View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 09/10/2014 7:23 pm Post subject:
บริษัทญี่ปุ่นพัฒนาตู้รถไฟความเร็วสูงแบบใหม่มุ่งยังตลาดอาเซียน
NHKWorld Thai
วันจันทร์ที่ 06 ตุลาคม 2014 เวลา 06:03 น.
บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ ผู้ผลิตเครื่องจักรรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้พัฒนาตู้รถไฟสำหรับระบบขนส่งความเร็วสูง และหวังที่จะนำตู้รถไฟชนิดนี้ไปจำหน่ายในตลาดอาเซียนหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เจ้าหน้าที่ของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ กล่าวว่า ตู้รถไฟนี้ได้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อลดแรงต้านของอากาศ ทำให้สามารถวิ่งได้เร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังควบคุมได้จากระยะไกลด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของทางบริษัทมิตซูบิชิยังได้กล่าวอีกว่า รถไฟรุ่นใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร หนาแน่น และหวังว่าจะนำรถไฟนี้ไปจำหน่ายในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในชาติที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูแห่งอื่นๆ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 18/10/2014 7:44 am Post subject:
ญี่ปุ่นไฟเขียวสร้างรถไฟแม็กเลฟเร็วที่สุดในโลก
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 17 ตุลาคม 2557 21:00
ญี่ปุ่นไฟเขียวแผนสร้างทางรถไฟพลังงานแม่เหล็ก หรือ แม็กเลฟ ในเส้นทางที่วิ่งระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองนาโกยา
รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติแผนการสร้างรถไฟสายที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีสนามแม่เหล็ก หรือ "แม็กเลฟ" เพื่อรับส่งผู้โดยสารจากกรุงโตเกียวไปยังเมืองนาโกยา ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม ด้วยความเร็วกว่า 482 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บริษัทเซ็นทรัล เจแปน เรลเวย์ แถลงว่า กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติแผนสร้างเส้นทางรถไฟยาว 286 กิโลเมตร ที่จะทำให้การเดินทางระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองนาโกยาลดเหลือเพียงแค่ 40 นาที ซึ่งเร็วกว่าเวลาเดินทางในปัจจุบันซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที โดยคาดว่าการสร้างทางรถไฟสายดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 พร้อมกับเชื่อมไปยังเมืองโอซากาในอนาคต
การอนุมัติครั้งนี้มีขึ้นราว 2 สัปดาห์หลังจากที่ญี่ปุ่นเพิ่งฉลองครบรอบ 50 ปีรถไฟหัวกระสุนชินกันเซ็นที่มีเส้นทางระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองโอซากา ซึ่งถือเป็นรถไฟไฮสปีดขบวนแรกของโลกขึ้น
ทั้งนี้ หากเส้นทางรถไฟสายใหม่สร้างแล้วเสร็จ จะถือเป็นการก้าวกระโดดในการพัฒนาทางรถไฟในญี่ปุ่นอีกก้าวหนึ่ง โดยเทคโนโลยีแม็กเลฟจะใช้พลังงานแม่เหล็กอันทรงพลังในการยกรถไฟให้ลอยอยู่เหนือรางคอนกรีตหลายนิ้ว แทนการวิ่งด้วยล้อเหล็ก จึงทำให้มีความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
แม้ว่าในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนจะมีรถไฟแม็กเลฟระยะสั้นให้บริการมาตั้งแต่ปี 2547 แต่ทางรถไฟใหม่ในญี่ปุ่นนี้จะเป็นเส้นเชื่อมระหว่างเมืองเส้นแรกของโลกที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน
ผู้สนับสนุนแผนดังกล่าวเปิดเผยว่า ทางรถไฟสายใหม่นี้เป็นสิ่งจำเป็นในการลดจำนวนคนที่พลุกพล่านบนรถไฟหัวกระสุน และถือเป็นแบบอย่างของความกล้าที่จะบุกเบิกเทคโนโลยีในช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังหาวิธีพัฒนาการส่งออกระบบรถไฟของประเทศ ขณะที่ผู้ไม่เห็นด้วยได้ตั้งคำถามถึงจำนวนงบประมาณที่ต้องใช้ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความจำเป็นสำหรับโครงการนี้
ทั้งนี้ บริษัทเจอาร์ เซ็นทรัล ได้ตั้งงบก่อสร้างเส้นทางรถไฟแม็กเลฟระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองนาโกยาเอาไว้ที่ 5.5 ล้านล้านเยน หรือราว 1.64 ล้านล้านบาท และคาดว่าเส้นระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองโอซากาจะอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านล้านเยน หรือราว 2.68 ล้านล้านบาท
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/10/2014 11:47 am Post subject:
ครึ่งศตวรรษรถไฟชินคันเซน
คมชัดลึก 27 ต.ค. 57
ญี่ปุ่นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ มีแต่ทางออกสู่ทะเลกว้างเป็นยุทธศาสตร์สำคัญเพียงประการเดียว แต่ญี่ปุ่นกลับดำรงคงอยู่ในดินแดนหมู่เกาะทะเลจีนตะวันออกมาอย่างยาวนาน และญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การศึกษา การเกษตร และอีกหลายต่อหลายด้านจนทำให้ประเทศอื่นๆ ต้องตั้งตามองอย่างตั้งใจ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา แม้จะเป็นผู้แพ้ในสงครามโลก แต่ญี่ปุ่นกลับพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส จนทำให้กลายเป็นประเทศชั้นนำระดับโลกได้ในเวลาเพียง 7 ทศวรรษนี้เอง
ยิ่งเมื่อญี่ปุ่นเปิดแผนการสร้างสาธารณูปโภคด้านการขนส่งที่สำคัญ เป็นโครงข่ายการนำคนไปยังเมืองต่างๆ อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยอาศัยระบบรางเป็นหลัก ด้วยการเปิดตัวโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูง หรือ "ชิน คัน เซน" เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองพัฒนาการที่สำคัญของญี่ปุ่น ที่หาญกล้านำรถไฟความเร็วสูงมาใช้ในประเทศที่เป็นหมู่เกาะแบบนี้
รถไฟชินคันเซน ของญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการขนส่งมวลชนแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความฝันของชาวซามูไร เป็นการเยียวยาความรู้สึกพ่ายแพ้ในสงครามโลกที่ชาวญี่ปุ่นต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก ภายใต้การบริหารของประเทศผู้ชนะสงครามที่ต้องเข้ามาควบคุม จัดการ ตามข้อตกลงการชดเชยค่าปฏิกรรมสงคราม ที่ญี่ปุ่นต้องชดใช้จนแทบเรียกได้ว่า "หมดตัว"
นายฟูมิฮิโร อารากิ อดีตวิศวกรรถไฟวัย 73 ปี และรองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์รถไฟในเมืองโอมิยะ ทางตอนเหนือของโตเกียว เล่าถึงความหลังครั้งเก่า ว่า เมื่อแรกเริ่มโครงการชินคันเซน เรา (ชาวญี่ปุ่น) รู้สึกในทันทีว่า ช่วงเวลาแห่งความอดอยากของประเทศจะจบสิ้นลงแล้ว และญี่ปุ่นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ "ชินคันเซน มุ่งเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในโลก ให้ความหวังแก่ประชาชน ทำให้คนญี่ปุ่นมีกำลังใจมองไปข้างหน้า"
ชินคันเซนยังได้ชื่อเล่นด้วยว่า "ซูเปอร์เอ็กซ์เพรสออฟดรีม" หรือ รถด่วนแห่งความฝัน เนื่องจากทำให้ชาวญี่ปุ่นฝันถึงอนาคตที่ดีกว่า
วันที่ 1 ตุลาคม 2507 รถด่วนแห่งความฝันของชาวญี่ปุ่นก็เริ่มให้บริการเป็นครั้งแรกในช่วงก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว เป็นเจ้าภาพ การเปิดบริการรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงของญี่ปุ่น ยังทำให้ดินแดนซามูไรกลายเป็นดินแดนที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศผู้ชนะสงครามในยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา
แม้โครงการนี้จะทำให้ญี่ปุ่นมีหนี้สินมหาศาล การก่อสร้างผลาญเงินเกินงบประมาณ และถูกต่อต้านจากสาธารณชนอย่างรุนแรง แต่ที่สุดแล้ว ชินคันเซน ที่วิ่งให้บริการระหว่างกรุงโตเกียวกับนครโอซากา ก็เริ่มต้นให้บริการได้ในที่สุด เส้นทางรถไฟชินคันเซนต้องวิ่งผ่านอุโมงค์ 66 แห่ง สะพานอีก 96 แห่ง แต่ด้วยความเร็วของรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ายุคแรกสามารถเร่งความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ช่วยให้ระยะทางระหว่างเมืองทั้งสองนั้นสั้นลงกว่าการเดินทางทางบกด้วยวิธีอื่นๆ เพียงเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงปลายทางแล้ว
นั่นหมายความว่า นักธุรกิจจากกรุงโตเกียวสามารถไปทำธุระที่นครโอซากาและกลับมายังกรุงโตเกียวได้ภายในวันเดียวกัน ทั้งยังเพิ่มแรงกระตุ้นในการใช้เงินของประชาชน ที่ต้องการซื้อสินค้าที่อยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งที่เป็นปลายทางของรถไฟชินคันเซน ก็เป็นไปได้อย่างสะดวก ทำให้กระแสเงินไหลสะพัดในธุรกิจมากขึ้นตามไปด้วย
เส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะระหว่างทางนั้นยังผ่านเมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น ในจุดที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย
ในมุมมองทางเศรษฐกิจ ชินคันเซน เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการขนส่งผู้บริโภคจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง ตั้งแต่แรกเริ่มให้บริการ และยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นรถไฟหัวกระสุนที่ปัจจุบันมีความเร็วสูงขึ้นเป็น 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยังไม่เคยมีอุบัติเหตุที่ทำให้ผู้โดยสาร 324 ล้านคน ที่เคยใช้บริการเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพราะรถไฟตกราง หรือ เกิดอุบัติเหตุชนกัน แม้จะมีผู้ที่ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดไปขวางหน้ารถไฟบ้างเท่านั้น
แต่ 50 ปี ผ่านไป รถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่นไม่ได้เป็นสัญลักษณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีลูกหลานของชินคันเซน กำเนิดขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งจีน ประเทศดาวรุ่งทางเศรษฐกิจที่เพิ่งเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงแบบ "แม็กเลฟ" (Maglev) ที่ขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็ก
ญี่ปุ่นยังมีแผนการสร้างรถไฟความเร็วสูงพิเศษ ด้วยการใช้รถไฟแม็กเลฟที่แล่นอยู่บนรางพิเศษที่มีสนามแม่เหล็กแนวตั้งเป็นเบาะ คอยยกขบวนรถไฟให้อยู่สูงจากรางราว 10 เซนติเมตร และมีสนามแม่เหล็กแนวนอนเป็นตัวขับเคลื่อนขบวนรถ ด้วยหลักการดูด-ผลัก ด้วยการเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กไฟฟ้าชั่วคราวให้เป็นขั้วเหนือ-ใต้ สลับกันไป จนทำให้รถไฟที่ลอยอยู่เหนือพื้นและมีแรงเสียดทานต่ำสามารถแล่นได้ด้วยความเร็วสูงสุด 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อทวงคืนตำแหน่งแชมป์ของรถไฟความเร็วสูงระดับโลกจากรถไฟแม็กเลฟของนครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจภาคตะวันออกของจีน
โครงการของญี่ปุ่นจะวางแนวรางระหว่างกรุงโตเกียวไปยังเมืองนาโงยา ภายในปี 2570 และเส้นทางจากกรุงโตเกียว-นครโอซากา ภายในปี 2587 ซึ่งจะมาแทนที่รถไฟชินคันเซนรุ่นเก่าในทุกด้าน ทั้งลดเวลาการเดินทางลงอีกครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง 7 วินาที เท่านั้น
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 16/02/2015 12:54 pm Post subject:
100 ปีสถานีโตเกียว:รอยยิ้มและน้ำตา (ชมคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
16 กุมภาพันธ์ 2558 07:57 น.
สถานีรถไฟโตเกียวฉลองวาระครบรอบ 100 ปีอย่างน่าประทับใจ โดยมีการจัดทำการ์ตูนแอนนิเมชั่นเป็นภาษาไทยด้วย
สถานีรถไฟโตเกียว ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เนื่องจากมีขบวนรถไฟเข้าออกคับคั่งที่สุดอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น มากกว่า 3,000 เที่ยวต่อวัน และมีผู้โดยสารมีมากกว่าวันละ 4แสนคน หากแต่ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา สถานีโตเกียวเป็นบันทึกความทรงจำที่มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา
รัฐบาลกรุงโตเกียวริเริ่มแผนสร้างสถานีรถไฟของเมืองหลวงตั้งแต่ปี 1889 อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเพราะสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งแรก และสงครามรัสเซียกับญี่ปุ่น จนกระทั่งได้เริ่มลงมือก่อสร้างในปี 1908 และสร้างเสร็จเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1914
สถานีโตเกียวมีความโดดเดียวที่อาคารทรงยุโรปสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ผลงานการออกแบบของ ทัตซุโน คินโก เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสที่ญี่ปุ่นชนะสงครามกับรัสเซีย และที่สำคัญ คือภายในอาคาร โดยเฉพาะบนเพดานมีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่สวยงามอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม อาคารหลังนี้ได้ถูกระเบิดทำลายเสียหายยับเยินในระหว่างสงครามโลก หลังสิ้นสุดสงครามจึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ แต่ก็ทำให้ความสูงของอาคารลดลงจากสามชั้นเหลือเพียงสองชั้น
ในช่วงทศวรรษ 1980 เทศบาลกรุงโตเกียวมีแนวคิดที่จะรื้ออาคารสถานีโตเกียวเพื่อสร้างขึ้นใหม่ให้ทันสมัย แต่ถูกคัดค้านจากประชาชนจำนวนมาก ทำให้ในที่สุดเทศบาลกรุงโตเกียวตัดสินใจอนุรักษ์อาคารไว้ โดยปรับปรุงบริเวณรอบข้างในมีความทันสมัย ประกอบด้วยศูนย์การค้า และสิ่งอำนวยสะดวกเคียงข้างกับอาคารอนุรักษ์ของตัวสถานี
ในอีกมุมหนึ่ง สถานีโตเกียวยังเป็นสถานที่บันทึก ประวัติศาสตร์เลือดทางการเมือง เมื่อมีนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถึง 2 รายถูกลอบสังหารที่นี่ นายกรัฐมนตรีฮารา ทาคาชิ ถูกคนร้ายลอบแทงเสียชีวิตบริเวณประตูทิศใต้ของสถานีในปี 1921 และในปี 1930 นายกรัฐมนตรีโอซาชิ ฮามากูชิ ถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลงในหลายเดือนต่อมา
สถานีโตเกียวได้จัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2014 จนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีนี้ โดยได้จัดทำวีดีโอหลายชิ้นที่เล่าเรื่องราวในรอบศตวรรษที่ผ่านมา โดยมีการ์ตูนแอนนิเมชั่นชื่อว่า กาลเวลาหมุนเวียนไป ซึ่งมีบทบรรยายเป็นภาษาไทยพร้อมด้วยเพลงประกอบสุดประทับใจ เรียกน้ำตาจากผู้ชมชาวไทยจำนวนไม่น้อย.
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 16/02/2015 12:56 pm Post subject:
ที่จอดจักรยานใต้ดินอัจฉริยะ (ชมคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
16 กุมภาพันธ์ 2558 07:57 น.
ที่ด้านหน้าสถานีรถไฟชินนากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีนวัตกรรมล่าสุด คือ ที่จอดรถจักรยานใต้ดิน ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถแก้ปัญหาพื้นที่อันจำกัดของญี่ปุ่น ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ คือ ไฮเทคอย่างเหลือเชื่อ ! ติดตามได้จากคลิปวีดีโอ
ที่จอดรถจักรยานใต้ดินนี้ทำงานร่วมกับจักรยานที่ติดตั้งชิปอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ใช้เพียงแต่นำจักรยานไปจอดที่ด้านหน้าประตูลิฟท์ จากนั้นจักรยานก็จะถูกเลื่อนลงไปจอดยังชั้นใต้ดินที่มีการจัดพื้นที่อย่างอัศจรรย์ สามารถรองรับจักรยานได้ถึง 200 คัน และยังป้องกันแดดป้องกันฝนได้ด้วย
เมื่อต้องการรับจักรยานคืน ผู้ใช้ก็เพียงใช้บัตรอิเล็คทรอนิกส์แตะไปที่เครื่อง เพื่อจ่ายค่าจอดจักรยาน จากนั้นกลไกอัตโนมัติก็จะทำจักรยานขึ้นลิฟท์มาคืนเจ้าของอย่างไม่มีผิดพลาด.
https://www.youtube.com/watch?v=pcZSU40RBrg
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44787
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Back to top