View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 26/01/2007 10:28 pm Post subject: |
|
|
แนะผู้ประกอบการเร่งเสริมประสิทธิภาพลอจิสติกส์/ชี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน-สร้างผลกำไร
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2550 19:39 น.
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ลอจิสติกส์ สภาพัฒน์ แนะผู้ประกอบการเร่งเพิ่มประสิทธิภาพระบบการรับส่งดูแลสินค้าและบริการ เพื่อช่วยเพิ่มผลกำไรและขีดความสามารถในการแข่งขัน หลังพบต้นทุนลอจิสติกส์ไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด เหตุส่วนใหญ่กว่า 80% ใช้การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกที่มีประสิทธิภาพต่ำแต่ต้นทุนสูง ขณะเดียวกัน หนุนใช้ระบบรางรถไฟขนส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือเพื่อลดต้นทุน
วันนี้ (26 ม.ค.) ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดการสัมมนาเรื่อง การยกระดับลอจิสติกส์เพิ่มศักยภาพการแข่งขันสู่สากล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามโครงการ Logistics Awarness เพื่อให้ความรู้ในการนำกระบวนการลอจิสติกส์ไปเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในองค์กร
นายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ลอจิสติกส์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ในประเทศไทยเพิ่งมีการตื่นตัวให้ความสำคัญกับระบบลอจิสติกส์ และเริ่มมีการพัฒนาผลักดันให้เป็นนโยบายของประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้เอง ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบลอจิสติกส์ว่าเป็นเพียงเรื่องของการขนส่งสินค้าเท่านั้น
ทั้งที่ในความหมายที่แท้จริง จะหมายถึงการระบบการรับส่งดูแลสินค้าและบริการทุกขั้นตอนที่สินค้ามีการเคลื่อนไหว ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่มีผลต่อผลการประกอบการ เพราะต้นทุนที่ลดได้จากการใช้ระบบลอจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพทั้ง 100% จะแปรเปลี่ยนเป็นผลกำไรในการประกอบการทั้งหมด ในขณะที่การเพิ่มราคาสินค้าอาจจะเพิ่มผลกำไรให้ได้เพียงประมาณ 10-20% เท่านั้น
สำหรับต้นทุนลอจิสติกส์ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกาแล้ว ถือว่ามีต้นทุนที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีข้อเสียเปรียบในการแข่งขัน ทั้งนี้ปัญหาสำคัญที่ทำให้ต้นทุนลอจิสติกส์ในประเทศไทยสูงกว่าเป็นเพราะการขนส่งสินค้าของไทยใช้การขนส่งด้วยรถบรรทุกมากกว่า 88% ทั้งๆ ที่เป็นวิธีการขนส่งที่ด้อยประสิทธิภาพที่สุด เพราะใช้พลังงานมากที่สุดแต่กลับขนส่งสินค้าได้น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งด้วยวิธีอื่น เช่น ทางเรือ หรือ ทางรถไฟ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ในการใช้พลังงานเท่ากันจะพบว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุกมีต้นทุนที่สูงกว่าการขนส่งทางเรือมากถึง 8 เท่าตัว
ส่วนยุทธศาสตร์การพัฒนาลอจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันของประเทศไทยนั้น นายสุริยนต์ กล่าวว่า ในระดับย่อยได้พยายามส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพตั้งแต่ในระดับโรงงานผลิตสินค้าให้มีการบริหารจัดการให้ดีที่สุด ขณะที่ในระดับประเทศทางภาครัฐได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งในประเทศอย่างบูรณาการ เพื่อใช้ประโยชน์ให้ได้สูงสุดจากเครือข่ายเส้นทางการขนส่งต่างๆ ที่มีอยู่ รวมทั้งการพัฒนาเพิ่มขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ในระดับระหว่างประเทศ ได้กำหนดที่จะต้องยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการอำนวยความสะดวกทางการค้า ด้วยการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดขั้นตอนต่างๆ ที่ยุ่งยาก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ลอจิสติกส์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาลอจิสติกส์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่า จะต้องพิจารณาประกอบว่าสินค้าและผลผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของพื้นที่คืออะไร เพื่อจะได้สามารถทำการพัฒนาลอจิสติกส์ได้อย่างเหมาะสม
ส่วนกรณีการขนส่งสินค้าจากเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน เห็นว่า หากสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบรางรถไฟที่มีอยู่ในการขนส่งสินค้าแทนรถบรรทุกได้ เชื่อว่าจะสามารถลดต้นทุนได้อีกหลายเท่าตัว ซึ่งในอดีตทราบว่าได้เคยมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วเพียงแต่ปัจจุบันยังไม่มีการนำมาใช้จริงเท่านั้น ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าอาจจะเป็นเพราะข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนหัวจักรรถไฟที่มีไม่เพียงพอ และใช้เพื่อการขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 26/01/2007 10:47 pm Post subject: |
|
|
หุห...งานนี้ข้าเจ้ารอดตัว ท่านเตชะ กะ ท่าน ผอ.สุริยนต์ ไปเป็นวิทยากรนิ.....
แต่งานหน้า ไม่แน่อะ.....ว่าหวยอาจจะมาออกแถวนี้...
ว่าแต่เฮียวิศ
ไม่มีข่าวที่ระยองจัดการเรียนรู้ระบบโลจิสติกส์ในระดับมัธยมด้วยแหนะ
ว่างๆ จะหาพรีเซน มาให้หละกัน.... อะ |
|
Back to top |
|
|
GEA4548
2nd Class Pass
Joined: 10/12/2006 Posts: 594
Location: กรุงเทพฯ
|
Posted: 27/01/2007 8:01 am Post subject: |
|
|
เสียงจากน้องๆมาอีกคนนึงครับ
ผมว่านะครับปัญหามันอาจจะดูเหมือนมีน้อยนะครับแต่มันก็ปัญหาใหญ่ๆทั้งนั้น ซึ่งเรื่องต่างๆทั้งหมดยังไงก็ต้องผ่านรัฐบาลอยู่ดี เพื่อของบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ผมไม่เข้าใจอยู่อย่างว่า ทำไมงบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชนคนไทยเนี่ย ถึงได้เอาไปสร้างถนนตั้งเยอะตั้งแยะ ทั้งๆที่ระบบการขนส่งของบ้านเรามีอีกตั้งหลายอย่าง (ไม่นับเครื่องบินเพราะเป็นเอกชน) รถไฟเอย เรือเอย แต่ดูเหมือนเราจะได้ถนนมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถนนมากขึ้นเท่าไหร่ คนจะยิ่งซื้อรถยนต์มากขึ้นเท่านั้น ประชาชนก็เลยได้ช่วยซดน้ำมันไปเรื่อยๆ ซดจน จน จน จน ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่พอสมควรนะครับ สำหรับทางแก้นั้น ก็ต้องเสนอรัฐบาลหละครับ
ปัญหาต่อไปคือ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะนำเงินงบประมาณมาลงทุนให้การรถไฟ ผมเชื่อแน่ว่า ถ้าไม่ซื้อของจีนแดง ก็ของเหลือจากเค้า เพราะข้ออ้างที่ว่า ค่าใช้จ่ายมันสูง ซึ่งในจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่ามันสูงถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถเอาเงินมาลงทุนกันได้เลยเหรอครับ หากรัฐบาลสามารถเก็บภาษีเพิ่มได้คนละ 1 บาทก็ได้ตั้ง 60 กว่าล้านบาท ถ้าเก็บเพิ่มคนละ 10 บาท ก็ได้ตั้งเท่าไหร่แล้ว สำหรับคนที่มีรายได้น้อยก็เก็บเพิ่มน้อย คนที่มีรายได้มากๆก็เก็บมากๆ แค่นี้ก็ได้เงินเพิ่มแล้วครับ รัฐจะทำอะไรก็ต้องเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งนั้น ไม่ใช่เห็นแก่ตัว
ซึ่งปัญหาที่ตามมาของข้อที่ผ่านมาคือ รถไฟการเป็นระบบขนส่งที่มีความล้าสมัยมากถ้าเทียบกับ การขนส่งทางด้านอื่น รถบรรทุก 1 คันสามรถขนของได้เท่าไหร่ แต่รถไฟสามารถขนของได้ไปอีกหลายเท่าตัว ตรงจุดนี้ทำไมรัฐบาลเค้าไม่เห็นคุณค่ากันบ้างเลย
ปัญหาต่อไปคือ เมื่อรัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาน้อย ก็จะทำให้การรถไฟไม่สามารถสั่งซื้อรถจักรที่มีกำลังสูงที่ให้เพื่อลากขบวนที่ยาวๆมาได้ ก็เลยทำให้เราต้องใช้รถจักรอย่างที่เห็นกันอยู่นี่แหละครับ
ปัญหาทุกอย่างมันเชื่อโยงกันทั้งนั้นแหละครับ ถ้าเราดูให้ลึกเราจะรู้ว่าปัญหาทั้งหมดนั้น มันต้องคิดอีกเยอะ ไหนจะเรื่องการทุจริตต่างๆ แล้วอีกมากมายที่เป็นปัญหาภายใน เรื่องการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง แล้วอีกเพียบ
ปล.ถ้าผมเขียนตรงไหนผิดก็รบกวนพี่ๆช่วยบอกด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
anusorn
1st Class Pass (Air)
Joined: 04/09/2006 Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์
|
Posted: 27/01/2007 11:38 am Post subject: |
|
|
อ่า ขอร่วมลงความเห็นด้วยคนนะครับ
1. ตราบใดที่ Local Road ผุดขึ้นทุกที่ทุกทางในประเทศไทยจะทำให้คนใช้รถไฟน้อยลงแน่นอน เพราะ
1.1 ระบบล้อยางจะขนสินค้าเข้าไปถึงในโรงงานอุตสาหกรรมใกล้ทางรถไฟได้สะดวกกว่ากว่าระบบล้อเหล็กทำให้จุดแยกย่อยๆ ค่อยๆ มลายหายสูญไปทุกที หรือสถานีที่มีจุดขนถ่ายก็ร้างไป ก็เมื่อก่อนไม่มี Local Road รถไฟจึงได้เปรียบ
1.2 เมื่อใดมีถนนคนจะต้องเรียกร้องหารถประจำทาง และเมื่อมี Local Road ก็จะต้องมีรถประจำทางใน Local Road แล้วใครจะมานั่งรอรถไฟ ที่นานๆ กว่าจะมาสักขบวน ขณะที่ราชรถสองแถวบีบแตร เปิดไฟ มาเกยถึงที่ทุกๆ 5 นาที
ขอเสนอวิธีแก้เผ็ด
สร้างระบบ Ring Local Rail สร้างทางรถไฟ(รฟท หรือ รถไฟฟ้าก็ได้)ขนานไปกับถนนวงแหวนรอบนอกวิ่งวน รังสิต-บางบัวทอง-บางแค-พระราม2-พระประแดง-สมุทรปราการ-รามอินทรา-รังสิต แล้วเชื่อมต่อกับจุดข้างในที่เป็นเครือข่ายรถไฟฟ้า เป็นใยแมงมุม ลองคิดดูว่าเวลา ชั่วโมงเร่งด่วนยามรถติด จากบางแคไปสมุทรปราการแบบวิ่งยาวรวดเดียวจะใช้เวลากี่นาที เสียค่าโดยสารกี่บาท ถ้าเทียบกับการจราจรปัจจุบัน
พูดถึงเรื่องการจะเลือกใช้น้ำมันหรือไฟฟ้าอยากขอลองถามดูเล่นๆ ให้ชาวรถไฟได้วิเคราะห์กันสักนิดว่าถ้าเราอยากต้มน้ำสักกาหนึ่งให้เดือดแบบช่วยชาติประหยัดพลังงานจะเลือกต้มแบบใดระหว่าง
ก. ใช้กาไฟฟ้า
ข. ใช้เตาแก๊ส
อย่าลืมนะครับว่าในการเปลี่ยนรูปของพลังงานจะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานระหว่างกระบวนการเสมอ |
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 27/01/2007 12:48 pm Post subject: |
|
|
GEA4548 wrote: |
ผมว่านะครับปัญหามันอาจจะดูเหมือนมีน้อยนะครับแต่มันก็ปัญหาใหญ่ๆทั้งนั้น ซึ่งเรื่องต่างๆทั้งหมดยังไงก็ต้องผ่านรัฐบาลอยู่ดี เพื่อของบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ผมไม่เข้าใจอยู่อย่างว่า ทำไมงบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชนคนไทยเนี่ย ถึงได้เอาไปสร้างถนนตั้งเยอะตั้งแยะ ทั้งๆที่ระบบการขนส่งของบ้านเรามีอีกตั้งหลายอย่าง (ไม่นับเครื่องบินเพราะเป็นเอกชน) รถไฟเอย เรือเอย แต่ดูเหมือนเราจะได้ถนนมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถนนมากขึ้นเท่าไหร่ คนจะยิ่งซื้อรถยนต์มากขึ้นเท่านั้น ประชาชนก็เลยได้ช่วยซดน้ำมันไปเรื่อยๆ ซดจน จน จน จน ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่พอสมควรนะครับ สำหรับทางแก้นั้น ก็ต้องเสนอรัฐบาลหละครับ
ปัญหาต่อไปคือ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะนำเงินงบประมาณมาลงทุนให้การรถไฟ ผมเชื่อแน่ว่า ถ้าไม่ซื้อของจีนแดง ก็ของเหลือจากเค้า เพราะข้ออ้างที่ว่า ค่าใช้จ่ายมันสูง ซึ่งในจุดนี้ผมก็ไม่ทราบว่ามันสูงถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถเอาเงินมาลงทุนกันได้เลยเหรอครับ หากรัฐบาลสามารถเก็บภาษีเพิ่มได้คนละ 1 บาทก็ได้ตั้ง 60 กว่าล้านบาท ถ้าเก็บเพิ่มคนละ 10 บาท ก็ได้ตั้งเท่าไหร่แล้ว สำหรับคนที่มีรายได้น้อยก็เก็บเพิ่มน้อย คนที่มีรายได้มากๆก็เก็บมากๆ แค่นี้ก็ได้เงินเพิ่มแล้วครับ รัฐจะทำอะไรก็ต้องเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งนั้น ไม่ใช่เห็นแก่ตัว
|
ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่าตามหลักแล้วการจัดหารถจักรหรือล้อเลื่อนต่างๆควรเป็นภาระของการรถไฟฯเองครับ ไม่ใช่นำเงินภาษีมาใช้ เพียงแต่ปัญหาตอนนี้มันอยู่ที่ว่าการรถไฟมีขีดความสามารถในการลงทุนจัดหาสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่เพียงพอ แล้วถ้าจะถามต่อไปว่าทำไมการรถไฟฯจึงทำไม่ได้ คำตอบก็คงเป็นหนังเก่าที่เอามาฉายใหม่นั่นแหละครับ ประเด็นหลักก็คือการที่การรถไฟฯมีภาระไม่เพียงแต่ด้านการเดินรถเท่านั้น แต่ยังต้องรับภาระในการก่อสร้าง บำรุงรักษา และซ่อมแซมเส้นทางด้วย ในขณะที่การขนส่งรูปแบบอื่นไม่ต้องรับภาระ หรือถ้าจะมีก็เป็นแค่ค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมนิดหน่อย เพราะภาระส่วนหนึ่งรัฐบาลเข้ามาช่วยรับภาระให้ สำหรับการรถไฟนั้นรัฐจะยื่นมือมาช่วยก็ตอนที่ปัญหาหนี้สินสะสมมีมากเกินไป ก็เข้ามาแก้ปัญหาทีนึงครับ ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาระยะยาวแต่อย่างใด |
|
Back to top |
|
|
GEA4548
2nd Class Pass
Joined: 10/12/2006 Posts: 594
Location: กรุงเทพฯ
|
Posted: 30/01/2007 12:10 am Post subject: |
|
|
หากว่าผมเข้าใจผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
แต่ถ้าพูดถึงแล้วยังไงๆภาครัฐก็ต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยและต้องมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้รถไฟยังไม่ใช่เป็นของเอกชนหนิครับ เพราะฉะนั้นเงินภาษีของประชาชนก็น่าจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาได้ไม่มากก็น้อยส่วนเรื่องการบำรุงรักษานั้น ภาครัฐก็ต้องมีบทบาทอีกเช่นกันครับ ไม่ใช่มาช่วยแค่ตอนที่รถไฟมีภาระหนี้สินล้นมือ
สรุปสุดท้ายคือถึงแม้ภาครัฐไม่ได้มาเกี่ยวข้องในหลายๆด้านของการรถไฟโดยตรง แต่รถไฟก็ยังเป็นของประชาชน เพราะฉะนั้นภาครัฐต้องมีส่วนร่วมให้มาก โดยที่ต้องมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม
ในอนาคตข้างหน้าพวกเราทุกคนคงจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีของการรถไฟบ้างไม่มากก็น้อย
-ยังไงก็รักรถไฟ-
FEWZ(GEA4548) |
|
Back to top |
|
|
|