View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 15/11/2021 5:13 pm Post subject: |
|
|
กรมการขนส่งทางรางจัดประชุมหารือร่วมกับสภาวิศวกร เรื่อง การพัฒนาบุคลากรระบบราง
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14:37 น.
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดประชุมหารือร่วมกับสภาวิศวกรเรื่องการพัฒนาบุคลากรระบบราง ณ ห้องประชุมมนังคสิลา ชั้น 2 อาคาร ณ ถลาง ขร. โดยมี ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธาน และเจ้าหน้าที่ ขร. ร่วมหารือกับสภาวิศวกรนำโดย ผศ.ยุทธนา มหัจฉริยวงศ์ รองเลขาธิการสภาวิศวกร และคณะ โดยได้มีการหารือร่วมกันในหลายประเด็น สรุปได้ดังนี้
1. การพัฒนาบุคลากรระบบราง โดยเน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน (on the job training) การใช้วิศวกรไทยในการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโครงการระบบรางต่างๆ และการใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (Local Content) ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
2. การพัฒนาหลักสูตรรองรับระบบราง โดยเน้นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมระบบราง รวมถึงการเตรียมการ สำหรับสถาบันที่จะมารับรองบุคลากรและจัดหลักสูตรอบรมด้านระบบราง
3. การส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตขบวนรถและชิ้นส่วนอุปกรณ์ระบบราง ซึ่ง ขร. รวมทั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) (สทร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามกรอบบันทึกความร่วมมือที่มีอยู่ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว ทั้งด้านการวิจัย การทดสอบ การรับรอง การจัดทำชิ้นส่วน และการผลิตมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
4. การส่งเสริมวิศวกร/ นิติบุคคล ให้มีใบประกอบวิชาชีพให้ถูกต้องตามกฎหมาย สนับสนุนให้ช่างเทคนิคได้รับใบประกอบวิชาชีพภาคีวิศวกรพิเศษ เพื่อสนับสนุนบุคลากรให้เข้าสู่อุตสาหกรรมระบบรางได้มากยิ่งขึ้น
5. การส่งเสริมสนับสนุนการจัดทำมาตรฐานระบบราง และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง โดย ขร. ทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการประกาศมาตรฐานด้านระบบราง ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรวมถึงสภาวิศวกรด้วย เพื่อสนับสนุนการบริการด้านระบบรางที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย อีกทั้งสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมระบบรางขึ้นในประเทศ
6. การสนับสนุนวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบราง โดยจะมีการจัดประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันต่อไป เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบรางที่ทันสมัยและเป็นสากล
ทั้งนี้ ขร. จะร่วมมือกับสภาวิศวกรในการสนับสนุนการผลิตบุคลากรระบบรางที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการบุคลากรของภาคอุตสาหกรรมระบบรางต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 22/11/2021 7:24 am Post subject: |
|
|
ลอยกระทงผู้โดยสารรางทะลุ8แสน
Source - เดลินิวส์
Monday, November 22, 2021 05:42
สูงสุดทุบสถิติ2ปีผจญพิษโควิด รถไฟฟ้าสีแดงเกิน1หมื่นครั้งแรก
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่ง ทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบปริมาณผู้โดยสารในระบบขนส่งทางรางเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันลอยกระทง มีผู้โดยสารรวมทุกระบบเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 8.08 แสนคน นับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วง 2 ปี และคาดว่าหลังจากนี้ผู้โดยสารในภาพรวมน่าจะทยอยเพิ่มสูงขึ้น แต่จะกลับไปเท่ากลับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่ 1.22 ล้านคนต่อวัน ได้นั้น คงต้องรอให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นด้วย
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า หากจำแนกตามระบบและตามลำดับสูงสุดได้แก่รถไฟฟ้า BTS 4.89 แสนคน รถไฟฟ้า MRT(ทุกสาย) 2.47 แสนคน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์(ARL) 3.33 หมื่นคน รถไฟ 2.74 หมื่นคน และรถไฟชานเมืองสายสีแดง(รถไฟฟ้าสายสีแดง) 1.05 หมื่นคน ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีแดงถือเป็นวันแรกที่มีผู้โดยสารเกิน 1 หมื่นคน หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดทดลองให้บริการฟรีมาตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 6-7 พันคน
นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารในระบบขนส่งทางรางทุกระบบ ปี 64 ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการระบาดระลอกใหม่ (12 ก.ค.-ปัจจุบัน) เฉลี่ยอยู่ที่ 3.61 แสนคนต่อวัน ลดลง 70.61% เมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19 ปี 62 เฉลี่ย 1.22 ล้านคนต่อวัน โดยรถไฟลดลง 83.9% เฉลี่ย 1.37 หมื่นคนต่อวัน จาก 8.54 หมื่นคน รถไฟฟ้า ARL ลดลง 79.29% เฉลี่ย 1.49 หมื่นคนต่อวัน จาก 7.19 หมื่นคนต่อวัน
ขณะที่รถไฟฟ้า MRT ลดลง 70.76% เฉลี่ย 1.12 แสนคนต่อวัน จาก 3.37 แสนคนต่อวัน และรถไฟฟ้า BTS ลดลง 70.76% เฉลี่ย 2.14 แสนคนต่อวัน จาก 7.34 แสนคนต่อวัน แม้ขณะนี้โควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ ขร. ยังกำชับผู้ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข อาทิ สวมหน้ากากตลอดการเข้าใช้ระบบขนส่งทางราง เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม และล้างมือด้วย สเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์สม่ำเสมอ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 พ.ย. 2564 (กรอบบ่าย) |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 25/11/2021 11:19 am Post subject: |
|
|
กรมรางรุกคืบ M-MAP 2-ไจก้าติวสูตรประเมินผู้โดยสาร เร่ง พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินพัฒนา TOD รอบสถานีเพิ่มมูลค่า
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17:33
ปรับปรุง: 24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 17:33
กรมรางรุกแผน M-MAP 2 จับมือไจก้าถ่ายทอดความรู้ ศึกษาแบบจำลองคาดการณ์ความต้องการปริมาณผู้โดยสาร แบบลงลึก ก่อนผุดโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้า กทม. ปริมณฑลระยะ 2 พร้อมโมเดลการลงทุน การอุดหนุนที่มีประสิทธิภาพ เร่งร่าง พ.ร.บ.พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีฯ หรือกฎหมาย TOD
วันที่ 24 พ.ย. 64 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ขร.ได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 เพื่อเป็นการฝึกอบรมและถ่ายทอดความรู้งานศึกษาแผนการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (Mass Rapid Transit Master Plan in Bangkok Metropolitan Region 2: M - MAP 2) ให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JICA ร่วมบรรยายถ่ายทอดความรู้ในหัวข้อ แบบจำลองการคาดการณ์ผู้โดยสารระบบราง (Rail passenger demand forecasting models) ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การคาดการณ์ผู้โดยสารระบบรางของญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้แก่บุคลากรระบบรางของไทย ได้นำไปปรับปรุงหรือพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและนำไปพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้มีความพร้อม และสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นายพิเชฐกล่าวว่า ไทยและญี่ปุ่นมีข้อตกลงในการสนับสนุนทางวิชาการเพื่อดำเนินโครงการ M-MAP 2 ที่ประเทศไทยกำลังศึกษาเพื่อจัดทำแผน M-MAP 2 Blueprint ซึ่งจะต้องมีการคาดการณ์การเดินทางระบบราง ด้วยการทำแบบจำลองที่ถูกต้องแม่นยำ จะนำไปสู่การวางแผนที่ถูกต้อง เกิดการลงทุนที่เหมาะสม คุ้มค่า และภาครัฐสามารถนำไปกำหนดนโยบายในการดูแลประชาชนได้อย่างตรงจุด เช่น ลดค่าโดยสาร ลดค่าแรกเข้า หรือการจัดทำเพื่อลดความแออัด จัดระบบเชื่อมต่อ สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น การออกแบบนโยบายเหล่านี้ ปริมาณผู้โดยสารและแบบจำลองที่ละเอียด มีประโยชน์อย่างมาก
ซึ่งผู้โดยสารระบบรางล่าสุดอยู่ที่ 6.8 แสนคน/วัน จากก่อนโควิดที่มี 1.2 ล้านคน/วัน กลับมาเกิน 50% แล้ว ซึ่งแม้จะมีการเปิดประเทศ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่มา ขณะที่การเดินทางมีการเปลี่ยนไปจากเดิม การประชุมผ่านระบบออนไลน์ การทำงานแบบ work from home เป็นต้น การเดินทางบางอย่างหายไป รวมถึงไทยที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ดังนั้น การประเมินอัตราการเติบโตของการเดินทางจะต้องทำแบบจำลองที่ละเอียดเพื่อวางแผนได้ถูกต้อง จากเดิมที่ทำแผนระบบขนส่งมวลชน 20 ปี ซึ่งข้อมูลอาจไม่อัปเดตและไม่ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่วนญี่ปุ่นมีการอัปเดตทุก 5 ปี
ญี่ปุ่นมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ข้าราชการที่เดินทางด้วยระบบราง เป็นรูปแบบสวัสดิการ, บริษัทเอกชนจ่ายค่าเดินทางให้พนักงาน 20-30% ของเงินเดือนเพื่อส่งเสริมให้ใช้ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเรื่องแบบนี้ที่ไทยอาจจะเห็นว่าทำไม่ได้ แต่อนาคตอาจจะทำได้
สำหรับโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและการพัฒนาโครงข่าย M-MAP 2 นี้ เป็นการทบทวนสถานะปัจจุบันของโครงการรถไฟฟ้าตามแผน M-MAP เดิม พร้อมศึกษาแนวทางการบูรณาการเชื่อมต่อโครงข่ายขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder) ให้เข้ากับโครงข่ายหลักของ M-MAP อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนศึกษามาตรการและแนวทางในการส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดในพื้นที่ศูนย์กลางเมือง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในภาพรวมของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลดความซ้ำซ้อน ลดการลงทุนและงบประมาณในโครงข่ายที่ไม่มีความจำเป็นในสภาวการณ์ปัจจุบัน เพื่อยกระดับคุณภาพการเดินทางของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ส่วนมาตรการส่งเสริมการใช้ระบบรางนั้น จากข้อมูลพบว่าในต่างประเทศ เช่นออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา มีระบบบัตรโดยสารร่วม มีการให้ส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุ นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ ทหารผ่านศึก รวมถึงการเดินทางเป็นครอบครัวพร้อมกัน ส่วนประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นได้นำการเก็บมูลค่าที่ดินมาเป็นเครื่องมือด้านการเงินในการลงทุนพัฒนาเมืองและชดเชยเงินลงทุนก่อสร้าง ค่าดำเนินงานและค่าบำรุงรักษา รวมถึงนำไปพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะอื่น รวมถึงมีการใช้ประโยชน์ร่วมกับเจ้าของที่ดิน เป็นต้น
ประเทศเกาหลี งบประมาณหลักที่ใช้สนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง คือภาษีที่ดิน หรือ The Aggregate Land Tax (ALT) ภายใต้ แนวคิดการพัฒนาการบริการสาธารณะควรได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เป็นการเรียกเก็บรายปีตามมูลค่าที่ดินส่วนบุคคลแต่ละราย, เก็บภาษีที่ดินแต่ละพื้นที่ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น, ที่ดินที่ไม่แสวงหากำไร ได้รับการยกเว้น
ส่วนประเทศไทย มีแนวทางดำเนินการการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามแนวเส้นทาง ระบบขนส่งมวลชน โดยจัดทำร่างพ.ร.บ.การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน พ.ศ...รูปแบบกฎหมาย TOD โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและดำเนินการร่าง พ.ร.บ. โดยจะเน้นการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น มีการจัดรูปที่ดินและให้สิทธิแก่เจ้าของที่ดินเดิมอาศัยในที่ดินได้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนนำมาใช้พัฒนา จัดพื้นที่เชิงพาณิชย์ พื้นที่อำนวยความสะดวกและระบบขนส่งเชื่อมต่อกัน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/12/2021 8:04 pm Post subject: |
|
|
เปิดเมืองดันผู้โดยสารระบบรางเพิ่ม พ.ย.มีกว่า 18 ล้านคน
เผยแพร่: 3 ธ.ค. 2564 19:56 ปรับปรุง: 3 ธ.ค. 2564 19:56 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กรมราง เผยสถิติผู้ใช้บริการระบบราง หลังเปิดประเทศครบ1 เดือน มีกว่า 18 ล้านคน คาด ธ.ค.แนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ตัวเลขสถิติผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบขนส่งทางรางทั้ระบบรถไฟฟ้า (MRT BTS ARL สายสีแดง) และรถไฟระหว่างเมือง (SRT) หลังจากรัฐบาลประกาศเปิดประเทศครบ 1 เดือน (1 30 พฤศจิกายน 2564) พบว่า มีผู้มาใช้บริการระบบขนส่งทางรางรวมแล้วกว่า 18 ล้านคน แยกเป็นระบบรถไฟฟ้ามีผู้ใช้บริการรวมกว่า 17 ล้านคน (MRT 5.8 ล้านคน, BTS 10 ล้านคน ARL 8 แสนคน, และสายสีแดงที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการรวมกว่า 2 แสนคน)
สำหรับรถไฟระหว่างเมืองที่ให้บริการทั้งในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมมีผู้ใช้บริการรวมกว่า 8 แสนคน ซึ่งในวันธรรมดาจันทร์ - ศุกร์ จะมีผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7 แสนคนต่อวัน และวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะมีผู้โดยสารอยู่ที่ 5.4 แสนคนต่อวัน
ทั้งนี้ ขร. คาดว่าในช่วงเดือนธันวาคมนี้ จะมีผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงวันสิ้นปีที่จะมีประชาชนใช้บริการระบบขนส่งทางรางในการเดินทางกลับภูมิลำเนากันอย่างมาก รวมทั้งใช้บริการระบบขนส่งทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเดินไปร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2565
ตามสถานที่ที่จัดต่างๆ แต่จากข่าวการกลายพันธ์ของเชื้อไวรัส COVID 19 (โอไมคอน)
ขร. จึงยังจะคงความเข้มงวดการให้บริการระบบขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/12/2021 7:13 am Post subject: |
|
|
กรมรางบี้รฟท.เร่งติดรั้วเขตทางกั้นผู้บุกรุกลอบตัดสายรถไฟฟ้า!
Source - เดลินิวส์
Monday, December 06, 2021 06:23
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ประสานการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาเร่งรัดติดตั้งรั้วกั้นสองข้างทางโครงการระบบรถไฟชานเมือง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) เส้นทางสายตะวันตก บางซื่อ-ตลิ่งชันและเส้นทางสายเหนือบางซื่อ-รังสิต ที่ยังไม่มีรั้วกั้นเขตระบบรถไฟฟ้า ทำให้มีผู้บุกรุกเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้ หลังจากกองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง ขร. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุลักลอบตัดสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบโทรคมนาคม และระบบ SCADA ของรถไฟฟ้าสายสีแดง จนส่งผลให้ต้องประกาศหยุดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขร. ได้รับรายงานจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 11.30 น. ระบบการบังคับสัมพันธ์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CBI) ขัดข้องที่สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมการเดินรถจากส่วนกลางได้ ต้องหยุดให้บริการในสายตะวันตกชั่วคราว เนื่องจากมีการลักลอบตัดสายใยแก้วนำแสงซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้ระดับดินและบางส่วนไม่มีรั้วกั้นเขตระบบรถไฟฟ้า ทำให้มีผู้บุกรุก รวมทั้งพบสิ่งของของ ผู้บุกรุกอยู่ใต้โครงสร้างทางรถไฟ นอกจากนี้ให้ผลักดันผู้บุกรุกที่อาศัยอยู่บริเวณเขตทางรถไฟออกจากเขตระบบรถไฟฟ้าเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินรถ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 ธ.ค. 2564 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 07/12/2021 2:58 am Post subject: |
|
|
กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
วันจันทร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18:17 น.
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดทีมลงสำรวจแบบสอบถามความพึงพอใจผู้ใช้บริการรถไฟระหว่างเมือง พร้อมทั้งตรวจประเมินคุณภาพสภาพกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสารทุกกลุ่ม ณ สถานีแม่เทียบ สถานีแควน้อย จ.พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 4 ถึง 5 ธันวาคม 2564 เพื่อประกอบการศึกษาการจัดทำระบบประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานการขนส่งทางรางในแต่ละสายทางของประเทศ
โดยมีเป้าหมายในการเก็บข้อมูลปฐมภูมิด้านความพึงพอใจในการใช้บริการระบบรถไฟระหว่างเมืองของผู้โดยสาร ณ สถานีต่อปัจจัย 4 ด้าน อันประกอบด้วย ด้านราคาและการจำหน่ายตั๋วโดยสาร ด้านการใช้บริการสถานี ด้านการใช้บริการขบวนรถ และความคาดหวัง
ในการใช้บริการระบบ โดยจะนำข้อมูลที่ได้ประกอบการดำเนินการศึกษาต่อไป
ทั้งนี้ การเก็บข้อมูลภาคสนามดังกล่าวล เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาการจัดทำระบบประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานการขนส่งทางรางในแต่ละสายทางของประเทศ ซึ่งมีผลลัพธ์การศึกษาประกอบด้วย
1) การจัดทำตัวชี้วัดด้านการประเมินประสิทธิภาพขนส่งทางราง
2) การจัดทำระบบกำกับและจัดเก็บข้อมูลการประเมินประสิทธิภาพ
3) การการจัดทำข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการกำกับและประเมินประสิทธิภาพระบบรางของประเทศ
อันจะเป็นเครื่องมือในการกำกับและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย ให้มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล และมีความสะดวก สบาย ปลอดภัย ตอบสนองการใช้บริการของประชาชนอย่างเท่าเทียม |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 22/12/2021 1:12 pm Post subject: |
|
|
กรมการขนส่งทางรางเร่งพัฒนาโครงข่ายรถไฟเชื่อมทั่วประเทศ
บ้านเมือง วันพุธ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 12.42 น.
กรมการขนส่งทางรางเร่งพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ รองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ
วันที่ 22 ธ.ค.2564 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) กรมการขนส่งทางราง จัดสัมมนาเปิดตัว โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-map) โดยมี ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นประธานเปิดการสัมมนาฯ และนายเรืองเดช มังกรเดชสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมการขนส่งทางราง นายอัครวัฒน์ ศิริวรพิทักษ์ รองผู้จัดการโครงการฯ รศ.ดร. สุพรชัย อุทัยนฤมล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจราจรและขนส่งพร้อมด้วยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมผู้ประกอบการ และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ดร.พิเชฐฯ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมดำนินการเร่งรัดผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งทางรางมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นการขนส่งระบบหลักของประเทศกรมการขนส่งทางราง ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลระบบขนส่งทางรางทั่วประเทศ และเสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางของประเทศ จึงดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ หรือ R-MAP เพื่อทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยวและการพัฒนาพื้นที่ เพื่อการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ โดยจะเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายเดิมกับแหล่งเกษตรกรรม แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาครวมถึงการพัฒนาเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายโอกาส การพัฒนาความเจริญสู่ระดับจังหวัด และภูมิภาค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเดินของประชาชน
โครงการ R-map เป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ในปี 2565-2566 ด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งทางรางเพื่อบูรณาการ โครงข่ายระบบรางสร้างความสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งผลการศึกษาที่ได้จะนำท่จัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อให้เกิดการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะมีการบูรณาการร่วมกับการขนส่งระบบอื่นๆ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระบบคมนาคมในภาพรวมของประเทศ
สำหรับการสัมมนา R-map ในครั้งนี้เป็นการเผยแพร่ข้อมูลโครงการ และสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการแก่กลุ่มเป้าหมายให้ได้รับทราบ รวมถึงเปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อนำมาประกอบการการศึกษาโครงการ โดยมีขอบเขตการศึกษา 4 ส่วนประกอบด้วย
1.การทบทวนสำรวจรวบรวมข้อมูลผลการศึกษาและการดำเนินงานของแผนงานโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.การศึกษาวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศฯ
3.การจัดทำแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศฯ โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ
4.การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้ดำเนินการศึกษาดังกล่าวเกิดความครบถ้วน สมบูรณ์ และเกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศต่อไป
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44632
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 22/12/2021 8:56 pm Post subject: |
|
|
กรมรางเรงผุด R-Map แผนแม่บทรถไฟสายใหม่ แตกแขนงเชื่อมแหล่งอุตฯ-เกษตร-ท่องเที่ยว ทั่วประเทศ
หน้า คมนาคม-ขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:51 น.
ปรับปรุง: วันพุธ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16:51 น.
กรมรางฯผุด R-Map เชื่อมขนส่งทางรางทั่วประเทศแบบไร้รอยต่อ
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10:04 น.
ขร.เปิดตัวการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟ รองรับ R-Map
วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 01.44 น.
กรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดตัวการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟ ให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่อง หลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-Map)
กรมราง เร่งศึกษาผุด R-Map วางแผนแม่บท เติมโครงข่ายเส้นทางรถไฟสายใหม่เแตกแขนง เชื่อมอุตสาหกรรม กว่า 91 แห่งใน 18 จังหวัด และพื้นที่เกษตร ทั่วประเทศ พลิกโฉมระบบขนส่ง ลดต้นทุนโลจิสติกส์
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเปิดตัว โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-MAP ) ว่า โครงการนี้ จะมีการทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ การท่องเที่ยว และการพัฒนาพื้นที่ เพื่อการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ โดยจะเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายเดิมกับแหล่งเกษตรกรรม แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ การกระจายโอกาส การพัฒนาความเจริญสู่ระดับจังหวัด และภูมิภาค
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมี แผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้งระยะที่ 2 และ สายใหม่ เพิ่มถึง17 ส้นทางระยะทางรวม 2,932 กม. แต่ส่วนใหญ่ เป็นการก่อสร้างทางเพิ่มอีก 1 ทางคู่ไปตามแนวรถไฟเดิม ในขณะที่ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งแหล่งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว และชุมชน ดังนั้นเส้นทางรถไฟที่มี จึงอาจยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรมที่ระจายอยู่ทั่วประเทศ แหล่งอุตสาหกรรม ที่ต้องการให้มีระบบรางเข้าถึงช่วยการกระจายสินค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน อย่างแท้จริง
ประกอบกับ การที่รัฐบาลมีความต้องการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายในการการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ ซึ่งในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติในประเด็นโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และดิจิทัล (พ.ศ. 2561-2580) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับและสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์เพื่อให้สามารถสนับสนุนการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ
โครงการ R-map เป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ในปี 2565-2566 ด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งทางรางเพื่อบูรณาการ โครงข่ายระบบรางสร้างความสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค ใช้เวลาศึกษา 12 เดือน หรือสรุปผลในเดือนก.ค. 2565 ซึ่งผลการศึกษาที่ได้จะนำไปจัดทำแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อให้เป็นรูปธรรม โดยจะเชื่อมต่อการขนส่งทางราง กับแหล่งอุตสาหกรรม กว่า 91 แห่ง ใน 18 จังหวัด เพิ่มการขนส่งสินค้างทางราง เป็น 7% ในปี 2570 และเป็น 10% ในปี 2580 ลดต้นทุนโลจิสติกส์ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ต่ำกว่า 11% ในปี 2570 และต่ำกว่า 9% ในปี 2580
โดยมีขอบเขตการศึกษา 4 ส่วน คือ
1.การทบทวน สำรวจ รวบรวมข้อมูลผลการศึกษาและการดำเนินงานของแผนงานโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.การศึกษาวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศฯ
3.การจัดทำแผนพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศฯ โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ
4.การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้ดำเนินการศึกษาดังกล่าวเกิดความครบถ้วน สมบูรณ์ และเกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศต่อไป
กรมการขนส่งทางรางดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-Map)
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1066859584090985
วิดิทัศน์เปิดโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงพื้นที่ทั่วประเทศและรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูป
https://www.facebook.com/watch/?v=952329295683021 |
|
Back to top |
|
|
|