RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273954
ทั้งหมด:13585250
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 472, 473, 474, 475, 476  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44649
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/04/2024 12:11 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ จัดขบวนรถเสริมพิเศษ รับเดินทางสงกรานต์นี้กว่า 1 แสนคน
กรุงเทพธุรกิจ 04 เม.ย. 2024 เวลา 11:42 น.

การรถไฟฯ เผยยอดการจองตั๋วล่วงหน้าสงกรานต์นี้ เต็มทุกชั้นทุกขบวน จัดเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษในเส้นทางสายเหนือและอีสาน รองรับการเดินทางไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน มั่นใจเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลาเนา และท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ได้อย่างเพียงพอ ปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้การรถไฟฯ ขยายเวลาเปิดให้บริการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถด่วนพิเศษและขบวนรถด่วน จำนวน 32 ขบวน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้พี่น้องประชาชนทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้มากขึ้น

โดยภาพรวมการจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า 90 วัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นั้น มีผู้โดยสารให้ความสนใจจองตั๋วโดยสาร เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 10 – 11 เมษายน 2567 และขากลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 16 - 17 เมษายน 2567 ซึ่งมีการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเต็มทุกชั้นทุกขบวน

ทั้งนี้ จากนโยบายดังกล่าว ทำให้การรถไฟฯ สามารถทราบถึงสถิติความต้องการในการเดินทางของประชาชน และสามารถวางแผนการเพิ่มขบวนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับรองรับการเดินทางของประชาชนเพิ่มเติม โดยเป็น 2 ช่วง คือ

- เที่ยวไป ระหว่างวันที่ 10, 11, 12 และ 14 เมษายน 2567 รวม 8 ขบวน

- เที่ยวกลับ ระหว่างวันที่ 11, 13, 16 และ 17 เมษายน 2567 อีก 8 ขบวน

ทำให้สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มเติมได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน รวมถึงจัดเตรียมรถโดยสารสำหรับหมุนเวียนเพิ่มเติม จำนวน 40 คัน สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการซื้อตั๋วในวันเดินทาง ให้เพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นายเอกรัชฯ แจ้งเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงได้กำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการสูงสุด

โดย ร.ฟ.ท.ประสานร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างผู้โดยสารที่ใช้บริการโดยรถไฟ และรถขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ โดยให้นำรถบัสโดยสารเฉพาะของ บขส. (ไม่รวมรถร่วมบริการและรถตู้โดยสาร) เข้ามาจอดส่งผู้โดยสารขาเข้าได้ที่บริเวณประตูที่ 3 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางต่อเนื่อง สามารถเดินทางเชื่อมต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 05/04/2024 2:35 pm    Post subject: Reply with quote

นักวิชาการเผยการศึกษาการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นรักษาคุณภาพผักผลไม้ของมูลนิธิโครงการหลวง ขนส่งด้วยรถไฟจากภาคเหนือลงภาคใต้ เพื่อทดสอบขนส่งผลิตผลการเกษตรระยะไกล พบผลลัพธ์ดีเยี่ยม รักษาผลิตผลให้คุณภาพสมบูรณ์ สดใหม่ จำหน่ายและส่งออกประเทศเพื่อนบ้านได้โดยไม่มีตีกลับ เตรียมต่อยอดสร้างระบบโลจิสติกส์ทางรางให้เกษตรกรและเอกชนในประเทศ ให้หันมาใช้ขนส่งทางรางทดแทนการขนส่งทางถนนและอากาศที่ปล่อยมลพิษมากกว่า โดยผลักดันให้ระบบรางเป็นโลจิสติกส์เชิงพาณิชย์สีเขียว เพิ่มโอกาสด้านคาร์บอนเครดิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์นโยบายชาติและทิศทางด้านสิ่งแวดล้อมของโลก
.
ผศ.ดร.ชาญณรงค์ ภุชงควาริน อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทีมวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการวิจัยตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นแบบเคลื่อนที่ประสิทธิภาพสูงฯ กล่าวว่ารูปแบบการขนส่งโดยปกติของมูลนิธิโครงการหลวง คือใช้การขนส่งทางอากาศและทางถนนเป็นหลัก ก่อนจะมาทดสอบใช้การขนส่งระยะไกลด้วยรถไฟเป็นครั้งแรกในโครงการวิจัยฯ นี้ โดยการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาเป็นระบบราง (รถไฟ) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก สามารถนำการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงมาใช้เป็นคาร์บอนเครดิต ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปจำหน่ายเป็นรายได้ที่มาช่วยลดต้นทุนได้อีกทาง
.
“ในกรณีที่ขนส่งสินค้าปริมาณมาก ๆ เป็นระยะทางไกล ๆ การขนส่งทางถนนและอากาศมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อน้ำหนักสินค้าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการขนส่งทางรถไฟ เช่น ในการขนส่งสินค้าน้ำหนัก 1 ตัน ในระยะทาง 1 กิโลเมตร การขนส่งทางเครื่องบินจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 0.7-0.8 กิโลกรัม การขนส่งด้วยรถบรรทุกสิบล้อแบบมีห้องเย็นจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ประมาณ 0.36 กิโลกรัม
.
ขณะที่การขนส่งด้วยรถไฟแบบมีตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ประมาณ 0.06 กิโลกรัมเท่านั้น หากมูลนิธิโครงการหลวง หรือ เกษตรกร ผู้ผลิตรายอื่น ๆ สามารถเปลี่ยนมาใช้ขนส่งทางรถไฟ จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมาก ซึ่งส่วนต่างจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงนี้ สามารถนำมาประเมินเป็นมูลค่าและนำไปขายในตลาดคาร์บอนเครดิตได้ นอกจากนี้โดยทั่วไปการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการลดการใช้เชื้อเพลิงในการขนส่ง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการลดต้นทุนในการใช้เชื้อเพลิงเพื่อการขนส่งไปด้วยในตัว ส่งผลให้ต้นทุนในภาพรวมลดลงตามไปด้วย”
.
https://www.thestorythailand.com/01/04/2024/126871/
https://www.facebook.com/TheStoryThailand/posts/806872234800229
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44649
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/04/2024 4:59 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟ แจ้งซ่อมลิฟต์ และบันไดเลื่อนรถไฟสายสีแดง แล้วเสร็จมิ.ย.นี้
บ้านเมือง วันเสาร์ ที่ 06 เมษายน พ.ศ. 2567, 16.30 น.

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงซ่อมลิฟต์ และบันไดเลื่อนของสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกปลอดภัย การรถไฟฯ โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ติดตามการดำเนินการปรับปรุงตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากที่มอบหมายให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (รฟฟท.) ที่เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ดำเนินการตรวจสอบระบบลิฟต์ และบันได้เลื่อนทุกสถานี พบว่ามีบันไดเลื่อนใช้งานได้ปกติ 181 ตัว ชำรุด 47 ตัว จากทั้งหมด 228 ตัว และลิฟต์ใช้งานได้ปกติ 111 ตัว ชำรุด 22 ตัว จากทั้งหมด 133 ตัว ส่วนทางลาดเลื่อน 4 ตัว สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากลิฟต์-บันไดเลื่อน เป็นอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลาเพื่อให้บริการผู้โดยสาร ทำให้มีการใช้งานหนัก จำเป็นต้องมีผู้ดูแลบำรุงรักษาในการตรวจสอบและแก้ไขซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ให้สามารถใช้งานได้ปกติ และโครงการสายสีแดงมีลิฟต์-บันไดเลื่อน 3 ผลิตภัณฑ์ จำนวนรวมมากกว่า 300 เครื่อง จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านบำรุงรักษาที่เป็นมืออาชีพ ในการเข้ามาดูแล

อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้ว่าจ้างซ่อมเปลี่ยนอะไหล่หลังการหมดการรับประกันความชำรุดบกพร่องในงานก่อสร้าง เมื่อเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566 และดำเนินการเตรียมกระบวนการว่าจ้างซ่อมบำรุงรายปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดูแลบำรุงรักษา เบื้องต้นในส่วนบันไดเลื่อนที่ชำรุดและอยู่ระหว่างรอการซ่อมแซม ได้มีการปิดให้บริการ เป็นการชั่วคราว เพื่อทำการตรวจสอบดูแลความปลอดภัย พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารใช้บันไดเลื่อนอื่นที่มีอยู่ในบริเวณใกล้เคียงทดแทน ส่วนการดูแลในระยะยาว การรถไฟฯ ได้เร่งจัดหาผู้รับจ้าง เพื่อดำเนินการบำรุงรักษา ระบบลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางลาดเลื่อน ทุกสถานีของรถไฟชานเมืองสายสีแดงทั้งระบบ ให้เสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยแบ่งการว่าจ้างออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย

- สัญญาจ้างซ่อมแก้ไขเร่งด่วน งานซ่อมบำรุงระบบลิฟต์ บันไดเลื่อน ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- จตุจักร เริ่มดำเนินการแล้ว คาดแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2567

- สัญญาจ้างซ่อมแก้ไขเร่งด่วน งานซ่อมแซมระบบลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางลาดเลื่อน จำนวน 8 สถานี ได้แก่ สถานีวัดเสมียนนารี บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะแห่งชาติ ดอนเมือง หลักหก และรังสิต ลงนามสัญญาจ้างแล้ว เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน

- สัญญาจ้างซ่อมบำรุงรักษาลิฟต์ บันไดเลื่อนทั้งโครงการ งานซ่อมบำรุงรักษาเชิงป้องกันและเชิงแก้ไขระบบลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางลาดเลื่อน พร้อมรวมอะไหล่ (รายปี) อยู่ระหว่างการลงนามสัญญาจ้างเช่นเดียวกัน และจะเริ่มดำเนินการได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบคุณทุกข้อคิดเห็นเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยหากผู้ใช้บริการ พบปัญหาชำรุด หรือความผิดปกติของลิฟต์ บันไดเลื่อนและทางลาดเลื่อน สามารถแจ้งที่ Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 1690 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44649
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/04/2024 7:54 am    Post subject: Reply with quote

เปิดใจผู้ว่าฯรฟท.”นิรุฒ มณีพันธ์” ผ่าน 4 ปีซ่อมแก้ไข & ปรับปรุงองค์กร จับตา!!!การเมือง’เปลี่ยนคนใหม่หรือให้ทำต่อ’
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Monday, April 08, 2024 07:23

“นิรุฒ มณีพันธ์”ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนที่ 29 อดีตอัยการ ผู้บริหารบริษัท การบินไทย และแบงก์กรุงไทย ก่อนจะก้าวสู่เก้าอี้ ผู้ว่าการฯรฟท. ท่ามกลางกระแสคัดค้านของกลุ่มพนักงาน รฟท.ที่ไม่ต้องการผู้ว่าฯคนนอก จนนำพาองค์กร ก้าวผ่านวิกฤต ช่วงการระบาดของสถานการณ์ โควิด-19 มีการปรับปรุง การให้บริการ ขับเคลื่อนพัฒนาโครงการต่างๆ รวมไปถึงแก้ปัญหาข้อพิพาท และปัญหาหนี้สิน จนจะครบวาระสัญญาจ้าง 4 ปี วันที่ 23 เม.ย. 2567 นี้ กระแสกลุ่มพนักงานกลุ่มเดิมที่เคยคัดค้าน เปลี่ยนมาสนับสนุนให้ต่อวาระ

“นิรุฒ มณีพันธ์”ผู้ว่าการฯรฟท.เปิดเผยว่า ตอนแรกที่ได้เข้ามาเป็นผู้ว่าฯรฟท. ไม่รู้ว่าข้างใน จะผุขนาดนี้ จึงมีเรื่องที่ต้องเร่งซ่อมเยอะมาก ทำให้ช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา 70% หมดไปกับการซ่อม เหลืออีก30% เป็นเรื่องการพัฒนาและทำอะไรใหม่ๆ ให้องค์กร แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าในการทุ่มเทเวลาให้กับการซ่อมเพราะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้องค์กร และหลังจากนี้ จะเป็นยุคที่รฟท.สามารถเดินหน้าพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเหลือเรื่องที่ต้องแก้ไขน้อยลง

@“เขากระโดง”ยากสุด…แต่แก้ไขได้

ปัญหาที่ดินรถไฟ”เขากระโดง”เป็นเรื่องยากและคาราคาซังมา 40 ปี ฝ่ายหนึ่งบอกว่าบุกรุก ต้องไล่ออกไป อีกฝ่ายก็บอกเป็นเจ้าของเพราะมีเอกสารราชการถูกต้อง ต้องดำเนินการแก้ปัญหา บนหลักการที่ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด เสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ และโปร่งใสพร้อมทั้งยึดหลักธรรมาภิบาลและมีจริยธรรมอย่างเหมาะสม ตอนนี้เรื่องกรรมสิทธิ์ มีแนวทางเดินหน้าที่ชัดเจนแล้ว และจะใช้แนวทางแบบนี้ แก้ปัญหานี้กับที่ดินรถไฟทั่วประเทศ

“ประชาชนเป็น1,000 ครอบครัว มีโฉนด แต่การได้มาอย่างไร นั้น รฟท.ตอบไม่ได้ ต้องถามกรมที่ดิน เรื่อง ที่ดินเขากระโดง ผมคิดหาทางแก้ไขไม่ถึง 2 ชม. แต่วิธีการต้องใช้ทุกศาสตร์ ทุกมิติ จึงใช้เวลาทำนาน ความยากคือ ต้องทำให้ผู้เกี่ยวข้อง เข้าใจแนวทางแก้ไขด้วย ที่สำคัญที่สุด คือ แก้ปัญหาเขากระโดง ในตอนที่ รมว.คมนาคม นามสกุล”ชิดชอบ” ซึ่งตนมองอีกมุม ว่าหากไม่แก้ปัญหาเขากระโดงในยุคนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”


@ใส่เกณฑ์ มีระบบคุณธรรมแต่งตั้งโยกย้าย สร้าง/โปรโมทคนทำงานให้มีศักยภาพ

อีกเรื่องหนักหนา คือการเปลี่ยนแปลงคนในองค์กร เพิ่มศักยภาพ รวมถึง เปิดโอกาสให้คนที่มีศักยภาพได้มีโอกาสทำงานมากขึ้น ซึ่งก็ต้องปรับปรุงการแต่งตั้งโยกย้ายโยกย้าย ใส่ระบบคุณธรรมเข้าไป ซึ่งไม่มีใครอยากจะเชื่อว่า จะทำได้กับที่นี่ จะใส่ระบบคุณธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายได้ เพราะทราบกันดีว่า มีการวิ่งเต้น ทั้งจากผู้มีอำนาจ นักการเมืองกันมาตลอด

วิธีการแก้ไขของผมคือใส่เกณฑ์ เข้าไป และมีระบบคุณธรรม ดังนั้น กรณี วิ่งเต้น มีเส้นสาย หรือเด็กฝาก จากผู้มีอำนาจ หรือ กรณีคนในที่มีอำนาจกั๊กตำแหน่ง ไว้ให้เด็กของตนเอง ก็จะเจอเรื่องเกณฑ์ คุณสมบัติเป็นตัวชี้วัด ซึ่งผมสามารถตอบคำถามได้ช่วงที่ผ่านมา ผมแต่งตั้งจัดสรรคนทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งไปได้ 600 คน ใส่ระบบคุณธรรม คัดสรรคนทำงาน ที่มีศักยภาพตรงกับงาน สร้างขวัญกำลังใจกับพนักงาน เพราะการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง มีระบบที่ชัดเจน และมีเกณฑ์วัดความสามารถ

@4ปี แห่งการซ่อมและเปลี่ยนแปลง ปรับระบบงาน-พัฒนาคน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์ล้างท่อ อีกมากมาย ในฐานะผู้บริหาร จะเน้นการขับเคลื่อนคนรถไฟให้ทำงานแบบชาญฉลาดขึ้น เพื่อจะได้เหนื่อยน้อยลง มีการปรับรูปแบบการทำงาน นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น เช่นรถไฟทางคู่ หากก่อสร้างเสร็จตามแผน การเดินรถไฟในแต่ละเส้นทางจะใช้เวลาน้อยลงเพราะมี 2 ทางไม่ต้องรอหลีกเสียเวลา การใช้งานรถน้อยลง มีเทคโนโลยีช่วยลดภาระพนักงานลง และยังเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ แค่ระบบรถไฟทางคู่เสร็จ ก็จะเป็นประโยชน์กับรถไฟอย่างมาก

มีการปรับระบบงาน เพื่อกระตุ้นความรับผิดชอบ จะเห็นว่า งานต่างๆ เดินเร็วขึ้น ไม่มีเรื่องตกค้าง ตามโต๊ะนั้น โต๊ะนี้ นานเป็นเดือนๆ หมักไว้ไม่ส่งต่อไปเสียที ทำให้งานภาพรวมไม่เดิน มีการจัดการใหม่ พูดคุยกัน มอบหมายภารกิจให้ชัดเจน ทำให้การทำงานไหลลื่นขึ้น เป็นการจัดการเรื่องคน และระบบ ที่ปัญหารถไฟ มายาวนาน

มาเพิ่มวิธีคิดใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านการตลาด โดยเฉพาะรถไฟท่องเที่ยว ที่เป็นไฮไลต์ ได้รับความนิยมมาก แต่ยังมีขบวนรถไม่พอที่จะทำการตลาดได้อย่างเต็มที่ จะเห็นว่ารถไฟ มีจุดแข็งมากมายแต่ไม่ได้นำออกมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ มีคนเก่งมากมายแต่ไม่ได้รับโอกาส ก็เหมือนดอกไม้สวยแต่ไม่ถูกนำออกมาประดับแจกัน บางคนถูกเปลี่ยนทัศนคติไปเลยเพราะมีผู้บังคับบัญชาที่เฉื่อย พอเด็กเติบโตขึ้นมาก็ซึมซับคามเฉื่อยนั้นจากรุ่นก่อน ส่งต่อกันเป็นทอดๆ รับไว้รัสไม่ดีต่อๆกันมา เพราะอยู่ไปเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนอะไร จึงเป็นเรื่องที่ตนพยายามปรับเปลี่ยนเพื่อวางรางฐานให้องค์กรใหม่

“งานบริการมีปัญหาทุกมิติ ผู้ว่าฯมองภาพ ก็เหมือนนักแสดงกายกรรม ที่หมุนจาน วางจานบนหัว บนมือ บนร่างกายทุกส่วน หากจานตกไปใบหนึ่งก็เสียหาย ดังนั้นจะต้องจัดสมดุลย์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ดี ทั้งประชาชนผู้ใช้บริการ คู่ค้า และนักการเมือง โดยเฉพาะพนักงาน และผู้บริหาร ที่มีอาณาเขตอำนาจของแต่ละกลุ่ม ซึ่งตนมองว่า การที่ตนเป็นคนนอกเข้ามาบริหาร ไม่ได้อยู่ในกลุ่มไหน ไม่ต้องฟังหรือเกรงใจใคร ยึดประโยชน์องค์กรและพนักงานส่วนรวมเป็นหลัก มีเป้าหมายการทำงานชัดเจน”


@เปิดใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จุดเปลี่ยนสำคัญ

ผู้ว่าการฯรฟท. กล่าวว่า การเปิดใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยย้ายขบวนรถส่วนหนึ่งไปให้บริการ และยังคงรถอีกส่วนหนึ่งไว้ที่สถานีหัวลำโพง ทำแบบสมดุลย์ และลดภาระของสถานีหัวลำโพงลง และนำพื้นที่ มาดำเนินการเชิงพาณิชย์ สร้างรายได้เพิ่ม จากการจัดงาน จัดอีเว้นต์ระดับโลก หรือนำรถไฟเก่าประวัติศาสตร์ออกมาแสดงโชว์ เปิดโอกาสให้พ่อ แม่ พาลูกหลานมาสัมผัสรถไฟของจริง มาสัมผัสประวัติศาสตร์ที่จับต้องได้ มาถ่ายรูป ในโอกาสต่างๆ ได้ แต่งงานก็มาถ่ายรูปที่หัวลำโพงกับหัวรถจักรประวัติศาสต์

ขณะที่นำ เทคโนโลยี มาใช้มากขึ้น เช่น ระบบจองตั๋วออนไลน์ และกำจัดเอเย่นต์ที่เหมาตั๋ว เส้นทางดีมีกำไร ไปก่อนแล้ว ไปขายเพิ่มราคา ตรงนี้ได้ทำกติกา หากเหมาไปแล้ว เอามาคืนทีหลัง จะถูกปรับ เช่น รถไฟด่วนพิเศษขบวน 9 อุตราวิถี(กรุงเทพฯ-เชียงใหม่) เป็นต้น

@ภารกิจที่ต้องทำต่อ”จัดหารถจักร ล้อเลื่อน”เพิ่มรายได้จากที่ดิน

“นิรุฒ มณีพันธ์”กล่าวอีกว่า รถไฟทางคู่ใกล้เสร็จแล้ว แต่ยังติดปัญหาขบวนรถ เครื่องมือทำมาหากิน มีไม่เพียงพอ ดังนั้นจะเพิ่มเติมบริการอะไรทำได้ยาก เป็นข้อบกพร่องที่ผมทำไม่ได้ เพราะการจัดหาเป็นเรื่องขั้นตอนการอนุมัติที่ยังไม่ผ่านหน่วยเหนือ แต่เราก็พยายามบริหารจัดการสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นเครื่องมือหากิน เป็นเรื่องที่ต้องผลักดันให้ได้ เพื่อเพิ่มบริการและเพิ่มรายได้ ประกอบกับ ตอนนี้ มีรถไฟสายสีแดง มีสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บริการที่ยังสร้างรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ทำให้ ยังเป็นภาระของรฟท.

ส่วนทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศ ยังพัฒนาไม่เป็นไปตามเป้า นโยบายก่อนหน้านี้ จัดตั้ง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด(SRTA) เข้ามาทำหน้าที่บริหารที่ดินเพื่อเพิ่มมุมมองทางการตลาดแบบมืออาชีพ ก็ต้องขับเคลื่อนต่อ

“ผมยังห่วงคนรถไฟ ที่บอกว่า แก้ไขซ่อมไปได้บ้างแล้วแต่ที่เหลือก็ยังมีอีกมาก และ จากนี้ก็ยังเหนื่อยกันต่อไป”


@อยากทำให้สำเร็จ”รถไฟความเร็วสูง -แก้พิพาทค่างาน VO สายสีแดงและประมูลไอซีดีลาดกระบัง

มีเรื่องใหญ่ๆ ที่ อยากทำให้สำเร็จ แต่ไม่ทันคือ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท งานมีปัญหาอุปสรรคมากมาย จากหลายปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ก็พยายามแก้ไข อย่างเต็มที่

2. โครงการสรรหาเอกชนเพื่อร่วมลงทุนเป็นผู้ประกอบการสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ที่ลาดกระบังเพื่อส่งเสริมการขนส่ง ไปท่าเรือแหลมฉบัง ที่ผ่านมายังไม่เรียบร้อย จึงยังคงให้ เอกชนเดิม บริหาร 6 สถานี ไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ใช้บริการ ขณะที่มีประเด็นค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งได้ทุบโต๊ะ เอาเงินค่าเช่าค้างกว่า 900 ล้านบาทเป็นรายได้ให้รฟท.จนได้

3.ประเด็น ค่าก่อสร้างเพิ่มเติม (Variation Order : VO) โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีข้อพิพาท เนื่องจาก กิจการร่วมค้า เอส ยู (บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งเป็นผู้รับจ้างโครงการรถไฟสายสีแดง สัญญาที่ 1 (งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางชื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) ได้เสนอข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ

โดย อนุญาโตตุลาการชี้ขาด ให้รฟท.จ่ายค่า VO กว่า 4,200 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีและดอกเบี้ย) ซึ่งกระทรวงคมนาคม พิจารณาต่อสู้ โดยยื่นเพิกถอนคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ กรณีค่างาน VO มีประเด็น ว่าใครสั่งทำงานเพิ่ม ทำผิดระเบียบ ขั้นตอนหรือไม่ คมนาคมและ รฟท. ต้องเร่งเก็บกวาดปัญหาให้เรียบร้อย

@ไฮสปีด3 สนามบินต้องไม่ล้ม

“นิรุฒ มณีพันธ์”กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิข- อู่ตะเภา) เป็นอีกโครงการที่ต้องผลักดันให้เดินหน้า ไม่อยากให้ รถไฟเชื่อม3 สนามบินล้มเหลว เพราะจะกระทบไปถึงโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ก็จะไม่สำเร็จตามเป้าหมาย ที่ผ่านมา เชื่อว่า การเจรจาร่วมกัน เพราะทุกอย่างโมดิฟาย ปรับเปลี่ยนได้ หาวิธี บนพื้นฐาน ที่รัฐได้เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน เอกชนก็ต้องมีช่องทางที่จะทำโครงการต่อไปได้ เพราะเมื่อโครงการเดินต่อได้ประเทศก็ได้ประโยชน์

@ภูมิใจ…ได้ตอกเข็ม”รถไฟทางคู่ 2 สายใหม่”

ส่วนตัว รู้สึกภูมิใจ กับโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง คือ สายเหนือ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ”และสายอีสาน “บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม” เพราะการประกวดราคา ถูกโจมตีอย่างมาก จากผู้หวังดีทั้งหลาย ซึ่งพอ ถามกลับว่า มีประเด็นไหนที่ผิดระเบียบบ้าง ก็ไม่มี ปมราคาต่ำกว่าราคากลางนิดเดียว ก็ไปปั่น ว่า ฮั้ว ซึ่งเรื่องฮั้วหรือไม่ เราไม่รู้ ยืนยัน การประมูลมีราคากลาง ที่เป็นเกณฑ์ชี้วัด หากไม่พอใจ จะยกเลิกประมูล ก็ทำได้ แต่คนที่ออกมาโจมตีกล้าประกาศต่อสังคมหรือไม่ว่า หากเปิดประมูลใหม่แล้ว ผลราคาสูงกว่านี้ จะรับผิดชอบหรือไม่ พอเจอแบบนี้ก็ถอยกันหมด ดูเชิงกฎหมายรอบคอบ ไม่มีประเด็นติดขัด ก็ต้องเดินหน้าไม่งั้นโครงการนี้ไม่มีทางเกิด วันนี้กำลังก่อสร้างอีกไม่กี่ปีเสร็จ ความเจริญจะเกิดในพื้นที่ และประชาชนจะได้รับประโยชน์จากโครงการ

“หากมีอำนาจ แต่บริหาร บนความกลัว หลายเรื่องไม่เกิดแน่นอน ในขณะที่มีความกล้า แต่ก็ต้องไม่บ้าบิ่น กล้าแบบรอบคอบมีความรู้จริง”

นิรุฒ มณีพันธ์”กล่าวว่า เวลาผ่านไป 4 ปี พนักงานกลุ่มที่เคยต่อต้าน วันนี้กลับออกมาสนับสนุนอยากให้ต่อวาระ ก็ถือเป็นกระจกสะท้อนการทำงานที่ผ่านมาของตน มีคนสงสัยว่าจัดตั้งมาหรือเปล่า ก็ต้องถามว่า คนรถไฟมีกว่า 9,600 คน ลูกจ้างอีกเกือบ 5,000 คน มีลงชื่อ สนับสนุนให้ต่อวาระ 4,000 คน ถามว่า หากจัดตั้งจะได้ขนาดนี้ หรือ ส่วนตัวผมถือว่า การทำงานที่ผ่านมา มองที่พนักงานต้องได้รับผลตอบแทนด้วย นอกจากนี้ กับ สหภาพฯ รฟท. ตนแสดงความจริงใจ ให้ความยุติธรรม ค่อยๆ แก้ปัญหาไปด้วยกัน จนเกิดความเข้าใจและร่วมมือกันทำงานเพื่อองค์กร สัมผัสได้ว่า “คนรถไฟ รักองค์กรมาก” ทุ่มชีวิตเพื่อรถไฟเต็มที่

“หากมีโอกาสได้ทำงานอีกวาระ อีก 4 ปีต่อจากนี้ จะเป็นช่วงเวลา ในการสร้างมากกว่าซ่อม ที่ผ่านมาซ่อมมามากแล้วแต่ก็ยังคงต้องซ่อมต่อไป เพราะยังไม่หมด โดยจะเน้นการสร้างมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงแบบ Quick win รถไฟ ไม่ใช่แดนสนธยาอีกแล้ว…และรถไฟจะเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นเส้นเลือดหลักในระบบโลจิสติกส์ ของประเทศ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ เรียกได้ว่า แทบจะปิดประตู ต่อวาระ “นิรุฒ มณีพันธ์”แล้ว แม้ ประธานบอร์ดรฟท. จะบอกว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศรับสมัครสรรหาฯ ยังมีโอกาสพิจารณาต่อวาระ แต่ปรากฎการณ์แบบนี้ ไม่เคยเกิดขึ้น และรู้ๆกันอยู่ว่า แม้การพิจารณาสรรหาฯ ผู้ว่าฯ จะเป็นอำนาจของบอร์ดรฟท.ตามระเบียบกฎมาย แต่ทางในทางลับ ก็ต้องฟังฝ่ายการเมือง ส่งสัญญาณ

ดังนั้น เหลือลุ้นสุดท้ายที่”นิรุฒ มณีพันธ์”จะกลับมานั่งเก้าอี้ ผู้ว่าการฯรฟท.ได้อีกสมัยคือ การสมัครเข้ารับการสรรหา ข่าวว่า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.คมนาคม คุมโควต้าเก้าอี้ผู้ว่าฯรฟท.เอง และยังมีกระแสข่าวว่า มีชื่อนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เด็กปั้นของ นายสุริยะ สมัยเป็นรมว.อุตสาหกรรม อาจจะโยกข้ามห้วยมา.. ขณะที่หลังจากนี้ มีโปรเจ็กต์ ทางคู่ เฟส2 ,ไฮปีดไทย-จีน เฟส 2 มูลค่าหลายแสนล้านบาท เตรียมเข้าคิวประมูล การเมืองจะกล้าเปลี่ยคนใหม่…หรือใช้บริการคนเดิม กล้าเปลี่ยนตัว คงต้องคิดกันหนัก !!!
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44649
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 08/04/2024 7:58 am    Post subject: Reply with quote

'สุริยะ'จี้เร่งสรรหาผู้ว่ารฟท.-รฟม.สางงานราง
Source - ไทยโพสต์
Monday, April 08, 2024 06:28

ราชดำเนิน "คมนาคม" เดินหน้าสรรหาผู้ว่าการ "รฟม.-รฟท." หลัง ครบวาระ เพื่อให้งานระบบราง "สาย สีส้ม-รถไฟทางคู่-รถไฟความเร็วสูง" เดินหน้าต่อเนื่อง ส่วนผู้ว่าฯ กทพ.จ่อไฟเขียวต่ออายุอีก 1 วาระ เพื่อสานต่อทางด่วน กทม.-ภูมิภาค

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสรรหาผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมที่ครบวาระ 4 ปีในปีนี้ว่า จากที่ได้รับรายงานขณะนี้ กระ ทรวงคมนาคมจะต้องมีการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการในรัฐวิสาหกิจถึง 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ครบวาระเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา และตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งตำแหน่งนี้จะครบวาระในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะครบวาระในเดือน ส.ค.นี้

นายสุริยะกล่าวว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท.คนใหม่แล้ว โดยมีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ชนบท (ทช.) ในฐานะกรรมการบอร์ด รฟท. เป็นประธาน ส่วน รฟม.นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าบอร์ด รฟม.ยังไม่มีการตั้งคณะกรรม การสรรหา เชื่อว่าทางผู้ที่เกี่ยว ข้องคงกำลังดำเนินการ หลังจากนี้จะมีการหารือกับนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.

สำหรับตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. ที่ปัจจุบันมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เป็นผู้ว่าการนั้น ปัจจุ บันยังไม่หมดวาระ ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงเดือน ส.ค.2567 นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่านายสุรเชษฐ์จะได้ต่อวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. ไปอีก 1 สมัย เนื่องจากงานที่อยู่ใน ความรับผิดชอบยังมีโครงการทางด่วนทั้งใน กทม. ปริมณฑล รวมถึงในต่างจังหวัด มีโครงการที่มีความสำคัญที่จะต้องเร่งสานต่ออีกหลายโครงการ.

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 8 เม.ย. 2567
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/04/2024 10:34 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'สุริยะ'จี้เร่งสรรหาผู้ว่ารฟท.-รฟม.สางงานราง
Source - ไทยโพสต์
วันจันทร์ 8 เมษายน 2567 เวลา 06:28 น.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ 8 เมษายน 2567


ลิงก์มาแล้วครับ
'คมนาคม' เร่งสรรหาผู้ว่า 'รฟท-รฟม' สานต่องานระบบราง
วันจันทร์ 8 เมษายน 2567 เวลา 13:08 น.

‘คมนาคม’ เดินหน้าสรรหาผู้ว่าการ ‘รฟม.-รฟท.’ หลังครบวาระ มั่นใจได้ผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจจะได้เดินหน้าระบบรางที่ค้างให้ได้ไปต่อทั้ง รถไฟสายสีส้ม-รถไฟทางคู่-รถไฟความเร็วสูง กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนผู้ว่า ฯกทพ.ไร้ปัญหาเจ้ากระทรวงไฟเขียวต่อให้นั่งแท่นผู้ว่าฯอีก1วาระหวังสานงานสร้างทางด่วนในภูมิภาคต่อ

https://www.thaipost.net/economy-news/567031/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/04/2024 10:34 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'สุริยะ'จี้เร่งสรรหาผู้ว่ารฟท.-รฟม.สางงานราง
Source - ไทยโพสต์
วันจันทร์ 8 เมษายน 2567 เวลา 06:28 น.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันจันทร์ 8 เมษายน 2567


"คมนาคม" เล็งเปิดสรรหา 3 ผู้ว่ารฟม.-รฟท.-กทพ.

ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ 8 เมษายน 2567 เวลา 13:59 น.

"คมนาคม" ลุยสรรหาผู้ว่าการรฟม.-รฟท. หลังครบกำหนดวาระ ดันแผนพัฒนาระบบรางต่อเนื่อง เตรียมต่ออายุผู้ว่ากทพ. 1 วาระ เร่งสานต่อโปรเจ็กต์ทางด่วน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการสรรหาผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมที่ครบวาระ 4 ปีในปีนี้ จากที่ได้รับรายงาน ขณะนี้กระทรวงคมนาคมจะต้องมีการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการฯในรัฐวิสาหกิจถึง 3 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ที่ครบวาระเมื่อเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา และ ตำแหน่งผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ซึ่ง ตำแหน่งนี้จะครบวาระในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนตำแหน่งผู้ว่าการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) จะครบวาระในเดือน ส.ค.67



ปัจจุบันคณะกรรมการ รฟท. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ผู้ที่จะมาดำตำแหน่งผู้ว่า รฟท. คนใหม่ แล้วโดยมีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะกรรมการบอร์ด รฟท. เป็นประธาน ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการสรรหาฯ จะพิจารณาเพื่อกำหนดคุณสมบัติต่างๆ และประกาศสรรหา ตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไป



ส่วนรฟม. นั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าบอร์ด รฟม. ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด เชื่อว่าทางผู้ที่เกี่ยวข้องคงกำลังดำเนินการ โดยตนจะมีการหารือกับนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เพื่อกำหนดนโยบายในเรื่องนี้ต่อไป


ด้านตำแหน่งผู้ว่า กทพ. ที่ปัจจุบันมีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เป็นผู้ว่าการ กทพ.นั้นปัจจุบันยังไม่หมดวาระและจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในช่วงเดือน ส.ค.67 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่านายสุรเชษฐ์ จะได้ต่อวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่า กทพ. ไปอีก 1สมัย เนื่องจากงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ ยังมีโครงการทางด่วนทั้งใน กทม. ปริมณฑล รวมถึง ในต่างจังหวัดมีโครงการที่มีความสำคัญจะะต้องเร่งสานต่ออีกหลายโครงการ



นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในปีนี้กระทรวงคมนาคมพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 1,479 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุนรวม 275,303.78 ล้านบาท ,รถไฟความเร็วสูง ช่วงโคราช-หนองคาย เพื่อเสริมศักยภาพโครงข่ายระบบรางให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และรองรับการเชื่อมต่อระบบรางในภูมิภาคอาเซียน ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้นั้น คงต้องรอให้กระบวนการศาลฯให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อได้



สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ปัจจุบันออกแบบเสร็จแล้วทั้ง 7 เส้นทาง ประกอบด้วย1.ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ถือเป็นเส้นทางในเฟส 2 ที่มีความสำคัญในลำดับแรก เนื่องจากเป็นเส้นทางตามยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมไปยังประเทศจีนตอนใต้ 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี 3. ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ,4. ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ,5. ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี 6. ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และ 7. ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์


ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง วงเงินรวม 133,146 ล้านบาทนั้นทาง คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้อนุมัติเห็นชอบดำเนินการ ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กม. วงเงิน 81,143 ล้านบาท



2.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ราชธานี ระยะทาง 308 กม.วงเงิน 44,103 ล้านบาท



3.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯ หลังจากนั้นรฟท.จะเสนอรายงานผลการประชุมคณะกรรมการฯในครั้งนี้ต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบก่อนเสนอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป



นอกจากนี้ความคืบหน้าโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนระบบรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดไทย-จีน) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร(กม.) วงเงิน 341,351 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการบอร์ด รฟท.พิจารณาภายในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ ปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบงานโยธาแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำเล่มรายงานวิเคาะห์ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ (อีไอเอ) ส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณเห็นชอบต่อไป



อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในเดือนธ.ค.67 พร้อมเปิดให้บริการได้ภายในเดือนธ.ค. 73
https://www.thansettakij.com/business/economy/592979


Last edited by Wisarut on 18/04/2024 2:55 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 10/04/2024 5:56 pm    Post subject: Reply with quote

(คลิป)รถไฟอุบลฯเสริมที่นั่งเที่ยวมาและกลับวันละ 2 ขบวน รถโดยสารก็คึกคักไม่แพ้กัน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:43 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:09 น.

อุบลราชธานี-คนอีสานแห่กลับบ้านเที่ยวสงกรานต์ล่วงหน้า ทำให้ขบวนรถไฟทุกขบวนเต็มหมด ต้องเสริมทั้งขาขึ้นและขาล่องวันละ 2 ขบวน ส่วนรถโดยสารก็ใช้บริการหนาแน่น ต้องเพิ่มเที่ยวรถระหว่างประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับล่วงหน้าของแรงงานที่จะมาเยี่ยมบ้านในเทศกาลวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ปรากฏมีผู้เดินทางจากสถานีกรุงเทพฯปลายทางจังหวัดอุบลราชธานีหนาแน่นเต็มทุกที่นั่ง ซึ่งสถานีรถไฟอุบลราชธานี มีขบวนรถไฟขาขึ้นและขาล่องรับส่งผู้โดยสารทั้งสิ้นวันละ 16 ขบวน ซึ่งถูกจองเต็มทุกที่นั่งแล้ว



แต่ในช่วงเทศกาลมีการเสริมขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ เพื่อรองรับการเดินทางขาขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย.วันละ 2 ขบวน และเที่ยวขากลับระหว่างวันที่ 16-17 วันละ 2 ขบวน โดยเป็นขบวนรถที่นั่งชั้นสามทั้ง 2 ขบวน เพื่อรองรับไม่ให้มีผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางในเทศกาลนี้ตกค้างที่สถานี



ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถโดยสารจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีประชาชนและแรงงานชาวไทยและลาวใช้บริการเดินทางกลับมาเที่ยวสงกรานต์คึกคัก ทำให้ต้องเพิ่มเที่ยวรถระหว่างประเทศไทยและลาวจากวันละ 2 เที่ยวเป็น 4 เที่ยว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 11/04/2024 11:54 am    Post subject: Reply with quote

ปชช.แห่กลับสงกรานต์ ตั๋วรถไฟบุรีรัมย์จองเต็มล่วงหน้าทั้งขาขึ้น-ขาล่อง จนถึง 17 เม.ย. ต้องเสริมขบวนรองรับ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:16 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:16 น.

บุรีรัมย์ - ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ยังภูมิลำเนาคึกคักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. ขณะตั๋วรถไฟที่บุรีรัมย์ถูกจองเต็มล่วงหน้าทั้งเที่ยวขาขึ้น-ขาล่องไปจนถึง 17 เม.ย. การรถไฟฯต้องจัดขบวนรถเสริมและเพิ่มโบกี้รองรับผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้าไม่ให้ตกค้าง

วันนี้ (10 เม.ย.) บรรยากาศที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ได้มีประชาชนไปรอซื้อตั๋วขบวนรถเสริม เพื่อเดินทางกลับเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ยังภูมิลำเนาตามจังหวัดต่างๆ คึกคักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟเดินทางกลับหนาแน่นมากขึ้นในวันที่ 11 และ 12 เมษายน 2567 ถึงแม้ขบวนรถเที่ยวปกติจะถูกจองเต็มทั้งขาขึ้นและขาล่องไปจนถึงวันที่ 17 เมษายน 2567 แต่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดเตรียมขบวนรถเสริมเที่ยวพิเศษ ไว้รองรับให้บริการประชาชนที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้าในวันที่ 11 และ 12 เมษายน ทั้งไปและกลับวันละ 2 ขบวน จากปกติวิ่งให้บริการวันละ 20 ขบวน นอกจากนั้นยังได้เพิ่มตู้โดยสารในขบวนรถปกติอีกขบวนละ 1 – 2 ตู้ เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางทั้งไปและกลับให้เพียงพอ

ร.ต.ประวิทย์ พวงสวัสดิ์ นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า ปีนี้ได้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2567 แล้ว และคาดว่าจะหนาแน่นมากขึ้นในวันที่ 11 และ 12 เมษายน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เดินทางไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 คน จากปกติมีผู้โดยสารเดินทางวันละ 800 – 1,000 คนเท่านั้น ซึ่งทางการรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถเสริม และเพิ่มตู้โดยสารรองรับให้เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางไม่ให้ตกค้างอย่างแน่นอน



ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้โดยนั่งบริเวณบันได ข้อต่อ หรือหลังคาอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งไม่ให้มีการดื่มหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดบนขบวนรถ และบนสถานีด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน ขณะเดียวกับทางสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ได้จัดทำโครงการ “ส้วมสาธารณะสะอาด” ด้วยการล้างทำความสะอาดห้องน้ำและบริเวณโดยรอบ เพื่อรองรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44649
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/04/2024 3:29 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ปชช.แห่กลับสงกรานต์ ตั๋วรถไฟบุรีรัมย์จองเต็มล่วงหน้าทั้งขาขึ้น-ขาล่อง จนถึง 17 เม.ย. ต้องเสริมขบวนรองรับ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:16 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:16 น.

7 วันสงกรานต์ คาดคนนั่ง “รถไฟฟ้า” 7.4 ล้านคน “รถไฟ” 6.4 แสนคน สูงกว่าปี 66
เดลินิวส์ 11 เมษายน 2567 14:53 น.
นวัตกรรมขนส่ง

“กรมราง” คาด 7 วันสงกรานต์ปี 67 มีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้า 7.43 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26.56% ขณะที่รถไฟ 6.45 แสนคน เพิ่ม 33.34% จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจ อำนวยความสะดวกประชาชนกลับบ้านจนถึงขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้ายทุกวัน มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมประสานผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มความถี่ในชั่วโมงเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานเปิด กิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน และปล่อยแถวเจ้าหน้าที่รถไฟ เจ้าหน้าที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) บูรณาการความร่วมมือ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ ปี 67 ตลอดจนรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ รวมทั้งประชาสัมพันธ์แผนการดำเนินมาตรการของการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ขร. ได้จัดเจ้าหน้าที่ประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้านระบบรางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจ และอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟฟ้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อ และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จนถึงขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีรถไฟ พร้อมประสานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า เพิ่มความถี่ขบวนรถไฟฟ้าให้มากขึ้นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน โดยคาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 67 จะมีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 7 วันประมาณ 7.43 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปี 66 ประมาณ 26.56%

รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขยายระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เป็นล่วงหน้า 90 วัน ซึ่งช่วยให้ทราบความต้องการในการเดินทาง (demand) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และ รฟท. จัดเตรียมเพิ่มตู้พ่วงไปกับขบวนรถให้เพียงพอ รวมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์, กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์-กรุงเทพอภิวัฒน์, กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์ รวม 16 ขบวน (เที่ยวไป 8 ขบวน และเที่ยวกลับ 8 ขบวน) ส่วนเส้นทางสายใต้พ่วงตู้รถนอนเพิ่มเติมจนเต็มหน่วยลากจูง คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวม 7 วันประมาณ 645,600 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากสงกรานต์ปี 66 ประมาณ 33.34%

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ได้เพิ่มมาตรการด้านการอำนวยความสะดวก เชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอย่างไร้รอยต่อ โดยเฉพาะที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารรวม 14 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 5, 16, 49, 67, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 536 และ A1 นอกจากนี้ บขส. จัดรถโดยสาร Shuttle bus รับส่งฟรีสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ กับด้านหน้าสถานีขนส่งกรุงเทพจตุจักร (หมอชิต 2) ทั้งนี้ในปีนี้ บขส. เปิดให้จองตั๋วล่วงหน้า และให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วรถ บขส.ล่วงหน้าในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายตะวันออกทุกมาตรฐาน ที่เดินทางระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย. 67 ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ขึ้นรถโดยสาร บขส. ได้ที่ประตู 2 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ส่วนรถโดยสาร บขส. ขาเข้ากรุงเทพฯ จะจอดรับส่งผู้โดยสารที่ประตู 3 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับประชาชนที่จะเดินทางต่อด้วยระบบราง นอกจากนี้เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟระหว่างเมืองและรถไฟฟ้าในเมือง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ขยายระยะเวลาการให้บริการจากเดิมเปิดให้บริการ 05.00 น. เป็นเวลา 04.00-24.00 น. ในวันที่ 11, 12, 16 และ 17 เม.ย. 67 รวม 4 วันอีกด้วย

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับผู้ให้บริการเดินรถขนส่งทางราง เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น ตรวจความพร้อมของเส้นทางรถไฟ และขบวนรถขนส่งทางรางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ผู้ปฏิบัติหน้าที่แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ นอกจากนี้ รฟท. ได้รับความร่วมมือจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกับขบวนรถไฟรวม 30 ขบวน ขบวนละ 2 คน รวมทั้งผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และสุนัข K-9 ลงพื้นที่สุ่มตรวจในพื้นที่เขตระบบรถไฟฟ้าอีกด้วย

โดยมีเป้าหมายอุบัติเหตุทางรางเกิดน้อยที่สุด ผู้ใช้บริการระบบรางไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดที่มีทางรถไฟวิ่งผ่าน ให้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร/กู้ภัย/อปพร. มาเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ผู้ใช้ถนน ไม่ฝ่าฝืนเครื่องกั้น และหยุดรถก่อนถึงทางรถไฟ มองซ้าย-ขวาให้แน่ใจว่าปลอดภัยจึงจะขับรถข้ามทางรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 472, 473, 474, 475, 476  Next
Page 473 of 476

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©