ถ้าทำล่าช้า ไม่ได้ตามกำหนด เชือดไก่ให้ลิงดูบ้างหรือเปล่าน่อ
มัวแต่ อะลุ่มอะล่วย ให้ตัวเองเสียตังค์ เสียภาพพจน์ อยู่ร่ำไป |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 24/07/2009 8:04 pm Post subject: |
|
|
Rakpong wrote: | เนื่องจากประเด็นแห่งคดี คือ รฟท. ไม่สร้างเครื่องกั้น ทั้งที่ก็มองเห็นกันอยู่ว่าทางต่อสู้คดีก็มี
ผู้บริหารอาจจะคิดไม่ออกก็ได้นะครับ ว่าจะทำอย่างไร
หรือ
คิดออก ก็ได้ ว่าการไม่ไปสืบพยานต่อสู้คดี รวมถึงไม่อุทธรณ์จะเกิดอะไรขึ้น |
ผมไม่ทราบแทคติกในกระบวนการยุติธรรมบ้านเรา
แต่การไม่ไปศาลแล้วทำให้ รถไฟต้องเสีย เงินค่าสินไหมทั้งๆ ที่ไม่ควรจะต้องเสีย
ถือว่า เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ได้นะครับ
ในกรณีนี้หน้าที่คือ รักษาผลประโยชน์ ของรถไฟ ซึ่งถือเป็นของรัฐ
นับว่าเป็นการทำให้รัฐเสียหาย อย่างหนึ่ง
ถ้าผมเป็น สตง/คตง จะต้องมาไล่เบี้ยทวงเงินคืนจากผู้บริหารรถไฟ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 24/07/2009 8:43 pm Post subject: |
|
|
ด้วยความเคารพความคิดเห็นของทุกท่าน ในฐานะอาจารย์สอนกฎหมายเล็กๆคนหนึ่งอยากจะฝากข้อคิดเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้สักนิดเท่าที่พึงจะทำได้โดยไม่ขัดต่อหน้าที่การงานประจำ ดังนี้
๑ การวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาในทางวิชาการสามารถกระทำได้ หากกระทำโดยสุภาพ มีเหตุผลทางวิชาการ ไม่เสียดสี ก้าวร้าวอันอาจจะเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาล หรือดูหมิ่นศาล ซึ่งจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวท่านเองและเวบไซต์ของเราโดยไม่จำเป็น
๒ ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาพึงศึกษาข้อมูลในคดีนั้นๆให้ถ่องแท้เสียก่อนว่า คำฟ้อง คำให้การ ประเด็นในคดี พยานหลักฐานฯลฯในสำนวนคดีเรื่องนั้นเป็นอย่างไรบ้าง การรับรู้ข้อเท็จจริงจากสื่อสารมวลชนอาจได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วน หรือคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในสำนวนคดี
๓ การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลต้องเป็นไปตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี พยานหลักฐานในสำนวนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ศาลจะตัดสินคดีตามกระแส ตามความรู้สึก หรือจะยึดหลักกฎหมายเพียงฉบับใดฉบับหนึ่งเพื่อประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้
๔ แนวคิดในเรื่องกฎหมายแพ่ง(คดีแพ่ง) กับแนวคิดในเรื่องกฎหมายอาญา(คดีอาญา)มีข้อแตกต่างกันหลายประการ รวมทั้งประเด็นในเรื่องการกระทำโดยประมาทในทางแพ่ง ประมาทในทางอาญา การกระทำโดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำก็ถือว่ามีการกระทำได้ การที่บุคคลทำผิดกฎหมายฉบับหนึ่งไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายฉบับอื่นเสียสิ้นเชิง
๕ เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่จำเป็นว่าจะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดหรือถูกร้อยเปอร์เซ็นต์แบบขาวกับดำ เพราะบางกรณีเหตุอาจเกิดขึ้นจากความผิด ความบกพร่องในหน้าที่ตามกฎหมายของทั้งสองฝ่ายก็ได้ ซึ่งฝ่ายใดจะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือไม่ เพียงใด ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะมีส่วนผิดยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ตอนนี้ผมนึกออกเพียงเท่านี้ เลยขอฝากไว้เพียงเท่านี้ก่อนหากข้อความไปกระทบกระเทือนท่านใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ผมไม่อยากให้เวบเราเป็นเวทีที่พูดกันโดยใช้อารมณ์เข้าครอบงำจนลืมหลักการที่ควรจะเป็นหรือที่นักกฎหมายเขายึดถือกันในการวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาในทางวิชาการอย่างสร้างสรรค์ครับ _________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 24/07/2009 8:48 pm Post subject: |
|
|
คงต้องขอให้ทุกท่านยึดตามหลักที่อาจารย์ตุ้ยให้ความเห็นไว้ครับ
ประเด็นนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกท่าน แสดงความเห็นโดยคงไว้ซึ่งเหตุผล และหลักวิชาการ ครับ |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 24/07/2009 10:13 pm Post subject: |
|
|
ผมอ่านข่าวแล้วก้รู้สึกไม่ค่อยดีครับ ในฐานะที่เป็นผู้ขับรถไฟโดยตรง จะผิดหรือไม่ผิดขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าได้ทำงานถูกต้องตาม ขดร. เพียงใดครับ ส่วนใครจะผิดหรือไม่ผิดในเบื้องต้นจะมีคณะกรรมการสอบสวนมาทำการสอบสวนก่อนครับ ก็อยากฝากนิดครับว่า คนขับก็ต้องระวังรถยนต์ รถยนต์ก้ต้องระวังรถไฟต่างคนต่างระวัง น่าจะช่วยลดการเกิดเหตุได้นะครับ |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 30/07/2009 10:18 am Post subject: |
|
|
เคยไปช่วยงานที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ...
มีทางรถไฟตัดผ่านทิวเขา อันเป็นที่ตั้งของชุมชน...การรถไฟฯ นำเครื่องกั้นอัตโนมัติมาติดตรงนั้นไม่นาน เป็นถนนในความรับผิดชอบของส่วนท้องถิ่น
ได้คุยกับฅนในชุมชน...พวกเขาบอก (เป็นภาษาท้องถิ่น)... ความหมายในภาษาไทยว่า
"เอาที่กั้นมาติดทำไม...ตั้งแต่อยู่มา ยังไม่เคยเห็นใครโดนชนเลยสักครั้ง..."
...ก็ว่ากันไป... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 30/07/2009 10:25 am Post subject: |
|
|
headtrack wrote: | เคยไปช่วยงานที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ...
มีทางรถไฟตัดผ่านทิวเขา อันเป็นที่ตั้งของชุมชน...การรถไฟฯ นำเครื่องกั้นอัตโนมัติมาติดตรงนั้นไม่นาน เป็นถนนในความรับผิดชอบของส่วนท้องถิ่น
ได้คุยกับฅนในชุมชน...พวกเขาบอก (เป็นภาษาท้องถิ่น)... ความหมายในภาษาไทยว่า
"เอาที่กั้นมาติดทำไม...ตั้งแต่อยู่มา ยังไม่เคยเห็นใครโดนชนเลยสักครั้ง..."
...ก็ว่ากันไป... |
คนในพื้นที่ คงจะคุ้นเคยกับเวลาของรถไฟ และ รู้ว่าทางตัดผ่านอยู่ตรงไหน (จะได้ระวัง)
แต่คนต่างถิ่นที่บังเอิญผ่านมานี่สิครับ จะโดนชนเอา
ที่แถวๆ ศาลาทุ่งลุ่ง
http://www.geocities.com/songkhlaroad/Investigation/SalaThungLung.html
ก็เป็นคนต่างถิ่นครับ ที่โดนชน
Last edited by rodfaithai on 30/07/2009 11:01 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|