View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 02/12/2020 11:38 am Post subject: |
|
|
ความก้าวหน้างานก่อสร้าง ผลงานถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
เผยแพร่: 27 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16:44 น.
😊😊สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหล
ผู้รับจ้าง บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด
แผนงานสะสม = 79.344 %
ผลงานสะสม = 75.375 %
ช้ากว่าแผน = -3.969 %
😊😊สัญญาที่ 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน
ผู้รับจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 79.230 %
ผลงานสะสม = 78.498 %
ช้ากว่าแผน = -0.732 %
😊😊สัญญาที่ 3 ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์
ผู้รับจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
แผนงานสะสม = 83.43 %
ผลงานสะสม = 77.78 %
ช้ากว่าแผน = -5.65 %
😊😊สัญญาที่ 4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เคเอส-ซี
แผนงานสะสม = 69.112 %
ผลงานสะสม = 69.896 %
เร็วกว่าแผน = 0.784 %
😊😊สัญญาที่ 5 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร
ผู้รับจ้าง กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี
แผนงานสะสม = 90 642%
ผลงานสะสม = 62.514 %
ช้ากว่าแผน = -28.128 % |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/12/2020 10:17 am Post subject: |
|
|
รถไฟทางคู่5สายดีเลย์ยกแผง รับเหมาขอต่อเวลา-ติดรื้อแบบ-เวนคืนพุ่ง
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563
รีวิวรถไฟทางคู่ 5 สาย วงเงิน 8.9 หมื่นล้าน สารพัดปัญหารุมเร้า สร้างหลุดเป้ายกแผง รับเหมาพร้อมใจขอต่อเวลา "มาบกะเบา-จิระ" ค่าเวนคืนงอกเพิ่ม 383 ล้าน "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" ปรับแบบวุ่น สายใต้ "นครปฐม-ชุมพร" ดีเลย์ทั้งโครงการ ขยายเวลา 15-20 เดือน เลื่อนยาว 1 ปี ร.ฟ.ท. ทุ่ม 1.7 หมื่นล้านติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ยกเครื่องการเดินรถรับเปิดหวูดปี'66
แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 5 เส้นทาง รวมระยะทาง 700 กม. วงเงิน 89,514 ล้านบาท ทุกสายทางยังมีอุปสรรคที่ทำให้งานก่อสร้างล่าช้า และผู้รับเหมาขอขยายเวลาก่อสร้าง
สายอีสานค่าเวนคืนพุ่ง 383 ล้าน
ล่าสุดสายตะวันออกเฉียงเหนือช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. ค่าก่อสร้าง 29,968.62 ล้านบาท แบ่งสร้าง 3 สัญญา มีปัญหาค่าเวนคืนที่ดินเพิ่มขึ้นจำนวน 383 ล้านบาทจากเดิม คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ 56 ล้านบาท โดยมีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องเวนคืนประมาณ 258 แปลง หรือ 242 ไร่ กระจายในพื้นที่ 4 อำเภอ อาทิ มวกเหล็ก ปากช่อง สีคิ้ว เป็นต้น
"ค่าเวนคืนที่เพิ่มเพราะโครงการศึกษา ไว้นานและประเมินเฉพาะค่าที่ดิน 56 ล้านบาท เมื่อเข้าพื้นที่มีการปลูกต้นไม้เป็นไม้พาณิชย์ สิ่งปลูกสร้างเพิ่มขึ้น และตาม พ.ร.บ.เวนคืนใหม่ให้ท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดค่าทดแทนและประกอบกับราคาประเมินรอบใหม่กรมธนารักษ์มีการปรับเพิ่มขึ้น ทางคณะทำงานทดแทนทั้ง 4 อำเภอได้เสนอค่าทดแทนมาจึงทำให้ค่าเวนคืนสูง ทางกระทรวงคมนาคมให้ทำข้อมูลชี้แจงก่อนขอ ครม.ขยายกรอบวงเงินที่ยังขาดอยู่ 383 ล้านบาท จะกระทบต่อไทม์ไลน์การเปิดบริการจากเดิมในปี 2565"
รื้อแบบช่วงคลองขนานจิตร-จิระ
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับความ คืบหน้าการก่อสร้างสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. ค่าก่อสร้าง 7,560 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็น ผู้ก่อสร้าง เริ่มสร้างวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 70.29% เร็วกว่าแผน 2.78% กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 31 ม.ค. 2565
สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร- ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. ออกแบบแล้วเสร็จอยู่ระหว่างขอ เปลี่ยนรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เพิ่มเติม และขอ ครม.เพิ่มวงเงินก่อสร้างจากเดิม 7,060 ล้านบาท เป็นประมาณ 11,000 ล้านบาท เมื่อ ครม.อนุมัติถึงจะเปิดประมูลได้ ตั้งเป้าว่าในปี 2564
และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ ระยะทาง 5 กม. ค่าก่อสร้าง 9,290 ล้านบาท มี บมจ.อิตาเลียนไทยฯก่อสร้าง เริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความ คืบหน้า 42.219% ช้ากว่าแผน 8.514% กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 30 ธ.ค. 2564
ลพบุรี-ปากน้ำโพขยายเวลาเพิ่ม
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. วงเงิน 21,467 ล้านบาท มีค่าเวนคืนเพิ่มขึ้นกว่า 50 ล้านบาท
โดยสัญญาที่ 1 บ้านกลับ-โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กม. มีกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอช และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง ฯ เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 10,050 ล้านบาท เริ่มงานวันที่ 15 มิ.ย. 2561 คืบหน้า 26.06% เร็วกว่าแผน 9.7% กำหนดเสร็จ มิ.ย. 2565
และสัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กม. มี บมจ.ยูนิคฯ เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 8,649 ล้านบาท เริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 คืบหน้า 58.30% ช้ากว่าแผน 1.34% ล่าสุดผู้รับเหมาขอขยายเวลาอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง จากเดิมจะแล้วเสร็จเดือน ม.ค. 2564 เนื่องจากมีการปรับใหม่ในบางช่วง
สายใต้ดีเลย์ทั้งโครงการ
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับสายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. วงเงิน 33,982 ล้านบาท แบ่งสร้าง 5 สัญญา โดยภาพรวมยังล่าช้าในช่วงนครปฐม-หัวหิน แบ่งสร้าง 2 สัญญา คือ ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กม. วงเงิน 8,200 ล้านบาท มี บจ.เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) เป็นผู้ก่อสร้าง เริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 75.375% ช้ากว่าแผน 3.969% และช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กม. มี บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 7,520 ล้านบาท เริ่มวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 78.498% ช้ากว่าแผน 0.732% ทั้ง 2 สัญญาจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2564
ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 5,800 ล้านบาท เริ่มสร้างวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 77.78% ช้ากว่าแผน 5.65% และได้ขยายสัญญาอีก 11 เดือน สิ้นสุดสัญญาในเดือน มิ.ย. 2564
ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กม. มีกิจการร่วมค้า เคเอส-ซี (บจ.เค.เอส.ร่วมค้า และ China Railway 11th Bureau Group Corporation Ltd.) เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 6,465 ล้านบาท เริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 69.896% เร็วกว่าแผน 0.76% ตามแผน จะต้องเสร็จตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563
และช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 80 กม. มีกิจการร่วมค้า เอสทีทีพี (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บจ.ไทยพีค่อน และอุตสาหกรรม) เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงิน 5,992 ล้านบาท เริ่มงานวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีความคืบหน้า 62.514% ช้ากว่า แผน 28.128% ตามแผนจะเสร็จในเดือน ม.ค. 2564
ช่วงประจวบฯ-ชุมพร "ติดปัญหาเปลี่ยนการก่อสร้างจุดตัดผ่านทางรถไฟ 4 จุด เช่น เปลี่ยนจุดกลับรถจากแบบยกระดับเป็นแบบเกือกม้า และจากยกระดับเป็นแบบขนานพื้นดินจะต้องทำประชาพิจารณ์ชาวบ้านเพิ่ม"
ทั้งนี้ โดยภาพรวมงานก่อสร้างทั้ง 5 สัญญาของสายใต้ จะมีการขยายเวลาสัญญาเพิ่มเติมให้ผู้รับเหมาแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้จบ โดยเฉลี่ยจะขอเพิ่มประมาณ 1 ปี
บอร์ดต่อเวลาให้ 15-20 เดือน
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติขยายเวลาสัญญาก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จำนวน 2 สัญญา อีก 15 เดือน ได้แก่ งานโยธา ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย สิ้นสุด สัญญาวันที่ 30 ม.ค. 2565 และช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร สิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 ม.ค. 2565 และในวันที่ 17 ธ.ค. นี้จะเสนอบอร์ดอนุมัติขยายเวลาก่อสร้างช่วงนครปฐม-หัวหิน ซึ่งผู้รับเหมาทั้ง 2 สัญญาขอขยายเวลาอีกสัญญาละ 20 เดือนสิ้นสุดปลายปี 2565
"ขยายเวลาเพราะแบบเดิมไม่สอดคล้องกับการเข้าพื้นที่ก่อสร้างจริง ทับซ้อนกับระบบอาณัติสัญญาณ ต้องวางแผนในการปรับขยับเนื้องานทั้ง 2 แบบไม่ให้ทับซ้อนกัน แต่ไม่กระทบกับกรอบวงเงินของโครงการ แต่จะกระทบต่อภาพรวมการเปิดให้บริการล่าช้าออกไป 1 ปี หรือจะเปิดได้ในปี 2566"
อาณัติสัญญาณติดเสร็จปี'66
ด้านความคืบหน้าโครงการจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง รวมมูลค่า 11,494.271 ล้านบาท แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้เซ็นสัญญาแล้วเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2562 ตามแผนสายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 2,768 ล้านบาท มีกลุ่มร่วมค้าบีที-ยูเอ็น (บอมบาร์ดิเอร์-ยูนิคฯ) เป็นผู้ดำเนินการ จะใช้เวลา 39 เดือน เริ่มงานวันที่ 24 ม.ค. 2563 กำหนดเสร็จในเดือน เม.ย. 2566
ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 2,445 ล้านบาท มีกลุ่ม บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และบริษัท LS Industrial Systems หรือ LSIS ประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้ดำเนินการ ใช้ระยะเวลา 45 เดือน เริ่มวันที่ 24 ม.ค. 2563 กำหนดเสร็จเดือน ต.ค. 2566
และช่วงนครปฐม-ชุมพร วงเงิน 6,210 ล้านบาท มี บจ.China Railway Signal & Communication หรือ CRSC จากประเทศจีน เป็นผู้ดำเนินการ ใช้ระยะเวลา 36 เดือน เริ่มงานวันที่ 27 ม.ค. 2563 กำหนดเสร็จเดือน ม.ค. 2566
ซื้อแล้วหัวรถจักรไฟฟ้า 50 คัน
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2563 ร.ฟ.ท.เซ็นสัญญาซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลา พร้อมอะไหล่ 50 คัน มูลค่า 6,525 ล้านบาท กับกิจการร่วมค้าเอสเอฟอาร์ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง บจ.ซานโฟโก อินเตอร์เนชั่นแนล และ บจ.ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จะเป็นผู้ดำเนินการจัดหาให้ เป็นรถจักรผลิตโดยบริษัท CRRC QISHUYAN CO., LTD. จากประเทศจีนเป็นกลุ่มเดียวกับที่จัดหารถจักร 20 ตัน ก่อนหน้านี้ โดยจะส่งมอบให้ 950 วัน
เสริมทัพทางคู่ขนสินค้า-คน
โดยจะนำมาทดแทนรถจักรเก่าที่มีอายุ ใช้งานมานาน 44-45 ปี ที่ปลดระวางไป จนทำให้ขาดแคลน และยังรองรับการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ที่กำลังก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า ผู้โดยสาร และหารายได้ในอนาคตให้แก่รถไฟ โดยหัวรถจักรใหม่มีสมรรถนะลากจูงขนส่ง ผู้โดยสารได้ 120 กม./ชม. และการขนส่งสินค้าที่ความเร็ว 70 กม./ชม.
บรรยายใต้ภาพ
นิรุฒ มณีพันธ์ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 03/12/2020 10:21 am Post subject: |
|
|
ถาวร เผยคมนาคมลุย 3 โครงการรถไฟทางคู่ภาคใต้ หนุนสร้างอุโมงค์ลอดใต้รางรถไฟบ้านโป่งลดอุบัติเหตุ
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลา 18:35 น.
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ตอบกระทู้ถามนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดราชบุรี กรณีการก่อสร้างโครงการอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟทางคู่ในเขตอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยขอรับจัดสรรงบประมาณ 8,390 ล้านบาท และกระทรวงคมนาคมร่วมพิจารณาในกรอบวงเงินเพื่อขออนุมัติโครงการจากคณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคมมีนโยบายสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางผ่านเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุและการจราจรจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และคำนึงถึงองค์ประกอบในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุดแก่ประชาชนที่ใช้บริการทางรถไฟ
นายถาวรกล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อีกหลายโครงการ โดยเฉพาะเส้นทางปักษ์ใต้ส่วนต่อจากช่วงกรุงเทพ-นครปฐม-ชุมพร ประกอบด้วย
1. ช่วงชุมพร-สุราษฎรธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร งบประมาณ 23,080 ล้านบาท ขณะนี้ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมกำลังพิจารณามาตรฐานอีไอเอ
2. ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร งบประมาณ 56,114 ล้านบาท ขณะนี้ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมกำลังพิจารณามาตรฐานอีไอเอ
3. ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร งบประมาณ 7,864.49 ล้านบาท ขณะนี้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบรายงานอีไอเอ แล้ว
ทั้งสามโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะนำเข้าพิจารณางบประมาณจากมติคณะรัฐมนตรีในเดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็จะออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน และจัดหาผู้รับจ้างเพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยรวดเร็ว เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาลทั้งในทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การคมนาคม และประโยชน์สาธารณะ คุ้มค่าต่อจำนวนเงินที่ใช้ไปอย่างแน่นอน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 04/12/2020 11:43 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | รถไฟทางคู่5สายดีเลย์ยกแผง รับเหมาขอต่อเวลา-ติดรื้อแบบ-เวนคืนพุ่ง
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563 |
ลิงก์มาแล้วจ้า:
รถไฟทางคู่ 5 สายดีเลย์ยกแผง รับเหมาขอต่อเวลา-ติดรื้อแบบ-เวนคืนพุ่ง
แนะนำข่าวอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 4 ธันวาคม 2563 - 10:10 น.
รีวิวรถไฟทางคู่ 5 สาย วงเงิน 8.9 หมื่นล้าน สารพัดปัญหารุมเร้า สร้างหลุดเป้ายกแผง รับเหมาพร้อมใจขอต่อเวลา มาบกะเบา-จิระ ค่าเวนคืนงอกเพิ่ม 383 ล้าน ลพบุรี-ปากน้ำโพ ปรับแบบวุ่น สายใต้ นครปฐม-ชุมพร ดีเลย์ทั้งโครงการ ขยายเวลา 15-20 เดือน เลื่อนยาว 1 ปี ร.ฟ.ท. ทุ่ม 1.7 หมื่นล้านติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ยกเครื่องการเดินรถรับเปิดหวูดปี66
https://www.prachachat.net/property/news-566072 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 07/12/2020 10:57 am Post subject: |
|
|
รฟท.จัดกิจกรรมทำความดี วันพ่อแห่งชาติ บิ๊กคลีนนิ่งสถานีทั่วประเทศ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 6 ธันวาคม 2563 เวลา 08:28
รฟท.จัดกิจกรรมทำความดี บิ๊กคลีนนิ่งและปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟ 445 แห่งทั่วประเทศ เนื่องในวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 พร้อมปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำ เฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้จัดกิจกรรมทำความดี บิ๊กคลีนนิ่ง ทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟทั่วประเทศจำนวน 445 สถานี เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563
กิจกรรมครั้งนี้เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างของการรถไฟฯ ในการร่วมกันทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอาคารที่ตั้งสำนักงาน และบริเวณสถานีรถไฟทั่วประเทศให้มีความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย
นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้จัดพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ เส้นทางสายประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ เพื่อนำผู้โดยสารเยี่ยมชมเส้นทาง และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด และกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนอีกด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 09/12/2020 5:11 pm Post subject: |
|
|
#พิธีเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อสะพาน (Pylon) ของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้างเสkตอม่อฝั่งค่ายภาณุรังษี
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร
วันที่ 9 ธันวาคม 2563 เวลา 13:20 น.
วันนี้ (9 ธันวาคม 2563) นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีและคณะผู้บริหารโครงการฯ ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อสะพาน (Pylon) ของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งสะพานดังกล่าวเป็นสะพานที่สำคัญในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 รูปแบบของสะพานเป็นสะพานรถไฟรูปแบบผสม คือเป็นคานคอนกรีตสมดุล (Balance Cantilever) ผสมกับการมีเคเบิ้ลขึง (Tension Cable) เรียกชื่อว่าสะพาน Extradosed ซึ่งจะเป็นสะพานขึงแห่งแรกที่มีการก่อสร้างในประเทศไทย มีความยาวรวม 340 เมตร (3 ช่วง) และเมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ก็จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกในการขนส่งให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย
สามารถติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง เพจโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร🙏😊 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/12/2020 7:37 pm Post subject: |
|
|
^^^
ลงตอม่อสะพานขึงสร้างรถไฟทางคู่ข้ามแม่กลอง แห่งแรกของประเทศ
9 ธ.ค. 2563
https://www.komkhaotuathai.com/contents/16638
เวลา 09.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2563 นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พลโท อนุสรณ์ ปัญญะบูรณ์ เจ้ากรมการทหารช่าง นายสุรเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร่วมพิธีเปิดเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อสะพานขึง สร้างสะพานรถไฟทางคู่ข้ามแม่น้ำแม่กลองแห่งแรกของประเทศ บริเวณสถานที่ก่อสร้างเสาตอม่อสะพานฝั่งค่ายภาณุรังษี อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม หัวหินสัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม หนองปลาไหลช่วง กม 47+700 ถึง กม.140+700ระยะทางประมาณ 93 กิโลเมตรมูลค่างานก่อสร้าง 8,198,000,000 บาทระยะเวลาก่อสร้างสะพานรถไฟกม.100+097 ประมาณ 32 เดือน สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองเดิมจะเป็นสะพานเหล็กในรูปแบบเดียวกับสะพานจุฬาลงกรณ์โดยจะต้องมีตอม่ออยู่ในลำน้ำ และต่อมาโครงการฯ ได้รับแจ้งข้อมูลจากสถาบันราชบุรีศึกษา ว่ามีระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ในลำน้ำบริเวณเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างสะพานรถไฟ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทำงานเก็บกู้เคลื่อนย้ายและทำลายวัตถุระเบิดในบริเวณแม่น้ำแม่กลอง เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจ โดยได้ทำการสำรวจพบว่ามีลูกระเบิดขนาด 1,000ปอนด์ จำนวน 7 ลูกจมอยู่ในบริเวณนั้นจริง และหากจะก่อสร้างสะพานแบบเดิมก็จะต้องมีการเคลื่อนย้ายระเบิดออกทั้งหมดซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงแบบสะพานใหม่ก็เป็นทางออกที่ปลอดภัย โดยจะไม่มีตอม่อในลำน้ำ
การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เห็นความสำคัญจึงได้มีคำสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปแบบงานก่อสร้างสะพานรถไฟและหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการก่อสร้างในลำน้ำ ซึ่งในครั้งนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างโดย บริษัท เอ.เอส แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง(1964) จำกัด และบริษัทฯ ได้นำเสนอการสร้างสะพานในรูปแบบผสมเป็นแบบคานคอนกรีตสมดุล (Balance Cantilever) ผสมกับการมีเคเบิ้ลขึง (Tension Cable) เรียกชื่อว่า Extradosed Bridge โดยสะพานดังกล่าวจะไม่มีเสาตอม่ออยู่ในลำน้ำและรูปแบบที่บริษัทฯ เสนอมานั่นได้รับความเห็นชอบจากการรถไฟฯ พร้อมกันนี้ผู้แทนการรถไฟฯ ได้นำเสนอรายละเอียดการก่อสร้างต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯและคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นชอบเช่นเดียวกัน
โดยในครั้งนี้ได้จัดงานพิธีเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อสะพาน (Pylon) ของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งสะพานดังกล่าวเป็นสะพานที่สำคัญในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม - หัวหิน สัญญา ที่ 1 รูปแบบของสะพานเป็นสะพานรถไฟรูปแบบผสมคือเป็นแบบคานคอนกรีตสมดุล(BalanceCantilever) ผสมกับการมีเคเบิ้ลขึง (TensionCable) เรียกชื่อว่าเป็นสะพานแบบ Extradosed ซึ่งจะเป็นสะพานขึงแห่งแรกที่มีการก่อสร้างในประเทศไทย มีความยาวสะพานรวม 340 เมตร (มีช่วงสะพาน 3 ช่วง) โดยช่วงสะพานที่ขมแม่น้ำแม่กลองมีความยาว 160 เมตรดังนั้นการเปลี่ยนแปลงแบบสะพานใหม่ก็เป็นทางออกที่ดีและปลอดภัย โดยการก่อสร้างตอม่อจะอยู่บนฝั่งทั้งหมด โดยจะเป็นสะพานขึงสำหรับรถไฟแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วยซึ่งการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองนั่นยังได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีเป็นอย่างมาก อีกทั้งการก่อสร้างสะพานดังกล่าวในครั้งนี้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการจะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวแก่ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีเป็นอย่างยิ่ง และจังหวัดราชบุรีนั้นได้ให้ความสำคัญต่อโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นอย่างสูง เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการก่อสร้างอยู่ในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดราชบุรี ที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ในช่วงของการก่อสร้างและเมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ก็จะเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกในการขนส่งให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
โดยโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม หัวหิน ในการสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองมีประโยชน์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเก็บกู้และการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิด สามารถดำเนินการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองต่อไปได้ ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคเมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้บริการการเดินรถไฟทางคู่ในเชิงพาณิชย์ และยังเป็นสิ่งปลูกสร้างที่จะเป็นจุดเด่นของชาวจังหวัดราชบุรีและเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทยด้วย
นายสุรเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. กล่าวว่า ในรูปเดิมจะเป็นรูปบแบบเดิมจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองจะเป็นสะพานเหล็กเหมือนสะพานจุฬาลงกรณ์ แต่ที่ออกแบบไว้จำเป็นที่จะต้องก่อสร้างตอม่ออยู่ในลำน้ำแม่กลอง ซึ่งพบว่ามีระเบิดอยู่จำนวน 7 ลูก จึงหารูปแบบที่สามารถสร้างโดยไม่ไปกระทบกับระเบิด ไม่ต้องมีการเคลื่อนย้ายโดยมีตอม่ออยู่บนฝั่งทั้ง 2 ข้าง โดยรูปแบบจะเป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำที่มีความกว้าง 160 เมตร จะเป็นสะพานขึงที่มีเสาเตี้ย มีมุมของเคเบิ้ลเป็นมุมป้าน ซึ่งทำให้การก่อสร้างมีมูลค่ารวมกว่า 440 ล้านบาท สามารถปรับอยู่ในมูลค่าของโครงการทั้งหมดได้ มีความปลอดภัยส่วนที่จะไม่กระทบกับตอม่อที่มีอยู่แล้วในลำน้ำและเราสามารถสร้างเลียบกับสะพานตัวเก่าได้ โดยมีความแข็งแรงตามมาตรฐานการออกแบบ ส่วนสะพานเดิมก็ยังคงใช้การอยู่ ตัวนี้เป็นสะพานสร้างเพิ่มขึ้นอีก 1 ตัว เป็นทางที่ใช้คู่กัน เป็นสะพานขึงสำหรับรถไฟแห่งแรกของประเทศไทย
ภาพ/ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัด ราชบุรี |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 11/12/2020 3:22 pm Post subject: |
|
|
เริ่มเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อ "สะพานขึงรถไฟ" แห่งแรกในไทย
พฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม 2563 เวลา 13.19 น.
เริ่มแล้ว!! เทปูนฐานตอม่อ สะพานขึงรถไฟ แห่งแรกในไทย ไฮไลต์เด็ดรถไฟทางคู่สายใต้ข้ามแม่น้ำแม่กลอง เริ่มสร้าง ธ.ค.นี้ แล้วเสร็จ ก.ย. ปี 65 โดยใช้เวลาก่อสร้าง 20 เดือน
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.63 รฟท. ได้จัดพิธีเทคอนกรีตฐานเสาตอม่อสะพาน (Pylon) ของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้างเสาตอม่อสะพานฝั่งค่ายภาณุรังษี การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท. ร่วมเป็นประธานเปิดงาน
การก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง เป็นสะพานที่สําคัญในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 รูปแบบของสะพานเป็นรูปแบบผสม คือเป็นแบบคานคอนกรีตสมดุล (BalanceCantilever) ผสมกับการมีเคเบิลขึง (TensionCable) เรียกชื่อว่าเป็นสะพานแบบ Extradosed ซึ่งจะเป็นสะพานขึงแห่งแรกที่มีการก่อสร้างในประเทศไทย โดยสะพานดังกล่าวจะไม่มีเสาตอม่ออยู่ในลําน้ำสะพานแบบใหม่ที่มีความปลอดภัย การก่อสร้างตอม่อจะอยู่บนฝั่งทั้งหมด สะพานจะมีความยาวสะพานรวม 340 เมตร (มีช่วงสะพาน 3 ช่วง) โดยช่วงสะพานที่ขึงแม่น้ำแม่กลอง มีความยาว 160 เมตร ก่อสร้าง ณ ช่วง กม.99+898.438-กม.100+238.438 ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง ประมาณ 20 เดือน เริ่มดำเนินการในเดือนธ.ค.63 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.65
สำหรับสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองเดิมจะเป็นสะพานเหล็กในรูปแบบเดียวกับสะพานจุฬาลงกรณ์ โดยจะต้องมีตอม่ออยู่ในลําน้ำ และต่อมาโครงการฯ ได้รับแจ้งข้อมูลจากสถาบันราชบุรีศึกษา ว่ามีระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ในลําน้ำบริเวณเดียวกับพื้นที่ก่อสร้างสะพานรถไฟ จึงได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทํางานเก็บกู้เคลื่อนย้ายและทําลายวัตถุระเบิดในบริเวณแม่น้ำแม่กลอง เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจ โดยได้ทําการสํารวจพบว่ามีลูกระเบิดขนาด 1,000 ปอนด์ จํานวน 7 ลูกจมอยู่ในบริเวณนั้นจริง และหากจะก่อสร้างสะพานแบบเดิมจะต้องมีการเคลื่อนย้ายระเบิดออกทั้งหมด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก
ดังนั้นการสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลองรูปแบบใหม่นี้ จะสามารถลดความเสี่ยงจากการเก็บกู้และการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิด ทําให้บริเวณดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินโครงการ ทั้งนี้เมื่อการก่อสร้างสะพานดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถอํานวยความสะดวกทั้งในด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวแก่ประชาชนชาว จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
|