ตามรอยอึ่งอ่างนอกกะลามัง (ภาค 2) ตอนทางรถไฟสายแม่กลอง

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 12:14 pm Post subject:

ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากที่เสร็จภารกิจอึ่งอ่างนอกกะลามัง 2 ตามแผนที่วางไว้ เราก็เริ่มทำการถอดเทป MiniDV ออกมาเป็น Video File เพื่อจะนำไปตัดต่อ ซึ่งม้วนเทปของพี่นัท และพี่อ้อ ตลอดจนของพี่เอ๋ ก็ไม่มีปัญหา สามารถชมได้เป็นปกติ แต่กรรมดันมาตกอยู่ที่ม้วนเทปของผมสิครับ ตั้ง 2 ม้วน เนื่องจากว่า กล้อง Sony Handy Cam ของผม มีคนเอาไปใช้แล้วไปตั้งค่า White Balance เอาไว้ ไอ้เรามาใช้ต่อ ก็ไม่ได้เฉลียวใจ ผนวกกับเป็นความสะเพร่าส่วนตัว ที่ไม่ได้ดูมาก่อน แถมยังคิดไปอีกว่ากล้องมันคงจอ LCD เสียมั้ง .... (ว่าไปโน่น) แต่เอะใจเล็กน้อยว่าดูภาพ ทำไมภาพมันออกโทนแดงๆ .... พอมาเปิดดูเทปจริงๆ ที่บ้านถึงได้รู้ ว่าไอ้ที่ถ่ายมาทั้งหมดเนี่ย มันมาแบบน้องๆ ซีเปีย ทั้งนั้นเลย

ทำไงดีล่ะ ๆๆๆๆๆๆ ว่าแล้ว คงไม่แคล้ว สงสัยคงต้องไปถ่ายซ่อมอีกรอบเป็นแน่ โดยกำหนดวันถ่ายซ่อมใหม่ในอีก 1 สัปดาห์ผ่านไป คือ วันเสาร์ที่ 3/11/48 แต่รอบนี้มาทำงานด้วยทีมงานที่มีจำนวนคนเยอะกว่าคราวที่แล้ว มากๆ ข้อย้ำนะครับ ว่ามากๆ เพราะท้ายที่สุด เหลือ หนุ่มเจฟกับผม แค่สองคน ที่เหลือติดภารกิจส่วนตัวกันหมด ..... เอาก็เอาฟะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

แต่ทราบหรือไม่ครับว่า การตัดสินใจของผมกับตาเจฟในรอบนี้ ทำให้ผมได้พบกับประสบการณ์แปลกๆ ขำๆ ปนเศร้าเล็กน้อย คละเคล้ากันไปภายในวันเดียว และบอกได้เลยว่า มีไม่กี่คนในประเทศนี้หรอก ที่จะเจอประสบการณ์ตรงที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว เหมือนพวกเรา ...... นั่นก็คือ "เมื่อรถไฟเจอน้ำท่วม" ก่อนหน้านี้เคยได้ยินจากพี่ พขร. เล่าให้ฟังว่า บางวันเจอน้ำทะเลขึ้นสูง สถานีบ้านแหลมก็จมไปกับน้ำด้วย ทำให้รถไฟเข้าไปรับส่งผู้โดยสารไม่ได้ ต้องหดระยะเหลือแค่ท่าฉลอม หรือหน้าวัดช่องลมเท่านั้น เราได้ฟังก็ได้แต่ขำ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวจริงๆ ในเช้าวันนี้ ......... ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มาติดตามกันเลยครับ

หลังจากรับตาเจฟที่เดินทางมากับขบวนรถไฟเที่ยวเช้ามืดแถวๆ สถานีบางเขน ผมก็รีบบึ่งรถมาที่บ้านแหลมทันที เพื่อต้องการจะมาให้ทันขบวนรถไฟขบวนที่ 4381 เที่ยว 07.30 น. มุ่งหน้าไปแม่กลอง โดยในวันนี้ไม่พลาดเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว พวกเรามาถึงก่อนเวลา 07.00 ด้วยซ้ำไป แต่เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง ว่าทำไมวันนี้ถนนมันเปียกๆ เป็นหย่อมๆ ทั้งๆ ที่ฝนก็ไม่ตกสักหน่อย หลังจากแวะซื้อเสบียงที่ Lotus Express แถวๆ นั้น ก็ตั้งใจจะไปที่สถานีบ้านแหลม แต่คราวนี้เริ่มเห็นกันจะๆ ว่าน้ำเริ่มเอ่อขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ แล้วก็ไหลมาท่วมถนน .... เอาล่ะสิ เจอดีน้ำท่วมเข้าให้แล้ว พร้อมระดับน้ำก็เพิ่มเป็นระยะๆ

ขับรถลุยน้ำประมาณข้อเท้า มาถึงสถานีบ้านแหลม ก็ต้องตะลึง ตึง ตึง ตึง ตึง Shocked

เพราะว่าจากที่จอดรถ เราไม่สามารถเดินเข้าไปที่สถานีได้เลย เพราะโดนน้ำท่วมไปหมดแล้ว ระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า และมีทีท่าว่ามันจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ..... ว่าแล้ว ไอ้เสือถอย!!!! ขืนอยู่มีหวังได้จมไปกับน้ำท่วมแน่ๆ เพราะตอนนั้น ทุกอย่างจมหายไปกับสายน้ำอันเชี่ยวกรากเรียบร้อยแล้ว

จากเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จึงทำให้เราต้องเปลี่ยนแผน จากการรอขึ้นรถที่สถานีบ้านแหลม เป็นมารอขึ้นรถที่ที่หยุดรถท่าฉลอม หน้าวัดช่องลม เพราะเคยได้ยินจาก พขร. ว่า ถ้าน้ำท่วมบ้านแหลม รถก็จะวิ่งมาได้ถึงแค่ท่าฉลอมเท่านั้น โดยระหว่างทางที่ออกมา ก็ต้องพาเจ้าด่วนพิเศษถังแก๊ส ลุยน้ำที่ท่วมสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ใจนึงก็ลุ้นๆ อยู่ว่า จะพาลเข้าท่อไอเสีย จนทำให้เครื่องดับหรือไม่ โชคดีที่ยังหนีออกมาได้ทัน ไม่งั้นผมกับเจฟ มีเฮต้องลงไปเข็นรถแน่ๆ (อุตส่าห์แต่งองค์มาซะเต็มยศเลย) แต่กว่าจะหลุดจากบ้านแหลม มาถึงท่าฉลอมได้ ก็ลุ้นกันระลึก เพราะระดับน้ำสูงมากๆ ประมาณเกือบๆ ขอบฟุตบาท เวลาขับรถลุยน้ำ ก็รู้สึกว่ามีคลื่นมากระทบใต้ท้องรถเป็นระยะๆ บรรยากาศเหมือนขับเรือก็ไม่ปาน .... ระยะทางจากบ้านแหลมมาท่าฉลอมไม่ถึง 1 กม. แต่ผมรู้สึกว่ามันช่างไกลแสนไกลเหลือเกิน .... สุดท้ายก็มาถึงจนได้ พร้อมๆ กับเริ่มภารกิจโดยทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา อีกทั้งใกล้จะได้เวลาที่รถไฟมาแล้วด้วย

ลานจอดรถหน้าวัดช่องลม สูงๆ แบบนี้ น้ำท่วมไม่ถึงแน่ๆ ว่าแต่ว่ารถไฟจะเข้ามาได้มั้ยหว่า เพราะไอ้ที่ท่วมหนักๆ ก็คือทางรถไฟเสียด้วย เพราะแถวๆ นั้น ทั้งถนน และบ้านคน ต่างยกระดับสูงกว่ารถไฟทั้งนั้นเลย

(ภาพที่แสดงจะมาจากทั้งกล้องถ่ายรูปและกล้องวิดีโอนะครับ ดังนั้นอาจจะมีบางส่วนที่ไม่ชัดเจนนัก ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)

บริเวณทางตัดเข้าท่าเทียบเรือหน้าวัดช่องลม ตอนแรกๆ ที่เรามาถึง น้ำยังแทบไม่มี แต่สักพักเดียว ... จะเห็นว่าน้ำเริ่มซึมๆ มาแล้ว

Click on the image for full size

อีกมุมหนึ่ง บริเวณทางตัดเหมือนรูปข้างบน แต่คนละฝั่ง ... สภาพยังดีอยู่ เนื่องจากน้ำยังไม่ท่วมเท่าไหร่

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:30 pm Post subject:

สักพักเดียวไม่ถึง 20 นาที ... มันก็เริ่มมาแล้วครับ ค่อยๆ ไหลมาเรื่อยๆ .... มาเรื่อยๆ

Click on the image for full size

เผลอแป๊บเดียว ทางตัดเมื่อสักครู่นี้ก็มีสภาพอย่างที่เห็น ....

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:31 pm Post subject:

ไม่มีทีท่าว่าน้ำจะหยุดท่วมเลย ท่าทางวันนี้ต้องเจออุปสรรคลูกใหญ่กันเสียแล้ว

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:36 pm Post subject:

ทางรถไฟที่ยังแห้งๆ อยู่ในตอนแรก ก็โดนกับเขาด้วย

Click on the image for full size

ท่วมแบบนี้ ต้องมาลุ้นกันล่ะครับ ว่ารถไฟจะเข้ามารับเราได้รึเปล่า

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:42 pm Post subject:

หลังจากนั้นอีกไม่นาน ถนนหน้าวัดช่องลม ซึ่งถือเป็นถนนสายหลักของผู้คนแถวนั้น
ก็กลายเป็นคลองขนาดย่อมๆ ไปแล้ว .... น้ำลึกตั้งครึ่งเข่าเลยล่ะ

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:44 pm Post subject:

เอ.... แล้วอย่างนี้รถไฟจะเข้ามารับเราได้มั้ยเนี่ย ... ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าวันที่เราไป เป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูงมากที่สุดในรอบหลายๆ ปีเลยทีเดียว
..อะไรมันจะโชคดีได้ปานนั้น.... เวลา ณ ตอนนั้น ก็ประมาณ 07.30 น. ครับ ..... อ้ะนั่น ขบวน 4380 เที่ยวแรกจากแม่กลองมาแล้ว ได้เวลาเดินทางของเราเสียที
ว่าแต่ว่าทำไมจอดอยู่ตรงจุดตัดนานจัง แถมมีผู้โดยสารลงมากันเป็นกลุ่มใหญ่เลย

Click on the image for full size

น้ำลึกแค่ไหน ไม่ต้องบรรยายนะครับ สังเกตุจากหน้ารถเก๋ง คันที่กำลังข้ามทางรถไฟดูได้

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:47 pm Post subject:

หลังจากที่รออยู่ประมาณ 10 นาที ด้วยความหวังว่าขบวน 4380 น่าจะมาจอดที่ท่าฉลอมได้ แต่สุดท้ายก็แห้วครับ เนื่องจากน้ำท่วมสูงมากๆ โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดถนน ดังภาพด้านบน .... ในที่สุด พขร. ขบวน 4380 ก็ตัดสินใจ ถอยรถไปจอดรอที่จุดตัดอีกแห่งนึง ที่อยู่ก่อนหน้านี้ แล้วทำเป็น ขบวน 4381 มุ่งหน้าไปยังสถานีแม่กลองต่อไป ... โดยจะออกจากจุดตัดในเวลา 07.35 น.

ส่วนสองหนุ่มแห่งรถไฟไทยดอทคอม ก็ใบ้รับประทานสิครับ ...... พร้อมๆ กับ เสียงโวยวาย เบาๆ ในใจ ว่า "หนูถูกทิ้ง"

ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะโดนรถไฟทิ้งเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ... เฮ้อ ทำไงได้ มาผิดที่ผิดเวลา ก็ต้องช้ำใจอย่างนี้แหละ จากนั้นเราเลยไปหาปาท่องโก๋และกาแฟร้อนๆ รองท้องกันก่อนครับ ซึ่งก็ไม่ใกล้ไม่ไกลที่ไหน ก็แถวๆ หน้าวัดนั่นเอง ... เจ้าของร้านเขาก็ดูขำๆ ที่เห็นคนบ้าสองคนตกรถไฟ แต่ก็ยังพอใจชื้นขึ้นมานิดนึง เพราะเขาบอกว่า น้ำขึ้นแป๊บๆ เดี๋ยวสายๆ ก็ลงตามปกติแล้ว

กินๆ เดินๆ วนไปวนมา พร้อมๆ นั่งๆ ดูนาฬิกา ไปเรื่อยๆ จนเกือบจะ 10 โมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำจะลงแต่อย่างใด ดูท่าว่าหากเรายังคงรออยู่ที่ท่าฉลอม มีหวังได้ถูกรถไฟทิ้งรอบที่สองแน่ๆ จะเดินลุยน้ำไปขึ้นรถไฟ ก็กระไรอยู่ สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจ พึ่งคุณมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้ไปส่งยังจุดตัดที่ว่า ที่ขบวนรถไฟไปจอดรออยู่เมื่อเช้านี้ ประมาณว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม ตรูจะต้องไปแม่กลองกับรถไฟขบวนนี้ให้ได้

ภายใน 5 นาที ก็มาถึงครับ แต่ก็ต้องแลกด้วยการขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำ เล่นเอากางเกงเปียกถึงเข่าไปตามๆ กัน

Click on the image for full size

หนีน้ำท่วมมาขนาดนี้ ตั้งกิโลกว่าๆ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังหนีไม่พ้นนะเนี่ย

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:50 pm Post subject:

ปกติจุดตัดตรงนี้ ขบวนรถจะไม่จอดนะครับ แต่ดูท่าวันนี้จะต้องกลายมาเป็น สถานีต้นทาง/ปลายทางชั่วคราวเสียแล้ว

Click on the image for full size

ห่างจากสถานีบ้านแหลม 2 กิโล กับอีก 400 เมตร พอดีครับ

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:53 pm Post subject:

คุณพิธีกรจำเป็น กำลังก้มๆ เงยๆ มองหาอะไรอยู่เนี่ย

Click on the image for full size

อ้อ ... หาเนมเพล็ตของรางรถไฟนั่นเอง ถ้าดูไม่ผิด น่าจะอยู่ที่ปี 1932 นะครับ ... 73 ปี แล้วนะเนี่ย

Click on the image for full size

CivilSpice · Posted: 13/12/2006 1:57 pm Post subject:

เปลี่ยนมุมมอง มาดูแนวนี้บ้าง ในภาพคือเส้นทางที่มุ่งหน้าไปแม่กลอง .... ดูรวมๆ แล้ว น่าจะยังไม่โดนน้ำท่วม

Click on the image for full size