นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดเครื่องกั้นอัตโนมัติ

[Wisarut]

สั่นกระดิ่งโครงการนำร่อง สวนสนประดิพัทธ์ ระบบจีพีเอส ป้ายข้ามทางรถไฟ

คอลัมน์ Zoom Content หน้า 9
ประชาชาติธุรกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 4235 วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เปิดใช้เป็นที่เรียบร้อยในช่วงเช้าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นแบบเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติ (ระบบจีพีเอส) บริเวณจุดหยุดรถ "สวนสนประดิพัทธ์" จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากสถานีรถไฟหัวหินประมาณ 15 นาที โดยมี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสั่นกระดิ่งให้สัญญาณเปิดใช้ด้วยตัวเอง พร้อมด้วย "โสภณ ซารัมย์" เจ้ากระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

งานนี้ถือเป็นโปรเจ็กต์ 2 ประสานระหว่าง "การรถไฟแห่งประเทศไทย" (ร.ฟ.ท.) และ "บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย" (บวท.) ที่มีประสบการณ์ควบคุมการบินทางอากาศร่วมกันพัฒนาตามโครงการนำร่องตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการรถไฟฯระยะเร่งด่วน 5 ปี (2553-2557) ที่ ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวน 1.76 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา มีเป้าหมาย 2 เรื่อง คือ

1) เพิ่มความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟ และ
2) เพิ่มความเร็วของรถไฟ


"ทราบว่าปัจจุบันรถไฟวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าโครงการนี้แล้วเสร็จทุกจุดตัดความเร็วเฉลี่ยน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง" นายกฯมาร์คเกริ่นก่อนเข้าสู่พิธีการเปิดใช้เครื่องกั้นอย่างเป็นทางการ

จากนั้นขบวนรถไฟที่จอดรออยู่ก็ค่อย ๆ แล่นเข้ามาบริเวณจุดหยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ จากนั้นเครื่องกั้นก็ตีลงมาเพื่อกั้นถนน-ทางรถไฟแบบอัตโนมัติ โดยมีเสียงสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ล่วงหน้าพร้อมจอแสดงสัญญาณไฟ "เขียว-เหลือง-แดง" แบบเดียวกับไฟจราจรที่ติดตั้งไว้เพื่อเตือน ผู้ขับขี่ทุกคน และเมื่อขบวนรถไฟแล่น ผ่านไปแล้วเครื่องกั้นก็จะยกขึ้นอัตโนมัติ โดยมีจอแสดงเวลานับถอยหลังแจ้งให้ทราบ

สำหรับเครื่องกั้นถนนอัตโนมัติตัวต้นแบบถือว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะมีระบบสั่งการเครื่องกั้นให้ทำงานถึง 3 ชั้น เริ่มจาก

1) สั่งการจากเซ็นเซอร์ที่ฝังไว้บริเวณราง เมื่อขบวนรถไฟวิ่งมาที่ระยะห่าง 1.2 กิโลเมตรจากจุดหยุดรถเครื่องกั้นก็ทำงานอัตโนมัติทันที หรือ
2) สั่งการจากขบวนรถไฟด้วยระบบจีพีเอส (โกลบอลโพซิชันนิ่งซิสเต็ม) ผ่านสัญญาณดาวเทียมเพื่อให้เครื่องกั้นทำงาน หรือ
3) ขบวนรถไฟจะสื่อสารไปยังเจ้าหน้าที่ประจำจุดหยุดรถเพื่อสั่งการให้ระบบเครื่องกั้นทำงาน

"เครื่องกั้นต้นแบบที่เราร่วมกันพัฒนาต่อจุดใช้งบประมาณเกือบ 4 ล้านบาท จากที่ผ่านมาทราบว่าการรถไฟฯมีต้นทุนต่อจุดประมาณ 5 ล้านบาท เพราะอุปกรณ์บางตัวก็สามารถผลิตได้เอง" พล.อ.อ.สมชาย เธียรอนันต์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ"

โดยหลังจากทั้ง ร.ฟ.ท.และ บวท.จะประเมินผลเครื่องกั้นต้นแบบ จากนั้นจะทยอยติดตั้งเครื่องกั้นตามจุดต่าง ๆ รวมประมาณ 2,000 แห่งทั่วประเทศ เฉพาะปีงบประมาณ 2554 (ต.ค. 53-ก.ย. 54) วงเงิน 72 ล้านบาท จะทยอยติดตั้งเครื่องกั้นจำนวน 18 จุด คือ

1) สถานีหนองวิวัฒน์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2) สถานีท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3) สถานีบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี
4) สถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี
5) สถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี
6) สถานีเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
7) สถานีญาณสังวราราม จ.ชลบุรี
8) สถานีเขาชีจันทร์ จังหวัดชลบุรี (มีจุดหยุดรถ 2 แห่ง)
9) สถานีพลูตาหลวง จังหวัดชลบุรี
10) สถานีบางละมุง จังหวัดชลบุรี
11) สถานีพัทยา จังหวัดชลบุรี (มีจุดหยุดรถ 2 แห่ง)
12) สถานีบ้านฉาง จังหวัดระยอง (จุดหยุดรถ 2 แห่ง) และ
13) สถานีมาบตาพุด จังหวัดระยอง (มีจุดหยุดรถ 3 แห่ง)

ถ้าแล้วเสร็จตามแผน "รถไฟไทย" มีโอกาสจะไปถึงที่หมายได้เร็วขึ้น