Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13274326
ทั้งหมด:13585622
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

โครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44654
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2023 10:12 am    Post subject: Reply with quote

โครงสร้างพื้นฐาน ‘ภูเก็ต’ ล้าหลัง 20 ปี! ท่องเที่ยวโตล้ำหน้า จี้รัฐอุดรูรั่ว
กรุงเทพธุรกิจ By พรไพลิน จุลพันธ์10 พ.ย. 2566 เวลา 9:14 น.
    'ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์' (C9 Hotelworks) บริษัทผู้นำด้านการวิจัยธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ เปิดเผยถึงรายงานธุรกิจท่องเที่ยวของ 'ภูเก็ต' ในปี 2566 ว่า แม้จะบูมถึงขีดสุดในยุคหลังโควิด-19 ระบาด แต่ยังต้องเผชิญปัญหาระบบโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ
บิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้บริหาร ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ เปิดเผยข้อมูลวิจัยเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูเก็ตว่า ธุรกิจโรงแรมประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยพบว่า “รัสเซีย” และ “จีน” เป็นสองตลาดต้นทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในช่วง 6 เดือนแรกของปี ตามมาติดๆ คืออินเดีย ออสเตรเลีย และคาซัคสถาน

ด้านอัตราการเข้าพักโรงแรมในช่วงครึ่งแรกของปีสูงกว่า 70% และสิ่งที่ส่งผลดีอย่างแท้จริงต่อเจ้าของโรงแรมคือแนวโน้ม “อัตราราคาห้องพัก” ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากวิกฤติโควิด-19 ระบาด แม้ว่าโดยส่วนใหญ่ของโรงแรมที่จดทะเบียนในภูเก็ตกว่า 2,000 แห่ง และมีห้องพักมากกว่า 106,000 ห้อง จะกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แต่บรรดาผู้ประกอบการโรงแรมยังคงประสบปัญหา “ขาดแคลนพนักงาน” ภาคบริการอย่างต่อเนื่อง

ผลจากธุรกิจการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวคือ “ปริมาณนักท่องเที่ยว” ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเฟื่องฟูเกินไป และการกลับมาของโครงการพัฒนาต่างๆ ทำให้การจราจรติดขัดจนเป็นปัญหาที่น่ากังวลมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบและเป็นปัญหาระยะยาวต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ช่วงพีคซีซันปี 2566/2567 มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหารถติดอย่างหนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัย ความล้มเหลวในการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งให้เป็นความจริงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบในระยะยาว”
    สำหรับโครงการสำคัญที่ยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ อุโมงค์ป่าตอง-กะทู้ ทางด่วนข้ามเกาะ และระบบรถไฟฟ้ารางเบา แม้ว่ารัฐบาลปัจจุบันจะให้ความสำคัญกับโครงการเหล่านี้ แต่ยังไม่มีศักยภาพในการจัดสรรงบประมาณภาครัฐในขณะนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือโครงการ BOT (Build-operate Transfer) เพื่อให้โครงการเหล่านี้ดำเนินต่อไปได้ ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ซึ่งเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากด้วย
การคาดการณ์สำหรับช่วงพีคซีซันนี้ ข้อมูลวิจัยเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของซีไนน์พบว่า ทั้งโรงแรมและธุรกิจการท่องเที่ยวต่างมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการกลับมาอย่างช้าๆ ของ “นักท่องเที่ยวจีน” ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในตลาดขนาดใหญ่นี้ได้รับความเสียหาย และความเชื่อมั่นในการเดินทางมาประเทศไทยยังคงอ่อนแอ แม้จะมีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือ “วีซ่า-ฟรี” แก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นการชั่วคราว ระยะเวลาประมาณ 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 – 29 ก.พ. 2567 ก็ตาม เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวจีนยังไม่เกิดขึ้นจริง โรงแรมส่วนใหญ่จึงต้องการกำลังซื้อที่แข็งแกร่งจากรัสเซีย คาซัคสถาน และอินเดีย รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่ม “Snow Bird” ช่วงฤดูหนาว

แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของโรงแรมในภูเก็ตจะมีความพร้อม แต่ บิล ชี้ให้เห็นว่า “แนวทางการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวแบบพยายามอุดรอยรั่วของภาครัฐจะไม่สามารถใช้ได้ผลในพื้นที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติที่โตเต็มตัวอย่างภูเก็ต ภาคเอกชนของเกาะได้เติบโตเกินกว่าโครงสร้างพื้นฐานระดับจังหวัดที่ล้าหลังมาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว สิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมากคือแผนแม่บทและกลยุทธ์ที่จะสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมให้รวดเร็วขึ้น”

ด้าน ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดือน ต.ค.ที่ผ่านมายังคงทยอยเดินทางเข้าภูเก็ต แม้รัฐบาลจะออกมาตรการวีซ่า-ฟรี เป็นการชั่วคราวแก่นักท่องเที่ยวจีน แต่ก็ยังไม่ทำให้เข้ามามากขึ้น ส่วนเหตุการณ์ไม่คาดคิดในห้างดังกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป

สำหรับแนวโน้มเดือน พ.ย. ซึ่งจะมีเที่ยวบินเส้นทางระหว่าง ไทย-จีน เข้ามามากขึ้นตามการเข้าสู่ตารางบินฤดูหนาว น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าภูเก็ตมากขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมอัตราการเข้าพักของภูเก็ตในเดือน พ.ย.-ธ.ค. อยู่ที่ 70-80% และในไตรมาส 1 ปี 2567 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. น่าจะมากกว่า 80% ถือว่าน่าพอใจ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44654
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/01/2024 11:46 am    Post subject: Reply with quote

อบจ.ภูเก็ต พร้อมจัดรถ EV วิ่งเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบา สนามบิน-ห้าแยกฉลอง แค่รัฐบาลอนุญาต แก้รถติด
ผู้จัดการออนไลน์ 18 ม.ค. 2567 10:57 น.
    ศูนย์ข่าวภูเก็ต – อบจ.ภูเก็ต เสนอตัวจัดการเดินรถ EV เส้นทางสนามบิน-ห้าแยกฉลอง พลางๆก่อนที่รถไฟฟ้ารางเบาจะเกิด รอแค่รัฐบาลอนุญาต เพื่อลดปัญหารถติดอย่างหนักและสร้างทางเลือกให้นักท่องเที่ยว
กลายเป็นปัญหาหนักและใหญ่สำหรับภูเก็ตไปแล้ว กับปัญหาการจราจรติดขัด เกือบทุกพื้นที่ ที่ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน และเส้นทางหลักในการเดินทางไปสู่สนามบินภูเก็ตบนถนนเทพกระษัตรี แม้ว่าหลายๆรัฐบาลจะพยายามแก้ปัญหาการจราจรติดขัดและรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต เช่น โครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง โครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง โครงการเส้นทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ซึ่งแต่ละโครงการยังไม่เกิดขึ้น ยังอยู่ในขั้นตอนการหาผู้ลงทุน ศึกษาออกแบบรายละเอียดของโครงการ เป็นต้น

โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นทางสนามบินภูเก็ต ผ่านตัวเมืองภูเก็ตไปถึงห้าแยกฉลอง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรในเส้นทางหลักถนนเทพกระษัตรี และเพื่อสร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยว มีการศึกษามาแล้วหลายรอบ โครงการก็ยังไม่เกิด เพราะใช้เงินลงทุนสูงกว่า 30,000 ล้านบาท

องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในฐานะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มองว่า คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งกว่าโครงการนี้จะเกิดได้ ภูเก็ตรอต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะปัจจุบันนี้ปัญหาการจราจรติดขัดในถนนเทพกระษัตรีและถนนเส้นอื่นๆ สาหัสสากันมาก กลายเป็นความทุกข์ของชาวภูเก็ต และยิ่งในช่วงที่การท่องเที่ยวบูมๆด้วยแล้ว ปัญหาก็จะยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงแนวทางในการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นปัญหาใหญ่และเป็นทุกข์ของชาวภูเก็ต โดยเฉพาะในเส้นทางถนนเทพกระษัตรีที่จะเดินทางไปสนามบินบางช่วงเวลารถจะติดมากๆ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว มีแนวความคิดที่จะบรรเทาปัญหารถติด โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา อบจ.ภูเก็ต ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อร่วมกันแก้ปัญหารถติดในเส้นทางสนามบินภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ตามเส้นทางที่ สนข.และกระทรวงคมนาคม ได้ทำการศึกษาระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา หรือ เทรม ไว้แล้ว

โดย อบจ.ภูเก็ต ได้เสนอไปยังรัฐบาล ในการเข้าไปจัดการเดินรถในเส้นทางดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น ในช่วงระหว่างที่โครงการดังกล่าวยังไม่เกิด ซึ่งคิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพราะการลงทุนรถไฟฟ้ารางเบาตามการศึกษานั้นจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท แต่รถที่ อบจ.จะนำวิ่งในเส้นทางดังกล่าว จะเป็นรถเมล์ไฟฟ้า หรือ EV Bus ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง คันละประมาณ 5-6 ล้านบาท อบจ.สามารถเข้ามาดำเนินการได้ทันที เพราะ อบจ.มีเงินสะสมอยู่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ อบจ.ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากกรมขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมว่าจะให้ดำเนินการเดินรถในเส้นทางดังกล่าวได้หรือไม่

“อบจ.ภูเก็ต มีความพร้อมในการจัดรถ Ev มาวิ่งในเส้นทางสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร หากได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาปัญหารถติด ให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถส่วนตัว และยังเป็นการสร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวและว่า

นอกจากนี้ ในส่วนของตัวเมืองภูเก็ต ที่ขณะนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้จัดวิ่งรถโพถ้องใน 3 เส้น อยู่แล้ว นั้น ภายในปี 2567 นี้ จะมีการนำรถเมล์ไฟฟ้า หรือ EV Bus มาวิ่งแทนรถโพถ้องทั้ง 3 สายอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ได้มีการลงทุนในส่วนของสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าแล้ว จะมีการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างในเดือนมกราคมนี้ ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนในตัวเมืองภูเก็ตให้มากขึ้น เพราะเรามีรถที่ทันสมัย สะดวกสบาย ลดมลพิษ เพื่อดึงให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนรถส่วนตัว ทำให้ปริมาณรถยนต์ส่วนตัวลดลง ช่วยบรรเทาปัญหารถติดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44654
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/03/2024 7:10 am    Post subject: Reply with quote

'คมนาคม' บูมเมกะโปรเจ็กต์ 'ภูเก็ต' 7 โครงการเร่งด่วน 1.48 แสนล้าน
กรุงเทพธุรกิจ 07 มี.ค. 2024 เวลา 6:16 น.

KEY POINTS

"คมนาคม" กางแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจังหวัดภูเก็ต
ทุ่มงบ 1.48 แสนล้านบาท ดัน 7 โครงการเร่งด่วน เริ่มตอกเสาเข็มปีนี้
การทางพิเศษฯ นำร่องเสนอ ครม.ประมูลทางด่วนสายใหม่ "กะทู้ - ป่าตอง"
ทอท.เร่งศึกษาปั้นสนามบินอันดามัน คาดแล้วเสร็จ ส.ค.นี้ ดันขึ้นแท่นฮับเที่ยวบินอินเตอร์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ อยู่ระหว่างเร่งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค และมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปีนี้มีแผนผลักดันการลงทุนเร่งด่วน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.48 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการเดินทางทางบก และทางอากาศ

สำหรับ 7 โครงการลงทุนดังกล่าว ประกอบด้วย

1.การพัฒนาขยายขีดความสามารถ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ระยะที่ 2) จากเดิมรองรับผู้โดยสาร 12.5 ล้านคน เพิ่มเป็น 18 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุน 6,211 ล้านบาท

2.โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจร ทางหลวง หมายเลข 4027 ช่วง บ.พารา - บ.เมืองใหม่ วงเงิน 510 ล้านบาท

3.โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ ช่วง บ.เมืองใหม่ – สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต วงเงิน 2,468 ล้านบาท

4.โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 และ ทล.4025 (ทางลอดท่อเรือ) ที่ กม. 34+680 (ทล.402) วงเงิน 2,425 ล้านบาท

5.โครงการทางพิเศษ สายกระทู้ - ป่าตอง มูลค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท

6. โครงการทางพิเศษ สายเมืองใหม่ - เกาะแก้ว - กระทู้ วงเงิน 42,633 ล้านบาท

7. การพัฒนาท่าอาอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 (สนามบินอันดามัน) วงเงินลงทุน 80,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการลงทุนเร่งด่วน ตนได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดเตรียมพร้อมการลงทุน โดยขอให้จัดใช้งบประมาณประจำปี 2567 เริ่มนำร่องก่อสร้างโครงการ เบื้องต้นจึงคาดว่าโครงการเร่งด่วนเหล่านี้ จะทยอยเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนทันทีในปี 2567 และเริ่มงานก่อสร้าง เพื่อทยอยแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569 โดยเฉพาะโครงการลงทุนทางบก ถนนทางหลวงต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว

ขณะที่โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองภูเก็ต หรือรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) สายสถานีรถไฟท่านุ่น – ท่าอากาศยานภูเก็ต – ห้าแยกฉลอม รวมระยะทาง 58.5 กิโลเมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการดำเนินโครงการ เนื่องจากโครงการนี้ในเส้นทางบนพื้นที่ถนนทางหลวง

ดังนั้นกระทรวงฯ จะเร่งผลักดันโครงการลงทุนทางหลวงให้แล้วเสร็จก่อน คาดใช้เวลาราว 2 ปี ทำให้ระหว่างนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังมีเวลาในการทบทวนโครงการให้เหมาะสม พิจารณากรณีจุดตัดบนถนนทางหลวงว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ กทพ.ได้รายงานผลการศึกษาโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง วงเงินลงทุน 14,670 ล้านบาท เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขออนุมัติประกวดราคางานก่อสร้างโครงการดังกล่าว และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้

โดยแผนดำเนินงานดังกล่าว ปรับจากก่อนหน้านี้ที่ กทพ.ได้เปิดประกวดราคาแต่ไม่มีเอกชนยื่นข้อเสนอ ดังนั้นเพื่อให้โครงการเดินหน้า กทพ.จึงจะปรับแผนลงทุนก่อสร้างเอง

รวมทั้งระหว่างนี้จะเร่งรัดศึกษาโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 35,800 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปีนี้ โดยหากผลการศึกษาแล้วเสร็จ กทพ.จึงจะเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนร่วมลงทุนรวมตลอดแนวเส้นทางโครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต

“ตอนนี้การทางฯ จะเร่งรัดเริ่มก่อสร้างช่วงกะทู้ - ป่าตอง ที่มีความพร้อมก่อน และหากผลการศึกษาช่วงสายเมืองใหม่ - เกาะแก้ว – กะทู้แล้วเสร็จ ก็จะเปิดพีพีพี รวมงานก่อสร้างและบริหารจัดเก็บค่าผ่านทางรวมตลอดทั้งเส้นทางจากสายเมืองใหม่ - เกาะแก้ว – กะทู้ – ป่าตอง และทางเอกชนที่ได้สิทธิพีพีพี ก็จะต้องจ่ายค่างานก่อสร้างช่วงกะทู้ – ป่าตองที่การทางฯ ลงทุนไปก่อน โดยวิธีนี้จะทำให้โครงการทางด่วนสายนี้ไม่ล่าช้าออกไปอีก”

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ปัจจุบัน ทอท.มีแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 โดยจะก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International) และอาคารเทียบเครื่องบิน เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้จาก 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี คาดใช้วงเงินลงทุนราว 6,211 ล้านบาท ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความแออัดในการรองรับปริมาณผู้โดยสารที่ต้องการเดินทาง

นอกจากนี้ ทอท.ยังเตรียมลงทุนโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 (ท่าอากาศยานอันดามัน) สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดโครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ส.ค.นี้

ทั้งนี้จะพัฒนาบนพื้นที่บริเวณตำบลโคกกลอย และตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ประมาณ 7,300 ไร่ เนื่องจากเป็นพื้นที่แนวร่อนลงของอากาศยาน ไม่มีภูเขาเป็นอุปสรรคในการทำการบินลงจอด

โดยท่าอากาศยานอันดามันจะรองรับเฉพาะเที่ยวบิน และผู้โดยสารระหว่างประเทศเป็นหลัก แต่จะมีการให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศบางเส้นทางที่ทำการบินระหว่างจังหวัด(Point – to – Point) หรือเส้นทางการบินแบบต่อเครื่องบิน (Connecting Flight) เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การบินของเที่ยวบินระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ทอท. ประเมินวงเงินลงทุนท่าอากาศยานอันดามันอยู่ที่ราว 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น งานเขตการบิน 2.8 หมื่นล้านบาท, งานอาคารผู้โดยสาร 2.5 หมื่นล้านบาท, งานสนับสนุนและสาธารณูปโภค 1.5 หมื่นล้านบาท และสำรองราคาและภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท

สำหรับท่าอากาศยานแห่งนี้มี 2 รันเวย์ รองรับผู้โดยสารได้ 22.5 ล้านคนต่อปี รองรับเที่ยวบินได้ 43 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และจะมีการจัดระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานอันดามัน ซึ่งทั้ง 2 แห่งอยู่ห่างกันประมาณ 23.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 26 นาที
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44654
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/04/2024 8:24 am    Post subject: Reply with quote

เคาะผลศึกษาสร้าง 'แทรม 3 สาย' 7.2 หมื่นล้าน
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Saturday, April 20, 2024 05:46

"คมนาคม" กางแผนสร้างแทรมรถไฟฟ้า 3 สาย วงเงิน 7.2 หมื่นล้านบาท ฟาก รฟม.เร่งชงผลศึกษา เม.ย.นี้ ปักหมุดเปิดให้บริการปี 74

ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมเร่งดันแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าภูมิภาค หรือ "รถไฟ แทรม" ที่จะช่วยแก้ปัญหาจรจาจรติดขัดภายในพื้นที่ แต่ปัจจุบันพบว่ากระทรวงได้สั่งให้รฟม.ทบทวนผลศึกษารูปแบบของรถอีกครั้งเพื่อประหยัดต้นทุนโครงการ ส่งผลให้โครงการล่าช้ากว่า 3 ปี

สำหรับความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทางรวม 15.7 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 29,621 ล้านบาท มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบศึกษารายละเอียด (Detail Design) และจัดทำรายงาน PPP โดยจะเสนอผลการศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกการดำเนินโครงการที่เหมาะสมภายในเดือนเมษายน 2567 หลังจากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการ PPP ภายในภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568-กุมภาพันธ์ 2569 คาดว่าจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนมีนาคม-เมษายน 2569

ทั้งนี้ตามแผนโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์แยกแม่เหียะสมานสามัคคี จะเปิดคัดเลือกเอกชนภายในเดือนพฤศจิกายน 2569-ตุลาคม 2570 และเริ่มก่อสร้างภายในเดือนพฤศจิกายน 2570-มกราคม 2574 ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2574

โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี มี 16 สถานี แบ่ง เป็นโครงสร้างใต้ดิน 6.5 กม. และโครงสร้างระดับดิน 9.2 กม. โดยมีจุดเริ่มต้นบริเวณโรงพยาบาลนครพิงค์ โดยออกแบบโครงสร้างเป็นทางวิ่งระดับดิน ผ่านโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จนถึงแยกท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนจากระดับใต้ดินเป็นทางวิ่งระดับดิน แล้ววิ่งออกไปที่ถนนเชียงใหม่-หางดง (ทางหลวงหมายเลข 108) ไปสิ้นสุดบริเวณแยกแม่เหียะสมานสามัคคี

ด้านความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวันสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ ระยะทางรวม 11.15 กม. วงเงิน 7,242 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาทบทวนรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการ รวมทั้งจัดทำรายงาน PPP คาดว่าจะเสนอผลการศึกษาภายในเดือนเมษายน 2567 หลังจากนั้นจะพิจารณารูปแบบการลงทุนงานระบบไฟฟ้าและเดินรถภายในเดือน มิถุนายน 2568-เมษายน 2569

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ตามแผนโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมาฯ จะเสนอต่อ ครม. ภายในเดือนเมษายน 2569 และ เปิดคัดเลือกเอกชนภายในเดือนพฤศจิกายน 2569-ตุลาคม 2570 โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนพฤศจิกายน 2570-มกราคม 2574 คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2574

ส่วนแนวเส้นทางโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมาฯ จำนวน 21 สถานี มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณตลาดเซฟวัน ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ไปตามแนวถนนมิตรภาพ ผ่านแยกปักธงชัย แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 224 ผ่านโรงเรียนเมืองนครราชสีมา และผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ไปสิ้นสุดที่บริเวณสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์

ที่ผ่านมาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ศึกษารายละเอียดความเหมาะสมของโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ฯ และโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมาฯ โดยเปรียบเทียบระหว่างระบบรถรางไฟฟ้าล้อเหล็กและระบบรถรางไฟฟ้าล้อยาง โดยจากการศึกษา พบว่า ระบบรถรางไฟฟ้าล้อยางมีความเหมาะสม

ขณะโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศ ยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางรวม 41.7 กม. วงเงิน 35,350 ล้านบาท ขณะนี้ รฟม. อยู่ระหว่างศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการดำเนินงานโครงการที่เหมาะสม โดยเปรียบเทียบระหว่างระบบรถรางไฟฟ้าล้อเหล็ก, ระบบรถรางไฟฟ้าล้อยาง และ ระบบรถรางล้อยางแบบไม่มี Guide Rail (ART) หลังจากนั้นจะปรับปรุงรายงาน PPP เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการตามมาตรา 36 และคณะกรรมการ รฟม. พิจารณาภายในเดือนตุลาคม 2568-มิถุนายน 2569

ประเมินว่าโครงการนี้จะเสนอต่อกระทรวงคมนาคม, สคร., คณะกรรมการ PPP และครม.เห็นชอบภายในเดือนกรกฎาคม 2569-กุมภาพันธ์ 2570 และเปิดคัดเลือกเอกชนภายในเดือนมีนาคม 2570-สิงหาคม 2571 โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนกันยายน 2571-พฤศจิกายน 2574 คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคม 2574

"โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ยังมีประเด็นที่โครงการฯมีเส้นทางส่วนใหญ่อยู่บนถนน ทล. 402 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักของจังหวัดภูเก็ต ดังนั้นหากดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ไปพร้อมกับโครงการถนนอื่นๆ จะทำให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างมาก เบื้องต้นให้รฟม.บูรณาการ แผนดำเนินงานโครงการร่วมกับ กรมทางหลวง (ทล.) ให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ให้เร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างถนน ทล. 4027 ให้แล้วเสร็จก่อนเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและใช้เป็นทางเลี่ยง ก่อนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าภูเก็ตต่อไป"

สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ จำนวน 21 สถานี มีแนวเส้นทางเริ่มจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตโดยแนวเส้นทางช่วงนี้เป็นโครงสร้างแบบยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 4031 จากนั้นลดระดับลงสู่ระดับดินที่ทางหลวงหมายเลข 4026 มุ่งหน้าเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 402 เพื่อเข้าสู่เมืองภูเก็ต จากนั้นแนวเส้นทางจะกลับขึ้นสู่ระดับดิน เข้าสู่เขตเทศบาลเมืองภูเก็ต และไปสิ้นสุดที่บริเวณห้าแยกฉลอง

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 21 - 24 เม.ย. 2567

Thailand's Ministry of Transportation Proposes 72 Billion Baht Plan for 3 Tram Lines
Source: Thansettakij
Date: Saturday, April 20, 2024 05:46

Thailand's Ministry of Transportation has unveiled a 72 billion baht plan to construct three new tram lines. The Mass Rapid Transit Authority (MRTA) will submit the results of the project's feasibility study in April. If approved, service could begin as early as 2031.

The Ministry of Transportation previously made plans for regional "tram trains" to address traffic congestion. However, a cost-saving review led the Ministry to order a redesign of the MRTA's plans, delaying the project by over three years.

Details of the Projects:

Chiang Mai: The 15.7-kilometer "Red Line" project (budget: 29,621 million baht) is currently in the detailed study design phase. The MRTA expects to present its findings and a PPP report by April 2024. Following further reviews, the proposal could reach the Cabinet for approval in 2026, with construction potentially starting in 2027 and service by 2031.

Nakhon Ratchasima: This 11.15-kilometer "Green Line" (budget: 7,242 million baht) is under review. The study and PPP report should be completed by April 2024, with the project potentially reaching the Cabinet for approval in 2026. Construction could then begin in 2027 and service by 2031.

Phuket: The longest of the lines at 41.7 kilometers (budget: 35,350 million baht ), this project is undergoing a study comparing different tram technologies. Upon completion of the PPP report, the proposal aims to reach the Cabinet for potential approval by early 2027. Construction could start in 2028 and service by 2031.

The MRTA has previously determined that rubber-wheeled electric trams would be the most suitable design for the Chiang Mai and Nakhon Ratchasima projects.

In Phuket, due to potential traffic disruption from construction, the MRTA will coordinate the project's implementation with the Department of Highways to ensure the timely completion of Highway 4027, which will serve as a traffic bypass.

Source: Thansettakij newspaper, issue 21 - 24 April 2024
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44654
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/04/2024 1:44 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดไทม์ไลน์รถไฟฟ้าภูเก็ต ‘คมนาคม-รฟม.’รื้อใหม่ศึกษา 2 ปี เริ่มสร้างปี 71
20 เมษายน 2567 เวลา 12:00 น. isranews

เผยความคืบหน้ารถไฟฟ้า จ.ภูเก็ต ‘คมนาคม’ เผย ‘รฟม.’ ขอศึกษาเปรียบเทียบระบบอีก ก่อนเปิดไทม์ไลน์ปรับปรุงผลการศึกษาใหม่ช่วงปี 68-69 ก่อนเริ่มกระบวนการเสนอโครงการช่วงปี 69-70 เปิดประมูลขายซองปี 70-71 ก่อนเริ่มก่อสร้างจริงๆช่วง ก.ย. 71 วางเป้าเปิดใช้สิ้นปี 74

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 20 เมษายน 2567 แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตวานนี้ (19 เม.ย. 67) นอกจากการดูแผนงานก่อสร้างที่เน้นไปที่โครงการทางถนนแล้ว ในจ.ภูเก็ตยังมีโครงการที่จะจัดทำระบบขนส่งมวลชนในจังหวัดด้วย

นั่นคือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 58.5 กม. วงเงินงบประมาณ 35,350.20 ล้านบาท มีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเจ้าของโครงการ ตัวโครงการแบ่งได้ 2 ระยะ ระยะที่ 1: ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ 41.7 กม. 21 สถานี และระยะที่ 2: ต่อขยายเส้นทางจากจุดตัดระหว่าง ทล. 402 และ 4026 เพื่อเชื่อมต่อกับระบบรถไฟที่สถานีรถไฟท่านุ่นโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสุราษฎร์ฯ – ท่านุ่น ของการรถไฟปห่งประเทศไทย (รฟท.) ระยะทางประมาณ 16.8 กม. 3 สถานี

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า สถานะปัจจุบันของโครงการ หลังจากที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรัฐบาลที่แล้ว มีแนวคิดจะเปลี่ยนแปลงจากระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Trams) เป็นรถรางล้อยาง(Automated Rapid Transit : ART) และเปลี่ยนมาเป็นรถเมล์ EV แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักกาารปฏิบัติหน้าที่ไปเมื่อเดือน มี.ค. 2566

เมื่อเข้าสู่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย รฟม. จึงทำการศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการดำเนินงานโครงการที่เหมาะสมอีกครั้ง โดยเปรียบเทียบระหว่างระบบรถรางไฟฟ้าล้อเหล็ก (Steel Wheel Tram) ระบบรถรางไฟฟ้าล้อยาง (Rubber-Tyred Tram) และระบบรถรางล้อยางแบบไม่มี Guide Rail (Automated Rapid Transit: ART) โดยวางกรอบระยะเวลาดำเนินการ ดังนี้

ช่วงเดือน ต.ค. 2568 - มิ.ย. 2569 จะเร่งปรับปรุงรายงานผลการศึกษาการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เมื่อเสร็จแล้ว จะเสนอคณะทำงานตามมาตรา 26 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและ. เอกชน พ.ศ.2562 (พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562) พิจารณา ก่อนที่จะส่งต่อให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.พิจารณา

ช่วงเดือน ก.ค. 2569-ก.พ. 2570 จะเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ

จากนั้น ช่วงเดือน มี.ค. 2570 - ส.ค. 2571 จะเป็นช่วงของการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 และในเดือน ก.ย. 2571 จะเริ่มก่อสร้าง โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค. 2574


Phuket Electric Train Project Faces Delays, Study and Construction Timeline Revised

The Phuket electric train project has been delayed, with the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA) reopening studies to compare operating systems. A new timeline, released by the Ministry of Transport on April 20th, 2024, outlines a revised plan with construction now likely to begin in September 2028.

The Ministry of Transport has released an updated timeline for the Phuket electric train project. Originally slated to begin construction in 2028, the project is now undergoing further feasibility studies initiated by the MRTA. These studies will compare the suitability of various operating systems, including the initially proposed light rail system (tram), a rubber-wheeled tram system (Automated Rapid Transit: ART), and potentially EV buses.

Timeline:

- October 2025 - June 2026: Revised public-private partnership (PPP) feasibility study to be completed and submitted.
- July 2026 - February 2027: Project proposal to be presented to the Ministry of Transport, State Enterprise Policy Office, Public-Private Investment Policy Committee, and ultimately the Cabinet for approval.
- March 2027 - August 2028: Selection of private investors.
- September 2028: Construction begins (estimated 3-year timeline).
- December 2031: Projected completion and opening of service.

Background:

The change in leadership to the Pheu Thai Party government prompted the MRTA's decision to reassess the project. Previous plans, proposed under the prior Minister of Transport, to shift from a light rail system to rubber-wheeled trams or EV buses were halted in October 2023.

Source: Issara News Agency (www.isranews.org)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27
Page 27 of 27

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©