Rotfaithai.Com :: View topic - การกู้เงินสำหรับกรมรถไฟ - การรถไฟ
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 18/10/2008 11:27 pm Post subject: งบประมาณเพื่อการลงทุนกรมรถไฟ เพื่อสร้างทางขนาด 1 เมตร
ปี 2462 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 248,050 บาท แต่จ่ายจริงเพียง 5627.38 บาท สาย โคราช - อุบลราชธานี 271,425 บาท เพื่อซื้อที่ดิน แต่จ่ายจริง 15968.02 บาท
ปี 2463 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 2,895,750 บาท แต่ตั้งบ 3,000,000 บาท แต่จ่ายจริง 718,082.16 บาท เพราะติดปัญหาเรื่องรถขาดมือ
สาย โคราช - อุบลราชธานีกะว่าจะจ่าย 3,222,725 บาท แม้ตั้งงบจริง 2,972,000 บาท แต่จ่ายจริง 3,893,035.82 บาท เริ่มการหักร้างถางพง และทำทางถาวร
ปีนี้เริ่มมีการวางประแจพิเศษพร้อมราง 3 สาย กรุงเทพ - แปดริ้ว หมดไป 32815.63 บาท และได้เริ่มซื้อที่ดินเพื่อทำทางจาก บางซื่อ ไปตลิ่งชัน หมดไป 5975.43 บาท
ปี 2464 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 4,224,000 บาท แต่โดนตัดเหลือเพียง 2,598,000 บาท แต่จ่ายจริง 1,353,824.32 บาท สาย โคราช - อุบลราชธานี 3,450,700บาท แต่ตั้งงบไป 3,958,000 บาท แต่จ่ายจริง 2,708,874.38 บาท ทำทางถาวร และเริ่มโรยหินให้ได้อย่างน้อย 3 ชั้น ก่อนอัดหินแล้ววางไม้หมอนและราง
เริ่มลงมือติดตั้งรางที่ 3 และประแจพิเศษ ให้สายตะวันออก 330,000 บาท แต่จ่ายจริง 224511.81 บาท ปีนี้ทำพิธีตรึงหมุดที่สถานีแปดริ้วแห่งใหม่ที่ กม. 61 เมื่อ 5 มกราคม 2464 และ เริ่มทำทางจาก บางซื่อ ไปตลิ่งชัน ตั้งงบ 300,000 บาท แต่จ่ายจริง 29158.96 บาท
ปี 2465 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 3,423,772 บาทแต่ได้งบเพียง 2,721,000 บาท แต่จ่ายจริง 1,602,253.49 บาท
สาย โคราช -อุบลราชธานี 5,634,156 บาท ได้ได้งบ 2,836,000 บาท แต่จ่ายจริง 3,055,023.47 ทำทางถาวร และเริ่มโรยหินให้ได้อย่างน้อย 3 ชั้น ก่อนอัดหินแล้ววางไม้หมอนและราง
พร้อมติดตั้งรางที่ 3 และประแจพิเศษ ให้สายโคราช 316,893 บาท แตจ่ายจริง 172,741.64 บาท ปีนี้เปิดทางไปท่าช้าง 1 พฤศจิกายน 2465 โดยรถจักร อี-คลาส ซึ่งไปถึงโคราช แต่ต้นปี 2465 และได้รื้อรางที่ 3 สายแปดริ้ว หมดแล้ว เดือน ธันวาคม 2465 บริษัท ไดเด เริ่มทำงานสร้างสะพานพระราม 6 โดยตั้งงบ 1,500,000 แต่ จ่ายจริง 413589.72 บาท
ปี 2466 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 2,111,450 บาท แต่ได้งบ 3,525,000 บาท แต่จ่ายจริง 1975959.56 บาท สาย โคราช - อุบลราชธานี 3,020,600 บาท แต่ได้งบ 4,170,800 บาท เพื่อทำทางถาวร และเริ่มโรยหินให้ได้อย่างน้อย 3 ชั้น ก่อนอัดหินแล้ววางไม้หมอนและราง
ปีนี้ติดตั้งรางที่ 3 และประแจพิเศษให้สายเหนือ เป็นเงิน 256,082 บาท แต่ตั้งงบจริง 412,000 บาท แต่จ่ายจริง 136,436.60 บาท และ กรมหลวงกำแพงเพชรฯ วางหีบพระฤกษ์เมื่อ 8 เมษายน 2466 เพราะ ร.6 ท่านติดภารกิจในวังหลวง
นอกจากนี้ได้มีการจ่ายเงิน 239,000 บาท จัดซื้อที่ดินจาก กม.267 ไปถึง กม.450 ทางสายโคราช - ชนบท (ต่อมาเปลี่ยนเป็น โคราช - ขอนแก่น เพราะขอนแก่นกำลังรุ่ง แต่ ชนบทกำลังโรย) ปีนี้ ออกเงินสร้างสะพานพระราม 6 ไป 2,338,200 บาท แต่จ่ายจรริง 1,514,690.16 บาท
ปี 2467 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 639,650 บาท ตั้งงบ 286,100 บาท เพื่อปรับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ สาย โคราช - อุบลราชธานี 2,215,950 บาท ตั้งงบ 286,100 บาท เพื่อปรับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เพื่อทำทางถาวร และเริ่มโรยหินให้ได้อย่างน้อย 3 ชั้น ก่อนอัดหินแล้ววางไม้หมอนและราง พร้อมติดตั้งรางที่ 3 และประแจพิเศษให้สายเหนือ พร้อมรื้อรางที่ 3 ออกไปใช้สร้างทางสาย โคราช - อุบลฯ 273,436 บาท
นอกจากนี้ได้มีการจ่ายเงิน 1,390,400 บาท เริ่มงานหักร้างถางพงทำงานดิน ทางสายโคราช - ชนบท (ต่อมาเปลี่ยนเป็น โคราช - ขอนแก่น เพราะขอนแก่นกำลังรุ่ง แต่ชนบทกำลังโรย) ปีนี้เดินรถ อี-คลาส ไปถึงบ้านหมี่
ปี 2468 แม้จะประมาณกันว่าทางจะไปถึงอรัญประเทศ ตั้งแต่ปี 2467 แต่เปิดการเดินรถจริงเพียงกบินทร์บุรี เพราะคนรถไฟ และผู้รับเหมาโดนไข้ป่า เล่นงานเอาตายไป 4 คน และ เจ็บอีกนับร้อย แถวสระแก้ว ปีนี้ เปิดเดินรถถึงบุรีรัมย์ เมื่อ 1 เมษายน 2468 เริ่มสร้างย่าน สถานีจากบุรีรัมย์ ถึงสุรินทร์ เพราะทางรถไฟไปถึงสุรินทร์แล้ว โดยใช้งบ 969,100 บาท ส่วนการสร้างทางจากโคราช ไป ขอนแก่น ใช้เงิน 2,100,000 บาท แต่ได้จริงไม่ถึง เพราะต้องตัดทอนงบประมาณไปมาก ส่วนการรื้อรางที่ 3 ทำแล้วจากโคราช ไปแก่งคอย ตอนนี้ ย่านที่มีรางแบบ Mixed มีถึงอุตรดิตถ์ หมดเงินไป 222,504 บาท เพราะเริ่มกระบวนการแปลงล้อ ให้เอารถเก่ารางมาตรฐานไปใช้ทางสาย โคราช - อุบลฯ คู่กับ อี-คลาส เพราะ บอลด์วิน และ บาติกญอล เริ่มใช้กับทางสายใต้
ปี 2469 เปิดเดินรถถึงอรัญประเทศได้เสียที เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2469 หลังเปิดเดินรถถึงสุรินทร์เมื่อ 1 เมษายน 2469 และ เปิดสะพานพระราม 6 เมื่อ 1 มกราคม 2469 หลังล่าช้าไปหลายปี เพราะวางถังเคซองพลาดไม่ลงที่ เมื่อปี 2467 ทำให้ต้องวางถังใหม่
ปีนี้ ลงทุนสายโคราช - อุบลฯ 332,200 บาท เพราะคาดว่า ทางจะไปถึงอุบลฯ ปีนั้น แต่ กว่าทางจะไปถึงอุบลฯ จริง ก็ปลายปี 2472 และ เปิดใช้งาน 1 เมษายน 2473 เพราะ โดนตัดทอนงบประมาณให้เข้าดุลย์ และ ทางสาย โคราช - ขอนแก่น กะว่าจะจ่าย 2,100,000 บาท แต่จริงๆ จ่ายไม่ถึง เพราะสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางตัดงบ
ปีนี้ รถด่วนสายเหนือ ใช้ รถจักรบอลด์วิน จากอเมริกา และ รถจักร สวิส ตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2469 ถึงเวลาปลดระวางรถจักรรางมาตรฐานเสียที โดยปี่นี้ วางรางที่ 3 และเริ่มถอนราง 3 ตัวนอก พคร้อมปรับศูนย์กลางและเลื่อยไม้หมอน หมดไป 189,153 บาท
ปี 2470 เปิดทางไปห้วยทับทัน ที่เป้นจุดเติมน้ำก่อนถึงศรีสะเกษ และลงทุนทางสายโคราช - ขอนแก่น หมดไป 1,570,600 บาท แต่จริงๆ ให้รอไป ปีนี้ ลงทุน 300,000 บาท เรื่มการรื้อรางที่ 3 ออก และจำกัดให้รถรางมาตรฐานเดินเพียงท่าเสา
ปี 2471 จ่ายค่าสร้างทาง โคราช - ชนบท 2,174,000 บาท แต่กว่าจะเปิดทางถึง โนนสูง ก็ปี 2472 ถึงบัวใหญ่ 2474 และ ถึงขอนแก่น 1 เมษายน 2476 ปีนี้ทางไปถึง ศรีสะเกษ และเริ่มการถอนรางที่ 3 ต่อไป หมดไป 165,649 บาท ซึ่งกว่าจะสำเร็จถึงกรุงเทพ ก็ต้นปี 2473
ค่าสร้างสะพานพระราม 6 และทางจากบางซื่อ ไปตลิ่งชัน คาดว่าใช้ไป 3,572,000 บาท Last edited by Wisarut on 10/05/2014 2:00 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 06/11/2009 3:25 am Post subject:
บันทึกสัญญาการกู้เงิน 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารโลก เมื่อ 28 เมษายน 2504 เพื่อบูรณะการรถไฟเป็นคำรบ 3 พร้อมการจ่ายหนี้เป็นงวดๆ ดอกร้อยละ 0.75 และ คืนเงิืนต้นทุก 5% (รวม 5.75%) โดยเริ่มจ่้ายดอกเบี้ย ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 1964 ถึง 1 มิถุนายน 1981
http://untreaty.un.org/unts/1_60000/12/23/00023109.pdf
บันทึกสัญญาการกู้เงิน 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารโลก เมื่อ 9 สิงหาคม 2498 เพื่อบูรณะการรถไฟเป็นคำรบ 3 พร้อมการจ่ายหนี้เป็นงวดๆ ดอกร้อยละ 0.75 และ คืนเงิืนต้นทุก 4.625% (รวม 5.375%) โดยเริ่มจ่้ายดอกเบี้ย ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 1958 ถึง 15 สิงหาคม 1970
http://untreaty.un.org/unts/1_60000/6/20/00010972.pdf
บันทึกการกู้เงิืน 65.024 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอกเบี้ยร้อละ 9.1 เมื่อ 31 สิงหาคม 2532 เพื่อเริ่มการติดตั้งระบบ CTC เริ่มจ่ายหนี้ 15 กรกฎาคม 2537 ถึง 15 มกราคม 2547
http://untreaty.un.org/unts/60001_120000/26/1/00050026.pdf
Back to top
black_express
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
Posted: 06/11/2009 8:25 am Post subject:
Wisarut wrote: ปี 2467 ทางสายแปดริ้ว - อรัญประเทศ จ่าย 639,650 บาท ตั้งงบ 366666525000 บาท 286,100 บาท เพื่อปรับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำ
รบกวนเฮียวิศ ช่วยตรวจสอบตัวเลขด้วยครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 10/05/2014 2:21 pm Post subject:
บันทึกการกู้เงินไจก้า เพื่อการ rehab ทาง เฟส 1-2-3
เฟส 1 - Lop Buri - Chumsaeng (148 กิโลเมตร) Hua Hin - Ban Krut (141 กิโลเมตร) รวม 289 กิโลเมตร กู้ 10,331 ล้านเยน จ่ายจริง 10,174 ล้านเยน ดอกเบี้ยร้อยละ 3.0 ต่อปี กำหนดชำระคืน 25 ปี - ปลอดดอกเบี้ย 7 ปี เมื่อ มกราคม 1993 สิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ ให้โครงการ พฤศจิกายน 2001 กำหนดใช้เวลาก่อสร้าง 63 เดือน แต่มาเสร็จจริง 100 เดือน
เฟส 2 - Chumsaeng - Phitsanulog (108 กิโลเมตร) Chai Ya - Thung Song (150 กิโลเมตร) รวม 258 กิโลเมตร - กู้ 7,651 ล้านเยน จ่ายจริง 6,905 ล้านเยน ดอกเบี้ยร้อยละ 3.0 ต่อปี กำหนดชำระคืน 25 ปี - ปลอดดอกเบี้ย 7 ปี เมื่อ กันยายน 1994 สิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ ให้โครงการ กรกฎาคม 2003 กำหนดใช้เวลาก่อสร้าง 63 เดือน แต่มาเสร็จจริง 89 เดือน
เฟส 3 - Ban Krut - Chai Ya รวม 244 กิโลเมตร กู้ 7,973 ล้านเยน จ่ายจริง 6,792 ล้านเยน ดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี กำหนดชำระคืน 25 ปี - ปลอดดอกเบี้ย 7 ปี เมื่อ กันยายน 1996 สิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ ให้โครงการ มกราคม 2004 กำหนดใช้เวลาก่อสร้าง 63 เดือน แต่มาเสร็จจริง 73 เดือน
กู้เพิ่มเติม - กู้ 2,979 ล้านเยน จ่ายจริง 2,428 ล้านเยน โดยจ่ายเป็นเงินบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2.2 ต่อปี กำหนดชำระคืน 25 ปี - ปลอดดอกเบี้ย 7 ปี เมื่อ กรกฎาคม 1998 เพราะ เศรษฐกิจตกต่ำ สิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ ให้โครงการ กันยายน 2001 - เอาไปจ่ายให้ เฟส 1 เป็นเงิน 1,254 ล้านเยน เฟส 2 เป็นเงิน 531 ล้านเยน และ เฟส 3 เป็นเงิน 643 ล้านเยน
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/monitoring/c8h0vm000001rdlp-att/2010_full_08_02.pdf
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/post/2006/pdf/project02_full.pdf
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 10/05/2014 3:01 pm Post subject:
การกู้เงินไจก้า สร้างสายศรีราชา - แหลมฉบัง ระยะทาง 9.3 กิโลเมตร มี หลีก 4 หลีก ยาว 5.1 กิโลเมตร โดยขอกู้ 1,013 ล้านเยน + กู้ในประเทศ 92 ล้านบาท (รวม 1,471 ล้านเยน) ในยุคที่ 1 บาท เท่ากะ 5 เยน เมื่อปี 1988 จ่ายจริง 1002 ล้านเยน + กู้ในประเทศ 345 ล้านบาท (รวม 2,403 ล้านเยน) ในยุคที่ 1 บาท เท่ากะ 4.06 เยน เมื่อปี 1994 หลังจากเริ่มประมูลปี 1990 โดย โครงการดังกล่าว เกิดปัญหางบบานปลาย เพราะ ค่าวัสดุก่อสร้างพุ่งสูงขึ้นจนถึงขั้นปูนซีเมนต์และเหล็กขาดตลาด และ ค่าแรงก็พุ่งสูงขึ้นด้วย และ การรถไฟต้องเปลี่ยนมาใช้ของในประเทศเพื่อจะได้ไม่ต้องกู้เงินต่างประเทศเพิ่มจนเกินไป โดยต้องขอให้รัฐบาลไทยหาแหล่งเงินกู้ในประเทศมาเสริมด้วย นอกจากนี้ ยังมีปัยหาการติดตั้งระบบสัญญาณควบคุมการเดินรถ ทำให้ต้องใช้การคุมการเดินรถด้วยมือ กว่าระบบไฟสัญญาณจะติดตั้งเสร็จก็ ปี 1997
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/post/1998/pdf/16.pdf
กู้เงินซื้อระบบสัญญาณการเดินรถ ขอกู้ 12,800 ล้านเยน จ่ายจริง 7,433 ล้านเยน อนุมัติ กันยายน 1983 - โดยกะจะติดระบบไฟสีให้ 328 สถานีพร้อมปรับระบบ block การเดินรถ 223 ช่วง แต่ ติดระบบไฟสีให้จริงแค่ 109 สถานีพร้อมปรับระบบ block การเดินรถ 116 ช่วง โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่า 16,760 ล้านเยน เป็นเงินกู้ 12,800 ล้านเยน + เงินกู้ในประเทศ 396 ล้าน บาท ในยุคที่ 1 บาทแลกได้ 10 เยน - แต่เมื่อเอาเข้าจริง โครงการดังกล่าวมีมูลค่า 8,630 ล้านเยน เป็นเงินกู้ 7,433 ล้านเยน + เงินกู้ในประเทศ 283 ล้าน บาท ในยุคที่ 1 บาทแลกได้ 4.90 เยน
กู้เงินซื้อระบบโทรศัพท์เพื่อการเดินรถ ขอกู้ 1,771 ล้านเยน จ่ายจริง 1524 ล้านเยน อนุมัติ กันยายน 1984 - โดยกะจะติดโทรศัพท์ให้ 518 เครือง พร้อม dispatch console 13 เครื่อง พร้อมเครื่องจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง 11 เครื่อง แต่เอาเข้าจริง แม้จะซื้อโทรศัพท์คุมการเดินรถให้ 518 เครื่อง แต่ ซื้อ dispatch console 14 เครื่อง พร้อมเครื่องจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง 14 เครื่อง โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่า 2,182 ล้านเยน เป็นเงินกู้ 1,771 ล้านเยน + เงินกู้ในประเทศ 41ล้าน บาท ในยุคที่ 1 บาทแลกได้ 10.1 เยน - แต่เมื่อเอาเข้าจริง โครงการดังกล่าวมีมูลค่า 644 ล้านเยน เป็นเงินกู้ 524 ล้านเยน + เงินกู้ในประเทศ 23 ล้าน บาท ในยุคที่ 1 บาทแลกได้ 4.50 เยน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ เยนแข็งค่าขึ้นทำให้ ต้องลดขนาดโครงการลงมาให้พอกะเงินกู้
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/post/1998/pdf/14.pdf
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 10/05/2014 3:30 pm Post subject:
เงินกู้โครงการ รถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง 62,442 ล้านเยน แม้ว่ามูลค่าโคงการจริงๆ 241,198 ล้านเยน และ วงเงินกู้จริงๆ 111,284 ล้านเยน
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/economic_cooperation/c8h0vm000001rdjt-att/thailand01.pdf
เงินกู้โครงการ รถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงินรวม 222,426 ล้านเยน จ่ายจริง 216,456 ล้านเยน
เฟสแรกกู้ 26,586 ล้านเยน จ่ายจริง 26,586 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี ชำระใน 25 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย7 ปี อนุมัติ กันยายน 1996 จ่ายครั้งสุดท้าย มกราคม 2002
เฟสสองกู้ 32,659 ล้านเยน จ่ายจริง 32,581 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี ชำระใน 25 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย 7 ปี อนุมัติ กันยายน 1997 จ่ายครั้งสุดท้าย มกราคม 2003
เฟสสามกู้ 23,343 ล้านเยน จ่ายจริง 23,343 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี ชำระใน 40 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย 10 ปี อนุมัติ กันยายน 1998 จ่ายครั้งสุดท้าย มีนาคม 2004
เฟสสี่กู้ 64,228 ล้านเยน จ่ายจริง 64,156 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี ชำระใน 40 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย 10 ปี อนุมัติ กันยายน 1999 จ่ายครั้งสุดท้าย มกราคม 2006
เฟสห้ากู้ 45,818 ล้านเยน จ่ายจริง 39,999 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี ชำระใน 40 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย 10 ปี อนุมัติ กันยายน 2000 จ่ายครั้งสุดท้าย มีนาคม 2006
เงินกู้ในประเทศ 29,792 ล้านเยน จ่ายจริง 29,792 ล้านเยน - ดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี ชำระใน 40 ปี โดยปลอดดอกเบี้่ย 10 ปี อนุมัติ กันยายน 1997 จ่ายครั้งสุดท้าย กันยายน 2001
ในการนี้ สร้างส่วนใต้ 9.4 กิโลเมตร 9 สถานี ส่วนเหนือ 10.7 กิโลเมตร 9 สถานี - โรงซ่อม บนพื้นที่ 48 เฮกตาร์ วางรางรวมทั้งรางในย่าน 57,476 เมตร ติดตั้ง บันไดเลื่อน 259 ตัวจากตอนแรกติดเพียง 237 ตัว และติดตั้งลิฟท์ 62 ตัวจากเดิม 71 ตัว
มูลค่าโครงการ ตอนแรก 379,840 ล้านเยน หรือ 90,438 ล้านบาท แต่มูลค่าจริงๆ 358,928 ล้านเยน หรือ 120,858 ล้านบาท -
เป็นเงินกู้ต่างประเทศ ตอนแรก 177,937 ล้านเยน หรือ 42,366 ล้านบาท แต่มูลค่าจริงๆ 138,708 ล้านเยน หรือ 146,948 ล้านบาท -
เป็นเงินกู้ในประเทศ 201,903 ล้านเยน หรือ 48,072 ล้านบาท แต่มูลค่าจริงๆ 218,960 ล้านเยน หรือ 73,910 ล้านบาท -
อัตราแลกเปลี่ยน ตอนแรก 1 บาท = 4.20 เยน (กันยายน 1996) แต่ อัตราแลกเปลี่ยนจริงๆ 1 baht = 2.97 เยน (เฉลี่ย เมษายน 1997 - มีนาคม 2006)
ช่วงเวลาก่อสร้าง ตอนแรก กะว่า มีนาคม 1996 ตุลาคม 2002 (6 ปี 8 เดือน) แต่เอาเข้าจริงๆ มีนาคม 1996 กรกฎาคม 2004 (8 ปี 5 เดือน)
http://www.jica.go.jp/english/our_work/evaluation/oda_loan/post/2008/pdf/e_project09_full.pdf
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
Posted: 06/03/2015 12:50 pm Post subject:
จากปัญหาเรื่อง เงินเยนพิเศษ มูลค่า 15000 ล้านเยนที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามมหาเอเซีย บูรพา นั้น แม้จะจ่ายเป็นเงินปอนด์สเตอริงไป 5400 ล้านเยน (5 ล้าน 4แสนปอนด์) ไปแล้ว เมื่อปี 2498 ก็ตาม แต่ ยังมีตกค้างอีก 9600 ล้านเยน ตอนแรกว่าจะเอาไปสร้างโรงกลั่นน้ำมัน แต่ พอเกิดรัฐประหารปี 2500 และปัญหาเรื่องการบังคับให้ไทยออกพันธบัตรให้รัฐบาลญี่ปุ่น ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ซึ่งไทยรับไม่ได้ ที่สุดมาตกลงกันได้ปี 2505 โดยให้มีการใช้จ่ายเงิน เยนพิเศษ เพื่อ การพัฒนาประเทศดั่งนี้
การตั้งโรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มทหารของกระทรวงกลาโหม 1,600 ล้านเยน
เรื่อสำรวจการประมงน้ำลึก ที่สั่งซื้อจากนิอิกาตะ 200 ล้านเยน
อุปกรณ์รถไฟ 1,900 ล้านเยน
หัวจักรดีเซล 400 ล้านเยน -> น่าจะหมายถึงรถดีเซลราง หละมากกว่า
โรงผลิตไฟฟ้าเขื่อนน้ำอูน 200 ล้านเยน เป็นต้น
ยังคงเหลืออีก 3,000 ล้านเยน เมื่อสิ้นปี 2512 ...
http://jsat.or.th/wp-content/uploads/2015/01/Jsn-Vol.3-No.1-2013.pdf
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group