RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273511
ทั้งหมด:13584807
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 231, 232, 233 ... 474, 475, 476  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/07/2014 8:52 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟไทยจะพัฒนาตามรอยรถไฟเกาหลีใต้?
by Chatnarong
Voice TV
28 กรกฎาคม 2557 เวลา 17:03 น.

เมื่อไม่นานมานี้มีการจัดงานเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับรถไฟไทย อันเป็นความร่วมมือขององค์กรไทยกับเกาหลีใต้ เราจะไปดูกันว่า ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้แล้ว รถไฟไทยจะสามารถพัฒนาได้อย่างรถไฟเกาหลีใต้หรือไม่ ติดตามจากรายงานของคุณฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์

เมื่อพูดถึงประเทศที่ให้บริการรถไฟที่มีคุณภาพ "เกาหลีใต้" เป็นประเทศหนึ่งที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก เกาหลีใต้เริ่มพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศอย่างจริงจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 ทำให้ปัจจุบันรถไฟเกาหลีใต้หรือ "โคเรล" มีชื่อเสียงทั้งในด้านรูปลักษณ์ ความเร็ว ความตรงต่อเวลา และความไฮเทค ไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและญี่ปุ่น

หากไม่นับรวมชื่อเสียงต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว อีกจุดเด่นที่สำคัญของรถไฟเกาหลีใต้ ก็คือการสร้างความมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตลอดระยะการพัฒนากว่า 50 ปีที่ผ่านมา ทำให้โคเรลในปัจจุบันเป็นระบบคมนาคมที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และสามารถกระจายการพัฒนาไปทั่วประเทศได้อย่างสมดุล

นอกจากจะเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพัฒนารถไฟของประเทศแล้ว มินยองซัม ผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบการบริการหรือ "เซอร์วิส ดีไซน์" (Service Design) จากเกาหลีใต้ บอกว่าคนเกาหลีใต้ยังให้ความสำคัญกับอรรถประโยชน์ของรถไฟทั้งในเรื่องอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม รถไฟเกาหลีใต้จึงไม่ได้เป็นแค่ระบบคมนาคม หากแต่กลายเป็นสะพานเชื่อมมิติด้านคมนาคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน

เมื่อหันมามองรถไฟไทย ผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีใต้มองว่า รถไฟไทยก็สามารถพัฒนาไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกับโคเรลได้เช่นกัน แม้จะต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่าง ในการแถลงผลการวิจัยโดย KIDP หรือ สถาบันส่งเสริมการออกแบบของเกาหลีใต้ ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบหรือ TCDC ระบุว่า รถไฟในอุดมคติของไทยไม่ต่างจากเกาหลีใต้ คือควรเป็นศูนย์กลาง 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ด้านคมนาคมขนส่ง ด้านเศรษฐกิจ และด้านวัฒนธรรม

สำหรับเซอร์วิสดีไซน์ของรถไฟไทย ควรแบ่งกลุ่มผู้ใช้บริการให้ชัดเจน เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละกลุ่มได้มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ประชาชนทั่วไปที่ต้องการความปลอดภัย สุขอนามัยภายในตัวรถ และการให้บริการอย่างเป็นมิตร ขณะที่นักธุรกิจ อาจต้องการความรวดเร็ว ความตรงต่อเวลา และบริการขนย้ายกระเป๋าเดินทาง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติมักต้องการความสนุกสนาน และข้อมูลออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องกับรถไฟไทยควรปรับปรุงบริการเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้เหล่านี้ให้ครบทุกกลุ่ม

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ผลักดันที่จะทำให้รถไฟไทยพัฒนาได้อย่างโคเรลของเกาหลีใต้ คงหนีไม่พ้นภาครัฐ ที่ต้องเห็นความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีระบบเดินรถ ควบคู่ไปกับการออกแบบการบริการที่ดี ส่วนจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหนนั้น นายมินยองซัมบอกว่าขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของการออกแบบบริการ "รถไฟที่ดี"

สุดท้ายแล้วคงไม่มีใครบอกได้ว่า ยุทธศาสตร์สวยหรูจากงานวิจัยเหล่านี้จะถูกนำไปใช้จริงในเร็วๆ นี้หรือไม่ และมากน้อยแค่ไหน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีของรถไฟไทย ในการมองไปข้างหน้ามากขึ้น ตลอดจนทำให้เห็นว่า จริงๆ แล้วในปัจจุบัน มีองค์ความรู้เกี่ยวกับรถไฟอยู่มากมาย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับนานาชาติ ให้ได้หยิบจับมาประยุกต์ใช้กับรถไฟไทย รอเพียงแค่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเริ่มลงมือทำเท่านั้น
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/07/2014 8:10 am    Post subject: Reply with quote

Quote:
รถไฟในอุดมคติของไทยไม่ต่างจากเกาหลีใต้ คือควรเป็นศูนย์กลาง 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ด้านคมนาคมขนส่ง ด้านเศรษฐกิจ และด้านวัฒนธรรม

ปรับปรุงทางทั่วประเทศ ตามด้วยโครงการรถไฟทางคู่แล้ว
ต้องเตรียมการเรื่อง รถจักร รถพ่วง ด้วยครับ ให้มีเพียงพอให้บริการด้านการโดยสารด้วย หรือถ้าจำนวนขบวน/วันน้อย แต่เวลาแน่นอน ตรงเวลา ก็จะดึงดูดผู้โดยสารได้

ลองดูในภาพยนตร์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (엽기적인 그녀, My Sassy Girl) ออกฉายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2544 ครับ (13 ปีพอดี) นาทีที่ 1:43:20
สภาพรถจักร ตู้โดยสาร ชานชาลา ทางรถไฟ ชวนให้ไปเที่ยวครับ คล้าย ๆ สถานีกาญจนบุรี และคงมีจำนวนขบวนต่อวันหลายขบวน เพราะนางเอกบอกกับพระเอกว่า ไม่ขอไปขบวนเดียวกัน รอขบวนหลัง Laughing

Arrow http://www.youtube.com/watch?v=rBY3bZatdv4#t=1h43m17

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/07/2014 9:41 am    Post subject: Reply with quote

TOR รถไฟกึ่งรถบรรทุกเจียรราง แบบ Milling (Railroad truck milling RRTM) จำนวน 1 คัน (28 ก.ค. 57)
ราคากลาง 493 ล้านบาท
Arrow http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2557/57641681tor.pdf

----

รถไฟกุมขมับต้องจ่ายบำนาญขรก.ปีละ3พันล้าน คมนาคมตีกลับแก้หนี้"บินไทย-รฟท."
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8644 ข่าวสดรายวัน

ปลัดกระทรวงคมนาคม ส่งแผนฟื้นฟูการบินไทย-การรถไฟฯ กลับไปทำมาใหม่เพราะยังไม่ชัดเจน ทั้งเรื่องลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ มึนรฟท.มีภาระจ่ายบำนาญขรก.ปีละ 3 พันล้าน เร่งจบพัฒนาที่ดินแปลงทอง

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการประชุมแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปการทำแผนกู้วิกฤตทั้ง 2 หน่วยงาน เพราะแผนของการบินไทยยังไม่ชัดเจนเรื่องการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ขณะที่ รฟท.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้แนวทางใดล้างขาดทุนสะสม

นางสร้อยทิพย์กล่าวอีกว่า รวมถึงแผนการบริหารที่ดิน และการชำระหนี้บำนาญที่การรถไฟฯ ต้องรับภาระไปอีก 30 ปี วงเงิน 60,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงจะขอกระทรวงการคลัง ยืดเวลาส่งแผนฟื้นฟูไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน

"ทั้ง 2 หน่วยงานมีปัญหาขาดทุนมากที่สุดจึงต้องเร่งพิจารณาก่อน เพื่อเร่งให้เสร็จภายใน 15 วันตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)กำหนดไว้เบื้องต้นได้ให้การบินไทยกลับไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มให้ชัดเจน รวมถึงสถานการณ์การแข่งขันกับคู่แข่ง โดยให้เสนอกลับมาอีกครั้งวันที่ 30 ก.ค.นี้ ก่อนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ดต่อ" ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว

นางสร้อยทิพย์กล่าวอีกว่า การทำแผนของการบินไทยต้องฉายภาพให้ชัดเจนกว่านี้ จึงจำเป็นต้องหารือร่วมกันอีกรอบต้องนำแผนยุทธศาสตร์ที่มีให้สอดรับกับแผนฟื้นฟูทั้งด้านการบริหารจัดการ บุคคล การให้บริการ การเงิน ซึ่งต้องแยกออกเป็นหมวดๆให้ชัดว่าเป็นอย่างไร แต่แม้การบินไทยจะขาดทุนอยู่ แต่ก็ถือเป็นองค์กรที่มีศักยภาพเพราะมีทรัพย์สินถึง 3 แสนล้านบาท สูงกว่าหนี้

"ส่วนรฟท.ให้ไปทำสรุปแยกรายละเอียดหนี้สะสม 109,317 ล้านบาท ในส่วนที่รัฐจะต้องรับภาระและส่วนที่ รฟท.ต้องรับผิดชอบ เพื่อสรุปให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาวันที่ 1 ส.ค. ก่อนที่จะนำเสนอ สคร. เช่นเดียวกับการพัฒนาที่ดินตอนนี้มีที่ดินที่ใจกลางเมือง 3 แปลง และพื้นที่ในต่างจังหวัดอีก 11 แปลง ต้องไปพิจารณาในการสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น" นางสร้อยทิพย์กล่าว

ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวอีกว่ารวมทั้งให้รฟท.หาข้อสรุปว่าจะนำที่ดิน ให้กรมธนารักษ์ไปบริหารแทนเพื่อล้างหนี้สินสะสมที่มีอยู่ หรือจะเลือกบริหารเอง ขณะที่ภาระเงินบำนาญที่รฟท. ต้องรับภาระปีละ 3,000 ล้านบาทไปจนถึงปี 90 ให้ฝ่ายบริหารไปหาทางแก้ไข เช่น อาจเข้าร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) หรือส่วนอื่นๆ เพื่อลดภาระ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 29/07/2014 4:14 pm    Post subject: Reply with quote

“พลิกโฉมการรถไฟฯ!...” เปลือยใจออมสิน ชีวะพฤกษ์ บิ๊กใหม่ รฟท.
หน้าเศรษฐกิจ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 ก.ค. 2557 05:15



ท่ามกลางความคาดหวังจากมวลชนถึงความก้าวหน้าของการรถไฟฯ ที่ได้ฝากฝังไว้กับ “ออมสิน ชีวะพฤกษ์” อดีตบิ๊กไปรษณีย์ไทย...อันมาพร้อมกับอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ “ปลดแอกหนี้สินกองพะเนินของการรถไฟฯ!”

ทว่า การรถไฟฯ ก็มิใช่องค์กรที่จะมืดมนไร้ทางหลุดพ้นสภาวะขาดทุน ฟื้นคืนสู่กำไร หากเพราะการรถไฟฯ มีสินทรัพย์สูงถึง 3 แสนล้านบาท รวมทั้งที่ดินผืนงามที่มีโอกาสแก่การพัฒนาโกยเงินโกยทองก็มีเป็นกระบุงโกย ไม่ว่าจะเป็น จตุจักร มักกะสัน และที่ดินบริเวณทางรถไฟทั่วประเทศ ที่สามารถนำมารังสรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมหาศาล

วินาทีนี้ ถือได้ว่า การรถไฟฯ กำลังเจอกับมรสุมต่างๆ เข้ามาปะทะอย่างหนัก จนหลายฟากฝ่ายต่างเรียกขานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น เป็นรัฐวิสาหกิจที่ยอดแย่ เพราะด้วยปัญหาขาดทุนบักโกรก ผนวกกับเหตุร้ายสะเทือนขวัญ ฆ่าข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี บนรถไฟ อันเป็นตัวเหยียบซ้ำให้ภาพลักษณ์การรถไฟฯ ช้ำหนัก ควรแก่การฟื้นฟูองค์กรเป็นการด่วน

ขณะที่ หนี้สินของการรถไฟฯ มีมูลค่าเรือนแสนล้าน หากนับเป็นหนี้แท้ๆ ของการรถไฟฯ มีอยู่เพียง 4 หมื่นล้านบาท ฉะนั้น การสะสางปัญหาและฟื้นคืนสู่กำไร จึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝัน หากฝีมือของประธานบอร์ดการรถไฟฯ คนใหม่ จะเก๋าเกมจริง!


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

“ออมสิน ชีวะพฤกษ์” ผู้พลิกโฉมไปรษณีย์ไทย เปลี่ยนขาดทุนเป็นกำไรหมื่นล้าน...
ชายผู้นี้ เรียกได้ว่า เป็นลูกหม้อของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท มากว่า 40 ปี หรือตั้งแต่ยังใช้ชื่อการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) และครบวาระลงในวันที่ 10 ม.ค.54 ซึ่งในช่วงที่นายออมสินบริหารงาน ถือว่าเป็นช่วงแจ้งเกิดและสร้างชื่อให้ ปณท เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานเด็ด คือ การจัดกิจกรรมทายผลฟุตบอลจากไปรษณียบัตรในปี 2010 ซึ่งโกยรายได้เข้ากระเป๋า ปณท มากที่สุดในขณะนั้นถึง 400 ล้านบาท

จากกิจการที่มีอายุเก่าแก่ถึง 125 ปี และประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด จนไม่มีผู้ใดคาดคิดว่า ในอนาคตข้างหน้านั้น “การสื่อสารแห่งประเทศไทย” ที่แปรสภาพและแยกตัวมาเป็น “บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด” จะมีผู้ใดอุ้มชูให้อยู่รอด และสร้างกำไร หากไม่มีรายได้จากกิจการโทรคมนาคมมาอุดหนุนเหมือนในอดีต แต่สุดท้ายไปรษณีย์ไทยก็ไม่เคยเบิกงบประมาณก้อนดังกล่าวมาใช้เลยแม้แต่บาทเดียว มิหนำซ้ำยังสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ปีแรกเสียด้วยซ้ำ จนมาถึงวันนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2556 พบว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1.93 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท...

อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาบริการจดหมาย ธนาณัติ จนกลายมาเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ ด้านการขนส่ง การเงิน และฉีกกรอบข้อจำกัดในการขนส่งโดยปริยาย

“ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์” ได้ร่วมพูดคุยกับ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่ หรือผู้ที่ประกาศกร้าวว่า จะทำกำไรให้เกิดแก่การรถไฟฯ ให้ได้ 500 ล้าน ภายในปี 2567

คสช. ต่อสายตรง อ้อนช่วยประเทศ เชื่อคุณทำได้!

“นับได้ว่าได้รับคำเชิญจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ช่วยบริหารบ้านเมือง แบบไม่ทันตั้งตัวเลยก็ว่าได้ เพราะจู่ๆ มีทหารท่านหนึ่งโทรมาบอกว่า ทาง คสช. ขอให้ผมไปช่วยทำหน้าที่ประธานบอร์ดการรถไฟฯ แต่ผมได้ตอบกลับไปว่า ทำไม่ได้หรอก ไม่เคยทำมาก่อน แต่ทางนายทหารท่านนั้นได้ตอบกลับมาทันทีว่า ทาง คสช.ได้คัดเลือกจาก 8 รายชื่อที่มีการเสนอเข้ามา และเชื่อว่าคุณทำได้ ซึ่งผมคิดว่า เมื่อทางคสช. มั่นใจว่าเราจะทำได้ จึงได้ตอบไปว่า...ถ้าคิดว่าผมทำได้ ผมก็จะทำ” ประธานบอร์ดการรถไฟฯ คนใหม่เล่าย้อนไปถึงวินาทีที่ถูก คสช. ทาบทาม

ยุทธวิธีอุ้มไปรษณีย์ หยิบกู้ปมการรถไฟได้หรือ ?

เมื่อถามถึงแนวทางที่เคยใช้บริหารงานไปรษณีย์ให้คืนกลับมามีกำไรนั้น สามารถหยิบเอาเทคนิควิธีการที่เคยใช้มาบริหารงานการรถไฟฯ ให้เฟื่องฟูได้เช่นเดียวกันหรือไม่?...นายออมสิน เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ตนไม่มีเทคนิคใดๆ เลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือของฝ่ายบริหารและพนักงานของการรถไฟฯ เมื่อสมัยที่อยู่ไปรษณีย์ฯ ทั้งฝ่ายบริหารและพนักงานก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ผลักดันนโยบายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงทำให้ไปรษณีย์เติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้

สิ่งแรกต้องพิชิต หลังนั่งเก้าอี้ประธานบอร์ด รฟท.

สิ่งแรกที่ต้องทำภายหลังจากเข้ามาบริหารงานนั่นก็คือ ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้บริการการรถไฟฯ เพราะชีวิตผู้โดยสารนั้นถือว่าเป็นความสำคัญที่จะต้องมาเป็นอันดับแรก และต้องเข้มงวดมากขึ้น โดยปัญหาส่วนหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เพียงพอ จึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขาดเหลืออะไร และทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตำรวจรถไฟนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่รับเงินเดือนจากการรถไฟ แม้ว่าจะขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ส่วนปัญหาที่จะต้องแก้อย่างเร่งด่วนรองลงมา คือ ความสะอาด แม้ว่าจะจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดูแลเรื่องความสะอาดในราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ผลงานกลับออกมาสวนทางอย่างสิ้นเชิง และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะต้องบริหารจัดการให้เข้มข้นมากขึ้น


สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ หัวลำโพง รอวันฟื้นสู่กำไรและกลับมาผงาดอีกครั้ง
การรถไฟผงาด ฟื้นคืนกำไร 500 ล้านได้แน่!

เบื้องต้นลุยเดินหน้าสร้างแผนฟื้นฟู รฟท. ระยะยาว 10 ปี โดยมีเงื่อนไขการลงทุนที่จะต้องพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง มีการจัดหาระบบรถและหัวรถจักรใหม่ หารายได้จากการติดป้ายโฆษณาบนขบวนรถไฟ และประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทางรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน

“คาดว่าจะทำให้ภายในปี 2560 รฟท.จะมีความพร้อมในการให้บริการ โดยประเมินเบื้องต้นว่า จะเริ่มมีกำไรครั้งแรกในปี 2567 ประมาณ 500 ล้านบาท หากมองในแง่ดี คิดว่าถ้าสามารถให้บริการ พัฒนาภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นมาได้ มีกำไรนิดหน่อย เพื่อให้องค์กรอยู่รอดก็ถือว่าดีแล้ว”

โจทย์กู้การรถไฟ...ความคาดหวัง แรงกดดัน ความท้าทาย!

การรถไฟฯ เป็นองค์กรที่อยู่คู่กับคนไทยมากว่าร้อยปี ฉะนั้น ความสนใจหรือความคาดหวังจากประชาชนที่เฝ้ามองการพัฒนาของการรถไฟฯ จึงมิใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด กลับเป็นเรื่องที่น่ายินดี และต้องขอบคุณเสียด้วยซ้ำ

“ผมไม่ได้รู้สึกกดดันเมื่อเจอแรงหวังจากสังคมแต่อย่างใด เพราะผมมองว่างานที่ท้าท้ายและสำคัญยิ่งเดินทางมาถึงแล้ว ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถจะทำได้” ออมสิน ชีวะพฤกษ์ กล่าว

ชีวิตหลังเกษียณกับงานสุดท้ายเพื่อชาติ!

“ผมใช้ชีวิตชนิดที่เรียกว่า สุขสบายมา 3 ปี โดยไม่ได้รับงานใดๆ แต่เมื่อ คสช.บอกว่าอยากให้ การรถไฟฯ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และขอให้เข้ามาช่วยประเทศชาติ ผมจึงตัดสินใจที่จะเข้ามารับตำแหน่ง เพื่อช่วยบ้านเมืองเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต” ประธานบอร์ดการรถไฟคนใหม่ พูดอย่างหนักแน่น

อีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ที่ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ ผู้กุมหัวรถจักรคนใหม่ จะต้องพบเจอ สุดท้ายแล้วจะ ซ้ำรอยเดิม หรือ พลิกโฉมครั้งใหญ่ ต้องจับตา!
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/07/2014 8:19 am    Post subject: Reply with quote

สหภาพฯการรถไฟเข้าพบประธานบอร์ด 10 โมง
INN News วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2557 7:54น.

ประธานสหภาพฯ การรถไฟ เข้าพบ "ออมสิน" ประธานบอร์ด ขอรับทราบนโยบาย 10 โมง พร้อมเสนอจัดหาพนักงานเพิ่ม จัดซื้อหัวรถจักร

นายอำพน ทองรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันนี้ เวลา 10.00 น. ตนเองพร้อมด้วยกรรมการสหภาพฯ การรถไฟ 30 คน จะเดินทางเข้าพบ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการการรถไฟ เพื่อขอรับทราบนโยบายการบริหารงาน ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้ง จะมีการเสนอเรื่องการจัดซื้อหัวรถจักร รถพ่วงเพิ่มเติม และอัตรากำลังพนักงาน ซึ่งส่วนตัวมองว่าควรมีรับพนักงานเพิ่ม เพื่อประสิทธิภาพในการบริการ

อย่างไรก็ตาม นายอำพน กล่าวอีกว่า จากที่หลายฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นเรื่องควรตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อบริหารจัดการโครงการรถไฟรางคู่นั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และพร้อมคัดค้านหากมีนโยบายการดำเนินการดังกล่าวจริง โดยมองว่าการรถไฟมีบุคคลากรที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการบริหาร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/08/2014 8:57 am    Post subject: Reply with quote

รายงานพิเศษ รฟท.เปิดตัวเลดี้โบกี้ : เข้มข่าวค่ำ
PPTV HD 31 Jul 2014

ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดให้บริการ "เลดี้ โบกี้" สำหรับผู้หญิงและเด็กชายที่อายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อให้ผู้ใช้บริการที่เป็นผู้หญิง มั่นใจในความปลอดภัย

เลดี้ โบกี้ จะเป็นรถนอนปรับอากาศให้บริการใน 3 เส้นทางหลัก คือ สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ซึ่งวันนี้ ได้มีการเปิดโฉม เลดี้โบกี้ ก่อนให้บริการอย่างเป็นทางการ.. ติดตามจากรายงาน คุณตาดารา ก่อตั้งสัมพันธ์

Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 01/08/2014 10:24 pm    Post subject: Reply with quote

ขบวนรถไฟพ่วงเลดี้โบกี้คึกคัก ผู้โดยสารจองแน่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2557 : 16:06 น.

ร.ฟ.ท.ปลื้ม ผู้โดยสารจองใช้บริการ “รถโดยสาร Ladies and Children Car” วันแรกคึกคักทั้ง 4 เส้นทาง โดยขบวนกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เต็มทุกที่นั่ง ขอประเมินผลระยะหนึ่งก่อนประเมินเพิ่มเติม

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จากที่ ร.ฟ.ท.จะเปิดให้บริการรถโดยสาร Ladies and Children Car สำหรับสุภาพสตรีและเด็กหญิง รวมถึงเด็กชายที่มีอายุไม่เกิน 10 ปีบริบูรณ์ และมีส่วนสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร ในเส้นทางสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 นั้น ขณะนี้เผยยอดจองใช้บริการรถโดยสาร Ladies and Children Car ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ดีเกินคาด โดยขบวน 37 กรุงเทพ-สุไหงโก-ลกมียอดจอง 27 ที่นั่ง ขบวน 67 กรุงเทพ-อุบลราชธานีจองไปแล้ว 25 ที่นั่ง ขบวน 69 กรุงเทพ-หนองคาย 11 ที่นั่ง ขณะที่ขบวน 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ เต็มทุกที่นั่ง ทั้งนี้ในขบวนที่ยังมีที่นั่งเหลือผู้โดยสารที่เป็นสตรีและเด็กสามารถซื้อตั๋วก่อนการโดยสารได้

ทั้งนี้ ถือเป็นยอดจองที่น่าพอใจสำหรับวันแแรกของการโดยสาร และจะเน้นย้ำให้พนักงานแนะนำบริการแก่ผู้โดยสารที่เป็นสตรีและเด็ก เพื่อให้บริการดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดตามที่ตั้งใจไว้ และจะคอยติดตามยอดการใช้งานไปสักระยะ หากเส้นทางใดไม่เป็นที่นิยมอาจปรับปรุงการพ่วงรถ Ladies and Children Car ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้โดยสารต่อไป
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/08/2014 9:01 am    Post subject: Reply with quote

พวกเราสมาชิกรถไฟไทยดอทคอม แทบทั้งหมดคงไม่มีโอกาสได้ใช้บริการเลดี้โบกี้นะครับ Sad

----



2 ส.ค. 57 รถไฟเลดี้โบกี้เที่ยวแรก
ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติพอใจและมั­่นใจในความปลอดภัยกับการเดินทางด้วยขบวนรถ­ไฟเลดี้โบกี้สายใต้เที่ยวปฐมฤกษ์

วันนี้(2ส.ค.) บรรยากาศที่สถานที่รถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณที่37 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์สายใต้ที่มี­การเปิดตู้รถไฟสำหรับผู้โดยสารเฉพาะสุภาพส­ตรีและเด็ก (Ladies And Children) หรือเลดี้โบกี้ ซึ่งเป็นตู้นอนปรับอากาศชั้น2 ได้เดินทางถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ในเวลาประมา­ณ11 นาฬิกาด้วยความปลอดภัยแม้จะล่าช้ากว่ากำหน­ดเกือบ4 ชั่วโมง มีผู้โดยสารทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่าง­ชาติที่เป็นสุภาพสตรีและเด็กใช้บริการเกือ­บเต็มตู้จนถึงสถานีปลายทางสุไหงโก-ลก และต่างพอใจและมั่นใจในความปลอดภัยกับการเ­ดินทางด้วยขบวนรถเลดีโบกี้

นางสาวหนึ่งฤทัย วุฒิ อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถไฟขบวนน­ี้บอกว่ารู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น­โดยเฉพาะเมื่อเดินทางคนเดียวเนื่องจากมีระ­บบรักษาความปลอดภัยที่ดีมากทั้งเจ้าหน้าที­่ตำรวจรถไฟและพนักงานที่เป็นผู้หญิงทั้งหม­ด แต่อยากจะให้มีการปรับปรุงในเรื่องของเวลา­เนื่องจากค่อนข้างเสียเวลา

ด้าน นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการ­ให้บริการขบวนพิเศษเลดี้โบกี้ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งประชาชนเริ่มให้ความสนใจ โดยในส่วนของสายใต้ขบวนที่38 สุไหงโก-ลก กรุงเทพฯซึ่งเป็นขบวนเลดี้โบกี้ขบวนแรกที่­เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯในช่วงเย็นของวันน­ี้มีผู้โดยสารจองตั๋วเดินทางกับตู้เลดี้โบ­กี้แล้ว36 ที่นั่งจาก40 ที่นั่งซึ่งคาดว่าจะเต็มทั้งหมด

ทั้งนี้การให้บริการตู้พิเศษเลดี้โบกี้ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารที­่เป็นสุภาพสตรีและเด็ก ตามมาตรการดูและความปลอดภัยของกระทรวงคมนา­คมและการรถไฟแห่งประเทศหลังจากเกิดคดีสะเท­ือนขวัญพนักงานรถไฟข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวั­ย13 ปีบนขบวนรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 02/08/2014 5:16 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ด รฟท.เห็นชอบแผนฟื้นฟูการรถไฟฯ จ่อยื่นซุปเปอร์บอร์ดเคาะ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ส.ค. 2557 15:36

บอร์ด รฟท. เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท. หลังฝ่ายบริการจัดทำรายละเอียดเพิ่ม 4 แนวทางลุย 10 ปี เผยบอร์ด เชื่อแนวทางที่ 4 ลบหนี้เป็นศูนย์ดีสุด เตรียมชงคมนาคมก่อนส่งซุปเปอร์บอร์ด....

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท.วานนี้ (1 ส.ค.) มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท.หลังจากที่ฝ่ายบริหารได้จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม โดยแผนฟื้นฟูมีระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี (2557-2567) มี 4 แนวทาง ประกอบด้วย

แนวทางที่ 1 คือ รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และรับภาระการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอดีตทั้งหมด พบว่าจะทำให้ รฟท.มี EBIDDA เป็นบวกที่ 163 ล้านบาทในปีที่ 6 (2562) แต่ยังไม่มีกำไรสุทธิ ในระยะ 10 ปีของแผนฟื้นฟู

แนวทางที่ 2 คือ รัฐรับภาระตามแนวทางที่ 1 บวกกับรับภาระการขาดทุนสะสมจากการดำเนินงาน ภาระบำนาญ พบว่า EBIDDA เป็นบวกที่ 163 ล้านบาทในปีที่ 6 (2562) และในระยะ 10 ปีของแผนฟื้นฟูจะยังขาดทุนสุทธิที่ 2,400 ล้านบาท

แนวทางที่ 3 คือ รัฐรับภาระตามแนวทางที่ 1 และ 2 โดยให้ปรับค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่ง EBIDDA จะเป็นบวกที่ 163 ล้านบาท ในปีที่ 6 (2562) และในระยะ10 ปีของแผนฟื้นฟู จะยังไม่มีกำไรสุทธิและไม่ขาดทุนสุทธิเช่นกัน

แนวทางที่ 4 คือ รัฐรับภาระการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแนวทางที่ 1,2,3 ซึ่งจะทำให้ภาระหนี้สินของ รฟท.ทั้งหมด จำนวน 109,317 ล้านบาทเป็นศูนย์ โดยรัฐสนับสนุนงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐาน การซ่อมบำรุง และการปฏิบัติการ ซึ่งพบว่า รฟท.มีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBIDDA) เป็นบวกที่ 163 ล้านบาทในปีที่ 6 (2562) และจะมีกำไรสุทธิในปี 7 (2563) จำนวน 2,668 ล้านบาท

ทั้งนี้ บอร์ดเห็นว่าแนวทางที่ 4 ดีที่สุด คือ ลบหนี้ให้เป็นศูนย์ โดยจะเร่งเสนอไปที่กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาและหารือกับกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนจะนำส่งไปยังคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (ซุปเปอร์บอร์ด) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานต่อไป ซึ่งขณะนี้ คสช.ให้ความสำคัญกับระบบรางอย่างมาก เชื่อว่าจะเป็นแผนฟื้นฟูที่มีความเป็นไปได้

"แนวทางฟื้นฟู รฟท.ที่นำเสนอจะเป็นธรรมกับ รฟท.มากกว่าปัจจุบันที่ รฟท.ต้องรับภาระหลายอย่างโดยได้รับการชดเชยจากรัฐบาลต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น โครงการรถไฟฟรี รฟท.ได้รับเงินชดเชยเพียง 50% เท่านั้น หรือการลงทุนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ที่การรถไฟฯต้องเป็นผู้กู้ และรับภาระดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะลดการพึ่งพาจากภาครัฐด้วยการตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) การให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนบนที่ดินของ รฟท.โดยกรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของ รฟท.อยู่" นายออมสิน กล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2014 1:21 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
พวกเราสมาชิกรถไฟไทยดอทคอม แทบทั้งหมดคงไม่มีโอกาสได้ใช้บริการเลดี้โบกี้นะครับ Sad

----



2 ส.ค. 57 รถไฟเลดี้โบกี้เที่ยวแรก
ข่าว สันติภาพ รามสูต สงขลา / ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติพอใจและมั­่นใจในความปลอดภัยกับการเดินทางด้วยขบวนรถ­ไฟเลดี้โบกี้สายใต้เที่ยวปฐมฤกษ์


เปิดบริการแล้วตู้"เลดี้"ขบวนรถไฟอุบลฯ-กรุงเทพ
โดย ทีมข่าวภูมิภาค
ไทยรัฐ
วันเสาร์ 2 สิงหาคม 2557 23:27



การถไฟฯเดินหน้าให้บริการ‘ตู้สำหรับผู้หญิง’ เปิดโบกี้‘Ladies and Children Car’ขบวนรถไฟอุบลฯ-กรุงเทพ ใช้พนักงานประจำตู้เป็นผู้หญิงทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยและอุ่นใจของผู้โดยสาร หวังเรียกศรัทธาคืน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 ส.ค.57 ที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายวัฒนา คงมั่น ผู้อำนวยการศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการใช้โบกี้รถไฟ Ladies and Children Car ซึ่งเป็นตู้นอนปรับอากาศชั้น 2 ประจำขบวนที่ 68 ของสายการเดินรถอุบลราชธานี – กรุงเทพมหานคร เป็นโบกี้เฉพาะที่เปิดให้บริการโดยสารสำหรับสุภาพสตรี เด็กหญิง และเด็กชายที่มีอายุไม่เกิน 10 ปีบริบูรณ์ ความสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร


ปลอดภัยแน่นอน
ทัั้งนี้ รถไฟขบวนที่68นี้ได้ออกเดินทางจากสถานีรถไฟอุบลราชธานีในเวลา 18.30 น. และถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลา 05.50 น.ให้บริการทุกวัน เริ่มออกจากสถานีอุบลราชธานี วันนี้ (2 ส.ค.) เป็นวันแรก ภายในโบกี้ Ladies and Children Car มีทั้งหมด 40 ที่ เตียงบนราคา 671 บาทและเตียงล่าง 741 บาท มีพนักงานที่ให้บริการประจำโบกี้ เป็นผู้หญิงทั้งหมด

น.ส.ภัทรีญา นามเจริญ อายุ 22 ปี เผยว่า ตนเพิ่งเดินทางมาจากเยี่ยมญาติที่อุบลราชธานี และกำลังเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพ เมื่อเห็นว่าขบวนรถไฟมีโบกี้สำหรับผู้หญิง จึงเลือกเดินทางกลับด้วยรถไฟ เพราะรู้สึกว่าจะได้รับการบริการที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และคงจะเลือกเดินทางด้วยรถไฟโบกี้นี้อีกในโอกาสต่อไป เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง ที่ต้องเดินทางเพียงลำพังด้วย.


Last edited by Wisarut on 04/08/2014 1:06 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 231, 232, 233 ... 474, 475, 476  Next
Page 232 of 476

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©