ไม่ค่อยได้อัพเดตมาเป็นเวลานานแล้ว สำหรับรถไฟไทยวอลล์เปเปอร์ ในวันนี้จึงถือเป็น โอกาสอันดี ประเดิมการย้ายเซิร์ฟเวอร์ใหม่ ด้วย "รถไฟไทยวอลล์เปเปอร์ ในชุดที่ 8" ใหม่ล่าสุดแกะกล่อง ภาพคมชัด สีสดใส สะดุดตา แต่เจ้าของภาพ ยังคงเป็นยอดฝีมือคนเดิม ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือ คุณศุภสิทธิ์ โทนุสิทธิ์ หรือ น้องฟาง (Main_Reservoir) นั่นเอง ตัวจริงเสียงจริง ไม่มีตัวปลอม หรือมีการแอบอ้างชื่อ แต่อย่างใดครับ

     วอลล์เปเปอร์ในชุดนี้ มีทั้งหมด 20 ภาพ ในขนาด 1024 x 768 pixel ซึ่งสามารถดาวน์โหลด ไปแสดงผลบนหน้าจอ PC ของทุกท่าน ได้ทันที ซึ่งต้องขอขอบพระคุณ น้องฟาง สำหรับภาพวอลล์เปเปอร์สวยๆ ที่มอบให้เผยแพร่ ในเว็บไซต์ รถไฟไทยดอทคอม มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ดาวน์โหลดรถไฟไทยวอลล์เปเปอร์ ชุดที่ 8 ได้ที่นี่

     บทความของ อ.นคร จันทศร สำหรับสัปดาห์นี้ อาจจะมาให้อ่าน ช้ากว่ากำหนดเวลา ไปเล็กน้อย เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์รถไฟไทยดอทคอม กำลังอยู่ระหว่าง ทำการย้ายเซิร์ฟเวอร์ใหม่ จึงยังไม่ได้ อัพเดตข้อมูลของบทความครับ ซึ่งต้องขอภัยแฟนๆ ขาประจำ ณ โอกาสนี้ด้วย แต่ในวันนี้ การย้ายเซิร์ฟเวอร์ ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว บทความเรื่อง "ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น" ในตอนต่อไป ก็ออกมาให้ได้อ่านแล้วตามปกติ โดยในสัปดาห์นี้ เป็นตอนที่ 7 ซึ่งยังคงอยู่กับเรื่องของถไฟความเร็วสูงอีกเช่นเคย

     บทความชุดนี้ มีทั้งหมด 19 ตอน (เคยนำลงในหนังสือพิมพ์ Transport รายสัปดาห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) โดยเราจะทะยอย นำลงเผยแพร่ภายในเว็บไซต์ฯ สัปดาห์ละ 1 ตอน จนกว่าจะจบ ซึ่งสามารถติดตามได้จาก เมนูเนื้อหาสาระ และอยู่ในหัวข้อ บทความและสกู๊ปพิเศษ ครับ

     สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบพระคุณ อาจารย์นคร จันทศร สำหรับบทความชุดดังกล่าว ที่มอบให้เผยแพร่ ในเว็บไซต์ รถไฟไทยดอทคอม มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

เข้าชมบทความ ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น (ตอนที่ 7) ได้ที่นี่

     ยังอยู่ที่การแข่งขัน การเป็นเจ้าความเร็ว ของ Hi Speed Train ระหว่างฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ซึ่งประเทศ ที่มาทีหลังอย่างฝรั่งเศส ก็ได้นำเอาปรัชญาทางแนวคิด ที่ต่างออกไปจากปรัชญาของญี่ปุ่น มาประยุกต์ใช้งาน กับรถไฟความเร็วสูงของตัวเอง เพื่อให้ก้าวถึงคำว่าผู้นำของโลก ด้านรถไฟความเร็วสูง ซึ่งผลของแนวคิดที่ต่างนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ท่านสามารถติดตามได้ จากบทความในตอนใหม่ ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น ตอนที่ 6 โดย อาจารย์ นคร จันทศร ได้ที่นี่ครับ

     บทความชุดนี้ มีทั้งหมด 19 ตอน (เคยนำลงในหนังสือพิมพ์ Transport รายสัปดาห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) โดยเราจะทะยอย นำลงเผยแพร่ภายในเว็บไซต์ฯ สัปดาห์ละ 1 ตอน จนกว่าจะจบ ซึ่งสามารถติดตามได้จาก เมนูเนื้อหาสาระ และอยู่ในหัวข้อ บทความและสกู๊ปพิเศษ ครับ

     สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบพระคุณ อาจารย์นคร จันทศร สำหรับบทความชุดดังกล่าว ที่มอบให้เผยแพร่ ในเว็บไซต์ รถไฟไทยดอทคอม มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

เข้าชมบทความ ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น (ตอนที่ 6) ได้ที่นี่

     นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟฯ แจ้งว่า เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม 2550 นี้ การรถไฟฯ จะจัดเดินรถจักรไอน้ำพิเศษ ไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชมราชธานีศรีอยุธยา ราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ และเป็นราชธานียาวนานถึง 417 ปี พร้อมชมความงดงาม ทางสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ จนกระทั่งได้รับการประกาศจากยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นมรดกโลก

     หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ กล่าวว่าการรถไฟฯ ได้จัดเดินรถจักรไอน้ำพิเศษ กรุงเทพ – อยุธยา เพื่อให้ประชาชน ที่มีความรักรถไฟ ได้ย้อนรำลึกถึงอดีต ที่ประเทศไทย ได้เคยมีรถจักรไอน้ำ ใช้ตั้งแต่ สมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยจัดปีละ 3 ครั้ง คือวันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟฯ, วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช และวันที่ 5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปีนี้ การรถไฟฯ ได้จัดเดินรถจักรไอน้ำ เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน และ จะจัดให้เดินเป็นประจำทุกปีคือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม เนื่องจากมีผู้สนใจ สอบถามไปยังการรถไฟฯ เป็นจำนวนมาก ขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ ขบวนนี้ จะ ออกจาก สถานีกรุงเทพ เวลา 08.00 น. จอดรับนักท่องเที่ยวที่สถานีสามเสน, ชุมทางบางซื่อ 1, สถานีบางเขน, สถานีหลักสี่, สถานีดอนเมือง และสถานีบางปะอิน ถึงสถานีอยุธยาเวลา 10.10 น.

     เมื่อถึงสถานีแล้ว จะมีรถยนต์โดยสาร นำเที่ยว รอรับนักท่องเที่ยว เพื่อชมโบราณสถาน, สถาปัตยกรรม ได้เห็นวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวอยุธยา ชม วัดไชยวัฒนาราม สถาปัตยกรรม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากเขมร ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา, วัดสุวรรณดาราราม ชมภาพจิตรกรรมฝาผนั งแสดงพระราชประวัติ และพระกรณียกิจของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, วัดหน้าพระเมรุ นมัสการพระพุทธรูปทรงเครื่อง ที่งดงามที่สุดในประเทศไทย และ วัดใหญ่ชัยมงคล ชมเจดีย์แห่งชัยชนะ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฯลฯ เที่ยวกลับ ขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ จะออกจาก สถานีอยุธยาเวลา 17.25 น. ถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 19.20 น. ค่าโดยสารผู้ใหญ่ / เด็กราคาเดียว คนละ 120.-บาท และค่ารถยนต์นำเที่ยวคนละ 180.-บาท

     ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือ www.railway.co.th

ที่มา : กองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ : 22/06/2550

     หลังจากที่ได้ทราบ ว่าประเทศใด คือ ประเทศแรก ที่สร้างรถไฟความเร็วสูง จนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกไปแล้ว บทความในตอนต่อไปนี้ อ.นคร จันทศร จะกล่าวถึง เรื่องราวของรถไฟความเร็วสูง ในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในแถบยุโรป ทั้งประเทศอังกฤษ และฝรั่งเศส ที่ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง ตามแนวคิดของตัวเอง เพื่อให้ก้าวทัน ล้ำหน้า และเหนือกว่า ในการเป็นสุดยอด รถไฟความเร็วสูงของโลก มาดูกันว่า เทคโนโลยีของประเทศใด ที่สามารถไปได้ถึงดวงดาว กันได้บ้าง ในบทความ "ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น ตอนที่ 5 : รถไฟความเร็วสูง 2"

     บทความชุดนี้ มีทั้งหมด 19 ตอน (เคยนำลงในหนังสือพิมพ์ Transport รายสัปดาห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว) โดยเราจะทะยอย นำลงเผยแพร่ภายในเว็บไซต์ฯ สัปดาห์ละ 1 ตอน จนกว่าจะจบ ซึ่งสามารถติดตามได้จาก เมนูเนื้อหาสาระ และอยู่ในหัวข้อ บทความและสกู๊ปพิเศษ ครับ

     สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบพระคุณ อาจารย์นคร จันทศร สำหรับบทความชุดดังกล่าว ที่มอบให้เผยแพร่ ในเว็บไซต์ รถไฟไทยดอทคอม มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

เข้าชมบทความ ความคงเส้นคงวาแบบญี่ปุ่น (ตอนที่ 5) ได้ที่นี่