ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 01/10/2018 1:50 pm Post subject:

รฟท.ลุยประมูลโครงการระบบราง1.7แสนล้านส่งท้ายปี61
วันที่ 01 ตุลาคม 2561 เวลา 10:46 น.

รฟท.กดปุ่มประมูลโครงการระบบราง 1.7 แสนล้านบาทส่งท้ายปี 61 เปิดสเป็คทีโออาร์รถไฟไทย-จีน ให้เวลาก่อสร้าง 15 เดือน-คะแนนวิธีก่อสร้างมากสุด

Wisarut · Posted: 08/10/2018 12:05 pm Post subject:

‘ประยุทธ์’สั่งร.ฟ.ท. เร่งสนับสนุนท่องเที่ยว
ออนไลน์เมื่อ 6 ตุลาคม 2561
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ฉบับ 3,407 ระหว่างวันที่ 7-10 ตุลาคม 2561 หน้า 12

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบปะประชาชนและตรวจราชการเส้นทางการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ เน้นร.ฟ.ท.เร่งบูรณาการสนับสนุนการท่องเที่ยว

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้เร่งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวพร้อมเชื่อมโยงการเดินทางแบบไร้รอยต่อในโอกาสที่ลงพื้นที่พบปะประชาชนและตรวจราชการในเส้นทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการรถไฟ และคณะกรรมการรถไฟ คณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับประชาชนภายในโถงกลางสถานีกรุงเทพฯ หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 เชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบการขนส่งทางถนน ราง นํ้า และอากาศ โดยนายอาคมได้นำชมนิทรรศการและบรรยายความก้าวหน้าโครงการต่างๆ ต่อจากนั้นคณะนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อตรวจเส้นทางเชื่อมต่อจากจุดสถานีรถไฟไปยังท่าเรือ

โดยการรถไฟฯ ได้ปรับปรุงแนวเส้นทางการเดินเท้าของประชาชนที่สามารถมาจากสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง (MRT) หรือสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ไปยังท่าเรือ โดยขยับแนวแผงรั้วเหล็กบริเวณที่จอดรถของพนักงานรถไฟ เพื่อเปิดพื้นที่ขอบฟุตบาทให้ประชาชนสามารถสัญจรไปยังท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ที่อยู่ใกล้กับศูนย์บริการประชาชน สถานีตำรวจรถไฟนพวงศ์ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

Wisarut · Posted: 10/10/2018 1:02 pm Post subject:

ผลวิจัยชี้คนฝ่าฝืนสูบบุหรี่บนรถไฟกว่า 70% พบสายใต้ไป “หาดใหญ่” สูงสุด 88 รายต่อขบวน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 9 ตุลาคม 2561 15:36
ปรับปรุง: 9 ตุลาคม 2561 18:06

ศจย.ชี้ผลวิจัยพบนักสูบฝ่ายฝืนสูบบุหรี่บนรถไฟและชานชาลากว่า 70% สาย กทม.-หาดใหญ่-สุราษฎร์ฯ ครองแชมป์สูบ 88 รายต่อขบวน พบ 80% ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

พญ.เริงฤดี ปธานวนิช รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมการสูบและขายบุหรี่บริเวณชานชาลาและบนขบวนรถไฟในประเทศไทย ปี 2560 ที่สำรวจบริเวณสถานีรถไฟและบนขบวนรถไฟ ใน 4 เส้นทาง 72 ขบวน คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี โดยการสังเกตการณ์และสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง 578 ราย พบว่า 71% ของกลุ่มตัวอย่างพบเห็นการสูบบุหรี่บริเวณชานชาลา 67.4% พบเห็นการสูบบุหรี่บนขบวนรถไฟ และ 61.5% พบเห็นการจำหน่ายบุหรี่บนขบวนรถไฟ โดยรถไฟสายกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี ครองแชมป์ มีการพบเห็นการสูบบุหรี่บนขบวนรถไฟถึง 88 รายต่อขบวน

นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 80% ไม่ทราบว่าการสูบบุหรี่บริเวณชานชาลาและบนขบวนรถไฟผิดกฎหมาย ยิ่งกว่านั้นในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาวต่างชาติไม่ทราบว่าการสูบบุหรี่บริเวณชานชาลาและขบวนรถไฟผิดกฎหมายสูงถึง 98% จากการสำรวจพบว่าบนขบวนรถไฟยังไม่มีป้ายหรือเครื่องหมายแสดงเขตปลอดบุหรี่ในทุกตู้โดยสาร และพบว่ามีกลุ่มตัวอย่าง 33.3% ไม่เคยเห็นป้ายเตือนห้ามสูบบุหรี่บริเวณชานชาลาและขบวนรถไฟ

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผอ.ศจย.กล่าวว่า ขอสนับสนุนให้มีการเร่งรัดบังคับใช้กฎหมาย ห้ามขายห้ามสูบบุหรี่บนรถไฟและสถานีรถไฟ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพัฒนาระบบการทำงานเชิงรุกร่วมกันอย่างจริงจัง ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะส่งผลขยายพื้นที่ปลอดภัยทางสุขภาวะของประชาชน ให้คลอบคลุมถึงบนรถไฟและสถานีรถไฟซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่ต้องปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายกำหนดโทษผู้สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ไว้ไม่เกิน 5,000 บาท แต่หากผู้ดำเนินการไม่จัดให้มีเครื่องหมายแสดงเขตปลอดบุหรี่ให้ชัดเจนและสื่อสารรณรงค์ไม่ให้มีการสูบบุหรี่ในเขตห้ามสูบจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท

Mongwin · Posted: 12/10/2018 10:07 am Post subject:

ประกาศฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง จ้างเก็บเงินค่าใช้บริการและทำความสะอาดห้องสุขา ที่สถานีกรุงเทพ
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ รฟ.ดส.2510/454/2561
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=34193

การรถไฟแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะ ประกวดราคาจ้างเก็บเงินค่าใช้บริการและทำความสะอาดห้องสุขาที่สถานีกรุงเทพ

เก็บเงินค่าใช้บริการและทำความสะอาดห้องสุขาที่สถานีกรุงเทพ

ราคากลาง 6,350,040.00 บาท

ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น.
ผู้สนใจสามารถขอซื้อเอกสารประกวดราคาด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในราคาชุดละ 1,070.00 บาท ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์และชำระเงินผ่านทางธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 26ตุลาคม 2561 โดยดาวน์โหลดเอกสารผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายหลังจากชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงก่อนวันเสนอราคา
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.railway.co.th หรือ www.gprocurement.go.th หรือ สอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2220-4224 ในวันและเวลาราชการ

ประกาศ ณ วันที่ 4 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2561

( ลงนาม ) นายสุภัทร์ วรวัฒนนุทัย
( นายสุภัทร์ วรวัฒนนุทัย )
รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายบริการสินค้า รักษาการแทน
ผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร

สำเนาถูกต้อง
( นางพิศมัย กรแก้ว )
พนักงานบริหารงานทั่วไป 5
04/10/2561 16:14:10

Wisarut · Posted: 16/10/2018 6:13 pm Post subject:

สั่งซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 50 หลัง แบบ AC – AC ราง 1 เมตร โหลดเพลา 16 ตัน โดยผู้ประมูลต้องทำสิ่งนี้ได้

1. ส่งมอบครบ 50 หลัง ใน 915 วัน
2. ส่งมอบอย่างน้อย 20 หลังแรก ใน 480 วัน และที่เหลือ ใน 915 วัน
3. ส่งมอบช้าโดนปรับวันละ 0.1% ของราคารถจักร

http://www.railway.co.th/auction/tor/pdf/2561/61711892tor.pdf?fbclid=IwAR1SzZfCjJiJDz1pkHTvSe5InOx3i0raFGRv2W9m7WFgQ5kJehoAj9hV1Lc

ประกาศร่าง TOR ประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
เรื่อง : ประกวดราคาซื้อ รถจักรดีเซลไฟฟ้า (Diesel Electric Locomotive) น้ำหนักกดเพลา ๑๖ ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่ จำนวน ๕๐ คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
งบประมาณ/ราคากลาง : 6,562,500,000.00 บาท
สถานที่ติดต่อ :
งานจัดจ้าง กองการจัดหาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์และบริหารสัญญา ฝ่ายการพัสดุ ชั้น 2 อาคารที่ทำการฝ่ายการพัสดุ การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 รองเมือง ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
http://www.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=612164452&fbclid=IwAR3bRqoKnCz1vHQppG7UpmlDtTAo4FHVGy4UEa5BbawHNp7Jmryibjc7Uvg

Wisarut · Posted: 17/10/2018 4:34 pm Post subject:

หาวุ่น!3ขวบหลงแม่หวั่นรถไฟทับ เจอนอนหลับปุ๋ยริมทาง
จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561 เวลา 07.45 น.
เกิดเหตุไม่คาดฝันในสถานีรถไฟโพรงอากาศ จ.ฉะเชิงเทรา หลังหนูน้อยวัย 3 ขวบ เดินลงรถไฟไปพร้อมชาวบ้านก่อนหายตัวไป เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง ออกตามหานานกว่า 1 ชม. พบนอนอยู่ริมถนน เร่งส่งรพ.ดูอาการ

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงคืนวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางน้ำเปรี้ยว พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่รถไฟ ร่วมกันออกค้นหา ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ หลังจากพลัดหลงกับแม่ขณะลงจากรถไฟ ขบวนกทม. - กบินบุรี ที่สถานีรถไฟโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้นทราบว่า เด็กเดินลงมาพร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งก่อนจะหายตัวไป ทางเจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกค้นหาอยู่นานแต่ก็ไม่พบ โดยเฉพาะจุดรางรถไฟที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน หากมีรถไฟวิ่งมาก็อาจทับหนูน้อยรายนี้ได้

อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม. จึงพบร่างหนูน้อย นอนหลับอยู่ริมทาง ตรวจสอบเบื้องต้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด คาดว่าคงเดินหาแม่ไม่เจอจนอ่อนเพลีย เจ้าหน้าที่จึงพาตัวส่งรพ.บางน้ำเปรี้ยวเพื่อรักษาอาการ โดยแพทย์ระบุว่าเด็กไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มีอาการอ่อนเพลียเท่านั้น หลังจากนี้จะให้นอนพักดูอาการสักระยะ หากไม่มีอะไรผิดปกติก็จะให้กลับบ้านได้ทันที. ...

Wisarut · Posted: 22/10/2018 9:35 am Post subject:

รฟท.เร่งแผนย้ายโรงซ่อมบางซื่อ-มักกะสัน วางแผน 500กม.ใช้รถไฟฟ้าบริการ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561 20:30

รฟท.เร่งศึกษาแผนย้ายโรงซ่อมบางซื่อ,โรงงานมักกะสัน และเปลี่ยนรถจักรดีเซลไปเป็นรถไฟฟ้า “วรวุฒิ”เผย สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย๋เดินรถแทนหัวลำโพง วางยุทธศาสตร์ตลาดใหม่ขีดวงใช้รถไฟฟ้าบริการในรัศมี 300-500 กม. บนโครงข่ายทางคู่ ปลายทาง“โคราช,พิษณุโลก,หัวหิน,สุราษฎร์ “ คาดสรุปผลศึกษาลงทุนนำร่อง “กรุงเทพ-โคราช”

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.อยู่ระหว่างการศึกษาแผนการย้ายโรงซ่อมหัวรถจักรดีเซลบางซื่อ และโรงงานมักกะสัน และการปรับเปลี่ยน จากการใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซลเป็นไฟฟ้า โดยจากหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ไปใช้รถจักรไฟฟ้า (Electric Locomotive) และจากรถดีเซลราง (DMU) ไปเป็นรถชุดไฟฟ้า EMU (Electricfied Multiple Unit) ซึ่งทั้งเรื่องการเดินรถและแผนการปรับเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า คาดว่าจะสรุปนำเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.ในเร็วๆนี้

โดย ขณะนี้ฝ่ายช่างกลกำลังจัดทำแผน การย้ายโรงซ่อมบางซื่อและโรงงานมักกะสัน ซึ่งล่าสุดได้ชี้แจงให้เข้าใจถึงแนวทางการพัฒนารถไฟไทยในอนาคต ว่าจะไปในทิศทางใด ดังนั้นการกำหนดจุดของโรงซ่อมบำรุงจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้วย โดย เรื่องการเดินรถในอนาคตนั้น จะมีสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางแทนหัวลำโพง ทั้งรถสายสั้น รถทางไกล รถไฟฟ้าในเมือง รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง

และเมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่แล้วเสร็จ ตลาดผู้โดยสารรถไฟจะอยู่ตามแนวเส้นทาง โดยมีจุดยุทธศาสตร์สำคัญแรก รัศมี 100-200 กม. เช่น นครปฐม,ราชบุรี,ฉะเชิงเทรา ตลาดใหม่รัศมี 300-500 กม. ช่น นครราชสีมา,พิษณุโลก,ส่วนด้านใต้ ตั้งแต่หัวหิน,ชุมพร หรืออาจถึงสุราษฎร์ธานี ส่วนเส้นทางระยะไกล เกินกว่า 500 กม. จะไม่ใช่ตลาดหลักของรถไฟอีกต่อไป เพราะจะมีแค่นักท่องเที่ยวและคนสูงอายุ ขณะเดียวกัน ก็มีสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) เป็นคู่แข่ง

“รถไฟทางคู่แล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางในระยะ 300-500 กม. เช่น โคราช,หัวหิน,พษณุโลก เร็วขึ้นจากเดิม 4-5ชม. เหลือไม่ถึง 3 ชม. ซึ่งจะเป็นจุดขายของรถไฟที่มีความสะดวกมากขึ้นเมื่อมีสถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนและรถสาธารณะอื่นๆ “นายวรวุฒิ กล่าว

สำหรับ แผนการย้ายโรงงาน โรงซ่อมไปที่จุดใด จะต้องมองที่ตลาดการเดินรถไฟในอนาคต ซึ่งทั้งแก่งคอย ,ศิลาอาสน์,ทุ่งสง เป็นจุดโรงซ่อมเดิมที่เกาะอยู่ในแนวยุทธศาสตร์การเดินรถในอนาคต สามารถพัฒนาได้ เป็นโรงซ่อมรองรับรถดีเซลและรถไฟฟ้าใหม่ ขณะที่ รถจักรดีเซล หรือรถดีเซลราง ยังมีความเหมาะสมในการให้บริการเดินรถในเส้นทางรอบนอก และเส้นทางที่มีผู้โดยสารไม่มาก ส่วนบริเวณเชียงราก อาจจะเหมาะสมสำหรับรองรับการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ซึ่งอนาคตรถไฟสายสีแดง อาจจะวิ่งไปถึงอยุธยา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รถไฟได้ศึกษาการเดินรถไฟฟ้าเส้นทางนำร่อง ในเส้นทาง กรุงเทพ-โคราช โดยจะมีการลงทุนติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า บนเส้นทางรถไฟทางคู่ ซึ่งในการประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนติดตั้งระบบไฟฟ้า ว่าจะต้องมีความถี่ในการเดินรถในเส้นทางนั้น ไม่ต่ำกว่า 80 ขบวนต่อวัน. ซึ่งกรุงเทพ-โคราชเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแนวเส้นทางนี้ มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง

Mongwin · Posted: 23/10/2018 2:55 pm Post subject:

วันปิยมหาราช การรถไฟฯจัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำสัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ-อยุธยา
ไทยโพสต์ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:19 น.

23 ต.ค.61-การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การรถไฟฯ ได้นำรถจักรไอน้ำมาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางระหว่างสถานีกรุงเทพถึงสถานีอยุธยา เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยรถจักรไอน้ำที่ใช้ทำขบวนลากจูงในครั้งนี้ คือรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี เพื่อใช้ลากจูงขบวนที่จัดเดินในโอกาสพิเศษ และในวันสำคัญ ๆ โดยใน 1 ปี จะนำออกมาให้บริการประชาชน จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย
1. วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

2. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

3. วันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพ – นครปฐม

4. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

5. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล-อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

ในส่วนของกิจกรรมในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 901/902 ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง

ส่วนเที่ยวกลับจะออกจากสถานีอยุธยาเวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพเวลา 18.40 น.

สำหรับสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – อยุธยา ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ ก็สามารถบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ สำหรับรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวขบวนพิเศษนี้มีให้บริการด้วยกัน 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 "นั่งรถจักรไอน้ำ ดื่มด่ำบรรยากาศวันวาน" อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ)

แบบที่ 2 เดินทางด้วยรถไฟพร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 1,250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารเที่ยง อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม ของที่ระลึก พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ และค่ารถบัสปรับอากาศ ค่ามัคคุเทศก์ ค่าประกันภัย และมีเจ้าหน้าที่ดูแล อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง)

ผู้โดยสารสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ในโอกาสต่อไปที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย.

Mongwin · Posted: 23/10/2018 2:56 pm Post subject:

วันปิยมหาราช การรถไฟฯจัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำสัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ-อยุธยา
ไทยโพสต์ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:19 น.

23 ต.ค.61-การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การรถไฟฯ ได้นำรถจักรไอน้ำมาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางระหว่างสถานีกรุงเทพถึงสถานีอยุธยา เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยรถจักรไอน้ำที่ใช้ทำขบวนลากจูงในครั้งนี้ คือรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี เพื่อใช้ลากจูงขบวนที่จัดเดินในโอกาสพิเศษ และในวันสำคัญ ๆ โดยใน 1 ปี จะนำออกมาให้บริการประชาชน จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย
1. วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

2. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

3. วันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพ – นครปฐม

4. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

5. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล-อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

ในส่วนของกิจกรรมในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 901/902 ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง

ส่วนเที่ยวกลับจะออกจากสถานีอยุธยาเวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพเวลา 18.40 น.

สำหรับสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – อยุธยา ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ ก็สามารถบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ สำหรับรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวขบวนพิเศษนี้มีให้บริการด้วยกัน 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 "นั่งรถจักรไอน้ำ ดื่มด่ำบรรยากาศวันวาน" อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ)

แบบที่ 2 เดินทางด้วยรถไฟพร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 1,250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารเที่ยง อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม ของที่ระลึก พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ และค่ารถบัสปรับอากาศ ค่ามัคคุเทศก์ ค่าประกันภัย และมีเจ้าหน้าที่ดูแล อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง)

ผู้โดยสารสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ในโอกาสต่อไปที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย.

Mongwin · Posted: 23/10/2018 2:56 pm Post subject:

วันปิยมหาราช การรถไฟฯจัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำสัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ-อยุธยา
ไทยโพสต์ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:19 น.

23 ต.ค.61-การรถไฟฯ จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช สัมผัสเส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – พระนครศรีอยุธยา

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 การรถไฟฯ ได้นำรถจักรไอน้ำมาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวในเส้นทางระหว่างสถานีกรุงเทพถึงสถานีอยุธยา เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยรถจักรไอน้ำที่ใช้ทำขบวนลากจูงในครั้งนี้ คือรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี เพื่อใช้ลากจูงขบวนที่จัดเดินในโอกาสพิเศษ และในวันสำคัญ ๆ โดยใน 1 ปี จะนำออกมาให้บริการประชาชน จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย
1. วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

2. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

3. วันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ เส้นทางกรุงเทพ – นครปฐม

4. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

5. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล-อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

ในส่วนของกิจกรรมในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ ขบวนที่ 901/902 ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.15 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 6 ชั่วโมง

ส่วนเที่ยวกลับจะออกจากสถานีอยุธยาเวลา 16.30 น. ถึงกรุงเทพเวลา 18.40 น.

สำหรับสถานีที่หยุดรับ - ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – อยุธยา ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ ก็สามารถบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ สำหรับรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวขบวนพิเศษนี้มีให้บริการด้วยกัน 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 "นั่งรถจักรไอน้ำ ดื่มด่ำบรรยากาศวันวาน" อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ)

แบบที่ 2 เดินทางด้วยรถไฟพร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว อัตราค่าโดยสาร ไป - กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 1,250 บาท (บริการอาหารเช้า อาหารเที่ยง อาหารว่างทั้งเที่ยวไป - กลับ น้ำดื่ม ของที่ระลึก พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ และค่ารถบัสปรับอากาศ ค่ามัคคุเทศก์ ค่าประกันภัย และมีเจ้าหน้าที่ดูแล อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง)

ผู้โดยสารสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ในโอกาสต่อไปที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย.