View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/07/2020 9:32 am Post subject: 'ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา' (2563) |
|
|
'ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา' ย้อนส่องวิถีสยาม ผ่านนิทรรศการ
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
การดำเนินงานด้านการอนุรักษ์เอกสารจดหมายเหตุของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ที่มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่มาแปลงฟิล์มกระจกต้นฉบับให้อยู่ในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล กลายเป็นจุดเริ่มต้นการนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการภายใต้ชื่อ ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทยในอดีต วิถีชีวิตของชาวสยามในรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7 รวมทั้งสิ้น 102 ภาพ โดย กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร ร่วมกับ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดนิทรรศการ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงนโยบายด้านการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม ความสำคัญของการอนุรักษ์ฟิล์มกระจกว่า ฟิล์มกระจกเป็นเอกสารจดหมายเหตุประเภทโสตทัศนวัสดุ เป็นฟิล์มชนิดหนึ่งที่มีภาพในลักษณะเนกาทีฟและโพสซิทีฟปรากฏบนแผ่นกระจก เป็นหนึ่งในวิทยาการด้านการถ่ายภาพที่นิยมในช่วงพุทธศักราช 2395-2472 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นอีกหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมศิลปากร โดยสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ที่ต้องอนุรักษ์ บำรุงรักษา ฟื้นฟูเผยแพร่ ให้บริการด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย สืบทอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อธำรงคุณค่าและเอกลักษณ์ของความเป็นชาติอันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทยในอนาคต
ด้าน ประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงรายละเอียดการจัดนิทรรศการว่า ภาพถ่ายฟิล์มกระจกเป็นส่วนหนึ่งจากภาพถ่ายชุดหอพระสมุดวชิรญาณ ที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อปี พ.ศ. 2560 กล่องที่ 1-24 และ 50-52 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ภาพ บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทยในอดีต วิถีชีวิตของชาวสยามในรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7 ทั้งนี้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยว กับภาพถ่ายโบราณ ร่วมจัดทำคำบรรยายและคัดเลือกภาพ ต่อมา ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ได้นำภาพถ่ายจากหนังสือ ร่วมกับภาพถ่ายชุดอื่น ไปออกแบบเนื้อหาและนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการ รวมทั้งสิ้น 102 ภาพ แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 : ปฐมบรรพ การเสด็จประพาสหัวเมืองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามหัวเมืองต่าง ๆ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และการเสด็จประพาสต้น เพื่อให้ทรงใกล้ชิดและทราบทุกข์สุขของประชาชน,
ส่วนที่ 2 : ทุติยบรรพ สยามอันสุขสงบในรอยต่อของกาลเวลา เป็นภาพวิถีชีวิตที่ธรรมดา เป็นกิจวัตรของผู้คนในกรุงเทพฯ ให้บรรยากาศของความสุขสงบ เรียบง่ายของผู้คนและบ้านเมือง,
ส่วนที่ 3 : ตติยบรรพ ตะวันออกบรรจบตะวันตก เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นบทบาทของชาวตะวันตกที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวสยามในรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7
ส่วนที่ 4 : จตุตถบรรพ เร่งรุดไปข้างหน้า เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงการรับอิทธิพลของชาติตะวันตกที่ทำให้สยามประเทศ ขณะนั้นเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสร้างและเชื่อมโยงระบบเส้นทางรถไฟ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตทางการปกครอง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว อธิบดีกรมศิลปากรกล่าว
สำหรับแนวความคิด รูปแบบ และเนื้อหาการจัดนิทรรศการ ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน กล่าวว่า ในฐานะของคนที่เป็นช่างภาพ การถ่ายภาพไม่ได้เป็นแค่การบันทึกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคนั้น แต่ยังผ่านมุมมองของผู้ที่บันทึกภาพด้วย ดังนั้นภาพจึงเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย มีพลัง มีความเป็นส่วนตัวสูง มีความเป็นศิลปะ อยากให้คนเข้าใจมิติของภาพที่ไม่ได้มีระนาบเดียว แต่มีหลายมิติที่สะท้อนความรู้สึกของคนในยุคนั้น นั่นคือสิ่งที่สำคัญทำให้การอ่านภาพของนิทรรศการนี้สนุก ผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาอ่านภาพ แต่ละท่านเห็นไม่เหมือนกันเลย ถ้าเป็นสถาปนิกจะเห็นความสำคัญของสถาปัตยกรรม หรืออีกท่านจะเน้นเรื่องของคน นั่นคือพลังของรูปสามารถที่จะเอามาเล่าหลายร้อยเรื่อง แม้คนไม่ถนัดภาษาไทยแต่เมื่อชมภาพแล้ว ทุกคนสามารถเข้าถึงอารมณ์ตรงนั้นได้ เข้าใจประวัติศาสตร์ไทยได้ นี่คือเป็นสิ่งที่สำคัญของภาพอย่างหนึ่ง
ท่านผู้หญิงสิริกิติยา อธิบายเพิ่มเติมว่า ตอนแรกมีคนมาเชิญชวนเข้ามาจัดนิทรรศการฟิล์มกระจก จริง ๆ ก็ตกใจเนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้เป็นนักภัณฑารักษ์เป็นเพียงนักเล่าเรื่อง ความท้าทายของงานครั้งนี้การเลือกภาพซึ่งจำกัดอยู่ 1,000 ภาพตามลำดับกล่อง หมายความว่าไม่สามารถเลือกได้ว่าจะได้ภาพใด ออกมาจำนวนเท่าใด แล้วสามารถที่จะเล่าเรื่องการเชื่อมต่อของแต่ละรูป สำหรับวัตถุประสงค์ของงานนี้อยากให้คนปัจจุบันได้ดูแล้วเข้าใจประวัติที่อยู่ในแต่ละรูป แม้ว่าจะถ่ายไปร้อยกว่าปีแต่มีความต่อเนื่องของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีอยู่ในรูปถ่ายทั้งหมด ประการต่อมาคือต้องการเล่นอารมณ์กับคน คล้าย ๆ กับนิทรรศการภาพถ่าย Hundred Years Between ตามรอยเสด็จฯ รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์ เมื่อปี พ.ศ. 2450 ใช้จดหมายเป็นหลัก แต่คราวนี้ใช้ภาพถ่ายบอกเล่าเรื่อง
"ภายในนิทรรศการแยกเป็น 4 ส่วน ขอยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น ส่วนแรกมีภาพถ่ายในรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นหัวเมืองต่าง ๆ ผู้ชมได้รับความรู้สึกเหมือนได้เดินทางร่วมในเหตุการณ์ช่วงนั้น มีทั้งความสงบ มีความเป็นส่วนพระองค์ มีความสบาย เรียบง่าย หรือช่วงที่มีการติดต่อกับตะวันตกค่อนข้างเยอะ เห็นชัดเจนว่าพระราชประเพณีเคร่งครัดมีความผ่อนคลายลง มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น พระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เริ่มเสด็จประพาสและแปรพระราชฐานไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อสำราญพระราชอิริยาบถ มีการสร้างพระตำหนักหลายแห่งนอกเขตพระนคร เช่น พระนครคีรี หรือ "เขาวัง" จ.เพชรบุรี จากการทำงานมีกล่องภาพหนึ่ง เป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสผู้ทรงสนิทเสน่หาและใกล้ชิด ประดุจธารพระกรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้สิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. 2452 จนสร้างความโทมนัสแสนสาหัส ซึ่งพระฉายาลักษณ์หนึ่งเสด็จฯ ยังแหล่งโบราณคดี จ.กำแพงเพชร อีกพระฉายาลักษณ์เป็นงานพระเมรุพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช นี่คือสิ่งที่เศร้า พยายามเอารูปภาพนี้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน ให้อยู่สุดท้ายของส่วนแรก ให้คนเข้าใจว่าที่เสด็จประพาสทั้งหมดมันสบายมีความสุข แต่สุดท้ายมันต้องมีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงไป"
นิทรรศการ "ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา" เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ก.ย. 2563 ระหว่างเวลา 10.00-18.30 น. ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) สามารถเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังได้จัดทำนิทรรศการเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยีไวทัล เรียลิตี้ นำเสนอข้อมูลผ่านนิทรรศการแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.nat.go.th เพื่อความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019.
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 05/07/2020 9:54 am Post subject: |
|
|
การขนส่งพัสดุไปรษณีย์ที่ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขที่ ๕ รองเมือง สถานีกรุงเทพฯ หรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ภาพถ่ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/07/2020 7:52 am Post subject: |
|
|
มองเมืองไทย ๑๐๐ ปีก่อนจากภาพเก่าในนิทรรศการ 'ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา'
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
ภาพถ่าย เป็นวัตถุอย่างหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราว บันทึกสภาพสังคม และวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี และดีที่สุดก่อนที่เราจะมีสื่อที่พัฒนาขึ้นมาอย่าง ภาพเคลื่อนไหว ถ้าอยากรู้ว่าสภาพสังคม-บ้านเมืองในยุคไหน ให้ดูที่ภาพถ่าย
เทคโนโลยีการถ่ายภาพเข้ามาในเมืองไทย ในสมัยรัชกาลที่ 4 ก่อนจะเป็นที่นิยมแพร่หลายในหมู่เจ้านาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งฟิล์มภาพถ่ายจำนวนมากที่ท่านเหล่านั้นได้ถ่ายไว้ ส่วนหนึ่งยังคงได้รับการรักษาไว้อย่างดี เป็นมรดกของแผ่นดินให้คนรุ่นหลังได้ใช้เป็นข้อมูลในการศึกษา และได้เห็นสภาพบ้านเมืองในแต่ละยุคสมัยเรื่อยมา ก่อนจะถึงยุคปัจจุบัน
ช่วงนี้มีโอกาสดีสำหรับใครที่อยากเห็นสภาพความเป็นอยู่ของเมืองไทยเมื่อราว 100 ปีก่อน สามารถไปดูภาพถ่ายที่บันทึกในยุคนั้นได้ในนิทรรศการ "ฟิล์มกระจก: เรื่องราวเหนือกาลเวลา" ที่จัดแสดง ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม-20 กันยายนนี้
ภาพถ่ายในนิทรรศการ "ฟิล์มกระจก: เรื่องราวเหนือกาลเวลา" เป็นส่วนหนึ่งในต้นฉบับภาพถ่ายฟิล์มกระจกชุด "หอพระสมุดวชิรญาณ" ที่องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็น "มรดกความทรงจำแห่งโลก"เมื่อปี พ.ศ. 2560 ซึ่งภาพถ่ายชุดนี้บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทยในอดีต รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวสยามในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7
หลังจากที่ต้นฉบับภาพถ่ายฟิล์มกระจกชุด "หอพระสมุด วชิรญาณ" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกความทรงจำ แห่งโลก" กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากร สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ร่วมกับมูลนิธิสิริวัฒนภักดี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลก ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการ "เฉลิมฟิล์มกระจก ฉลองมรดกความทรงจำแห่งโลก" ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสนั้น นับแต่นั้นมา สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติได้กำหนดแผนการดำเนินงานทุกปี ด้วยการนำภาพถ่ายฟิล์มกระจกตามลำดับกล่องถัดไป มาจัดทำคำบรรยายภาพและเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบหนังสือ หรือนิทรรศการ เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัยของประชาชน
ก่อนที่จะออกมาเป็นนิทรรศการ "ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา" นี้ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาพถ่ายโบราณ ร่วมจัดทำคำบรรยายและคัดเลือกภาพถ่ายจำนวน 205 ภาพ นำมาจัดพิมพ์หนังสือในชื่อ "ฟิล์มกระจกจดหมายเหตุ หนึ่งพันภาพประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์" เล่ม 2 ต่อมา ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ได้นำภาพถ่ายจากหนังสือร่วมกับภาพถ่ายชุดอื่นไปออกแบบเนื้อหาและนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการ ภายใต้ชื่อ "ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา" รวมทั้งหมด 102 ภาพ ซึ่ง "ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ" ได้คัดเลือกภาพส่วนหนึ่ง พร้อมคำบรรยาย มานำเสนอให้ชมในที่นี้แล้ว
ข้อมูลในนิทรรศการบอกว่า นิทรรศการนี้เน้นให้เห็นความเปลี่ยนแปลงเมื่อสยามค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการประสมประสานทางวัฒนธรรม "ตะวันออกบรรจบตะวันตก" อันเป็นเอกลักษณ์เพื่อนำผู้คนในปัจจุบันเดินทางย้อนเวลาไปในอดีต เป็นการเดินทางที่นำไปสัมผัสกับเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7
นิทรรศการนี้แบ่งส่วนการจัดแสดงออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 : ปฐมบรรพ การเสด็จประพาสหัวเมืองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นภาพการ เสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ และการเสด็จประพาสต้น
ตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา วิถีชีวิตของชาวสยาม เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะสามัญชน รวมถึง พระมหากษัตริย์และบรรดาเจ้านายพระราชวงศ์ด้วย ความสนใจที่มีต่อวัฒนธรรมตะวันตก รวมทั้งการติดต่อสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ ทำให้แนวคิดและวิถีแห่งกษัตริย์เปลี่ยนแปลงไป มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ในสมัยรัชกาลที่ 5 ความเปลี่ยนแปลงยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้น ด้วยพระองค์ได้เสด็จประพาสหัวเมืองต่าง ๆ พร้อมเจ้านายพระราชวงศ์ บ่อยครั้งเป็นการเสด็จประพาสต้น คือ เสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์โดยไม่ให้ใครรู้จัก เพื่อจะได้ทรงใกล้ชิดและทราบทุกข์สุขที่แท้จริงของชาวบ้าน
ส่วนที่ 2 : ทุติยบรรพ สยามอันสุขสงบในรอยต่อของกาลเวลา เป็นภาพวิถีชีวิตของผู้คนในกรุงเทพฯ ที่ดำเนินไปตามครรลองอย่างเนิบช้า ภาพเด็ก ๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน ภาพพระภิกษุในวัดวาอาราม ฯลฯ
วิถีชีวิตอันธรรมดาสามัญเหล่านี้เปรียบเสมือนช่วงพักครึ่งเวลาระหว่างการแสดง ช่วงเวลาที่สงบนิ่ง รอเวลาที่ความเปลี่ยนแปลงจะเข้ามาแสดงบทบาทในสยามประเทศ
ส่วนที่ 3 : ตติยบรรพ ตะวันออกบรรจบตะวันตก เป็นภาพ ที่สะท้อนให้เห็นบทบาทของชาวตะวันตกที่ส่งผลต่อวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7
แม้ชาวตะวันตกจะเข้ามาในสยามตั้งแต่ก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 นี้เองที่เห็นได้ชัดเจนว่า ชาวตะวันตกมีบทบาทต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวสยามมากขึ้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวยุโรปที่มีความรู้ความสามารถหลายคนได้ทำงานร่วมกับช่างฝีมือชาวสยาม ลักษณะแห่ง "ตะวันออกบรรจบตะวันตก" นี้ได้ดำเนินเรื่อยมา และพัฒนาจนถึงจุดสูงสุดในรัชสมัยของพระองค์เอง และพระราชโอรสทั้งสอง ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7)
ส่วนที่ 4 : จตุตถบรรพ เร่งรุดไปข้างหน้า เป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นถึงการรับอิทธิพลของชาติตะวันตกที่ทำให้สยามเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการสร้างและเชื่อมโยงระบบเส้นทางรถไฟ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตทางการปกครอง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว
กิจการรถไฟแรกมีในสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 จึงพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ โดยเชื่อมโยงระบบและเส้นทางทั้งหมดให้เป็นโครงข่ายเดียวกัน รถไฟนี่เอง ที่เป็นปัจจัยสำคัญทำให้สยามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การสร้างทางรถไฟสะท้อนอิทธิพลของตะวันตกทั้งในเชิงกายภาพและแนวคิดอุดมคติ เห็นได้ชัดเจนจากการนำเข้าวัสดุและวิทยาการจากตะวันตกเพื่อใช้ในการสร้างทางรถไฟ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและลึกซึ้งกว่านั้น คือ การสร้างทางรถไฟเป็นประจักษ์พยานของสำนึกเรื่องรัฐชาติ อันเป็นแนวคิดจากตะวันตกซึ่งมีอิทธิพลต่อชนชั้นปกครองของเอเชียในสมัยนั้น ในอันที่จะเชื่อมหัวเมืองใหญ่น้อยเข้ากับเมืองหลวง เพื่อเสริมสร้างการปกครองแบบรวมศูนย์ ทั้งในเชิงวัฒนธรรมและการบริหารบ้านเมือง สยามจึงเริ่มกลายเป็นรัฐที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ขยายออกจากพระนคร
บรรยายใต้ภาพ
การขนส่งพัสดุไปรษณีย์โทรเลขที่ 5 รองเมือง ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ในบริเวณสถานีรถไฟกรุงเทพฯ
ห้างสิทธิภัณฑ์ ตั้งอยู่ถนนเฟื่องนคร จำหน่ายเหล้า อาหารแห้ง เครื่องประดับ เครื่องภาชนะครัวเรือน น้ำหอม ภาพนี้ถ่ายจากบริเวณสี่กั๊กพระยาศรีมองไปทางทิศเหนือ
ถนนเจริญกรุงตัดกับถนนมหาไชย เชิงสะพานดำรงสถิตย์ ตึกแถวหัวมุมที่สี่แยกเป็นห้าง บี.กริมแอนด์โก สาขาประตูสามยอด ภาพนี้ถ่ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ศาลาเฉลิมกรุง บริเวณถนนตรีเพชรตัดกับถนนเจริญกรุง เมื่อ พ.ศ. 2476
ราษฎรพายเรือมารอรับเสด็จฯ ที่วัดไลย์ เมืองลพบุรี พ.ศ. 2449 เป็นภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ห้าง ย.ร. อันเดร ก่อตั้งเมื่อพุทธศักราช 2447 ตั้งอยู่ที่สี่กั๊กพระยาศรี รับสั่งสิ่งของต่าง ๆ จากต่างประเทศ เครื่องประดับเพชรพลอย และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ Opel และ Wanderer
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/08/2020 6:56 am Post subject: |
|
|
ภาพถ่ายฟิล์มกระจกบทบันทึกอันงดงามสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในอดีต
BLT BANGKOK ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563
ควรค่าแก่การหาชมยิ่ง สำหรับนิทรรศการ "ฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา" (Glass Plate Negatives : Stories That Transcend Time) ซึ่งจะพาคุณย้อนอดีต สะท้อนความทรงจำแห่งสยามประเทศไปเมื่อราว 100 กว่าปีก่อน ผ่านภาพถ่ายฟิล์มกระจกจำนวน 1,000 ภาพ ซึ่งทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 -รัชกาลที่ 7
แถมแต่ละภาพยังเผยสถานที่สำคัญๆ ตามรายทางต่างๆ ไว้น่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดเน้นให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งการผสมผสานทางวัฒนธรรม ระหว่างตะวันออกและตะวันตก
โดยนิทรรศการนี้ได้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ปฐมบรรพ การเสด็จประพาสหัวเมืองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ฉายให้เห็นภาพในการ "เสด็จประพาสต้น" คือการเสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์โดยมิให้ใครรู้ เพื่อที่จะทรงได้ใกล้ชิดและทราบทุกข์/สุขที่แท้จริงของราษฎร ทุติยบรรพ สยามอันสุขสงบในรอยต่อของกาลเวลา ในโซนนี้ผู้ชมจะได้ละลานตาไปกับภาพถ่ายวิถีชีวิตตามครรลองของคนกรุงเทพฯ และคนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภาพเด็กๆ และภาพพระภิกษุในวัดวาอารามที่สร้างขึ้นในปลายสมัยอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์
ตติยบรรพ ตะวันออกบรรจบตะวันตก การนำเสนอภาพชาวตะวันตกที่เข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวสยาม ซึ่งในสมัยนั้นสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวยุโรปที่มีความรู้ความสามารถหลายคนได้เข้ามาทำงานร่วมกับช่างฝีมือชาวสยาม
และโซนสุดท้าย จตุตบรรพ เร่งรุดไปข้างหน้า ส่วนนี้ภาพจะบอกเล่าถึงความก้าวหน้าในยุคนั้น ซึ่งมีกิจการรถไฟเป็นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ โดยเชื่อมโยงระบบและเส้นทางทั้งหมดให้เป็นโครงข่ายเดียวกัน
นิทรรศการ ภาพถ่ายฟิล์มกระจก : เรื่องราวเหนือกาลเวลา เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ก.ย. 63 เวลา 10.00 - 19.00 น. (หยุดวันจันทร์) ณ ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ โทร. 02 281 1599 หรือคลิก www.nat.go.th
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/08/2020 10:04 am Post subject: |
|
|
วันนี้ (15 สิงหาคม 2563) เวลา 13.30 - 15.30 น. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสดการเสวนา เรื่อง เล่าเรื่องการเก็บรักษาฟิล์มกระจกและภาพเก่า ทาง Facebook live : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ดำเนินกิจกรรมเสวนาโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ และจดหมายเหตุ
🔸 นายเอนก นาวิกมูล และนายอรรถดา คอมันตร์ นักวิชาการประวัติศาสตร์อิสระ
🔸นางจุฑาทิพย์ อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ร่วมด้วย นางสาวราศี บุรุษรัตนพันธุ์ ผู้ดำเนินรายการ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
|