Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 33461
Location: NECTEC
Posted: 23/02/2021 9:30 pm Post subject:
ฟังเสียงนักลงทุนขนส่งทางราง 2 เส้นทางนำร่องเกือบหมื่นล้าน
อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 12.03 น.
กรมราง ฟังเสียงนักลงทุนเปิดบริการขนส่งสินค้า-ผู้โดยสารทางราง ชู 2 โครงการนำร่อง รถโดยสาร กรุงเทพฯ-ขอนแก่น และ รถไฟสินค้า แหลมฉบัง-ท่าพระ วงเงินเกือบหมื่นล้าน คาดเริ่มเปิดประมูลปีหน้า แนะเปิดเพิ่มเส้นทางศักยภาพทางคู่สายใต้ นครปฐม-ชุมพร และ สายเหนือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ เปรย ปตท.-SCG-ศรีตรัง สน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่โรงแรมพลูแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพฯ นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางราง ภายใต้โครงการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์รางและจัดทำกฎระเบียบ เพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีหน่วยงานจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ สมาคมธุรกิจการค้า และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์เข้าร่วม
นายกิตติพันธ์ เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายส่งเสริมภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถในการประกอบกิจการการขนส่งทางรางมากขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบรางที่ภาครัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ขร. จึงได้จัดประชุมครั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนร่วมลงทุนให้บริการเดินรถ ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าในเส้นทางที่มีศักยภาพ โดยใช้ช่วงเวลานอกเหนือจากการใช้ทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์รางให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ทั้งนี้เสนอเส้นทางที่มีศักยภาพนำร่องจัดสรรเวลาการให้เดินรถ (Slot Allocation) ให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนได้ 2 เส้นทาง วงเงินลงทุนรวม 9,975 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการนำร่องรถไฟโดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น รองรับผู้โดยสารจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 2 เมืองหลักคือ นครราชสีมาและขอนแก่น 450 กม. เดินรถ 6 เที่ยวต่อวัน มูลค่าลงทุนโครงการ 5,250 ล้านบาท ระยะเวลา 15 ปี แบ่งเป็นมูลค่าลงทุนเริ่มต้น 1,400 ล้านบาท ประกอบด้วย รถดีเซลราง 4 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รางในลานจอดรถ ระบบอาณัติสัญญาณในพื้นที่จอดรถและระบบจำหน่ายตั๋ว รวมทั้งค่าใช้จ่ายดำเนินการและบำรุงรักษา 3,850 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายทาง 80 บาทต่อขบวน-กม. ค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ค่าสาธารณูปโภค และค่าเช่าพื้นที่จอด ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2,000-2,220 คนต่อวัน มีรายได้ค่าโดยสาร 5,300 ล้านบาท รวมเวลา 15 ปี
นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อว่า
2.โครงการนำร่องขนส่งสินค้า เส้นทางแหลมฉบัง-ท่าพระ 501 กม. เดินรถ 4 เที่ยวต่อวัน และเพิ่มเป็น 6 เที่ยวต่อวันในปีที่ 6 บริมาณตู้คอนเทเนอร์ 60,000-100,000 ตู้ต่อปี เส้นทางศักยภาพขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าวน้ำตาลยางพารา มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกทางทะเลหลักของประเทศ อนาคตเป็นเส้นทางรองรับความต้องการสินค้าประเภทแร่ หรือสินค้าจากจีน และ สปป.ลาว ที่ผ่านมาส่งออกทางท่าเรือแหลมฉบังด้วย ส่วนมูลค่าลงทุนและค่าใช้จ่ายโครงการ 4,725 ล้านบาท ระยะเวลา 15 ปี แบ่งเป็น มูลค่าลงทุนเริ่มต้น 660 ล้านบาท ประกอบด้วย หัวรถจักร 3 คัน แคร่ 165 คัน รางในลานจอด และระบบอาณัติสัญญาณในพื้นที่จอด ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานและบำรุงรักษา 3,970 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าใช้ทาง 120 บาทต่อขบวน-กม. ค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าอุปกรณ์สำนักงานและเบ็ดเตล็ด ส่วนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ยานพาหนะ 17,160 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 เส้นทางมีความเหมาะสมทั้งด้านความต้องการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในปัจจุบันและศักยภาพขยายตัวของการขนส่งและผู้โดยสารในอนาคต นอกจากนี้พบว่า มีเส้นทางที่มีศักยภาพอื่นๆ ด้วยเช่น กรุงเทพฯ-ชุมพร และ กรุงเทพฯ-ปากน้ำโพ ขณะนี้กำลังก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร 421 กม. และ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 145 กม. ที่จะแล้วเสร็จอีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้มีความคุ้มค่าในการเดินรถมากขึ้น เพราะเป็นทางคู่ไม่ต้องเสียเวลาหลบหลีกกันเหมือนรางเดี่ยว
สำหรับโครงการนี้ใช้เวลาศึกษา 14 เดือน เริ่ม ก.พ.63-มิ.ย.64 หลังจากรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้แล้ว จะนำความคิดเห็นไปปรับให้ผลการศึกษาสมบูรณ์ที่สุด จากนั้นเสนอให้กระทรวงคมนาคมเห็นชอบ และมอบให้ รฟท. ไปดำเนินการต่อไป คาดว่าถ้า พ.ร.บ.กรมราง มีผลบังคับใช้ภายในปี 64 รองรับโครงการนี้ด้วย ดังนั้น เริ่มเปิดประกวดหาเอกชนเข้ามาลงทุนและเปิดให้บริการได้ในปี 65 นอกจากนี้มีเอกชนสนใจร่วมลงทุนในโครงการนำร่องจำนวนมาก เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซิเมนต์ไทยจำกัด (มหาชน) หรือ SCG และ บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีจำกัดจำกัด (มหาชน) .
กรมการขนส่งทางราง จัด Market Sounding ฟังเสียงนักลงทุนเสนอ 2 เส้นทางนำร่อง ร่วมลงทุน พัฒนาระบบรางให้เต็มประสิทธิภาพ
อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.15 น.
วันนี้ (23 ก.พ.64) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางราง ภายใต้โครงการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์รางและจัดทำกฎระเบียบเพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีนายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาครัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ สมาคมธุรกิจการค้า และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ พร้อมสื่อมวลชน เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมอีเทอร์นิตี้ ชั้น G โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถในการประกอบกิจการการขนส่งทางรางมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากระบบรางที่ภาครัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้วอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศ จึงได้เร่งดำเนินการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์ราง และจัดทำกฎระเบียบเพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศ โดยงานประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน
และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนให้บริการเดินรถ ทั้งการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้าในเส้นทางที่มีศักยภาพ โดยใช้ช่วงเวลาที่นอกเหนือจากการใช้ทางของการรถไฟแห่งประเทศไทยมาเดินรถ และให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน โดยจ่ายค่าเช่าใช้ทางให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์รางให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ทั้งนี้ ได้นำเสนอเส้นทางที่มีศักยภาพ สำหรับนำร่องจัดสรรเวลาการให้เดินรถ (Slot Allocation) ให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนได้ 2 เส้นทาง ได้แก่
1. โครงการนำร่องรถไฟโดยสาร : กรุงเทพฯ-ขอนแก่น รองรับผู้โดยสารจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 2 เมืองหลัก คือ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 450 กิโลเมตร โดยเพิ่มการให้บริการรถไฟโดยสาร รวม 6 ขบวน คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2,000-2,220 คนต่อวัน และยังมีศักยภาพในการขยายตัวเพื่อรองรับการเดินทางในอนาคต
2. โครงการนำร่องขนส่งสินค้า : แหลมฉบัง-ท่าพระ ระยะทาง 501 กิโลเมตร ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ 60,000-100,000 ตู้ต่อปี เส้นทางศักยภาพในการขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าว น้ำตาล ยางพารา มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกทางทะเลหลักของประเทศ อีกทั้งในอนาคตถือเป็นเส้นทางรองรับความต้องการสินค้าประเภทแร่ หรือสินค้าจากจีนและ สปป.ลาวที่ส่งผ่านทางท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย
ทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าวมีความเหมาะสมทั้งในด้านความต้องการในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในปัจจุบันและด้านศักยภาพในการขยายตัวของการขนส่งและผู้โดยสารในอนาคต
ทั้งนี้ ขร. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วม และพร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมให้บริการเดินรถในเส้นทางที่มีศักยภาพเหล่านี้ โดยมุ่งหวังจะช่วยยกระดับการให้บริการด้วยระบบรางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและจะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของอาเซียนได้ในอนาคตต่อไป
เปิดประมูล 9,975 ล้านเชิญเอกชนชิงใช้รางรถไฟ
*กรมรางฯนำร่อง2เส้นทางสัญญา15ปี
*เดินรถโดยสาร"กรุงเทพฯ-ขอนแก่น"
*ขบวนสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าพระ
*"ปตท.-SCG-ศรีตรัง"ตาลุกวาววสนๆ
https://www.youtube.com/watch?v=-PkCcTLctos
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2845160602372106 Last edited by Wisarut on 25/02/2021 4:07 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 33461
Location: NECTEC
Posted: 23/02/2021 9:51 pm Post subject:
Wisarut wrote: ฟังเสียงนักลงทุนขนส่งทางราง 2 เส้นทางนำร่องเกือบหมื่นล้าน
อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 12.03 น.
กรมราง ผุด 2 เส้นทาง ดึงเอกชนร่วมทุน อัพเกรดใช้รางรถไฟ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 19:50 น.
กรมรางจัดมาร์เก็ตซาวด์ดิ้ง เปิด 2 เส้นทาง เดินรถไฟโดยสาร กรุงเทพฯ-ขอนแก่น และขบวนขนส่งสินค้า แหลมฉบัง-ท่าพระ วงเงิน 9.9 พันล้าน หวังดึงเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาระบบรางเต็มประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวของการขนส่งและผู้โดยสารในอนาคต
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางราง ภายใต้โครงการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์รางและจัดทำกฎระเบียบเพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถในการประกอบกิจการการขนส่งทางรางมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากระบบรางที่ภาครัฐได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้วอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันการดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศ จึงได้เร่งดำเนินการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์ราง และจัดทำกฎระเบียบเพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศ โดยงานประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนให้บริการเดินรถ ทั้งการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้าในเส้นทางที่มีศักยภาพ โดยใช้ช่วงเวลาที่นอกเหนือจากการใช้ทางของการรถไฟแห่งประเทศไทยมาเดินรถ และให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน โดยจ่ายค่าเช่าใช้ทางให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์รางให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ขณะเดียวกันได้นำเสนอเส้นทางที่มีศักยภาพ สำหรับนำร่องจัดสรรเวลาการให้เดินรถ (Slot Allocation) ให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนได้ 2 เส้นทาง วงเงินลงทุน 9,975 ล้านบาท ได้แก่1. โครงการนำร่องรถไฟโดยสาร : กรุงเทพฯ-ขอนแก่น รองรับผู้โดยสารจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 2 เมืองหลัก คือ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดขอนแก่น ระยะทาง 450 กิโลเมตร โดยเพิ่มการให้บริการรถไฟโดยสาร รวม 6 ขบวน คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2,000-2,220 คนต่อวัน และยังมีศักยภาพในการขยายตัวเพื่อรองรับการเดินทางในอนาคต 2. โครงการนำร่องขนส่งสินค้า : แหลมฉบัง-ท่าพระ ระยะทาง 501 กิโลเมตร ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ 60,000-100,000 ตู้ต่อปี เส้นทางศักยภาพในการขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าว น้ำตาล ยางพารา มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกทางทะเลหลักของประเทศ อีกทั้งในอนาคตถือเป็นเส้นทางรองรับความต้องการสินค้าประเภทแร่ หรือสินค้าจากจีนและ สปป.ลาวที่ส่งผ่านทางท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย ขณะเดียวกันทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าวมีความเหมาะสมทั้งในด้านความต้องการในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารในปัจจุบันและด้านศักยภาพในการขยายตัวของการขนส่งและผู้โดยสารในอนาคต
ทั้งนี้ ขร. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วม และพร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมให้บริการเดินรถในเส้นทางที่มีศักยภาพเหล่านี้ โดยมุ่งหวังจะช่วยยกระดับการให้บริการด้วยระบบรางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและจะช่วยส่งเสริมขีดความสามารถของประเทศให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของอาเซียนได้ในอนาคตต่อไป
กรมการขนส่งทางราง จัด Market Sounding ฟังเสียงนักลงทุนเสนอ 2 เส้นทางนำร่อง ร่วมลงทุน พัฒนาระบบรางให้เต็มประสิทธิภาพ
อังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.15 น.
เปิดประมูล 9,975 ล้านเชิญเอกชนชิงใช้รางรถไฟ
*กรมรางฯนำร่อง2เส้นทางสัญญา15ปี
*เดินรถโดยสาร"กรุงเทพฯ-ขอนแก่น"
*ขบวนสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าพระ
*"ปตท.-SCG-ศรีตรัง"ตาลุกวาววสนๆ
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2845160602372106
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) การศึกษาภาคเอกชนในการให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางราง
เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทางราง ภายใต้โครงการศึกษาการกำกับการใช้ประโยชน์รางและจัดทำกฎระเบียบเพื่อรองรับการขนส่งทางรางในเส้นทางหลักของประเทศและระหว่างประเทศ
เว็บไซท์โครงการ และเอกสารประกอบการประชุม
https://www.drtregulation.com/
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/videos/1380700898938214/ Last edited by Wisarut on 25/02/2021 12:39 pm; edited 1 time in total
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 33461
Location: NECTEC
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group