วันนี้ (16 ตุลาคม 2552 เวลา 8.30 น.) ที่ตึกบัญชาการรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้เชิญผู้บริหารระดับสูง เกี่ยวกับด้านการเดินรถระดมแก้ไขปัญหา กรณีพนักงานบางส่วน ที่ปากน้ำโพ, หาดใหญ่ และ ชุมพร ได้แสดงความเห็นว่าอุปกรณ์และสภาพรถจักรไม่มีความพร้อม จึงไม่ยอมปฏิบัติงาน ส่งผลให้ขบวนรถ ในส่วนภูมิภาค ต้องหยุดให้บริการ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ผู้ว่าการฯ จึงมอบให้ผู้บังคับบัญชาเบื้องต้น เร่งหาข้อยุติโดยเร่งด่วนแล้ว

     การรถไฟฯ ได้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะขบวนรถท้องถิ่น ที่หยุดวิ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดในเส้นทางสายใต้ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโกลก และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงแก่งคอย-บัวใหญ่ การรถไฟฯ ขอเรียนว่าปัจจุบันรถจักรของการรถไฟฯ มีสภาพการใช้งานมานาน ในการเตรียมความพร้อมรถจักรนั้น จะมีวิศวกรคอยตรวจความพร้อม ก่อนที่ขบวนรถจะออกให้บริการ หากตรวจสอบพบว่า มีอุปกรณ์หลักในการเดินขบวนรถมีความชำรุด ก็จะสั่งไม่ให้รถจักร นั้น ๆ ออกมาให้บริการ ส่วนอุปกรณ์ใดที่เป็นอุปกรณ์เสริม หากชำรุดไม่มากและสามารถให้บริการได้ ก็จะอนุญาตให้นำออกบริการประชาชน พร้อมให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

     กรณีพนักงานบางส่วน ได้ลงความเห็นว่าอุปกรณ์ในการเดินรถไม่มีความพร้อม และเป็นเหตุให้ไม่เดินขบวนรถนั้น การรถไฟฯ ได้มีวิศวกรคอยตรวจอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน และ ประชาชนผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ในโอกาสนี้ จึงขอความร่วมมือมายังผู้ปฏิบัติงานด้านขบวนรถ ให้ร่วมมือมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของการรถไฟฯ และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไป

     สำหรับขบวนรถที่ประกาศงดเดินในวันที่ 16 ตุลาคม 2552 มีดังนี้ รถท้องถิ่นที่ 431 (แก่งคอย - ขอนแก่น) ขบวนรถท้องถิ่น ที่ 433 (แก่งคอย- บัวใหญ่)ขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 (ชุมพร - หาดใหญ่) ขบวนรถท้องถิ่นที่ 446 (หาดใหญ่- ชุมพร) ขบวนรถเร็วที่ 175 (หาดใหญ่- สุไหงโกลก) นอกจากนี้ ยังมีรถสินค้าน้ำมันอีก 7 ขบวน ที่วิ่งมาถึงสถานีระหว่างทาง แล้วหยุดการเดินรถ โดยกลุ่มพนักงานอ้างว่า อุปกรณ์ไม่พร้อม ทั้ง ๆ ที่ได้ออกมาจากต้นทางแล้ว

     อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ กำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นักเรียน ข้าราชการ ในท้องถิ่นที่จะเดินทางในวันนี้(16 ตุลาคม 2552) โดยเร็ว การรถไฟฯจึงขออภัยผู้โดยสารมา ณ โอกาสนี้ โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์สายด่วน 1690

ที่มา : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 16/10/2552